ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic[AU]. Attack on titan(LevixEren): ล่ารักอันตราย

    ลำดับตอนที่ #16 : Special: You’re crafty

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.6K
      34
      23 ธ.ค. 57

    Fic. [AU]: Attack On Titan (Levi x Eren) ล่ารักอันตราย

    Special: You’re crafty

                หิมะที่เริ่มกระหน่ำตกลงมาทำให้สองเท้าที่กำลังก้าวเร่งรีบมากขึ้น เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้ร่างโปร่งอยากกลับไปยังห้องนอนแสนอบอุ่นของตนเองให้เร็วที่สุด เมื่อวิ่งขึ้นบันไดมาถึงมือเรียวรีบควานหากุญแจในเสื้อกันหนาวสีฟ้าของตน สองขาเขย่งไปมาเพื่อพยายามวอร์มร่างกายให้อุ่น ประตูเปิดออกและปิดลงอย่างรวดเร็วพร้อมร่างที่แทบจะถลาเข้าไปในห้องที่เปิดฮีทเตอร์รอไว้อยู่แล้ว ที่จริงถ้าเป็นปกติเขาคงไม่เปิดฮีทเตอร์อุ่นในห้องรอไว้ เพราะค่าไฟที่ต้องเสียทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ใช้นั้นไม่ใช่นิสัยของเด็กปอนๆอย่างเขา แต่เพราะห้องพักในอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ห่างจากหอพักเก่าของเขาไม่มากซึ่งคนอันตรายซื้อไว้รวมทั้งตกแต่งราวกับห้องเดิมของเขาที่มีอยู่เดิมเพื่อตบตาคนรอบข้างของเขาแล้ว บรรดาค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ หรือสาธารณูปโภคต่างๆล้วนไม่ใช่เงินของเขาแบบนี้เขาก็ขอใช้ให้เต็มที่หน่อยล่ะ

                เอเลนถอดเสื้อกันหนาวของตนแขวนไว้กับราวแขวนเสื้อที่หน้าประตู แล้วเมื่อวางของที่ซื้อจากซุปเปอร์ทั้งหมดลงบนเคานท์เตอร์ครัวร่างโปร่งก็ถลาขึ้นโซฟาพร้อมทั้งดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นห่มกาย สองแขนเหยียดตรงบิดไปมาไล่ความเมื่อล้าตามร่างกายก่อนจะเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์ ที่รู้สึกผ่อนคลายได้ขนาดนี้ต้องขอบคุณความหัวใสของเขาที่ยื่นขอวันหยุดกับคนอันตราย เพราะว่าตอนนี้ใกล้สิ้นปีงานที่สตูดิโอของคุณฮันเนสเรียกได้ว่ายุ่งขั้นนรกแตก ไหนจะแคมเปญคริสมาสและแคมเปญปีใหม่ที่กระหน่ำเข้ามาให้เขาจัดการตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเพื่อให้ทันใช้ก่อนที่ทางสตูดิโอจะให้พนักงานหยุดยาวในช่วงปีใหม่ และเพราะอย่างนั้นตัวเขาที่ยุ่งจนร่างแทบจะกลายเป็นซอมบี้อีกทั้งต้องรีบกลับไปยังคอนโดของคุณรีไว อย่าว่าแต่ต้องพยายามทำอาหารเย็นให้คนอันตรายคนนั้นเลย แค่เขาฝืนสังขารตัวเองในแต่ละวันกลับไปให้ถึงห้องได้ก็นับว่าดีมากแล้ว และหลายครั้งที่เหมือนคนขี้แกล้งคนนั้นจะเป็นฝ่ายหิ้วสภาพไร้วิญญาณของเขาจากหน้าประตูห้องไปทิ้งไว้บนเตียงในห้องเขาเสียเรียบร้อยให้ด้วย และด้วยสภาพการณ์แบบนั้นติดต่อกันหลายวันตอนแรกเขาก็ว่าจะขอไปนอนค้างที่สตูดิโอแต่คนนั้นกลับให้กุญแจห้องที่ซื้อทิ้งไว้แล้วบอกให้เอาไปใช้ซะแทน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าคนเอาแต่ใจและขี้แกล้งแบบนั้นจะยอมง่ายๆแต่ดูเหมือนคนคนนั้นก็ยังพอมีเหตุผลอยู่บ้าง

              ร่างโปร่งหยิบสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อมูลและรายการงานอัพเดตต่างๆ เพราะความร่วมมือจากทุกๆคนและการประสานงานที่ดีทำให้งานของเขากว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จึงพอมีเวลาที่จะใช้พักผ่อนให้เต็มที่เสียที แล้วนัยน์ตาสีมรกตต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่ 23 ธ.ค. แล้วและอีกเพียงแค่หนึ่งวันที่สตูดิโอฮันเนสก็จะมีการจัดฉลองเทศกาลคริสมาสก่อนจะหยุดในวันที่ 25 ทั้งที่เป็นวันที่สำคัญแท้ๆ แต่เขาลืมซื้อของขวัญให้กับคุณฮันเนสอีกทั้งไหนจะมิคาสะและแจนที่มักจะให้ของขวัญแก่เขาทุกปี ร่างโปร่งที่เพิ่งล้มตัวลงไปบนโซฟารีบเด้งลุกขึ้นมาก่อนจะจัดการคว้ากระเป๋าสะพายของตนกับเสื้อกันหนาวเพื่อออกไปยังห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง

                เด็กหนุ่มวิ่งเข้าออกร้านค้ามากมายเพื่อเลือกของขวัญให้กับผู้มีพระคุณและบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นพี่ชายและพี่สาวของเขา ใบหน้าหวานหันไปมาเพื่อมองหาร้านค้าและของขวัญที่คาดว่าคนสำคัญแต่ละคนของตนน่าจะชื่นชอบ และยิ่งใกล้เทศกาลคนก็ยิ่งเบียดเสียดกันมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ปกติเขาจะม่ซื้อของล่วงหน้า แต่เพราะว่าปีนี้เขายุ่งจนลืมวันที่บนปฏิทินอีกทั้งสภาพความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไปเลยทำให้ลืมไปเสียสนิท เขาเลยต้องฝ่าฝูงชนและแย่งซื้อของกับเหล่าผู้คนมากมาย ต้องเดินเข้าออกร้านค้าเพื่อสรรหาของขวัญให้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกันเอาเสียเลย

                เอเลนจัดการเลือกซื้อบรั่นดีราคาแพงให้กับคุณฮันเนส แม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลจะไม่เป็นผลดีกับร่างกายแต่คนที่ชอบดื่มแล้วเรียกได้ว่าดื่มมาทั้งชีวิตอย่างคุณฮันเนสแล้วบรั่นดีคงเป็นตัวเลือกที่ดีและง่ายที่สุด ผ้าพันคอสำหรับมิคาสะ เพราะมิคาสะเป็นคนขี้หนาวทุกปีเขาเลยชอบที่จะซื้อผ้าพันคอให้เธอและดูเธอเองก็ชอบและรอคอยผ้าพันคอจากเขาทุกปีเช่นกัน สำหรับแจนเพราะมิคาสะเป็นผ้าพันคอเขาเลยเลือกที่จะซื้อถุงมือให้กับคนชอบวางท่าเป็นพี่ชายเพื่อที่จะได้เข้าคู่กับผ้าพันคอของมิคาสะที่เขาซื้อให้ มือเรียวจัดการตรวจของในถุงกระดาษเพื่อตรวจสอบของที่ซื้อมาว่าถูกต้องครบถ้วนก่อนจะตัดสินใจกลับไปยังที่พักของตนโดยไม่ต้องออกมาใหม่อีกครั้ง ก่อนใบหน้าหวานจะชะงักกับกลิ่นหอมของชาร้อนที่ออกมาจากหน้าร้านขายชาซึ่งมีชาเทศกาลคริสมาสจัดในกล่องและตะกร้าต้อนรับเทศกาลวางมากมายหลากหลายยี่ห้อ

                นัยน์ตาสีมรกตจับจ้องไปยังกล่องเหล็กสีดำที่พิมพ์ตัวอักษรสีทองอย่างหรูหรา กล่องเหล็กพิมพ์ลายเกล็ดหิมะ ตราสีทองที่โดดเด่นเมื่ออยู่บนกล่องเหล็กสีดำยิ่งทำให้ยี่ห้อของชาที่เขาคุ้นเคยเพราะเป็นยี่ห้องโปรดของคนอันตรายยิ่งดูโดดเด่น ริบบิ้นสีทองถูกคาดทับไว้อีกชั้นเพื่อสำหรับมอบให้เป็นของขวัญ นัยน์ตาสีมรกตกลมโตยิ่งให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นป้ายที่วางไว้เขียนว่าเป็นสินค้าพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น

                ชายี่ห้อที่ตาลุงนั่นชอบมีแบบพิเศษเฉพาะช่วงนี้ด้วยแฮะ จะว่าไปชาที่ซื้อไปคราวก่อนก็ใกล้จะหมดแล้ว อีกอย่างนี้ก็ช่วงเทศกาลถ้าซื้อไปให้ตาลุงนั่นอาจจะชอบ......... ราวกับนึกออกใบหน้าหวานขึ้นสีแดงสุกปลั่งทันที เดี๋ยวสิ!! แล้วทำไมเราต้องซื้อของขวัญคริสมาสให้กับตาลุงนั่นด้วยล่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวสักหน่อย แต่นี่ก็ไม่ได้กลับไปที่คอนโดคนอันตรายนั่นได้อาทิตย์นึงแล้ว ทางนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาคงจะงานยุ่งเหมือนกันสินะ แล้วแบบนี้ตาลุงนั่นจะกินอาหารครบสามมื้อรึเปล่า?

                เอเลนหยิบสมาร์ทโฟนของตนขึ้นมา ใบหน้ามนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ไม่มีสายเรียกเข้า เมื่อเข้าโปรแกรมประวัติการโทรเข้าออกก็ไม่พบเบอร์โทรศัพท์ของคนเอาแต่ใจชอบบังคับ ก็ไม่ได้คิดอยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะแต่ดูเหมือนคนอันตรายคนนั้นคงงานยุ่งจนไม่มีเวลาตามเช็คเขาขนาดนี้คงเพราะว่าสิ้นปีและการปิดงบประมานอีกทั้งเรื่องอื่นๆคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะก่อนหน้าที่เขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาอยู่ข้างนอกสภาพเขาที่เป็นซอมบี้คลานกลับคอนโดทุกวันเมื่อเห็นอีกคนที่รออยู่สภาพก็เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างกัน ถึงอย่างนั้นก็ยังคอยลากเขากลับเข้าห้องได้ทุกวัน ใบหน้าหวานลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน แล้วเลือกซื้อชาที่มาพร้อมแพคเกจที่เขาสนใจตั้งแต่แรกไป ถึงแม้ราคาค่าชาที่จ่ายไปนั้นเรียกได้ว่าแพงกว่าราคาของบรั่นดีที่ซื้อให้กับคุณฮันเนสเสียอีกแต่เพราะว่าคนคนนั้นบังคับให้ของเขามามากมาย อีกทั้งค่าใช้จ่ายทุกวันนี้ของเขาเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องเสีย ถึงแม้อยากจะจ่ายเพราะไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนอย่างนั้นแต่ราคาของบิลในแต่ละเดือนเรียกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายของเขาราวๆครึ่งปี อย่างเขาคงไม่มีปัญญาจ่ายให้หรอกนะ การซื้อชาราคามหาโหดแบบนี้ให้ถือว่าเขาได้ชดใช้ส่วนนั้นไปบ้างก็แล้วกัน!

     

                หลังจากเคลียงานที่มีระลอกสุดท้ายในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเหล่าพนักงานและฮันเนสปรับแต่งสตูดิโอที่รกรุงรังมาทั้งอาทิตย์เป็นงานปาร์ตี้อย่างเป็นกันเอง เครื่องดื่มและอาหารมากมายที่โทรสั่งจองล่วงหน้าถูกนำออกมาวางเรียงรายเพื่อให้เหล่าพนักงานผู้หิวโซที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำส่งท้ายปี เมื่ออาหารทั้งหลายถูกวางพร้อมเหล่าบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศผู้หิวโหยไม่รอช้าต่างจัดการตักอาหารใส่จานของตนโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของงานอย่างฮันเนสเอ่ยปากบอก ใบหน้าสูงวัยของเจ้าของสตูดิโอหัวเราะร่ากับสีหน้าและท่าทางของเหล่าพนักงานที่สนุกสนานก้ปาร์ตี้แม้จะเป็นเพียงปาร์ตี้เล็กๆก็ตาม แต่ทั้งหมดนั้นทุกคนรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ที่มีให้กันตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกันมาตลอดทั้งปี และยังคงจะอยู่ด้วยกันในปีต่อๆไป

                “คุณฮันเนสของขวัญครับ” หลังจากปาร์ตี้เริ่มไปได้สักระยะ เอเลนจึงหาโอกาสเหมาะมอบของขวัญให้กับผู้มีพระคุณของตน

                “ขอบใจมากไอหนู” ฮันเนสรับของขวัญจากเด็กหนุ่ม ชายวัยกลางคนยื่นถุงกระดาษของขวัญที่อยู่เก้าอี้ที่ตนนั่งเพื่อแลกเปลี่ยน เสื้อกันหนาวของแบรนด์ดังที่เขาได้งานแคมเปญถ่ายภาพมาแล้วเจ้าหนูนี่ชมว่าเสื้อกันหนาวแบบมีฮู๊ดสีเขียวที่นายแบบใส่เท่ดี

                “พรุ่งนี้นายจะมาฉลองคริสมาสกับฉันรึเปล่าเอเลน?”

                “ไม่ดีกว่าครับ คุณเพิ่งแต่งงานใหม่พาภรรยาของคุณไปเที่ยวจะดีกว่า”

                ฮันเนสตบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มก่อนจะถอนหายใจ “ฉันเคยบอกแล้วไงว่านายไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ยังไงทั้งฉันและภรรยาก็ต้อนรับนายเสมอ”

                “ผมรู้ครับ แต่ปีนี้ไม่มีผมแค่ปีเดียวคุณฮันเนสเหงางั้นเหรอ?” ใบหน้าหวานส่งยิ้มยียวนให้กับชายหนุ่ม จนฮันเนสหมั่นเขี้ยวเลยจัดการบีบจมูกเชิดรั้นของเจ้าตัวดีเล่น

                “ที่นายไม่อยู่ฉลองเพราะว่านัดสาวที่ให้เลสนายไว้สินะพ่อเสือร้าย” ใบหน้าสูงวัยยิ้มยียวนตอบกลับราวกับรู้ทันก่อนจะจัดการขยี้มือลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มให้ยุ่งเหยิงกว่าเดิม

                “ไม่มีหรอกครับคุณฮันเนส ผมแค่อยากพักอยู่ห้องสบายๆบ้าง” เอเลนพองลมในแก้มกับการหยอกล้อของอีกฝ่าย ถ้ามีสาวๆอย่างที่คุณฮันเนสว่าก็ดีสิ แต่ที่เขามีมันเป็นชายวันกลางคนแถมอันตรายอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นจะเรียกว่าเป็นคนรักก็เรียกได้ไม่เต็มปากหรอกนะ เพราะอะไรๆมันก็คลุมเครือน่าดู

                ฮันเนสเพียงแค่ยิ้มและส่ายหัวไปมาอย่างไม่อยากเชื่อเจ้าผู้ร้ายปากแข็งตรงหน้า และเพราะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวควรตัดสินใจเองคนอายุมากกว่าจึงเพียงแค่ปล่อยไปและกลับไปสนุกกับงานปาร์ตี้ตรงหน้าต่อ

                ช่วงค่ำแจนและมิคาสะแวะมาหาเอเลนตามที่นัดไว้ เด็กหนุ่มแลกเปลี่ยนของขวัญกับทั้งสอง มิคาสะให้รองเท้าผ้าใบกับเด็กหนุ่ม ส่วนแจนให้กระเป๋าสะพายของแบรนกีฬาเดียวกัน หลังจากพูดคุยกันสักพักต่างก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตน เมื่อถึงห้องเด็กหนุ่มจัดแจงถอดเสื้อกันหนาววางพาดกับเก้าอี้ ใบหน้ามนมองถุงกระดาษที่บรรจุของขวัญอีกหนึ่งชิ้นในนั้นที่ยังคงอยู่ นิ้วเรียวเคาะลงบนกล่องของขวัญอย่างใช้ความคิด.........เขาจะเอาไปให้คนอันตรายคนนั้นยังไง.......

                เช้าวันคริสมาสทั่วทั้งเมืองตามเต็มไปด้วยความครึกครื้น เสียงเพลงสวดดังให้ได้ยินมาเป็นระยะทั้งจากโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล และจากเหล่าอาสาสมัครที่เคาะประตูตามบ้านเพื่อร้องเพลงส่งมอบความสุขให้แก่กัน ร่างโปร่งที่วันนี้ไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษกว่าจะลุกออกจากเตียงที่ไม่ค่อยได้สัมผัสได้อย่างสบายใจก็เป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว เด็กหนุ่มยันกายลุกออกจากเตียงมือบางขยี้ตากลมโตก่อนจะบิดตัวไปมาเพื่อไปจัดการภารกิจส่วนตัว

                ถุงของขวัญยังคงตั้งอยู่ที่เดิมพร้อมกับเด็กหนุ่มที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วนั่งจ้องอย่างไม่ไหวติง มือบางกำสมาร์ทโฟนของตนพร้อมทั้งจ้องไปยังหน้าจอที่ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่เช่นเดิม

                จะให้เขาโทรไปหาคนนั้นแล้วต้องพูดว่าอะไร จะให้บอกว่าเขาเตรียมของขวัญไว้ ให้มาเอาด้วยแบบนี้ก็คงไม่เหมาะ เหมือนกับว่าเขาจงใจซื้อของมาให้ตาลุงนั่นชะมัด จะให้ส่งข้อความไปแล้วเขาต้องส่งไปว่าอะไรจะต้องเขียนคำอวยพรให้รึเปล่า? แต่ตาแก่โรคจิตนั่นยังไม่เห็นส่งข้อความมาหาเขาเลยแบบนี้เขาก็ไม่คิดที่จะส่งไปก่อนหรอกนะ เอเลนมองของขวัญสลับกับโทรศัพท์ของตนไปมา ทั้งลุกขึ้นเดินไปรอบห้อง ดูรายการโทรทัศน์ฆ่าเวลา ทั้งทำอาหารทาน ทั้งที่พยายามหาเรื่องถ่วงเวลาต่างๆมากมายเพราะหวังว่าจะมีสายเรียกเข้าหรือข้อความเข้ามาจากคนอันตรายเสียบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังคง.......ว่างเปล่า......

                ใบหน้ามนพองลงในแก้มเอาคางเกยกับโต๊ะทานข้าว นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองที่หน้าจอไม่กระพริบทั้งที่ตอนนี้ก็เป็นช่วงหัวค่ำ ใกล้จะหมดวันแล้วแต่ยังคงไม่สัญญาณตอบรับจากคนอันตราย ร่างบางเพียงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะกระชับถุงใส่ห่อของขวัญขึ้นมา

                เฮ้อ........ ดูเหมือนตาลุงนั่นจะงานยุ่งแม้ในวันแบบนี้สินะ ในเมื่อรอไปก็เปล่าประโยชน์เขาเอาไปให้ถึงที่คอนโดเองก็ได้ นี่ก็เพราะว่าซื้อมาแล้วไม่อยากเสียดายของหรอกนะ อีกอย่างจะกลับไปดูว่าตาลุงบ้านั้นยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าต่างหากล่ะ ถ้าเกิดตายคาห้องขึ้นมาเขาจะเดือดร้อนเอาได้

              แกร๊ก

                ทันทีที่มือกำลังเอื้อมไปจับลูกบิดประตู แต่กลอนก็ถูกเปิดออกเสียก่อน ร่างโปร่งชะงักถอยหลังแล้วใบหน้ามนต้องชะงักเมื่อเห็นคนที่ไขกุญแจห้องเข้ามา

                “ไงเจ้าลูกหมายังมีชีวิตอยู่งั้นรึ?” ใบหน้าคมคายล้อมด้วยผมสีรัตติกาลเอ่ยทักทาย นัยน์ตาสีหมอกมองร่างที่ชะงักค้างตรงหน้าพลางขมวดคิ้ว

                “ดึกขนาดนี้แล้วนายจะออกไปไหนเจ้าหนู? แล้วนั้นถุงอะไร?”

                เมื่อถูกถามย้ำอีกครั้งราวกับได้สติ ใบหน้าหวานเลิ่กลั่กก่อนจะกำถุงกระดาษไว้แน่น อยู่ๆคนที่คิดว่ากำลังจะต้องไปหาก็โผล่มาแบบนี้เล่นเอาเขาทำตัวไม่ถูก

                “อ...ค....ก.แก เอ๊ย คุณรีไว” เอเลนรีบตะครุบปากเปลี่ยนสรรพนามเมื่อเห็นคิ้วของอีกฝ่ายกระตุก ก่อนจะพยายามข่มความตื่นเต้นลง

                “คุณรีไวมาทำอะไรที่นี้ครับ?”

                ร่างเล็กแต่แข็งแกร่งก้าวเข้ามาในห้องก่อนจะจัดการลงกลอนประตูแล้วถอดเสื้อโค้ทสีดำแขวนที่ผนัง

                “มาดูว่านายยังอยู่ดีไหมหรือว่าตายไปแล้วเห็นไม่ติดต่อมาตั้งหนึ่งอาทิตย์”

                ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ดูเหมือนว่าจะไม่มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รอการติดต่อจากอีกฝ่ายสินะ...

                “ว่าแต่คุณเถอะครับงานเสร็จแล้วเหรอไงถึงมาที่นี้ได้?” เอเลนเบนหลบสายตาสีขี้เถ้าที่จ้องมองมา ไม่รู้ว่าตอนนี้เขามีสีหน้ายังไง อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอคนอันตรายคนนี้หนึ่งอาทิตย์ พออยู่ๆมาเจอแบบนี้เลยทำให้เขารู้สึกประหม่า

                “เสร็จเมื่อตอนเย็นนี้ล่ะนะ แล้วยัยพวกจุ้นจ้านพวกนั้นจะมาจัดปาร์ตี้ที่คอนโดฉันเลยหนีมา” รีไวเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา ใบหน้าขี้รำคาญเหลือบมองร่างโปร่งที่ยังคงยืนเกร็งอยู่หน้าประตูโดยไม่มีทีท่าที่จะเดินเข้ามา

                “แล้วตกลงนายกำลังไปไหนไอหนู?”

                “อ....เออ....คือ......” ใบหน้ามนยังคงไม่กล้าสบตากับคนอันตรายที่จ้องมา

                “ไม่ว่านายกำลังไปไหนนะเอเลน ฉันขอสั่งให้นายยกเลิกซะ” เพราะท่าทางกระอักกระอ่วนของเด็กหนุ่มเลยทำให้เขาเริ่มหมดความอดทนที่จะรอฟังคำตอบ

                พอได้ยินว่าเป็นคำสั่งอารมณ์หงุดหงิดแล่นเข้าใส่ทันที ถุงกระดาษที่กำแน่นในมือจึงปาออกไปใส่คนที่นั่งอยู่บนโซฟา

                “ก็กำลังไปหานายไงเล่าตาลุงบ้าเอ๊ย!

                รีไวหยิบถุงกระดาษที่ถูกปาขึ้นมาดู กระดาษห่อของขวัญสีทองที่อยู่ในถุงชายี่ห้องที่เขาชื่นชอบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของขวัญชิ้นนี้สำหรับเขา ใบหน้าเฉยชายกยิ้มบางความรู้สึกเหนื่อยล้าจากงานที่โหมกระหน่ำมาตลอดทั้งอาทิตย์พลันหายไป

                “ไม่คิดว่านายจะเตรียมของขวัญไว้ให้ฉันด้วย” รีไวลุกขึ้นยืน สองขาแกร่งเดินเข้าหาร่างโปร่งที่ยังคงยืนอยู่หน้าประตูห้อง

                “ม....มันก็แค่ของตามเทศกาล” ใบหน้าหวานเอียงหลบเมื่อคนอันตรายเข้ามาใกล้มายิ่งขึ้น

                “โฮ่ ฉันเองก็เตรียมของให้นายเช่นกัน” รีไวยื่นห่อกระดาษสีน้ำตาลให้กับเด็กหนุ่ม เอเลนรับมาอย่างกล้าๆกลัว เพราะของขวัญแต่ละชิ้นที่ได้มาจากคนอันตรายคนนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย

                “ว่าแต่อันนี้นายให้เป็นของขวัญคริสมาสหรือวันเกิดล่ะเอเลน?” ใบหน้าคมยิ้มบางถามเด็กหนุ่ม

                เอเลนมองหน้าอีกคนพลางขมวดคิ้วสงสัย “วันนี้เป็นวันเกิดคุณด้วยงั้นเหรอครับ?”

                คิ้วคมต้องเลิ่กขึ้นเมื่อได้ยินประโยคคำถามที่ถามกลับมา ตกลงว่าหมอนี่จงใจให้เขาโมโหหรือว่าไม่รู้จริงๆกันแน่?

                “ถ้าตอบว่าใช่นายจะว่าไงไอหนู?”

                “อ... เอ๊ะ ผ... ผมไม่รู้มาก่อนเลย ถ้างั้นรวบยอดทั้งสองอย่างเลยละกันนะครับ แหะ แหะ” เอเลนพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน แต่สายตาคมที่จ้องดุมาที่เขาทำให้เขาเริ่มรู้สึกอยากหนีไปจากตรงนี้

              “ว่าแต่คุณเองเถอะ รู้วันเกิดผมหรือไง?” เพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้วันเกิดตัวเขาด้วยแน่ๆแบบนี้เขาจะได้มีข้ออ้างยังไงล่ะ

                “ 30 มีนาคม บอกแล้วไงว่าข้อมูลของนายฉันรู้หมดเจ้าหนู”

                ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อไม่คิดว่าคนคนนี้จะรู้วันเกิดของเขาด้วย แต่แล้วเหงื่อเย็นต้องไหลซึมกายยิ่งกว่าเดิมเมื่อสายตาที่ราวกับต่อว่านั้นจ้องมองมาเมื่อเขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของอีกฝ่าย

                “เอาเถอะ ถ้านายยอมใส่ของที่ฉันให้ไปก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดฉันก็ได้นะเอเลน”

                เด็กหนุ่มมองห่อสีน้ำตาลที่อยู่ในมือ ใบหน้าหวานแทบจะไร้สีเมื่อแกะดูของข้างในแล้วพบว่าเป็นชุดกระโปรงซานตี้สีแดงที่มาพร้อมถุงน่องลายตาข่าย ดูเหมือนคนคนนี้จะมีรสนิยมชอบเห็นเขาแต่งหญิงจริงๆใช่ไหม!!

                “ไม่มีทางทำไมผมต้องใส่ชุดแบบนี้ด้วย!!!”เอเลนโยนชุดซานตี้สีแดงคืนให้กับเจ้าของ ใบหน้าหวานขึ้นสีสุกปลั่งด้วยความโกรธระคนความอาย

                “ของขวัญวันเกิดกับของขวัญคริสมาสต้องแยกกันนะเจ้าหนู” ใบหน้าเฉยชาที่พูดอย่างจริงจังกับเรื่องแบบนี้ทำให้เอเลนแทบรู้สึกอยากจะฝังคนตรงหน้าทั้งเป็น

                “ผมเคยบอกแล้วนะครับว่าถ้าคุณชอบนักก็ใส่เอง”

                “แล้วแบบนั้นมันจะเป็นของขวัญให้ฉันได้ยังไงจริงไหมล่ะเจ้าหนู”

                “ผมไม่ใส่เด็ดขาด!!” ใบหน้ามนตีสีหน้าจริงจัง

                รีไวหรี่ตามองคนดื้อรั้นตรงหน้าพลางถอนหายใจ

                “น่าเสียดายนะชุดนั้นสั่งทำพิเศษราคาก็แพงน่าดู ไม่มีคนใส่นี่น่าเสียดายชะมัด”

                “แล้วใครขอให้คุณไปตัดชุดแบบนี้มาไม่ทราบครับ?”

                “คนที่มีวันเกิดตรงกับเทศกาลนี่โชคร้ายชะมัดเพราะมักได้ของขวัญรวบยอด”

                คำบ่นที่ดังมาเป็นสายทำให้เอเลนเริ่มรำคาญ

                “ขาดทุนชะมัดเลยนะ”

                “ก็ได้ๆ แค่ใส่ก็พอใช่ไหม!!!!

                ด้วยความรำคาญเอเลนจึงคว้าชุดสีแดงที่โยนทิ้งไปกลับมา ร่างโปร่งเดินกระแทกส้นเท้าเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมายืนกอดอกด้วยชุดซานตี้กระโปรงเกาะอกสีแดงที่มีขนปุกปุยสีขาวเป็นกระดุมและกุ๊นช่วงอก พร้อมทั้งถุงน่องตาข่ายสีดำ

                “พอใจแล้วใช่ไหมตาแก่โรคจิต” คิ้วมนขมวดมุ่นใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อทั้งอายทั้งโกรธ ยิ่งเห็นใบหน้าคมคายนั้นยิ้มอย่างพอใจเขายิ่งแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี!!

                “นายดูดีไม่เบา เป็นของขวัญที่วิเศษมากเอเลน” ไม่พูดเปล่ารีไวจัดการช้อนตัวร่างโปร่งในชุดซานตี้สีแดงขึ้นมาก่อนจะจัดการวางลงบนเตียงในห้อง

                “เดี๋ยวๆ นี่คุณจะทำอะไรน่ะ!!?”

                รีไวเลิ่กคิ้วแปลกใจกับคำถามของเด็กหนุ่ม ใบหน้าคมคายยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลูบมือไปยังโคนขาที่มีถุงน่องตาข่ายสวมใส่อยู่ครึ่งโคนขาเนียน

                “ตอนนี้ฉันได้ของขวัญมาแล้วก็ต้องแกะของขวัญไงเจ้าหนู”

                !!!!!!!!!!!!!!!!!!

                ใบหน้ามนขึ้นสีแดงราวลูกมะเขือเทศ ตกลงนี้เขาตกหลุมพรางของคนอันตรายขี้แกล้งคนนี้อีกแล้วใช่มั๊ย!!?






     

    ควันสีเทาพ่นออกจากริมฝีปากคม ร่างกายกำยำไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสวยนั่งสูบบุหรี่ที่ปลายเตียง รีไวยกยิ้มขำมองแผ่นหลังเจ้าตัวดีที่จัดการอาบน้ำเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนนอนหันหลังให้อย่างนึกงอน ชายหนุ่มขยี้บุหรี่ลงในถาดเขี่ยบุหรี่ที่หัวเตียง ฝ่ามือหยาบลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเด็กหนุ่มที่นอนขดตัวอยู่ในผ้านวมผืนหนา

    “งานนายเสร็จแล้วใช่ไหมเอเลน กลับคอนโดได้สักทีสินะ”

    “ไม่กลับครับ”

    เสียงใสเอ่ยตอบอย่างแข็งกระด้าง ไม่น่าหลงดีใจที่อุตส่าห์คิดว่าคนชอบแกล้งมาหาเขาถึงห้อง เพราะที่มานั่นอยากแกล้งเขาเสียมากกว่า

    “อย่างอนนักไอหนู ห้องที่ไม่มีนายอยู่มันเงียบชะมัด”

    ได้ยินดังนั้นใบหน้าที่ยังคงงอนๆก็เอี้ยวหลังมองคนอันตรายที่กำลังมองตรงมาพลางยกยิ้มบาง เอเลนพลิกตัวหันหน้าเข้าหาคนชอบแกล้ง นัยน์ตาสีมรกตช้อนมองใบหน้าเจ้าเล่ห์

    “ผมไม่อยู่เหงาเหรอไงครับ?” เจ้าตัวดียกยิ้มเย้าแหย่ ใบหน้าที่ทำราวกับรู้ทันนั้นน่าหมั่นไส้จนรีไวดีดลงบนหน้าผากมน

    “นายกลับมาทำข้าวให้ฉันกินดีกว่า ไม่มีนายอยู่แล้วรสชาติอาหารกร่อยชะมัด”

    เอเลนกลั้นขำกับท่าทางขอร้องของคนที่ดีแต่ออกคำสั่งตรงหน้า แบบนี้เขาจะยอมอ่อนข้อกลับไปแต่โดยดีให้ก็ได้

    “ถึงผมบอกจะไม่กลับยังไงคุณก็จะลากตัวผมกลับไปอยู่ดีไม่ใช่รึไง”

    “คิดได้แบบนั้นก็ดีเจ้าหนู”

    เอเลนคว้าหมอนหนุนขึ้นมากอด ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่นกับทีท่าได้ใจของคนอันตราย

    “คริสมาสนี้ของผมขาดทุนชะมัด” เสียงใสบ่นอิดออด ทั้งที่เขาซื้อชาราคาแพงมหาศาลให้อีกทั้งเพราะเพิ่งรู้ว่าเป็นวันเกิดคนอันตราย จึงโดนตาแก่เจ้าเล่ห์ทำให้ยอมใส่ชุดที่แสนน่าอับอายนั่นอีก และไหนเขายังโดนตาแก่ลามกรวบหัวรวบหางแบบนี้ ตัวเขาที่มีแต่เสียกับเสียนี้มันขาดทุนชะมัด

    “ชุดที่ให้ไปก็เป็นของขวัญไงไม่ชอบเหรอเอเลน?” ใบหน้าคมเลิ่กคิ้วขึ้นอย่างยียวนทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว

    “นั้นมันเรียกว่าของขวัญของคุณมากกว่าครับ!!” เอเลนแยกเขี้ยวใส่คนขี้แกล้งที่ไม่ได้รู้สึกสำนึกสักนิด

    “นั่นสินะ แม้มันจะเลยคริสมาสมาแล้วแต่ก็ไม่สำคัญหรอกนะ”

    ชายหนุ่มเขยิบแขนคร่อมตัวร่างบางไว้ ใบหน้าคมดุขยับเข้าใกล้เด็กหนุ่มทีล่ะนิด ทีล่ะนิด จนอกซ้ายของเอเลนสั่นระรัว ยิ่งเมื่อใบหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดลงบนแก้มเนียนของตน

    ลมหายใจอุ่นเป่ารดที่ใบหูจนเด็กหนุ่มตัวเกร็งด้วยความขนลุก เสียงทุ่มหัวเราะขำในลำคอกับท่าทางของเด็กหนุ่มใต้ร่าง ริมฝีปากคมค่อยๆขยับ เสียงทุ่มค่อยๆเอ่ยแนบในหูของเอเลน

     

    Merry Christmas and Je t’aime

     

     

    Fin.
    .................................................................................

    Talk: 
    ก่อนอื่นเลยขอขอบคุณคุณ raining และคุณ Ganet มากค่ะสำหรับคำผิด
    กรามเป็นกามความหมายช่างไปคนละทาง(ปิดหน้าเขินแปบบางทีอามินอาจกำลังข่มกามของตน//แถจนสีข้างถลอกฮาๆ) แก้เรียบร้อยค่ะ คำว่าประหม่าและประมาทด้วยค่ะ(อันนี้พลาดเพราะพิมพ์เพลินฮาๆ)
    ขอบคุณสำหรับท้วงคำว่า "ชั้น" กับ "ฉัน" ค่ะ เพราะมีปัญหากับการเขียนคำนี้มาก
    คือไม่รู้ว่าควรใช้ "ชั้น" แบบผันเสียงวรรณยุกต์ไปเลยแต่ใช้คำผิดหลัก กับ "ฉัน" ที่ถูกต้องตามหลักค่ะ พอลองไปอ่านนิยายท่านอื่นเห็นเขาใช้ "ชั้น" กันบ้างเลยแบบ อืมเราอาจต้องผันวรรณยุกต์เพื่ออรรถรสรึเปล่า?(เดาเอา) พอคุณ raining ท้วงมาเลยเหมือนมาช่วยคลายปมเลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ >////////<

     

     

     

    ปีที่แล้วเป็นตอนพิเศษของ Last Memory ฉลองวันเกิดเฮีย ปีนี้เป็นล่ารักนะคะเย่(หากินอยู่แถวๆนี้ล่ะ)

    ทันวันเกิดเฮียด้วย เช่นเคยค่ะขออวยพรเฮียเตี้ย(แอ๊ฟโดนฟันหลังคอ) ขออวยพรหัวหน้าจากใจเลยนะคะ มีความสุขมากๆ แก่ขึ้นอีกปีก็ขอให้เด็กรักเด็กหลงมากยิ่งๆขึ้นไปอีกค่ะ และเฮียในล่ารักก็คงความเป็นตาแก่โรคจิตได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ //มอบโล่

    อิชุ้นเขียนฟิคมาครบปีแล้วสินะ ยินดีกับตัวเองแปบค่ะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านเช่นเคยค่ะที่คอยติดตามและให้กำลังใจ รวมถึงชี้แนะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ปีนี้ใกล้จบลงแล้ว ถ้ายังไงขอฝากตัวฝากใจต่อไปในปีหน้าเลยนะคะ

    ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพกายและใจแข็งแรงค่ะ Merry Christmas and Happy New Year ล่วงหน้าค่ะ

    ฝากเพจและบล็อกเช่นเคยค่ะเช่นเคยค่ะ ยินมาคุยและเมาท์มอยกันได้นะคะ
    https://www.facebook.com/beru89club?ref=bookmarks

    http://trendyblood.blogspot.com/

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×