คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ซาตานรีไวและเทวาเอเลน 2
Attack On Titan ฟิคสด: ซาตานรีไวและเทวาเอเลน 2
Pairing: (LevixEren)
Story By: Trendy
Blood + S.MinJiTo
ข้ามผ่านสู่พิภพบาดาลแหล่งรวมแห่งวิญญาณบาปสะสมไปด้วยกิเลสและตัณหาท่ามกลางความมืดมิดปรากฏบัลลังก์ที่ประกอบจากโครงกระดูกนับพันชิ้นตั้งตระหง่าน
บนบัลลังก์สูงใหญ่ร่างแกร่งนั่งไขว่ห้างเท้าคางด้วยสีหน้าด้านชา
มืออีกข้างถือม้วนกระดาษบัญชีรายนามของผู้ที่จะต้องมารับโทษทัณฑ์ในวันนี้
บรรยากาศเป็นไปอย่างวังเวงจนกระทั่งมีเสียงกระตือรือร้นเกินเหตุแทรก
"นายท่านๆ
ถ้าเป็นไปตามคาดอีกไม่นานเกินรอข้าจะต้องได้อุ้มหลานแน่ๆ
โอ้วววข้าหล่ะตื้นตันจริงๆ บุตรแห่งซาตานและเทวาหนุ่มน้อย อ่า...ข้าขออุ้มคนแรกนะ
ข้าขอตั้งชื่อด้วย ข้าขอ..." ก่อนที่ฮันซี่มือขวาของซาตานจะพล่ามไม่หยุด
รีไวก็ขัดขึ้น
"อย่าเยอะนักนังวิปลาส
สิทธิในตัวบุตรข้าย่อมเป็นของข้าและราชินีแห่งข้า"
เหลือบตามองเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อ
"ว่าแต่เมื่อไหรเอเลนถึงจะรู้ตัวว่ามี..."
คำถามยังไม่จบประโยคฮันซี่ก็ขัดขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
"เมื่อไหร่น่ะหรือ
เมื่อไหร่ใช่ไหม คึๆ
อาการจะเริ่มด้วยอยากในการดื่มกินผิดจากเทวาทั่วไปที่ไร้ความอยากในข้อนี้
ความอยากจะรุนแรงมากขึ้นจนถึงกระหายในการดื่มกินเลือด
ตอนนั้นบุตรแห่งซาตานจะแข็งแกร่งขึ้นและเติบโตทวีคูณจนไม่อาจทำลายได้
ร่างของมารดาจะรู้สึกเจ็บมากขึ้น จนเมื่อถึงเวลาทารกจะฉีกครรภ์มารดาออกมาเอง
แล้ว...แอ่ก!!!"
ฮันซี่ไม่สามารถพูดต่อได้อีกด้วยมือแกร่งที่บีบกำรอบลำคออย่างรุนแรง
"เจ้าว่าไงนะ!!!
ฉีกครรภ์มารดา!!”
“แล้วเอเลนจะเป็นเช่นไร ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเด็กนั่นเสียตามด้วยเจ้าให้ตายอย่างทรมานที่สุด"
ร่างแกร่งดวงตาลุกโชน เส้นเลือดปูดโปน
กรงเล็บเข้าจิกขย้ำเนื้อคอมือขวาคนสนิทของตนอย่างคลุ้มคลั่ง
"อ่อก!!! ใจเย็นก่อนนายท่าน
ข้ารับรองว่าเอเลนจะต้องปลอดภัย เลือดของมารดาและบุตรที่หลอมรวมกันจะสมานแผลได้
แต่ทางที่ดีตัวเอเลนก็ควรอยู่ใกล้ๆข้า เพื่อที่ข้าจะได้เข้าช่วยเหลือได้ทุกเวลา
เผื่อไว้ไงท่าน!! อุ่นใจไว้ก่อนไง๊!! แค่กๆ"
ฮันซี่รีบกล่าวเสริมเมื่อสีหน้าของรีไวส่อแววอันตราย จอมมารหรี่ตาลงจ้องมองฮันซี่
ก่อนคลายมือที่กำรอบลำคอ ปล่อยให้ร่างฮันซี่ล้มลงโก่งตัวไอโขลกๆ
"ดี!! เมื่อเป็นเช่นนี้หากเอเลนไม่มาหาข้าด้วยตนเอง
ข้าเองนี่แหละที่จะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเทวาที่รัก
ราชินีและผู้สืบทอดของข้าต้องปลอดภัยอยู่เคียงข้างข้าเท่านั้น!!"
ใบหน้าหวานของเทวาหนุ่มน้อยขมวดคิ้วเป็นปมจ้องมองกระดานหมากรุกเบื้องหน้าที่กำลังถูกต้อนให้จนมุม
“รุกฆาต!”
เสียงของคู่แข่งตรงหน้ากล่าวลั่นพลางเลื่อนหมากอัศวินเข้ากินเหล่าเบี้ยที่เหลือบนกระดาน
“ให้ตายสิ ข้าไม่เคยชนะเจ้าเลยสักครั้งอาร์มิน
เกมการวางแผนแบบนี้คงไม่ใช่แนวของข้า” เอเลนว่าพลางหยิบเค้กที่เหล่าแฟร์รี่ตัวน้อยๆยื่นมาให้เข้าปาก
เทวาหนุ่มน้อยผมสีทองมองเค้กที่เพื่อนตรงหน้าทานเข้าไปอย่างแปลกใจ
“เอเลนหมู่นี้นายทานเยอะไปรึเปล่า?” เพราะโดยปกติแล้วเราเทวาอย่างพวกเขาแทบไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแตะต้องอาหาร
จะมีก็เพียงแต่เสริมความสุนทรีย์ในชีวิตที่แสนน่าเบื่อในบางวัน
ถึงแม้ไม่ต้องการอาหารแต่รสชาติที่ได้ลิ้มลองก็ทำให้รู้สึกเปรมปรีย์
โดยเฉพาะเอเลนซึ่งแทบไม่สนใจในความสุนทรีย์ของการทานเสียเท่าไรเพราะวันๆเอาแต่คิดเรื่องขจัดเหล่าปีศาจ
แต่หลังจากที่เทวาเพื่อนสนิทกลับมาจากภารกิจครั้งก่อนก็ดูเหมือนว่าจะเจริญอาหารขึ้นผิดปกติ
หรือเขาจะคิดมากไป?
“งั้นหรือ? คงเพราะข้าเพิ่งจะรู้กระมังว่าขนมพวกนี้รสชาติก็ไม่เลว”
เอเลนเกาแก้มของตนอย่างใช้ความคิด
ก่อนจะหันไปหยิบทาร์ตผลไม้ที่จัดเตรียมไว้ทานเข้าไปเป็นชิ้นที่ 5 ของวัน
อาร์มินมองเพื่อนสนิทอย่างแปลกใจกับการบริโภคที่ผิดเกินวิสัย
แต่ในเมื่อเจ้าตัวเอ่ยอย่างนั้นเขาจึงไม่คิดจะสาวความให้มากเรื่อง
เพราะอย่างไรเอเลนอาจจะแค่ติดใจกับบรรดาขนมที่เจ้าตัวเคยไม่สนใจเท่าไหร่ตามที่กล่าว
เสียงของปีกที่กระพือเข้ามาใกล้เรียกความสนใจจากเทวาหนุ่มน้อยทั้งสอง
ร่างอรชรของเด็กสาวค่อยๆร่อนลงยังศาลากลางน้ำที่เทวาหนุ่มน้อยกำลังพักผ่อน
“เอเลนท่านเอลวินเรียกหาเจ้าน่ะ” เทวาสาวผมสีรัตติกาลแจ้งธุระให้กับเพื่อน
“ขอบใจมากมิคาสะฉันจะไปเดี๋ยวนี้
ท่านคงมีงานให้ฉันทำอย่างแน่นอน”
นัยน์ตาสีมรกตเปล่งประกายเมื่อได้รับคำสั่ง
ปีกสีขาวและดำที่ช่วงชิงมากางออกก่อนจะกระพือพาร่างโปร่งไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็ว
วิหารสีขาวเด่นเป็นสง่าปรากฏเบื้องหน้า
เทวาหนุ่มน้อยค่อยๆร่อนลงก่อนจะก้าวเดินผ่านประตูโค้งและเหล่าเสาโรมันที่ทอดยาวตามทางเดิน
เมื่อมาถึงหน้าห้องของผู้มีตำแหน่งเป็นถึง หนึ่งในเหล่ามหาเทพ เอเลนเคาะประตูขออนุญาตก่อนจะเข้าไป
“สวัสดีครับท่านเอลวิน
มีงานให้ข้าทำงั้นเหรอครับ” กล่าวทักทายพลางถามภารกิจของตนอย่างตื่นเต้น
นัยน์ตาสีฟ้าดุจทะเลจ้องมองร่างโปร่งบางของเทวาหนุ่มน้อยก่อนค่อยๆคลี่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“อ่า....ฉันอยากถามนายว่าร่างกายนายตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากไปทำภารกิจครั้งล่าสุดมีอะไรแปลกไปจากเดิมหรือไม่?”
เอเลนเอียงคออย่างสงสัยกับคำถาม
ถึงกระนั้นเทวาหนุ่มก็ตอบกลับไป
“ก็ปกติดีครับท่านเอลวิน
บางทีท่านอาจหมายถึงปีกสีดำที่ข้าได้มาสินะครับ
ตอนแรกๆก็เหมือนจะควบคุมยากหน่อยเพราะยังไม่คุ้นชินและปีกนี้จากเจ้าของเดิมก็มีพลังที่มากกว่าข้า
แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้วล่ะครับ”
เอลวินมองเทวาหนุ่มตรงหน้าอย่างใช้ความคิด
ก่อนจะค่อยๆถอนหายใจ ดูเหมือนบางทียังไม่มีอะไรผิดปกติ
ไม่แน่ว่าสิ่งที่รีไวพูดไว้อาจเป็นเพียงแค่คาดการณ์เท่านั้น
ถึงแม้รีไวจะเป็นถึงซาตานฤทธิ์แกร่งกล้า แต่พื้นฐานเอเลนก็เป็นเด็กผู้ชาย
เรื่องที่จะท้องไม่น่าจะเป็นไปได้.....
“งั้นหรือ ได้ยินอย่างนั้นข้าก็เบาใจ
ข้าเกรงว่าภารกิจล่าสุดที่เกิดจะทำให้เทวดาตัวน้อยของข้าเปลี่ยนไป” มือหนาค่อยๆลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเทวาหนุ่มน้อย
ก่อนจะดึงร่างโปร่งบางขึ้นมานั่งลงบนตักของตน
“ไม่หรอกครับท่านเอลวิน
ข้าก็ยังคงเป็นข้าอยู่เช่นเดิม”
ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มบางให้กับมหาเทพหนุ่มเบื้องหน้า
หลังจากที่มหาเทพรีไวจากไปคนที่เลี้ยงดูเขาซึ่งยังคงเป็นเด็กน้อยนั้นก็คือมหาเทพเอลวิน
ตัวเขาจึงรู้สึกผูกพันและอบอุ่นกับการใกล้ชิดมหาเทพผู้นี้เป็นอย่างมาก
“อ๊ะ แต่อาร์มินบ่นว่าช่วงนี้ข้ากินมากไป
สงสัยลิ้นข้าคงจะเริ่มแปลก รู้สึกติดใจเหล่าอาหารพวกนั้นยังไงก็ไม่รู้สิ” เอเลนเกาหน้าตัวเองอย่างใช้ความคิด
“ท่านเอลวินเทวาอย่างพวกข้านี่อ้วนขึ้นได้รึเปล่า?” เอียงคอถามอย่างสงสัย
จะว่าไปหมู่นี้เขาก็ทานบ่อยเกินไปจริงๆ
คำถามของเอเลนทำให้เอลวินรู้สึกสังหรณ์ใจ
ถึงกระนั้นใบหน้าของมหาเทพยังคงยิ้มอย่างอบอุ่นเช่นเคย
“ถ้าเจ้ารู้สึกไม่สบายตัวไว้ไปให้มิเกะตรวจเสียหน่อยดีไหมเอเลน?”
ใบหน้าหวานพองลมในแก้มไม่ต่างจากเมื่อครั้งยังเยาว์ที่เวลาบอกจะพาเขาไปพบหมอเจ้าตัวดูเหมือนจะรั้นไม่อยากไป
“จำเป็นต้องไปด้วยเหรอ?” ช้อนตามองอย่างนึกอ้อน
ถึงแม้หมอมิเกะจะเป็นหมอเลื่องชื่อ
แต่วิธีการตรวจก็แปลกพอดูเพราะเพียงแค่ดมกลิ่นก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร
“เอาน่าเด็กน้อยเพื่อความสบายใจของข้าเจ้าทำได้ใช่ไหม?” ว่าพลางกดสันจมูกโด่งลงที่แก้มเนียน
ก่อนจะคลอเคลียไปมาอย่างหยอกล้อ
“ก็ได้ถือว่าท่านขอร้อง ข้าก็ยินดี”
"ส่งมาอยู่ได้ไม่รู้จักเข็ดจำเลยนะพวกแกเนี่ย...ปกติชะตาพวกมด
ไร ที่ถูกส่งมายุ่งเรื่องของข้ามักจะขึ้นอยู่กับความเมตตาของข้า
และกับเทวาอย่างเจ้า...ถึงข้าจะอยู่ในช่วงที่หงุดหงิดเป็นที่สุดแต่แน่นอนข้าเปิดโอกาสให้กับทุกสรรพสิ่งเสมอ"
จอมซาตานพูดด้วยใบหน้าเฉยชาไร้อารมณ์ ก่อนคลายมือแกร่งออกจากลำคอของเทวาที่ถูกส่งมาสอดแนม
"จงวิ่งไปหรือใช้ปีกของเจ้าซะ
หนีข้าให้พ้น..."
เทวาหนุ่มเคราะห์ร้ายพอได้ฟังยังไม่ทันจบประโยคดีรีบออกวิ่งทันที
ปีกขาวกางออกโผบินสู่อิสระภาพ น่าเสียดายที่โบกปีกได้เพียงครั้งสองครั้งตรีศูลทมิฬก็พุ่งตรงเข้าเสียบหลังทะลุออกจากร่างด้วยแรงส่งเพียงเล็กน้อยจากจอมมาร
หยดเลือดสาดกระจายไปทั่ว และกระเด็นลงสู่ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลัก ที่เพิ่งต่อประโยคเมื่อครู่ให้จบ
".... ถ้าเจ้าทำได้น่ะนะ"
เล็บทมิฬยกขึ้นมาปาดเลือดออกจากข้างแก้ม ตาคมมองคราบเลือดที่ติดมาก่อนสบถ
"โสโครกสิ้นดี!!!
จะหาโลหิตใดที่หอมหวานตรึงใจเท่าเจ้าไม่มีอีกแล้วเอเลน...
ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกินที่รักแห่งข้า"
รีไวหลับตาลงทุกภาพทุกสัมผัสความรู้สึกที่จอมมารมีต่อเทวาน้อยหลั่งไหลท่วมท้น
ข้ากระหายความรักจากเจ้า...เอเลน
ใคร่อยากในร่างงดงามนั้น ช่วงชิงและครอบครองเอเลนให้เป็นของข้าเพียงผู้เดียว
แต่....ยังก่อนตอนนี้
ข้าต้องห้ามใจยับยั้งร่างกายตนเองอย่างมากไม่ให้บุกขึ้นสวรรค์ชิงตัวเทวาของข้ามา
ประวิงเวลามิใช่เพื่อสิ่งใด หากไม่ใช่เพราะข้าต้องการรู้ถึงจิตใจของเจ้า
ถ้าเพียงแต่เจ้าต้องการมาหา ส่งสัญญาณให้ข้าได้รับรู้
ข้าก็พร้อมที่จะทำทุกทางเพื่อพาเจ้ามา และนั่นคงเป็นความสุขที่สุดในชั่วชีวิตนับพันปีของข้า
แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นเล่า? หากเจ้าปฏิเสธข้าและบุตรเมื่อนั้นจะเป็นเช่นไรไม่อาจรู้ได้
แต่ความเจ็บปวดของข้าต้องได้รับการระบาย สวรรค์ต้องรับรู้และท้ายที่สุดเมื่อข้าได้ตัวเจ้ามา
“ข้าจะกักขังเจ้าตลอดไป
อยู่ในขุมนรกกับข้าตราบชั่วนิรันดร์”
เอเลนถอนหายใจเบื้องหน้าประตูเข้าสู่คลีนิคหมอมิเกะ
ทั้งที่เขาเเค่รู้สึกติดใจกับอาหารมากไปไม่น่าจะเป็นโรคร้ายเเรงขนาดต้องมาตรวจ
เเต่ในเมื่อเป็นคำร้องขอจากเทวาที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้ปกครองของตน
จะปฎิเสธก็คงไม่ดีนัก
ระหว่างที่ยังคงคิดไม่ตกว่าควรเข้าไปดีหรือไม่
ประตูคลีนิคก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างของเทวฑูตที่ตอนนี้เขาไม่อยากเจอ
"นายจะเข้ามาได้รึยังเอเลน?" ชายหนุ่มไว้หนวดร่างสูงใหญ่ออกมาต้อนรับเมื่อรู้สึกว่าเทวฑูตหนุ่มน้อยไม่เข้ามาหาตนเสียที
"ผ...ผมกำลังจะเข้าไปอยู่ละครับ!"
พูดพลางเเทรกกายเข้าประตู เเม้จะรู้สึกเกร็งๆเเต่เเบบนี้เขาคงหนีไม่ได้เเล้ว
"เอลวินฝากเรื่องไว้กับฉันเเล้ว
ดูเหมือนช่วงนี้นายจะกินจนผิดปกติสินะ นอกจากนั้นมีอะไรรึเปล่า?" นัยน์ตาสีอ่อนพินิจร่างโปร่งตรงหน้าอย่างวิเคราะห์รายละเอียด
"ก็ไม่มีนะครับ ผมว่าผมก็ปกติเเละเเข็งเเรงดี
ท่านเอลวินกังวลเกินไปมากกว่า"
"งั้นรึ ขอฉันตรวจอาการนายหน่อยละกัน"
เทวฑูตมิเกะเขยิบเดินเข้าไปใกล้ร่างโปร่งก่อนจะก้มลงสูดกลิ่นที่ซอกคอของเทวฑูตหนุ่มน้อย
เอเลนนั่งตัวเกร็งยามเมื่อลมหายใจอุ่นรดลงที่ซอกคอของตน
เเม้จะรู้ดีว่าการตรวจของเเพทย์มิเกะคือการดมกลิ่น ซึ่งเขาก็ไม่ชินกับการตรวจเเบบนี้เอาเสียเลย
แต่การตรวจเเปลกๆเเบบนี้กลับวิเคราะห์โรคต่างๆได้อย่างเเม่นยำจนน่าเหลือเชื่อ
เเม้ไม่อยากเเต่ก็ต้องยอมรับในจุดนี้
เมื่อวิเคราะห์เรียบร้อยมิเกะพลางเดินออกห่างร่างบางก่อนจะกุมขมับของตนเอง
"ฉันอาจจะวินิจฉัยผิด
เเต่กลิ่นของนาย....."
เอเลนเอียงคอมองอย่างสงสัยกับท่าทางที่ดูหนักใจของคนตรงหน้า
หรือว่าเขาจะเป็นอะไรร้ายเเรงงั้นรึ? ไม่จริงน่าาาา!!!
"ตกลงผมเป็นอะไรกันครับ!?" นัยน์ตาสีมรกตมองอย่างหวั่นไหว
มิเกะถอนหายใจก่อนปากหนาจะค่อยๆบอกความจริงอย่างเสียไม่ได้.....
"กลิ่นของนายราวกับกำลังตั้งครรภ์"
ใบหน้าหวานพลางขมวดคิ้วมุ่นอย่างมึนงง
"ท่านมิเกะ....มุกตลกท่านข้าไม่ขำหรอกนะ"
ทั้งที่คิดว่าเทวาตรงหน้าคงล้อเขาเล่นเพราะยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย
เเต่สีหน้าเคร่งขรึมที่จ้องมองมาทำให้เลือดในกายพลันรู้สึกเย็นเฉียบ
"ท่านมิเกะ ข้าเป็นบุรุษนะ!!"
ใบหน้าหวานเริ่มกระอักกระอ่วนอย่างไม่อยากเชื่อ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!
"เรื่องเพศเจ้าข้าที่ช่วยเอลวินดูเเลเจ้ามาเเต่เด็กข้ารู้ดี"
มิเกะตีสีหน้าจริงจัง
"ถ้างั้นเเล้ว.....ทำไม?"
"ปีกสีทมิฬอีกข้างที่หลังเจ้าอาจเป็นคำตอบ"
เสียงของมหาเทพผู้ควบตำเเหน่งผู้ปกครองของร่างโปร่งเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อมาถึงคลีนิคของเทวาคนสนิท
สองมือของร่างบางค่อยๆกุมที่ท้องของตน
นัยน์ตาสีมรกตสั่นไหวอย่างรุนเเรง ความจริงที่ได้รู้เเทบทำให้เกือบหยุดหายใจ
สองมือบางเริ่มสั่นไหวก่อนจะกำจนเเน่นเเล้วทุบระรัวที่ท้องของตนอย่างรุนเเรง
"ไม่ ไม่ ไม่ ข้าเป็นชายนะ!!!!!!"
เอเลนกระหน่ำทุบท้องของตนทั้งขีดข่วนท้องของตนเองอย่างบ้าคลั่ง
จนมิเกะเเละเอลวินต้องช่วยกันจับเเขนเเละล็อคร่างเทวาหนุ่มน้อยที่คลุ้มคลั่งทำร้ายตนเอง
"ใจเย็นสิเอเลน!!"
มหาเทพเอลวินขึ้นเสียงหวังเรียกสติเทวาหนุ่ม เเต่เอเลนยังคงดิ้นพล่าน
สองมือยังคงสะบัดมือหนาที่พันธนาการ ใบหน้าหวานส่ายไปมาอย่างไม่อยากยอมรับ
หยาดน้ำใสไหลลงอาบทั้งสองเเก้ม
"ล้อเล่นใช่ไหม
เรื่องเเบบนี้ข้ารับไม่ได้!!!"
เอลวินดึงเเขนร่างบางเข้าหาตนก่อนจะใช้สองมือโอบกอดร่างที่กำลังสั่นระริกของเทวาหนุ่ม
เอเลนพยายามผลักดันอ้อมกอดทั้งจิกเเละข่วนมหาเทพให้ถอยห่าง
ร่างกายที่เเปลกประหลาดไปนี้ช่างน่ารังเกียจนัก!!!
ยิ่งถูกผลักไสอ้อมกอดของมหาเทพกลับยิ่งรัดเเน่นขึ้น
จนเอเลนได้เเต่จิกเล็บลงบนเเขนเเกร่งที่โอบกระชับเข้ามา
เทวาหนุ่มน้อยกรีดร้องโหยหวนอย่างคลุ้มคลั่ง เล็บคมจึงยิ่งจิกลงบนเเขนของมหาเทพจนเลือดไหลซึมออกมา
กลิ่นคาวของเลือดที่เริ่มไหลจากเเผลข่วนราวกับเรียกสติ
เสียงกรีดร้องหยุดชะงักลง กลิ่นหอมหวานของเลือดสีสดที่ซึมออกมาทำให้ลำคอของเทวาหนุ่มรู้สึกเเห้งผาก
กว่าจะรู้ตัวเอเลนได้ฝังคมฟันของตนลงบนไหล่หนา หยาดเลือดไหลลงเป็นทาง
ใบหน้าหวานลิ้มชิมรสเเสนหวานอย่างกระหาย ทั้งเลีย ข่วน
เเละกัดทึ้งบนผิวของมหาเทพเอลวินเพื่อให้หยาดสีชาดหลั่งริน
เอลวินมองการกระทำของเทวาหนุ่มอย่างตกตะลึง
เช่นเดียวกับมิเกะที่ดูจะเเปลกใจไม่ต่างกัน
ครั้นได้สติมิเกะจึงกระชากร่างบางออกห่างจากมหาเทพ
เพี๊ยะ!!!
รอยเเดงปื้นใหญ่ปรากฎบนเเก้มนวลของเอเลน
นัยน์ตาสีมรกตที่ขาดสติเริ่มกลับมาส่องประกายเช่นเดิม
เอเลนมองเลือดที่เลอะเปรอะร่างกายก่อนใบหน้าหวานจะหันไปมองร่างของมหาเทพ
แม้แผลที่เทวาหนุ่มน้อยทำจะไม่สาหัสเเต่เลือดที่ไหลออกมามากมายทำให้รู้ว่าเเผลคงลึกทีเดียว
สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าบาดเเผลเหล่านั้นก็คือเทวาเอเลนที่ยังไม่อาจยอมรับร่างกายที่ผิดเพี้ยนไป
อีกทั้งปฎิกิริยายามเมื่อถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นของโลหิต เเม้จะไม่อยากยอมรับเเต่ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าลูกที่อยู่ในครรภ์ที่ผิดเเปลกนี้เป็นของผู้ใด
"ข...... ข้า.....ข้าทำอะไร......"
ร่างบางสั่นระริก นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิด
เมื่อสักครู่เขาทำร้ายมหาเทพ อีกทั้งยังดื่มเลือดอย่างกระหาย ราวกับมารร้าย
"ลำพังเเค่น้ำเชื้อของซาตานคงไม่ส่งผลให้นายตั้งครรภ์ได้"
มิเกะที่เงียบมานานพยายามหาความเป็นไปได้ของสิ่งที่กำลังเผชิญ
"คนที่ทำอะไรเพี้ยนๆเเบบนี้ได้คงมีเเต่ยัยนั่น......ฮันซี่"
ชื่อที่มิเกะกล่าวทำให้เอลวินเเละเอเลนสนใจ
เพราะถ้าเป็นผู้นั้นเเล้วล่ะก็การที่เขาจะท้องนั้นมีความเป็นไปได้มากทีเดียว
"ล....เเล้วข้าควรทำยังไง"
ไม่เข้าใจเเละสับสน ตอนนี้เขาเป็นตัวอะไรกันเเน่ ทำไมอยู่ๆเขาถึงตั้งครรภ์อีกทั้งบุตรที่อยู่ในท้องของเขายังเป็นลูกของผู้นั้น
ผู้ที่เขาเด็ดปีกสีทมิฬจากมา ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เขาต้องทำยังไงกัน
ทั้งสับสน หวาดกลัว เเละรังเกียจ
"เราอาจต้องไปหาฮันซี่เพื่อจัดการเรื่องบ้าๆนี่"
มหาเทพเอลวินกล่าวอย่างหัวเสีย
ไม่อาจรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายที่ผิดเพี้ยนไปของเอเลน
เพื่อความปลอดภัยต้องลากคอตัวต้นเหตุมาให้ได้
"ถ้าท่านพาฮันซี่มาหมอนั่นก็ต้องมาด้วยสินะ"
มิเกะเอ่ยพลางชำเลืองมองร่างบางที่สะดุ้งเล็กน้อย
"ม....ไน่นะ ข้าไม่อยากเจอท่านผู้นั้น"
ใบหน้าหวานมองมหาเทพอย่างหวาดหวั่น
"ได้โปรดท่านเอลวิน
ข้าไม่พร้อมที่จะเจอท่านผู้นั้นในสภาพเเบบนี้" ไหล่บางสั่นไหวยามเอ่ยถึงผู้ที่หันหลังให้กับพระเจ้า
ไม่
ข้าจะไม่มีทางไปหาท่านรีไว ตราบใดที่คำพูดของท่านไม่อาจเชื่อได้...ข้าจะไม่ยอมไปเป็นอันขาด
เทวฑูตทั้งสองมองร่างบอบบางสั่นไหว
ทั้งเห็นใจเเละอาดูรต่อสิ่งที่เกิดกับร่างกายของเอเลน
"ข้าจะพยายามหาทางดู
ช่วงนี้เจ้าพยายามอยู่ใกล้ชิดข้าไว้ล่ะเอเลน" มิเกะถอนหายใจ เเม้ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้ขนาดไหนเเต่ก็คงต้องลองดู
มหาเทพเอลวินยิ้มบางพลางลูบลงบนผมสีน้ำตาลเเผ่วเบา
"ช่วงนี้อย่าซนนักล่ะเอเลนเเละพยายามอยู่ใกล้ข้าหรือมิเกะด้วยเข้าใจนะ"
ใบหน้าหวานยิ้มรับกับการตัดสินใจของเทวาทั้งสอง มือบางค่อยๆจับลงที่ท้องอย่างใจเย็น
...........เเม้จะน่ารังเกียจเเต่กลับรู้สึกอบอุ่นด้วยเช่นกัน.......
ท่ามกลางรัตติกาลอันมืดมิด
ปรากฏร่างบุรุษผิวขาวซีด
ใบหน้าคมที่เผยพ้นเงามืดแสดงให้เห็นความหล่อเหลาชวนลุ่มหลงที่มาพร้อมกับนัยน์ตาโชนแสงกล้าราวไฟโหม
ฝีเท้าที่เงียบกริบกับความเร็วในการก้าวเดินอย่างเหลือเชื่อเพียงพริบตาก็พาเจ้าของร่างก้าวผ่านบานประตูสีขาวพิสุทธิ์มหึมาที่ประดับประดาไปด้วยเถาวัลย์ทองคำลวดลายวิจิตร
ท่ามกลางเถาวัลย์นั้นเองมีร่างแฟรี่น้อยบินมาก้มคำนับแทบเท้าของบุรุษผู้มาใหม่
ก่อนร่างน้อยค่อยๆเปล่งแสงขึ้นเปลี่ยนจากภูติน้อยกลับกลายเป็นหญิงสาวร่างเล็กเจ้าของปีกสีดำ
ใบหน้าน่ารักเงยหน้าขึ้นรายงานต่อนายเหนือหัวของตน
“นายท่านรีไว.....
เป็นอย่างที่ท่านฮันซี่ส่งข่าวมาบอกจริงๆหรือนี่ ท่านมาผู้เดียวโดยไม่มีการวางแผนหรือตระเตรียมการใดๆล่วงหน้า
อันตรายเกินไปท่านก็รู้ดี เหตุใดท่านจึงรีบร้อนเช่นนี้ แม้แต่ตัวข้าน้อยเองก็เตรียมการไม่ทัน
ตอนนี้ที่พักของเอเลนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างลับๆโดยที่ข้าน้อยยังสืบเสาะไม่พบแล้วเยี่ยงนี้จะทำเช่นไรนายท่านข้าคิดว่า.....”
จอมมารเพียงปรายตามองเพทร่าทาสสาวที่ตนส่งมาเป็นสายตั้งแต่ที่ตนเองหันหลังให้กับพระเจ้าและสร้างอาณาจักรอันมืดดำปกครองอยู่เบื้องล่าง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกความเคลื่อนไหวของเอเลนรีไวสามารถรับรู้ได้ทุกสิ่งผ่านการรายงานอย่างละเอียดของเพทร่าในร่างแฟรี่แสนน่ารักเพื่อนตัวน้อยในสายตาของเอเลน
และก่อนที่เพทร่าจะพล่ามไปมากกว่านี้ผู้เป็นนายก็ชิงตัดบทด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“ใช่.....เจ้าพูดถูกต้องเพทร่าข้ามาเพียงหนึ่งโดยไม่สนใจต่อสิ่งใด
เจ้าพวกปีกขาวพวกนี้ต่อให้หมาหมู่เพียงใดข้าก็หาเกรงไม่
ต่อให้ตาแก่พระผู้เป็นเจ้าหน้าไหนหรือเจ้าลูกไล่กระจอกผมวิกอย่างเอลวินก็ขวางข้าไม่ได้
ข้าไม่อาจรอได้อีกจากที่เจ้ารายงานไป
เจ้าคิดว่าข้าควรอยู่รอฟังจนกระทั่งเอเลนทำมากกว่าคลุ้มคลั่งดิ้นพล่านทำร้ายครรภ์ตนเองงั้นหรือ
ไม่หรอกข้าทำไม่ได้ ในเมื่อเจ้าไร้ความสามารถจะหาเอเลนได้ในทันที
ข้าก็จะสืบเสาะหาเอาเอง ไม่มีทางที่เอเลนจะหลบหนีข้าพ้น
ข้าสัมผัสได้ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกทั้งกลิ่นกายหอมหวาน
หรือแม้เพียงเสียงกระซิบแผ่วเบาของเอเลนก็ตาม” กล่าวจบเดินต่ออย่างรวดเร็ว
ร่างแกร่งเปิดรับสัมผัสทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบกายเพื่อควานหาคนรักของตนอย่างรีบเร่งจนทาสสาวได้แต่เงียบปากก่อนกลับร่างแฟรี่บินตามผู้เป็นนายไปติดๆ
จอมซาตานเดินตามสัมผัสที่รู้สึกได้ยิ่งนานยิ่งรู้สึกรุนแรงยิ่งขึ้น
การตามหาไม่ยากอย่างที่คาดไว้แต่แรก อาจจะด้วยบุตรในสายเลือดที่ร่ำร้องหาบิดาของตนและเลือด....
หรือแม้กระทั่งปีกทมิฬที่ทำให้ตามรอยได้เป็นอย่างดี
และแล้วสองเท้าก็มาหยุดอยู่หน้าปราสาทหลังหนึ่ง
เค้าจับสัมผัสได้ทันทีว่าใช่เอเลนซึ่งตอนนี้ยังไม่นอนและเดินไปมาอยู่เพียงผู้เดียวทางห้องปีกตะวันออก
หากเป็นในอดีตรีไวคงทำเพียงแค่เปิดประตูเข้าไปได้ตามสบาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่...
ถึงตอนนี้ดูท่าเด็กน้อยของเขาจะกระวนกระวายกระหายอยากน่าดู แต่เขารู้ดีทีเดียวว่าด้วยนิสัยของเอเลนแล้วต้องแสดงการต่อต้านอย่างร้ายกาจแน่นอน
ดังนั้นทางเดียวในตอนนี้ก็คือ....
“เพทร่า
เจ้าบินไปเคาะหน้าต่างบานที่สองทางห้องปีกตะวันออก
แล้วจงนำนี้ไปให้เอเลนดื่มเสียด้วย” รีไววางขวดแก้วคริสตัลแสนงดงามลงบนสองมือของแฟรี่จำแลง
เพทร่าก้มลงมองสิ่งที่บรรจุในขวดอย่างสงสัย
ไม่ใช่ว่าสงสัยว่ามันคืออะไรเพราะเพียงกลิ่นก็รับรู้ได้ว่าคือเลือดสดๆบรรจุเต็มขวด
แต่ที่ทาสสาวสงสัยคือนำมาใช้กับเอเลนเพื่อการใด....
กำลังจะเอ่ยปากถามจอมมารก็รีบตอบตัดรำคาญ
“มันคือเลือดของข้าเพทร่า
เลือดของข้าที่ใช้หล่อเลี้ยงปรสิตตั้งแต่เป็นตัวอ่อนจนโตเต็มวัย
มันถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ทำตามคำสั่งเจ้าของเลือด
เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายเอเลนมันจะตรงเข้าบังคับการณ์แทนเจ้าของร่างตัวจริง
ทำตามที่ข้าเจ้าของเลือดต้องการทุกสิ่งอย่าง
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความคิดและสิ่งประดิษฐ์ของยัยวิปริตฮันซี่และมันปลอดภัยดีเพราะยัยฮันซี่ได้ทดลองกับออลโอ้ไปแล้วและเจ้านั้นยังมีสติและร่างกายครบถ้วนเช่นเดิมทุกประการ
อย่ามัวชักช้ารีบนำไปให้เอเลนซะ บนสวรรค์เยี่ยงนี้คงหาเลือดไม่ได้
ตอนนี้บุตรของข้าคงกระหายเลือดเต็มที
เอเลนไม่มีทางปฏิเสธต่อแรงกระหายนี้ได้แน่"
ทาสสาวอ้าปากค้างกำลังจะพูดต่อก็โดนสายตาดุร้ายจ้องมองบังคับกลายๆให้เริ่มปฏิบัติการเสียที
ดังนั้นร่างเล็กของแฟรี่จำแลงจึงได้แค่ทำตามคำสั่งบินไปสู่หน้าต่างทางปีกตะวันออกตามนายบัญชา
เสียงเคาะหน้าต่างทำให้เทวาร่างโปร่งบางหันไปมอง
เมื่อเห็นเเฟรี่ตัวน้อยที่คุ้นเคยเอเลนจึงเปิดบานหน้าต่างให้เเต่โดยดี
"เเฟรี่น้อยเจ้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน...เจ้าก็คงนอนไม่หลับเหมือนข้าสินะเเฟรี่น้อย?" ใบหน้าหวานส่งยิ้มพรายให้กับผู้มาเยือน
สองมือกุมที่ท้องของตน มือบางจับเสื้อของตนเเน่นจนยับ
เเม้จะเริ่มเข้าใจอะไรบ้างเเต่เขาก็คงยังไม่อาจยอมรับความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้
"ข้านำน้ำหวานมาให้ท่านเอเลน
มันน่าจะช่วยให้ท่านหลับสบายขึ้น" ขวดคริสตัลถูกส่งยื่นให้กับเทวาหนุ่ม
เอเลนมองของเหลวสีสดในขวด
สีเเดงสุกสกาวราวเปลวเพลิงนี่เป็นน้ำหวานจากที่ใดกัน?
"ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงเเละขอบใจสำหรับน้ำหวานของเจ้านะเเฟรี่น้อย"
"ท่านน่าจะลองเสียหน่อย นี่ก็ดึกมากเเล้วท่านควรพักผ่อนเพื่อรอรับรุ่งอรุณใหม่"
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองหยดน้ำหวานสีสดพลางถอนหายใจ
บางทีสิ่งนี้อาจช่วยให้เขาหลับง่ายขึ้นได้บ้างตามที่เเฟรี่น้อยกล่าว
เมื่อเปิดขวดคริสตัลกลิ่นหอมหวานราวกับน้ำผึ้งยามเช้าทำให้ลำคอถึงกับเเห้งผาก
ทั้งสีเเละกลิ่นที่หอมหวนยิ่งชวนให้รู้สึกใคร่อยากลิ้มลองอย่างน่าประหลาด
ริมฝีปากสีสดจึงค่อยๆลิ้มชิมรสชาติของน้ำหวานสีเพลิง
ร่างแกร่งที่เฝ้าคอยมองจากด้านนอกมองเห็นได้อย่างชัดเจน
กลิ่นคาวเลือดที่กลายเป็นของหอมหวานของเทวาหนุ่ม
น้ำสีแดงที่มองดูสุกสกาวเมื่อยามต้องแสงจันทร์ชวนเชิญให้ลิ้มลอง
มือขาวผ่องที่ยื่นผ่านมารับขวดคริสตัลจากแฟรี่น้อยยามเมื่อลมพัดผ่านยิ่งส่งสัมผัสกลิ่นกายชวนหลงใหลมาสู่จอมมาร
ยิ่งได้กลิ่นคุ้นเคยยิ่งกระสันอยากกอดกระหวัดโอบรัดในอ้อมแขน
ดวงตาคมกล้าหลับลงสดับฟังลมหายใจเข้าออกที่รุนแรงด้วยความตื่นเต้นในกลิ่นคาว
เสียงดื่มกลืนอย่างกระหายไม่หยุดหย่อนจวบจนกระทั่งหยดสุดท้าย...
ริมฝีปากบางเฉียบหยัดยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาคมโชนแสงกล้า
ปากหยักเอ่ยวาจาออกไป
“มาสิ
เอเลน มาหาข้าผู้เป็นสามีหนึ่งเดียวของเจ้าราชินีที่รักยิ่งของข้า” รีไวยืนรอเพียงไม่นานร่างบอบบางก็ก้าวย่างออกมาจากบานประตูราวกับถูกสะกด
มือบอบบางเอื้อมมาหามือแกร่งที่ยื่นไว้รออยู่ก่อนถูกกอบกุมไว้แน่น ออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างระหงก็แอบอิงเข้าสู่อ้อมแขนแข็งแรง
รีไวโอบกอดเอเลนอย่างถวิลหากดใบหน้าหวานให้ซบบนบ่าแกร่งอย่างแผ่วเบา
ก่อนกระซิบที่ริมใบหูบาง
“เอเลนข้ามารับเจ้าแล้ว
ไปอยู่กับข้านะ เราจะอยู่ร่วมกันราชาราชินีและบุตรผู้สืบทอด
จะเคียงคู่ด้วยรักไม่มีผู้ใดแยกเราได้” รีไวอุ้มเอเลนขึ้นแนบแผงอกกว้าง
ปีกทมิฬสยายออกกว้าง เอ่ยเรียกทาสสาว
“เพทร่าเจ้าตามกลับมาด้วย
ในเมื่อเอเลนอยู่กับข้าแล้วก็ไม่มีความจำเป็นใดที่ข้าต้องสนใจบนนี้อีก”
ความรู้สึกร้อนวูบวาบราวถูกไฟเเผดเผาทำให้สองมือบางโอบกระชับรอบตัวหวังป้องกันความร้อนที่ราวกับกำลังโหมกระหน่ำ
หยาดเหงื่อหลั่งรินไหลเป็นสาย ลมหายใจเริ่มกระชั้นถี่ติดขัด ทั้งอึดอัด รุ่มร้อน
จนหายใจไม่ออก
เอเลนพยายามสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด
นัยน์ตาสีมรกตลืมตาโพลงขึ้นก่อนจะพยายามยันกายลุกนั่ง
เเต่อ้อมเเขนเเข็งเเกร่งที่โอบกระชับ ทำให้ร่างโปร่งบางได้เเต่เพียงจมนิ่งอยู่กับเเผ่นอกเเกร่งตรงหน้า
"นี่มันอะไรกัน!?" เสียงหวานตะโกนลั่น
พลันสองเเขนดันเเผ่นอกกำยำให้ถอยห่าง
เมื่ออ้อมเเขนคลายลง
เทวาหนุ่มน้อยถึงได้เริ่มที่ขยับกายมองร่างกำยำที่บังอาจรุกล้ำตน
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง
พลางขนตามตัวลุกชัน นัยน์ตาคมกล้าสีโลหิต เเละเส้นผมสีรัตติกาล
ที่ล้อมรอบใบหน้าคมคาย บุคคลที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
นัยน์ตาสีมรกตเเข็งกร้าวสบมองนัยน์ตาสีโลหิตเบื้องหน้า
สองมือบางกอบกุมท้องของตนเเน่นก่อนจะจิกเข้าไปอย่างนึกรังเกียจ
คมฟันขาวขบกันจนขึ้นสันกราม เสียงหวานพยายามเอ่ยรอดไรฟัน
"มารร้ายน่ารังเกียจเช่นท่านมาทำอะไรที่นี่กันรีไว!?"
“หึ.....
ไงเด็กน้อยของข้า เจ้าอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป จงดูให้ดีว่านี้ที่ไหน
แต่ก่อนเจ้าจะทำเช่นนั้นซึ่งข้ารับรองว่ายังมีเวลาอีกเหลือเฟือให้เจ้าได้สำรวจวังของเรา
จงอยู่นิ่งๆเสีย เหลือปรสิตอยู่ในกายเจ้าเพียงสองสามตัวเท่านั้นก็จะออกหมดแล้ว
ฮันซี่กรีดเอาอีกสองตัวที่ขาออกมาได้เลย” กล่าวจบจับตรึงมือเทวาหนุ่มไว้แน่น
ขาแข็งแรงกดทับไปบนขาเรียวยาวของร่างบาง แสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนก้มใบหน้าลงไปใกล้
ริมฝีปากหยักแนบผิวคลอเคลียกับแก้มเนียนใสที่เจือรอยแดงน่าเอ็นดู
ลิ้นสองแฉกแลบเลียไปที่ใบหูกระซิบเสียงพร่า
“ข้าไม่ใจร้ายพอที่จะให้เจ้าสูญเสียความเป็นตนเองไปหรอก
เมื่อใดที่ฮันซี่กรีดเนื้อเจ้าดึงปรสิตพวกนี้ออกมาได้หมดเจ้าก็จะกลับเป็นปกติเอเลน
เมื่อนั้นเราจะได้มีความสุขกันไงดีไหมเล่า”
"ปรสิต..อ....!!!!"
ประโยคคำถามถูกกลืนหายเข้าลงคอ ริมฝีปากบางเม้มเเน่น
เมื่อคมมีดกรีดกรายลงบนผิวขาวผ่อง
กลิ่นหอมหวานของคาวเลือดที่ลอยมาเเตะจมูกทำให้รู้สึกกระหายจนเกือบลืมความเจ็บเมื่อหญิงสาวส่วมเเว่นหนาจัดการดึงสิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนขนาดใหญ่ออกมาจากรอยกรีด
คิ้วสีน้ำตาลขมวดมุ่น
ใบหน้ามนถึงกับซีดเซียวยามเมื่อเห็นปรสิตถูกดึงออกมาจากร่างกายของตน
มันจะมากเกินไปเเล้ว!!! มารสารเลวนี่เห็นเขาเป็นอะไรกัน คิดจะเล่นตลกกับร่างกายเขาไปถึงไหน!? นึกอยากจะเอาอะไรมาฝากฝังกับร่างกายของเขาเเบบนี้ก็ได้อย่างนั้นรึไง!!
ช่างน่าสะอิดสะเอียนนักทั้งมารร้ายทั้งมวล ทั้งร่างกายนี้!!
"มันจะมากเกินไปเเล้ว!"
คำรามเสียงสั่นรอดไรฟัน นัยน์ตาสีมรกตส่องประกายวาววาบอย่างขุ่นเคือง
"เสร็จแล้วหล่ะรีไว นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจเลยนะเนี่ย
งานวิจัยที่สำเร็จและยังผลให้ปฏิบัติการพาเมรียกลับรังราบรื่นไปได้ด้วยดีขนาดนี้
คิๆ" ฮันซี่พูดจาหน้าระรื่นไม่ได้สนสถานการณ์คุกรุ่นในขณะนี้แม้แต่น้อย
จนกระทั่งเพทร่าที่ยืนช่วยเก็บของอยู่ใกล้ๆต้องรีบลากผู้เป็นนายอีกตนหนึ่งออกไป
ก่อนที่จอมมารจะเลิกสนใจเทวาหนุ่มแล้วหันมาฆ่าเพื่อนตนเองแทน
"ทีนี้ก็ไร้มารผจญแล้วเอเลนของข้า มาเข้าเรื่องของเราเสีย
ที่เจ้ากล่าวหาข้าว่าทำมากเกินไปนั้นไม่ถูกต้อง เจ้าจะว่าข้าทำเกินไปไม่ได้
เป็นเรื่องสามัญของโลกนี้ที่คนรักกันต้องอยู่ด้วยกัน
ยิ่งเจ้ามีครรภ์อยู่เยี่ยงนี้ข้าจะปล่อยเจ้าให้พ้นสายตาข้าไปได้ยังไง"
จอมมารกล่าวเรียบนิ่งนัยน์ตาแดงฉานมองสบเข้าไปหวังแสดงความรู้สึกให้เจ้าของตาคู่งามเบื้องหน้าเข้าใจ
เเผลจากการกรีดค่อยๆสมานคืนตัวด้วยพลังฟื้นฟูร่างกายของเทวาหนุ่ม ใบหน้าหวานหลบสายตานิ่งงันที่จ้องมองมาพลางหัวเราะขันในลำคอ
"หึ คนรักกันงั้นรึ
ข้าจำไม่เห็นได้ว่ามีเรื่องเช่นนั้นกับท่าน"
นัยน์ตาสีมรกตดื้อดึงตวัดมองหน้าพญามาร
สองมือบางจิกทึ้งที่หน้าท้องของตน
"ไหนๆเเล้วท่านให้ท่านฮันซี่จัดการดึงผลเเห่งความโสมมในกายข้าออกไปเช่นเดียวกับปรสิตเหล่านั้นเลยสิ!!
เรื่องของข้ากับท่านจะได้สิ้นสุดเสียที
เเละข้าจะได้กลับไปยังที่ของข้าซึ่งมหาเทพเอลวินรออยู่"
"หึๆ...ผลแห่งความโสมมงั้นหรือ?... ข้าว่าไม่นะตอนข้าสมสู่เสพสันต์ร่วมกับเจ้า
เจ้าก็ดูมีความสุขดีนี่เอเลน ไม่เห็นเจ้าจะรังเกียจเดียดฉันท์รสกามในครานั้น
แล้วเช่นนี้เจ้าจะปฎิเสธบุตรของเราไปใย ส่วนเรื่องกลับไปหาเจ้างั่งนั้น...."
นัยน์ตาแดงฉานปิดลงชั่วครู่เพื่อระงับโทสะ
ก่อนหมดความอดทนเมื่อมือบางยังคงจิกทำร้ายครรภ์ตนเอง
มือแกร่งรวบจับข้อมือน้อยทั้งสองขึ้นก่อนกระแทกลงอย่างแรง
กรงเล็บทมิฬอีกข้างตรงเข้ากอบกุมลำคอขาวผ่องแน่น
เส้นเอ็นขึ้นปูดโปนไปทั้งมืออันสั่นเกร็งจากการพยายามยั้งแรงบีบไม่ให้มากเกิน
กรงเล็บที่กางทับรอบลำคอระหงแทงเข้าสู้เนื้อในของที่นอนจนขนปีกสีดำทะลักกระจายปลิวไปทั่ว
ร่างแกร่งถอนหายใจออกช้าๆ ก้มลงกระซิบใกล้ใบหน้ามน
ด้วยเสียงนุ่มนวลผิดกับแววตาเย็นเยือกเหี้ยมเกรียมที่จ้องมองลงไปยังดวงตามรกตเบื้องล่าง
"เอเลน เจ้าเป็นของข้าแล้ว จงสำเหนียกไว้
ข้าคือผู้ครอบครองเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
ต่อให้เจ้าจะอยากจะร่านเพียงใดก็มีแต่ข้าเท่านั้นที่มีสิทธิเหนือกายเจ้า
อย่าได้คิดตีจากข้า เพราะต่อให้พระเจ้าก็ขวางข้าไม่ได้
เจ้าจักต้องอยู่กับข้าตราบชั่วกัลปาวสานเมื่อถึงตอนนั้นต่อให้ข้าต้องแย่งชิงเจ้ามาเป็นเพียงเศษเนื้อข้าก็จะทำ
ทุกๆสิ่งของเจ้าแม้กระทั่งขนปีกเพียงหนึ่งขนคือของข้า
ของข้าคนเดียวและตลอดไป"
ใบหน้าหวานมองอีกคนอย่างเเข็งกร้าว
ฟันขาวขบเสียดสีกันจนดังกรอด
"ข้ามิใช่ของท่านรีไว
ถ้ารู้ว่ามารสกปรกเยี่ยงท่านจะทำการฝังสิ่งเเปลกประหลาดในกายข้าเช่นนี้ข้าคงไม่มีวันยอม!!!"
นัยน์ตามรกตหรี่ลงต่ำ
พลางยกยิ้มมุมปากอย่างนึกเเคลน
"หึ การเสพย์สังวาสนั่นทั้งข้าเเละท่านก็เเค่สุขสมกันทั้งสองฝ่ายหาได้มีความรู้สึกอื่นใดไม่ใช่รึไง"
ใบหน้าหวานเบนหลบสายตามารร้ายตรงหน้าด้วยไม่อยากให้เห็นเเววตาที่สั่นระริกของตน คำพูดเเละการกระทำของมารร้ายที่ได้เเต่โป้ปดหลอกลวงหาความเชื่อถือไม่ได้
ข้าจะไม่ยอมหลงกลคนเช่นนี้เด็ดขาด
ใบหน้าคมถอยห่างออกก่อนก้มลงเล็กน้อย
เงาดำที่ปิดบังใบหน้าทำให้ไม่อาจรับรู้อารมณ์ของเจ้าของ ก่อนกล่าว
"อ่า.....ใช่มันคงเป็นแค่ความสุขสมเพียงชั่วครู่สำหรับเจ้าสินะ
แต่สำหรับข้า.." มือแกร่งเพิ่มแรงบีบรอบลำคองามมากขึ้นกรงเล็บเริ่มจิกลึกเข้าเนื้อเนียนจนเลือดซึม
ก่อนคลายออกในฉับพลัน
"เอเลนจงฟังข้า
สำหรับข้าถ้าเจ้าเป็นเพียงแค่ของเล่น แค่เครื่องผ่อนคลายกำหนัดจริง
ตอนนี้ลำคอเจ้าคงแหลกเป็นธุลีไปแล้ว แต่เพราะเจ้าไม่ใช่แค่นั้น
เจ้ามีความหมายมากมายต่อข้านัก ทั้งในอดีต ปัจจุบัน หรือกาลหน้าเจ้าไม่เคยลบเลือนไปจากข้า
ข้ามีเจ้าอยู่ในทุกห้วงคำนึง ยิ่งนานยิ่งฝังรากลึก ยิ่งนานยิ่งเพิ่มพูน"
เอเลนชะงักกับคำหวานหูของซาตานหนุ่ม
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ก่อนจะพยายามเบนหลบเเละสะบัดไปมา
ข้าจะหวั่นไหวต่อการล่อลวงนี้ไม่ได้....
มือบางจับรอบลำคอขาวของตนที่มีหยาดโลหิตซึม
ก่อนจะเลื่อนกอบกุมครรภ์ของตน
"ถ้างั้นก็พิสูจน์สิท่านรีไว"
ใบหน้ามนเงยมองใบหน้าคมคายเบื้องหน้าด้วยนัยน์ตาที่สั่นระริก
"พิสูจน์สิ่งที่ท่านกล่าวว่าไม่ใช่เรื่องลวงหลอกโป้ปด"
"เจ้าจงบอกข้ามาเอเลน เจ้าปราถนาสิ่งใด
เจ้าต้องการข้อพิสูจน์เยี่ยงไร ข้าต้องทำเช่นใดเจ้าถึงจะเป็นของข้าทั้งกายและใจ
ทำแค่ไหนเจ้าถึงจะยอมรับข้าและบุตรแห่งเรา"
มือแกร่งไล้ใบหน้าหวานแผ่วเบาเชยคางมนขึ้นจ้องมองไปในดวงตามรกตอย่างแน่วแน่
คมตาที่จ้องมาทำให้ร่างกายรู้สึกร้อนผ่าว
อกซ้ายสั่นไหวอย่างน่าประหลาด นัยน์ตาสีมรกตเบนหลบสายตา
อยู่กับมารร้ายนานไปยิ่งทำให้ข้ารู้สึกผิดเพี้ยนนัก..
ริมฝีปากบางสั่นระริกก่อนเอ่ยวาจา
"นำผลเเห่งความผิดพลาดนี้ออกจากตัวข้า
เเละปล่อยข้ากลับไปยังสรวงสวรรค์
ป่านนี้มหาเทพเอลวินคงเป็นกังวลเเละตามหาข้าเสียวุ่น"
ร่างกำยำถอยห่างจากร่างบางเล็กน้อย
มือใหญ่กอบกุมมือสวยขึ้นจรดแนบริมฝีปากบางเฉียบที่ขยับพรมจูบไปทั่วนิ้วเรียว
ก่อนช้อนสายตาคมกล้าขึ้นมองใบหน้ามนของคนรัก
"เอเลน....เจ้าปรารถนาสิ่งใดข้าย่อมมอบให้ได้
แต่ทำไมความต้องการของเจ้าถึงทำร้ายข้าได้ตลอดถึงเพียงนี้ ปรารถนาหนึ่งเดียวของเจ้าคือการปฏิเสธและตีจากข้าไปเท่านั้นหรือ? เจ้ามองบุตรของเราเป็นผลแห่งความผิดพลาดแค่นี้ข้าก็เจ็บเจียนคลั่ง
แล้วยังไม่พอเจ้ายังย่ำยีหัวใจข้าด้วยการกลับไปหาไอ้งั่งหน้าโง่เอลวินอีก....ทำไมเพื่ออะไรกัน!!!
เจ้าจะฆ่าข้าให้ตายทั้งเป็นหรือไร??"
เสียงที่เรียบนิ่งมาตลอดเริ่มสั่นไหวในช่วงท้าย
มือแกร่งบีบข้อมือบางแรงขึ้นด้วยอารมณ์เจ็บปวดและเคียดแค้น
คำพูดราวอ้อนวอนของซาตานทำให้เทวาหนุ่มหวั่นไหว
อกซ้ายรู้สึกเจ็บเเปลบกับประกายตาคมกล้าที่ส่งมาราวกับร้องขอ
สัมผัสของริมฝีปากบางที่พรมจูบลงบนนิ้วรู้สึกอบอุ่นอย่าน่าประหลาด ริมฝีปากสีระเรื่อสั่นเครือ
เเววตาฉายความกังวลเเละสับสน
ไม่เห็นเข้าใจเลย ท่านต้องการอะไรกันเเน่
ต้องการข้าจริงๆงั้นเหรอ!? เเล้วข้าจะเชื่อท่านได้
จะเชื่อผู้ที่เป็นเจ้าเเห่งการโป้ปดนี้ได้งั้นหรือ!! ไม่เข้าใจเลยสักนิด!!!
"บอกข้าทีสิท่านรีไว"
นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆหันสบมองเเววตาของมารร้ายอีกครั้ง
ตากลมโตของเทวาสั่นระริกราวกับมีน้ำอุ่นเออคลอ
"ข้าควรทำอย่างไร? ท่านต้องการให้ข้าทำอย่างไรกันเเน่!? ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย เเละร่างกายข้าที่ผิดเพี้ยนไปเพราะท่านข้าต้องทำอย่างไรกัน
บอกข้าทีสิ!?"
“จากความผิดพลาด หรือแผนการล่อลวงใดๆ
ทั้งหมดที่ข้าได้พูดไปคือความจริงที่ว่าข้ารักเจ้า
ยามจากมาข้าคิดเพียงไม่ต้องการดึงเจ้าลงต่ำ
แต่ข้าทนไม่ได้ข้าไม่ใช่เทวาที่จะไร้รักไร้รู้สึก ทุกการดำรงอยู่ของข้านั้นเจ็บปวดทรมานยามไร้เจ้าเคียงกายเช่นเดิม
ข้ากลับคอยติดตามเจ้าส่งสายไปในสวรรค์เพื่อดูทุกอิริยาบถของเจ้า
ทุกการกระทำของเจ้าถูกส่งต่อบอกกล่าวให้ข้ารับรู้เหมือนเช่นในอดีตที่ข้าได้ครอบครองสิทธิ์ในการดูแลเจ้า
ใช่ข้าอาจดูเลวร้ายกระทำสิ่งใดไม่คิดถึงใจเจ้า
แต่ยิ่งข้าพยายามไกลจากเจ้าเพียงใดความเป็นเทพในตัวข้ากลับยิ่งน้อยลง
ข้าในตอนนี้เป็นซาตานเต็มตัว เป็นมารชั่วร้ายที่ไม่ขอยึดติดกับกฎใดๆ
ไม่นึกถึงใครยกเว้นเจ้า ขอเพียงแค่มีเจ้ากับข้าเท่านั้นเอเลน
ข้าพร้อมทำทุกทางไม่ว่าจะเป็นสรรค์สร้างหรือทำลายให้พินาศ"
ตาคมโชติช่วงจ้องลึกสบต่อนัยน์ตามรกตอย่างลึกล้ำ
มือแกร่งจับกระชับข้อมือน้อยไว้มั่นกล่าวเสียงนิ่งเนิบช้าเพื่อให้ทุกคำเข้าสู่หัวใจของผู้เป็นที่รักเบื้องหน้า
สองมือบางกุมหน้าท้องของตนที่เริ่มนูนออกมา
ความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาด ทั้งสับสน กังวล ขุ่นเคืองกับสิ่งที่อยู่ภายใน
แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้แต่ไม่คิดอยากจะยอมรับ
นั้นคือแม้จะรู้สึกแย่กับความแปลกของร่างกายแต่กลับไม่รู้สึกรังเกียจ
บางทีถ้าเขาลองใช้เวลาอยู่กับมารร้ายตรงหน้าเฉกเช่นเดียวกับอดีตที่ผ่านมา
อาจจะทำให้ความรู้สึกที่เป็นอยู่นี้กระจ่างขึ้นบ้าง
และรู้ว่าควรทำอย่างไรและเลือกอย่างไร
"ก้ได้ท่านรีไว ข้าจะยอมอยู่กับท่านที่นี่สักระยะ
จนกว่าร่างกายของข้าจะกลับเป็นปกติ"
ใบหน้ามนหวานก้มลงต่ำอย่างครุ่นคิด
ก่อนนัยน์ตาสีมรกตจะขึ้นสบกับใบหน้าคมคายอีกครั้งราวกับนึกสิ่งใดออก
"แต่ท่านต้องแจ้งทางมหาเทพเอลวินว่าข้าอยู่กับท่านจนกว่าร่างกายข้าจะปกติ
มิเช่นนั้้นมหาเทพคงส่งคนออกตามหาตัวข้า และที่แรกที่เขาจะตามมาคือที่นี่อย่างแน่นอน"
"ไม่ต้องห่วงข้อนั้นเอเลนของข้า
หากเจ้างั่งนั้นมาให้เกียรติมาถึงเมืองมารแห่งนี้จริง
ยอมเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วที่จะเตรียมการต้อนรับมันอย่างสมศักดิ์ศรีเลยทีเดียว
ยังไงข้าก็ไม่มีวันยอมให้มันพรากเจ้าไปจากข้า เว้นก็แต่มันเป็นความประสงค์ของเจ้า
หากสุดท้ายเจ้าปราถนาที่จะตีจากข้าและทอดทิ้งบุตรแห่งเราข้าคงทำได้แค่ทรมานอยู่เพียงลำพัง"
ดวงตาคมกล้ามองสบไปนัยน์ตามรกตด้วยสายตาเว้าวอน เสียงกระด้างในช่วงแรกของประโยคค่อยๆเบาลงจนแทบจางหายจากความเจ็บปวดยามเมื่อคำนึงถึงเวลาที่เอเลนอาจตีจาก
ร่างโปร่งถอนหายใจ
ก่อนมือบางจะดันใบหน้าคมคายให้ออกห่าง
"ถ้าท่านเห็นเเก่ข้า อย่าทำให้เรื่องนี้วุ่นวาย
เเจ้งท่านเอลวินซะ ผู้ที่จะเป็นห่วงข้าจนเเทบพลิกผืนพิภพคงมีมิคาสะด้วยเเน่เเท้
เเละข้าไม่ได้อยากให้เรื่องของร่างกายที่เเปลกไปนี้ถึงหูใครอื่น
เพราะยังไงข้าก็เป็นบุรุษ หวังว่าท่านจะเข้าใจ.....ท่านรีไว"
"ไม่ต้องลำบากให้ผู้ร่วงลงจากฟ้าไปเเจ้งข้าหรอก"
เสียงทุ้มคุ้นเคยดังก้องในห้องนอนของพญามาร
นัยน์ตาสีมรกตสบมองกับต้นเสียง ดวงเนตรสีฟ้าฉายเเววไม่พอใจเด่นชัด
"ท่านเอลวิน!"
เจ้าคิดว่าเมื่อย่างกรายไปบนสวรรค์จะหลบสายตาข้าพ้นงั้นรึรีไว
ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายตาข้า เจ้าเองน่าจะรู้ดี"
นัยน์ตาสีท้องฟ้าชำเลืองมองมารร้ายก่อนจะย่างกายเข้าหาร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนเตียง
"ท่านมาได้อย่างไรกัน?" เสียงใสเอ่ยถามอยากเเปลกใจ
ใบหน้าใจดียิ้มอ่อนโยนให้เทวาหนุ่มก่อนจะดึงร่างบางให้ลุกขึ้นเข้ามาในอ้อมกอดของตน
"ข้าจะดูเเลเเละจัดการเรื่องเอเลนเอง
ไม่จำเป็นต้องลำบากท่านหรอกซาตาน
ในเมื่อตอนนี้ธุระของเจ้าทั้งสองคงจบลงเเล้วข้าจะขอเอาตัวเอเลนกลับ"
"ปล่อยตัวเมียข้าเจ้างั่ง อย่าแส่ไม่เข้าเรื่อง "
น้ำเสียงเฉยชาเอ่ยออกไปพร้อมๆกับที่ปลายหอกทมิฬแทงทะลุบ่าของมหาเทพอย่างรวดเร็ว
ไร้เสียง ไร้สัญญาณเตือน
ร่างแกร่งประคองเอวบางของเทวาผู้เป็นที่รักมาโอบรัดไว้อย่างหวงแหน
ดวงตาแดงฉานเปนประกายกล้า
"ใครเป็นเมียท่านกัน!!" เอเลนผลักอกแกร่งของมารร้ายออก
ใบหน้าหวานขึ้นสี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธหรืออายกันแน่
ร่างโปร่งบางวิ่งเข้าหามหาเทพหนุ่ม
สีหน้าฉายแววความเป็นห่วงต่อบาดแผลที่มหาเทพเอลวินได้รับ มือใหญ่ของมหาเทพวางลงบนผมสีน้ำตาลพลางส่ายหน้าช้าๆเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร
นัยน์ตาสีท้องฟ้าเหลือบมองซาตานพลางยิ้มเย้ยหยัน
แค่นี้ก็เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าเทวาหนุ่มเลือกผู้ใดมากกว่ากัน
"อ่าาาา ตายหล่ะนี่ข้ามาขัดจังหวะครอบครัวสุขสันต์ของเจ้ารึปล่าวเอเลน!!!"
มือขวาสติเฟื่องของจอมมาร กล่าวทะลุกลางรังสีฆ่าฟันโดยไม่สนใจบรรยากาศใดๆ ฮันซี่เดินทอดน่องสบายใจมาหาเอเลนก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงบรรเทิงใจเป็นหนักหนา
"แต่เอ....ไม่น่าจะใช่นะ
เท่าที่ดูคุณผมวิกนี้คงจะเป็นพ่อตาเธอสินะเอเลน
หว่าๆแบบนี้ดูท่าไม่ดีแน่นายท่านรีไว
ลูกท่านอาจจะต้องใส่วิกตั้งแต่ยังเด็กตามกรรมพันธุ์ป๊ะป๋าของเอเลนก็ได้"
กล่าวต่อก่อนจูงมือเอเลนมาจากเอลวินช้าๆ ให้มายืนเคียงข้างนายของตนที่รีบกอดกระชับเอวบางของเมียรักแนบกายทันที
จากนั้นถอยห่างออกมาเล็กน้อยกอดอกทำหน้าครุ่นคิดเกินกว่าเหตุพร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบคาง
"ถ้าลำพังตัวพ่อแท้ๆอย่างนายท่านกับคุณแม่คนงามอย่างเอเลน
บุตรคงออกมาหน้าตางดงามน่าดูชม แต่พอเห็นพ่อตาแบบนี้..."
กล่าวพร้อมชำเลืองมองไปทางมหาเทพด้วยการเหยียดยิ้มมุมปากเล็กๆ
ต่อด้วยทอดถอนใจหนักหน่วงพูดจาต่อหน้าเอลวินที่ยืนนิ่งอย่างสงบสติอารมณ์โดยตรง
"ถ้าข้าเป็นท่าน
ข้าคงจะไปเสียให้พ้น ไม่มานั่งทำตัวบาปหนาพยายามแยกผัวแยกเมียพรากลูกผู้อื่นแบบนี้
คนรักกันจะสมสู่ร่วมรักกันเยี่ยงใดย่อมเป็นสิทธิ์ของพวกเค้า หาใช่พ่อตาแบบท่านไม่
แค่นายข้าต้องมาปวดหัวเพราะเกรงว่าบุตรจะอาภัพผมเยี่ยงท่านก็หนักหนาพอแล้ว
ฮิๆ"
"ปากคอเจ้านี่คงได้มาจากนายไม่ผิดเเน่ฮันซี่ จะว่าไปมิเกะก็ฝากความคิดถึงมาหาเจ้าเช่นกัน
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มาเจอเจ้าด้วยตนเอง
มิเกะคงดีใจที่เห็นว่าเจ้าสบายดีเเละยังหาเรื่องกวนประสาทเช่นเดิม"
มหาเทพเอลวินถอนหายใจ ก่อนจะชำเลืองมอง
"ข้าไม่คิดจะพรากคนรักออกจากกันหรอกนะ
เพียงเเต่ดูเหมือนเด็กน้อยของข้าจะไม่ได้คิดเช่นดังที่พวกเจ้ายัดเยียดให้"
ใบหน้าใจดียิ้มบางก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะมองอย่างดูเเคลนใส่มารร้าย
"เจ้ามาตอนนี้ก็ดีฮันซี่
ข้าอยากรู้ว่าบุตรของเอเลนจะกำเนิดเมื่อใด? เท่าที่ข้ารู้มาจากการคาดเดาของมิเกะ
เอเลนที่อุ้มท้องความวิปลาสของพวกเจ้าอยู่ในวิกฤตที่อันตรายถึงชีวิต" มหาเทพเหยียดยิ้มเย้ยหยันต่อจอมมาร
"บอกข้าทีสิรีไวทำไมความรักที่เจ้าพร่ำพรรณาถึงได้เห็นเเก่ตัว
น่าดูเเคลน เเละน่าดูถูกเยี่ยงนี้
อ้างว่ารักเทวาน้อยของข้าเเต่สิ่งที่เจ้าฝากไว้มันกำลังทำลายคนที่เจ้าพร่ำว่ารักหนักหนา
เห็นทีข้าจะมองว่าเจ้าอยากได้พลังของเทวาในตัวเอเลนผสมกับพลังมารร้ายของเจ้าเพื่อก่อเกิดขุมพลังใหม่ให้เเก่เจ้ามากกว่าสินะ"
คำกล่าวของมหาเทพทำให้ร่างบางถึงกับตื่นตระหนก
เหงื่อเย็นไหลซึมกาย
นอกจากการอุ้มท้องที่ผิดเเปลกนี้ตัวเขาเองก็จะสลายไปเมื่อเมล็ดพันธุ์เเห่งหายนะนี้ถือกำเนิดงั้นสิ!!
ใบหน้ากลมมนตวัดมองหน้ามารร้ายที่บัดนี้เบนหลบสายตาจากเขา
ในอกซ้ายยิ่งบีบรัด
ทั้งที่คิดว่าจะยอมเชื่อเเต่ผลสุดท้ายมารร้ายก็ดีเเต่หลอกลวงเท่านั้นสินะ.........
"เจ้านี่สันดารไม่เปลี่ยนเลยนะเอลวิน... ใช้คำพูดบงการผู้อื่น เหมือนชี้นำทางสว่างแต่แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงการจูงใจหลอกล่อเพื่อควบคุมให้ผู้อื่นคล้อยตาม
ช่างเป็นแมงมุมชราที่ชักใยได้น่ารังเกียจเสียจริง
สำหรับในเรื่องของบุตร...แน่นอนบิดาย่อมรักบุตรที่เกิดกับคนที่ตนรัก
ข้าหวังเพียงแค่ต้องการสร้างครอบครัวและข้าก็ยอมรับด้วยว่าอีกประการก็เพื่อผูกมัดเอเลนไว้ตลอดไปข้าทำมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่มาเพื่อกล่าวคำขอโทษหรือยอมจำนนหรือมาหลอกลวงแต่ประการใด
ข้าทำเพื่อให้รู้ว่าข้าพร้อมแล้วสำหรับทุกสิ่งขอเพียงเพื่อให้ได้รักคืนมา
เพื่อทวงคืนเอเลนมาสู่ข้า... แต่หากข้าต้องเลือกอย่างที่ได้ตกลงกับฮันซี่ไว้แล้ว
ถึงต้องฉีกทึ้งเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองเพื่อเอเลนข้าก็จะทำ
ข้าอยู่ไม่ได้หากขาดเจ้าเอเลน....ข้าทรมานและทนทุกข์มาแสนนานจากความโง่งมของตนเองที่เชื่อเพื่อนสนิทข้างกายอย่างเจ้าเอลวิน!!!
เชื่อคำลวงของเจ้าที่ทำเหมือนชี้นำข้า ให้ข้าทิ้งเอเลนไปเพื่อตัวเอเลนเอง
ให้ข้าทอดทิ้งรักเดียวของข้าเพื่อความถูกต้อง!!
พอกันทีต่อแต่นี้ไปเอเลนเจ้าจงฟังข้า ข้าขอสัญญามันจะไม่มีวันที่ข้าจะโง่ซ่ำสอง
ไม่มีอีกแล้วที่ข้าจะทอดทิ้งเจ้าไว้เดียวดาย ได้โปรดให้โอกาสข้า
มอบรักและจิตวิญญาณให้ข้าได้ดูแลอีกครั้ง"
จอมซาตานกุมมือน้อยทั้งสองไว้มั่นแนบอกซ้ายที่เต้นระรัวของตน
มือหนึ่งเชยคางมนขึ้นประสานสายตาคมจ้องลึกตรึงลงไปในดวงเนตรงามลึกซึ้ง
ทุกคำพูดเอ่ยชัดให้ซึมเข้าถึงหัวใจของเทวาผู้เป็นที่รักเบื้องหน้า
มือบางกำเเน่น
ทั้งสับสนเเละไม่เข้าใจว่าสิ่งใดจริงเเท้กันเเน่?
มหาเทพถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างระอา
"ผิดเเล้วรีไว
ข้าเพียงบอกว่าความรักคือตัณหาเจ้าควรตัดใจเสีย
เเต่ผู้ที่เลือกทางเดินนี้ก็คือเจ้าเองรีไว
เด็กน้อยที่ตอนนั้นเจ้าทอดทิ้งข้าเองก็เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ ดูเอาเถอะมารร้าย
ข้ามิเคยล่อหลอกผู้ใด เพียงเเค่ชี้เเนะเท่านั้น"
คำกล่าวของมหาเทพที่เคารพเเม้จะน่าเชื่อถือเเต่เอเลนกลับรู้สึกเกิดตะกอนในใจ
ราวกับว่าตัวเขาเป็นเบี้ยที่ถูกวางบนกระดาน
โดนชักนำจากบุคคลที่ครั้งนึงเคารพยิ่งกว่าสิ่งใด
เเละอีกหนึ่งที่เลี้ยงดูมาจนเชื่อมากกว่าใคร
เเต่บัดนี้ราวกับเเท้จริงเเล้วเขาเป็นเบี้ยที่โดนบังคับให้เดิน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ข้าจะเลือกหนทางของตนเอง!!
มือบางละออกจากมือเเกร่งที่กุม
ใบหน้าหวานหันมองไปยังหญิงสาวสวมเเว่นหนา
"คุณฮันซี่บอกข้าทีว่าเด็กตนนี้จะกำเนิดเมื่อไรเเละจะเกิดอะไรขึ้นกับข้า?"
"หืมม์....ดีใจจังที่เอเลนถามคำถามนี้ออกมา
เอาหล่ะตามที่ข้ากับสามีเจ้าคิดกันไว้ ก่อน...เอิ่ม...ก่อนที่จะมีพ่อตาแก่ๆ
เอ....หรือสมภารวิกกินไก่วัดนี้มาขัดหรือก่อนที่หมอจมูกหมาจะมาลงความเห็นมั่วๆมากกว่านี้
ทางเราได้วางแผนชิงตัวเอเลนมาก็เพื่อดูแลเจ้าและบุตรอย่างใกล้ชิด
สามีของเจ้าพร้อมที่จะดูแลเจ้าได้ตลอดเวลา ส่วนครรภ์เจ้าอีกไม่น่าจะเกินสามสิบทิวานี้จะครบกำหนดแน่นอน
และทางเดียวที่จะไม่ให้ทารกฉีกครรภ์เจ้าออกมาได้คือเจ้าต้องแข็งแกร่งมากพอและสามารถเลี้ยงดูตัวอ่อนได้อย่างสมบูรณ์ภายในครรภ์ของเจ้าซึ่งทางเดียวที่จะเติมเต็มได้คือโลหิต
การดื่มโลหิตสดๆซึ่งแน่นอนบนปุยเมฆนุ่มๆเหมือนสมองของพวกปีกขาวข้างบนนั้นหาให้เจ้าดื่มไม่ได้แน่
ยิ่งโดยเฉพาะโลหิตที่แข็งแกร่งพอจะเป็นขุมกำลังให้แก่ครรภ์เจ้าได้อย่าง....โลหิตแห่งซาตาน
ซึ่งแน่นอนถึงเจ้าไม่ต้องการแต่เชื่อข้าเถอะสามีเจ้าคงจับกรอกปากเจ้าด้วยความยินดีได้ทุกเวลาตามแต่ความอยากของเจ้า
หรือถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ข้ารับรอง...
สามีของเจ้าจะตัดผ่านครรภ์เข้าไปด้วยความเร็ว คมแต่บางเฉียบเพื่อทำลายตัวอ่อนก่อน
จากนั้นทั้งข้าและสามีเจ้าจะเอาตัวอ่อนออกทันที และข้าจะรีบปิดบาดแผลทันที
แม้แต่รอยแผลก็จะผสานกันอย่างรวดเร็วโดยฝีมือข้า
โปรดเชื่อใจข้าเอเลนน้อย...ฮะแฮ่ม!!! สูติแพทย์ผู้นี้จะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง
เพราะชีวิตของข้าก็ฝากไว้กับเจ้าเช่นกัน หากงานนี้ข้าพลาดข้าก็ไม่เหลือซากเช่นกัน
ดังนั้นข้าขอสัญญาด้วยชีวิตของข้าเลยแล้วกัน"
ฮันซี่ยื่นนิ้วก้อยของตนเข้าเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเอเลน
ดวงตาวิบวับเป็นประกายภายใต้กรอบแว่นหนาขยิบเล็กน้อยให้กับเอเลนก่อนพยักหน้าให้แก่กัน
"ข้าเข้าใจเเล้ว"
เอเลนหันสบมองหน้าซาตานชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะอยู่กับท่านฮันซี่จนกว่าบุตรจะกำเนิด
เเละระหว่างนั้นข้าขอให้ท่านเอลวินอยู่ด้วย" เอเลนมองยังบุรุษทั้งสองพลางขอร้อง
"เเละหลังจากนั้นข้าจะขอคิดอีกทีว่าจะทำอย่างไร
เเละถ้าท่านทั้งสองยังคิดล่อหลอกข้าถึงครานั้นทั้งบุตรเเละตัวข้า
ข้าจะเป็นผู้จัดการเอง"
มือบางขยับไหวปรากฎหอกเเสงสว่างในมือ
นัยน์ตาดื้อรั้นวาวโรจน์อย่างมุ่งมั่นต่อการตัดสินใจของตน
นัยน์ตาคมลุกโชติแต่ก่อนที่จะได้โต้แย้งไปมากกว่านี้จอมมารกลับถูกร่างของมือขวาคนสนิทบังไว้ก่อนเอ่ยขัดขึ้น
"เป็นอันตกลงตามนี้ก็ได้เอเลนที่รัก!! ตอนนี้เพื่อสภาพอารมณ์ของตัวคุณแม่
และเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์เราจะยึดความต้องการของเอเลนเป็นสำคัญ
จริงไหมคุณพ่อของเด็ก อ๋อแล้วก็....เอิ่มคุณคนข้างบ้านจอมเสนอหน้า"
ฮันซี่หันไปกล่าวเชิงถามนายของตนก่อนปรายตาไปทางมหาเทพ
"ชิ!!
ได้ถ้าเอเลนต้องการก็ตามนั้น"จอมซาตานตอบกลับพร้อมกอดอกจ้องมองไปที่เอเลน
ใบหน้าหวานยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นใบหน้าเฉยชานั้นจำใจยอมตามข้อตกลง
"เพื่อความปลอดภัยของร่างกายข้า" เอเลนเอียงคอใช้ความคิดชั่วครู่
"ข้าควรพักอยู่กับท่านฮันซี่เพื่อคอยสังเกตการเปลี่ยนเเปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด"
มหาเทพครุ่นคิดตามที่เทวาหนุ่มน้อยเสนอก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
"เช่นนั้นน่าจะดีกับตัวเจ้า
ให้อยู่ในสายตาของคนที่ก่อเหตุอาจทำให้ปลอดภัยกว่า" นัยน์ตาสีท้องฟ้าปรายสายตาราวกับตำหนิจอมวายร้ายต้นเหตุทั้งสอง
"น่ารำคาญคนนอกเช่นเจ้าพล่ามมากมายเยี่ยงนี้"
จอมมารจ้องตรงไปทางมหาเทพ ก่อนคลายมือที่กอดอกไว้
หยัดกายตรงจากท่ายืนพิงก้าวเดินมาหยุดหน้าเทวาร่างสูง
"พล่ามจบเสียที แต่ถ้าจะให้ดีไสหัวไปเลยก็ดีนะเจ้างั่ง"
ไม่รอคำพูดตอบกลับ
ร่างแกร่งก้าวเดินผ่านไปหาเทวาอันเป็นที่รัก
ช้อนตัวเอเลนอุ้มขึ้นแนบอกพาเดินออกไปหน้าตาเฉย
กล่าวทิ้งท้ายไม่สนใจสีหน้าอึ้งของผู้ใดหรือสีหน้าตกใจปนเขินอายของเอเลนแม้แต่น้อย
"ข้าจะพาเมียข้าไปดูห้อง
ฮันซี่เจ้าตามข้ามา ส่วนใครที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าสะเออะ"
เอลวินยักไหล่ ก่อนจะก้าวเดินตาม ไม่สนใจคำติเตียนของจอมซาตานที่ทำตัวราวจงอางหวงไข่
"จะว่าข้าไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไร
ในเมื่อเอเลนก็เหมือนบุตรชายข้า นั่นก็หลานข้าล่ะนะ"
นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองใบหน้าไม่สบอารมณ์ของมารร้ายพลางหัวเราะน้อยๆ
"มีท่านเอลวินอยู่ด้วยทำให้ข้าอุ่นใจมากกว่า"
เอเลนว่าพลางเอี้ยวตัวออกจากอ้อมอกเเกร่งไปคว้าเเขนกำยำของมหาเทพ
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อเหลือบมองใบหน้ารำคาญใจของมารร้าย
จะให้บอกได้ไงกันว่าเวลาอยู่กับซาตานเอาเเต่ใจนั่นใจเขาสงบไม่ลงเเม้เเต่น้อย
ทั้งโกรธกับสิ่งที่เกิดทั้งหวาดหวั่นกับการเปลี่ยนเเปลงของร่างกาย
เเต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าคำพูดหวานหูที่พญามารพร่ำบอกทำเขาโอนอ่อนเพียงใด
อยากเชื่อเต็มหัวใจขนาดไหน………
"เจ้าแน่ใจหรือเอเลน โลหิตที่เจ้าดื่มจากแฟร์รี่นั้นไม่พอเลี้ยงดูบุตรของเราอย่างแน่นอน
ยิ่งตอนนี้เจ้าจะยิ่งกระหายมากขึ้นจนเรียกได้ว่าตลอดเวลา
ข้าก็เพียงแค่คิดแทนเจ้าว่า
เจ้าคงไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นความกระหายของเจ้าแบบตอนนี้....ก็เท่านั้น"
ไม่พูดพล่ามนานจอมมารจ้องตรงไปในสายตากลมโตที่มีแววตระหนก
แสยะยิ้มเล็กๆ กระชับวงแขนแนบร่างบอบบางเข้าจนแทบจมหายไปในอกแกร่ง
จัดใบหน้าหวานเข้าแนบซอกคอ ก่อนใช้เล็บทมิฬแหลมคมปาดเส้นเลือดลำใหญ่เส้นหนึ่งของตน
เลือดสีสดไหลกระเซ็นต้องผิวละเอียดได้เพียงนิด ดวงตากลมสีมรกตก็เบิกกว้าง
ก่อนพุ่งใบหน้าเข้าซุกดูดดื่มโลหิตสีสดอย่างตะกรุมตะกราม
ใบหน้าคมยกยิ้มหยั่นมองไปทางมหาเทพ
ก่อนเงยคางขึ้นสูงเพื่อให้เทวาน้อยดื่มกินได้ตามใจ "ใจเย็นเมียข้า
เจ้าดื่มกินได้เท่าที่เจ้าต้องการแน่นอน ตราบที่อยู่ข้างกายข้า"
มหาเทพเอลวินมองพญามารกับเทวาหนุ่มน้อยอย่างครุ่นคิด
ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มขำ
"เจ้าช่างเป็นซาตานที่น่ารักรีไว"
นัยน์ตาสีฟ้าใสเหลือบมองหน้าที่ไม่สบอารมณ์พลางเอ่ยต่อ
"เป็นเเหล่งอาหารเเละพลังงานเคลื่อนที่ที่เเสนสะดวกสบาย
อย่างนี้เด็กน้อยของข้าคงไม่ลำบาก"
เอลวินเลิกให้ความสนใจกับท่าทางหวงก้างของซาตาน
เเละมาสนใจกับยัยจอมเพี้ยนตัวก่อเหตุอีกรายเเทน
"ฮันซี่เจ้าคงเตรียมการเรื่องเอเลนไว้อยู่ละสินะ
เเต่การคำนวนเรื่องการคลอดของเจ้าอาจคาดเคลื่อน
มิเกะบอกกับข้าว่าถ้าเป็นโลหิตทั่วไปคงไม่เท่าไร
เเต่การได้รับเลือดจากจอมซาตานโดยตรงอานุภาพจะยิ่งรุนเเรง
เเละครรภ์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว"
มหาเทพตีสีหน้าเคร่งขรึมก่อนกล่าวต่อ
"เเม้จะไม่ได้ตั้งใจเเต่ก่อนเอเลนมาที่นี้
เทวาน้อยของข้าได้เผลอดื่มโลหิตข้าไปด้วย
ดังนั้นตอนนี้นับว่าการคำนวนเดิมของเจ้าจะต้องเคลื่อนเเน่นอน"
"นั้นมันก็เรื่องของเลือดเจ้าซึ่งมันไร้ค่าสิ้นดี
แล้วก็ไสหัวไปซะอย่ามารบกวนเวลาข้า!!"
ถือโอกาสตอนมหาเทพพูดคุยกับมือขวาของตน เดินเข้าห้องเงียบเชียบอย่างรวดเร็ว
เอ่ยกล่าวขับไล่ไสส่งแขกก่อนปิดประตูตบท้ายเสียงดังสนั่น
ลงอักขระคาถาโบราณกำกับอย่างว่องไวแน่นหนา ไม่สนใจต่อเสียงโวยวายภายนอก
กล่าวกลับไปเพีบงประโยคสั้นๆโยนภาระให้มือขวาอย่างสบายใจ
"ข้าฝากเจ้ารับแขกต่อแล้วกันฮันซี่"
ก้มลงมองร่างบอบบางในอ้อมกอด ค่อยๆอุ้มพาร่างน้อยลงนอนเตียงสี่เสาอย่างนุมนวล
ร่างแกร่งตามคร่อมกายลงแนบชิดเนื่องจากซอกคอยังไม่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
ใบหน้ามนยังคงแนบริมฝีปากดูดซับโลหิตอย่างเมามาย
มหาเทพหนุ่มถอนหายใจพลางมองหน้ามือขวาของจอมวายร้ายที่ส่งยิ้มเเห้งๆให้พลางผิวปาก
"เอเลนอยู่กับหมอนั่นไปก่อนคงไม่เป็นไร....
ฮันซี่เรื่องของเด็กน้อยของข้าเราคงต้องวิเคราะห์กันอย่างละเอียด
เพราะเลือดของเทพเเละซาตานที่เอเลนได้ดื่มไปอาจเป็นชนวนระเบิดได้
จากที่ข้าเเละมิเกะคาดเดาอาจไม่เกินสามทิวา" ใบหน้าภายใต้กรอบเเว่นหนาเริ่มตีสีหน้าจริงจัง
เพื่อการคาดคะเนเเละการเตรียมรับมือฮันซี่จึงนำทางมหาเทพตรงไปยังห้องทำงานของตนทันที
เมื่อลำคอที่เเห้งผากถูกเติมเต็มใบหน้าหวานละออกจากลำคอเเกร่ง
มือบางปาดคราบโลหิตเเสนหวานออกจากริมฝีปาก คิ้วมนขมวดมุ่น
ทั้งรู้สึกหอมหวานจากรสเลือดเเละรังเกียจกับการกระทำของตน ใบหน้ามนเบี่ยงหลบสายตาของมารร้ายก่อนพยายามเค้นยิ้มกลบเกลื่อน
"ทั้งที่เดินจากห้องนอนของท่านมาตั้งไกล
เเต่ดูเหมือนที่พำนักของจอมซาตานคงขี้เกียจน่าดู
หรือไม่ที่ปราสาทของท่านคงมีเเต่ห้องนอน"
"อ๋อ....เจ้าคงเบื่อห้องนอนสินะ
สำหรับข้าจะที่ไหนก็ได้ขอเพียงเจ้าต้องการนะเอเลน หืมม์...."
มือแกร่งจับทัดปอยผมสีน้ำตาลนุ่มมือไว้หลังหู
ใบหน้าคมก้มลงต่ำประชิดริมฝีปากใกล้กันเพียงลมหายใจกั้น กล่าวถามเสียงพร่า
"เจ้าว่าไงหล่ะเอเลน"
เอเลนคว้าหมอนหนุนใบโตดันหน้ามารกามตรงหน้าให้ถอยห่าง
ใบหน้าหวานสุกปลั่งด้วยความโมโหระคนความอาย
"ก่อนจะคิดเรื่องเเบบนี้
ท่านมีเรื่องต้องตอบคำถามเกี่ยวกับร่างกายข้าไม่ใช่รึไงที่ท่านเอลวินพูดหมายความว่าไง?"
มารกามได้แต่ตีหน้ายุ่งเล็กน้อยก่อนถอดหายใจนึกสาปแช่งตัวมารวิกผมที่แม้ตัวจะไม่อยู่
กลับสามารถสร้างปัญหาทิ้งไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนโอบพยุงร่างบางขึ้นนั่งพิงหมอนนุ่มให้สบาย
วงแขนแกร่งกอดกระชับร่างแสนรักไว้แน่น
แนบใบหน้าลงกับสีข้างที่เริ่มขยายออกจากการอุ้มท้อง จุมพิตเพียงบางเบา
เอ่ยปากดุจคุยกับลูกน้อยในครรภ์
"ลูกพ่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เลือดของเจ้าก็ยังคงเป็นเลือดของพ่อ เจ้าสืบเชื้อสายโดยตรงจากจอมซาตานและสายเลือดเทวาจากแม่ของเจ้า
สายเลือดผสมนี้ทำให้เจ้าแข็งแกร่ง
ไม่มีสิ่งใดจะมาทำร้ายหรือมีผลกระทบต่อครรภ์เจ้าได้ พ่อมั่นใจ
ต่อให้อายุครรภ์จะคลาดเคลื่อนเป็นวันนี้รึวันพรุ่งพ่อก็เตรียมพร้อมรอรับเจ้าได้ทุกชั่วยาม
แต่พ่อขอเพียงอย่างเดียวสิ่งเดียวเท่านั้นในชีวิตนิรันดร์ของพ่อ
ลูกอย่าทำร้ายแม่เลยนะ
ไม่เช่นนั้นวันนั้นคงเป็นวันที่พ่อหัวใจสลายที่ต้องทำลายเจ้าทิ้ง
ว่าง่ายเป็นเด็กดี ในไม่กี่วันนี้เราก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกแล้ว
พ่ออยากเจอหน้าลูกเหลือเกิน เหลือก็แต่แม่ของเจ้าที่พ่อไม่รู้เลยว่าคิดสิ่งใดอยู่..."
กระซิบตอบกับลูกน้อยแล้วจึงจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานด้วยสายตามั่นคง
"เอเลน...ไม่ว่าเมื่อใดข้าพร้อมดูแลเจ้าด้วยชีวิตของข้าเสมอ
สำหรับความไม่แน่นอนในอายุครรภ์ข้ากับฮันซี่ได้คิดกันดูแล้ว
จึงเตรียมการล่วงหน้ามาตลอดเพื่อให้ทุกวันพร้อมสำหรับเจ้า
ด้วยเหตุนี้ข้าจึงรีบไปรับตัวเจ้ามาอยู่ด้วย เพราะข้าจะได้เฝ้าดูเจ้าได้ทุกเวลา
ดังนั้นเชื่อใจข้าได้ไหมเมียข้า..."
คำว่าพ่อเเละลูกที่มารเจ้าเล่ห์พร่ำพรรณาทำให้ใจที่เเข็งขืนเริ่มอ่อนโอน
มือบางวางลงบนเส้นผมสีรัตติกาล นิ้วเรียวเขี่ยผมดำขลับเล่นไปมา
"ข้าจะคอยดูว่าท่านจะทำตามลมปากที่พร่ำบอกได้หรือไม่?"
มือบางอีกข้างลูบท้องของตนที่บัดนี้เริ่มขยายนูนออกอย่างรวดเร็วจนเริ่มเด่นชัด
ยิ่งดื่มโลหิตของมารร้ายมากเท่าไร
ราวกับว่าท้องของเทวายิ่งขยายใหญ่โตเร็วขึ้นเท่านั้น
คำตอบจากเทวาน้อยสร้างความอบอุ่นให้แก่หัวใจอันมืดมิดของจอมมารยิ่งนัก
ยังผลให้นัยน์ตาคมที่ปกติมีแต่ความเฉยชาไม่ก็ดุดันเป็นประกาย
ริมฝีปากปากบางเฉียบหยักยิ้มอ่อนโยนอันหาดูได้อย่างยากเย็นมอบให้ร่างบาง
ก่อนก้มลงกระซิบชิดใบหน้ามน
"ขอบคุณ ขอบคุณเจ้ามากเอเลน สำหรับทุกสิ่ง
สำหรับโอกาสที่เจ้ามอบให้ข้าอีกครั้ง สำหรับความรักของเรา
และสำหรับครอบครัวที่เราจะสร้างร่วมกัน"
จุมพิตหนักแน่นประทับลงบนกลีบปากงามเนิ่นนานบางเบาดุจขนนก
เมื่อริมฝีปากรุ่มร้อนผละออก
นัยน์ตาสีมรกตฉ่ำไปด้วยความหวานจากสัมผัสของจอมซาตาน ใบหน้ามนเบนหลบสายตาหวานที่มองจ้องมา
"ข้ายังไม่ได้บอกว่าจะเป็นครอบครัวกับท่านเสียหน่อย.....อุ๊บส์!"
ก่อนที่จะได้กล่าวต่อราวกับทารกในครรภ์จะรับรู้
สายเลือดน้อยกระตุกจนเทวานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มือบางขยำลงบนชุดเสื้อผ้าของตน
หน้าท้องที่เริ่มพองออกมาการใส่ชุดธรรมดาต่อไปคงไม่ดีเเน่
เพราะกางเกงที่รัดเเน่นช่วงท้อง จอมวายร้ายตัวน้อยคงอึดอัดจนประท้วงอย่างเเน่นอน
ผู้เป็นพ่อรู้สึกได้ถึงแรงดิ้นเล็กๆของมารน้อยในครรภ์
มือแกร่งแนบสัมผัสแผ่วเบาไปที่ผิวท้องที่นูนขึ้น
อีกข้างยกขึ้นประคองหน้าเมียรักด้วยความห่วงใย
"เจ้ามารน้อยดิ้นแรงนัก เจ้าคงต้องเลิกใส่ชุดประจำของเหล่าเทวาแล้วเมียข้า
อดทนอีกนิดนะเด็กดี เพื่อลูกของเรา" หน้าผากแนบลง ตาคมประสานนัยน์ตาหวาน
มือแกร่งเลื้อยไล้ลงไปที่ขอบกางเกงขาวบริสุทธิ์ของเทวาหน้าหวานก่อนค่อยๆปลดออกกระซิบเสียงพร่า
"เชื่อข้านะเอเลนเจ้าจะได้สบายตัวขึ้น"
มือบางลูบไปทีมือหนาซุกซนของมารร้าย
เทวาหนุ่มยิ้มพราย เปลือกตาบางปิดลงก่อนจะลืมขึ้นเปลี่ยนเป็นสีทองอำพัน! พร้อมทั้งเเสงสว่างเจิดจ้าที่ผลักมารกามกระเด็นไปยังกำเเพงอีกฟากของห้อง
เเสงสีนวลโอบอุ้มร่างบางก่อนอาภรณ์ชุดสูทสีขาวเดิมจะเเปรเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ ชุดยาวกรอมเท้าที่ราวกับทวยเทพในภาพของเหล่าจิตรกรเอกสีพิสุทธิ์ปกคลุมร่างบางของเทวา
ใบหน้าหวานยิ้มพรายให้ซาตานจอมลามกอีกครั้ง
"ข้าจัดการตัวเองเรียบร้อยเเล้วเชิญท่านไปเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่กับท่านเอลวินเเละท่านฮันซี่จะเป็นการดีกว่า"
ไม่พูดเปล่า
หอกเเสงสีขาวผ่าประตูห้องที่ปิดให้เปิดออกก่อนจะมีลำเเสงสีทองดันร่างของซาตานให้กระเด็นออกนอกประตู
พลันเเสงสีขาวปรากฎขึ้นอีกครั้ง
ประตูสีอร่ามถูกเนรมิตขึ้นพร้อมกลอนขนาดใหญ่ที่ล็อคอย่างเรียบร้อย เสียงหวานตะโกนออกจากห้องที่มารร้ายจ้องมองอย่างฉงน
"ข้าเเละลูกต้องการจะพักผ่อน
ท่านก็ไปสะสางเรื่องซะ"
ดูเหมือนว่าเพราะมีบุตรของซาตานอยู่ในครรภ์
เเม้จะเป็นเวทย์โบราญเก่าเเก่ที่มีเพียงเจ้าของเท่านั้นจะเเก้ได้
กลับเเก้ได้ง่ายถึงเพียงนี้ คงไม่ต้องเดาว่าทั้งมวลคงเพราะพลังจากจอมมารร้ายน้อยในครรภ์เป็นเเน่
เอเลนก้มมองมือของตนที่บัดนี้รู้สึกได้ถึงพลังมากมายที่ไหลเวียนในร่างอย่างไม่เคยเจอ ร่างบางสยายปีกสองสีของตนมองผ่านกระจกที่เห็นในห้อง
.....ทั้งที่คิดว่าตนจะถูกย้อมปีกจนเป็นสีทมิฬทั้งหมด
เเต่ตอนนี้ราวกับว่าพบจุดเชื่อมต่อของเเสงสว่างเเละความมืดอย่างไม่คาดคิด
"เอเลน!!! เอเลน!!! ฮึ!!! เจ้าตัวแสบ!!!"
มารกาม เอ๊ย!! จอมมารได้แต่สบถอย่างขัดใจ
ที่ดูเหมือนเมียรักจะสามารถเรียนรู้การใช้พลังทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว
มือแกร่งที่ทุบลงบานประตูขาวดั่งถูกกระแสไฟฟ้าช็อต
ผิวเนื้อหยาบกร้านเป็นรอยไหม้พอง
"เอเลน เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!! อย่าดื้อ
เจ้าไม่อาจพลักไสข้าได้ตลอดหรอก ฮึ่ย!!!" ได้แต่คาดโทษไว้ในใจ
เมื่อใดที่มารน้อยถือกำเนิดเมื่อนั้นเจ้าจะไม่อาจใช้พลังผสมนี้ได้อีก
ถึงตอนนั้นจะคิดทบต้นทบดอกซะให้เข็ด
มหาเทพเอลวินหัวเราะขำในลำคอยามเมื่อเห็นจอมซาตานที่ดูเหมือนจะถูกไล่ออกจากห้องเดินเข้ามาอย่างหัวเสียในห้องวิจัยของมือขวาคนสนิท
“โดนเอเลนไล่มาสินะท่านมารร้าย” เสียงทุ้มเย้าเย้ยขำ
ยิ่งเห็นท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจทำเอามหาเทพแทบอยากลงไปหัวเราะกับพื้น
เอเลนเด็กน้อยสมกับเป็นเทวาตัวน้อยที่เขาเลี้ยงมาเสียจริง
ถึงขนาดทำจอมซาตานผู้ไม่สนใจใครให้หัวปั่นขนาดนี้ มารร้ายที่ดีแต่ล่อลวงผู้อื่น
บัดนี้กลับถูกลวงหลอกจนเสียท่าเสียเองช่างน่าดูชมนัก....
“แต่เจ้าโดนไล่มาแบบนี้ก็ดี
เรื่องครรภ์ของเอเลนข้ากับฮันซี่ลองคำนวณเวลาดูคร่าวๆ
จากเลือดของจอมมารที่เอเลนดื่มไปกับเลือดของเทพที่เผลอดื่มจากข้าแม้เพียงเล็กน้อย
เลือดที่ตีกันสองขั้วทำให้ครรภ์เติบโตเร็วผิดไปจากที่พวกเจ้าคาดไว้ตอนแรกมาก
และยิ่งเอเลนได้รับเลือดคราแรกเป็นเลือดของเทพมิใช่ของจอมมารจึงอาจทำให้เกิดวิวัฒนาการของทารกในครรภ์”
นัยน์ตาสีฟ้าครามจ้องมองอย่างจริงจังรวมทั้งฮันซี่มือขวาคนสนิทของรีไวที่มองไปยังหน้าของเจ้านายตนด้วยแววตาและสีหน้าจริงจัง
ยิ่งยืนยันสิ่งที่มหาเทพเอ่ย
“สรุปก็คือข้าเกรงว่าไม่พ้นคืนพรุ่งนี้จอมวายร้ายตัวน้อยคงจะถือกำเนิด
แต่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าข้าเกรงว่ามารน้อยนั้นจะฉีกครรภ์เอเลนออกมา”
เอลวินหยิบผลการวิจัยและข้อสรุปที่ร่วมกันทำกับฮันซี่ยื่นให้ซาตานหนุ่ม
“ถึงแม้เทวาจะพลังการรักษาและฟื้นฟูสภาพได้อย่างรวดเร็ว
ถึงอย่างนั้นเทวาอย่างเราและซาตานอย่างพวกท่านก็สามารถสลายไปได้เช่นกันถ้าโดนจุดสำคัญหรือการโจมตีที่รุนแรงจนร่างกายไม่อาจฟื้นสภาพได้ทัน
และการที่ถูกฉีกครรภ์ออกมาอย่างรุนแรง
รวมทั้งร่างกายที่จะเริ่มอ่อนแอลงจากการตั้งครรภ์....เด็กน้อยของข้ามีอัตตราเสี่ยงที่สูงมาก” เอลวินยิ้มเย็นเหยียดจอมมารร้ายที่กำลังตรวจแผ่นวินิจฉัย
มือแกร่งกำผลรายงานแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
ก่อนหันไปสนทนากับมือขวาคนสนิท
"ฮันซี่จงเตรียมการให้พร้อม
จับตาดูอาการเอเลนอย่างใกล้ชิด
ถ้าเพราะไอ้เลือดระยำนั้นทำให้ครรภ์เอเลนผิดปกติอย่างเจ้าว่าจริง หรือถ้ามันทำให้เอเลนเจ็บปวดเกินจะทานทนเมื่อนั้นข้าจะเปนผู้กำจัดบุตรด้วยตัวข้าเอง
หากจำเป็นข้าก็จำต้องทำเพื่อเอเลน....เอเลนเพื่อเจ้าแล้วข้ายอมสิ้นซึ่งทุกสิ่ง..."
น้ำเสียงเรียบนิ่งแลไร้ซึ่งความรู้สึกรู้สาใดๆ
แต่ใครจะรู้ได้ว่าท้ายประโยคที่แผ่วเบาจนคล้ายรำพึงกับตนเองนั้นบีบคั้นหัวใจพญามารยิ่งนัก
เปลือกตาปิดลงคล้ายยอมรับชะตากรรมความจริงไซร้เพียงแค่ต้องการซ่อนความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไว้ภายใต้ท่าทีอันสงบนิ่ง
การตระเตรียมจัดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเหล่าสมุนปีศาจภายใต้คำสั่งของฮันซี่ซึ่งควบคุมโดยจอมมารและการสอดแทรกของมหาเทพเป็นครั้งคราว
ถึงจะสร้างความรำคาญใจแก่รีไวไม่น้อยแต่ทุกสิ่งก็เพื่อเทวาที่รักของตน
ทั้งหมดเสร็จสิ้นในหนึ่งราตรี
เมื่อความโกลาหลหยุดลงเหลือเพียงก็แต่เจ้าตัวที่ดื้อรั้นไม่ยอมเยื้องกายออกจากเขตอาคมที่ตนสร้าง
ร่างแกร่งที่ถือเอาแก้วใส่โลหิตด้วยหวังจะนำมาให้ร่างบางดื่มได้แต่ยืนทั้งห่วงทั้งเคืองกับความดื้อรั้นของเอเลนที่เมินเฉยต่อคำอ้อนวอนให้เปิดประตูของตน
"เอเลนได้โปรด ออกมาเสีย เพื่อตัวของเจ้าเอง...."
อีกครั้งที่คำร้องขอถูกอ้อนวอนออกมาจากปีศาจร้ายที่ไม่เคยทำการเยี่ยงนี้กับผู้ใด
ริมผีปากบางเฉียบเริ่มเม้มแน่น
มือแกร่งที่ส่งขึ้นกุมขมับใบหน้าคมแสดงอารมณ์หงุดหงิดพาลเคืองต่อมหาเทพที่ตามใจเอเลนจนเจ้าตัวดื้อดึงได้เพียงนี้
เห็นที....หากวิธีนุ่มนวลไม่ได้ผลตนคงต้องพังประตูเข้าไป!!
นัยน์ตาสีมรกตของเทวาจ้องเขม็งไปที่ประตูอาคมที่ตนสร้าง
ใบหน้าหวานเปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อ ลมหายใจของเทวาหนุ่มหอบกระชั้นถี่
เอเลนพยายามรวบรวมสติ
มือบางขยับเเกว่งเพื่อคลายอาคมของประตู
เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูอาคมถูกผลักทำลายเข้ามา
เทวาหนุ่มน้อยมองหน้าจอมมารที่ตะลึงงันกับสภาพของเขา ร่างโปร่งของเทวาหนุ่มล้มลงไปหมอบอยู่กับพื้น
ท้องของเอเลนบัดนี้ขยายใหญ่จนราวกับจะเเตกออก
ชุดสีขาวพิสุทธิ์ที่คลุมกายเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ
ช่วงล่างของชุดเทวาเปียกปอนไปด้วยโลหิตสีเเดงฉานเเละน้ำคล่ำที่เริ่มหลั่งไหล
ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมานราวกับร่างกายจะเเตกเป็นเสี่ยงๆ
มือของเทวาขยำจิกลงบนพื้นหวังระบายความเจ็บปวด
ทั่วทั้งร่างบางเกร็งสะท้านกับชิวิตในครรภ์ที่กำลังจะถือกำเนิด
เอเลนเเสยะยิ้มให้กับซาตานอย่างขุ่นเคือง
"ข้าเกลียดท่านชะมัดรีไว!!"
"ฮันซี่ ตัวอ่อนจะคลอดแล้ว" นั่นเป็นวลีแรกที่จอมมารแผดสุรเสียงก้องไปทั่วทั้งวังมาร
ก่อนปรากฏกายข้างเตียงร่างบางมือใหญ่บังคับเอาโลหิตกรอกปากซีดเซียวของเทวาที่รักกล่าวด้วยความรวดเร็ว
"เห็นแก่พระเจ้าองค์ใดของเจ้าก็ได้!!!
ดื่มเดี๋ยวนี้!!! เพื่อความแข็งแกร่งของตัวเจ้าเอง
และเพื่อไม่ให้ตัวอ่อนกระหายหิวจนต้องฉีกครรภ์เจ้าออกมา!!!"
เมื่อโลหิตหยดสุดท้ายหมดไปอาการสั่นสะท้านของร่างบางจึงลดลง
ร่างแกร่งรีบช้อนโอบอุ้มร่างที่ครางด้วยความเจ็บปวดขึ้นแนบอกทันที
"รีไว!!! ปล่อยเอเลนลงบนเตียงนี้!!
เร็วเลย!!" ฮันซี่และเหล่าทีมที่เธอคัดเลือกพร้อมด้วยมหาเทพตามมาสมทบนำทางพร้อมคอยดูแลอาการเอเลนตลอดทางไปจนถึงห้องคลอด
ฮันซี่ตรวจวัดและดูระยะของตัวอ่อนอย่างว่องไว
ยิ่งตรวจสีหน้ายิ่งเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ
สร้างความร้อนใจอย่างมากให้แก่รีไวจนถามออกไป
"เป็นเช่นใด!!! ให้ข้าฆ่าตัวอ่อนเลยรึไม่??" และเสียงตอบกลับจากมือขวาคนสนิทมีเพียง...
"ไม่ทันแล้วนายท่าน ตอนนี้ตัวอ่อนพร้อมคลอดแล้ว
และอีกไม่นานจะฉีกรกเอเลนแน่นอน ข้าต้องลงมือเปิดหน้าท้องเอเลนเดี๋ยวนี้!!!"
เวทย์โบราณถูกเอื้อนเอ่ยขึ้น
อักขระโบราณท่อแสงประกายอยู่เหนือผิวท้องเนียนจอมมารตรงเข้าลูบไล้ปลอบประโลมที่ไรผมชื้นเหงื่อ
ใบหน้าหวานเหยเกบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดสาหัส มือบางกอบกุมจิกเล็บลงบนมือแกร่งแน่นเข้าจนเลือดซึม
ริมฝีปากบางเฉียบจูบซับน้ำใสที่คลอหน่วยอยู่ในดวงตางามสีมรกต
กระซิบอ่อนโยนและแผ่วเบา
"เอเลน..ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องทำได้
เราต้องผ่านมันไปด้วยกันให้ได้"
แต่สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อร่างคุณหมอจำเป็นเหมือนดั่งถูกแรงมหาศาลพลักกระเด็นลอยไปกระแทกกับผนังเต็มแรงจนกระอักโลหิตออกมา
เสียงตะโกนชื่อถามไถ่อาการฮันซี่ดังก้องประสานกันไปมา
"ขะ...ข้าไม่เป็นไร อู้ยยย...
เด็กแค่ไม่ไว้ใจข้า เจ้าตัวแสบนั่นคิดเองแล้วรีไว มันคิดว่าข้าจะทำร้ายแม่ของมัน
ทำร้ายเอเลนน่ะ!!" ตอบพลางเช็ดถ่มเลือดออกจากปาก
ขณะถูกประคองขึ้นอย่างยากลำบาก
"โธ่โว้ย!!
แล้วที่นี้จะทำเยี่ยงไร!!!"
ก่อนที่จอมมารจะคิดสั้นฆ่าบุตรของตนมหาเทพพลันเอ่ยขึ้น
"ข้าคิดว่าต้องเป็นเจ้าแล้วหล่ะรีไว
เด็กน่าจะคุ้นชินและยินยอมให้บิดามารดรของตนเท่านั้น"
สิ้นเสียงทั้งห้องเงียบกริบ จอมมารก้มลงมองหน้าเมียรักที่ทำเพียงพยักหน้าเบาๆให้
ก่อนละมือออกจากใบหน้าอ่อนเยาว์ ปล่อยอีกข้างไว้ให้เอเลนกอบกุม
ไม่มีคำตอบใดๆมีเพียงการกระทำ มือแกร่งวางทาบไปบนผิวท้องเนียนละเอียด
อักขระโบราณทอแสงขึ้นอีกครั้ง จอมมารสัมผัสได้ถึงกระแสจิตต่อเนื่องร่ำร้องเรียกตนว่าพ่อแลขอร้องให้ช่วยแม่ให้ปลอดภัยจากตนด้วย...และแล้วก็เป็นผลเมื่อหน้าท้องกลมโตเกิดรอยกรีดคมเฉียบดั่งมีมีดที่มองไม่เห็นโลดแล่นอยู่บนผิวเนียน
หากแต่รอยกรีดยังไม่ทันยาวพอกลับมีเสียงฉีกขาดของบางสิ่งภายในครรภ์เกิดขึ้น
"แย่แล้วรีไว!!!
เด็กฉีกรก..."
พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงฉีกขาดดังขึ้นอีกครั้ง
ร่างบางแสนรักสั่นสะท้านก่อนกระตุกรุนแรง นัยน์ตาหวานเบิกขึ้น
ก่อนกระพริบถี่ด้วยสติที่เริ่มรางเลือนจากความเจ็บปวดเกินทนได้ รีไวแทบคลั่ง
สติจอมมารแทบกระเจิงเมื่อเห็นเมียรักบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้
แต่ก่อนที่จะเสียจริตไปกลับมีเสียงหนึ่งเข้าปลอบขวัญฉุดรั้งสติของตนไว้ก่อน...
เป็นสัมผัสที่ชัดเจน กระแสจิตรุนแรง
ที่เรียกร้องถึงพ่อและร่ำร้องให้ช่วยแม่... จอมมารไม่ฟังเสียงพากษ์ใดๆจากใครอีก
เพ่งจิตแน่วแน่ หยาดเหงื่อไหลซึม จนกระทั่งการกรีดสำเร็จลุล่วง
ส่วนที่เหลือภายในนั้นไม่ต้องทำอันใดทั้งสิ้นเพราะทารกได้ฉีกผ่านออกมาสิ้น
ฮันซี่รีบตรงเข้าช้อนอุ้มตัวทารกออกมาส่งให้ผู้ช่วยดูแลก่อนสำรวจบาดแผลเอเลนอย่างรีบด่วน
"รีไว!!!
อวัยวะภายในเอเลนถูกฉีกทึ้งเสียหายมากเกินไป!! ข้าซ่อมไม่ทันการณ์แน่ๆ
เหลือทางเดียวแล้ว..."
จอมมารหอบหนักจากความกลัวที่ไม่เคยเกิดขึ้นในจิตใจมาก่อน
กลัวที่จะเสียเอเลน กลัวที่จะถูกพรากหัวใจไปตลอดกาล
และไม่ว่าทางใดที่จะฉุดรั้งยึดเหนี่ยวเอเลนไว้ได้ตนจะทำ
แม้จะเห็นแก่ตัวและบาปหนาหรือบีบบังคับเพียงใดก็ตาม
มือแกร่งล้วงเอาสร้อยคอออกมาจี้ของมันเปล่งแสงประกายดั่งคริสตัลที่เจียรมาอย่างประณีตเป็นรูปของไม้กางเขนและพระเยซูเจ้าที่ถูกตรึงพร้อมเอ่ยบทพิธีกรรมไปด้วย...
เอลวินที่มองการกระทำทั้งหมดตาลุกวาวทันที
ตรงเข้าหมายจะกระชากจอมมารออกจากเด็กน้อยของตนเมื่อเห็นอย่างชัดเจนว่าจี้นั้นผิดแปลกจากจี้ทั่วไปตรงที่องค์ผู้ไถ่บาปและกางเขนนั้นกลับหัว...
ฮั่นซี่และเหล่าสมุนมารตรงเข้ารั้งไว้ทันที
ก่อนกล่าวเตือนสติมหาเทพอย่างโมโหไม่แพ้กัน
"ท่าน!!! อย่าได้บ้าคลั่งนักเลย!!!
หากท่านยังคิดจะห้ามนายท่านอีกก็เท่ากับว่าท่านไม่ได้รักและห่วงใยในตัวเอเลนจริงจัง
นี่เป็นทางเดียวแล้วที่จะดึงเอเลนกลับมาได้ ดังนั้นปล่อยความเชื่อของท่านซะ!!!"
ในขณะที่กำลังกล่อมมหาเทพกันอยู่นั้น
รีไวตรงขึ้นคร่อมร่างเอเลนอย่างรวดเร็ว มือแกร่งแทงเอาจี้เข้าสู่กำมือของตน
อีกข้างจับง้างปากอิ่มที่ไร้สีเลือดอ้าออกให้เลือดไหลรินจากมือที่กำแน่นผ่านกางเขนกลับหัวเข้าสู่ปากเมียรัก
"ข้าในนามของผู้ทอดทิ้งแลหันหลังต่อพระเจ้า
ผู้สาบานว่าจะโค่นล้มและอยู่เหนือพระเจ้า เจ้าแห่งความชั่วร้าย ความมืด
และกิเลสทั้งปวง เจ้าของขุมนรกอเวจีอันชั่วช้านี้!!!
ข้ายินดียิ่งแล้วที่ได้รับเจ้ามาสู่ข้า
จงลืมสิ้นซึ่งพระเจ้าและผละจากอ้อมกอดของพระองค์ จากนี้ไปหนทางของเจ้าจะโรยด้วยขนสีทมิฬและข้าจะเป็นผู้นำพาเจ้าไป
มอบชีวิตใหม่แก่เจ้าตราบนิรันดร์"
จี้งามที่บัดนี้ถูกย้อมไปด้วยโลหิตซาตานจนกลายเป็นอัญมณีสีชาดถูกแนบลงบนหน้าผากเอเลน
ควันคุกรุ่มพวยพุ่งจากจี้และผิวเนียนบนหน้าผากที่ถูกประทับตรา
เสียงหวานกรีดร้องเพียงสั้นๆ กายากระตุกเกร็งรุนแรง
แสงสว่างสาดส่องออกจากกายบางที่บอบช่ำเจียนสลาย
ร่างปวกเปียกลอยขึ้นจากพื้นเตียงก่อนแอ่นขึ้นพร้อมปีกทมิฬที่แทงและกางออกจากแผ่นหลังงามอย่างรวดเร็ว
จอมมารละกายมาอยู่เคียงข้างเตียง เฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยใจอันบีบรัด...
รอยแผลที่ถูกกรีดและฉีกขาดเกิดกลุ่มควันดำพัดผ่านอย่างเชื่องช้าก่อนเนื้อเยื่อและโครงสร้างจะค่อยๆผสานต่อติดกันต่อเนื่องชั้นต่อชั้น
ผิวกายที่ซีดขาวกลับมามีน้ำมีนวล ริมฝีปากอิ่มคืนสีชาดทีละเล็กทีละน้อย
ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะคืนกลับสู่เตียง ดั่งเด็กน้อยหลับใหลในนิทรา
เอลวินได้แต่ทอดถอนใจเมินหน้าไปทางอื่นเพื่อสงบจิต
ขณะที่จอมมารรีบตรงเข้าประคองเมียรักทันที
"เอเลน...เอเลนยอดรักแห่งข้าเจ้าจงตื่นเถิดเด็กดี.."เปลือกตาบางกระตุกถี่ก่อนเปิดขึ้นอย่างฉับพลันเผยดวงตาสีแดงชาดดั่งโลหิต
ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่น
ก่อนจะแสยะยิ้มให้จอมซาตาน
“ท่านนี่ชอบเล่นพิเรนท์กับร่างกายคนอื่นเสียจริง......อย่าหวังว่าทุกอย่างจะเป็นดั่งที่คิด!!”
เอเลนคว้ากางเขนจากมือของจอมมาร
ร่างโปร่งพุ่งตัวเข้าหามหาเทพที่ยังคงยืนตะลึงงัน
“ขออภัยท่านเอลวิน!”
กรงเล็บแหลมคมจากมือบางกรีดเข้าที่ไหล่ของมหาเทพ โลหิตสีสดหลั่งไหลเปื้อนกางเขน
เอเลนบริกรรมคถาจนเกิดวงแหวนเวทย์ปรากฏขึ้น
เลือดของมหาเทพที่หลั่งรินกระจายตัวก่อนจะห่อหุ้มร่างบางพลันเกิดแสงทอประกาย
ปีกที่ถูกย้อมเป็นสีทมิฬของร่างบางเปลี่ยนเป็นสีขาวอีกครั้งครึ่งหนึ่ง
นัยน์ตาสีแดงก่ำดุจโลหิตข้างซ้ายแปรเปลี่ยนเป็นสีทองสุกสกาวตามเดิม
การกระทำของเอเลนทำให้ร่างโปร่งแปรเปลี่ยนเป็นกึ่งเทพและซาตาน
ใบหน้าหวานแสยะยิ้มพรายให้กับจอมมารรีไว
การกระทำของเทวาหนุ่มสร้างความตกตะลึงไม่น้อย
มือแกร่งยกขึ้นกุมขมับก่อนหัวเราะน้อยๆ
"ฮึๆ
สมกับเป็นเจ้าความดื้อรั้นไม่เคยลดลงตามกาลเวลา
ขอเพียงเจ้าไม่สลายไปไม่ว่าทางเลือกของเจ้าคือสิ่งใดข้ายินยอม
ว่าแต่....เจ้าไม่อยากรู้จักกับลูกเราดอกหรือเมียข้า"
ฮันซี่ที่ยืนอุ้มแม่หนูตัวน้อยหยอกล้ออยู่รีบอุ้มมาให้ผู้เป็นพ่อเชยชม
"น่ารักเหลือเกินรีไว
แม่หนูช่างจำนรรจานัก หากพูดได้เมื่อใดคงจ้อน่าดู"
จอมมารรับบุตรีตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน
ก้มลงมองใกล้ชิดอย่างรักใคร่ เพ่งพิศมองใบหน้าหวาน ริมฝีปากกระจับบางจิ้มลิ้ม
แก้มแดงระเรื่อ เกศาดกดำสนิทดังปีกทมิฬของตน
ดวงตากลมโตเปล่งประกายเขียวมรกตข้างหนึ่งและดำรัตติกาลข้างหนึ่ง
ช่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและงดงามยิ่ง มือน้อยไขว้คว้าหาใบหาคมของผู้เป็นพ่อ
ไฉนเลยจะเมินเฉยความงดงามพิสุทธิ์นี้ได้
ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนก้มลงไปหาบุตรีที่รัก
เมื่อมือน้อยแนบเข้ากับแก้มผู้เป็นพ่อสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รีไวตกตะลึงไม่น้อย
เป็นเสียงใสเล็กๆก้องกังวาลเข้ามาในความรู้สึกพร้อมภาพที่ฉายชัดเข้ามาในหัวเป็นการเล่าเรื่องราวของแม่หนูน้อยที่มีทั้งเสียงและภาพประกอบ
ตั้งแต่เริ่มฉีกครรภ์ผู้เป็นแม่ โดนช้อนตัวออกจากท้อง
ความตื่นกลัวและกังวลใจทั้งมวลว่าตนจะทำร้ายแม่ รวมไปถึงเลือดของป้าฮันซี่นั้นโอชารสเพียงใด
ถึงตรงนี้รีไวหยุดนิ่งหันไปมองมือขวาเป็นเชิงสงสัย ซึ่งฮันซี่ก็เหมือนจะรู้ดีอยู่แล้วจึงตอบไป
"แกคงเล่าเรื่องดื่มเลือดไปล่ะสิ...
ช่ายยย ยัยหนูนี่ตะกละน่าดู พอช้านยืนยันว่าแม่ของแกปลอดภัยแล้ว
แกก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังเขี้ยวจิ๋วแต่คมกริบลงแขนชั้นทันที บอกข้าแค่ว่า
เลือดคุณป้าอร่อยจังนั่นแหละ ร้ายซะไม่มี..."
รีไวที่มัวแต่ยืนอึ้งอยู่จึงถูกดึงความสนใจอีกครั้งจากบุตรีตัวน้อยด้วยมือป้อมๆที่ยื่นมาอีกข้างประกบวางทาบบนแก้มบิดาส่งคำพูดผ่านความคิดได้ว่า
‘คุณพ่อขา...หนูคิดถึงคุณแม่
ทำไมคุณแม่ไม่อุ้มหนู คุณแม่ไม่รักหนูหรือคะ?’ จอมมารหอมแก้มยุ้ยเบาๆก่อนกระซิบตอบ
"รักสิลูก
คุณแม่อุ้มท้องหนูมาด้วยรัก งั้นพ่อจะพาลูกไปหาแม่นะ..."
แต่ทันทีที่จอมมารกำลังเดินไปหาเมียรัก
เอลวินผู้ซึ่ง(แอบ)เห่อหลานไม่น้อยก็รีบตรงเข้ามาดู
ยังผลให้เด็กน้อยในอ้อมอกบิดาสะบัดตัวขึ้นจากห่อผ้าไหม
ปีกน้อยสมตัวแทงจากหลังเล็กๆกางออกปรากฏสีทมิฬข้างขวา
ขาวพิสุทธิ์เป็นประกายกล้าข้างซ้าย ดวงตากลมแปรเปลี่ยนตามเชื้อสายที่ได้
ทองอร่ามจากมารดาและแดงชาดโชติช่วงจากบิดา ริมฝีปากน้อยแยกเขี้ยวเล็กๆขู่ฟ่อใส่
สร้างความตกตะลึงชะงักค้างแก่ผู้เป็นลุงที่เพิ่งถูกหลานตั้งป้อมใส่หมาดๆยิ่งนัก
แม่ตัวน้อยพอแผลงฤทธิ์เสร็จก็โผเข้ากอดผู้เป็นพ่อ ร้องไห้โยเยจะหาแม่
โวยวายว่ากลัวเทพแก่ๆตรงหน้านี้ขนาดไหน
เอลวินที่โดนหลานตัวน้อยปฎิเสธหันมองร่างโปร่งบางด้วยใบหน้าที่พยายามซ่อนน้ำตาตกใน
"เอเลนทารกน้อยนี่เหมือนเจ้าสมัยเเบเบาะไม่มีผิด
เจ้าลองอุ้มดูสิ"
ร่างโปร่งจัดการเก็บปีกสองสีข้างตน
นัยน์ตาสีเเดงฉานเเละทองอร่ามกลับสู่สีทมิฬเเละมรกตตามเดิม
ใบหน้าหวานตีสีหน้าลำบากใจ
เเต่เมื่อได้เห็นมือน้อยๆเเละใบหน้ากลมมนที่มองมาอย่างคาดหวัง
มือเรียวจึงเอื้อมไปประคองบุตรีน้อยๆเข้าอ้อมกอด
บุตรียิ้มหวานให้กับผู้เป็นมารดาเห็นดังนั้นเอเลนจึงยิ้มบางอ่อนโยนตอบบุตรสาวตัวน้อย
เสียงจากบุตรีดังผ่านโทรจิตเรียกร่างบางว่ามารดาไม่หยุดหย่อน
ใบหน้าหวานที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเริ่มมีสีหน้าลำบากใจ
"ข้ารู้สึกเเปลกนัก
ผู้ชายอย่างข้าให้กำเนิดชีวิตน้อยๆนี้ขึ้นมา......"
เอเลนหันมองมหาเทพเเละซาตานไปมาก่อนจะกลับมามองทารกน้อยในอ้อมเเขน
"ถึงตอนที่เจ้าฉีกท้องข้าจะเจ็บเเสบนัก
เเต่ข้าก็ไม่โกรธเจ้าหรอกนะตัวน้อย เพราะต้นเหตุมาจากตาเเก่เจ้าเล่ห์นี่นะ"
เอเลนมองจอมมารที่ถูกพาดพิงอย่างคาดโทษ ทั้งเล่นพิเรนทร์กับร่างกายของเขา เเละทำให้เขาได้รับประสบการณ์ที่ทรมานอย่างเหลือเเสน
"เเล้วตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรต่อไป?"
มหาเทพยื่นมือมาลูบลงบนผมสีน้ำตาลของเอเลน
"เจ้าต้องยอมรับความจริงตรงหน้าเอเลน
ถึงจะผิดเเปลกเเต่เจ้าก็เป็นมารดาของเด็กน้อยผู้นี้
ถึงจะเป็นไปเพราะความเอาเเต่ใจของรีไวเเต่ชีวิตน้อยที่ถือกำเนิดก็เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าเอเลน"
ร่างโปร่งมองหน้าลูกน้อยพลันถอนหายใจก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
มือบางลูบไล้ยังใบหน้ากลมมนของบุตรีอย่างเเผ่วเบา
"ข้า.....เข้าใจท่านเอลวิน... ชีวิตที่กำเนิดจากข้า
ถึงจะรู้สึกเเปลก เเต่ข้าก็ชอบเจ้านะตัวน้อย" ว่าพลางจูบลงบนเเก้มเนียนกลมของบุตรี
ทารกน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่มหาเทพกล่าว
จากที่ตั้งเเง่ใส่มือกลมป้อมจึงไขว่คว้าเข้าหามหาเทพ
เอลวินที่ยืนอยู่ข้างกายจึงก้มลงมอง
นัยน์ตาสองสีเหมือนผู้เป็นมารดามองมหาเทพอย่างประหม่าก่อนมือเล็กจะเอื้อมไปจับใบหน้าของมหาเทพ
เอลวินยิ้มกว้างด้วยหัวใจพองโตที่ทารกน้อยยอมให้เขาเข้าใกล้
เเม้จะยังเเอบขู่เเละตั้งเเง่อยู่บ้างก็ตาม
"ตอนนี้ทารกก็ถือกำเนิดเเล้ว เจ้าจะเอายังไงต่อไปเอเลน? ถ้าเจ้าอยากอยู่ที่นี่ข้าจะไม่ห้าม หรือ
ถ้าเจ้าอยากกลับไปที่สวรรค์พร้อมลูกน้อยข้าก็ยินดีจะช่วย เเม้ว่าเจ้าทั้งสองจะเป็นกึ่งเทพเเละซาตานก็ตาม"
เอเลนมองหน้ามหาเทพก่อนจะหันไปมองใบหน้าคมคายของจอมมารราวกับรอฟังสิ่งที่จอมเจ้าเล่ห์ที่คอยพร่ำพรรณาคำหวานใส่เอ่ยบ้าง....
"อย่าแส่!!! ไม่ใช่กงการอันใดของเจ้าเอลวิน
อย่าริอาจมาพรากลูกพรากเมียไปจากข้า" ว่ากล่าวเสียงเหี้ยมก่อนลดเสียงอย่างกระทันหันเมื่อหันไปอ้อนวอนเมียรัก
"เอเลนได้โปรด อย่าทิ้งข้าไป อย่าหนีไปจากข้า
เจ้าและลูกคือทั้งหมดของข้า โปรดให้โอกาสข้าได้ดูแลเจ้าเถิด"
จอมมารก้าวเดินไปหาร่างบาง มือแกร่งแนบไล้บนผิวแก้มเนียน ดวงเนตรทมิฬจ้องแน่วแน่ถ่ายทอดทุกความรู้สึกไปสู่นัยน์ตาของเอเลน
หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดเพิ่มเติม
มือน้อยๆของบุตรีก็เอื้อมกุมมือใหญ่ของบิดาส่วนอีกข้างแนบไปบนใบหน้ามารดา
ส่งต่อความคิดเอ่ยถามผู้เป็นแม่
"คุณแม่จะไปไหน จะทิ้งคุณพ่อไปทำไม หรือเพราะหนูคุณแม่เลยต้องไป
ไม่รักหนูกับคุณพ่อหรือคะ" น้ำเสียงใสเว้าวอน
ดวงตากลมโตเริ่มงัดเอาน้ำใสๆมาคลออ้อน
มหาเทพหนุ่มถอนหายใจพลางส่ายหน้าไปมา
"ก็เพราะความเอาเเต่ใจเเละความหุนหันของเจ้าไม่ใช่รึไง
เอเลนถึงได้วิ่งหนี”
มหาเทพหนุ่มหันไปมองอดีตเทวาน้อยของตน
ใบหน้าสุขุมยิ้มให้อย่างอบอุ่น
"เอเลนเจ้าเลือกเองเถิดว่าอยากทำอย่างไร?"
เอเลนมองสบใบหน้ากลมมนของบุตรีที่มองมาอย่างอ้อนวอน
ก่อนจะเงยสบกับใบหน้าคมคายที่รอฟังคำตอบ
ตัวเขาที่ดื้อรั้นเเละไม่ยอมลงให้ง่ายๆเเบบนี้ส่วนนึงคงเพราะบุรุษเบื้องหน้าที่เคยทอดทิ้งเขา
ความรู้สึกที่โดนทรยศหักหลังยังคงตามหลอกหลอน
จนคิดว่าไม่อาจเชื่อใจเเละรักผู้ใดได้อีก ทั้งๆอย่างนั้น......
"ข.......ข้าจะอยู่ที่นี่ท่านเอลวิน"
เอเลนมองใบหน้าของจอมซาตานผู้ล่อลวงเขา
"เเต่ข้าไม่อาจตัดขาดกับสวรรค์เเละท่านมหาเทพที่เลี้ยงดูข้ามา
ดังนั้นข้าจะขอให้มีบางช่วงของฤดูกาลข้าจะกลับไปเยี่ยมเยียนเพื่อนๆเเละท่านเอลวินได้บ้าง"
นัยน์ตาสองสีหรี่มองหน้ามารร้ายอย่างคาดโทษ
"เเต่ถ้าท่านทำอะไรเเปลกๆกับร่างกายข้าหรือบุตตรีของข้า
ข้าจะหนีกลับไปหามหาเทพเเละไม่มาเจอท่านอีกเลยตราบนิรันดร์"
เอลวินลูบผมของจอมดื้อดึงตัวน้อย
"บางทีรีไวคงพูดถูก
ข้าคงตามใจเจ้ามากเกินไป...แล้วข้าจะจัดการให้เจ้าสามารถไปมาได้ทั้งสวรรค์บ้านของเจ้าเเละกลับสู่อ้อมอกพ่อคนหัวเเข็งที่รักของเจ้า"
เอเลนหน้าขึ้นสีระเรื่อกับคำหยอกล้อของมหาเทพ....ทั้งที่เขายังไม่เข้าใจตัวเองเเต่ราวกับมหาเทพเอลวินจะมองออกทะลุปรุโปร่งไปเสียหมด
ใบหน้าหล่อคมของจอมมารมีแววขุ่นเคืองใจปรากฏเล็กน้อยก่อนเอ่ยตอบรับเมียรักไปอย่างเสียไม่ได้
"ถ้านั่นเป็นความประสงค์ของเจ้า ข้ายินยอม...ขอแค่เจ้าอย่าหนีหายหรือตีจากข้าไป
หากวันใดเจ้ากลับไปแล้วผิดวาจาไม่หวนคืนกลับมาสู่ข้า
ยามนั้นข้าจักขึ้นไปฉุดรั้งเจ้ากลับมาและกักขังเจ้าชั่วนิจนิรันดร์
หากเจ้ายินยอมเอ่ยคำสัตย์ตกลงตามนี้
ข้าจักยินยอมรับในเงื่อนไขของเจ้าเช่นกัน" นัยย์ตาทมิฬจ้องมองตรงไปสู่ใบหน้าหวานอย่างรอคอยคำตอบ
"ถ้าท่านไม่ทำอะไรแปลกๆข้าก็ไม่หนีหรอก"
เอเลนมองอย่างคาดโทษจอมมาร
ทั้งการตั้งครรภ์ทั้งเรื่องปรสิตที่ฝังในตัวเขา
ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ที่เขาเคารพ ศรัทธามาก่อนคงได้มีการเอาคืนให้สาสมหลายเท่านัก
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะกลับไปยังสวรรค์จัดการเรื่องทั้งหมดตามที่เจ้าต้องการเอเลน"
มหาเทพหนุ่มลูบไล้แก้มใสของร่างโปร่งพลางถอนหายใจอย่างเสียดาย
"เจ้าไม่อยู่ข้าคงคิดถึงเจ้านัก"
เอลวินจุมพิตลงบนหน้าผากมนของเด็กหนุ่มเป็นการอำลา
มหาเทพมองสบตากับจอมซาตาน
ไร้ซึ่งคำกล่าวใดๆ แต่ทั้งสองก็เข้าใจกันได้ว่ามหาเทพต้องการฝากฝังเอเลนที่ราวกับลูกชายสุดที่รักเช่นเดียวกับสายตาของรีไวที่จ้องกลับว่ารำคาญกับสิ่งที่เขาต้องทำอยู่แล้ว สองปีสีขาวพิสุทธิ์กางออกก่อนร่างของมหาเทพจะจากไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่พริบตา
เอเลนรู้สึกใจหายเมื่อมหาเทพได้จากไป
มือเล็กๆของบุตรียกแตะที่แก้มของมารดา
นัยน์ตาของทั้งคู่จ้องสบกันก่อนจะยิ้มบางให้แก่กัน
"ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้"
เอเลนหันไปหาซาตานหนุ่มที่ยังยืนมองอยู่ไม่ห่างกาย
"ท่านทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ต้องรับผิดชอบด้วยนะครับท่านรีไว"
ใบหน้าหวานยิ้มอบอุ่นให้กับจอมมาร แก้มใสขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมายที่เขายิ้มจากใจให้กับชายตรงหน้า
พอคิดแบบนี้แล้วอกซ้ายก็รู้สึกระส่ำแปลกๆจนประหม่า
ใบหน้ามนจึงเบือนหลบสายตาคมจ้องมองไปที่บุตรีตัวน้อยแทน
"ว่าแต่ท่านจะตั้งชื่อลูกเออ....ล....ลูก .....เออ..... ลูกของเราว่าอย่างไร"
ยังคงไม่คุ้นชินกับความรู้สึกที่ว่าเด็กน้อยนี้คือเมล็ดพันธุ์ของเขาและชายหนุ่ม
พอพูดแบบนี้แก้มที่ขึ้นสีอยู่แล้วจึงยิ่งขึ้นสีหนักขึ้นกว่าเก่าเป็นทวีคูณ
ดวงตาคมเบิกกว้าง
ริมฝีปากบางเฉียบอ้าออกน้อยๆ
ใบหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาอยู่เป็นนิจมีอันต้องเปลี่ยนแปลงทันใดด้วยการกระทำสุดคาดของเทวาที่รัก
ด้วยอดีตที่ผ่านพ้นก็ต้องยอมรับกับตนเองว่าก่อวีรกรรมชวนให้เอเลนชังอยู่ไม่น้อย
ทั้งทอดทิ้งไปแสนนาน พอมาคิดได้กลับใช้ทุกวิถีทางทั้งเล่ห์ทั้งกลทั้งมนต์คาถาเพื่อยึดเหนี่ยวเอเลนกลับมาสู่ตนอีกครั้ง
สิ่งที่เจ้าตัวดีกระทำเพื่อต่อต้านนั้นจึงไม่ได้เกินกว่าที่คาดคิดไว้
หากแต่การกระทำเมื่อครู่ช่างเกินความคาดหมายยิ่งนัก
เหมือนดั่งภาพฝัน....ช่างเป็นภาพที่งดงาม ทั้งรอยยิ้มสะเทิ้นอาย ใบหน้าหวานที่ซับสีเลือด
ตากลมโตที่หลุบลงอย่างเขินอาย ท่าทางที่เหมือนทำอะไรไม่ถูกเล็กๆ
จนในที่สุดก็ได้แต่เอาลูกน้อยเป็นที่พึงพิงทั้งจ้องมองและโอบอุ้มไว้มั่นในวงแขนบาง
อากัปกริยาเยี่ยงนี้จากเอเลนแต่กาลก่อนเค้าเคยได้รับมาตลอดจนเต็มอิ่ม
เป็นความเคยชิน เป็นเรื่องสามัญ จนเมื่อขาดไปจึงรู้ซึ้งถึงความโหยหา กระหาย
หรือแม้กระทั่งริษยามันผู้ใดก็ตามที่ร่างบางแย้มยิ้มให้
มาตอนนี้ทุกสิ่งที่เอเลนกระทำ ทุกวาจาที่ได้เอื้อนเอ่ยช่างมีค่ายิ่งนัก
หัวใจที่ตายด้านกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ช่างอบอุ่นเหลือเกิน
เอเลน...แสงสว่างแห่งข้า
"เจ้าเอเลน...เมียข้า....เอ่ยออกมาอีกครั้งจะได้หรือไม่
ให้ข้าได้ยินอีกครั้งจากปากของเจ้าประโยคก่อนหน้านี้..." คำขอถูกเอ่ยขึ้น
ร่างแกร่งตรงเข้าประชิดเมียรัก
มือใหญ่ตรงเข้าช้อนคางให้ใบหน้าหวานที่ก้มงุดมองตรงมาที่ตน
ขยับใบหน้าเข้าใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวและขาดห้วงของกันและกัน
กระซิบวอนขอย้ำอีกครั้ง "สบตาข้าเสีย
แล้วเอ่ยมันออกมาอีกครั้งเด็กน้อยของข้า"
"อ....เอ่อ.....ข...ข้า...."
นัยน์ตาสองสีพยายามหลุบหลบสายตาคมที่ทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหงื่อชื้นไหลซึมกาย ลมหายใจเริ่มติดขัด
ทั้งที่ทุกครั้งเขาควบคุมอารมณ์เเละความรู้สึกของตัวเองได้
เเต่บัดนี้กลับทำตัวไม่ถูกเมื่อตัดสินใจทำตามที่ปรารถนา
ราวกับหีบที่ปิดไว้ถูกไขเผยสิ่งที่ซ่อนไว้ออกมา
จุ๊บ
เสียงริมฝีปากสัมผัสกันดังลั่นเช่นเดียวกับเสียงหัวเราะขำของมือขวาของจอมมาร
เพราะเเทนที่จะเป็นริมฝีปากของเด็กหนุ่มจอมมารกลับได้จุมพิตกับบุตรสาวที่เขายกขึ้นมากั้นใบหน้าคมที่ใกล้เข้ามา
"ข้าคิดออกเเล้ว ชื่อ ริเอน่า เป็นอย่างไร"
ใบหน้าหวานหัวเราะกลบเกลื่อนพลางขยับกายถอยห่างเล็กน้อย
หลังจากชวดริมฝีปากสีสดน่าหลงใหลตรงหน้าไปสดๆร้อนๆ
ดวงตาถมึงทึงก็ถูกส่งไปให้มือขวาที่ยังหัวเราะสะใจไม่ดูเงาหัว
ใจก็อยากจะตรงไปประเคนฝ่าเท้าให้แว่นบนใบหน้าระรื่นนั้นแตกหักอยู่ใช่น้อย
แต่เมื่อเห็นบุตรีตัวน้อยจ้องมองมาตาใส ก่อนจะหัวเราะพร้อมโบกมือน้อยๆเล่นไปมา
ก็เล่นเอาคุณพ่อใจอ่อนยวบ ได้แต่คิดคาดโทษแม่ของลูกไว้ในใจ
คอยดูเสีย...ถึงคราเมื่อใดจักคิดทบต้นทบดอกให้คุ้มเลยเชียวเมียข้า...
ถอนหายใจตัดเสียดายก่อนก้มลงกล่าวหยอกล้อกับลูกน้อย
"เป็นไงลูกพ่อ
เจ้าชอบชื่อนี้หรือไม่ รีเอน่า...ช่างไพเราะนัก
บุตรแห่งข้าเจ้าผู้ครองยมโลกและเทวาแสนงามเอเลนแม่ของเจ้า
ช่างเป็นชื่อที่ลงตัวยิ่งนัก เจ้าหญิงของพ่อยามเมื่อเจ้าเติบใหญ่เจ้าจักเป็นราชินีที่ยิ่งใหญ่และเพรียบพร้อมอย่างแน่นอน"
"ราชินีโลกมืดน่าหดหู่จังนะครับ" เอเลนเบ้ปากเมื่อได้ยินสิ่งที่จอมซาตานกล่าวอ้าง
"ถ้ารีเอน่าโตกว่านี้เมื่อไรข้าจะขอท่านมหาเทพเอลวินให้รีเอน่าได้เรียนรู้เรื่องบนเเดนสวรรค์ด้วย"
นัยน์ตาสองสีมองหน้าจอมซาตานที่ทำหน้าหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ก่อนเทวาหนุ่มน้อยจะยกยิ้มเชิงหยอกล้อ
"ท่านควรให้บุตรีเลือกทางเดินของตนเอง
การบังคับในสิ่งที่นางไม่ต้องการอาจทำร้ายนางก็ได้"
ร่างโปร่งเขยิบเข้าใกล้จอมราชันย์เเห่งรัตติกาล มือบางจับมือหยาบของซาตานให้ช่วยประคองบุตรีตนน้อยที่อุ้มอยู่
ใบหน้าหวานมองใบหน้าของจอมมารที่พลันอ่อนลงกับสัมผัสอบอุ่นที่ถ่ายทอดจากมือ
"ให้นางเลือกชีวิตของนางเองเถอะ
เพราะการตัดสินใจเลือกของท่านเคยทำให้ใครคนหนึ่งเจ็บปวดท่านก็รู้มิใช่หรือ?" เอเลนประคองมืออีกข้างของรีไวให้ขึ้นมาสัมผัสกับเเก้มเนียนของตน
"ข้าอยากให้นางได้เลือกหนทางเเห่งความสุขของตัวนางเอง
เช่นเดียวกับที่ข้าเลือกตอนนี้
ผิดกับตาเเก่ใจร้ายอย่างท่านที่เลือกตนทางที่คิดว่าสมควร
เเต่สุดท้ายท่านก็ปล่อยความสุขเเละความปรารถนาที่เเท้จริงของท่านไปไม่ได้จริงไหมท่านจอมมาร?"
นัยน์ตาสีมรกตและสีราตรีส่งสายตาเย้ายวนก่อนริมฝีปากบางจะเลื่อนจุมพิตที่ฝ่ามือของจอมซาตานอย่างเเผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนไปสัมผัสกับริมฝีปากของจอมมารอย่างไม่หยี่ระ
ลิ้นเล็กลียสัมผัสกลีบปากของซาตานเบื้องหน้าที่เผยอปากออกอย่างยินยอม ตอบรับความรู้สึกที่ส่งผ่าน
ลิ้มรสหยาดน้ำหวานจากอีกฝ่ายอย่างยินดี เมื่อริมฝีปากที่คลอเคลียผลออก ใบหน้าหวานของเอเลนยกยิ้มขึ้นอีกครั้งก่อนจะโน้มเข้าไปใกล้จอมมารผู้เป็นที่รักและกระซิบแผ่วเบา
ด้วยเกรงว่าบุตรีจะได้ยิน
“ท่านรู้ไหมท่านรีไว..
แท้จริงแล้วข้าเองก็คิดถึงตัณหาที่เสพย์สมกับท่านเช่นกัน”
จอมซาตานหัวเราะขำในลำคอ
พลางกระชับเอวบางให้แนบชิดยิ่งขึ้น ดูเหมือนเขาต้องแต่งตั้งพี่เลี้ยงบุตรีโดยด่วน ถึงแม้ที่นี้ไม่ต้องสนใจเรื่องเวลา
และราตรีเป็นนิรันตร์ แต่กับเทวาแสนดื้อรั้นตรงหน้าคำว่านิรันตร์อาจไม่เพียงพอ เช่นเดียวกับราตรีที่แม้ไม่มีรุ่งส่างแต่ก็ไม่อยากปล่อยเวลาให้เลื่อนลอยอย่างน่าเสียดาย....
---จบเถอะ---
............................................................................................................................................
Talk:
มันคือมหากาก เอ้ย มหากาพย์ ฟิคข้ามปีข้ามชาติ จนตอนแรกก็คิดว่าจะปล่อยทิ้งไว้แค่นั้นค่ะ แต่รู้สึกหนาวๆร้อนๆ อาจด้วยแรงเชียร์(หรือความอาฆาต) ของคนอ่าน อิชุ้นกับคุณ S.Minjito จึงช่วยกันเข็นจนสรุปตามนี้ค่ะ ยาวมากๆ จนแบบ นี่ฟิคสดจริงๆเหรอเนี่ย?
แต่ก็ยืนยันว่ามันคือฟิคสดนะคะ ฮาๆ ฟิลลิ่งอาจมีข้ามไปบ้างเพราะนานมากแล้วจริงๆ
สำหรับนักอ่านที่รักทุกท่านจะได้ไม่ค้างคา คาใจ อิชุ้นทั้ง 2 นำมาถวายแล้วนะเจ้าคะ และคงไม่มีภาค 3 แล้ว... ไม่งั้นอาจต้องรออีกหลายๆปีแหะๆ ขอทลายไหที่มีในเข่งให้หมดก่อนน๊า
รักนักอ่านเช่นเคยค่ะ
ความคิดเห็น