ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เบื้องหลังสาวก๋ากั๋นตัวแม่
เชอร์รี่ขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถของผับชื่อดังที่เพื่อนของเธอได้นัดเอาไว้ หญิงสาวจัดการถอดเสื้อสูทออกไปให้เหลือเพียงเสื้อสายเดียวสีแดงด้านใน และเตรียมเปลี่ยนจากกระโปรงทรงเอสีกรมท่าเป็นกระโปรงยีนส์สีซีดที่เธอเก็บไว้ที่เบาะหลังรถ เชอร์รี่ตั้งใจจะอาศัยความมืดสลัวภายนอกและฟิล์มติดรถยนต์ที่ค่อนข้างมืด เปลี่ยนกระโปรงมันในรถเลย
หันซ้ายแลขาว โอเคไม่มีคน เชอร์รี่จึงรีบถอดกระโปรงและหันไปคว้ากระโปรงยีนส์ที่วางไว้มาใส่ แต่กระโปรงเจ้ากรรมดันหลุดมือร่วงตกไปข้างล่างแทน เธอพยายามเอื้อมมือลงไปหยิบแต่มันมืดมากจนมองไม่เห็น ประกอบกับรถของเธอมันรกมากเสียจนไม่รู้ว่ากระโปรงตัวเก่งมันร่วงไปอยู่ตรงไหน หญิงสาวหันซ้ายทีขวาทีอีกครั้ง
เอาวะ ไม่มีคนอยู่เปิดไฟแป๊บนึงคงไม่เป็นไร มือเรียวเล็กกดเปิดไฟด้านบนหลังคาก่อนจะโน้มตัวลงไปหยิบกระโปรงมาสวมอย่างรวดเร็ว
รพีขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของผับชื่อดังที่เพื่อนเขาเป็นเจ้าของได้สักพักแล้ว แต่เพราะเขาดันทำมือถือตกลงไปใต้เบาะที่นั่ง ทำให้เขาต้องเสียเวลาก้มลงหาอยู่นานกว่าจะเจอ
ก็มือถือมันเป็นปัจจัยที่ห้าไปแล้วนี่
ขณะที่รพีเตรียมตัวจะลงจากรถ ร่างกายของเขาพลันแข็งทื่อขึ้นมาเมื่อสายตาดันไปจ๊ะกับบั้นท้ายขาวๆ ที่สวมกางเกงชั้นในสีขาวรูปโดเรมอน เขารู้สึกอิจฉาเจ้าแมวสีฟ้านี้ขึ้นมาทันที หญิงสาวเจ้าของก้นงอนงามจอดรถอยู่ข้างรถของเขานั่นเอง รพีเห็นหญิงสาวเจ้าของกางเกงชั้นในลายโดเรมอนกำลังเอื้อมมือไปหยิบของบ้างอย่างด้วยท่าคุกเข่าอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับ
... แม่เจ้า ก้นขาวๆงอนๆของหล่อนน่าตีชะมัด ขอเห็นหน้าหน่อยเถอะแม่คู๊ณ ...
สมพรปากรพีทันที หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกระโปรงยีนส์ในมือ ด้วนรอยยิ้มดีใจ รพีแทบตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าขาวเนียนนั้น
เธอคือสาวประกันขี้วีนคนนั้นนี่นา
เพียงรพีได้สบตาหญิงสาวอีกครั้ง แม้หญิงสาวจะมองไม่เห็นเขาก็ตาม ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่า เวลาที่ห่างกันยังไม่ถึง 24ชั่วโมง เขาและเธอบังเอิญเจอกันบ่อยเกินไปหรือเปล่า มันจะเป็นแค่เพียงความบังเอิญ ใช่ไหม?
เชอร์รี่แต่งตัวอย่างเร่งรีบ แล้วเดินจ้ำเข้าไปในผับอย่างรวดเร็ว รพีจึงค่อยลงจากรถและเดินตามเข้าไปเงียบๆ
“อ้าว เชอร์รี่ ไหนแกว่ารถชนไง ไมมาถึงเร็วจัง” เสียงเป้ เพื่อนชายใจหญิงทักทายขึ้นเมื่อเชอร์รี่นั่งลงบนโซฟาข้างๆตัว
เป้ ชายร่างยักษ์ที่รูปร่างสามารถฆ่าควายให้ตายได้ด้วยมือเปล่า แต่จริงๆ ข้างในจิตใจมีหญิงสาวผู้อ่อนแอสิงอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวคิดอยู่เสมอ
“อ๋อ บังเอิญคู่กรณีเขารีบนะ จะให้ประกันมาเคลียร์พรุ่งนี้แทน”
“อ้าว แล้วแกไม่กลัวเขาเบี้ยวเหรอ เกิดเขาไปติดต่อแกมา อีแก่ของแกไม่ต้องมีตำหนิที่บั้นท้ายไปตลอดอายุขัยของมันเหรอยะ”
“แหม ดูแกจะห่วงรถของฉันจริงๆเลยนะ แต่เป้ แกไม่ต้องกังวลไป เพราะนี้น้องไอได้ทำหน้าที่นี้ เรียบร้อยแล้ว” เชอร์รี่พูดพลางยื่นโทรศัพท์ไอโฟนให้เพื่อนๆดูรูปภาพที่เธอได้ถ่ายเอาไว้
“ฉันถ่ายรูปไว้หมดแล้ว ติดป้ายทะเบียนด้วย ก็ลองเบี้ยวดูสิ จะได้รู้ฤทธิ์สาวเชอร์รี่ดู ฮ่ะฮ่ะฮ่า”
“ฉันก็ว่า อย่างเชอร์รี่ มีหรือจะยอมถอยมาง่ายๆ” น้อยหน่าพูดขึ้นเมื่อฟังเสียงหัวเราะอย่างสะใจของเชอร์รี่
กลุ่มสาวๆ ต่างพูดคุย เมาท์กันไปเรื่อยเปื่อย นานแล้วเท่าไหร่แล้วเธอเองก็จำไม่ได้ ที่เชอร์รี่ไม่ได้ออกมาเที่ยวสังสรรค์แบบนี้ พอเป้โทรชวนนัดสังสรรค์ในวาระอยากดื่มแห่งชาติ หญิงสาวจึงรีบตกลงทันที ส่วนเพื่อนๆที่มาก็เป็นเพื่อนสนิทกันทั้งนั้น แม้หลังจบจากมหาวิทยาลัยไปแล้ว ต่างคนต่างไปทำงานของตัวเอง แต่พอมีเวลาว่างก็ยังนัดพบปะสังสรรค์กันเป็นประจำ เชอร์รี่หมายมั่นว่าวันนี้จะปลดปล่อยความเครียดที่คั่งค้างเสียหน่อย
เวลาผ่านไปพร้อมจำนวนแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดื่มไปหลายแก้ว ความมึนเมาที่ไหลเวียนในร่างกายก็เพิ่มมากขึ้น เพลงแดนซ์ถูกดีเจหนุ่มเสียงใสเปิดอย่างต่อเนื่อง ทุกคนลุกขึ้นเต้นกันอย่างสนุกสนาน เชอร์รี่ยืนเต้นข้างเพื่อน เธอจับไหล่เป้หันหน้าเข้าหากันโยกย้ายไปตามจังหวะแดนซ์ของเพลง ความเมามันส์บวกแอลกอฮอล์ทำให้ท่าเต้นยิ่งยั่วยวนมากยิ่งขึ้น เธอกล้าเต้นแบบนี้เพราะว่าคู่เต้นเธอ....มันเป็นกระเทย.... ยั่วไปยังไงมันก็ไม่มีอารมณ์ขึ้นมาหรอก มีแต่มันจะเต้นยั่วกลับล่ะสิ มีหรือคนอย่างอีเป้จะยอม นี่ถ้าวันนี้ไม่ติดว่าแต่งชายมาซะเต็มยศนะ แม่คงขึ้นไปเต้นบนโต๊ะสะบัดวิกให้หัวหลุดกันไปข้างแล้ว
สายตาคมกริบคู่นึงมองจากโต๊ะไกลๆนั้น เห็นรางๆเพียงผู้หญิงสายเดียวสีแดงเต้นยั่วผู้ชายข้างๆตัวเท่านั้น รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นเมื่อเห็นร่างทั้งสองกอดเกี่ยวกันกลม รพีหันไปมองน้อยหน่า น้อยสาวตัวดีที่แอบหนีมาเที่ยวกับเพื่อน ไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวของเขาจะคบกับเพื่อนผู้หญิงแบบแม่สาวเสื้อแดงนั้น กลัวจริงๆว่ายัยน้อยหน่า น้องน้อยของเขาจะไปติดเอานิสัยไม่ดีมา สงสัยกลับบ้านต้องเรียกคุยสักหน่อยแล้ว
เสียงเพลงเริ่มผ่อนจังหวะลงเป็นเพลงช้า เวลานี้แหละที่ขาแดนซ์จะนั่งพักเอาแรงและเมาท์กันตามประสา ยิ่งดึกเรื่องเมาท์ก็ยิ่งลงใต้ไปเรื่อยๆ
“เชอร์รี่ เมนส์ฉันไม่มาเลยอ่ะ ได้สามอาทิตย์แล้วด้วย แกว่าฉันจะท้องไหมว่ะ” พิมหันไปถามเชอร์รี่
เชอร์รี่เกือบสำลักน้ำหมักยอดข้าวออกมาเมื่อได้ยินคำถาม
...ฉันจะรู้ไหมเนี้ย ไมแกไม่ไปหาหมอสูติวะ สักครั้งฉันยังไม่เคยเลย.... เชอร์รี่ก็ได้แต่คิด พยายามทำสีหน้าเหมือนรู้ดีเป็นที่สุด และใช้สมองน้อยๆนึกถึงบทความที่เคยอ่านจากนิตยสารคอสโมมาตอบ
“แล้วพิมซื้อที่ตรวจครรภ์มาลองตรวจหรือยังอ่ะ”
“ยังเลย ไม่กล้าว่ะ กลัวท้อง”
“อ้าว กลัวท้องแล้วตอนทำไมไม่ป้องกัน” คนเรานี้ก็แปลกกลัวท้องแต่ไม่ป้องกัน
“ก็ป้องกันนะ แม๊กซ์บอกว่าวิธีนี้ไม่ท้องแน่นอน” พิมตอบคำถามอย่างใสซื่อ
“มันทำไงเหรอ” ยังจะกล้าถามเนอะ เรื่องบนเตียงของเขา เราก็สอดอยากจะรู้ คนถามก็อาย คนที่นั่งรอฟังอีกสามคนก็อาย แต่แอบอายนะ ไม่อยากให้ใครรู้ เดี๋ยวเขาจะหาว่า อ่อน แต่ในกลุ่มนี้ยกให้น้อยหน่าคนเดียว เธอเป็นเหมือนน้องน้อยของเพื่อนๆ ทุกคนประคบประหงมเธอและปกป้องจากผู้ชายอันตรายทั้งหมด เพราะฉะนั้น การที่น้อยหน่าหน้าแดงอ้าปากค้างกับประโยคทันมาจึงเป็นเรื่องปกติ
“ก็.......แบบว่า...เสร็จนอก” แหม นี้ก็กล้าตอบ
สมองเชอร์รี่เริ่มค้นหาข้อมูลอีกครั้ง ไอ้เสร็จนอกนี้มันคืออะไรว้า แล้วเธอก็แทบอยากจะตะโกนด่าเพื่อนจริงๆ เมื่อนึกได้ว่ามันคืออะไร
“แกบ้าหรือเปล่า มันไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์นะ ฉันว่าทางที่ดี แกไปซื้อที่ครรถ์มาตรวจเลย ตรวจตอนเช้านะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนสูงที่สุด ผลมันจะได้ออกมาชัดเจนหน่อย แล้วครั้งต่อไปถ้าจะมีอะไรกัน แกต้องให้มันใช้ถุงเท่านั้น ถ้ามันไม่ใช้ แกอย่ายอม” เจ้าแม่กูรู แนะนำพร้อมสั่งสอนเสร็จสรรพ เธอนี้มันเจ้าแม่ทฤษฏีตัวจริงเลย
หลังแก้ปัญหาให้พิมไปแล้ว คำถามจากเพื่อนคนอื่นๆก็ประดังเข้ามาอย่างกับห่าฝน ในกลุ่มเพื่อนเชอร์รี่เป็นดังเจ้าแม่กูรูเรื่องเซ็กซ์ทีเดียว ทั้งที่ตัวเธอเองอยากจะตะโกนออกไปให้ลั่นผับว่า
...กูยังไม่เคยเลย ที่ให้คำปรึกษาไปเนี้ยทฤษฎีล้วนๆ... แต่จะพูดตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว มีหวังได้โดนเพื่อนด่ากลับว่า สตอ แน่นอน เพราะเรื่องนี้มันเริ่มเข้าใจกันผิดมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยปีสองแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อมหาลัยปีสอง เชอร์รี่ได้คบกับรุ่นพี่ผู้ชายหล่อล่ำหุ่นนักบาสทรมานใจน้องใหม่คนหนึ่ง คบกันได้สักพักก็มีข่าวลือมาเข้าหูเธออยู่บ่อยๆว่า ตัวเธอเองได้มีอะไรไปถึงขั้นไหนๆกับรุ่นพี่คนนั้นแล้ว บางกระแสบอกว่า เธอทำตัวแข็งเป็นท่อนไม้บ้างล่ะ บ้างก็ว่าเธอร้อนแรงเหมือนภูเขาไฟฟูจิระเบิดบ้างล่ะ และด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอทำให้เหล่าบรรดาหนุ่มๆในคณะต่างคิดว่าเธอเป็นดังคำร่ำลืออย่างหลังแน่นอน
แรกๆเชอร์รี่ไม่ได้สนใจเสียงคำนินทาสักเท่าไหร่ เธอคิดว่าเดี๋ยวคนก็คงจะลืมกันไปเอง แต่พอนานวัน รุ่นพี่ที่คบก็เริ่มรบเร้าอยากจะขอมีอะไรด้วย เชอร์รี่ค้านหัวชนฝาว่าไม่ยอมเด็ดขาด เห็นแบบนี้เธอออกจะหัวโบราณหน่อยๆด้วย เธอยื่นคำขาดให้รุ่นพี่ว่า ถ้ารักกันจริงให้รอจึงถึงวันแต่งงานเท่านั้น พูดครั้งแรกรุ่นพี่ก็เหมือนจะเข้าใจ แต่พอหลายๆครั้งเข้า กลับทำตัวเหมือนคนหูหนวก สมองนิ่มซะงั้น พูดอะไรไปก็ไม่ยอมฟัง จะเอาท่าเดียว จนเธอทนไม่ไหวบอกเลิกมันเสียเลย
จนกระทั่งวันหนึ่งที่น้อยหน่ามาบอกว่าเธอได้ยินรุ่นพี่ที่เชอร์รี่เคยคบกำลังคุยกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่ข้างสนามบาสเรื่องเธอ เพียงน้อยหน่าเล่าถึงข้อความบางส่วนที่ได้ยินเท่านั้น เธอโกรธจนควันออกหูทีเดียว ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยรู้สึกโกรธเกลียดใครเท่านี้มาก่อน
น้อยหน่าพยายามห้ามไม่ให้เธอไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ จะไปสู้อะไรกับผู้ชายหุ่นนักบาลได้ ดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าใครกันแน่ที่จะเจ็บตัว แต่ช้าไปเสียแล้ว ความโกรธมันมาเร็วเคลมเร็ว
เชอร์รี่เดินเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังรุ่นพี่ผู้โชคร้ายคนนั้น เธอได้ยินเต็มสองรูหูว่ามันเมาท์เธอว่าได้เสียกับมันมาไม่รู้กี่รอบ แข็งเป็นท่อนไม้ ตายด้านแบบนี้รักไม่ลงจึงตัดสินใจเลิกกันไป ใครบอกว่าผู้ชายไม่ชอบเมาท์ เชอร์รี่ขอเถียงขาดใจเลย ไอ้คนเมาท์ก็ไม่ได้สังเกตอาการเพื่อนร่วมวงเลยว่าแต่ละคนนิ่งเงียบ ไม่มีแสดงความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังคุยกันสนุกปากอยู่เลย
มือเรียวเล็กบีบเข้าไปไหล่หนาของรุ่นพี่แทบด้วยการจิกเล็บลงไป เพียงเสี้ยววินาทีที่เขาหัดมา กำปั้นหนักๆก็ต่อยเข้าไปเต็มเบ้าตา รุ่นพี่หงายหลังไปนอนกับพึ้นทันที เชอร์รี่ไม่รอช้าเตะเข้าไปที่กล่องดวงใจของเขาแบบเต็มแรง
“ไหน!! บอกว่าฉันเป็นท่อนไม้เหรอ ตายด้านเหรอ” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวกระหน่ำบาทาลงไปใส่รุ่นพี่ดังอั๊กๆๆ
“รุ่นพี่ต่างหากที่เป็นนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ เรือล่มปากอ่าวทุกที แถมขนาดที่ไม้จิ้มฟันยังเรียกพี่ แบบนี้ ใครมันจะไปทนคบไหว กล้าพูดออกมาได้ว่าเป็นคนขอเลิกฉัน แล้วเมื่อวาน หมาตัวไหนที่มันมาร้องไห้ฟูมฟายตอนที่ฉันบอกเลิก อย่าให้ได้ยินอีกนะว่าเอาฉันไปพูดเสียๆหายๆ ระวังไอ้หนูของพี่ไว้ให้ดีเถอะ จากที่มันเล็กอยู่แล้วมันจะไม่เหลือเลย” เธอทิ้งท้ายไว้อย่างขู่อาฆาต หลังจากวันเป็นต้นมา นอกจากรุ่นพี่ที่เข้าไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแล้ว พวกผู้ชายก็ต่างกลัวเธอกันหมด ทำให้เธอไม่เคยมีแฟนใหม่อีกเลยตลอดการเรียนมหาลัย แถมเพื่อนๆ ยังเข้าใจผิดว่า เชอร์รี่โดนไปแล้ว
....ฉันยังบริสุทธิ์อยู่โว๊ย....
-------------------------------------------------------------------------------------
“วันเสาร์นี้ น้อยหน่าจัดงานวันเกิดที่บ้าน อย่าลืมไปกันด้วยนะ” เสียงใสชักชวนเพื่อนก่อนเตรียมตัวขอกลับก่อน หลังจากได้sms จากพี่ชายว่ามารอรับอยู่หน้าผับแล้ว น้อยหน่าได้แต่เซ็งอารมณ์ เธอมองดูนาฬิกา พึ่งจะห้าทุ่มครึ่ง พี่ชายสุดเฮี้ยบก็เตรียมรอรับกลับบ้านเสียแล้ว พี่ชายชอบเป็นแบบนี้ทุกที ไม่ว่าเธอจะไปปาร์ตี้ที่ไหน ร้านไหน หรือแม้กระทั่งที่บ้านของใคร พี่ชายของเธอเป็นต้องรู้ไปซะหมด แถมยังคอยตามมารับกลับบ้านทุกที น้อยหน่ายังไม่เคยได้กลับบ้านหลังเที่ยงคืนเลยสักครั้ง คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ตำแหน่งราชินีคานทองลอยมาแต่ไกลเลย...
“อารายกาน...ยังไม่เที่ยงคืนเลยอยู่ด้วยกันก่อนสิน้อยหน่า นะนะนะนะ” เชอร์รี่อ้อนเพื่อนด้วยน้ำเสียงค่อยข้างเมา เธอคว้าแขนเพื่อนไว้เอามากอดแน่น ท่าทางไม่ยอมให้กลับก่อนแน่นอน
“ไม่ได้หรอกเชอร์รี่ พี่ชายมารอแล้ว ถ้าออกไปช้าเดี๋ยวโดนบ่นเอา”
“หน่าย ครายกานที่มันกล้าทำเพื่อนฉาน พาไปหาเลยนะ เดี๋ยวแม่รี่จัดกานเอง”
“ฮ่ะฮ่า ฉันกลัวว่าแกต่างหากที่จะถูกจัดการ” น้อยหน่าขบขันกับท่าทางของเชอร์รี่ เวลาเมาทีไรเป็นแบบนี้ทุกที เชอร์รี่ลุกพรวดขึ้นแล้วฉุดมือน้อยหน่าให้ตามมา
“เดี๋ยวฉานจะไปคุยกะพี่ชายแกเอง”
น้อยหน่าได้แต่ส่ายหน้าให้ความดื้อรั้นของเพื่อน ปกติก็พูดไม่ค่อยจะฟังอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้มีอาการเมาแถมมาด้วยอีก แม่ลุยดะอย่างเดียว
รพีนั่งรอน้องสาวอยู่ในรถสปอร์ตคันหรู ชายหนุ่มไม่อยากให้น้อยหน่ารู้ว่าเขาได้ตามไปนั่งเฝ้าน้องสาวถึงในร้าน แค่มารับกลับบ้านน้องเขาก็บ่นจะแย่ รพีเป็นพี่ชายที่ค่อนข้างหวงน้องสาว(มาก)คนนึง เพราะเขาเป็นผู้ชายที่มีเพื่อนเป็นเพลย์บอยมากมาย จึงรู้ดีว่าสันดานผู้ชายเจ้าชู้นะมันเป็นยังไง น้องน้อยหน่าของเขายิ่งซื่อๆอยู่ตามไม่ทันมารยาผู้ชายหรอกเขาจึงต้องปกป้องเธอจากไฮยีน่าหื่นทั้งหลาย ถ้าไม่ดีจริงอย่างหวังจะได้ดองกับเขาเลย
ก๊อก ก๊อก...เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น รพีหันไปลดกระจกลง ชายหนุ่มหันมองหน้าน้องสาวที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ข้างหลังสลับกับคนที่ยื่นหน้าเขามาในรถเขาทันทีที่กระจกรถเลื่อนลง รพีสบตาดวงตาคู่หวานหยาดเยิ้มที่มองมาตรงๆ วงหน้าของเจ้าของดวงตาแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ริมฝีปากบางแต้มสีชมพูบางๆมีรอยยิ้มเย้ายวน ชายหนุ่มแอบกลืนน้ำลายเมื่อริมฝีปากแสนเซ็กซ์ซี่นั้นเผยอขึ้น
ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าลำคอแห้งผากแบบนี้ ... ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อยเพื่อลดความอึดอัดที่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นกะทันหัน
“คุณพี่ชายขา ทำไมวันนี้มารับเร็วจังล่ะคะให้น้อยหน่าอยู่ต่ออีกแป๊บไม่ได้เหรอ” เชอร์รี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“เออ....ไม่ได้หรอกครับ เพร....”ยังไม่ทันที่รพีจะพูดจบ เสียงแจ๊วๆก็ดังสวนขึ้นมาแทน
“โอ๊ย ไม่อาวอ่ะ เค้าไม่อยากฟังคำปฏิเสธอ่ะ พี่ชายสุดหล่อ สุดเทห์ ให้น้อยหน่าเที่ยวต่อกะเชอร์รี่อีกแป๊บได้ไหมคะ” คราวนี้เชอร์รี่เกาะขอบหน้าต่างรถด้วยมือสองข้าง วางดวงหน้าเกยบนมือ พร้อมกระพริบตาปริบๆ ด้วยสายตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์ จนคนถูกอ้อนกลั้นหัวเราะแทบไม่ไหวเธอทำท่าคล้ายอัศวินแมวในหนังการ์ตูนเชร็คเลย
“พอแล้วเชอร์รี่ เดี๋ยววันเสาร์ก็เจอแล้ว ค่อยไปต่อหลังปาร์ตี้วันเกิดก็ได้”
“ม่ายอาวอ่ะ นั้นมันวันเสาร์ แต่นี้มันวันนี้ คนล่ะวานกาน”เชอร์รี่หันไปทำเสียงงอนสะบัด
“เชอร์รี่เมามากแล้วนะ เดี๋ยวน้อยหน่าไปส่งบ้านดีไหม”
“ง่ะ เค้ายังไม่อยากกลับอ่ะ เค้าเหงา” สาวแสนงอนสะบัดหน้าไปมา ปากยื่นน้อยๆ ท่าทางนั้นทำให้รพีรู้สึกว่าเธอช่างน่ารักมากกว่าเซ็กซ์ซี่เสียอีก
น้อยหน่าหันหามาสบตาพี่ชายอย่างขอความช่วยเหลือ รพีได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้จะทำยังไงดี แล้วอยู่ๆ สาวเชอร์รี่รีบเอามืออุดปาก คล้ายจะอยากอาเจียนออกมา น้อยหน่ารีบเข้ามาประคองเตรียมจะพาเพื่อนไปอ้วกที่อื่น แต่ไม่ทันเสียแล้ว รพีร้องเหวอเสียงดังลั่นเมื่ออยู่ๆ อ้วกอุ่นๆก็พุ่งลงมาเต็มหน้าตักตัวเอง
เอิ๊กกก...
นอกจากอ้วกจะเต็มกางเกงแล้ว หญิงสาวที่รพีคิดเมื่อกี้ว่าแสนจะน่ารักยังแถมเสียงและกลิ่นมาให้ด้วย พอรู้สึกสบายท้องเธอก็ยิ้มอวดฟันขาวหลายซี่
ยังมีหน้ามายิ้มเฉ่งอีก
รพีส่ายหัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว วันนี้มันเป็นวันโลกาวินาศของเขาอย่างแท้จริง นอกจากโดนอ้วกใส่แล้ว หญิงที่เมื่อครู่ยังเรอใส่หน้าเขาอีก และที่สำคัญยัยน้องตัวดียังบังคับให้เขาอุ้มเธอขึ้นรถไปด้วยอีก นี้รถเขามันรถสปอร์ตสองที่นั่งนะ ถ้าเอายัยอ้วกขึ้นรถแล้วน้องสาวเขาจะนั่งไหนล่ะ น้อยหน้ารีบตอบเมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชาย
“เดี๋ยวน้อยหน่าจะขับรถเชอร์รี่ตามไปเองคะ” พูดเสร็จเธอรีบแจ้นไปที่รถเชอร์รี่ที่จอดข้างรถของพี่ชายตนทันที ทิ้งให้เขาต้องนั่งรถดมกลิ่นอ้วกไปตลอดทางกลับบ้าน มันช่างเป็นคืนที่ยาวนานสำหรับเขาจริงๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น