ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ficsj ki-hae]The Vampire Dark Moon

    ลำดับตอนที่ #3 : [EP1.1 ] Tale (แก้ไขบางส่วน)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 53


      
                                           Tale

                                 

                           
                          ในวันอากาศสดใสที่มีหมู่มวลนกและสัตว์ต่างๆร่าเริงและส่งเสียงอย่างสดใสทำให้ฟังแล้วเกิดอารมณ์สุนทรีเป็นยิ่งนัก เหมาะกับการออกมาปิคนิคกลางป่าหรือเดินทางไปพักร้อนกับครอบครัว

                      หากแต่ยังมีครอบครัวหนึ่งที่ยังอยู่กับบ้านอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาบ้านหลังเล็กๆห่างไกลผู้คนและสงบเป็นที่สุดอาศัยอยู่กับป่าและสัตว์ป่าทั้งหลาย 

                      "แม่ฮะ เดี๋ยวผมจะออกไปเล่นข้างนอกนะฮะ^O^"เสียงของเด็กชายวัยห้าขวบขออนุญาติผู้เป็นแม่ไปเล่นข้างนอกด้วยน้ำเสียงสดใสที่เป็นอยู่ประจำ

                      "ไปคนเดียวงั้นเหรอ?"คนเป็นแม่ถามแล้วขมวดคิ้วมุ่นด้วยความเป็นห่วงลูกก็แค่ห้าขวบแต่แสนจะสนจะปล่อยให้เล่นคนเดียวข้างนอกมันน่ากลัวกว่าที่คิดเยอะนัก  "ให้พี่แจจุงออกไปด้วยแล้วกันนะ"     

                       "ก็ได้ฮะ ^3^" เสียงใสตอบด้วยหน้าตาเบิกบานก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนบ้านสไตล์ยุโรปเพื่อไปเรียกผู้เป็นพี่ชายในใจก็คิดแต่ว่า'ถ้าหมาป่ามาพี่แจจุงน่ะแหละจะวิ่งคนแรก...= =' '                 
                         
                       "ก็อกๆๆๆ!!! พี่แจจุง แม่ให้ไปเล่นข้างนอกเป็นเพื่อนผม -3-"    เสียงใสกรอกเสียงลงไปทั้งๆที่ประตูยังไม่เปิด  "พี่แจจุงแม่สั่ง =3=" ได้ผล!!ถ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์คงร้อง
    ยูเรก้า!!  เมื่อทดลองอะไรต่างๆสำเร็จ ประตูห้องเปิดออกให้เห็น เด็กชายหน้าใสราวกับเด็กหญิงวัยแปดปี
     
                      "รู้แล้วน่า! ชิ" ผู้เป็นพี่ชายสบถออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แทนที่จะได้นอนสบายๆอยู่ข้างบนแท้ๆ
       
                       "พาซองมินไปด้วยนะลูก!!!"ผู้เป็นแม่ตะโกนออกมาจากชั้นล่างเพื่อให้ลูกชายทั้งสองไปอุ้มน้องคนเล็กออกไปเดินสูดลมกินบรรยากาศที่ไม่ใช่กลิ่นขนมอบและกลิ่นขี้เถ้าจากเตาผิงในบ้าน

                       เด็กชายสองคนมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่เบาๆให้กัน"ทำไงได้ก็แม่สั่งนี่"แจจุงบอกกับน้องชายก่อนที่น้องชายจะพยักหน้าเห็นด้วย

                       เมื่อทั้งสองคนไปอุ้มน้องชายและเดินลงมาชั้นล่างก็เดินมาหาผู้เป็นแม่โดยไม่ได้สังเกตุเลยว่าสีหน้าของผู้เป็นแม่นั้นหม่นหมองและเศร้าขนาดใหน

                       "แม่กับพ่อรักลูกนะจ๊ะ รีบไปได้แล้วลูก อ้อ!! อ่ะนี่ขนมผิงแล้วก็กับข้าว แม่ห่อให้ไว้ไปกินตอนที่เล่นกันเหนื่อยๆ เย็นๆค่อยกลับนะลูก^_^"ผู้เป็นแม่บอกก่อนจะรวบตัวลูกทั้งสองคนโดยมีอีกคนไว้ในอ้อมแขนมากอด

                       "อย่าลืมนะแจจุง ลูกต้องทำตามสัญญาที่เคยให้กับแม่ไว้เสมอ"ผู้เป็นแม่พูดก่อนจะลูบหัวลูกชายคนโตอย่างเอ็นดู

                       "ผมจะดูแลน้องๆให้ดีที่สุดครับ^^!!~"ไม่ค่อยจะจริงใจเลย= =' จะมีใครเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่บ้างใหม? ผู้เป็นแม่รีบเช็ดน้ำตาอย่างว่องไวก่อนจะหันไปแสร้งล้างจาน

                        "ไปได้แล้วลูก"








                              เด็กชายหน้าสวยทั้งสามคนเดินมาจนถึงจุดที่คิดว่าเหมาะสำหรับปิคนิคเล็กๆของสามคนพี่น้องแจจุงยังคงคิดอยู่ว่ามันน่าแปลกที่แม่ให้พวกเขามาที่นี้กันเองโดยลำพังได้ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากเพราะบางทีอาจคิดว่าแจจุงจะดูแลน้องๆได้แล้ว ถ้าหากตนจะต้องหายไป ตลอดกาล

                           "ซองมินนี่!!! เอาบอลพี่มานะ!!!"เสียงของทงแฮที่แย่งลูกบอลลูกเล็กๆที่น้องวัยหนึ่งขวบแย่งไป "เด็กสี่ขวบจริงเปล่าวะเนี่ย นิสัยเสีย -3-"พอแย่งน้องไม่ได้ก็พาลมันซะอย่างนั้น

                           "ฮะๆ เด็กสี่ขวบอย่างพวกเราน่ะอย่างเนี่ยก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ศักยภาพมากกว่ามนุษย์ธรรมดา"แจจุงพูดก่อนจะแกะกล่องขนมผิงป้อนน้องชายคนเล็กที่ในมือยังคงมีลูกบอลลูกเล็กๆอยู่

                           "เหอะ! พี่เลียนแบบพ่อนี้"ทงแฮพูดอย่างรู้ทันก่อนจะได้รับมะเหงกไปหนึ่งทีโทษฐานรู้ทัน- -'

                           "เออ!!" พี่ชายยอมรับเสียงไม่ค่อยพอใจก่อนจะทำแก้มพองลม จนมันน่ารักเกินเด็กผู้ชายไปแล้ว

                            "แปลกนะ! พี่ว่ามันแปลก"แจจุงพูดก่อนจะค่อยๆล้มตัวลงนอนโดยลืมน้องชายที่กำลังกินขนมผิงโดยที่ยังกลืนไม่เสร็จ- -' แล้วจะล้มตัวลงนอนตามพี่ชาย

                           "แค่กกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!"นั้นไง มันเลยติดคอ 

                            "เอ้าๆๆๆๆๆ ซองมินเฮ้ย == '"ทงแฮพูดก่อนจะยัดน้ำเข้าปากน้องเพื่อไม่ให้ติดคอ- -'

                               ใครจะรู้อะไรว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากแค่ใหนตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มแก่จนสามพี่น้องตระกูลลีลืมซะสนิทว่าตัวเองมีบ้านที่ต้องกลับ- -'  "ตายแล้วแม่ต้องควันออกหูแน่ๆเลย>o<"








                         แต่เวลาที่มีความสุขมากมันมักจะมีเรื่องเลวร้ายมาคั่นกลางเสมอขึ้นอยู่กับว่าคุณคิดว่ามันเป็นฝีมือของใคร และสิ่งเลวร้ายที่คุณเจอมันร้ายแรงมากแค่ใหน?

                         แจจุงค่อยๆเอื้อมมือไปเปิดประตูอย่างช้าๆเพราะว่ากลัวว่าแม่จะด่าที่พาน้องๆกลับซะค่ำมืด ถ้าให้เดาคงจะยืนเท้าเอวและมีไม้เรียวอยู่คามือแน่เลย แต่ถ้าทางจะเดาผิด!! และผิดมหันต์ซะด้วย

                         ภาพที่เคยเห็นจนชินตาหากกลับช้า บ้านที่สวยงามที่อยู่มาตั้งแต่เด็ก ภาพที่มีสมาชิกครอบครัวห้าคนอยู่ด้วยกันในบ้าน มันกำลังจะจางหายไป โดยแขกที่มาเยือนทำให้ภาพที่เห็นเป็นประจำกลายเป็นสภาพของศพที่ถูกฉีกชิ้นส่วน แม่ พ่อ กลายเป็นศพที่อาบไปด้วยเลือด

                        "อึ้ก!"เสียงของน้องชายคนเล็กที่แม้ไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็สัมผัสได้  แขกที่ทำให้พ่อกับแม่ของพวกเขาต้องตาย เป็นเผ่าพันธ์ที่น่าขยะแขยงอย่างมนุษย์หมาป่า   แจจุงรีบวางซองมินลงแล้วเดินมาเอาตัวบังน้องๆไว้เมื่อเห็นหมาป่าตัวหนึ่งหันมาทางพวกเขา

                        "อย่าทำอะไรน้องฉันนะถ้าเข้ามาแกตายแน่!!! ฮึกฮึก"พูดด้วยเสียงแข็งกล้าวก่อนจะมีสะอื้นเล็กน้อยเมื่อหันไปเจอเพียงขี้เถ้าของพ่อและแม่ แน่นอนแวมไพร์น่ะเมื่อถูกฉีกเป็นชิ้นโดยมนุษย์หมาป่าแล้วมันก็จะเหลือเพียงขี้เถ้าเท่านั้น

                         "หึ ตัวแค่เนี่ยจะทำไรได้ ไปอยู่กับพ่อแม่ของแกแล้วกัน!!!" หมาป่าตัวนั้นพูดก่อนจะทำให้ตัวที่เหลือหันมาแล้วกำลังจะกระโจนเข้ามา.....







                          "เฮือก !!!!"ผมฝันแบบนี้อีกแล้ว 107ปีที่ผ่านมามันไม่เคยทำให้ผมลืมความทรงจำนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

                         "ลี ทงแฮ ตอบคำถามข้อนี้ซิ!"ครูสาวประจำวิชาพูดก่อนจะชี้ไปโจทย์ข้อที่ให้ผมจะตอบ ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะ 

                         "ศูนย์ไงครับ"ผมตอบแค่นั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาเพราะหมดคาบพอดิบพอดี นักศึกษาร่วมห้องของผมปรบมือกันเกลียวกาวให้กับความสามารถหลับแต่ทำได้ของผม  

                              ผมลี ทงแฮนักศึกษาปีหนึ่งอายุ 112  ปีแต่ผมใช้ในการดำเนินชีวิตว่าผมน่ะอายุ18-20กว่าๆ ฮะๆ พวกคุณตกใจกันใหม?นักศึกษาอายุ112ปีนอนหลับในห้องเรียน พอเงยหน้าขึ้นมาเจอคุณครูจ้องเล่นงานแกล้งถามโจทย์ที่ยากที่สุดกับคนๆนั้น งั้นเอาอย่างนี้ ผมจะถ่ามคุณแล้วกัน   




     
    คุณเคยเชื่อเรื่องภูติ ผี ปีศาจกันบ้างมั้ย?
    คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระอะไรพวกนั้นรึเปล่า
    แต่สิ่งที่คุณกำลังจะเผชิญไม่ใช่ทั้งผีและปีศาจหรอกนะ

    แวมไพร์? มนุษย์หมาป่า?

    มันเป็นเรื่องงมงายไร้สาระสำหรับคุณรึเปล่า?
    แต่สำหรับผม ลีทงแฮ ขอบอกว่าไม่!
    เพราะผมน่ะรู้ดี....






                            "ทงแฮ!!!! จะกลับบ้านแล้วเหรอจ้ะ?"เจสสิก้านักศึกษาเพื่อนสาวคนสนิทของผมเองก็ไม่รู้จะถามทำไมเนอะ- -' ก็เห็นๆกันอยู่ว่าถือกระเป๋าเนี่ย

                            "ยังมั้ง- -; เธออย่าถามไรต๊องๆสิ แล้วเป็นบ้าอะไรเนี่ยมาพูดจ้ะจ๋ากับฉัน"ผมก็ไม่เข้าใจแต่ก่อนนะผมกับยัยนี้พูดขวานผ่าซากกันอย่างสุดยอด

                            "เหอะ! ไอ้นี้พูดเพราะๆไม่ชอบบ้าเปล่าวะ"เจสสิก้าพูดแบบเดิมกับผมก่อนจะทำหน้าเครียดแล้วมองผม

                            "ฉันต้องกลับหมู่บ้านแล้วล่ะทงแฮ"เจสสิก้าพูดก่อนจะก้มหน้างุดๆเพราะจะร้องไห้

                            "ทำไมอ่ะ นายเรียกแล้ว???"ผมถามก่อนจะครุ่นคิด ก็หมู่บ้านที่ว่าน่ะคุณคงจะไม่รู้ใช่มั้ยว่ามันคือหมู่บ้านแวมไพร์

                            "เอาเหอะ กลับก็คือกลับ เออนี้ ช่วงนี้แดดมันแรงดีนะฉันล่ะร๊อน ร้อน"เจสสิก้าพูดก่อนจะกระพือชุดนักศึกษาผับๆ  ทำเอานักศึกษาชายแถวนั้นพากันหันมาจ้องเนินอกสีซีดอย่างกับไม่ใช่คนแต่ก็น่ามองอยู่ไม่ใช่น้อย

                            "กลับบ้านด้วยนะทงแฮ อยากไปหาพี่แจจุงกับซองมิน"เจสสิก้าพูดกับผมก่อนจะเอาหัวเล็กมาถูๆไถกับแขนของผม

                            "เอาสิ ไปก็ไป"ผมพูดก่อนจะเดินนำยัยนั้นไปก่อน บ้านของผมไม่ห่างจากมหาลัยมากนักเดินไปก็ถึง แต่ถ้าวิ่งก็แปปเดียว

                            "นายเห็นหมาป่าพวกใหม่ที่เพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้รึยัง?"ระหว่างเดินๆอยู่เจสสิก้าก็พูดขึ้นก่อนที่ผมจะส่ายหัวแทนคำพูดว่าไม่เห็น

                             "ฉันก็เพิ่งรู้ข่าวจากพรรคพวกเนี่ยแหละ เห็นบอกว่าเป็นครอบครัวสามคนแต่ยังไม่แน่ใจจริงๆหรอกนะว่าเป็นมนุษย์หมาป่ารึเปล่า เพราะยังไม่เห็นแปลงร่างเลยน่ะ"เจสสิก้าพูดแล้วก็หยุดเดินมันซะอย่างนั้น

                            "หรือว่าจะไม่ใช่มนุษย์หมาป่า"เจสสิก้าพูดก่อนทำหน้าครุ่นคิดแล้วเงยหน้าขึ้นมาตะโกนเรียกผมที่ไม่ได้หยุดรอ"นี้ ไอ้ทงแฮรอด้วยเซ่!!!!"

                             "จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่เห็นน่าตื่นเต้น ในเมื่อไอ้ที่เดินสวนเราไปเมื่อกี๊นี้ก็มนุษย์หมาป่า เหอะ! กลิ่นเหม็นๆของพวกมันแรงจะตาย"ทงแฮพูดก่อนจะโชว์เขี้ยวขาวของแวมไพร์ที่เขาเป็นมาตั้งแต่เกิด

                            "ทงแฮเก็บเขี้ยวเดี๋ยวนี้นะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว และตอนนี้พันธสัญญาระหว่างเผ่าพันธ์ได้เขียนขึ้นใหม่แล้ว เราอยู่ส่วนเรา พวกมันก็อยู่ส่วนพวกมัน"ยัยนี้ขึ้บ่นขึ้นทุกวันนะผมว่า แต่ก็อย่างที่พวกคุณน่าจะรู้ว่ามนุษย์หมาป่ากับแวมไพร์นั้นไม่ถูกกันมานานแล้ว 

                            แต่ในยุคที่มนุษย์มีการพัฒนาจนทำให้มนุษย์แข็งแกร่งกว่าอมนุษย์จึงต้องมีการเก็บความลับเรื่องเผ่าพันธ์ของมนุษย์หมาป่าและแวมไพร์เอาไว้ โดยที่พันธสัญญานั้นคือ มนุษย์หมาป่าและแวมไพร์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกันและกันยกเว้นละเมิดข้อสัญญา

                           และอีกข้อตกลงหนึ่งที่มันเกี่ยวข้องกับพวกคุณพวกเราจะไม่ทำร้ายมนุษย์เด็ดขาด!!! แต่แวมไพร์กับมนุษย์หมาป่าก็ต้องไปจับสัตว์ป่ากินแทนน่ะ^o^





                         




                     
                               และในที่สุดผมก็ถึงบ้านจนได้ระหว่างทางก็นั้นแหละครับยัยเจสสิก้าจ่าเป็ดนี้ก็พล่ามอะไรของมันมาเรื่อยๆจนผมเริ่มหูชาแล้ว 

                              "อ้าวพี่ทงแฮ กลับมาแล้วเหรอครับ????"เสียงของซองมินน่ะครับนี้ก็คงกำลังทำลายชื่อเรื่องของฟิคเรื่องนี้อยู่มั้งครับเพราะฟิคเรื่องนี้มีคำว่าดาร์คซึ่งแปลว่าความมืดใช่มั้ย แต่นายนี้กำลังเพิ่มออร่าสีชมพูกระจายเต็มบ้านน่ะสิครับ=_='''''

                              "พี่เจสสิก้าก็มา ฮี่ฮี่"พอพูดเสร็จก็ไปนั่งบนโซฟาแล้วทาฟักทองหัวกะโหลกให้กลายเป็นสีชมพู- -''''''

                             "เจส เดี๋ยวฉันไปเอาเลือดมาให้เธอดื่มแล้วกันนะ"ผมพูดก่อนจะวางกระเป๋าไว้บนโซฟาแล้วเดินไปลูบหัวซองมิน

                             "เลือดของอะไร???"เจสสิก้าถามก่อนจะมานั่งข้างๆซองมินแล้วมองไปที่ฟักทองสีชมพู- -

                             "กวางน่ะ อร่อยดีแหละ"ผมพูดก่อนจะเดินเข้าไปในครัวแล้วเอามือไล่ชื่อขวดแก้วที่วางเรียงกันเกือบจะ50ขวดได้มั้งแล้วก็ ยูเรก้า!!  ในที่สุดผมก็เจอขวดที่เขียนว่า"เลือดกวาง"

                             "รู้ไหม? นั้นมันเสียแล้ว"เสียงของพี่ชายหน้าสวยของผมนั้นเอง หา? เสียแล้ว ม่ายยยยยยยยยย!!! มันแพงนะเออ ผมขี้เกียจไปหาเองด้วย

                             "แล้วทำไมมันถึงเสียล่ะ ผมยังไม่ได้ดื่มซักหยดน่ะTOT"ผมพูดก่อนจะมองดูขวดที่อยู่ในมือผมด้วยความเศร้าใจ

                             "ก็ซองมินน่ะสิ เอาวิตามินซีสีชมพูใส่- -' มันเลยเสีย"พี่แจจุงพูดอย่างเอือมๆก่อนจะคว้าขวดใหม่แล้วยื่นให้ผม "แต่พี่ไปเอาเลือด หมีมาได้ หึๆๆๆ >[]<"

                             "หา?  เลือดหมี ผมอยากจะการี๊ดถ้าเป็นผู้หญิง ผมขอนะเจ๊ คิคิคิ""พูดเสร็จผมก็เอื้อมมือจะไปหยิบขวดจากเจ๊แจจุงพี่ชายหน้าสวยของผมแต่มันก็คือสัจธรรม

                             "ฝันไปเถอะ เออะ เออะ เออะ"ยังจะมาแอคโค่วอีก ชิ เอามาโชว์ให้อยากและกระชากกลับไป =3=




                            





                         "ซองมินนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!! นายทำเลือดกวางเสียงั้นเหรอ!!!!"พอเลือกเลือดขวดใหม่มาแล้วผมก็วางให้เจสสิก้าก่อนจะใช้ความเร็วของแวมไพร์ที่ผมมีกระชากคอเสื้อของน้องชายที่รักมาแล้วตะโกนใส่หน้า

                        "ป่ะ...เปล่าน้า เค้าโดนใส่ร้าย T^T"แอ๊บได้อีกฟร่ะ แล้วซองมินก็จับแขนผมแล้วม้วนตัวหลุดไปได้

                        "พี่แจจุงน่ะแหละ ใส่ร้ายผม >^<"พูดเสร็จก็ทำแก้มพองลมใส่ผมก่อนจะพูดต่อ"พี่แจจุงน่ะอยากกินแล้ว หลอกพี่น่ะสิ ฟันธงเลย ป่านี้เลือดกวางของพี่หมดเรียบ!!!"

                       "เฮ้ย แต่พี่แจจุงมีเลือดหมีแล้วนี้"ผมพูดก่อนจะยื่นหน้ามาจับผิดไอ้แวมไพร์สีชมพูนี้"นายนั้นแหละหลอกฉัน"

                       "เปล่านะ!! พี่ก็รู้พี่แจจุงขี้เหนียว เลือดหมีน่ะมีจริงแต่พี่แกก็อยากกินเลือดกวาง-3-" ว่ะย้ากกกกกกกกกกกก ไอ้เจ๊แจจุงบังอาจจจจจ!!!

                       







                          


                            อาจเป็นเพราะเหตุที่แวมไพร์ตระกูลลีรักกันมากจนเจสสิก้าอิจฉาเลยทำให้เจสสิก้ารู้สึกไม่ดีที่ต้องกลับหมู่บ้านแวมไพร์และจากครอบครัวนี้ไป 

                           ครอบครัวที่แวมไพร์อย่างลูกหัวหน้าเผ่าอย่างเจสสิก้าไม่มีวันได้สัมผัส

    ****************************************************

    ตอนแรก- -'  ไม่ค่อยดีเลยมั้งเนี่ย

    ช่วยกันเมนท์หน่อยนะคะ ^^

    พรุ่งนี้ไปทัศนศึกษาแล้วล่ะ หลังจากโรงเรียนลืมกิจกรรมนี้TT^TT

    ปล่อยให้ไรท์เตอร์รอตั้งนาน -3-

    อย่าลืมเมนท์นะคะ


























             

                          
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×