บ้านหลอนๆ ในอเมริกา 12 หลัง - บ้านหลอนๆ ในอเมริกา 12 หลัง นิยาย บ้านหลอนๆ ในอเมริกา 12 หลัง : Dek-D.com - Writer

    บ้านหลอนๆ ในอเมริกา 12 หลัง

    บ้านหลอนๆ ในอเมริกา 12 หลัง

    ผู้เข้าชมรวม

    230

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    230

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 พ.ย. 57 / 20:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      บ้านหลอนๆ ในอเมริกา 12 หลัง

      ชอบหลังไหนมาดูกัน

      House no.1 -- "The Nova House"

      ที่ตั้ง: เมืองYoungstown รัฐไอโอวา

      ประวัติบ้าน: นายเบนจามิน ออลไบรท์ ทำปืนลั่นโดยอุบัติเหตุเป็นเหตุให้ฆ่าลูกชายอย่างไม่ตั้งใจ

      เขาเสียใจมากและกลัวความผิด จึงฆ่าภรรยาและฆ่าตัวตาย

      เหตุการณ์เกิดในปี 1965 ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว บ้านหลังนี้ถูกทิ้งให้ตั้งอยู่โดดเดี่ยว

       ไม่มีผู้ใดอยากเข้าใกล้ ข้าวของเครื่องใช้บางส่วนของนายเบนจามิน ออลไบรท์ ก้อยังตั้งอยู่ที่เดิมมม

       

      House no.2 --

      ที่ตั้ง: เมือง Buffalo รัฐนิวยอร์ค

      ประวัติบ้าน: นายอำเภอท้องถิ่น ชื่อ Donald Caters ยิงตัวตายในบ้าน หลังจากที่บ้านเขาถูกยึดในปี 1968 หลังจากนั้นก้อไม่มีใครเข้าไปอยู่อีกเลย ชาวบ้านแถวนั้นต่างได้ยินเสียงคร่ำครวญดังออกจากตัวบ้านเป็นประจำ

       

      House no. 3 ~~ "Hooley Mansion"

      ที่ตั้ง: รัฐเท็กซัส

      เคยเป็น Bed & Breakfast มาก่อน แต่กลายมาเป็นบ้านสุดหลอน เนื่องจาก ปี 1970

       มีผู้เข้าไปพักเกิดการตายโดยไม่ทราบสาเหตุหลายราย หลังจากนั้นจึงไม่คนเข้าไปอยู่

      และถูกทิ้งให้เป็นบ้านร้างไปในที่สุด

       

       

      มาต่ออีก 3 หลัง

      House no. 4 "the Witch House"

      ที่ตั้ง: รัฐโอไฮโอ

      ประวัติบ้าน: บ้านหลังนี้ว่ากันว่า เปนสถานที่ชุมนุมของเหล่าแม่มดท้องถิ่นที่มาฝึกปรือฝีมือในด้านเวทมนต์

      และทำพิธีต่างๆ เจ้าของบ้านที่แท้จริง รู้จักกันในนาม "the Milan Witch"  

      ร่ำลือกันว่าถูกฝังอยู่ใต้ดินที่ระเบียงหน้าบ้านนั่นเอง

       

       

       

      House no. 5 "the Haught Mansion"

      ที่ตั้ง: Brush Park, รัฐมิชิแกน

      ประวัติบ้าน: แมนชั่นหลอนหลังนี้เคยเปนสถานโสภณีชั้นสูงมาก่อนในยุคปี 1940 ต่อมาปิดตัวลง

      และ มีผู้พบศพจำนวนมากนอนตายอยู่ชั้นใต้ดิน

      ที่แปลกคือ สภาพศพมีรอยวงกลมที่วาดอย่างประณีตอยู่บริเวณแผ่นอกและหน้าท้องทุกราย

       

      House no. 6:

      ที่ตั้ง: Temple street เมืองดีทร้อยต์

      ประวัติบ้าน: ถ้าจะพูดถึงเมืองดีทร้อยต์นั้น ไม่เคยร้างลาเรื่องผีๆ สางๆ เลย แมนชั่นสไตล์วิคตอเรียหลังนี้

      เป็นสถานที่ซึ่งพระ 3 รูปถูกฆาตกรรมในปี 1942 บรรดาเพื่อนบ้านระแวกนั้น ต่างได้ยินเสียงร้องโหยหวน

      ดังข้ามถนนออกมาจากบ้านหลังนั้นบ่อยครั้ง ปัจจุบันบ้านหลังนี้ถูกทำลายแล้ว

       โดยจะนำมาพัฒนาเปนสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ต่อไป.....

       

       

      ที่มาข้อมูล: Business insider

      ภาพ: Seph Lawless, photographer

       

       

       

      House no. 7

      ที่ตั้ง: เมือง Kansas รัฐแคนซัส

      นี่คือภาพห้องนอนของฆาตกรต่อเนื่อง (serial killer) ระดับท้อปของอเมริกา

       ผู้มีฉายาว่า "จอมเชือดแห่งเมืองแคนซัส" เขาชื่อ Robert Berdella ผู้มีชีวิตวัยเด็กที่ขมขื่น

      ถูกทารุณกรรมทางเพศเมื่ออายุ 16 ปี โดยคนงานเพศชายในร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่

      เมื่ออายุ 19 เขาดูหนังเรื่อง 'The Collector' ของ John Fowles เปนเรื่องของคนที่ลักพาตัวผู้หญิง

      มาคุมขังไว้ที่บ้านและทำทารุณกับพวกเธอ จึงเปนแรงบันดาลใจให้เขาตลอดมา

       และเมื่อสบโอกาสบวกความเคียดแค้นที่สั่งสมไว้ เขาจึงตั้งใจที่จะล่อลวงชายหนุ่ม มากักขัง

      และทรมานในชั้นใต้ดินของบ้าน โดยบังคับไม่ให้ใส่เสื้อผ้าและสวมปลอกคอสุนัขไว้ตลอดเวลา

       และต่อมาจึงฆ่าคนเหล่านั้นตาย รวมแล้ว 6 คน โดยศพถูกฝังตามที่ต่างๆ ในบริเวณบ้าน

       รวมทั้งพบหัวกะโหลกในสวนหลังบ้านด้วย

       

      House no. 8

      ที่ตั้ง: East Cleveland รัฐโอไฮโอ

      ประวัติบ้าน: บ้านหลังที่ถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวหลังนี้ เปนบ้านของฆาตกรต่อเนื่องสุดโหดคนนึง

      ในประวัติศาสตร์อเมริกา ชื่อ 'Anthony Sowell' มีฉายาว่า 'นักฆ่าแขวนคอแห่งคลีฟแลนด์'

      เขาลักพาตัวผู้หญิงนำไปคุมขังและทรมานที่บ้านหลังนี้ ต่อมาภายหลังถูกจับได้

      ตำรวจพบศพหญิงสาวทั้งหมด 7 ศพในตัวบ้านและชั้นใต้ดิน และพบอีก 3 ศพในสวนหลังบ้าน

      พบหัวกะโหลก 1 ชิ้นในถัง รวมแล้ว11 ราย ~~

      ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงความหลอนของบ้าน ขนาดชาวเมืองที่อยู่แถวนี้ เมื่อเดินตามฟุตบาทมาใกล้ถึงที่บ้านนี้

      ทุกคนจะข้ามถนนไปเดินฝั่งตรงข้าม ไม่มีใครอยากเดินผ่านบ้านหลังนี้.

      และแทบทุกคนบอกว่าเคยได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังจากบ้านหลังนี้อีกด้วยยย บรื้อววววส์

       

      House no. 9: 'the Bailey Mansion'

      ที่ตั้ง: เมือง Hartford รัฐคอนเนคติกัต

      เปนบ้านหลอนที่ถูกจริตนักสร้างหนังมาก ถึงกับเปนแรงบันดาลใจให้ไปสร้างเปนหนังซีรีส์ฉายเปนตอนๆ

      ในทีวีเรื่อง "American Horror Story"

       

      ที่มาข้อมูล: Business insider

      ภาพ: Seph Lawless, photographer

       

       

      บ้านหลอนๆ อีก 3 หลัง...ยิ่งอ่านก้อยิ่งเอ้ออ แปลกๆ ดี

       

      House no. 10: 'the Oliver Family Creepy Mansion'

      ที่ตั้ง: เมือง Chester รัฐเพนซิลวาเนีย

      ประวัติบ้าน: บ้านหลังนี้แปลกตรงที่ว่า อยู่ดีๆ ในปี 1898 คนในตระกูล Oliver ที่อยู่บ้านหลังนี้

      ทุกคนหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ขอย้ำว่าทุกคน ! โดยไม่มีใครพบเห็นเจอะเจอพวกเขาอีกเลย

      ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาหายไปได้อย่างไร หายไปไหน ไม่มีการพบศพหรืออะไรทั้งสิ้นที่จะเชื่อว่าพวกเขา

      เสียชีวิตทั้งหมด แม้แต่หน่วยสืบสวนก้อสืบไม่ได้ว่าพวกเขาหายไปไหน เพราะไม่มีหลักฐาน

      หรือร่องรอยอะไรทั้งสิ้นจนถึงปัจจุบันนี้ -- เอ๊ออแปลกๆ ดีแฮะ  แต่ชาวบ้านละแวกนั้นบอกว่า

       บางครั้งเห็นเงาๆ พวกเขาตามหน้าต่างงง

       

       

      House no. 11: "the Sayer House"

      ที่ตั้ง: รัฐเคนทักกี้

      ประวัติบ้าน: บ้านหลังนี้สามีภรรยาคู่นึงฆ่าตัวตายพร้อมกันทั้งคู่ ที่แปลกก้อคือว่า หลังจากการเสียชีวิต

      ของคนทั้งคู่ พวกเด็กๆ ลูกของพวกเขาก้อยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น โดยเลี้ยงดูและดูแลกันเอง

      เติบโตขึ้นมากันเองโดยไม่มีผู้ใหญ่หรือใครช่วยดูแล เปนเวลานับสิบปี โห! ทำได้งัยเนี่ยยย

       

       

      House no. 12: "the Doll House -- Philadelphia Mansion"

      ที่ตั้ง: รัฐฟิลาเดลเฟีย

      ประวัติบ้าน: บ้านหลังนี้แปลกๆ หลอนๆ ตรงที่ว่า เป็นบ้านร้าง ไม่มีใครอยู่ ภายในบ้านไม่มีเฟอร์นิเจอร์

      หรือสิ่งของอื่นแต่อย่างใด มีแต่ ชิ้นส่วนต่างๆ ของตุ๊กตา เช่น หัว มือ แขน ฯ และมีอุปกรณ์ที่ทำด้วยโลหะ

       เช่น เลื่อย จัดวางไว้บนชั้นวางของอย่างเป็นระเบียบ

      แปลโดย Yuri Kuri

      ข้อมูลจาก Business insider

      ภาพ: Seph Lawless, photographer

      หากจะนำบทความแปลโดย Yuri Kuri ไปลง

      กรุณาให้เครดิต ที่มา: http://inmaculada.exteen.com/  ด้วยนะครับ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×