คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #89 : ~ Happy Family ~ 47
“ คุณแม่มาเล่นด้วยกัน ” เสียงใสตะโกนเรียกคุณแม่ที่นั่งอยู่ในร่มให้มาเล่นก่อทรายด้วยกัน
หลังจากที่ตื่นจากนอนกลางวันแล้วมุนบินก็รบเร้าให้ยุนโฮกับแจจุงพามาเล่นน้ำทันที และพอเท้าเล็กสัมผัสกับพื้นทรายเท่านั้นแหละเสียงหัวเราะชอบใจก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงใสที่บอกว่า
คุณแม่ทรายนุ๊ม นุ่ม
“ กำลังสร้างอะไรกันอยู่ครับสองพ่อลูก ” คุณแม่คนสวยเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มและเมื่อยิ่งเห็นใบหน้ามีความสุขของลูกชายแล้วแจจุงยิ่งรู้ว่าเขากับยุนโฮคิดถูกแล้วล่ะที่พามุนบินมาเที่ยวที่นี่
“ สร้างบ้านครับ ”
คุณแม่คนสวยแกล้งทำเป็นตาโตราวกับว่าเป็นเรื่องน่าทึ้ง“ ไหนขอคุณแม่ดูหน่อยซิว่าบ้านของ
มุนบินหลังใหญ่หรือเปล่า ”
“ มุนบินครับหนูชอบที่นี่ไหมลูก ” พ่อหมีเอ่ยถามในขณะที่กำลังช่วยลูกชายตักทรายใส่บล็อก
“ ชอบครับ คุณพ่อพาหนูมาบ่อยๆน๊า ” เอ่ยขออ้อนๆ มุนบินชอบมากเลยล่ะคุณพ่อ คุณพ่อต้องพาหนูมาที่นี่หน่อยๆน๊า
“ แล้วทะเลที่นี่กับทะเลที่อยู่ในสมุดระบายสีของหนูมันต่างกันหรือเปล่าลูก ” แจจุงเอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คุณแม่อยากจะรู้จริงๆว่าครั้งแรกที่เห็นทะเลมุนบินรู้สึกว่ามันแตกต่างกับในรูปภาพหรือเปล่า
เด็กชายชอง มุนบินครุ่นคิดอยู่สักพักตาเรียวเล็กกวาดมองไปรอบๆเพื่อมองหาจุดแตกต่าง
“ หนูว่าที่นี่ใหญ่กว่าในรูป แล้วก็มีคนเยอะกว่า ” เจ้าหนูตอบตามที่เห็น
ทะเลจริงๆใหญ่กว่าในรูปตั้งเยอะแล้วก็มีน้ำเยอะมากๆเยอะจนมุนบินมองไม่เห็นว่าชายหาดอีกฝั่งหนึ่งอยู่ตรงไหน แล้วอีกอย่างในรูปที่มุนบินเห็นไม่มีคนเดินไปมาเยอะแยะเหมือนตอนนี้เห็นทีว่ากลับไปมุนบินต้องไปวาดรูปคนเพิ่มซะแล้ว
“ จุนซูกับยูชอนกลับมากันแล้ว ” ยุนโฮเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพัก
“ งั้นเราก็ขึ้นบ้านกันดีกว่า จะได้ไปเตรียมอาหารเย็น ” แจจุงบอกกับสามีก่อนที่จะหันมาบอกกับลูกชายที่ตอนนี้กำลังขนทรายมากลบเท้าของเขาอยู่
“ มุนบินครับ เข้าบ้านได้แล้วลูก ”
“ ไม่เอาหนูจะเล่นต่อ ” บอกอย่างเอาแต่ใจ ก็มุนบินยังไม่อยากขึ้นอ่ะมุนบินพึ่งเล่นไปได้นิดเดียวเองนะคุณแม่
“ แจขึ้นไปก่อนเลยก็ได้เดี๋ยวยุนเล่นเป็นเพื่อนลูกเอง ” ยุนโฮบอกให้แจจุงขึ้นไปก่อนเลยส่วนลูกหมีเดี๋ยวเขาดูแลเอง
เพราะนานๆทีถึงจะได้พามาลูกมาเที่ยวที่แบบนี้ยุนโฮก็เลยอยากให้เจ้าตัวเล็กได้สนุกให้เต็มที่ร่างสูงก็แค่อยากเห็นลูกชายมีความสุขก็เท่านั้นเอง
“ เอาแบบนั้นเหรอ....ให้อีกนิดก็ได้แต่แค่นิดเดียวนะ ” ร่างบางยอมตามใจแต่ก็ยังไม่ยืมกำชับให้พ่อหมีอย่าปล่อยให้ลูกชายเล่นนานจนเกินไปเพราะแค่นี้มุนบินก็เล่นมาชั่วโมงกว่าแล้ว
“ ครับผม ” รับคำแข็งขันก่อนจะอุ้มลูกหมีจนตัวลอยแล้วพาวิ่งลงน้ำเรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากเจ้าตัวเล็ก
แจจุงยืนมองสองพ่อลูกหยอกล้อกันอยู่ในน้ำปากอิ่มระบายยิ้มออกมาน้อยเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะมีความสุขของฝาแฝดพ่อลูก ก่อนที่เรียวขาเรียวจะหมุนตัวพาเจ้าของกลับเข้าไปในบ้านพักเพื่อเตรียมอาหารสำหรับเย็นดี
“ ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย ” เสียงหวานเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้านแล้วเจอกับกองข้าวของจำนวนมาก
“ ของกินน่ะ ฉันเห็นมันน่ากินก็เลยซื้อมา ” จุนซูบอกยิ้มๆ ตอนที่ซื้อก็ซื้อเพราะเห็นว่ามันน่ากินแต่ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้
“ นี่ยังไม่หมดนะเพราะจุนซูทานไปบนรถแล้วบางส่วน ” ที่แจจุงเห็นน่ะมันแค่บางส่วนเท่านั้นนะเพราะตอนที่นั่งรถกลับมาจุนซูก็จัดการไปแล้วบางส่วน
จุนซูหันไปมองค้อนสามีที่ชอบเอาเรื่องน่าอายของเขามาประจารให้คนอื่นรู้ตลอดเลย ตอนที่กลับไปเยี่ยมบ้านก็ครั้งนึงแล้วนะ
“ ฉันว่ากว่าจะคลอดน้ำหนักนายต้องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าสิบกิโลแน่ๆ” แจจุงบอกกลั้นขำ
“ อย่าพูดแบบนั้นสิ แค่นี้ฉันก็กลุ้มจะแย่แล้ว ”จุนซูทำหน้าคิดหนัก แจจุงบ้ามาล้ออยู่ได้คนยิ่งกลุ้มๆอยู่ด้วย
“ ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นน่ะ ไม่ต้องคิดมากหรอกเรื่องน้ำหนักมันเป็นธรรมดาของคนท้อง ” แจจุงถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นจุนซูเริ่มคิดมากขึ้นมาจริงๆ
“ ว่าแต่ฉันนายเองก็ใช่ย่อยเหมือนกันแหละแจจุง ” จุนซูล้อกลับเมื่อเห็นว่าตอนนี้ร่างกายของแจจุงก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้วเช่นกัน
“ แบบนี้คงต้องโทษพ่อของลูกเราสองคนแล้วล่ะ ที่เลี้ยงเราดีเกินไป ” แจจุงบอกขำๆ
“ อ่าว ” ยูชอนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ถึงกับงง เลี้ยงดูดีเกินไปก็ผิดซะงั้นนี่หมีกับไก่ไม่เคยทำอะไรถูกเลยใช่มั๊ยเนี่ย
“ แล้วนี่มุนบินกลับยุนโฮยังไม่ขึ้นมาเหรอ ” จุนซูถามหาฝาแฝดต่างวัยเมื่อเห็นว่ายุนโฮกับมุนบินไม่ได้อยู่บนบ้าน
“ ยังเลย ติดลมกันทั้งพ่อทั้งลูก ” แจจุงบอกยิ้มๆ “ ของที่ซื้อมาอยู่ในครัวใช่มั๊ย ”
“ ใช่ๆ จะทำเลยมั๊ยล่ะเดี๋ยวฉันเข้าไปช่วย ” จุนซูอาสาเข้าไปเป็นลูกมือ เพราะถึงแม้ฝีมือการทำอาหารของเขาจะไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดว่าทำไม่เป็นเลยซะหน่อย
“ ก็ดีเหมือนกัน ” แจจุงบอกก่อนจะเดินเข้าไปในครัวโดยมีจุนซูเดินตามเข้าไปติดๆ
ส่วนหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ก็คงต้องยกให้ยูชอนอาจจะมียุนโฮเข้ามาช่วยอีกแรงถ้าหากว่าพ่อหมีพาลูกหมีกลับเข้าบ้านแล้ว
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของลูกชายเรียกให้คุณแม่คนสวยที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารต้องรีบวิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ และทันทีที่เห็นว่ามุนบินตัวสั่นเพียงใดแจจุงก็ยิ่งตกใจหนักขึ้นไปอีก
“ ยุนลูกเป็นอะไร แล้วทำไมเท้าลูกถึงได้เป็นแบบนี้ ” ถามสามีด้วยน้ำเสียงร้อนรนเมื่อเห็นว่าที่เท้าของลูกชายมีเลือดซึมออกมา
“ ลูกวิ่งไปเหยียบเปลือกหอยน่ะ ” ร่างสูงบอกด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดที่ตัวเองปล่อยให้ลูกบาดเจ็บ
ตอนที่กำลังเล่นก่อทรายอยู่นั้นมุนบินลุกขึ้นวิ่งบอกว่าจะไปขนทรายมาเพิ่มแต่วิ่งได้ไม่กี่ก้าวลูกหมีก็ทรุดลงนั่งกับพื้นก่อนจะเริ่มเป่าปี่ลั่นชายหาดพอเขาวิ่งตามไปดูก็พบว่าที่ฝ่าเท้าด้านซ้ายของมุนบินมีเลือดไหลออกมา พอมองไปที่พื้นก็เห็นเศษเปลือกหอยที่แตกอยู่บริเวณนนั้น เขาก็เลยรีบพามุนบินขึ้นมาทำแผลนี่แหละ
“ แล้วทำไมยุนถึงไม่ดูลูกดีๆ ”ร่างบางตำหนิสามี ดูแลลูกยังไงถึงได้ปล่อยให้ลูกเหยียบเปลือกหอยได้ “มุนบินมาหาคุณแม่มาลูก ” ท้ายประโยคพูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ทันทีที่คุณแม่ยื่นมือออกมารับเจ้าหนูก็โผเข้าหาอ้อมกอดทันทีก่อนจะปล่อยโฮออกมาด้วยความเจ็บปวดที่มาพร้อมกับความกลัวที่เห็นเลือดแดงฉานไหลออกมาจากฝ่าเท้าของตนเอง
“ คุณแม่ ฮือ ฮือ เจ็บ ” ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย มุนบินเจ็บมากเลยคุณแม่
แจจุงอุ้มลูกชายมานั่งลงที่โซฟาโดยมีจุนซูกับบยูชอนนั่งมองด้วยความเป็นห่วง ร่างบางโยกตัวไปมาเพื่อปลอบประโลมให้เจ้าตัวเล็กหายกลัว
“ ไหนขอคุณแม่ดูหน่อยนะลูก ” มือบางจับเท้าเล็กขึ้นมาดู พยายามจับให้เบาที่สุดเพราะกลัวว่าลูกชายจะเจ็บมากกว่าเดิม “ เพี้ยง ... ไม่เป็นไรแล้วนะลูกเดี๋ยวก็หายแล้ว ” ลมหายใจอุ่นๆถูกเป่าลงบนฝ่าเท้าเล็กบริเวณที่มีเลือดไหลซึมออกมา
“ หนู เจ็บ ฮือ ฮือ ” มุนบินยังคงสะอื้นอยู่กับอกของผู้เป็นแม่
หากแต่ในใจของหนูน้อยกลับกำลังตัดพ้อเปลือกหอยอยู่ เปลือกหอยนิสัยไม่ดีมุนบินไม่ได้ทำอะไรให้เปลือกหอยซะหน่อยแล้วทำไมเปลือกหอยต้องมาแกล้งมุนบินด้วยมุนบินไม่รักเปลือกหอยแล้ว
“ เดี๋ยวคุณแม่จะเอาผ้าวิเศษมาพันเท้าหนูไว้เดี๋ยวหนูก็ไม่เจ็บแล้วลูก ” มือบางยังคงประคองเท้าของลูกชายเอาไว้ก่อนจะหันไปบอกพ่อหมีด้วยน้ำเสียงเคืองๆ
“ แล้วยุนจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม ไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาสิแจจะทำแผลให้ลูก ”
ยุนโฮถึงกับต้องรีบวิ่งออกไปหากล่องปฐมพยาบาลทันทีที่เห็นสายตาเคืองๆที่ส่งตรงมาจากร่างบางตรงหน้า เพราะมัวแต่เป็นห่วงมุนบินเลยทำให้ยุนโฮไม่ทันคิดเรื่องอื่น“ ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้เลยครับ ”
“ รอแป๊บนึงนะลูก คุณพ่อกำลังไปเอาผ้าวิเศษมาพันแผลให้หนู ” พูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแตกต่างจากเมื่อกี๊ลิบลับ
ระหว่างที่รอยุนโฮไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลแจจุงก็จัดการถอดเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำออกให้เจ้าตัวเล็กซึ่งยูชอนก็ช่วยเหลือด้วยการไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้
แจจุงยิ้มขอบคุณก่อนที่จะรับผ้ามาคลุมตัวให้ลูกชาย “ ห่มผ้าไปก่อนนะลูกเดี๋ยวพันผ้าวิเศษเสร็จแล้วคุณแม่จะพาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ” กระซิบบอกลูกชายที่ยังคงสะอื้นเบาๆอยู่ที่อก
“ มาแล้วๆ ผ้าวิเศษมาแล้ว ” พ่อหมีวิ่งเข้ามาในห้องด้วยความเร่งรีบก่อนจะวางกล่องปฐมพยาบาลลงตรงหน้าแจจุง
แจจุงยังคงเคืองสามีไม่หายร่างบางเปิดกล่องปฐมพยาบาลออกก่อนจะค่อยๆลงมือทำแผลให้ลูกชายโดยไม่สนใจเลยว่าข้างๆมีพ่อหมียืนทำหน้ารู้สึกผิดอยู่
“ แต่ก่อนที่เราจะพันผ้าวิเศษเราต้องล้างทรายออกก่อนนะลูก ” ร่างบางบอกลูกชายก่อนค่อยๆเทน้ำลงบนฝ่าเท้าเล็กเพื่อล้างเศษทรายออกจากแผล
“ คุณแม่ หนูแสบ ” ทันทีที่น้ำสัมผัสกับฝ่าเท้ามุนบินก็ร้องลั่นพร้อมกับชักฝ่าเท้าออกทันที
ยุนโฮที่ยืนดูอยู่นานรีบเข้ามาช่วยจับเจ้าตัวเล็กเอาไว้เมื่อเห็นว่ามุนบินเริ่มออกแรงดิ้นจนแจ
จุงแทบจะรับไม่ไหวแล้ว
“ คุณแม่ ขอโทษลูก ” น้ำตาของคนเป็นแม่เริ่มไหลรินเมื่อเห็นหยาดน้ำตาของลูกชาย เพราะ
มุนบินเริ่มงอแงขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เงียบไปได้ไม่นาน
“ ไม่เอา ฮึก ฮือ ไม่เอา แล้ว ” มุนบินแสบอ่ะคุณแม่ พันผ้าวิเศษเลยไม่ได้เหรอ นะคุณแม่นะ
มุนบินอยากพันผ้าวิเศษเลย
“ โอ๋ๆ เดี๋ยวก็เสร็จแล้วลูก หนูดูสิลูกผ้าวิเศษกำลังรอช่วยหนูอยู่นะเห็นมั๊ย ถ้าหนูไม่ยอมให้คุณแม่ทำความสะอาดแผลให้แล้วผ้าวิเศษจะช่วยหนูได้ยังไงล่ะครับ ”
เสียงหวานพยายามดึงความสนใจของมุนบินให้มาอยู่ที่ผ้าพันแผลซึ่งร่างบางตั้งชื่อให้มันว่าผ้าวิเศษเพื่อที่จะให้มุนบินลืมความเจ็บเมื่อสักครู่ และก็ดูเหมือนจะได้ผลซะด้วยสิเพราะเจ้าตัวเล็กหยุดร้องไห้และมองดูผ้าวิเศษด้วยความสนใจ
แจจุงลงมือทำแผลให้ลูกชายอีกครั้ง ปากอิ่มขยับชวนลูกชายคุยตลอดเวลาเพื่อให้มุนบินลืมว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่โดยมีจุนซูช่วยเบี่ยงเบนความสนใจอีกคน
“ เสร็จแล้วครับ แน่นไปไหมลูก ” เอ่ยถามเพราะกลัวว่าจะพันแน่นเกินไป มือขาวเอื้อมไปเกลี่ยคราบน้ำตาออกจากแก้มใสกอดจะกดจมูกลงบนแก้มนิ่มสุดรักเพื่อเป็นการปลอบขวัญ
“ ไม่ครับ ”
“ ทีนี้ก็รอให้ผ้าวิเศษออกฤทธิ์ระหว่างนี้หนูก็นั่งดูการ์ตูนรอไปก่อนนะลูก ” บอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน หากแต่ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยคุณแม่หวังว่าพรุ่งนี้เท้าหนูคงไม่บวมนะลูก
“ คุณแม่จะไปไหน ” มุนบินละสายตาออกจากผ้าวิเศษแล้วเงยหน้าคุณมาถาม คุณแม่จะไปไหนอ่ะไม่อยู่รอดูผ้าวิเศษออกฤทธิ์เหรอ
คิดแล้วก็ตื่นเต้นมุนบินอยากรู้จังว่าเวลาที่ผ้าวิเศษออกฤทธิ์มันจะมีแสงออกมาเหมือนในการ์ตูนที่มุนบินเคยดูหรือเปล่าคุณแม่ไม่อยากรู้เหมือนมุนบินเหรอ
“ คุณแม่จะไปทำกับข้าวครับ ”
“ ไม่เอาหนูไม่ให้ไป ” งอแงเอาแต่ใจก่อนจะกอดรอบเอวของคุณแม่เอาไว้แน่นเพื่อบอกว่ายังไงซะหนูก็ไม่ยอมให้คุณแม่ไป คุณแม่อยู่กับมุนบินนะเพราะถ้าคุณแม่ไม่อยู่แล้วมุนบินเกิดเลือดไหลขึ้นมาอีกแล้วใครจะเป็นคนพันผ้าวิเศษให้มุนบินอ่ะ
“ ถ้าหนูไม่ให้คุณแม่ไปหนูก็จะไม่ได้ทานข้าวเย็นนะลูก ” มือบางลูบหัวลูกชายเบาๆข้างหนึ่งส่วนอีกข้างก็ยื่นไปรับเสื้อผ้าของมุนบินมาจากยุนโฮ
“ ใส่เสื้อก่อนนะลูกเดี๋ยวจะไม่สบาย ”
“ งั้นหนูลงไปเล่นน้ำรอได้มั๊ย ” ปากเล็กเอ่ยถามในขณะที่กำลังยกมือขึ้นเพื่อให้คุณแม่ใส่เสื้อให้ได้สะดวก มุนบินยังเล่นน้ำได้ไม่สะใจเลยขอมุนบินลงไปเล่นต่อนะคุณแม่นะ
“ ไม่ได้ครับ เพราะผ้าวิเศษไม่ชอบน้ำถ้าเท้าหนูโดนน้ำผ้าวิเศษจะทำให้เท้าหนูแสบนะลูก ” ขนาดแค่น้ำดื่มธรรมดาหนูยังร้องแสบดังลั่นขนาดนี้ ถ้าโดนน้ำทะเลหนูจะไม่ร้องจนปลาทั้งทะเลตกใจเหรอลูก
“ งั้นหนูดูการ์ตูนรอก็ได้ ” เปลี่ยนใจแทบจะทันทีที่ได้ยินทำว่าเท้าแสบ ท่าทางน่ารักแบบนี้สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ใหญ่ทั้งสี่ได้เป็นอย่างดี
***** ตอนหน้าก็จะจบแล้วน๊า ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ T_T
ความคิดเห็น