คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ~ Happy Family ~ 19
รถตู้สีดำใหญ่แล่นเข้ามาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลังจากที่ใช้เวลาเดินทางกว่าหนึ่งชั่วโมง เด็กๆทุกคนต่างพากันมายืนเข้าแถวรออย่างเป็นระเบียบเด็กๆที่นี้ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้รู้ว่าวันนี้จะมีคนใจดีมาเลี้ยงข้าวและเอาของเล่นมาให้พวกเขา ชางมินกับยูฮวานที่มาถึงก่อนหน้านี้ก็ออกมายืนรอเช่นเดียวกัน
ทันทีที่รถจอดสนิทฮยอนบินก็เป็นคนแรกที่เดินลงมาตามด้วยยูนา ยูชอน จุนซู แจจุงและยุนโฮที่อุ้มมุนบินลงมาเป็นคนสุดท้าย และทันทีที่เห็นคนแปลกหน้าเยอะแยะลูกหมีก็โอบรัดรอคอแกร่งของคุณพ่อเอาไว้แน่น
“ สวัสดีครับ ” ทั้งชางมินและยูฮวานเดินมาทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะหันไปยิ้มให้กับรุ่นพี่คนสนิททั้งสี่เพื่อบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“ สวัสดีจ๊ะ นี่คงจะเป็นชางมินสินะ ” คุณชองเพียงแต่พยักหน้ารับตามมารยาทแล้วมองสำรวจไปรอบๆมูลนิธิบรรยากาศรอบๆดุร่มรื่นดีแต่ตัวอาคารดูโทรมพอสมควร ยูนาเลยเป็นฝ่ายทักตอบเธอเดาเอาว่าชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนนี้คงจะเป็นคนที่ชื่อชางมินเพราะเคยเห็นแวะเข้าไปที่บ้านหลายครั้ง
“ ครับ ส่วนนี้ชื่อยูฮวานครับเป็นคนรักของผม ” ชางมินเอ่ยแนะนำคนรักให้กับผู้สูงวัยทั้งสอง ยูฮวานโค้งให้อีกรอบ
“ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมชางมิน ” ยุนโฮอุ้มมุนบินเดินเข้ามาถามส่วนแจจุงกับยุนซูเดินแยกออกไปดูรถอีกคันที่ขับตามมา
“ ครับ รอแค่เจ้าของวันเกิด ” ร่างสูงตอบรุ่นพี่ก่อนจะเปลี่ยนไปทักทายหลานชาย “ ว่าไงครับมุนบิน ทำไมวันนี้เงียบจังเลย ”
“ คงจะเห็นคนแปลกหน้าเยอะนะ ” เป็นพ่อหมีที่เป็นฝ่ายตอบเพราะลูกชายเอาแต่ซบหน้าลงบนไหล่ของเขา นี่ขนาดอาชางมินมาชวนคุยนะเนี่ย
“ ผมว่าเชิญทางนี้ก่อนดีกว่าฮะ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิรออยู่ ” ยูฮวานเอ่ยแทรกขึ้น เพราะมัวแต่ทักทายกันเลยทำให้ลืมไปว่าเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิรออยู่ข้างใน
คุณกับคุณนายชองพนักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินนำเข้าไปในอาคารไม้ที่ใช้เป็นทั้งสำนักงานและห้องนอนของเด็กๆ ยุนโฮหันไปเรียกภรรยาที่กำลังตรวจเช็คความเรียบร้อยอยู่กับจุนซูแล้วเดินตามเข้าไป
เด็กๆต่างนั่งรออย่างเป็นระเบียบด้านหน้ามีป้ายผ้าขนาดใหญ่ติดเอาไว้มีข้อความว่า “ สุขสันต์วันเกิดมุนบิน ” ทุกคนเข้าไปนั่งยังที่ที่ทางมูลนิธิจัดเตรียมเอาไว้ให้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิจะเล่าถึงความเป็นมาของที่นี้ ระบบการดูแลเด็กๆรวมถึงความเป็นอยู่ของเด็กๆ หลังจากที่ฟังรายละเอียดต่างๆแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาเดินดูรอบมูลนิธิซึ่งมีเพียงยูนากับฮยอนบินเท่านั้นเพราะคนที่เหลือไปช่วยกันจัดเตรียมอาหารกลางวันให้เด็กๆ
“ มุนบินครับ หนูอยากไปเล่นกับเพื่อนๆไหมลูก ” ยุนโฮเอ่ยถามเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักเมื่อสังเกตเห็นว่าตาเรียวเล็กจ้องมองเพื่อนในวัยเดียวกันวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน
“ หนูไปได้เหรอ ” ถามด้วยความไม่แน่ใจหนูไปเล่นกับเขาได้เหรอก็หนูไม่รู้จักใครเลยนะแล้วเขาจะให้เล่นด้วยเหรอ
“ ได้สิครับ แล้วหนูอยากไปเล่นกับเพื่อนรึเปล่าเอ่ย ” แจจุงลูบหัวกลมของลูกชายด้วยความเอ็นดู จะว่าไปแล้วนอกจากคนในครอบครัวมุนบินก็ไม่มีเพื่อนเล่นที่ไหนอีกเลย
“ อยาก ” หัวเล็กพยักหงึกหงักทำไมมุนบินจะไม่อยากล่ะเห็นเขาวิ่งเล่นน่าสนุกอ่ะมุนบินอยากเล่นบ้างแต่ไม่กล้าไปขอเขาเล่นด้วย
“ งั้นเดี๋ยวคุณพ่อพาไปนะครับ อึ๊บ ” ร่างสูงอุ้มลูกชายขึ้นแล้วพาเดินไปยังกลุ่มเด็กชายที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ ดูเหมือนว่ามุนบินเองก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่จะได้เจอเพื่อนใหม่
“ เล่นอะไรอยู่กันครับเด็กๆ ” เสียงทุ้มเอ่ยออกไปตามแบบฉบับของคุณพ่อผู้ใจดี
เด็กๆหยุดวิ่งเล่นกันชั่วคราวก่อนหนึ่งในนั้นจะเป็นคนตอบ “ เล่นวิ่งไล่จับครับ ”
ถือว่ามูลนิธิแห่งนี้สอนเรื่องมารยาทให้กับเด็กดีพอสมควรเพราะตั้งแต่เดินเข้ามาเด็กของที่นี้ทุกคนจะพูดมีหางเสียงกับผู้ใหญ่ แตกต่างจากหลายๆที่ที่มักจะละเลยเรื่องพวกนี้ไปเพียงเพราะเหตุผลที่ว่าเด็กมีจำนวนมากเลยทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง
“ งั้นขอมุนบินเล่นด้วยคนได้ไหมครับ ”
“ ได้ครับ ” เด็กคนเดิมตอบรับพร้อมกับรอยยิ้ม
ยุนโฮวางลูกชายลงจากอ้อมแขนก่อนจะยิ้มน้อยๆเมื่อเด็กชายที่ตัวเล็กที่สุดเดินมาจูงมือป้อมของลูกหมีให้ไปเล่นด้วยกัน ร่างสูงแอบเห็นด้วยล่ะว่าเจ้าตัวเล็กของเขาน่ะยิ้มแก้มแทบปริที่ได้เจอเพื่อนใหม่ เห็นอย่างนั้นแล้วร่างสูงจึงปล่อยให้เด็กๆได้เล่นกันส่วนตัวเองก็เดินไปช่วยภรรยาตักอาหาร
“ นายชื่ออะไรเหรอ เราชื่ออินฮวานนะส่วนนั้นฮานึลแล้วก็ชอนฮี ” เด็กคนที่จูงมือมุนบินก่อนหน้านี้เอ่ยแนะนำตัวรวมทั้งแนะนำเพื่อนๆที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ เราชื่อมุนบิน ยินดีที่ได้รู้จักนะ ” ลูกหมีแนะนำตัวเองบ้างรอยยิ้มน่ารักถูกส่งให้กับเพื่อนใหม่
“ อื้อ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ” ฮานึลพูดบ้างก่อนจะรีบสรุปเอาเองว่าตอนนี้ทุกคนเป็นเพื่อนกันแล้วก่อนจะจูงมือของเพื่อนใหม่แล้วพาวิ่งไปหากลุ่มเพื่อนที่อยู่อีกด้าน
เสียงหัวเราะของเด็กๆสร้างรอยยิ้มเป็นสุขให้กับผู้ใหญ่ที่นั่งดูอยู่ห่างๆ ดูเหมือนว่ามุนบินจะมีความสุขมากที่ได้มาเจอเพื่อนในวัยเดียวกันตอนแรกๆอาจจะยังดูประหม่าอยู่บ้างแต่พอเริ่มปรับตัวได้ก็ทำให้เจ้าหนูกล้าที่จะเข้าหาคนอื่นๆมากขึ้น
“ คิดไม่ผิดจริงๆที่พาลูกหมีมาที่นี้ ” ร่างสูงเอ่ยกับภรรยาพร้อมกับรอยยิ้มในขณะที่กำลังช่วยยกจานไปวางไว้ที่โต๊ะ
“ อืม อย่างน้อยลูกก็ได้เพื่อนใหม่ ” รอยยิ้มอ่อนๆระบายอยู่บนใบหน้าของคุณแม่คนสวยตากลมกำลังมองดูลูกชายที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข เห็นแบบนี้แล้วคนเป็นพ่อแม่ก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“ พี่ กล่องของเล่นกับเสื้อผ้าจะให้เอาไปวางไว้ตรงไหนเหรอ ” ชางมินเดินเข้ามาถามพลางมองตามสายตาของพ่อหมีกับแม่หมีด้วยความอยากรู้ว่าทั้งคู่มองอะไรอยู่ “ สงสัยว่างานนี้คงจะได้มีคุณพ่อคุณแม่หัวเน่าแน่เลย”
ก็แหมเห็นเจ้าตัวเล็กเข้ากับเพื่อนได้เร็วขนาดนี้มันเลยอดที่จะแซวไม่ได้ มีหวังนานไปลูกหมีคงติดเพื่อนจนลืมพ่อกับแม่แล้วล่ะ
“ ไม่มีทาง มุนบินรักฉันกับแจจุงจะตาย ” ยุนโฮตอบอย่างมั่นใจ
“ แล้วผมจะคอยดู ” ชางมินบอกกวนๆก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง “ ตกลงพี่จะให้เอาของเล่นกับเสื้อผ้าไปไว้ไหนอ่ะ”
“ เอาไว้ในห้องนี้ก็ได้ ทานข้าวเสร็จจะได้แจกเด็กๆเลย ” ร่างบางบอก ก่อนจะหันไปเอ่ยกับสามีให้ไปเรียกเด็กๆมาทานข้าวกันได้แล้วเพราะนี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วย
“ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะมีเจ้าตัวเล็กบ้างจัง ” จุนซูเปรยขึ้นมาเบาๆ อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกิดที่บ้านมีเด็กตัวเล็กๆวิ่งอยู่คงจะวุ่นวายอยู่ไม่น้อย
“ อยากมีนายก็ไปบอกยูชอนสิ ” แจจุงเย้าเพื่อนรัก จุนซูหน้าขึ้นสีทันทีเมื่อเห้นว่าแจจุงหัวเราะชอบใจแล้วเดินไปกระซิบอะไรกับยุนโฮก็ไม่รู้แต่เห็นนะเจ้าหมีนั่นมันส่งสายตาล้อเลียนมาทางเขาด้วยล่ะพอกันเลยผัวเมียคู่นี้
เด็กๆนั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้วโดยมีมุนบินรวมอยู่ในนั้นด้วยดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะติดเพื่อนซะแล้วล่ะเพราะไม่ยอมแยกออกมาทานกับคุณพ่อคุณแม่เลย
หลังจากแจกอาหารให้จนครบทุกคนแล้วหัวหน้ามูลนิธิก็ลุกขึ้นพูดกับเด็กๆบอกถึงเหตุผลว่าทำไมวันนี้พวกเขาถึงได้มีอาหารดีๆทานกันและทำไมถึงได้มีแขกมาเยี่ยมพวกเขา
“ ทุกคนจ๊ะ วันนี้ถือเป็นวันพิเศษที่เราได้ทานอาหารอร่อยๆกันแต่ก่อนที่จะทานเรามาช่วยกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับคุณหนูมุนบินกันดีมั๊ย ” สิ่งปรบมือเห็นด้วยดังขึ้น พวกเขาคงไม่มีสิ่งของราคาแพงมาตอบแทนน้ำใจที่ผู้ใจดีมอบให้ในวันนี้มีแค่เสียงเพลงอวยพรวันเกิดที่กลั่นออกมาจากใจเท่านั้นที่พวกเขาจะมอบให้ได้
“ ดีครับ/ดีค่ะ ” เด็กๆขานรับออกมาพร้อมกัน
เสียงเพลงอวยพรวันเกิดที่ฟังดูอาจจะไม่พร้อมเพรียงเท่าไหร่แต่ถ้าหากฟังดีๆจะรู้ว่าพวกเขาร้องออกมาจากใจจริงๆ ลูกหมีที่เป็นเจ้าของวันเกิดนั่งยิ้มแก้มตุ่ยที่มีคนร้องเพลงให้บางเล็กขยับตามเบาๆอย่างอารมณ์ดี
“ เอาล่ะ ทีนี้ก็ท่องบทขอบคุณอาหารแล้วลงมือทานได้จ๊ะ ” เมื่อบทเพลงจบลงก็ถึงเวลาทานอาหารที่ทุกคนรอคอย
การทานอาหารมื้อแรกร่วมกับเพื่อนใหม่ผ่านไปอย่างทุลักทุเลเพราะเจ้าโต๊ะที่ค่อนข้างสูงเป็นอุปสรรคชิ้นโตที่ทำให้ทานลำบากเดือดร้อนให้พ่อหมีต้องคอยเดินมาดูเป็นระยะเพราะเกรงว่าลูกชายจะไม่ได้ทานอะไร แต่เพราะมันบ่อยเกินไปแจจุงเลยต้องเบรกเอาไว้เมื่อเห็นว่าร่างสูงกำลังจะลุกไป ปล่อยให้มุนบินทำอะไรด้วยตัวเองบ้างก็ดีอย่างน้อยพอเห็นคนอื่นทำได้ลูกชายของเขาก็ต้องพยายามทำให้ได้เหมือนคนอื่น
ของเล่นและเสื้อผ้าที่นำมาถูกส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพื่อนำไปแบ่งให้เด็กๆแต่ก้ได้แจกไปแล้วส่วนหนึ่งเด้กๆดุจะตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่มากบางคนที่ไม่เคยเห็นก็เข้ามาถามมุนบินว่ามันเล่นยังไงซึ่งลูกหมีก้เต็มใจสอนวิธีเล่นให้กับทุกคน นอกจากนั้นยังมีเกมส์ต่างๆที่ยูชอนกับชางมินช่วยกันคิดแล้วนำมาให้เด็กๆเล่นในวันนี้เรียกเสียงหัวเราะจากหัวใจที่เหงียบเหงาของเด็กๆให้กับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและเมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับดูเหมือนว่ามีบางคนอยากอยู่ที่นี้ถาวรซะแล้วสิ
“ คุณพ่อหนูไม่อยากกลับ ”เจ้าตัวเล็กเริ่มงอแง มุนบินอยากเล่นกับเพื่อนๆต่ออ่ะ กลับบ้านไปก็ไม่มีเพื่อนขอมุนบินอยู่ต่อเถอะน๊า
“ ทำไมล่ะลูก ” เสียงหวานเอ่ยถามลูกชายที่กำลังอ้อนคุณพ่อแต่เห็นทีว่าเรื่องนี้ต่อให้อ้อนให้ตายพ่อหมีก็ไม่มีทางยอมแน่ๆ สงสัยว่าพ่อลูกชายจะติดเพื่อนจริงๆแล้วสิ
“ หนูจะอยู่ที่นี่ ” มุนบินหันมาตอบคุณแม่ตาเรียวอ้อนวอนไปในตัว
“ แล้วหนูไม่อยู่กับคุณพ่อคุณแม่เหรอครับ ” ยุนโฮแกล้งถามลูกชายหนูจะอยู่กับเพื่อนแล้วอยู่ไม่อยากอยู่กับคุณแม่เหรอลูก
“ คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่” อยู่สิ คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ด้วยกันทีนี้ไงเดี๋ยวให้คุณปุ่กับคุณย่าเอาเสื้อผ้าที่บ้านมาให้ก็ได้
“ อยู่ไม่ได้หรอกครับ ”
“ ทำไม ” ทำไมถึงอยู่ไม่ได้ล่ะคนอื่นก็อยู่กันตั้งเยอะแยะ
“ ก็ทีนี้คนอยู่เยอะแล้ว ไม่มีที่ให้เรานอนหรอกลูก ” แจจุงเลี่ยงที่จะบอกว่าทำไมจริงๆแล้วมุนบินถึงอยู่ที่นี้ไม่ได้เพราะหากบอกออกไปแน่นอนว่าเจ้าตัวเล็กต้องถามต่อแน่นอนและมันคงไม่ดีถ้าหากว่ามาถามตอนนี้
“ เหรอ ”
“ ครับ แล้ววันนี้คุณแม่ก็จะทำเค้กให้มุนบินด้วยน๊าหนูไม่อยากทานเค้กเหรอลูก ”
“ จริงเหรอ ” ตาเล็กเป็นประกายขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อขนมสุดโปรด
“ ครับ ถ้าหนูกลับบ้านหนูก็จะได้ทานเค้กแล้วเดี๋ยวเราค่อยกลับมาเยี่ยมเพื่อนมุนบินใหม่ตกลงไหมครับคนเก่ง” ยุนโฮช่วยยืนยันอีกคนพร้อมกับยื่นข้อตกลงให้กับลูกชาย
“ จริงนะ คุณพ่อพามาจริงๆนะ ” ถามเพื่อความแน่ใจ คุณพ่อห้ามโกหกนะคุณพ่อต้องพามุนบินมาหาเพื่อนๆอีกจริงๆนะ
“ ครับ แต่ตอนนี้กลับบ้านเราดีกว่าเนอะ ”
“ ครับ” เจ้าหนุรับคำก่อนจะหันไปบอกลาเพื่อนๆ “ บ๊าย บาย มุนบินกลับก่อนนะแล้วเดี๋ยวมุนบินจะมาหาใหม่น๊า ” มือป้อมยกขึ้นบอกลาเพื่อนๆหากแต่สายตายังคงอาลัยอาวรณ์แต่ไม่เป็นไรหรอกก็คุณพ่อสัญญาแล้วนี่นาว่าจะพามุนบินมาหาเพื่อนอีก แล้วเจอกันใหม่น๊าทุกคนเล่นของเล่นให้สนุกนะมุนบินตั้งใจเอามาให้ทุกคนเลย คิดซะว่ามันเป็นตัวแทนของมุนบินเวลาคิดถึงมุนบินก็หยิบมันขึ้นมาเล่นนะ ขอบคุณทุกคนจริงๆวันนี้มุนบินสนุกมากเลยล่ะ
หลังจากร่ำเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วแขกผู้มาเยือนก็เดินทางกลับโดยมีเด็กๆมายืนโบกมือส่ง มุนบินแนบหน้าติดกับกระจกรถเพื่อส่องดูเพื่อนๆที่มายืนส่งอย่างอาลัยอาวรณ์กว่าจะเลิกมองก็ตอนที่รถขับออกมาไกลจนมองไม่เห็นแล้วนั่นแหละ
ปาร์ตี้เล็กๆที่ฉลองกันเฉพาะคนในครอบครัวและคนที่สนิทเท่านั้นถูกจัดขึ้นบริเวณริมสระว่ายน้ำของบ้าน เจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรโดนพ่อหมีจับปิดตาแล้วอุ้มเดินเข้ามาในงาน
“ คุณพ่อ เปิดได้ยัง ” เสียงเล็กเอ่ยถาม มุนบินอึดอัดนะทำไมคุณพ่อต้องปิดตาหนูด้วยอ่ะมืดก็มืดเดินเองก็ไม่ได้ เอ๋? หรือว่าคุณพ่อจะเอามุนบินไปทิ้งถังขยะเหมือนนิทานที่คุณแม่เคยเล่าให้ฟัง
“ ยังครับ อีกแป๊บนึงนะลูก ” ยุนโฮวางลูกชายลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะสั่งแม่บ้านให้ปิดไฟแล้วจุดเทียนลงบนเค้กก้อนโตที่ทำมาจากใจของคุณแม่คนสวย
ยุนโฮค่อยๆแกะผ้าปิดตาออกให้ลูกชายช้าๆก่อนจะบอกให้เจ้าตัวเล็กค่อยๆลืมตา มุนบินกระพริบตาไปมาอยู่หลายครั้งเมื่อเห็นภาพไม่ชัดก่อนตาเล็กจะเบิกกว้างด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามอะไรเสียงเพลงอวยพรวันเกิดก็ดังขึ้นเจ้าหนูมองไปรอบๆก็พบว่าทุกคนยืนอยู่รอบๆตัวเขา
เซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา
เซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา
มุนบิน ซา-รัง-ฮา-นึน ..มุนบิน...ชี
เซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา
“ สุขสันต์วันเกิดนะครับลูก มีความสุขมากๆ คุณพ่อรักหนูมากนะ ” ร่างสูงคุกเข่านั่งลงข้างๆลูกชายจมูกโด่งกดลงบนแก้มนิ่มอย่างสุดรักแล้วคว้าตัวเข้ามากอดเมื่อเจ้าตัวเล็กหอมแก้มกร้านกลับ
“ หนูก็รักคุณพ่อ ”
“ มีความสุขมากๆนะเจ้าชายน้อยของคุณแม่ เป็นเด็กดีนะลูกเป็นลูกชายที่น่ารักของคุณแม่ตลอดไปนะครับ ”
สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันกลมและนี่คือของขวัญที่ยุนโฮกับแจจุงมอบให้กับแก้วตาดวงใจของเขาทั้งสองไม่มีของขวัญชิ้นใดมีค่าเท่าความรักความผูกพันของคนในครอบครัวมอบให้แก่กัน
เค้กก้อนโตถูกตัดแบ่งให้กับแขกที่มาร่วมงาน โดยทุกคนต่างทยอยนำของขวัญที่เตรียมมามอบให้กับเจ้าของวันเกิดบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
“ มุนบินมานี่หน่อยสิลูก อายูชอนกับอาจุนซูมีอะไรจะให้หนู ” ยูชอนเรียกหลานชายที่กำลังยืนมองดูลูกโป่งหลากสีที่ลอยอยู่ในน้ำอย่างสนใจ พร้อมกับชูกล่องของขวัญใบใหญ่ให้ดู
เจ้าตัวเล็กหันไปมองคุณแม่คนสวยเป็นเชิงถามว่าหนูไปหาคุณอายูชอนได้ใช่ไหม และพอได้รับการพยักหน้าอนุญาตขาป้อมก็วิ่งไปหาคุณอาทั้งสองทันที ยูชอนอ้าแขนรอรับเพราะคิดว่าเจ้าตัวเล็กคงวิ่งเข้ามาหาตนแต่เปล่าเลยมุนบินวิ่งมาหาคุณอาจุนซูต่างหาก
“ วิ่งเร็วแบบนั้นเดี๋ยวก็หกล้มหรอกครับมุนบิน ” เอ่ยพร้อมกับอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก ไอ้กลัวหลานเจ็บตัวหน่ะไม่เท่าไหร่หรอกแต่กลัวพ่อหมีจอมหวงลูกมันจะอาละวาดมากกว่าโทษฐานทำให้ลูกหมีเจ็บตัว
“ หนูไม่ล้มหรอก ” หันมาบอกคุณอาจุนซูตาแป๋ว ชองมุนบินก็ยังเป็นชองมุนบินอยู่วันยังค่ำที่ไม่เคยเป็นอะไรซักอย่าง
“ ครับ ไม่ล้มก็ไม่ล้ม ” จุนซูหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทางอวดเก่งของเจ้าตัวเล็ก “ วันนี้อายูชอนกับอาจุนซูมีของขวัญมาให้หนูด้วยน๊า ”
“ จริงเหรอครับ ? ”
“ จริงสิครับ นี่ไงอาเตรียมไว้ให้มุนบินเรียบร้อยแล้ว ” ยูชอนชูกล่องของขวัญในมือให้เจ้าตัวเล็กดูก่อนจะรีบชักกลับเมื่อมือป้อมยื่นมารับ
เจ้าหนูทำหน้าสงสัยว่าทำไมคุณอาชูชอนถึงชักของขวัญกลับก็ในเมื่อบอกว่าเอามาให้มุนบินนี่นา อ๋อ คิดออกแล้วคุณพ่อบอกว่าเวลาผู้ใหญ่ให้ของหนูต้องพูดว่าขอบคุณ “ ขอบคุณครับ ”
ยูชอนยิ้มน้อยๆแต่ก็ยังไม่ยอมให้ของขวัญเจ้าตัวเล็กอยู่ดี อะไรอ่ะคุณอายูชอนแกล้งมุนบินเหรอก็มุนบินทำตามที่คุณพ่อบอกแล้วนี่นา
“ แต่...มีข้อแม้ว่ามุนบินต้องทำแบบนี้ก่อน ” นิ้วยาวชี้ไปที่แก้มกร้านของตัวเองเพื่อบอกว่าถ้าอยากได้ของขวัญมุนบินต้องหอมแก้มอายูชอนก่อน
และเหมือนจะรู้งานจมูกเล็กๆหอมลงไปบนแก้มของคุณอายูชอนที่ยื่นมารอในเมื่ออายูชอนขอมามุนบินก็จะจัดให้ โธ่ นึกว่าเรื่องอะไรบอกมุนบินแบบนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง อ๊ะเดี๋ยวคุณอาจุนซูจะน้อยใจหอมคุณอาจุนซูด้วยดีกว่า จุ๊บ
“ มีความสุขมากๆนะครับ ” มือกร้านขยี้หัวเล็กเบาๆอย่างชอบใจ มุนบินเลิกสนใจอายูชอนทันทีแล้วก้มหน้าก้มตาแกะของขวัญที่พึ่งได้มาอย่างตั้งใจอยู่บนตักของจุนซู
“ อ้าว มุนบินมาอยู่นี่เองเหรอครับ อาตามหาแทบแย่ ”
“ มีอะไรเหรอชางมิน ตามหามุนบินทำไมอ่ะ ” จุนซูที่กำลังช่วยเจ้าตัวเล็กแกะของขวัญอยู่เงยหน้าขึ้นมาถามผู้มาใหม่
“ ผมก็มีของขวัญจะให้หลานเหมือนกันนะ คิดว่ามีแค่พวกพี่หรือไงที่เตรียมมา ” ร่างสูงตอบกวนๆ เขาก็เตรียมของขวัญมาให้มุนบินเหมือนกันนะ
“ อ่าว นี่ฉันถามนายดีๆนะ ”
“ ผมก็ตามพี่ดีๆเหมือนกัน ไม่ได้ตะโกนตอบซะหน่อย ” ชางมินยังไม่เลิกกวนจนยูฮวานต้องรีบปรามไม่รู้ว่าเป็นอะไรเจอหน้าจุนซูทีไรต้องหน้าเรื่องแกล้งตลอด
“ พอเลยทั้งคู่ ทะเลาะกันเป็นเด็กไปได้อายหลานบ้าง ” ยูชอนเองก็รู้สึกไม่ต่างอะไรกับยูฮวานนักหรอกเริ่มเบื่อที่ต้องคอยห้ามแล้วเหมือนกัน นี่ถ้าไม่เห็นว่ามุนบินนั่งมองตาแป๋วอยู่เขาจะปล่อยให้เถียงกันจนกว่าคนใดคนหนึ่งจะเหนื่อยไปเองเลยล่ะ
“ ยูชอนนายก็ดูชางมินสิชอบยั่วโมโหฉันน่ะ ” จุนซูหันไปฟ้องสามีที่นั่งทำหน้าเหนื่อยใจอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ สู้ไม่ได้อะดิถึงได้ไปฟ้องพี่ยูชอนน่ะ ” ชางมินยังสนุกที่ได้แกล้งรุ่นพี่คนสนิททุกทีแหละพออตัวเองใกล้จะแพ้ก็ชอบหาแนวร่วมมาช่วย
“ ชางมิน พอได้แล้ว ” ยูฮวานกระตุกแขนคนรักเบาๆเพื่อปราม ไม่ได้หรอกกับคนคนนี้หน่ะถ้าไม่ห้ามยิ่งไปกันใหญ่
“ ก็ได้ นี่พี่จุนซูต้องขอบคุณริคกี้นะเนี่ย ” หันไปยิ้มหวานให้คนรักก่อนจะยักคิ้วกวนประสาทให้กับคุณนายปาร์ค
“ ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เด็กโย่ง ”
“ อย่าลืมมาเอาคืนล่ะ มุนบินครับมาหาอามินดีกว่ามา ” พูดยังไม่ทันขาดคำร่างป้อมของเจ้าตัวเล็กก็ลอยขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนแกร่งซะแล้ว
ปากหยักยกยิ้มด้วยความสะใจก่อนจะรีบวิ่งหนีเมื่อเห็นว่าจุนซูเตรียมฟาดฝ่ามือลงมาที่เขา ยูฮวานโค้งขอโทษคนทั้งสองแทนคนรักก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินตามออกไป
แจจุงนั่งมองตามคนสามคนที่เดินเล่นกันอยู่ในงานร่างบางกำลังนึกสงสัยอยู่ว่าชางมินพูดอะไรกับมุนบินท่าทางเหมือนกับว่ากำลังเตรียมการอะไรสักอย่างโดยมียูฮวานยืนดูอยู่ใกล้ๆหวังว่าเจ้าตัวแสบคงไม่สอนอะไรพิเลนๆให้กับลูกชายเขาหรอกนะ
“ คุณแม่ ” เจ้าตัวเล็กที่เขาเห็นอยู่กับชางมินเมื่อสักครู่วิ่งเข้ามาหาก่อนจะกอดเข้าที่เอวบางของคุณแม่คนสวยซุกหน้าลงกับหน้าท้องแบนเรียบ เรียกรอยยิ้มจากคนที่นั่งร่วมโต๊ะ
“ ว่าไงครับ หนูจะทานอะไรอีกไหมเดี๋ยวคุณแม่หยิบให้ ” ร่างบางถามพลางอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก อ้อนแบบนี้สงสัยว่าคงจะหิว
“ ไม่เอา” แต่ครั้งนี้เจ้าตัวเล็กกลับปฏิเสธ
“ เอ๋ ? หรือว่าหนูง่วงงั้นเดี๋ยวคุณแม่พาขึ้นไปนอนเอาไหมครับ ” ร่างบางเดาไปเรื่อยแต่ดูแล้วมุนบินไม่มีอาการว่าง่วงนอนเลยแม้แต่นิด
“ ไม่เอา ” หัวเล็กส่ายไปมามุนบินยังไม่ง่วงซะหน่อย
“ งั้นมุนมินอยากได้อะไรล่ะครับ บอกคุณพ่อได้ไหมเอ่ย ” อันนั้นก็ไม่เอาอันนี้ก็ไม่เอาสงสัยว่าแค่อยากจะอ้อนเฉยๆล่ะมั้ง
ตาเรียวหันไปมองอาชางมินที่เดินโอบไหล่อายูฮวานตามมาที่โต๊ะ ปากเล็กค่อยๆเอ่ยออกมาเมื่ออาชางมิน พยักหน้าบอกว่าพูดเลยๆ
“ หนูอยากได้น้อง ” เจ้าตัวเล็กตอบเสียงดังฟังชัด คำตอบที่ทำเอาคนทั้งโต๊ะหัวเราะออกมาจะมีแต่คุณแม่คนสวยคนเดียวเท่านั้นที่นั่งหน้าแดงกับคำขอของลูกชาย ตากลมตวัดไปมองร่างสูงของน้องชายรู้เลยล่ะว่าใครเป็นคนบอกให้พูดแบบนี้
ชางมินที่ยังไม่หยุดหัวเราะยกมือขึ้นเพื่อบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องมุนบินพูดเองต่างหาก เขาก็แค่ถามว่ามุนบินอยากมีเพื่อนเล่นไหมถ้าอยากมีก็ไปขอน้องกับคุณพ่อคุณแม่สิก็แค่นั้น
“ ว่าไงล่ะแจจุง มุนบินเขาอยากได้น้องอ่ะ ” ยูชอนที่หยุดหัวเราะได้แล้วเอ่ยแซวคนที่นั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึง
แจจุงได้แต่นั่งเม้มปากข่มความอายเอาไว้ มุนบินนะมุนบินถ้าหนูอยากได้น้องหนูค่อยบอกตอนอยู่กับคุณแม่สองคนก็ได้นี่ลูกไม่เห็นต้องมาบอกตอนนี้เลยคุณแม่อายนะรู้ไหม ชางมินก็อีกคนสอนหลานเข้าไปเรื่องแบบนี้เนี่ยอิตาหมีก็แทนที่จะช่วยกลับนั่งยิ้มหน้าบานอยู่ได้
“ นะคุณแม่นะหนูอยากได้น้อง ” เมื่อเห็นว่าคุณแม่ยังไม่ยอมตกลงมุนบินก็ไม่ยอมจบง่ายๆก็มุนบินอยากมีเพื่อนอ่ะคุณแม่เอาน้องให้มุนบินหน่อยนะ
“ อ่ะ เอ่อ ครับๆ ” แจจุงจำต้องรับปากเมื่อพอเดาออกว่าถ้าไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจเจ้าตัวเล็กคงไม่ยอมจบง่ายๆแน่
“ เย้ เย้ คุณแม่ใจดีที่สุดเลยหนูรักคุณแม่จัง ” เจ้าหนูโผเข้าหาคุณแม่ด้วยความดีใจร่างที่โถมเข้ามาทำเอาแจจุงแทบตกเก้าอี้
“ คุณแม่ก็รักหนูครับ ” ร่างบางกอดตอบลูกชายทั้งที่ในใจแทบอยากจะลุกหนีตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวเล็กบอกว่าอยากได้น้องแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องมันจะจบถ้าหากว่ามุนบินไม่พูดประโยคต่อมาประโยคที่ไร้เดียงสาของเด็กแต่ทำเอาร่างบางแทบอยากจะร้องไห้ผิดกับคนอื่นที่ต่างหัวเราะกับความไร้เดียงสาของเจ้าตัวเล็ก
“ หนูอยากได้น้องตอนนี้เลยนะคุณแม่ เอาเยอะๆเท่าเพื่อนของมุนบินเลยนะ ”
ความคิดเห็น