คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #108 : ~ Happy Family 2 ~ # 10
ร่างที่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัวเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงเมื่อได้ยินเสียงรถที่คุ้นเคยแล่นเข้ามาภายในบริเวณบ้านมือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
ห้าทุ่มกว่าแล้ว
นี่ยุนโฮกลับบ้านดึกขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แจจุงวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมก่อนจะล้มตัวลงนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะรอเตรียมน้ำอุ่นให้แต่พอเห็นยุนโฮกลับบ้านดึกแถมไม่ยอมโทรบอกแบบนี้ความน้อยใจที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ช่วงเย็นมันสั่งให้แจจุงแกล้งทำเป็นไม่สนใจดูบ้าง
เสียงเปิดประตูเบากว่าทุกครั้งนั้นทำให้แจจุงรู้ว่ายุนโฮคงไม่อยากทำให้เขากับลูกตื่น ร่างที่แกล้งทำเป็นหลับลืมตาข้างเดียวแอบดูว่าคนรักกลับมาบ้านด้วยสภาพไหน ถึงแม้ยุนโฮจะเปิดแค่โคมไฟมุมห้องแต่มันก็สว่างพอที่จะทำให้เห็นว่าร่างสูงที่ยืนถอดเนคไทพร้อมกับหมุนคอไปมานั้นคงจะเหนื่อยล้ามากทีเดียว
เปลือกตาสีน้ำนมแกล้งปิดสนิทอีกครั้งเพื่อเห็นเงาของคนรักเดินตรงมาที่เตียง ยุนโฮหยุดยืนอยู่ข้างเตียงฝั่งของแจจุงก่อนจะต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าภายในอ้อมกอดของคุณแม่คนสวยมีเพียงหนูน้อยเยอึนเท่านั้น สงสัยว่าคืนนี้คุณปู่คุณย่าคงลักพาตัวลูกหมีคนพี่ไปนอนด้วยอีกแน่ๆ
“ กลับมาแล้วครับ ” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆที่ข้างหูเป็นเพียงกระซิบที่แผ่วเบาเพราะไม่อยากรบกวนการนอนของคนรักก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเลื่อนลงมาเรื่อยจนมาหยุดอยู่ที่ปากอิ่ม ปากหยักยกยิ้มขบขันให้กับความคิดของตัวเอง
ถ้าลักหลับเมียตัวเองจะเป็นอะไรมั๊ยนะ
ยุนโฮกดจูบหนักๆลงบนกลีบปากสวยก่อนจะเคลื่อนหน้ามาจุมพิตลงบนหน้าผากเล็กของลูกสาวที่ถึงแม้จะมองเห็นหน้าไม่ชัดแต่ยุนโฮก็มั่นใจว่าคงจะน่ารักไม่แพ้คนเป็นแม่
เปลือกตาสีน้ำนมค่อยๆเปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูเป็นสัญญาณบอกว่ายุนโฮเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ร่างบางดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอีกครั้งก่อนจะยกมือขึ้นจับริมฝีปากตัวเองพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ความน้อยใจที่มีพลันหายไปสิ้นเมื่อได้รับสัมผัสอ่อนโอนที่แจจุงรับรู้ได้ว่ามันเต็มไปด้วยรัก
ขาเรียวก้าวลงจากเตียงเพื่อไปเตรียมชุดนอนให้ร่างสูง แต่ยังไม่ทันได้เดินไปถึงห้องแต่งตัวเสียงข้อความเข้าก็ดังขึ้นซะก่อน แจจุงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าไม่ใช่เสียงข้อความของเขาตากลมกวาดมองไปรอบห้องถ้าไม่ใช่ของเขาก็ต้องเป็นของยุนโฮน่ะสิ แสงไฟที่พึ่งดับลงจากหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานเป็นเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าแจจุงเข้าใจไม่ผิด
แจจุงสองจิตสองใจว่าจะเปิดดูดีหรือเปล่า เพราะปกติแล้วถึงแม้ยุนโฮจะไม่ได้ห้ามแต่แจจุงก็ค่อยได้วุ่นวายกับโทรศัพท์ของคนรักมากเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้มันเหมือนมีอะไรบางอย่างฉุดให้ความอยากรู้มีมากขึ้นกว่าทุกครั้งแจจุงค่อยๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะหันไปมองยังประตูห้องน้ำเสียงน้ำกระทบกับพื้นทำให้แจจุงแน่ใจได้ว่ายุนโฮคงไม่ออกมาตอนนี้ คุณแม่ลูกสองสูดอากาศเข้าปอดเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองไหนๆพวกเขาก็ไม่เคยมีความลับต่อกันอยู่แล้วแค่เปิดดูข้อความแค่นี้ยุนโฮคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง
คิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ทิฟฟานี่ นี่มันชื่อผู้หญิงนี่นาไม่รอช้าแจจุงรีบเปิดข้อความออกอ่านทันทีจะบอกว่าตอนนี้แจจุงกำลังระแวงก็คงจะไม่ผิด
ขอบคุณสำหรับอาหารเย็นนะค่ะ ดีใจนะค่ะที่อย่างน้อยช่วงเวลาแบบนี้ฉันยังมีคุณ
มือบางกำโทรศัพท์แน่นเมื่อพอจะเดาออกว่าคนที่ส่งข้อความมาคงจะเป็นคนเดียวกับคนที่ไปทานข้าวกับยุนโฮตอนเย็น แจจุงเปิดเข้าไปในเมนูข้อความอีกครั้งก่อนจะพบว่ามีข้อความอีกจำนวนหนึ่งที่มาจากผู้ส่งคนเดียวกันร่างบางค่อยๆไล่อ่านทีละข้อความพร้อมกับบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรทั้งๆที่ภายในจิตใจตอนนี้มันโหวงๆพิกล ตกลงว่ายุนโฮกับคนที่ชื่อทิฟฟานี่มีความสัมพันธ์กันแบบไหนกันแน่เพราะถ้าหากเป็นแค่เพื่อนหรือหุ้นส่วนมันไม่น่าที่จะส่งข้อความหรือโทรหากันบ่อยขนาดนี้ แต่ถ้าจะถามยุนโฮตอนนี้ก็กลัวว่าร่างสูงจะคิดว่าเขาไม่ไว้ใจงั้นเอาไว้หาหลักฐานได้เยอะกว่านี้ก่อนแล้วค่อยถามทีเดียวเลยละกัน
แจจุงวางโทรศัพท์ไว้ตามเดิมเมื่อเสียงภายในห้องน้ำเงียบลงร่างบางเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมชุดนอนให้คนรักถึงจะระแวงและสงสัยมากแค่ไหนแต่แจจุงก็ยังทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ร่างบางเดินกลับออกมาอีกครั้งและเป็นจังหวะเดียวกับที่ยุนโฮออกมาจากห้องน้ำพอดี
“ แจตื่นมาทำไมเหรอ ” เสียงทุ้มถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นภรรยาคนสวยยืนกอดอกอยู่หน้าประตูห้องแต่งตัว นี่ถ้าไม่ติดว่าสวยยุนโฮคงนึกว่าเป็นผีแล้ววิ่งออกนอกห้องแล้วไปล่ะ
“ ได้ยินเสียงยุนอาบน้ำน่ะ กลับมานานแล้วเหรอ ” ทำเสียงให้เป็นปกติมือบางยกขึ้นมาปิดปากหาวเพื่อความสมจริง
“ ยุนทำให้แจตื่นรึเปล่า ” ถามด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เมื่อแจจุงพยักหน้าบอกว่าใช่แล้ว แขนแกร่งตวัดร่างบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมแขนกอดจะกดจมูกลงหนักๆบนแก้มเนียนทั้งสอง “ แทนคำขอโทษ ”
แจจุงย่นจมูกใส่อย่างน่ารักขอโทษแบบไหนกันเนี่ยคนขอโทษได้กำไรไปเต็มๆเลย มือบางแย่งผ้าขนหนูมาจากคนรักก่อนะเริ่มลงมือเช็ดผมให้อย่างเบามือแต่ถึงอย่างนั้นปากก็ยังไม่วายบ่น
“ ทำไมถึงชอบสระผมตอนดึกๆจังนะ ”
“ ก็ตอนเช้ามันไม่มีเวลา ” บอกกลั้วรอยยิ้ม เขาชอบเวลาที่แจจุงทำหน้าขัดใจจริงๆมันดูน่ารักและน่าหมั่นเขี้ยวในเวลาเดียวกัน
“ ทีหลังก็ตื่นเช้าๆสิ ” จะให้มีเวลาได้ยังไงล่ะก็เล่นนอนเป็นพ่อหมีขึ้นอืดกว่าจะลุกจากเตียงได้ก็เกือบจะสายโด่งจนแทบจะไปส่งลูกไปโรงเรียนไม่ทัน “ กว่าจะได้นอน ” เสียงหวานยังคงบ่นไปเรื่อย
ยุนโฮยิ้มรับคำบ่นนั้นเขาไม่เคยรำคาญเลยแม้แต่นิดเพราะรู้ว่าทุกครั้งที่แจจุงบ่นนั้นมาจากความเป็นห่วง ตรงกันข้ามเขากับชอบซะอีกเพราะมันทำให้รู้สึกว่ามีคนคอยห่วงใยและเอาใจใส่
“ มุนบินไปนอนกับคุณพ่อคุณแม่อีกแล้วเหรอ ”
“ อืม....ตอนแรกแค่เอารูปไปอวดแต่ไม่รู้อวดยังไงคุณแม่ถึงได้มาบอกว่าหลับไปแล้ว ” พูดไปก็ขำไปเมื่อนึกไปถึงตอนที่ยูนาเดินมาบอกว่าคืนนี้มุนบินจะนอนกับเธอเพราะเจ้าลูกหมีวาดรูปให้คุณปู่คุณย่าดูจนผล่อยหลับไป
“ วันหลังคิดค่าตัวลูกหมีดีมั๊ยเนี่ย ” ยุนโฮอดที่จะแซวบุพการีทั้งสองที่ป่านนี้คงนอนกอดหลานรักหลับสบายไปแล้วไม่ได้
ยิ่งนับวันคุณปู่คุณย่ายิ่งหาเรื่องมาพาลูกหมีไปนอนด้วยบ่อยขึ้นสองวันก่อนก็เป็นเยอึนมาวันนี้ก็เป็นมุนบินอีก แต่วันไหนใจร้ายหน่อยก็มาพรากลูกหมีทั้งสองไปนอนกอดพร้อมๆกันปล่อยให้เขากับแจจุงนอนเหงากันอยู่สองคน ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังเขาคงต้องได้เก็บเงินค่าหมอนข้างชนิดพิเศษยี่ห้อลูกหมีกับคุณปู่คุณย่าแน่ๆ
“ ท่านคงจะเหงาน่ะ ” จากคนที่เคยทำงานแต่ต้องมาอยู่บ้านเฉยๆมันคงจะทำให้รู้สึกเบื่อและเหงาอยู่ไม่น้อย และวิธีคลายเหงาของท่านทั้งสองคงหนีไม่พ้นได้มีหลานตัวเล็กๆให้ได้กอดได้หอมได้ฟังเสียงเล็กๆเจื้อยแจ้วอย่างไร้เดียงสา
“ ยุนก็เหงาเหมือนกันนะ ” ซบหน้าลงบนหน้าขนหนูอ้อนบอกด้วยนัยน์ตาสื่อความนัยที่แจ
จุงอ่านออกว่า
ถ้ามีเจ้าตัวเล็กอีกสักคนคงจะไม่เหงา
เมื่อที่กำลังขยี้ผมอยู่ชะงักก่อนจะคล้องผ้าขนหนูไว้บนลำคอแกร่ง หน้าหวานเปลี่ยนเป็นเรียบสนิทเพียงชั่วครู่ก่อนจะปรับให้เป็นปกติดังเดิม
“ ยุนออกไปทำงานทุกวันเจอคนตั้งเยอะไม่เหงาหรอก ” น้ำเสียงฟังดูล้อเล่นหากแต่ยุนโฮคงไม่มีทางรู้ว่าในใจของแจจุงนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ
“ พูดแบบนี้แสดงว่าแจอยากไปทำงานบ้างเหรอ ” ยุนโฮถามขำๆเพราะคิดว่าแจจุงพูดเล่น ร่างสูงเดินเข้าไปแต่งตัวในห้องก่อนเดินกลับออกมาแขนหนาตวัดโอบไหล่มนก่อนจะพาเดินไปที่เตียง
“ ถ้าแจบอกว่าใช่ล่ะ ” เงยหน้าขึ้นถามหากแต่แสงไฟเพียงน้อยนิดไม่อาจทำให้ยุนโฮมองเห็นว่าแววตาคู่สวยนั้นจริงจังกับคำพูดเมื่อสักครู่เพียงใด แจจุงเคยคิดนะว่าบางทีเขาพึ่งพายุนโฮมากเกินไปเขาควรจะออกไปทำงานเพื่อแบ่งเบาภาระของยุนโฮบ้างแต่มันติดอยู่ที่ว่าเขาไม่อาจทำใจทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลแทนได้
“ ถึงจะอยากทำแค่ไหนยุนก็ไม่ให้แจทำหรอก อยู่บ้านเลี้ยงลูกของเราให้โตเป็นเด็กน่ารักแค่นี้ก็พอแล้ว ปล่อยให้หน้าที่นั้นเป็นของยุนคนเดียวก็พอ ” ปากหยักประทับลงบนหน้าผากมนพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น เขาไม่มีทางให้แจจุงออกไปทำงานให้ลำบากเมียกับลูกอีกสองคนแค่นี้เขาเลี้ยงได้สบายมาก “ ฝันดีครับ ”
แจจุงค่อยๆปิดเปลือกตาลงซึมซับความอบอุ่นอ่อนโยนนั้นไว้ค่ำคืนนี้เขาขอหลับฝันดีอีกสักคืนส่วนเรื่องอื่นจะเป็นยังไงพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาหาคำตอบก็ยังไม่สาย
...............................................................
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ เชิญ ” ร่างสูงที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะเอ่ยปากอนุญาตทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากแผ่นกระดาษตรงหน้า แต่เสียงจังหวะการลงเท้าที่เงียบผิดปกติไม่ใช่เสียงส้นเข็มของเลขาส่วนตัวทำให้ยุนโฮต้องหันไปมอง
ปากหยักยกยิ้มเอ็นดูกับภาพที่เห็นมุนบินกำลังจูงมือเยอึนเดินเข้ามาส่วนอีกมือที่ว่างก็ยกขึ้นจุ๊ปากเป็นสัญญาณบอกน้องสาวว่าให้เดินเบาๆเดี๋ยวคุณพ่อรู้ เห็นแบบนั้นแล้วยุนโฮจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าลูกหมีสองคนได้เข้ามาในนี้แล้ว พ่อหมีแกล้งทำเป็นอ่านเอกสารทั้งๆที่หางตาแอบมองอยู่ตลอดเวลาว่ามุนบินจะชวนน้องเล่นอะไรอีก
ยุนโฮแทบจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อมุนบินพาเยอึนเดินมาหยุดอยู่ข้างๆรอยยิ้มพอใจปรากฏอย่บนใบหน้าของลูกหมีคนพี่ นี่คงจะดีใจเพราะคิดว่าเขามองไม่เห็นสินะและถ้าเขาหูไม่ฝาดเหมือนเขาจะได้ยินมุนบินกระซิบบอกเยอึนให้พูดตามตัวเองด้วย
“ คุณพ่อ ”
“ คุงป้อ ”
ทันทีที่มุนบินพูดจบเยอึนก็ตะโกนเรียกพ่อหมีตามทันทีพร้อมกับกระโดดเข้าเกาะขาของพ่อหมีคนละข้าง เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากสองพี่น้องที่ดูจะถูกอกถูกใจเหลือเกินที่เห็นคุณพ่อของตัวเองตกใจ แต่ลูกหมีทั้งสองหารู้ไม่ว่าที่เห็นทั้งหมดนั้นพ่อหมีแกล้งทำทั้งนั้น
“ โอ๊ะ....มุนบิน เยอึนมาได้ยังไงครับลูก ” นี่ก็เนียนเล่นไปตามน้ำเลย ยุนโฮก้มลงอุ้มลูกน้อยทั้งสองขึ้นมานั่งบนตักคนละข้างก่อนจะได้รับคำทักทายเป็นการหอมแก้มชุดใหญ่ “ ว่าไงครับ...หนูสองคนมาที่นี่ได้ยังไงเอ่ย ”
“ คุณแม่พามาครับ ” ลูกหมีคนพี่เป็นคนตอบก่อนจะหยิบแว่นสายตาที่พ่อหมีถอดวางไว้ขึ้นมาดู ยุนโฮเลื่อนเอกสารที่สำคัญออกไปเมื่อเห็นว่าเยอึนเองก็เริ่มที่จะมองหน้าของเล่นบนโต๊ะแล้วเช่นกัน
“ แล้วคุณแม่อยู่ไหนลูก ” ตาคมกวาดมองไปรอบๆห้องที่คิดว่าคงจะมีร่างของภรรยาคนสวยยืนอยู่แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า
“ คุณแม่แกะขนมอยู่ ” บอกก่อนจะรีบปล่อยแว่นตาให้หลุดมือโชคดีที่ยุนโฮรับไว้ได้ทัน “ หนูเวียนหัวอ่ะคุณพ่อ ” นิ่วหน้าบอก
เมื่อกี๊มุนบินแค่จะลองใส่แว่นตาดูบ้างเผื่อใส่แล้วจะหล่อเหมือนคุณพ่อแต่พอใส่เข้าไปมุนบินกลับรู้สึกเหมือนโลกมันหมุนยังไงก็ไม่รู้มุนบินเลยต้องรีบถอดออกเพราะถ้าไม่อย่างนั้นมุนบินคงต้องเวียนหัวจนตกเก้าอี้แน่ๆเลย
“อันนี้มันเป็นแว่นของผู้ใหญ่ลูก ” ยุนโฮหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มยุ้ยนั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว จะไม่ให้เวียนหัวได้ยังไงล่ะลูกหมีในเมื่อมันเป็นแว่นสายตา แต่ยังไม่ทันที่ยุนโฮจะได้อธิบายให้ลูกชายเข้าใจเสียงเล็กๆของลูกสาวก็ดังขึ้นมาซะก่อนเมื่อหนูน้อยหันมาเห็นตอนที่คุณพ่อกำลังหอมแก้มพี่ชายแล้วมีหรือที่เด็กหญิงชอง เยอึนจะยอม
“ คุงป้อ หนูล่วย ”
.
.
.
แจจุงเปิดประตูให้มุนบินพาเยอึนเข้าไปในห้องแต่เพราะมุนบินมองมาด้วยแววตาสงสัยว่าทำไมคุณแม่ถึงไม่เข้าไปพร้อมกันร่างบางจึงยกถุงขนมให้ดูเพื่อบอกว่าคุณแม่จะเอาขนมไปใส่จานแล้วเดี๋ยวจะตามเข้า เมื่อลูกชายกับลูกสาวเดินเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้วแจจุงจึงหันกลับมายิ้มทักทายเลขาส่วนตัวของยุนโฮ
“ เห็นยุนโฮบ่นว่าช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งเหรอฮะ ” แจจุงชวนคุยระหว่างทางเดินไปห้องรับรอง สาบานได้ว่าที่พูดไปเมื่อกี๊เขาไม่ได้ตั้งใจจับผิดแม้แต่นิดที่ถามไปก็เพราะเป็นห่วงล้วนๆ
“ เอ๋? ไม่นี่ค่ะ ” หญิงสาวเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ช่วงนี้งานยุ่งเหรอ?ก็ไม่นี่นาทุกอย่างก็ปกติทุกคนยังทำงานเรื่อยๆไม่ได้รีบเร่งอะไร ช่วงนี้ทางบริษัทยังไม่มีแผนจะผลิตสินค้าตัวใหม่เพราะยังอยู่ในช่วงสำรวจตลาดจะไปยุ่งอีกทีก็ประมาณอีกสองเดือนข้างหน้านู้น
คิ้วสวยขมวดมุ่นทันทีที่ได้ยินคำตอบของเลขาเพราะถ้าหากมันเป็นอย่างที่หญิงสาวบอกแล้วยุนโฮโกหกเขาเพื่ออะไรหรือจะเป็นข้ออ้างที่หมู่นี้ร่างสูงกลับบ้านดึก แจจุงนิ่งไปสักพักร่างบางไม่แน่ใจว่าจะถามเรื่องนี้ดีหรือเปล่าเพราะก่อนขึ้นมาบนนี้แจจุงบังเอิญเดินสวนกับหญิงสาวที่ร่างบางจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เขาเจออยู่ร้านอาหาร
“ เหรอฮะ.... ” แจจุงพยักหน้าเบาๆ “ แล้วมีคนชื่อทิฟฟานี่มาหายุนโฮหรือเปล่าฮะ ” ในที่สุดก็ถามออกไปจนได้
“ มีค่ะ...วันนี้ก็มาแต่กลับไปก่อนคุณแจจุงมาแป๊บเดียวเองค่ะ ” หญิงสาวนิ่งไปสักพักก่อนจะบอกออกไปตรงๆ เพราะท่าทางของแจจุงยังดูเป็นปกติไม่เหมือนคนที่กำลังจับผิดสามีเลยแม้แต่น้อย “ คุณแจจุงมีอะไรหรือเปล่าค่ะ ”
“ ไม่มีฮะ ” ส่ายหัวพร้อมกับยิ้มกลบเกลื่อนก่อนจะหยิบถาดขนมเค้กเดินออกไปจากห้องโดยมีเลขาของยุนโฮช่วยยกแก้วน้ำส้มตามมาให้ “ ผมซื้อขนมมาฝากคุณด้วยนะฮะ ”
“ ขอบคุณมากค่ะ ” ยิ้มรับด้วยความขอบคุณ คุณแจจุงเป็นคนใจดีเรื่องนี้พนักงานทุกคนรู้ดีเพราะทุกครั้งที่เจอร่างบางมักจะยิ้มทักทายทุกคนด้วยความเป็นมิตรพร้อมกับมีของฝากติดไม้ติดมือมาฝากพนักงานในบริษัททุกครั้งที่ร่างบางแวะมาเยี่ยมสามีที่บริษัท
“ เด็กๆมาทานเค้กกับคุณแม่ดีกว่าลูก อย่าพึ่งไปกวนคุณพ่อนะคนเก่ง ” เสียงหวานของคนเป็นแม่ดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เดินเข้ามาพร้อมขนมเค้กทำให้สามพ่อลูกที่นั่งหยอกล้อกันหันมามองโดยอัตโนมัติ
และดูเหมือนว่าทันทีที่ได้ยินคำว่าเค้กมุนบินก็แทบจะกระโดดลงจากตักผู้เป็นพ่อถ้าไม่ติดว่ายุนโฮเป็นคนอุ้มลูกหมีทั้งสองพาเดินมาที่โซฟาซะก่อน สองพี่น้องตาเป็นประกายทันทีที่เห็นขนมสุดโปรดวางอยู่บนโต๊ะนิสัยเห็นของกินเป็นไม่ได้แบบนี้ไม่บอกก็น่าจะรู้ว่าเป็นหลานของอา
ชางมิน
“ มุนบินค่อยๆทานก็ได้ลูก ” คุณแม่คนสวยบอกกลั้นขำเมื่อเห็นลูกชายแทบจะกระโจนเข้าหาเค้กทันทีที่ขาถึงพื้น แจจุงหยิบอีกชิ้นขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาของลูกสาว “ หนูทานเองยังไม่ได้เดี๋ยวแม่ป้อนดีกว่าเนอะ ”
คุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆเพราะทันทีที่แจจุงตักเค้กไปจ่อที่ปากเยอึนก็อ้าปากรับทันที ท่าทางแบบนี้มันทำให้ยุนโฮสงสัยว่าก่อนมาหาเขาแจจุงพาลูกไปที่อื่นก่อนหรือเปล่าทำไมลูกหมีทั้งสองถึงได้หิวอะไรขนาดนั้นเพราะอาการแบบนี้ยุนโฮมักจะเห็นบ่อยๆเวลาที่เด็กๆเล่นกันจนหมดพลังงาน
“ ทำไมวันนี้ถึงได้แวะมาได้ล่ะ ” ยุนโฮอดที่จะแปลกใจไม่ได้เพราะนานๆทีแจจุงถึงจะแวะมาบริษัทสักครั้ง
“ วันนี้โรงเรียนมุนบินเลิกเร็วน่ะ ” วันนี้คุณครูที่โรงเรียนของมุนบินมีประชุมทางโรงเรียนจึงให้เลิกเรียนเร็วกว่าทุกวันซึ่งตอนแรกแจจุงคิดว่าจะพาลูกกลับบ้านเลยแต่นึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีนัดรับรูปที่เอาไปเข้ากรอบไว้แต่อีกตั้งสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดร่างบางขี้เกียจขับรถไป-มา เลยคิดว่ามารอที่บริษัทน่าจะสะดวกกว่า
“ ทำไม ? ถามแบบนี้ไม่อยากให้แจมารึไง ” เลิกคิ้วถามขำๆ ก่อนจะยื่นทิชชู่ไปเช็ดปากให้ลูกชาย แต่ถึงจะพูดขำๆแต่แจจุงก็แอบคิดในใจเหมือนกันนะ ถามแบบนี้กลัวเขามาเจอคุณทิฟฟานี่รึไง
“ อยากสิ มาหาทุกวันได้ยิ่งดีจะได้มีกำลังใจในการทำงาน ” พ่อหมีตอบเอาใจก่อนจะก้มลงหอมแก้มลูกสาวด้วยความหมั่นเขี้ยว เป็นไปได้เขาอยากให้แจจุงมาพาเยอึนกับมุนบินมาอยู่ที่บริษัททั้งวันเลยคงจะมีความสุขไม่น้อยถ้าทำงานเหนื่อยๆแล้วหันมาเจอหน้าสวยๆของภรรยากับรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์ของลูกหมีทั้งสอง
“ มาหาทุกวันเหมือนคุณทิฟฟานี่น่ะเหรอ ”
***** ช่วงนี้พยายามเคลียร์ฟิคให้จบไปทีละเรื่องเพราะสัญญากับพี่ว่าถ้าเรียนจบแล้วจะเลิกแต่งฟิค
และนับจากอาทิตย์นี้เป็นต้นไปไรเตอร์จะอัพฟิคเรื่องนี้ทุกวันศุกร์นะค่ะ กุญแจหัวใจอัพ
ทุกวันเสาร์ และฟิคสั้นอัพทุกวันอาทิตย์ค่ะ
***** เดือนหน้าจะเปิดให้จอง HF 2 นะค่ะ ภาคนี้สองเล่มจบค่ะ จากที่อ่านทวนคิดว่าคงจะได้
แก้เยอะเหมือนกันเพราะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเป็นมึนๆยังไงก็ไม่รู้เรื่องมันไม่ค่อยเชื่อมต่อกัน
เท่าไหร่คงจะเป็นผลพวงจากแต่งช่วงที่สมองเบลอแน่ๆ
***** เมื่อวานแวะไปดูบ้านแล้วก็เจรจากับน้องน้ำที่สายไหม น้องน้ำนิสัยไม่ดีเลยเข้าไปอยู่บ้าน
คนอื่นแล้วยังทำบ้านคนอื่นสกปรกอีกแถมไล่แล้วก็ไม่ยอมไปอีก ** แอนตี้น้องน้ำ
ความคิดเห็น