คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #81 : Special YunJae # 15
วันนี้ร้านอาหารเกาหลีมีลูกค้ามาใช้บริการตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดกันเลยทีเดียว และดูเหมือนว่าลูกค้าสองคนแรกของวันนี้จะเป็นลูกค้าวีไอพีซะด้วยเพราะทั้งสองได้รับการต้อนรับจากพนักงานในร้านอย่างเป็นกันเอง
“ หายไปนานเลยนะ นึกว่าลืมร้านนี้ไปแล็วซะอีก ” ผู้จัดการร่างท้วมเดินเข้าทักทายแขกวีไอพีถึงโต๊ะ
เพราะพอรู้ข่าวจากพนักงานในร้านว่าวันนี้แจจุงกับยุนโฮแวะมาที่ร้านเขาก็ทิ้งงานที่ทำค้างอยู่ไว้ข้างหลังแล้วออกมาหาน้องชายทั้งสองทันที เพราะยุนโฮกับแจจุงไม่ได้แวะมาที่ร้านนี้อาทิตย์กว่าแล้ว
“ ฮะ...พอดีช่วงนี้แจเขาแพ้ท้องหนักน่ะฮะก็เลยไม่ค่อยสะดวก ” ยุนโฮตอบยิ้มๆ
เพราะเห็นว่าแจจุงแพ้ท้องหนักยุนโฮก็เลยไม่อยากพาคนรักออกมาข้างนอกเท่าไหร่เพราะกลัวว่าแจจุงจะแพ้ท้องขึ้นมาแล้วจะพาลทำให้วุ่นวายกันไปหมด และมันก็ไม่สะดวกกับแจจุงด้วย
“ แล้วทำไมวันนี้ถึงได้แวะมาที่นี่ได้ล่ะ ” จุนฮีนั่งลงคุยกับทั้งคู่ดีๆ เขาหันไปเรียกพนักงานในร้านให้มารับออเดอร์
“ พอดีว่าวันนี้ไปหาหมอมาฮะ พอตรวจเสร็จก็เลยแวะมาที่นี่ ” ร่างบางบอกเสียงใส
และดูเหมือนว่าหลังจากที่ไปหาหมอมาแล้วแจจุงก็ดูอารมณ์ดีขึ้น เพราะคุณหมอบอกว่าอาการหน้าอกขยาย หัวนมคล้ำและรู้สึกเจ็บนั้นเป็นอาการปกติที่เกิดกับคนท้อง และคุณหมอก็ได้สั่งห้ามไม่ให้ร่างบางใส่เสื้อกล้ามที่มันรัดๆเพราะมันจะทำให้หัวนมรู้สึกเจ็บ ซึ่งเรื่องนี้แจจุงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะร่างบางเองก็ไม่ค่อยได้ใส่เสื้อแบบที่คุณหมอห้ามเท่าไหร่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไม่ค่อยชอบใส่แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะสามีหน้าหมีไม่ชอบให้ใส่เพียงเพราะหวงไม่อยากให้คนอื่นเห็น
“ เหรอ...แล้วคุณหมอว่ายังไงบ้างล่ะ ” จุนฮีถามด้วยความตื่นเต้นราวกับว่าคนที่ท้องคือภรรยาของตัวเอง
“ ทุกอย่างปกติดีฮะ แต่ว่าช่วงนี้จะแพ้ท้องหนักหน่อย ” บอกเสียงใส
หลังจากตรวจเสร็จเรียบร้อยคุณหมอก็แนะนำวิธีที่ช่วยให้อาการแพ้ท้องดีขึ้นว่า หลังจากที่ตื่นนอนตอนเช้าแล้วให้ดื่มผลไม้และทานขนมปังกรอบทันทีเพราะมันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยล่ะ
หลังจากได้ยินคำแนะนำจากคุณหมอแค่นั้นแหละพอออกจากโรงพยาบาลยุนโฮก็พาแจจุงไปซื้อน้ำผลไม้กับขนมปังมาเพียบ ไหนจะพวกของบำรุงที่ยุนโฮไปถามกับพนักงานในร้านว่ามีอะไรที่เหมาะกับคนท้องและพอพนักงานบอกว่าอันไหนดีบ้างร่างสูงก็กว้านซื้อมาจนหมด
“ อืม...ดูนายผอมลงนะ ” จุนฮีเอ่ยทักเมื่อเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวของน้องชาย
จากที่เป็นคนตัวเล็กอยู่แล้วแต่พอท้องยิ่งดูเหมือนว่าแจจุงจะผอมลงไปกว่าเดิมเยอะเลย ทั้งๆที่ความจริงแล้วน่าจะมีดูเนื้อมีหนังขึ้นใช่เหรอเพราะไม่ได้ทำอะไรอยู่บ้านเฉยๆ
“ ช่วงนี้ผมทานอะไรไม่ค่อยได้น่ะฮะ ” เสียงหวานบอกช่วงนี้เขาทานอะไรไม่ค่อยได้จริงๆเพราะแค่ได้กลิ่นก็อยากจะอาเจียนออกมาแล้วมันเลยทำให้เขาผอมลงอย่างที่เห็นนี่แหละ
“ งั้นก็ลำบากแย่เลยสิ ”
“ ฮะ.....พอท้องแบบนี้แล้วมันทำให้ผมคิดถึงแม่น่ะฮะ ” รอยยิ้มสวยงามปรากฏบนใบหน้าเมื่อนึกถึงแม่ของตัวเอง
แจจุงรู้แล้วว่าแม่ต้องลำบากขนาดไหนตอนที่อุ้มท้องเขาได้รับรู้ถึงความรักความห่วงใยเอาใจใส่ที่แม่มีให้ลูก และรู้ว่าแม่ต้องอดทนและเสียสละมากแค่ไหนที่จะประคับประคองดูแลให้เขาได้มีชีวิตรอดจนถึงตอนคลอด และยิ่งเขาได้รู้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรักแม่มากขึ้นเท่านั้น
และพอพูดถึงแม่อยู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ได้กลับไปไหว้หลุมศพของพ่อกับแม่เลยครั้งสุดท้ายที่ได้ไปเยี่ยมพวกท่านก็คงเป็นตอนที่ไปบอกลาเพื่อที่จะมาเรียนต่อที่นี่สินะ ร่างบางเริ่มสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อเริ่มคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสองคนหนักขึ้น
“ แจ...เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ” ยุนโฮรีบลุกขึ้นมาดูคนรักที่อยู่ๆก็ร้องไห้ออกมาซะงั้น ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะรั้งคนตัวบางเข้ามากอดปลอบประโลม
โชคดีที่ตอนนี้ร้านยังไม่เปิดเลยทำให้ไม่ต้องกลัวว่าแขกคนอื่นจะตกใจ แต่ก็ยังมีพนักงานบางคนหันมามองด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
จุนฮีเองก็นั่งมองด้วยความงงงวยเช่นกันที่จู่ๆแจจุงก็ร้องไห้ออกมา เขายังไม่ได้แกล้งอะไรแจ
จุงเลยนะเขาก็แค่บอกว่า งั้นก็ลำบากแย่น่ะสิ
“ แจเป็นอะไรบอกยุนได้ไหมครับ..... ” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมือหนาลูบแผ่นหลังบางไปมาเพื่อปลอบประโลม
แต่แทนที่จะดีขึ้นแต่แจจุงกลับปล่อยโฮหนักกว่าเดิมเมื่อได้รับสัมผัสอ่อนโยนจากคนรัก เขาไม่ได้อยากจะร้องไห้หรอกนะแต่พอคิดถึงพ่อกับแม่น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง
“ ไม่ร้องนะครับ....ยุนอยู่นี่แล้วน๊า ” โยกตัวไปมาเหมือนปลอบเด็กๆ
“ ฮึก...ฮือ....ฮือ ” เสียงหวานยังไม่หยุดสะอื้น
“ แจจุงเป็นอะไรบอกยุนโฮได้ไหม ”
“ แจ...แจ..คิดถึง พ่อ กับ แม่ ” บอกน้ำเสียงติดจะสะอื้นอยู่นิดๆ
จุนฮีที่นั่งฟังอยู่แทบอยากจะลุกขึ้นมาตะโกนให้ลั่นร้าน โธ่เอ๊ย....ไอ้เราก็นึกว่าเป็นอะไรที่แท้ก็คิดถึงพ่อกับแม่นี่เอง
“ คิดถึงแล้วทำไมไม่โทรไปหาล่ะแจจุง ” ถ้าคิดถึงก็โทรหาสิไม่เห็นจะยากเลยสมัยนี้เทคโนโลยีมันก้าวหน้าจะตาย
แต่แล้วจุนฮีก็ต้องตกใจเมื่อแจจุงร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก ชายร่างท้วมหันไปมองยุนโฮคล้ายจะถามว่าเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า
“ คุณพ่อคุณแม่ของแจจุงท่านเสียแล้วครับ ” ยุนโฮบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะยิ้มบางๆให้เมื่อจุนฮีพูดไม่ออกเสียงว่าขอโทษ
ก็เขาไม่รู้จริงๆนี่นาว่าพ่อกับแม่แจจุงเสียแล้วเพราะถ้ารู้เขาคงไม่พูดหรอก จุนฮีไม่แปลกใจเลยที่เห็นแจจุงร้องไห้หนักขนาดนี้คงจะคิดถึงมากสินะ
“ คุณพ่อคุณแม่ท่านก็อยู่กับแจตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ ไม่ร้องนะครับคนดี ” ยุนโฮยังคงปลอบคนรักให้หายสะอื้น
นี่หรือเปล่านะที่คุณหมอบอกว่าคุณแม่จะมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย เพราะก่อนหน้านี้ใช่ว่าพวกเขาสองคนจะไม่เคยพูดถึงพ่อกับแม่ของแจจุง ซึ่งทุกครั้งที่พูดถึงแจจุงก็จะดูเศร้าแต่ก็ไม่ถึงกับร้องไห้โฮแบบนี้
“ ฮือ..ฮือ....แต่แจคิดถึง แจอยากกอดท่าน ” อ้อมกอดที่ห่างหายไปนานแจจุงยังคิดถึงความรู้สึกอบอุ่นนั้นอยู่เสมออยากจะได้อ้อมกอดคู่นั้นอีกสักครั้ง
“ แจก็มีท่านทั้งสองกอดอยู่ตลอดเวลานี่นา ท่านโอบกอดแจเอาไว้ด้วยรักไงล่ะเพราะถึงตัวท่านจะไม่อยู่แต่ความรักของท่านที่มีให้แจก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ” บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ ฮือ...ฮือ ”
“ ไม่ร้องแล้วนะครับ...คุณแม่ร้องไห้แบบนี้เดี๋ยวตัวเล็กก็ร้องตามหรอก ” เอ่ยเย้าคนรักก่อนจะก้มลงแล้วเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้มใส
“ ฮึก..ไม่ ...ร้องแล้ว ” พยายามกลั้นก่อนสะอื้นเอาไว้ ท่าทางน่ารักที่เรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้ไม่ยาก
“ ถ้าหยุดร้องแล้วงั้นก็ทานข้าวกันดีกว่าเนอะ ลูกคงหิวแล้วล่ะ ” ยุนโฮเอื้อมมือไปหยิบจานของตัวเองที่วางอยู่ตรงข้ามเพราะเขาคิดว่าเขาคงจะนั่งฝั่งเดียวกันกับแจจุง
แจจุงพยักหน้าเบาๆก่อนจะผละออกจากอกแกร่ง แต่พอเลิกร้องไห้แล้วแจจุงก็พึ่งสังเกตเห็นว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมองมาที่เขา ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี๊ตัวเองเผลอทำอะไรลงไป เสียงหวานแกล้งทำเป็นโวยวายใส่เมื่อเห็นว่าจุนฮีมองมาที่เขาด้วยสายตาล้อเลียน
“ ทำไมพี่ต้องมองผมแบบนี้ด้วยเล่า ”
จุนฮีหยักไหล่ให้หนึ่งทีก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ เปล๊า...พี่แค่กำลังสงสารหลานน่ะ ที่ต้องมีแม่ขี้แยแบบนี้ ”
“ ผมไม่ได้ขี้แยซะหน่อย ” แจจุงรีบเถียงกลับทันที เขาไม่ได้ขี้แยซะหน่อยแค่น้ำตามันไหลออกมาเองเท่านั้น
“ เหรอ....... ” จุนฮีลากเสียงยาวบอกว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่แจจุงบอกเลยสักนิด หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ยังบอกว่าตัวเองไม่ได้ขี้แยอีกนะ “ แล้วไอ้น้ำใสๆที่อยู่บนแก้มน่ะน้ำฝนรึไง ”
มือบางรีบยกขึ้นมาเช็ดแก้มทั้งสองข้างของตนเองเพื่อทำลายหลักฐานใบหน้าสวยยู่นิดๆ
“ พี่ว่าพี่ไม่กวนพวกนายแล้ว ตามสบายเลยนะ ” จุนฮีลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะขอตัวไปทำงานของตัวเองเพื่อที่ยุนโฮกับแจจุงจะได้มีเวลาเป็นของตัวเอง
“ ครับ... ” ยุนโฮพยักหน้ารับ ตาเรียวกวาดมองไปรอบๆร้านเมื่อรู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ พี่จุนโฮกับพี่ยงฮวายังไม่มาเหรอครับ ”
เพราะถ้าเป็นปกติแล้วจุนโฮกับยงฮวาต้องโผล่หน้ามาหาเรื่องกวนใจให้แจจุงอารมณ์เสียแล้ว แต่วันนี้กลับไม่เห็นสักคนยุนโฮก็เลยรู้สึกแปลกๆนี่ถ้าไม่เห็นว่าพี่จุนฮียืนอยู่ตรงนี้ยุนโฮคงคิดว่าเขากับแจจุงเข้าผิดร้านแล้วล่ะ
จุนฮีหัวเราะให้กับคำถามของยุนโฮเบาๆก่อนจะเล่าข่าวใหม่ล่าสุดให้รุ่นน้องทั้งสองฟัง
“ สงสัยว่าตอนนี้คงไปรับแฟนอยู่น่ะ ”
“ หา...ผมไม่ได้มาที่นี่แค่อาทิตย์เดียวพี่จุนโฮกับพี่ยงฮวามีแฟนแล้วเหรอฮะ ” แจจุงที่กำลังตักกุ้งเข้าปากหันมาถามด้วยสีหน้าตกใจ
อะไรกันแค่เขาไม่ได้แวะมาไม่กี่วันเอาก็กลายเป็นคนตกข่าวแล้วเหรอเนี่ย แล้วมีอะไรที่เขายังไม่รู้อีกหรือเปล่าเนี่ย
“ ใช่....เป็นฝาแฝดกันด้วยนะ ” จุนฮีบอกพร้อมกับรอยยิ้มขัน
เมื่อไม่กี่วันมานี้มีลูกค้าฝาแฝดมาที่ร้านแล้วเกิดพอใจจุนโฮกับยงฮวาเข้าทั้งคู่จึงแลกเบอร์กัน แต่คุยกันยังไงก็ไม่รู้สองวันต่อมาทั้งสี่คนก็ตกลงคบหน้าดูใจกัน
“ แล้วแบบนี้จะไม่หลงกันแย่เหรอครับ ” ยุนโฮพูดติดตลก
เพราะจุนโฮกับยงฮวาก็ชอบทำตัวติดกันอย่างกับเป็นแฝดกันแล้วมีแฟนหน้าตาเหมือนกันแบบนี้เวลาไปไหนมาไหนจะไม่ควงผิดคู่เหรอ
“ เห็นบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรนะ ”
“ แล้วยังมีข่าวไหนที่ผมยังไม่รู้อีกหรือเปล่าฮะ ” แจจุงพยายามอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
“ อ่อ...แล้วก็ฮยอนจุงคบกับกาอินแล้วนะ ”
จากความช่วยเหลือของจุนโฮกับยงฮวาในที่สุดฮยอนจุงก็ได้คบกับกาอินซะทีหลังจากที่ทำได้เพียงปลื้มอยู่ได้ตั้งนาน และพอไปสารภาพรักก็พบว่ากาอินเองก็แอบมองฮยอนจุงอยู่เหมือนกัน
“ ว้าว....ก้าวหน้าอ่ะ ”
“ ทีนี้ก็เหลือพี่คนเดียวแล้วนะ เมื่อไหร่จะมีแฟนซักทีล่ะครับ ” ยุนโฮเอ่ยเย้าคนที่แก่กว่า เพราะสมาชิกในก๊วนก็มีแฟนกันหมดแล้วจะเหลือก็แต่พี่ใหญ่สุดนี่แหละ
“ ก็อยากมีเหมือนกันแหละ แต่ไม่มีใครเอา ” พูดเหมือนจะน้อยใจหากแต่ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มขบขันติดอยู่
ผู้หญิงคนไหนเขาจะมาสนใจตัวชายหน้าตาธรรมแถมยังเตี้ยแบบเขา ได้ยินแบบนั้นแล้วแจ
จุงกับยุนโฮก็อดที่จะหัวเราะตามไม่ได้
“ แต่ถึงหน้าพี่ไม่หล่อ....แต่หัวใจพี่หล่อมากนะ ” พูดเองก็หัวเราะเอง ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจผู้ชายหัวใจหล่อคนนี้บ้างหรือเปล่า
ในขณะที่ทั้งสามกำลังหัวเราะอยู่กับประโยคเด็ดของจุนฮีประตูร้านก็เปิดออกอีกครั้งพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่คุ้นตา
“ ขอโทษที่มาช้านะฮะ ” ชายหนุ่มโค้งขอโทษเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงตรงข้ามแจจุงกับยุนโฮ “ ร้องไห้อีกแล้วเหรอ? ”
และทันทีที่เห็นหน้าแจจุงชัดๆร่างสูงก็ไม่รีรอที่จะถามเมื่อเห็นว่าดวงตากลมโตนั้นแดงนิดๆบ่งบอกว่าเจ้าตัวพึ่งผ่านการร้องไห้มา ดวงตาคมเข้มจ้องมองด้วยสายตาล้อเลียน
“ นี่แสดงว่าแจจุงร้องไห้บ่อยเหรอชางมิน ” จุนฮีเลิกคิ้วถาม เพราะชางมินพูดเหมือนกับว่าเคยเห็นแจจุงร้องไห้มาก่อน
“ ฮะ...วันก่อนก็ร้อง ”
ชางมินพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเริ่มเล่าว่าทำไมแจจุงถึงได้ร้องไห้ วันนั้นหลังจากเรียนเสร็จเขาก็ขอติดรถยุนโฮกลับมาด้วยเพราะชางมินนั้นพักอยู่คอนโดเดียวกันกับยุนโฮแต่ว่าคนละชั้น แต่ก่อนที่จะกลับห้องตัวเองร่างสูงก็แวะไปเยี่ยมพี่ชายคนสวยกับหลานที่ห้อง
และพอเดินเข้าไปในห้องแล้วแจจุงเห็นกล่องเค้กในมือยุนโฮเท่านั้นแหละร่างบางก็วิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจว่าจะได้ทานเค้ก แต่พอยุนโฮบอกว่ายังไม่ให้ทานตอนนี้ให้ทานหลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วใบหน้าหวานก็มุ่ยลงทันทีก่อนจะพยายามอ้อนแต่ก็ไร้ผล
และเมื่อไม่ได้ตั้งใจใบหน้าที่งอง้ำนั้นก็ค่อยๆเบะออกก่อนจะเริ่มร้องไห้เหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ ตอนนั้นชางมินกับยุนโฮตกใจมากเลยล่ะหาวิธีมาปลอบสารพัดแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายเลยแม้แต่นิด สุดท้ายแล้วยุนโฮก็ต้องยอมให้แจจุงทานเค้กตามที่เจ้าตัวต้องการ
สิ้นคำบอกเล่าของชางมินจุนฮีถึงกับหลุดหัวเราะออกมาดังลั่นเพราะไม่คิดว่าแจจุงจะร้องไห้ให้กับเรื่องไร้สาระแบบนี้ ตากลมมองค้อนชางมินโทษฐานที่เอาความลับของเขามาแฉ แล้วแฉให้ให้ฟังไม่แฉมาแฉให้พี่จุนฮีคอยดูสิไม่นานเรื่องนี้จะต้องรู้ถึงหูพี่จุนโฮกับพี่ยงฮวาแน่นอนแจจุงฟันธง
“ พี่ฮะ....พี่อู้งานนานแล้วนะฮะ ” แจจุงรีบชวนเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าจุนฮียังหัวเราะไม่หลุด
“ จริงสิ...พี่ลืมไปเลยนะเนี่ยว่าตัวเองมีงานต้องทำ เชิญตามสบายนะ ” จุนฮีบอกกลั้วหัวเราะ
เขาก็ลืมไปซะสนิทเลยว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องทำ ผู้จัดการร่างท้วมบอกให้ทุกคนตามสบายก่อนจะขอตัวไปทำงานของตัวเองบ้าง
“ ทำไมนายต้องเอาเรื่องน่าอายของพี่ไปเล่าให้คนอื่นฟังด้วย ” พออยู่กันสามคนแจจุงก็หันมาเล่นงานน้องชายทันที
“ ก็พี่จุนฮีเขาอยากรู้ ผมก็เลยเล่าให้ฟัง ” ชางมินลอยหน้าลอยตาตอบกวนๆก่อนจะแย่งกุ้งในจานของแจจุงไปกินหน้าตาเฉย
“ นั่นมันของหลานนะชางมิน ” แจจุงโวยวายเสียงดังเมื่อกุ้งตัวสุดท้ายถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา
ตั้งแต่แพ้ท้องมามีอาหารไม่กี่อย่างหรอกนะที่แจจุงทานได้โดยไม่แพ้น่ะ ซึ่งกุ้งทอดก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่มันกลับโดนชางมินแย่งไปซะนี่
“ ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่ก็สั่งใหม่สิ ” นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้วยังมีหน้ามาบอกให้สั่งใหม่อีกนะชิม ชางมิน
“ นายนี่มันจริงๆเลย ” แจจุงส่ายหน้าให้กับนิสัยเห็นแก่กินของน้องชายสุดที่รักของยุนโฮ
“ เดี๋ยวยุนสั่งเพิ่มให้ก็ได้ ” ร่างสูงบอกกับคนตัวเล็กที่นั่งทำหน้าหงิกอยู่ข้างๆก่อนจะเรียกพนักงานมาสั่งอาหารอีกรอบ
.........................................................
“ เขียนไดอารี่ให้ลูกอยู่เหรอ ” ร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับแก้วนมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าแจจุงกำลังนั่งเขียนอะไรอยู่บนเตียง
“ อืม...แจฟ้องลูกด้วยแหละว่าวันนี้เขาโดนอาชางมินแย่งอาหาร ” เงยหน้าขึ้นมาตอบก่อนจะเก็บสมุดบันทึกไว้ที่เดิมเพื่อรอให้ยุนโฮเขียนต่อ มือขาวยื่นไปรับแก้วนมมาจากคนรัก “ ขอบคุณ
นะ ”
“ กว่าลูกจะโตพอที่จะอ่านได้ยุนว่าชางมินคงลืมไปแล้วแหละ ”
“ ก็ช่าง ลูกจะได้รู้ว่าตอนที่เขาอยู่ในท้องอาชางมินแกล้งอะไรเขาเอาไว้บ้าง ”
“ แกล้งลูกหรือแกล้งแม่กันแน่ ” ยุนโฮถามขำๆ
เพราะดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องปกติเสียแล้วที่ยุนโฮมักจะเห็นชางมินกับแจจุงหาเรื่องมาแหย่กัน โดยส่วนมากแล้วจะเป็นชางมินมากกว่าที่ชอบหาเรื่องมาแกล้งแจจุง ซึ่งร่างสูงก็ไม่เข้าใจเหมือนว่าทำไมทุกคนถึงได้ชอบแกล้งแจจุงกันนัก
หรืออาจะเป็นเพราะนิสัยของแจจุงที่มันน่าแกล้ง เพราะใช่ว่าแจจุงจะไม่โต้ตอบแต่โต้ตอบไปแล้วมันมักจะแพ้อยู่เสมอ พอแพ้แล้วก็พาลไปทั่วแต่ก็ไม่ได้พาลอะไรจริงจังไหนจะใบหน้าสวยหวานที่ชอบอมลมเข้าไปเก็บไว้ในแก้มเวลาที่เจ้าตัวไม่พอใจ
“ ทั้งสองคนนั่นแหละ ยุนก็เขียนให้ลูกสิจะได้เข้านอนลูกง่วงแล้วนะ ” ส่งแก้วนมคืนก่อนจะรบเร้าให้ยุนโฮรีบเขียนจะได้รีบเข้านอน
ดูเหมือนว่าร่างกายของแจจุงจะเริ่มปรับตัวได้แล้วเพราะพอเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนจากที่เคยนอนดึกทุกวันแต่พอมาถึงตอนนี้แค่สามทุ่มกว่าๆร่างบางก็เริ่มง่วงนอนแล้ว
“ แต่ยุนยังไม่อาบน้ำเลยนะ ” ยุนโฮก้มดูชุดที่ตัวเองใส่เพราะมันเป็นชุดเดียว กับที่เขาใส่ออกไปข้างนอกวันนี้
เพราะพอกลับมาถึงบ้านยุนโฮก็ไล่ให้แจจุงไปอาบน้ำส่วนร่างสูงก็เอาของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ในครัว ซึ่งแต่ก่อนหน้าที่นี้เป็นของแจจุงแต่พอแจจุงท้องยุนโฮก็ยึดมันไปทำเสียเอง
“ งั้นก็ไปอาบสิ.....ตัวเล็กง่วงนอนแล้วน๊า ” คล้ายจะเป็นประโยคคำสั่งหากแต่ท้ายประโยคกลับส่งเสียงออดอ้อน
“ ถ้าตัวเล็กง่วง...คุณแม่ก็พาตัวเล็กเข้านอนก่อนสิครับ ” ยุนโฮบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มเอ็นดูที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า นับวันแจจุงจะยิ่งขี้อ้อนไปทุกทีแล้วเวลาที่แจจุงอ้อนมันน่ารักน้อยซะที่ไหนล่ะ
“ ไม่เอาตัวเล็กบอกว่าอยากนอนพร้อมคุณพ่อตัวเล็กอยากให้คุณพ่อกอด ”
ทำเป็นเอาลูกมาอ้างแต่จริงๆแล้วคนแม่ต่างหากที่อยากจะได้อ้อมแขนอุ่นๆมากอดเพื่อขับกล่อมให้หลับฝันดี เพราะแจจุงชินซะแล้วกับการที่ทุกคืนก่อนเข้านอนต้องมีอ้อมกอดของยุนโฮกอดไว้เสมอ
“ หืม....งั้นคุณพ่อนอนกอดตัวเล็กก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำดีไหม ”
“ ไม่ดี...ตัวเล็กเหม็น คุณพ่อไปอาบน้ำเร็วๆเลย ” ยู่หน้าใส่อย่างน่ารักก่อนจะไล่ให้คุณพ่อไปอาบน้ำซะที
“ ถ้าคุณพ่อตัวเหม็นแล้วตัวเล็กกับคุณแม่จะไม่รักเหรอครับ ” แกล้งถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“ ใช่.... ” พยักหน้าตอบแบบไม่ต้องคิด แต่ที่แจจุงต้องไล่ให้ยุนโฮไปอาบน้ำนั้นเพราะว่าร่างบางไม่อยากให้ยุนโฮลุกไปจากเตียงหลังจากที่เขาหลับแล้วนั่นเอง
“ งั้นไปอาบแล้วก็ได้ ตัวเล็กรอคุณพ่อแป๊บนึงนะลูกเดี๋ยวคุณพ่อจะพาตัวหอมๆมากอดทั้งหนูแล้วก็คุณแม่เลย ” ก้มหน้าคุยกับลูกก่อนจะเลื่อนขึ้นมาฉวยโอกาสกับคุณแม่แล้ววิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ
ก่อนที่คุณพ่อจะไปทำตัวให้หอมคุณพ่อขอหอมคุณแม่ให้ชื่นใจก่อนก็แล้วกัน
***** ช่วงนี้ฝนตกบ่อยรักษาสุขภาพกันด้วยนะค่ะ ^^
ความคิดเห็น