คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ~ Happy Family ~
แสงแดดยามเช้าเล็ดลอดผ่านผ้าม่านที่ปลิวไสวไปตามแรงลมเรียกให้คุณแม่คนสวยที่กำลังนอนกอดลูกหมีอยู่บนให้เตียงให้ขยับตัวอย่างช้าๆก่อนที่เปลือกตาบางจะค่อยๆเปิดขึ้น ปากสวยยกยิ้มอย่างเป็นเป็นสุขเมื่อมองเห็นลูกชายตัวน้อยนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอด
แจจุงค่อยๆลุกขึ้นช้าๆเพราะเกรงว่าจะทำให้ลูกชายตื่นก่อนจะหยิบตุ๊กตาหมีตัวโปรดมาไว้ในอ้อมกอดของลูกชายแทน คุณแม่คนสวยก้มลงสูดความหอมจากแก้มนิ่มของลูกชายก่อนจะเดินลงจากเตียง คิ้วบางขมวดมุ่นเมื่อสังเกตเห็นว่าที่นอนอีกฝั่งซึ่งปกติจะมีร่างของพ่อหมีนอนอยู่ตอนนี้มันกลับว่างเปล่า ตากลมมองไปรอบห้องก่อนจะหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานก็พบว่าร่างของคนรักนอนฟุบอยู่บนโต๊ะนั่นเอง นี่แสดงว่าเมื่อคืนยุนโฮอ่านเอกสารจนเผลอหลับไปเลยล่ะสิ
“ ยุน ยุนโฮ “ แจจุงสะกิดเรียกสามี
“ หืม “ ร่างทุ้มตอบกลับมาน้ำเสียงฟังดูก็รู้ว่ายังไม่ตื่นไหนจะตาเรียวคู่นั้นที่ยังไม่ยอมเปิดออกมาเลย
“ มานอนอะไรตรงนี้ ไปนอนบนเตียงดีๆสิ “ นอนแบบนี้เมื่อยตายกันพอดี ไม่รู้ว่ายุนโฮนอนท่านี้นานเท่าไหร่แล้วร่างบางพยายามฉุดคนตัวโตให้ลุกขึ้นเพราะดูเหมือนว่ายุนโฮไม่ได้สนใจในสิ่งที่แจจุงพูดเลย
“ อืม “ หลังจากที่ออกแรงปลุกกันอยู่สักพักพ่อหมีก็ยอมลุกขึ้นแล้วเดินโซซัดโซเซไปที่เตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า
มุนมินที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งเล็กน้อยเพราะน้ำหนักที่พ่อหมีทิ้งตัวลงไปนั้นก็ใช่ว่าจะเบา แขนป้อมคว้าหาแม่จ๋าแม่เมื่อไม่พบเจ้าตัวเล็กจึงพลิกตัวมาหาพ่อหมีก่อนที่ขาเล็กจะจัดการถีบผ้าห่มออกไปกองที่ปลายเตียง แขนแกร่งของคุณพ่อคว้าตัวลูกชายเข้ามากอดทันทีตามสัญชาตญาณ
แจจุงยืนดูสองพ่อลูกนอนกอดกันสักพักก่อนจะเดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเพื่อที่จะได้ลงไปเตรียมอาหารเช้าให้เจ้าตัวเล็กกับพ่อหมี ปล่อยให้นอนกันอีกหน่อยคงจะไม่เป็นอะไรทำอาหารเสร็จแล้วค่อยขึ้นมาปลุกก็น่าจะทัน
แจจุงเดินลงมาชั้นล่างก็พบว่าแม่บ้านกำลังช่วยกันเตรียมอาหารเช้ากันให้วุ่นร่างบางจึงอาสาเข้าไปช่วย แจจุงลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่วสร้างความแปลกใจให้กับเหล่าบรรดาแม่บ้านไม่คิดว่าสมัยนี้จะยังมีผู้ชายที่ทำงานบ้านเป็นเหลืออยู่
“ คุณแจจุงเก่งนี่จังเลยนะค่ะ ทำอาหารได้ตั้งหลายอย่าง“ ป้าแม่บ้านเอ่ยชมจากใจจริงเมื่อเห็นร่างบางทำอาหารด้วยความชำนาญ เธอประทับใจตั้งแต่วันที่เจอกันวันแรกแล้วถ้าไม่รู้จากคุณผู้หญิงว่าสะใภ้ของตระกูลชองเป็นผู้ชายเธอคงคิดว่าแจจุงเป็นผู้หญิงไปแล้ว
“ ผมไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับ แค่ทำบ่อยๆมันก็เลยชินน่ะครับ “
“ แสดงว่าตอนอยู่ที่นู้นคุณแจจุงทำเองทุกอย่างเลยเหรอค่ะ “
“ ฮะ ถ้าเรื่องไหนทำเองได้ผมก็จะทำอยู่นู้นค่าใช้จ่ายค่อนข้างที่จะแพงเพราะฉะนั้นอะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด” ร่างบางเล่าเรื่องตอนที่เรียนอยู่ที่อังกฤษให้เหล่าบรรดาแม่บ้านฟัง
ทุกคนที่ได้ฟังต่างก็นึกชื่นชมอยู่ในใจคุณหนูของพวกเธอเลือกคู่ชีวิตไม่ผิดจริงๆถึงแม้ว่าร่างบางตรงหน้าเป็นผู้ชายแต่กลับมีคุณสมบัติของการเป็นภรรยาที่ดีมากกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
“ แต่ว่าคุณทั้งสองต้องไปเรียนแล้วอย่างนี้ใครเป็นคนดูแลคุณหนูมุนบินล่ะค่ะ “ สาวใช้นางหนึ่งถามขึ้น เธออดที่จะสงสัยไม่ได้ก็ในเมื่อตอนนั้นทั้งคุณยุนโฮและคุณแจจุงต่างก็เรียนอยู่ด้วยกันทั้งคู่แล้วคุณหนูตัวน้อยๆของพวกเธออยู่กับใครล่ะ
“ ผมเรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเองน่ะครับ พอใกล้จบเทอมก็ทำรายงานส่ง “ ร่างบางตอบพร้อมกับรอยยิ้ม
“ แบบนี้ก็เหนื่อยแย่เลยสิค่ะ “
“ ก็พอสมควร ดีที่ช่วงที่ผมต้องทำรายงานยุนโฮเขาจะช่วยดูมุนบินแทน “ เมื่อนึกถึงช่วงที่กำลังเรียนอยู่แล้วก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ถึงแม้มันจะหนักสำหรับเขาที่ต้องเรียนไปพร้อมกับการเลี้ยงลูกแต่เพราะมีมุนบินและยุนโฮจึงทำให้แจจุงผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของพ่อหมีกับลูกหมีมันจะให้แจจุงมีกำลังใจเพิ่มขึ้นทุกที
“ เรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวผมขึ้นไปปลุกยุนโฮก่อนนะครับ “ หลังจากใส่เครื่องปรุงต่างๆลงไปเรียบร้อยแล้วแจจุงก็ฝากป้าแม่บ้านให้ช่วยทำต่อ
“ ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าทำต่อเอง “
“ ขอบคุณครับ “ ร่างบางยิ้มอ่อนโยนให้ก่อนจะถอดผ้ากันเปรื้อนแล้วเดินขึ้นไปปลุกพ่อหมีกับลูกหมีเพราะตอนนี้ก็สายมากแล้ว
ประตูห้องนอนถูกเปิดออกเบาๆก่อนที่คุณแม่คนสวยจะเดินเข้ามาร่างบางยิ้มน้อยๆเพราะสองพ่อลูกยังคงนอนกอดกันอย่างมีความสุขไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยแม้แต่น้อย
“ ตื่นได้แล้ว สายแล้วนะคุณพ่อ “ จมูกรั้นกดลงบนแก้มกร้านของสามีพร้อมกับที่ปากบางเอื้อนเอ่ยปลุกร่างสูง
“ ขออีกนิดนะ “ ร่างสูงต่อรองพร้อมกระชับอ้อมกอดที่มีลูกชายนอนอยู่ให้แน่นขึ้น
“ ไม่ได้ วันนี้ยุนต้องไปทำงานนะ “
“ ไม่เอาไม่ไปแล้ว จะนอนกอดลูกหมี “ ร่างสูงยังดื้อ
“ ไม่ต้องมาเกเรเลย รีบไปอาบน้ำได้แล้วจะได้ลงไปทานข้าว “ ร่างบางว่าเสียงดุมีโอกาสเป็นไม่ได้หาเรื่องไม่ไปตลอดเลย
“ ก็ได้ๆ “ ในที่สุดร่างสูงก็ยอมลุกขึ้น แต่ตาคมนั้นยังสะลึมสะลืออยู่เลย
“ ดีมาก แจเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้วนะ “
“ เฮ้อ ต้องไปจริงๆเหรอเนี่ย ไม่อยากไปเลย “ ร่างสูงพึมพรำในขณะที่รับผ้าเช็ดตัวจากภรรยาแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
แจจุงมองตามหลังสามีก่อนปากบางจะยิ้มน้อยๆ ลึกๆก็อยากให้ยุนโฮนอนต่ออยู่เหมือนกันเพราะคิดว่าเมื่อคืนกว่าร่างสูงจะได้นอนก็น่าจะเกือบเช้าแล้ว แต่หน้าที่ที่ยุนโฮต้องรับผิดชอบมันก็สำคัญเช่นกันร่างบางจึงต้องคอยเตือนเพราะยุนโฮมักจะผัดวันประกันพรุ่งเสมอ
“ แจชุดล่ะ “ ร่างสูงที่หายเข้าไปในห้องน้ำได้สักพักเดินออกมาพร้อมกับถามหาชุดทำงานที่คิดว่าแจจุงน่าจะเตรียมเอาไว้ให้เหมือนทุกวัน
“ แขวนอยู่นั่นไง “
“ อ่อ เจอแล้ว แจช่วยติดกระดุมหน่อยสิ “ ร่างสูงเดินไปหยิบชุดที่แขวนอยู่ที่ตู้มาใส่ก่อนจะเรียกภรรยาคนสวยให้ไปช่วยแต่งตัว
“ เสร็จแล้ว ทีนี้ก็ลงไปทานข้าวได้แล้ว “ ร่างบางจัดเนคไทให้เข้าที่ให้เรียบร้อยพร้อมกับตรวจดูความเรียบร้อยของสามี
“ ขอบคุณครับ “ จมูกโด่งกดลงบนแก้มนุ่มของภรรยาเป็นการขอบคุณรวมทั้งเป็นการเพิ่มกำลังใจในการทำงานของเช้านี้
“ คุณแม่ “ ลูกหมีที่ถูกทิ้งให้นอนอยู่บนเตียงคนเดียวเรียกหาคุณแม่ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา
“ ครับลูก ตื่นแล้วเหรอลูกหมีขี้เซา “ แจจุงเดินมาหาลูกชายที่เตียงก่อนจะอุ้มเจ้าตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับกดจมูกลงบนแก้มลูกชายอย่างสุดรัก มือป้อมถูกยกขึ้นมาขยี้ตาที่ยังตื่นไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก
“ คุณพ่อจะไปไหน “ มุนบินถามทันทีเห็นเห็นพ่อหมีเดินมาถึง วันนี้คุณพ่อแต่งตัวแปลกๆหรือว่าคุณพ่อจะแอบหนีไปเที่ยวแล้วไม่พามุนบินไปด้วย
“ คุณพ่อจะไปทำงานครับ ฟอด ด “ ร่างสูงรับตัวลูกชายมาจากภรรยาก่อนจะหอมแก้มนิ่มไปฟอดใหญ่พร้อมกับพาเดินลงมายังชั้นล่างโดยมีคุณแม่คนสวยถือกระเป๋าทำงานของพ่อหมีเดินตามลงมา
“ หนูไปด้วยได้ไหม “
“ ไม่ได้ครับ “
“ ทำไม” ปากเล็กเอ่ยถามไปเรื่อยๆในขณะที่พ่อหมีกำลังพาเดินลงมาชั้นล่าง
“ เพราะว่าหนูยังเด็กอยู่ไงครับ “
“ เหรอ “
“ ครับ “ ร่างสูงยิ้มเอ็นดูในความช่างพูดของลูกชาย การที่ให้เด็กได้ถามในสิ่งที่เขาสนใจเป็นการฝึกทักษะอีกด้านของเด็กในวัยนี้ที่มักจะอยากรู้ไปซะทุกอย่าง
“ แต่หนูอยากไปด้วยนี่นา “ ตาเล็กมองคุณพ่อพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนจนยุนโฮต้องเบือนหน้าหนีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพราะขืนไม่ทำแบบนี้มีหวังได้แพ้ลูกอ้อนของเจ้าตัวเล็กอีกเป็นแน่
“ได้ยินแว่วๆว่า ใครอยากไปไหนเอ่ย “ เสียงของหญิงหนึ่งเดียวในบ้านดังขึ้นเนื่องจากบังเอิญได้ยินบทสนทนาระหว่างพ่อลูกที่เดินเข้ามาในห้องอาหาร
“ หนู “ มุนมินยกมือขึ้นสุดแขน
“ แล้วหนูอยากไปไหนล่ะลูก “
“ ไปกับคุณพ่อ “
“ เหรอครับ งั้นก็แย่เลยนะสิคุณย่าว่าจะพาหนูไปสวนสัตว์ซะหน่อย “ คุณย่าคนสวยทำหน้าผิดหวัง เพราะเมื่อวานหลังจากนั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรดจบแล้วยูนาก็เห็นเจ้าตัวเล็กอ้อนให้คุณแม่พาไปดูช้างตัวจริงเธอก็เลยคิดว่าวันนี้จะไปหลานชายไปเที่ยวสวนสัตว์ซะหน่อย ตั้งแต่กลับมามุนบินยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย
“ คุณ
“ แล้วหนูไม่ไปกับคุณพ่อแล้วเหรอครับ “ ยูนาแกล้งเย้าหลานชาย เจ้าตัวเล็กลังเลอยู่ซักพักก่อนจะเอ่ยประโยคที่เรียกรอยยิ้มจากทุกคน
“ หนูดูช้างน๊า “
และในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็เห็นช้างสำคัญกว่าพ่อหมี แจจุงยิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ของลูกชายส่วนพ่อหมีก็ทำหน้าเซ็งที่ลูกน้อยลืมตนทันทีที่ได้ยินคำว่าสวนสัตว์
“ คุณแม่นั่นอะไร “ ทันทีที่ก้าวลงจากรถเสียงของเจ้าตัวเล็กก็ดังเจื้อยแจ้วไม่ขาดสาย ตั้งแต่มาถึงสวนสัตว์ลูกชายสุดที่รักก็ขยันป้อนคำถามเหลือเกินเล่นเอาคุณแม่คนสวยกับคุณย่าแทบจะตอบไม่ทัน
หลังจากที่ยุนโฮออกไปทำงานแล้วเจ้าตัวเล็กก็ทวงสัญญากับคุณย่าทันที ซึ่งก็ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าตัวเล็กจะกลายเป็นคนโปรดไปซะแล้วเพราะชองยูนารีบพาหลานชายออกมาทันทีที่เจ้าหนูทวงถามสัญญา การมาสวนสัตว์ครั้งแรกสร้างความความตื่นเต้นให้กับเด็กชายชองมุนบินเป็นอย่างมาก นั่นอาจจะเป็นเพราะช่วงที่อยู่ที่ต่างประเทศทั้งยุนโฮและแจจุงไม่ค่อยได้มีเวลาพาเจ้าตัวเล็กออกไปเปิดหูเปิดตาเท่าที่ควร เนื่องจากว่าทั้งคู่ต้องเรียนหนังสือไปด้วย อย่างมากก็พาไปเดินซื้อของตามห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
“ คุณแม่ พี่หมี “ มือป้อมชี้ให้คุณแม่ดูสัตว์สี่เท้าตัวโตที่เดินไปมาอยู่ในกรง ทำไมพี่หมีตัวโตจังตัวโตกว่าพี่หมีของมุนบินที่อยู่ที่บ้านซะอีก
“ ไหนครับลูก โอ้โหเหมือนพี่หมีของหนูเลยเนอะ “ ร่างบางมองตามนิ้วของลูกชายพร้อมกับทำเสียงตื่นเต้นเพื่อแสดงให้เจ้าตัวเล็กเห็นว่าคุณแม่สนใจในสิ่งที่เขาบอก
“ ไม่เหมือน “ เสียงเล็กตอบทันควัน
“ เอ๋ ? ทำไมถึงไม่เหมือนล่ะครับ “ คุณแม่คนสวยแกล้งทำเป็นสงสัยอยากรู้จังว่าลูกชายจะตอบว่าอย่างไร มุนบินจะมีพัฒนาการในการแยกแยะสิ่งต่างๆได้มากแค่ไหน
“ ก็พี่หมีของหนูเดินไม่ได้ “ ไม่เห็นจะเหมือนกันเลยพี่หมีของมุนบินไม่ยอมเดินซะทีจะไปไหนก็ต้องให้มุนบินอุ้มตลอดเลยแต่พี่หมีอยู่ที่นี่เดินเองได้แถมยังตัวโตกว่าด้วย
“ เหรอครับ งั้นพี่หมีก็ไม่เก่งเหมือนลูกชายคุณแม่น่ะสิ มุนบินของคุณแม่เดินเองได้แล้ว “
“ หนูเก่ง อิอิ “ เจ้าตัวเล็กหัวเราะชอบใจถูกใจเขานักล่ะเรื่องให้คนอื่นชมตัวเองเนี่ย
“ คุณย่า “ เจ้าตัวเล็กหันไปเรียกคุณย่าที่นั่งมองสองแม่ลูกคุยกันอยู่ตรงที่นั่งที่ทางสวนสัตว์จัดเตรียมเอาไว้ให้ ยูนารู้สึกว่าวันนี้อากาศจะร้อนเป็นพิเศษ
“ ครับผม “ ชองยูนายิ้มอ่อนโยนให้กับหลานชายพร้อมกับกางแขนออกเมื่อเจ้าตัวเล็กเดินเข้ามาหาก่อนจะอุ้มขึ้นมาไว้บนตัก
“ หนูพาพี่หมีกลับได้ไหม “ ถามออกไปตามประสาเด็กที่ยังไร้เดียงสา มุนบินแค่อยากพาพี่หมีกลับบ้านด้วยจะได้ไปอยู่ด้วยกันกับพี่หมีของมุนบินที่บ้าน
“ ไม่ได้ลูก “ คุณย่าตอบพร้อมกับขำน้อยๆกับความคิดของหลานชายคิดว่านี่เป็นตุ๊กตาเหมือนกับตัวที่อยู่ที่บ้านหรือไงนะเจ้าตัวเล็ก
“ ทำไม “ เจ้าหนูถามด้วยความสงสัยดวงตาเรียวเล็กมองพี่หมีที่อยู่ในกรง ทำไมถึงจะพากลับด้วยไม่ได้ก็ตอนนั้นคุณพ่อยังพากลับด้วยได้เลย
“ เพราะว่าที่นี่คือบ้านของพี่หมีไงครับ “
“ เหรอ หนูก็มีบ้านเหมือนกันนะ “ เจ้าตัวเล็กคิดถามสิ่งที่คุณย่าบอกเล่า มุนบินก็มีบ้านเหมือนกันบ้านที่มีทั้งคุณพ่อคุณแม่แล้วก็มุนบิน”
“ มุนบินครับ คุณพ่อโทรมาแน่ะ “ แจจุงเดินเข้ามาหาลูกชายมือบางแกว่งโทรศัพท์เครื่องเล็กไปมา
“ คุณพ่อ “ เจ้าหนูเรียกคุณพ่อดังลั่นพร้อมกับรีบปีนลงจากตักของผู้เป็นย่าท่าทางที่ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองต้องยิ้มขัน
“ คุณพ่อ พี่หมี “ เสียงเล็กเล่าสิ่งที่ตนพบเห็นให้พ่อหมีฟังทันทีที่คุณแม่คนสวยเอาโทรศัพท์มาแนบไว้ที่หูเล็ก มือป้อมชี้ไปที่กรงคล้ายกับว่ากำลังชี้บอกให้คุณพ่อมองตามมือของตนไปแต่หนูลืมอะไรไปหรือเปล่าชองมุนบินว่าตอนนี้พ่อหมีไม่อยู่ด้วยกันที่นี่
“ พี่หมีที่ไหนครับลูก “ ร่างสูงเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนใบหน้าหล่อแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินลูกชายบอกเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นร่างสูงนึกภาพออกเลยล่ะว่าตอนนี้เจ้าตัวเล็กกำลังแสดงท่าทางอย่างไร
“ หมีอยู่ในกรง ตัวโต๊โต “
“ ตัวโต๊โตนี่โตเท่าไหร่น๊า โตกว่ามุนบินรึเปล่าเอ่ย “ พ่อหมีทำเสียงเล็กเสียงน้อยตามลูกชาย
“ โตกว่าหนู “ คุณแม่บอกว่าถ้าเทียบกับพี่หมีแล้วมุนบินตัวเล็กนิดเดียวเองแต่คุณย่าบอกว่าช้างตัวโตกว่าพี่หมีอีกนะ
“ ฮัลโหลยุน “ แจจุงยกโทรศัพท์ที่มีพ่อหมีถือสายค้างอยู่มาคุยต่อ
“ ลุกไปไหนซะแล้วล่ะแจ “ พ่อหมีที่ยังไม่รู้ตัวว่าโดนลูกชายทิ้งไปหาช้างเอ่ยถามภรรยาเมื่อจู่เจ้าตัวเล็กก็เงียบไปซะดื้อๆแล้วกลายเป็นเสียงคุณแม่แทน
“ ไปดูช้างน่ะ “
“ ช้างอีกแล้วเหรอ “ พ่อหมีน้อยใจแล้วนะเมื่อเช้าคิดว่าจะพาลูกชายมาทำงานด้วยอยู่แล้วเชียว แต่พอได้ยินคำว่าช้างเท่านั้นแหละมุนบินก็ไม่สนใจพ่อหมีเลย แล้วเมื่อกี้ก็ยังทิ้งโทรศัพท์พ่อหมีแล้วหนีตามช้างมันน่าน้อยใจจริงๆเลย
“ ลูกคงตื่นเต้นน่ะ “ แจจุงหัวเราะเบาๆกับอาการน้อยใจลูกชายของพ่อหมี “ ยุนแค่นี้ก่อนนะ ลูกยังไม่ได้ใส่หมวกเลย “ ตากลมเหลือบไปเห็นหมวกใบเล็กของลูกชายที่วางอยู่ในตระกร้าเลยทำให้ลึกขึ้นได้ว่าเจ้าตัวเล็กยังไม่ได้ใส่หมวกเลย
“ อืม ก็ได้ แล้วตอนเย็นเจอกันนะเห็นยูชอนกับจุนซูบกว่าวันนี้มีข่าวดีมาบอก”
“ ได้สิ ตั้งใจทำงานนะครับคุณพ่อ คุณแม่กับลูกชายเป็นกำลังใจให้นะ “ ก่อนวางสายร่างบางก็ไม่ลืมให้กำลังใจสามี
“ ได้ยินแบบนี้แล้วก็หายเหนื่อยเลยล่ะ ยุนรักแจกับลูกมากนะครับ “
“ แจกับลูกก็รักยุนมากเหมือนกัน”
บทสนทนาจบไปพร้อมกับรอยยิ้มเปี่ยมสุขของคุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มก่อนที่ร่างบางจะเดินตามเจ้าตัวเล็กและคุณย่าออกไปด้านนอก
“ คุณแม่ช้าง “ เจ้าหนูชี้ให้คุณแม่ดูช้างตัวใหญ่ ร่างบางยิ้มให้กับลูกชายพร้อมกับสวมหมวกใบเล็กไว้บนหัวกลมของเจ้าตัวเล็กเพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด
“ หนูเข้าไปเล่นกับมันได้ไหม “
“ ไม่ได้ครับลูก เดี๋ยวโดนมันเหยียบ“ มือบางลูบหัวกลมแผ่วเบาๆ ขืนปล่อยให้เข้าไปมีหวังลูกชายสุดที่รักโดนช้างเหยียบแน่ๆ
“ แต่หนูอยากจับมัน “ บอกอย่างเสียดายพร้อมกับส่งสายตาเว้าวอนให้ทั้งคุณย่าและคุณแม่ มุนบินอยากลองจับบ้างอ่ะไหนๆก็ได้มาเจอตัวจริงแล้ว
“ เดี๋ยวรอให้เค้าพามาใกล้ๆก่อนนะลูก” ยูนาลูบหัวกลมของหลานชายสร้างรอยยิ้มให้กับเจ้าตัวเล็กได้ทันทีมุนบินจะได้จับช้างแล้ว เย้ เย้
“ คุณแม่ช้างไม่ร้อนเหรอ “ ในขณะที่รอให้เจ้าหน้าที่พาช้างเข้ามารับอาหารตาเรียวก็จ้องมองดูช้างที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดด ช้างไม่ร้อนเหรอทำไมไม่เห็นมีใครเอาหมวกไปให้พี่ช้างใส่เลยขนาดมุนบินใส่หมวกแล้วยังร๊อนร้อน
“ ร้อนสิครับ แต่พี่ช้างเค้าอาบน้ำบ่อยๆ” แจจุงยิ้มให้กับความช่างสังเกตของลูกชายถ้าเทียบกับเด็กวัยเดียวกันแล้วมุนบินถือว่าเรียนรู้ได้เร็วกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน นั่นอาจจะเป้นเพราะได้รับการเลี้ยงดูท่ามกลางความรักความเอาใจใส่จากผู้เป็นพ่อแม่
“ แล้วทำไมเค้าไม่ใส่หมวก “ ถ้าร้อนก็ใส่หมวกสิเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก
ร่างบางหัวเราะน้อยๆไม่มีหมวกใบใหญ่ที่สามารถเอามาใส่ให้ช้างได้หรอกลูกชาย มือเรียวชี้ให้เจ้าตัวเล็กดูช้างตัวเล็กที่เดินมาพร้อมแม่ช้าง
“ มุนบินดูนั่นสิลูก “
“ คุณแม่ ลูกมันเหรอ “
“ ครับ “
“ มันกินนมเหมือนหนูไหม “
“ กินสิครับ “
“ เหรอ ถ้าหนูกินนมช้างหนูจะโตเหมือนช้างไหม “
“ กินไม่ได้ครับลูก หนูก็กินนมของหนูช้างก็กินนมของช้างกินด้วยกันไม่ได้”
“ แต่หนูจะแย่งมันกิน อิ อิ อิ “ มุนบินยืนพิงอกของคุณแม่เอาไว้แต่ตาเรียวยังคงจ้องมองอยู่ที่ช้างน้อย ใบหน้าน่ารักแย้มยิ้มอย่างมีความสุข “ คุณแม่หนูหิวแล้ว “
แจจุงมองดูนาฬิกาข้อมือแล้วก็ต้องยิ้มน้อยๆมัวแต่ดูเพลินลืมเวลาอาหารเที่ยงของเจ้าตัวเล็กไปเลย ร่างบางอุ้มลูกชายขึ้นแนบอกก่อนจะเดินไปหาคุณย่าที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่เพื่อที่จะพาเจ้าตัวเล็กไปทานมื้อเที่ยงก่อนที่จะพา กลับบ้านเพราะเจ้าหนูเริ่มงอแงเนื่องจากไม่ได้นอนกลางวัน
_________________________________________________________________
อยากลง NC แต่กลัวโดนตัวแบนจัง
ความคิดเห็น