คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #68 : Special YunJae # 11
“ กลับมาแล้วเหรอแจจุง เป็นไงไปเที่ยวสนุกไหม ” ผู้จัดการเอ่ยทักทายร่างบางที่เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับยุนโฮ แจจุงโค้งทักทายทุกคนหลังจากที่หยุดงานไป หลายวัน
เพราะหลังจากฉลองวันเกิดให้แจจุงเสร็จเรียบร้อยแล้วยุนโฮก็พาร่างบางไปเยี่ยมยูชอนกับจุนซูเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับร่างบางแต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือร่างสูงอยากไปฉลองที่เขากับแจจุงเป็นของกันและกันแล้วต่างหากเรื่องไปเยี่ยมยูชอนกับจุนซูมันก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น จากตอนแรกคิดว่าจะไปแค่สองสามวันก็ต้องอยู่นานเป็นสัปดาห์เพราะโดนยูชอนรั้งเอาไว้ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากฉลองวันเกิดให้ยุนโฮ
“ สนุกดีฮะ ผมซื้อของฝากมาฝากทุกคนด้วยนะ ” บอกยิ้มๆพร้อมกับชี้ให้ดูถุงของฝากที่ยุนโฮถือไว้
“ ว้าว ช่างเป็นน้องที่น่ารักอะไรอย่างนี้ ” จุนโฮแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อมองเห็นของฝากในมือยุนโฮ ก็จะไม่ให้เขาดีใจได้ยังไงนั่นมันของฝากจากฝรั่งเศสเชียวนะ
“ ผมก็น่ารักแบบนี้ตั้งนานแล้วนะ ” บอกกลั้นขำเขาน่ารักแบบนี้ตั้งนานแล้วทุกคนพึ่งรู้เหรอ
“ แหมๆ ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะ ยุนโฮเอาแฟนนายไปเก็บทีซิ ” ยงฮวาประชดเข้าให้ท้ายประโยคหันไปเอ่ยกับร่างสูงที่ยืนอมยิ้มอยู่ เรียกเสียงหัวเราะจากพนักงานคนอื่นๆในร้าน
แจจุงขำน้อยๆให้กับประโยคประชดประชันนั้นก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห็นพนักงานหน้าตาไม่คุ้นยืนอยู่ในร้านสงสัยจะเป็นพนักงานใหม่ “ นั่นใครเหรอฮะ พนักงานใหม่เหรอ ”
“ อ๋อ.....ใช่ พนักงานใหม่ชื่อฮยอนจุงน่ะ พึ่งมาทำงานวันนี้วันแรก ” จุนโฮเป็นคนตอบ
“ อ่าว พี่รับพนักงานเพิ่มแบบนี้แล้วผมล่ะฮะ พี่คงไม่คิดที่จะไล่ผมออกหรอกใช่ไหม ” ร่างบางแกล้งทำเป็นตกใจ อะไรกันเขาไม่อยู่แค่อาทิตย์เดียวถึงกับจะหาพนักงานคนใหม่มาแทนเลยเหรอ
“ ก็คิดอยู่เหมือนกัน เห็นขาดงานไปหลายวันก็นึกว่าจะไม่มาทำงานซะแล้ว ” จุนฮีรับมุก ก็นึกว่าจะลาออกไปเป็นแม่บ้านให้ยุนโฮถาวรเลย
“ พี่อย่าพูดแบบนั้นสิฮะ ถ้าพี่ไล่ผมออกแล้วผมจะเอาอะไรกินล่ะ ” ร่างบางเข้าไปเกาะแขนผู้จัดการร่างท้วมอ้อนๆ
“ นายก็ให้ยุนโฮเลี้ยงไปสิ เด็กโข่งแบบนี้เลี้ยงไหวไหมยุนโฮ ” มีแฟนรวยก็ให้แฟนเลี้ยงไปสิ ท้ายประโยคหันไปถามยุนโฮ
“ ไม่ไหวก็ต้องไหวฮะ ” ยุนโฮบอกยิ้มๆ ถึงจะเลี้ยงไม่ไหวก็ต้องไหวทำไงได้ก็รักไปแล้วนี่นา คำพูดของยุนโฮเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากพนักงานในร้าน
“ อะไรอ่ะ ทำไมทุกคนต้องรุมผมด้วย ไม่เอาแล้วใช่ไหมของฝากน่ะ ” คนถูกรุมเริ่มโวยวายก่อนจะพาลริบของฝากคืน รุมกันแบบนี้แสดงว่าไม่อยากได้แล้วใช่ไหมของฝากน่ะ
“ แจจุงอ่า พี่ก็แค่พูดเล่น ใครจะไปกล้าไล่น้องชายที่น่ารักแบบนายออกได้ล่ะ”จุนฮีรีบเข้าไปง้อเมื่อเห็นใบหน้างอนๆของน้องชายคนสวย
โธ่ๆทำเป็นน้อยใจไปได้มีน้องชายน่ารักแบบนี้ใครจะกล้าไล่ออกได้ลงคอ ถ้าไล่นายออกแล้วพวกพี่จะแกล้งใครล่ะ
“ โหย...แบบนี้ที่บ้านผมเรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลังนะฮะ ” ร่างบางยู่หน้าใส่คำพูดเอาใจของผู้จัดการร้าน ชัดเลยแบบนี้เรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ
“ พี่ทำแบบนั้นเหรอ ” ถามด้วยน้ำเสียงซื่อๆราวกับว่าไม่ตัวเองไม่ได้ทำแบบนั้นซะหน่อย เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งยุนโฮ
แจจุงหันไปมองคนรักตาขวางทำเอาร่างสูงหุบยิ้มแทบไม่ทัน เอาละเว้ยงานเข้าแล้วไหมล่ะชอง ยุนโฮ
“ ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ ยุนก็อีกคนมาด้วยกันแท้ๆแต่กลับไปเข้าข้างคนอื่นเฉยเลย”
มีอย่างที่ไหนเดินเข้าร้านมาพร้อมกันแท้ๆแต่พอถึงเวลาเลือกข้างกลับเลือกอยู่คนละฝ่ายซะงั้น ฮึ่ย ! น่าเจ็บใจชะมัดเลย
“ ยุนเปล่าเข้าข้างซะหน่อย ยุนอยู่ข้างแจเสมอแหละ ” ร่างสูงรีบเข้ามาง้อพร้อมกับคำพูดเอาใจ เขาเปล่าเข้าข้างพวกพี่จุนโฮซะหน่อย เขายืนอยู่ข้างเดียวกับแจจุงตลอดนะ
“ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี กลับไปเลยไปแจจะทำงาน ” ใบหน้าหวานงอง้ำที่โดนรุมไม่เว้นแม้กระทั่งคนรัก
“ โอเค งั้นตั้งใจทำงานนะแล้วเดี๋ยวยุนจะกลับมารับ ” ยุนโฮบอกกลั้นยิ้มก่อนจะส่งถุงของฝากให้จุนโฮแล้วโค้งให้ทุกคนเล็กน้อย
“ นี่จะไม่ง้อใช่ไหม ” ถามเสียงดัง
แจจุงทำหน้าเหวอเมื่อยุนโฮจะกลับไปจริงๆเมื่อกี๊เขาแค่แกล้งไล่เฉยๆเพื่อให้ยุนโฮง้อแล้วจะได้บังคับให้มาอยู่ข้างเดียวกับเขา แต่ยุนโฮดันกลับจริงซะนี่ แถมก่อนกลับก็ไม่ยอมง้อก่อนด้วยเขาจะงอนจริงๆแล้วนะทีนี้ ฮึ่ย !
เสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วร้านอีกครั้งเมื่อทุกคนจับไต๋ได้ว่าเมื่อกี๊แจจุงแกล้งงอนเพื่อให้ยุนโฮง้อ
ยุนโฮยิ้มให้กับความโก๊ะของคนรักก่อนจะเดินไปกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“ ง้อน่ะง้อแน่ แต่ของ้อตอนกลับถึงห้องแล้วได้ไหม ”
“ ตลอดอ่ะ ไปได้แล้ว ” แจจุงย่นจมูกใส่คนรัก พูดแบบนี้รู้เลยว่ากลับห้องไปยุนโฮจะง้อเขาด้วยวิธีไหน
มือหนายื่นมาขยี้ผมนิ่ม “ อย่าซนล่ะ ” พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากร้านไป
แจจุงได้แต่บ่นไล่หลังร่างสูงไป ยุนโฮชอบบอกเขาว่าอย่าซนอยู่เรื่อยเลยเขาไม่ใช่เด็กสามขวบซะหน่อยที่จะได้เล่นซนน่ะ แจจุงมองค้อนรุ่นพี่ในร้านก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องพัก
.............................................
ร่างบางเดินกลับออกมาอีกครั้งหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แจจุงมองหางานที่ว่างก่อนจะเดินไปช่วยฮยอนจุงเช็ดช้อนกับตะเกียบ
“ สวัสดี ชื่อฮยอนจุงใช่ไหม ” ร่างบางทักทายอย่างเป็นมิตร สงสัยว่าแจจุงคงติดมาจากยุนโฮแน่เลยไอ้เรื่องอัธยาศัยดีไปทั่วเนี่ย
“ ใช่ แล้วนายชื่ออะไรเหรอ ” ฮยอนจุงพยักหน้าตอบ ก่อนจะถามกลับเมื่อกี๊ตอนที่คุยกันฮยอน
จุงได้ยินชื่อคนตรงหน้าไม่ค่อยชัด
“ แจจุง คิมแจจุง ” ร่างบางแนะนำตัว ก่อนจะหันไปมองเมื่อมีเสียงแซวแทรกขึ้นมา รุ่นพี่พวกนี้จะไม่ล้อเขาสักเรื่องได้ไหมเนี่ย
“ อ่าว แซ่คิมเหรอ พี่นึกว่านายแซ่ชองซะอีก ” จุนโฮเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงซื่อๆหากแต่ในนัยน์ตานั้นกลับเต็มไปด้วยความล้อเลียน คำถามของจุนโฮสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากพนักงานในร้านเป็นอย่างดี
นี่แจจุงยังใช้แซ่เดิมอยู่หรอกเหรอเขาก็เข้าผิดอยู่ตั้งนานนึกว่าแจจุงเปลี่ยนไปใช้แซ่เดียวกันกับยุนโฮแล้วซะอีก เห็นชอบทำอะไรเหมือนคนที่แต่งงานกันแล้ว
“ ยังๆ แต่คาดว่าคงจะได้เปลี่ยนเร็วๆนี้แหละ ” ยงฮวาบอกด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนแต่อีกไม่นานคงได้เปลี่ยนแน่ๆ
ใบหน้าสวยเริ่มมีริ้วแดงๆเกิดขึ้นมาจางๆ “ อะไรเล่า ทำไมพวกพี่ชอบล้อผมจังทีมินฮวานผมไม่เห็นพวกพี่ล้อบ้างเลย ”แจจุงเริ่มโวยวายกับความเป็นสองมาตรฐานของพนักงานในร้าน
ใช่ว่าในร้านจะมีแค่เขาคนเดียวที่มีแฟนพนักงานในร้านคนอื่นที่มีแฟนแล้วก็ออกจะเยอะแยะแล้วไหงถึงมีแค่เขาคนเดียวที่โดนล้อล่ะ มินฮวานที่รุ่นเดียวกันกับเขาก็มีแฟนเหมือนกันทำไมถึงไม่ล้อบ้างทำแบบนี้มันสองมารตรฐานชัดๆ
“ ก็คู่นายมันหวานจนน่าหมั่นไส้นี่นา ” อันที่จริงจะว่าหมั่นไส้ก็ไม่เชิงหรอกมันออกแนวอิจฉาซะมากกว่า
“ หวานอะไรก็ปกติเหมือนคู่อื่นทั่วไป ” แจจุงเถียง พวกเขาก็ทำตัวปกตินี่นา ไม่ได้แสดงออกโอเว่อร์อะไรขนาดนั้น คู่ที่แสดงออกกว่าคู่ของพวกเขามีตั้งเยอะ“ มินฮวานก็ไปรับไปส่งแฟนเหมือนกันนะ ทำไมไม่หมั่นไส้มินฮวานบ้างล่ะ” เอ่ยถามด้วยความข้องใจ
“ แต่มินฮวานไม่ได้ไปฮันนีมูนถึงปารีสเหมือนพวกนายนี่นา ”
“ ไม่ได้ไปฮันนีมูนซะหน่อย แค่ไปเยี่ยมเพื่อนยุนโฮเฉยๆ ” ร่างบางรีบแก้ข่าวเพราะเดี๋ยวพนักงานคนอื่นจะเข้าใจผิดคิดว่าเขากับยุนโฮแต่งงานกันแล้วจริงๆ
ปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้หรอกเพราะพวกพี่จุนโฮยิ่งชอบสร้างข่าวลือไร้สาระอยู่ด้วย ครั้งก่อนตอนที่เขากับยุนโฮใส่แหวนคู่ก็เอาไปบอกทุกคนว่าเขากับยุนโฮแต่งงานกันแล้ว พอเลิกงานแค่นั้นแหละเพื่อนพนักงานต่างเดินเข้ามาแสดงความยินดีด้วยเล่นเอาแจจุงถึงกับงงว่าเขาบอกว่าเขากับ
ยุนโฮแต่งงานกันตอนไหน
แม้ว่าการไปเที่ยวในครั้งนี้แจจุงจะแอบรู้สึกเหมือนกับว่าไปเดทมากกว่าการไปเยี่ยมเพื่อนก็เถอะ แต่มันก็แค่เดทไม่ใช่ฮันนีมูนอย่างที่ทุกคนเข้าใจซะหน่อย ฮันนีมูนมันเอาไว้ใช้กับคนที่แต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ แต่เขากับยุนโฮยังไม่ได้แต่งงานกันเลยแล้วจะเรียกว่าฮันนีมูนได้ยังไง
“ จริงเหรอ ” ยงฮวาลากเสียงอย่างคนที่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่
“ จริง จริ๊ง ” ยืนยันเสียงสูง
“ แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วยล่ะ ” จุนโฮถามด้วยน้ำเสียงจับผิด ปฏิเสธเสียงสูงแบบนี้จะเชื่อดีไหมเนี่ย
ใบหน้าสวยงอง้ำเมื่อเห็นว่าไม่มีใครแสดงออกว่าเชื่อเอาเลยสักคน “ พี่อ่ะ เลิกล้อผมซะทีสิ ” พอจนมุมก็งัดลูกอ้อนขึ้นมาใช้ พวกพี่เล่นล้อผมแบบนี้ทุกวันผมก็เขินแย่สิ
“ ไม่เห็นจะต้องอายเลย มันคือความจริง ” จนถึงขั้นนี้ยังมีอะไรเหลือให้อายอีกเหรอแจจุง เรื่องนายกับยุนโฮน่ะคนเขารู้ทันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว
“ พอดีกว่า เพราะเดี๋ยวจะมีเด็กขี้แยโทรไปฟ้องยุนโฮเหมือนครั้งที่แล้ว ” เหมือนพี่จุนโฮจะช่วยบอกให้คนอื่นหยุดนะแต่ทำไมท้ายประโยคถึงได้เอาเรื่องเก่ามาล้ออีกอ่ะ
“ ไม่พูดด้วยแล้ว ”
แจจุงสะบัดหน้าหนีงอนๆ ตอนนั้นเขาไม่น่าบ้าจี้รับคำท้าเลยจริงๆ วันนั้นเขาก็โดนล้ออย่างนี้นี่แหละพอเขาเริ่มเถียงไม่สู้พี่จุนโฮก็เลยบอกว่าแน่จริงโทรไปฟ้องยุนโฮสิ แจจุงก็เลยโทรจริงๆเพราะถ้าเขาไม่โทรเดี๋ยวก็โดนหาว่าไม่แน่จริงอีก แต่ใครจะไปรู้ว่าพี่จุนโฮจะเก็บมาล้อเขาถึงทุกวันนี้
“ นายโดนล้อแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ ” ฮยอนจุงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะดูเหมือนเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติของพนักงานในร้านไปซะแล้ว
“ อืม...พวกพี่จุนโฮน่ะชอบล้อฉันอยู่เรื่อยเลย ” แต่ถึงจะโดนล้ออยู่บ่อยๆแต่แจจุงกลับไม่เคยโกรธรรุ่นพี่ในร้านจริงๆจังๆซะที
“ แต่ฉันว่าก็น่ารักดีออก ” ฮยอนจุงพูดตามที่คิด การที่จะกล้าล้อขนาดนี้ได้แสดงว่าพวกเขาต้องสนิทกันมากแน่ๆ
“ หึ ถ้านายโดนล้อทุกวันอย่างฉันนายจะไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่นอน ” เพราะถ้า ฮยอนจุงโดนเหมือนเขาบ้างฮยอนจุงจะคิดอยู่แค่สองอย่างเหมือนกับที่เขากำลังคิดอยู่ในตอนนี้คือ เอาคืน และ อาย
ฮยอนจุงทำได้เพียงหัวเราะในลำคอก่อนจะชวนแจจุงคุยเรื่องอื่นเพราะเขาพึ่งเข้ามาทำงานเลยยังไม่ค่อยรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ร่างสูงจึงอาศัยช่วงที่ลูกค้ายังไม่เข้ามาในร้านถามแจจุงเกี่ยวกับเรื่องที่เขาไม่เข้าใจซึ่งแจจุงเองก็เต็มใจที่จะให้คำแนะนำในฐานะคนที่เคยทำมาก่อน
.....................................................
แจจุงเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งหลังจากที่เอาผ้าลงไปส่งซัก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อปลุกหมีขี้เซา
“ แจจะลงไปซื้อของข้างล่างยุนจะเอาอะไรไหม ” ร่างบางเอ่ยถามคนรักที่นอนขึ้นอืดอยู่บนเตียง ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมายุนโฮยังคงหลับสบายไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ไม่รู้จะนอนอะไรกันนักกันหนารู้ว่าวันหยุดทุกคนย่อมอยากตื่นสายแต่นอนแบบยุนโฮเขาไม่เรียกว่านอนตื่นสายแล้วล่ะเขาเรียกว่านอนตื่นเที่ยงมากกว่า ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยายามปลุกยุนโฮอีกครั้ง
“ ยุน เที่ยงนี้อยากทานอะไร ” เสียงหวานเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนบนเตียงเริ่มขยับตัว
“ เอาอะไรก็ได้ ” ตอบทั้งๆที่ยังไม่ยอมลืมตาด้วยซ้ำ แถมยังพลิกตัวหนีอีกต่างหากเห็นแบบนี้แล้วแจจุงอยากจะจับไปโยนลงน้ำจริงๆ
“ โอเค เดี๋ยวแจซื้อมาให้ ยุนก็ตื่นได้แล้วมันจะเที่ยงแล้วนะ ”
“ ขอยุนนอนต่ออีกนิดนะยุนเมื่อคืนยุนเหนื่อยมากเลย ” คนขี้เซาขอต่อรอง
แจจุงเบะปากให้กับข้ออ้างของร่างสูง ขอโทษทีเถอะคุณชองยุนโฮแต่ได้ข่าวว่าเมื่อคืนคนที่เหนื่อยคือคิมแจจุงคนนี้ไม่ใช่เหรอที่โดนหมีหื่นบางตัวสะกิดชวนเล่นมวยปล้ำทั้งคืนน่ะ
“ อยากนอนต่อก็ตามใจ แต่ถ้าแจกลับมาแล้วเห็นยุนยังนอนอยู่ที่เดิมคืนนี้ไปนอนนอกห้องเลยนะ ” แจจุงถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจเคยปลุกยากยังไงก็ยังปลุกยากอยู่อย่างนั้น ร่างบางคงได้แต่หวังให้ยุนโฮได้ยินคำขู่ของเขาแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนเขากลับมา
แจจุงเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ของตนเองก่อนจะเดินออกจากห้องนอนเพื่อที่จะออกไปซื้อของข้างนอก ร่างบางจัดการล็อคประตูห้องให้เรียบร้อยก่อนที่จะออกจากห้อง วันนี้เป็นวันอาทิตย์แจจุงไม่ต้องไปทำงานจึงมีเวลาว่างทั้งวัน ร่างบางจึงคิดว่าจะออกไปซื้อของสดมาทำอาหารทานกันเองเพราะเห็นยุนโฮบ่นว่าอยากทานกิมจิจิเกฝีมือเขามาหลายวันแล้ว
แจจุงเดินดูของไปเรื่อยๆค่อยๆนึกว่าที่ห้องอะไรหมดบ้างเพราะนอกจากจะซื้อของไปทำอาหารแล้วแจจุงยังจะมาซื้อของใช้ส่วนตัวด้วย เพราะดูเหมือนว่าของใช้ของยุนโฮจะหมดหลายอย่างเลยล่ะ
ตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับยุนโฮแจจุงก็ดูแลทุกอย่างให้กับคนรักนับตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยอย่างพวกของใช้ส่วนตัว หรือว่าจะเป็นงานบ้านเล็กๆน้อยๆ และเพราะมัวแต่เดินดูของเพลินเลยทำให้แจจุงไม่ทันได้ระวังรถเข็นที่ร่างบางเข็นอยู่จึงชนเข้ากับลูกค้าในร้าน
“ ขอโทษฮะ พอดีผมไม่ทันได้ระวัง ” ร่างบางเอ่ยขอโทษคนที่ตัวเองเข็นรถไปชน ก่อนที่ใบหน้าสวยจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่เขาชนนั้นเป็นใคร
“ อ่าว แจจุงมาทำอะไรที่นี่ ” ฮยอนจุงเป็นคนทักขึ้นมาก่อนเพราะแจจุงมัวแต่ขอโทษเขาอยู่นั่นแหละ
ปากบางระบายยิ้มอ่อนๆให้กับเพื่อนร่วมงาน “ ฮยอนจุงเองหรอกเหรอ ขอโทษทีนะพอดีเมื่อกี๊ฉันไม่ทันได้ดูน่ะ ” แจจุงขอโทษอีกครั้ง
“ ไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ ” ฮยอนจุงบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่บอกว่าเขาไม่ถือโทษโกรธแจจุงเลย “ แล้วนี่นายมาทำอะไรเหรอ ? ”
“ ฉันมาซื้อของน่ะแล้วนายมาทำอะไรเหรอ ” แจจุงถามกลับแจจุงแปลกใจเล็กน้อยที่เจอฮยอนจุงที่นี่
“ เอ่อ...คือฉัน ” ฮยอนจุงอึกอักเพราะกำลังคิดหาเหตุผลมาบอกแจจุงตาคมกรอกไปมาอย่างมีพิรุธ จะให้แจจุงรู้ไม่ได้ว่าเขามาแอบมองคนที่ตัวเองแอบชอบแต่ไม่กล้าเข้าไปจีบ
เพราะขืนให้แจจุงรู้มีหวังเวลาเจอกันที่ร้านเขาต้องโดนแจจุงแซวแน่ๆ ซึ่งถ้าแจจุงแซวคนเดียวฮยอนจุงจะไม่อะไรเลย แต่จากประสบการณ์สามเดือนกว่าที่ฮยอนจุงทำงานที่นั่นมันทำให้เขารู้ว่า ถ้ามีคนที่หนึ่งเริ่มก็จะมีคนที่สอง สาม ตามมาต่อไปเรื่อยๆจนเกือบจะครบทุกคนในร้าน เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องป้องกันไว้ก่อน
“ ฉันอะไร..... ” คิ้วเรียวเลิกขึ้นนิดๆเมื่อเห็นว่าฮยอนจุงเอาแต่พูดคำว่า “ คือฉัน ” อยู่นั่นแหละ
ตาคมมองไปรอบๆเพื่อหาตัวช่วยก่อนจะมาหยุดอยู่ที่รถเข็นที่แจจุงเข็นอยู่ จริงด้วยมาซุปเปอร์ก็ต้องมาซื้อของสิ “ ฉันก็มาซื้อของเหมือนกัน ” ตอบเสร็จก็แอบเป่าปากโล่ง อกที่หาข้ออ้างได้สำเร็จ
“ มาซื้อของอย่างเดียวเหรอ ” แจจุงหรี่ตาลงอย่างจับผิด มาซื้อของอย่างเดียวจริงอ่ะไม่ใช่พาแฟนมาเดินเล่นหรอกเหรอ
“ ฉันมาซื้อของอย่างเดียวจริงจริ๊ง ” บอกด้วยสีหน้าจริงจังหากแต่ทำไมน้ำเสียงกับสีหน้ามันต่างกันจังล่ะ แสดงว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆเลย
“ แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วยฉันยังไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย ” แจจุงบอกยิ้มๆเขายังไม่ได้ว่าอะไรสักคำฮยอนจุงก็ชิงร้อนตัวไปก่อนซะแล้วแบบนั้มันน่าสงสัยนะเนี่ย
“ แหะๆ ก็ฉันกลัวนายไม่เชื่อนี่นา ” หัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อน
“ นายนี่ทำตัวมีพิรุธนะ ” แจจุงยังคงจ้องมองอย่างจับผิด ร่างบางมันใจว่ามันต้องมีอะไรมากกว่ามาเดินซื้อของธรรมดาแน่ๆ
“ เหรอ....ฉันทำตัวมีพิรุธเหรอ ฉันว่าฉันก็ทำตัวปกตินะ ” แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ถึงแม้จะแอบร้อนๆหนาวๆอยู่บ้างเพราะแจจุงน่ะจับผิดเก่งยิ่งกว่าอะไร “ แล้วนี่นายมาคนเดียวเหรอ ”ฮยอนจุงพยายามชวนเปลี่ยนเรื่องเพราะถ้าขืนยังคุยเรื่องนี้กันต่อไปเขาคงโดนแจจุงจับได้แน่ๆ
“ ใช่มาคนเดียว ยุนโฮยังไม่ตื่นน่ะ ”
“ อ๋อ...เหรอ ” ฮยอนจุงพยักหน้าเบาๆ
“ อืม... เดี๋ยวฉันต้องไปก่อนนะต้องรีบเอาข้าวไปให้หมีน่ะ ” ท้ายประโยคร่างบางขอตัวเพราะนึกขึ้นได้ว่ายังมีคนรอทานข้าวอยู่ที่ห้อง
“ นายเลี้ยงหมีด้วยเหรอ ” ฮยอนจุงถามซื่อๆแต่ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความแปลกใจ เพราะเขาคิดว่าหมีที่แจจุงพูดถึงนั้นหมายถึงหมีที่เป็นสัตว์จริงๆ
“ อืม.....เลี้ยงอยู่ตัวนึงนะ ” ร่างบางตอบกลั้วหัวเราะ ใช้แล้วล่ะตอนนี้เขาเลี้ยงหมีไว้ตัวนึงแถมเป็นหมีหื่นซะด้วย “ ฉันกลับแล้วนะ ” แจจุงบอกลาอีกครั้งโดยที่ไม่คิดจะเฉลยความจริงให้ฮยอน
จุงรู้
“ อืม...แล้วเจอกันที่ร้าน ”
***** โฮ ฮ ฮ ขอกรีดร้องหน่อยเถอะ ไม่ไหวจะเคลียกับผู้ชายคนนี้จริงๆ
คิมแจจุ๊ง ง ง จะทำให้รักทำให้หลงไปถึงไหน แค่นี้ก็ไม่รู้จะรักยังไงแล้ว ว ว
ทำตัวแบบนี้เดี๋ยวก็ดักฉุดไว้ที่ไหนไม่ให้กลับเกาหลีหรอก โอ๊ยๆ สองวันมานี้พี่
ทำฉันแทบบ้า หนังสือหนังหาไม่ต้องอ่านมันแล้ว ตามผู้ชายอย่างเดียว 5555
รักมากที่สุดอ่ะคนนี้ แล้วก็รักอีก4 คนที่เหลือด้วย
***** คำเตือนสำหรับคนที่จะตามคิมแจนะค่ะ ตามแล้วระวังคุณจะเกิดอาการเพ้อและอยากเจออีก
เพราะคิมแจเหมือนยาเสพติดเจอเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ 5555
***** ขอบ่นคอน PD หน่อยเหอะ บัตรจะแพงไปไหนค่ะ ถ้าจะขายแบบนี้ขายแยกดีกว่าไหม
สงสารเด็กๆที่ยังเรียนมัธยมอยู่อ่ะ 3500กับ 9000 ไม่ใช่น้อยๆเลยนะค่ะ
***** ฝากนิดนึงนะค่ะ
***** สำหรับคนที่หน้าลิ้ง NC ไม่เจอให้เข้าไปดูตรง คห. 1 ของตอนที่แล้วนะค่ะ แล้วก็
กดแจเบาๆ ค่ะ ย้ำว่ากดเบาๆนะค่ะ เพราะถ้ากดแรงเดี๋ยวพ่อหมีจะว่าเอา 555
ความคิดเห็น