คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #67 : Special YunJae # 10
“ แจจุงวันนี้ยุนโฮไม่ได้มาส่งเหรอ ” ผู้จัดการร้านที่เพิ่งเดินออกมาจากหลังร้านเอ่ยถามร่างบางที่กำลังจัดโต๊ะอยู่ด้วยความแปลกใจ
“ มาฮะ แต่วันนี้ยุนรีบเลยไม่ได้เข้ามาในร้าน ” ร่างบางหันไปตอบผู้จัดการร้านเพราะปกติแล้วเวลาที่มาส่งยุนโฮก็มักจะลงมาด้วยทุกครั้ง
ผ่านมาสี่เดือนแล้วสินะที่เขากับยุนโฮตกลงคบหากัน ตอนนี้พนักงานในร้านรวมถึงผู้จัดการร้านต่างก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับยุนโฮนั้นเป็นอะไรกัน ทุกๆวันยุนโฮจะมาส่งแจจุงที่ร้านและแวะเข้ามาทักทายทุกคนหรือถ้าหากว่าวันไหนพนักขาดยุนโฮก็อาสามาช่วยเป็นพนักงานจำเป็นให้ด้วยความเต็มใจจนตอนนี้ร่างสูงสนิทกับพนักงานในร้านแทบจะทุกคน และยุนโฮก็จะกลับมารับแจจุงเมื่อถึงเวลาเลิกงานตรงเวลาทุกวัน
สรรพนามที่ใช้แทนตัวก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเพราะตอนนี้ทั้งคู่ใช้ชื่อต้นของตัวเองเป็นคำแทนตัวด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้ไม่รู้สึกห่างเหิน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดหลังจากที่ตกลงคบหากันคือในที่สุดแจจุงก็ยอมย้ายมาอยู่กับยุนโฮหลังจากที่ร่างสูงรบเร้าอยู่นาน แต่ถึงจะอยู่ด้วยกันแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่ากอดจูบกันธรรมดา และนี่คือสิ่งที่แจจุงนึกขอบคุณยุนโฮอยู่เสมอที่ร่างสูงให้เกียรติเขาและรอจนกว่าเขาจะพร้อม
“ รายนั้นมีธุระกับเขาด้วยเหรอ ” ผู้จัดการร้านถามติดตลก เขาไม่เคยเห็นยุนโฮมีธุระที่ไหนเลยตลอดสี่เดือนที่ร่างสูงทำตัวประหนึ่งว่าเป็นพนักงานในร้านอีกคนเห็นมาเฝ้าแจจุงเช้าถึงเย็นถึงอยู่ทุกวัน
“ ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละฮะ ” แจจุงเองก็รับมุกซะด้วยสิ ร่างบางโค้งศรีษะให้เจ้านายตัวเองเล็กน้อยเพื่อขออนุญาตรับโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงปากอิ่มวาดยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรมา
“ ตัวไม่อยู่แต่ก็ยังมีเสียง อิจฉาคนมีความรักวุ้ย ” ผู้จัดการร้านแซวด้วยความหมั่นไส้ห่างกันได้ไม่ทันไรก็โทรถามซะแล้ว ชาตินี้เขาไม่มีความรักบ้างก็ให้มันรู้ไปสิ
แจจุงยิ้มให้กับคำแซวก่อนจะกดรับสายมือข้างที่ว่างก็ทำงานไปด้วยจะได้ไม่เสียเวลา “ ว่าไง
ยุน ทำธุระเสร็จแล้วเหรอ? ”
“ ยังเลยแต่ยุนคิดถึงแจอยากได้ยินเสียงแจอ่ะ ” เสียงทุ้มหยอดคำหวานมาตามสาย
“ เว่อร์แล้วๆเดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกัน ” ถึงจะว่าอีกคนเว่อร์แต่ใบหน้าหวานกลับฉีกยิ้มมีความสุข ขาเรียวเดินกลับเขาไปหลังร้านเมื่อจัดโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ จริงสิ...วันนี้แจกลับเองได้ไหม ”
“ ได้สิทำไมเหรอ ” คอนโดของยุนโฮอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนักนั่งรถแป๊บเดียวก็น่าจะถึงแล้ว ว่าแต่ยุนโฮถามทำไมเหรอ
“ วันนี้ยุนคงไม่ได้ไปรับแจนะ ไม่รู้ว่าธุระจะเสร็จกี่โมง ” บอกด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“ งั้นไม่เป็นไรแจกลับเองได้ยุนทำธุระให้เสร็จเถอะ ” บอกให้คนรักสบายใจแจจุงรู้ว่ายุนโฮเป็นห่วงเขามากเพราะถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่คอยตามรับตามส่งอยู่แบบนี้หรอก
“ แจกลับเองได้นะ ” ยุนโฮยังไม่อยากวางใจ
“ได้สิแค่นี้สบายมาก ”
“ แล้วอีกอย่าง วันนี้แจไม่ต้องรอทานข้าวนะแจทานก่อนได้เลย ”
“ แล้วยุนล่ะ ” เอ่ยถามน้ำเสียงเป็นปกติแต่ใบหน้าสวยกับดูหงอยลงทันตาเมื่อรู้ว่าวันนี้คนรักจะไม่กลับมาทานข้าวเย็นด้วยกัน
การมียุนโฮนั่งทานข้าวด้วยกันทุกมื้อมันทำให้แจจุงชินซะแล้วถ้าหากมื้อไหนไม่ได้ทานข้าวด้วยกันมันรู้สึกเหมือนกับขาดอะไรบางอย่างไป แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือแจจุงไม่คิดว่าจะต้องมานั่งทานข้าวคนเดียวในวันสำคัญของตัวเองแบบนี้ แจจุงไม่รู้ว่ายุนโฮรู้หรือเปล่าว่าวันนี้มันคือวันอะไร แจจุงไม่ได้หวังว่ายุนโฮจะทำอะไรให้เป็นพิเศษร่างบางขอแค่ได้นั่งทานข้าวกับคนพิเศษในวันพิเศษของตัวเองก็พอแล้ว แต่แล้วความหวังของแจจุงก็ต้องดับลงเมื่อรู้ว่าวันนี้จะไม่มียุนโฮมานั่งทานข้าวด้วยกัน
“ ยุนคิดว่าธุระคงเสร็จช้าน่ะเดี๋ยวยุนแวะทานข้างนอกแล้วค่อยกลับห้องดีกว่า ”
“ อืม...เอาแบบนั้นก็ได้ ” ร่างบางรับคำเสียงเรียบ
“ แจไม่โกรธยุนใช่ไหม ” ยุนโฮเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังกลเมื่อจับความผิดปกติจากน้ำเสียงของคนรักได้
“ แจจะโกรธยุนทำไม ยุนไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ” ปั้นน้ำเสียงให้ดูร่าเริงเพื่อให้อีกคนสบายใจ
ยุนโฮจะไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเขาก็ไม่แปลกหรอกเพราะเขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับยุนโฮเลย แจจุงยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเผลอนึกไปว่าวันนี้คงเป็นอีกปีที่เขาต้องฉลองวันเกิดคนเดียว
“ ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ....แจเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะยุนต้องไปแล้ว ”
“ อืม... ” ร่างบางรับคำในลำคอก่อนที่สายจะตัดไป
.
เรียวขาเรียวพาเจ้าของเดินกลับมาที่ห้องพักด้วยท่าทางซึมๆ วันนี้แจจุงกลับช้ากว่าปกติเพราะหลังจากเลิกงานแล้วพนักงานที่ร้านก็จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เขาเป็นงานเลี้ยงเล็กๆมีเพียงเค้กแล้วก็อาหารจากทางร้านเท่านั้น ถึงแม้จะดีใจที่มีคนจำวันเกิดตัวเองได้แต่มันจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าหากว่าคนที่ทำแบบนี้ให้ในวันนี้คือยุนโฮ
แจจุงค่อยๆเปิดประตูโดยใช้มือเพียงข้างเดียวเพราะอีกข้างถือถุงอาหาร อาหารที่แจจุงแวะซื้อระหว่างทางร่างบางซื้อมาไว้เผื่อยุนโฮกลับมาแล้วยังไม่ทานอะไร
และก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้จริงๆห้องทั้งห้องยังคงมืดสนิทบ่งบอกว่าใครอีกคนยังไม่กลับมา ปากอิ่มยิ้มหยันให้กับตัวเองที่หวังอะไรไม่เข้าท่า แต่ก็ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่พร่ำบอกกับตัวเองว่ามันไม่ใช่ความผิดของยุนโฮแต่ลึกๆในใจแล้วก็แอบน้อยใจคนรักอยู่เหมือนกันที่ไม่สนใจอะไรในตัวเขาเลย ขนาดยุนโฮไม่บอกว่ายุนโฮเกิดวันที่เท่าไหร่แจจุงยังรู้เลย
แต่ก่อนที่จะได้คิดน้อยใจไปกว่านี้ห้องที่มืดสนิทกลับสว่างวาบขึ้นทันตา พร้อมกับร่างสูงของคนที่บอกว่าวันนี้ติดธุระกำลังยืนยิ้มอยู่ในห้องนั่งเล่น คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจที่เห็นยุนโฮอยู่ตรงนี้ก่อนที่ตากลมจะมองไปรอบๆห้องที่รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป
“ สุขสันต์วันเกิดครับ ”
ไม่รู้ว่ายุนโฮมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยกระซิบเบาๆที่ข้างหู วงแขนแข็งแรงสวมกอดรอบเอวบางเอาไว้ก่อนจมูกโด่งเป็นสันจะฝังลงบนแก้มขาว
“ ยุนรู้? ” เอ่ยถามร่างสูงหากแต่สายตายังคงจ้องอยู่ที่โต๊ะอาหารตัวที่พวกเขานั่งทานด้วยกันทุกวันหากแต่วันนี้มันกลับถูกแปลงโฉมให้คล้ายกับโต๊ะดินเนอร์สุดหรูตามโรงแรมชื่อดัง
“ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับแจแล้วยุนไม่รู้ ”
“ ถ้างั้นที่บอกว่าไปทำธุระก็คือเรื่องนี้น่ะเหรอ ” ใบหน้าแสนสวยเอียงถามคนรัก อย่าบอกนะว่าธุระที่ว่านี่คือเรื่องนี้ คนบ้าแล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรกปล่อยให้น้อยใจอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
“ ถ้าบอกว่าใช่ .. ” ตอบยิ้มๆมือหนายกขึ้นมาเกาท้ายทอยแก้เขิน
ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครเลยนะ “ แจชอบมั๊ย ? ”เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับพยุงร่างบางเดินไปที่โต๊ะอาหาร
“ ไม่ชอบ ” แต่เสียงหวานกลับตอบกลับห้วนๆทำเอาอีกคนใจเสีย ปากอิ่มลอบยิ้มสนุกอยากแกล้งเค้าดีนักขอเอาคืนหน่อยเถอะแต่ก็แกล้งได้ไม่นานใบหน้าแสนสวยฉีกยิ้มให้อีกคนได้ชื่นใจ
“ไม่ชอบซะที่ไหนล่ะ ” ทำไมแจจุงจะไม่ชอบอะไรที่ยุนโฮตั้งใจทำให้แจจุงชอบทั้งนั้นแหละถึงแม้จะแอบเคืองอยู่เล็กๆที่หลอกให้น้อยใจอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
“ ดีใจจังที่แจชอบ ” ปากหยักยิ้มดีใจ
วันนี้ยุนโฮลงทุนทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมดเลยไม่ว่าจะเป็นตกแต่งห้อง จัดโต๊ะหรือแม้กระทั่งทำอาหารด้วยตัวเอง ตอนแรกก็คิดว่าจะพาแจจุงไปทานอาหารที่ร้านอาหารแต่คิดว่าทำแบบนี้แจจุงน่าจะประทับใจกว่า ยุนโฮอาศัยช่วงเวลาที่แจจุงไปทำงานแอบไปซื้อข้าวของมาเซอร์ไพรส์ร่างบางใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่จะเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย
“ ขอบคุณนะ ” เสียงหวานบอกพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ ขอบคุณจริงๆที่ยุนโฮสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับตัวเขา “ แจนึกว่ายุนไม่รู้ซะอีก ”
“ ทุกเรื่องเกี่ยวกับแจยุนรู้หมดแหละ ” บอกยิ้มๆทำไมเรื่องแค่นี้เขาจะไม่รู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับแจจุงไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้รอดสายตาไปได้หรอก
“ แล้วยุนรู้ได้ไงอ่ะว่าแจเกิดวันนี้ ” ร่างบางเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะจำได้ว่าตัวเองไม่เคยบอกยุนโฮเรื่องวันเกิดนี่นาแล้วยุนโฮรู้มาจากไหนอ่ะ
“ อยากรู้เหรอ? ” ร่างสูงย้อนถามก่อนจะเอาแขนขึ้นมาวางซ้อนกันบนโต๊ะใบหน้าหล่อยื่นไปใกล้คนรักเมื่อร่างบางพยักหน้าแทนคำตอบ “ ไม่บอกหรอก ” ยักคิ้วกวนๆให้หนึ่งทีก่อนจะถอยกลับมานั่งท่าเดิม
แจจุงย่นจมูกใส่ร่างสูงด้วยความหมั่นไส้ “ ไม่บอกก็ไม่รู้ก็ได้ ” บอกงอนๆ
ยุนโฮหัวเราะออกมาเบาๆกับอาการงอนเหมือนเด็กๆของคนรักที่เดี๋ยวนี้มักจะมีมาให้เห็นบ่อยๆซึ่งสาเหตุก็มาจากเค้านี่แหละที่ชอบแหย่แล้วสุดท้ายตัวเองก็เป็นฝ่ายง้อทุกครั้งแต่เขาชอบนะเวลาที่เห็นแจจุงงอนน่ะมันน่ารักดี
“ โอ๋ๆ อย่าพึ่งงอนเลยน๊า วันนี้ยุนอุตส่าห์ทำของโปรดของแจทั้งนั้นเลย ”
“ ยุนทำเองทั้งหมดเลยเหรอ? ” นิ้วเรียวชี้ไปยังอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะสีหน้าคนชี้ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ว่าทั้งหมดนั้นเป็นฝีมือของยุนโฮเพราะตั้งแต่คบกันมาแจจุงไม่เคยเห็นยุนโฮทำอาหารทานเองเลยสักครั้ง
“ เห็นหล่อๆแบบนี้ยุนก็ทำอาหารเป็นนะครับ ” ได้ทีแล้วอวดใหญ่ให้มันรู้ซะบ้างว่าชอง ยุนโฮคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หล่ออย่างเดียว
ปากอิ่มเบ้ให้คนหลงตัวเองด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่ตากลมจะค่อยๆพิจารณาอาหารตรงหน้า อืม..มีแต่อาหารที่เขาชอบจริงๆด้วย
“ แจลองชิมหน่อยนะเดี๋ยวยุนตักให้ ” ร่างสูงตักอาหารตรงหน้าใส่จานให้ร่างบางเป็นการเอาใจ
ตักเสร็จแล้วร่างสูงก็กลับมานั่งลุ้นว่าอาหารที่เขาทำแจจุงจะชอบหรือเปล่า วันนี้เขาตั้งใจทำจริงๆนะถึงแม้ว่ารสชาติมันจะสู้ที่แจจุงทำไม่ได้ก็เถอะ แจจุงพอเห็นอาการลุ้นสุดตัวของคนรักแล้วก็นึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมามือบางค่อยๆวางช้อนลงใบหน้าสวยเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ
“ เป็นไงบ้าง ใช้ได้มั๊ย ” เอ่ยถามด้วยความไม่มั่นใจตอนเขาชิมเขาก็ว่ามันโอเคนะแต่แจจุงจะโอเคกับเขาหรือเปล่านี่สิ
“ แย่ ” สั้นๆง่ายๆคำเดียวแต่เล่นเอาคนรอฟังคำตอบถึงกับหน้าเสีย “ แย่....ซะที่ไหนล่ะ ” เป็นอีกครั้งของวันที่แจจุงฉีกยิ้มสมใจที่สามารถแกล้งยุนโฮได้
ส่วนคนที่โดนแกล้งก็ได้แต่มองคนที่ยิ้มร่าด้วยสายตาคาดโทษก่อนรอยยิ้มจะปรากฏบนหน้าคมเสียงทุ้มหัวเราะออกมาเบาๆนี่เขาพลาดให้แจจุงอีกแล้วเหรอเนี่ย นิ้วยาวยื่นไปหนีบจมูกรั้นแล้วบิดไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ ร้ายนักนะ ”
“ ร้ายแล้วรักป่ะล่ะ ” แจจุงเอ่ยถามเสียงกลั้นหัวเราะ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาชอบฟังคำบอกรักที่ออกมาจากปากของยุนโฮ
“ รักสิครับ รักมากๆด้วย ”เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆถ้าไม่รักแล้วจะยอมให้ขนาดนี้เหรอครับคนสวย
“ ดีมาก ” พยักหน้าพอใจในคำตอบก่อนจะตักอาหารทานต่อ “ แต่ถึงยังไงก็สู้ที่แจทำไม่ได้อยู่
ดี ”
“ เรื่องนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ครับผม ” ปากหยักยกยิ้มให้กับอาการไม่ยอมแพ้ของคนรักจะเถียงก็ไม่ได้เพราะแจจุงก็ทำอาหารอร่อยกว่าเขาจริงๆนั่นแหละ
เสียงพูดคุยเบาๆดังสลับกับเสียงหัวเราะตลอดช่วงเวลาอาหารสุดพิเศษ ยิ่งเห็นแจจุงทานอาหารฝีมือตัวเองแล้วยุนโฮยิ่งเป็นปลื้ม ร่างสูงคอยบริการตักนั่นตักนี้ให้ตลอดจนแจจุงแทบจะทานไม่ทัน
“ อย่าพึ่งอิ่มนะ ยังเหลือเค้กอยู่ในตู้เย็นน่ะ ” เสียงทุ้มบอกเมื่อเห็นคนรักรวบช้อนเหมือนจะอิ่มแล้ว
คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ “ อย่าบอกนะว่ายุนทำเค้กเอง ” ยุนโฮเนี่ยจะทำเค้กเองแจ
จุงไม่เห็นจะรู้เลยว่ายุนโฮทำเค้กเป็นกับเขาด้วย แล้วหน้าตามันจะออกมาเป็นยังไงล่ะเนี่ย
“ เปล่า ยุนแวะซื้อหลังจากที่ส่งแจเสร็จแล้วน่ะ ” บอกยิ้มๆก่อนจะลุกเดินเข้าไปในครัว “ รอแป๊บนึงนะเดี๋ยวยุนไปหยิบมาให้ ”
ยุนโฮเดินกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับเค้กก้อนโตที่มีเทียนปักเอาไว้ เสียงทุ้มร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับคนรักในขณะที่เดินถือเค้กเข้ามา และพอหยุดอยู่ตรงหน้าแจจุงเสียงเพลงก็จบลงพอดี
“ อธิษฐานสิ ” ร่างสูงยื่นเค้กไปตรงหน้าคนรักก่อนจะบอกให้อธิษฐาน
แจจุงมองหน้ายุนโฮยิ้มๆก่อนจะหลับตาและอธิษฐาน ปากอิ่มค่อยๆเป่าเทียนให้ดับลงเมื่ออธิษฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ สุขสันต์วันเกิดนะครับ ขอให้แจจุงมีความสุขมากๆเป็นแจจุงที่น่ารักของยุนโฮแบบนี้ตลอดไปนะ ยุนรักแจมากนนะครับ ” ร่างสูงอวยพรให้คนรักก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มเนียนเป็นการปิดท้าย
“ ขอบคุณนะ ” ยิ้มหวานตอบกลับไป “ แจก็รักยุนมากนะ ” จมูกรั้นขยับขึ้นไปหอมแก้มกร้านก่อนจะเอ่ยบอกคำว่ารักตอบกลับไป ยิ่งคบกันนานเท่าไหร่แจจุงก็รักยุนโฮมากขึ้นเท่านั้น
“ ทานเลยมั๊ย หรือว่าจะรอให้ย่อยก่อน ”
“ รอให้ย่อยก่อนก็แล้วกัน ” เพราะตอนนี้กระเพาะของแจจุงมันแน่นไปหมด แน่นจนร่างบางคิดว่าคงไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้อีกแล้ว
“ งั้นไปเต้นรำกันไหม ” เสียงทุ้มเอ่ยชวน เต้นรำท่ามกลางแสงเทียนแบบนี้มันคงจะโรแมนติกดีไม่น้อย
“ แต่แจเต้นรำไม่เป็นอ่ะ ” บอกตามจริง
ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่เขาพึ่งเคยเต้นรำแค่ครั้งเดียวเองตอนเรียนมัธยมปลายเพราะมันเป็นหนึ่งในหลักสูตรของวิชาพละศึกษา แล้วตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายเรียนไปเพื่อไปสอบแค่นั้นพอสอบเสร็จก็ลืมหมดแล้ว
“ ไม่เป็นไรเดี๋ยวยุนสอนเอง ” เต้นรำมันไม่ใช่เรื่องยากค่อยๆเต้นไปตามจังหวะเดี๋ยวก็เป็นเองแหละ
“ ถ้างั้นก็ตกลง ” ร่างบางยอมตอบตกลงเพราะวันพิเศษทั้งทีก็เลยอยากทำอะไรที่มันพิเศษกว่าวันอื่นๆหน่อย
“ รอแป๊บนึงนะ” ทันทีที่แจจุงตกลงยุนโฮก็รีบลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปเปิดเครื่องเล่นวีซีดีทันที
เสียงเพลงบรรเลงขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างบางก่อนจะโค้งให้เล็กน้อย “ ไม่ทราบว่าคุณแจจุงจะให้เกียรติเต้นรับกับผมสักเพลงได้ไหมครับ ”
แจจุงหัวเราะขำกับมุกของร่างสูงก่อนจะยื่นมือออกไปจับมือใหญ่เอาไว้ “ ได้ครับ ”
ร่างสองร่างประคองกอดกันพร้อมกับเคลื่อนไหวไปกับจังหวะดนตรีท่ามกลางแสงเทียนภายในห้อง แขนเรียวโอบกอดรอบคอแกร่งเอาไว้หลวมๆใบหน้าแสนสวยซุกอยู่บนหน้าอกแกร่งด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
“ ยุนรู้ไหมว่าวันเกิดปีนี้เป็นปีที่แจมีความสุขที่สุดนับตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่แจเสีย ขอบคุณมากนะที่ทำให้แจกลับมามีความสุขอีกครั้ง ”
ตั้งแต่พ่อกับแม่จากไปแจจุงก็ไม่เคยฉลองวันเกิดอย่างมีความสุขเลยสักครั้ง เมื่อถึงวันเกิดในทุกๆปีแจจุงมักจะไปนั่งฉลองอยู่ที่หน้าหลุมศพของพ่อกับแม่แล้วก็จบด้วยการร้องไห้ด้วยความคิดถึงทุกครั้ง
แต่ปีนี้แตกต่างไปจากปีก่อนๆ ปีนี้แจจุงมียุนโฮอยู่ข้างกายยุนโฮทำให้วันเกิดปีนี้ของแจจุงยิ้มได้และไม่เหงาเหมือนที่แล้วมา
“ ยุนดีใจนะที่เห็นแจมีความสุข ” จมูกโด่งซุกลงบนกลุ่มผมนิ่ม เขาดีใจนะที่ได้เป็นคนที่ทำได้แจจุงมีความสุข
ใบหน้าหวานผละออกจากอกแกร่งก่อนจะจ้องมองใบหน้าคมของยุนโฮอย่างสุดรัก เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่ให้โอกาสยุนโฮเพราะตอนนี้แจจุงมีความสุขที่สุดสุขที่ได้รักยุนโฮและมียุนโฮอยู่ข้างกาย ยุนโฮเองก็จ้องมองแจจุงไม่ละสายตาเช่นกันและเหมือนต่างคนต่างมีแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน ใบหน้าของทั้งคู่ค่อยๆเคลื่อนเข้าหากันจนแนบชิดกันในที่สุด
ตัดฉับ ^^
***** เนื้อหาที่เหลือของตอนนี้ ใครอยากอ่านตามไปอ่านได้ตามลิ้ง คห. 1 นะค่ะ
ลงในนี้มันเสี่ยง ^^
***** ฝากนิดนึงนะค่ะ
ความคิดเห็น