คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ~ Happy Family ~4
ภายในตัวอาคารที่สูงมากกว่าแปดสิบชั้น ร่างสูงโปร่งกำลังเดินตามบิดาเพื่อขึ้นไปยังห้องของผู้บริหารที่อยู่ชั้นบนสุด พนักงานในบริษัทต่างพากันตื่นเต้นที่วันนี้ได้เห็นหน้าลูกชายท่านประธานจริงๆซะที หลังจากที่เห็นมีรูปติดอยู่บนทำเนียบอยู่บริหารมานานหลายปี
ยุนโฮส่งยิ้มให้กับพนักงานทุกคนที่เดินผ่านผิดกับบิดาที่ยังคงตีหน้าเรียบเฉยสร้างความเกรงขรามให้กับพนักงาน ประตูลิฟท์เปิดออกเผยให้เห็นพื้นที่กว้างขวางที่จัดสรรพื้นที่เป็นอย่างดี ประธานชองเดินนำลูกชายไปยังห้องทำงานโดยมีเลขาส่วนตัวคอยยืนต้อนรับอยู่เช่นเดิม
“ ช่วยเตรียมเอกสารในการประชุมเพิ่มอีกหนึ่งชุดด้วยนะ “ ประธานชองสั่งเลขาก่อนจะเดินเข้าห้องไป
ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องฮยอนบินก็นั่งลงอ่านเอกสารที่โต๊ะทำงานทันทีปล่อยให้ลูกชายที่เดินเข้ามาด้วยยืนเคว้งอยู่กลางห้องเพราะไม่รู้ว่าบิดาจะให้ตนทำอะไร
“ พ่อจะให้ผมเริ่มที่ตรงไหนก่อนฮะ “ ยุนโฮเอ่ยถามหลังจากที่ยืนเงียบอยู่นาน
“ อีกสิบนาทีจะมีการประชุมผู้บริหาร แกเตรียมตัวไว้แล้วกัน “ ประธานชองเอ่ยกับลูกชายแต่สายตายังคงจ้องอยู่ที่แฟ้มเอกสาร
“พ่อจะให้ผมเข้าประชุมด้วยเหรอฮะ “ ร่างสูงถามอย่างตกใจ เขาเพิ่งเข้าบริษัทเป็นวันแรกยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยแล้วจะเอาข้อมูลที่ไหนไปประชุมกันล่ะ
“ แกนี่ก็ถามแปลกการประชุมผู้บริหารแล้วรองประธานอย่างแกจะไม่เข้าประชุมได้อย่างไร “ ฮยอนบินวางปากกาลงแล้วหันมาคุยกับลูกชายดีๆ
“ แต่ผมยังไม่รู้จักใครเลยนะครับ แล้วอีกอย่างผมก็ไม่มีข้อมูลในการประชุมด้วย “
“ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงฉันให้เลขาเตรียมเอกสารทั้งหมดเอาไว้ให้แล้ว อีกอย่างวันนี้ฉันจะแนะนำลูกชายคนเดียวของฉันให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นรู้จักอย่างเป็นทางการเพราะฉะนั้นแกไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รู้จักใคร “ ประธานชองอธิบายยาวเยียดให้ลูกชายเจ้าปัญหาฟัง
“ แต่....”
“ แกมีปัญหาอะไรอีก “ เสียงทรงอำนาจพูดสวนขึ้นไม่รอให้ลูกชายได้เอ่ยจนจบประโยค
“ เปล่าครับ งั้นผมขออนุญาตเรียกกำลังใจหน่อยนะครับ “
“ ตามใจ “
ร่างสูงยิ้มพอใจก่อนจะหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา ภาพหน้าจอทำให้เขายิ้มมีความสุขเพราะมันรูปของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกำลังนอนหลับอยู่ นิ้วเรียวกดไปยังเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันทีแต่ว่ารอสายอยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าปลายสายจะรับ ยุนโฮจึงลองกดอีกครั้งแต่ครั้งนี้ร่างสูงตัดสินใจโทรเข้าอีกเบอร์
“ สวัสดีค่ะ บ้านตระกูลชองค่ะ “ ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงรับซึ่งร่างสูงจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร
“ ผมเองนะครับแม่ “
“ ยุนโฮเหรอ มีอะไรลูก “
“ แจจุงกับมุนบินอยู่แถวนั้นหรือเปล่าครับ พอดีผมโทรเข้ามือถือแล้วแจจุงไม่รับ” ร่างสูงถามหาภรรยาคนสวยกับลูกชายสุดที่รักทันที
“ แจจุงเอาเสื้อผ้ามุนบินไปซักอยู่น่ะ แต่เจ้าตัวเล็กอยู่กับแม่ลูกจะคุยด้วยไหม “
“ คุยครับ “ ร่างสูงตอบออกไปทันที
“ งั้นรอแป๊บนึงนะ มุนบินครับ คุณพ่อจะคุยด้วยลูก “ ยูนาเอ่ยกับลูกชายท้ายประโยคหันไปเรียกหลานชายที่กำลังเล่นสนุกอยู่กับของเล่นในห้อง
“ คุณพ่อ “ เสียงเล็กเอ่ยออกมาเมื่อรู้จากคุณย่าคนที่อยู่ในสายคือพ่อหมีของตนเอง
“ ว่าไงครับ คุณพ่อคิดถึงมุนบินจังเลย “ ร่างสูงเอ่ยกับลูกชายใบหน้าหล่อยิ้มอย่างมีความสุข
“ หนูก็คิดถึง “
“ แล้วมุนบินทำอะไรอยู่ครับ “ ยิ่งได้ยินเสียงยิ่งคิดถึงอยากรีบทำงานแล้วรีบกลับไปฟัดพุงกลมๆของลูกชายให้หายหมั่นเขี้ยวจะแย่
“ หนูเล่นกับพี่หมี “ เจ้าหนูตอบน้ำเสียงร่าเริง
“ แล้วหนูดื้อกับคุณแม่กับคุณย่าหรือเปล่าครับ “
“ ม่ายดื้อ “
“ จริงหร๊อ “ ยุนโฮแกล้งทำเสียงสูงเพื่อบอกว่าเขาไม่เชื่อ
“ หนูม่ายดื้อจริงน๊า “ มุนบินส่งเสียงง๊องแง๊งกลับไปเมื่อคุณพ่อหมีเหมือนจะไม่เชื่อ มุนบินเป็นเด็กดีจริงๆนะ มุนบินก็แค่ทำห้องรับแขกรกแต่คุณย่าก็ไม่ว่าอะไรแสดงว่ามุนบินไม่ดื้อ
“ อ่า ไม่ดื้อก็ไม่ดื้อ ครับ แล้วนี่คุณแม่ไปไหนเหรอ “
มุนบินหันซ้ายหันขวาเมื่อไม่เจอคุณแม่คนสวยเจ้าหนูก็หันไปถามคุณย่า “ คุณย่า คุณแม่ปายไหน”
ยูนาหัวเราะน้อยๆที่เห็นหลานชายหันซ้ายทีขวาทีใบหน้าเล็กเริ่มเบะเตรียมจะเป่าปี่เพราะคุณแม่คนสวยไม่ได้อยู่ด้วย
“ คุณแม่เอาผ้าไปซักให้หนูอยู่ลูก มุนบินเล่นกับพี่หมีรอนะครับเดี๋ยวคุณแม่ก็มา “ ยูนาเอ่ยกับหลานชายน้ำเสียงอ่อนโยน
“ จริงนะ “
“ จริงสิครับ “
และดูเหมือนว่ามุนบินจะลืมไปแล้วว่ายังคุยกับพ่อหมีค้างอยู่ ยูนาจึงบอกหลานชายว่าคุณพ่อรอคำตอบจากมุนบินอยู่นะ
“ คุณพ่อ “ เสียงเล็กเรียกคนที่อยู่ปลายสายอีกครั้ง
“ ว่าไงครับลูก แล้วมุนบินรู้รึยังเอ่ยว่าว่าคุณแม่ไปไหน “
“ ซักผ้าให้หนู “ เด็กน้อยตอบตามที่คุณย่าบอก ยูนายิ้มกับความฉลาดของหลานชาย
“ แล้วทำไมหนูไม่ช่วยคุณแม่ล่ะลูก “ ยุนโฮแกล้งเอ่ยถามลูกชาย
“ คุณแม่ไม่ให้หนูปาย “ ตอนแรกมุนบินก็งอแงจะขอตามแม่จ๋าไปด้วยแต่ก็โดนห้ามเอาไว้ซะก่อนมุนบินเลยต้องมานั่งเล่นพี่หมีกับคุณย่าอยู่ที่นี่
“ งั้นหนูก็ต้องเป็นเด็กดีนะครับ คุณแม่จะได้ไม่เหนื่อย “
“ ฮับ “เจ้าหนูรับคำ
สองพ่อลูกคุยกัยอีกสามสี่ประโยคก็ต้องวางเพราะฮยอนบินบอกว่าได้เวลาประชุมแล้วร่างสูงเลยต้องจำใจวางสายจากลูกชาย แต่ก่อนวางเจ้าหนูก็ไม่ลืมย้ำคุณพ่อให้ซื้อขนมอร่อยๆกลับไปฝากด้วยลูกชายขอมาขนาดนี้มีเหรอที่ยุนโฮจะไม่ยอมตามใจ
ประตูห้องประชุมถูกเปิดออกพร้อมกับท่านประธานและรองประธานที่เดินเข้ามา ในห้องมีผู้บริหารคนอื่นๆมารออยู่ก่อนแล้ว ยุนโฮมองไปรอบๆห้องพร้อมกับส่งยิ้มทักทายแต่แล้วคิ้วหนาก็ต้องเลิกขึ้นเมื่อตาคมไปสะดุดเข้ากับคนสองคนที่นั่งอยู่ในห้องเช่นเดียวกันก่อนที่ปากหยักจะยกยิ้มขึ้นด้วยความดีใจ
“ ขอโทษที่ต้องให้รอ “ ฮยอนบินเอ่ยกับผู้ถือหุ้นรายอื่นเพราะวันนี้เขากับยุนโฮมาถึงเป็นสองคนสุดท้ายแต่ก็ไม่มีใครไม่พอใจอะไร ท่านประธานชองเรียกลูกชายที่ยืนนิ่งอยู่ให้เข้ามาใกล้ๆเพื่อที่จะได้แนะนำให้คนที่อยู่ในห้องประชุมรู้จัก
“ วันนี้ฉันมีคนสำคัญมาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี่คือชองยุนโฮ ลูกชายคนเดียวของฉัน “ สิ้นเสียงทรงอำนาจเสียงพบมือก็ดังขึ้นทั่วห้องประชุมร่างสูงโค้งให้เพื่อเป็นการขอบคุณ
“ เขาต้องเรียนรู้อะไรจากทุกคนอีกเยอะ ฉันฝากทุกคนช่วยให้คำแนะนำและตักเตือนเขาด้วยถ้าหากว่าเขาทำอะไรที่ไม่สมควร “ การพยักหน้าจากทุกคนคือคำตอบก่อนที่ฮยอนบินจะเอ่ยต่อ
“ นับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ยุนโฮจะเข้ามาดูแลทุกอย่างแทนฉัน “ คำพูดที่เรียกสายตาสงสัยจากทุกคนแต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม ถ้าอย่างนั้นข่าวลือที่บอกว่าท่านประธานจะวางมือจากบริษัทหลังจากที่ลูกชายคนเดียวกลับมาจากเรียนต่อก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ
ยุนโฮเองก็เช่นกัน ร่างสูงไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดาพูดแต่ถ้าจะให้เอ่ยถามตอนนี้ก็คงจะเสียมารยาทเพราะการประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วเลยทำได้แค่เพียงเก็บคำถามเอาไว้ในใจ
“ เรื่องที่ฉันจะแจ้งให้ทุกคนทราบก็มีเท่านี้ เริ่มประชุมได้ “ ฮยอนบินนั่งลงที่ตำแหน่งของตนพร้อมกับเปิดเอกสารการประชุมที่เลขาเตรียมเอาไว้ให้ยุนโฮเลยต้องเดินไปนั่งที่ของตนเองเช่นกัน
การประชุมดำเนินไปเรื่อยๆวันนี้เป็นการประชุมวางแผนการตลาดสำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีหัวหน้าแผนกต่างๆเตรียมโปรเจ็คมานำเสนอมากมาย แต่ดูเหมือนท่านรองประธานสุดหล่อจะไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานที่อยู่ด้านหน้าเลย ในสมองของยุนโฮมีแต่ภาพภรรยาคนสวยกับลูกชายสุดที่รักลอยเข้ามาจนกระทั่งประชุมเสร็จ
“ ยูชอนวันนี้ว่างไหม “ ฮยอนบินเอ่ยถามหลานชายหลังจากที่เดินออกมาจากห้องประชุม
“ ว่างครับ ทำไมเหรอฮะ “
“ แวะไปทานข้าวเย็นที่บ้านสิ จุนซูด้วยนะ “ ผู้ที่อายุมากที่สุดเอ่ยชวนก่อนจะหันไปยิ้มให้กับร่างบางที่เดินอยู่ข้างๆหลานชาย
“ ดีเหมือนกันฮะ ไม่ได้เจอยุนโฮตั้งนาน “
“ แล้วเย็นนี้เจอกัน“ ฮยอนบินบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานเมื่อได้รับคำตอบว่าตกลงปล่อยให้สามคนที่เหลือยืนคุยกันต่อ
“ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ “ ร่างสูงเอ่ยถามเพื่อนรักทันทีที่เหลือกันอยู่สามคน
“ กลับมาได้เดือนกว่าแล้ว แกล่ะจะมาก็ไม่บอกก่อนนะ “
“ มาถึงเมื่อวาน วันนี้ก็โดนลากมาทำงานเลย “ ยุนโฮเอ่ยกับเพื่อนรัก สีหน้าร่างสูงนั้นบอกว่าเซ็งสุดๆไปเลยจนยูชอนกับจุนซูต้องหลุดหัวเราะออกมา
“ แล้วแจจุงกับมุนบินล่ะ สองคนนั่นได้กลับมาด้วยเหลือเปล่า “ จุนซูถามถึงอีกสองคนที่เขาค่อนข้างที่จะสนิทด้วยเพราะได้เจอกันบ่อยๆ
“ อยู่บ้านน่ะ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว “ พ่อหมีที่ต้องห่างลูกห่างเมียมาทำงานทำหน้าละห้อยทั้งที่เพิ่งคุยกับพ่อลูกชายเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วนี่เอง
“ คิดถึงใคร ลูกหรือเมีย “ ยูชอนแหย่เพื่อนรักเล่น ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆติดลูกติดเมียยังไงก็ติดอย่างนั้น
“ ทั้งคู่นั่นแหละ “ คิดถึงทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละก็คนมันรักครอบครัวอ่ะห่างกันนิดเดียวก็คิดถึงแล้ว
“ แล้วลูกหมีของแกเป็นไงบ้าง คงจะโตขึ้นมากแล้วสินะ “ ยูชอนถามถึงหลานรักที่ไม่ได้เจอกันมานานพอสมควรแต่พอได้เจอทีไรก็หลงรักจนอยากจะพากลับบ้านด้วย แต่มันติดอยู่ที่ว่าพ่อหมีมันหวงลูกหมีมากนี่สิ
“ เดินได้แล้ว กำลังช่างพูดเลยล่ะ “ หน้าหล่อวาดยิ้มขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อพูดถึงลูกชายสุดที่รักที่ตอนนี้ช่างพูดช่างคุยเหลือเกิน
“ อ่า ฉันคิดถึงมุนบินจัง อยากจะเจอแล้วสิ “ จุนซูแทรกขึ้นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันเจ้าหนูยังพูดไม่ได้เลยอยากรู้จริงๆว่าพอพูดได้แล้วจะขี้อ้อนเหมือนแม่รึเปล่า
“ เดี๋ยวตอนเย็นก็ได้เจอแล้ว แจจุงคงจะดีใจที่ได้เจอพวกนาย “
“ โอเค งั้นเย็นนี้เจอกันนะ แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องกลับบริษัทแล้วล่ะ “
“ อืม แล้วเจอกัน “
ทั้งสามแยกจากกันที่หน้าลิฟท์ก่อนที่ยูชอนกับจุนซูจะเข้าไปในลิฟท์ส่วนยุนโฮก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของบิดา ยุนโฮกับยูชอนนั้นรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วเพราะบิดาของทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมาก่อน ทั้งคู่มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลาจนมาถึงตอนมหาวิทยาลัยยูชอนเลือกที่จะไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสส่วนยุนโฮนั่นเลือกอังกฤษแต่ว่าทั้งคู่ก็ไปมาหาสู่กันประจำเลยทำให้ต่างคนต่างรู้จักคนรักของกันและกันดังนั้นจึงไม่แปลกหากยูชอนจะรู้ว่ายุนโฮนั้นมีลูกแล้ว
“ พ่อฮะ ผมมีอะไรจะถามที่จริงผมสงสัยตั้งแต่อยู่ในห้องประชุมแล้ว “ ร่างสูงเอ่ยถามบิดาทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของท่านประธาน
“ เรื่องอะไร “ ฮยอนบินเอ่ยถามลูกชายหลังจากที่ละสายตาออกจากแฟ้มเอกสาร
“ ที่พ่อบอกว่าพ่อจะให้ผมเข้ามาดูแลทุกอย่างแทนพ่อ พ่อหมายความว่ายังไงฮะ “
“ ก็หมายความว่าฉันจะให้แกดูแลงานทุกอย่างแทนฉันไง “
“ แล้วพ่อล่ะฮะ “ ถ้าให้เขาเข้ามาดูแลทุกอย่างแทนแล้วบิดาเขาจะไปทำอะไรล่ะ ท่านเป็นถึงประธานบริษัทเลยนะ
“ ฉันก็อยู่บ้านเลี้ยงหลานน่ะสิ “ ประธานชองตอบด้วยท่าทางสบายๆแต่ลูกชายที่ได้ยินถึงกับตาโต อยู่บ้านเลี้ยงหลาน หลานที่ว่าก็ลูกเขาน่ะสิ ได้ไงอ่ะพ่อจะให้เขามาทำงานส่วนตัวเองก็อยู่กับมุนบินน่ะเหรอขี้โกงนี่นาเขาก็อยากจะอยู่กับลูกเหมือนกันนะ หรือว่าจะพามุนบินมาที่บริษัทด้วยดีไหม
“ มะ หมายความว่า พ่อจะวางมืองั้นเหรอ “
“ อืม ฉันมันก็อายุมากขึ้นทุกวันสู้ให้คนหนุ่มอย่างแกมาสานต่อจะไม่ดีกว่าเหรอ “ ฮยอนบินคิดว่ามันคงถงเวลาแล้วล่ะที่เขาต้องวางมือแล้วไปใช้ชีวิตปกติเหมือนกับคนมีอายุทั่วไปเพราะตอนนี้ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาก้กลับมาแล้ว
“ แต่ผมยังไม่พร้อม “ เสียงทุ้มแทรกขึ้น
“ ไม่มีใครพร้อมมาตั้งแต่เกิดหรอก ทุกคนต้องเริ่มจากการเรียนรู้ทั้งนั้นแหละ “ ฮยอนบินสอนลูกชาย เขาเองก็เคยผ่านจุดนี้มาเหมือนกันทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันล้วนแล้วแต่ต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้นแหละ
“ ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นซะหน่อย “ ร่างสูงพึมพำกับตัวเองมันเบาพอที่บิดาจะไม่ได้ยิน เขารู้ว่าทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้นแต่ที่เขาไม่พร้อมก็คือไม่พร้อมที่จะต้องห่างจากลูกหมี เพราะความทรงจำตอนเล็กของเขานั้นเขาเห็นบิดาทำงานทุกวันและกลับบ้านดึกทุกวันแถมตอนเช้ากว่าที่เขาจะตื่นบิดาก็ออกไปทำงานแล้ว เขาไม่อยากคิดเลยว่าหากเขาต้องเป็นแบบนั้นแล้วมุนบินกับแจจุงจะรู้สึกยังไง ตอนเด็กๆร่างสูงบอกได้เลยว่าน้อยใจผู้เป็นพ่อมากที่ไม่เคยมีเวลาให้เขาเหมือนกับพ่อของคนอื่นเลยเขาไม่อยากให้มุนบินต้องมีความรู้สึกเหมือนเขาในอดีตหรอกนะ
“ แกไม่มีอะไรสงสัยแล้วใช่ไหม “ เมื่อเห็นลูกชายเงียบฮยอนบินจึงถามขึ้น
“ ฮะ “
“ งั้นวันนี้ฉันอนุญาตให้กลับบ้านได้เพื่อไปเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้ “ ประธานชองเอ่ยเรียบๆ แต่คนที่ได้ยินแทบจะกระโดดก่อนบิดาถ้าไม่ติดว่ามีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ขวางอยู่
“ ผมกลับได้จริงเหรอ “ ถามเพื่อความแน่ใจ
“ อืม หรือว่าแกอยากอยู่ทำงานต่อ “
“ ไม่ฮะ ขอบคุณมากนะฮะงั้นผมกลับเลยนะ “ พูดจบก็เดินออกไปทันทีเพราะกลัวว่าบิดาจะเปลี่ยนใจ ประธานชองมองตามลูกชายแล้วก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ อะไรมันจะดีใจขนาดนั้นแค่ได้กลับบ้านเร็ว
____________________________________________________________________________________________________
อ่า หายไปนานเลยต้องขอโทษด้วยนะค่ะ
พอดีมีเรื่องยุ่งๆนิดหน่อย
ขอเวลาอีกวันสองวันแล้วหลังจากนั้นจะกลับมาอัพเหมือนเดิม
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามน๊า ^_^
ความคิดเห็น