คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter # 16
แต่ก่อนว่าชอบทำตัวติดกันแล้วนะแต่พอรู้ว่าเป็นพ่อลูกกันยิ่งทำตัวติดกันกว่าแต่ก่อนซะอีก แจจุงมองดูพ่อหมีกับลูกหมีที่นอนกอดกันกลมอยู่บนเตียงคนไข้ซึ่งตอนนี้ชางมินแทบจะปีนขึ้นไปนอนอยู่บนอกของยุนโฮอยู่แล้ว ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองการ์ตูนเรื่องโปรดที่อยู่ในโทรทัศน์ในขณะที่คนที่พ่อก็ขโมยหอมแก้มลูกชายไม่รู้จักเบื่อ
“ นี่ใจคอสองพ่อลูกจะนอนกอดกันอยู่แบบนี้ทั้งคืนเลยเหรอ ? ” ร่างบางถือจานแอ๊ปเปิ้ลที่ปลอกเสร็จแล้วมานั่งข้างเตียง เพราะพอหยุดร้องไห้ชางมินก็บอกให้ยุนโฮขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนที่สองพ่อลูกจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันตามความต้องการของเจ้าตัวเล็ก
อัปป้ากอดลูกหน่อย กอดให้แน่นๆเลยนะ
“ ก็ลูกอยากกอดอัปป้านี่นา ”
“ ใช่ๆ อัปป้าก็อยากกอดลูกเหมือนกัน..นี่ยังกอดกันไม่หายคิดถึงเลยเนอะ ” หันไปพยักเพยิดกับเจ้าตัวเล็กก่อนที่สองพ่อลูกจะเริ่มกอดกันอีกครั้งท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของชางมิน
“ อยากกอดแต่อัปป้าเหรอ..ลูกไม่อยากกอดออมม่าเหรอ ? ” แกล้งถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจหากแต่มือบางก็หยิบแอ๊ปเปิ้ลป้อนใส่ปากที่ลูกชายที่อ้าปากรออยู่
“ อยากสิ ” เคี้ยวตุ้ยๆบอกพร้อมกับรอยยิ้มเอาใจ “ ลูกอยากกอดทั้งอัปป้าแล้วก็ออมม่าเลย ”
“ ใช่ๆ กอดกันสามคนอบอุ่นที่สุด ” ยุนโฮเห็นด้วยกับลูกชายหากแต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ที่มุมปากหยัก “ อัปป้าก็อยากกอดลูกกับออมม่าเหมือนกัน ”
“ กอดกันเถอะออมม่า ”
ปากอิ่มระบายยิ้มขำให้กับลูกชายที่กางแขนออกรอให้เขาเข้าไปกอดดูท่าว่าวันนี้ชางมินจะอยากกอดมากจริงๆ แต่พอเหลือบไปมองพ่อหมีที่นอนยิ้มอยู่แจจุงก็ได้แต่ย่นจมูกใส่อย่างรู้ทัน และเพราะรู้ว่ายุนโฮคิดที่จะทำอะไรแจจุงจึงจริงปฏิเสธก่อน
“ แล้วลูกจะให้ออมม่ากอดยังไงล่ะครับ ”
“ ออมม่าขึ้นมากอดบนเตียงสิ...คืนนี้เรานอนกอดกันนะออมม่า ”
“ จะนอนกอดกันได้ยังไงครับเตียงเล็กนิดเดียวเอง ” แจจุงถามกลั้นขำ เตียงเล็กนิดเดียวขืนขึ้นไปนอนด้วยกันสามคนมีหวังเตียงได้หักกันพอดี ปากอิ่มเบะใส่คนตัวโตที่นอนยิ้มกอดลูกชายอยู่ “ แค่อัปป้านอนคนเดียวเตียงก็จะหักแล้ว ”
ยุนโฮหัวเราะเบาๆเมื่อรู้ตัวว่าโดนแจจุงแขวะว่าตัวโตแล้วยังไปแย่งที่นอนลูกอีกก็มันช่วยไม่ได้นี่นาพ่อลูกเขาอยากกอดกันแล้วตอนนี้เขาก็อยากกอดแม่ของลูกด้วย ตาคมก้มลงมองลูกชายก่อนจะส่งสัญญาณบอกว่าเดี๋ยวเรื่องนี้อัปป้าจัดการเอง
“ ทำไมจะไม่ได้...ก็ให้ลูกนอนแบบนี้ไง ” ลำแขนแข็งแรงตวัดร่างเล็กๆที่อยู่ในอ้อมกอดให้พลิกตัวขึ้นมานอนบนตัวของเขาก่อนจะหันไปยักคิ้วให้แจจุง “ ทีนี้ก็เหลือที่ว่างตั้งเยอะแจจุงขึ้นมานอนสิลูกอยาก
กอด ”
แจจุงเบะปากให้กับร่างสูงปากก็บอกว่าลูกอยากกอดแต่ทำไมคนเป็นพ่อถึงได้แสดงออกมากกว่าลูกล่ะ แจจุงมองดูชางมินที่ซบหน้าอยู่กับอกของยุนโฮดวงตาลูกกวางจ้องมองมาที่เขาตาแป๋ว อยากกอดก็อยากกอดอยู่หรอกนะลูกน่ะแต่เห็นพ่อลูกเขากอดกันแนบแน่นขนาดนั้นงั้นก็เชิญกอดกันต่อไปเถอะ
“ ไม่เอาอ่ะ...เดี๋ยวมีใครมาเห็นและอีกอย่างออมม่าขี้เกียจซื้อเตียงใหม่ให้โรงพยาบาลด้วย ”
“ งั้นก็ตามใจ ” ยุนโฮไหวไหล่เบาๆเมื่อได้ยินคำตอบจากแจจุง “ กันเรากอดกันสองคนก็ได้เนอะ ”
พูดจบก็พลิกตัวขึ้นทับร่างของลูกชายก่อนสองพ่อลูกจะเริ่มฟัดกันอีกรอบ เสียงหัวเราะชอบใจดังสลับกับเสียงประท้วงเมื่อแทบทุกส่วนของร่างกายถูกใบหน้าคมของผู้เป็นพ่อซุกไซร้ไปทั่ว
“ อัปป้า ฮ่า ฮ่า พอแล้ว ลูกจะดูการ์ตูน ฮ่า ฮ่า ”
“ บอกรักอัปป้าก่อนสิ ”
“ ลูกรักอัปป้า ฮ่า ฮ่า ”
“ รักมากมั๊ย ”
“ มาก ”
“ มากเท่าไหน ”
“ เท่าฟ้า ฮ่า ฮ่า ”
แจจุงมองดูภาพสองพ่อลูกเล่นกันก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเมื่อชางมินเริ่มดิ้นจากแรงจั๊กจี๊ ยุนโฮเองก็แกล้งลูกชายจนได้คำตอบที่ต้องการและแน่นอนว่าผู้ชายตัวโตอย่างยุนโฮเล่นกับเด็กที่แข็งแรงอย่างชางมินต่อให้เตียงแข็งแรงแค่ไหนก็ต้องมีโยกกันบ้างล่ะ นี่ถ้าเตียงหักขึ้นมาจริงๆยุนโฮต้องเป็นคนจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด แจจุงเลิกสนใจสองพ่อลูกที่อยู่บนเตียงก่อนจะเดินไปเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะ
“ พวกพี่เองเหรอ ” ส่งยิ้มทักทายเมื่อเปิดประตูออกไปแล้วเห็นจุนซู ยูชอน ร่วมทั้งลูกพี่ลูกน้องอย่างฮีชอลและฮันเกิงพี่เขยของตัวเอง
“ ชางมินเป็นยังไงบ้าง? ” ฮีชอลถามถึงหลานชายด้วยความเป็นห่วง ขาเรียวเดินเข้ามาในห้องพักก่อนจะต้องชะงักเพื่อได้ยินเสียงหัวเราะของชางมินและที่สร้างความแปลกใจให้ผู้มาไม่ก็คงจะหนีไม่พ้นร่างสูงที่กำลังเล่นอยู่กับชางมินบนเตียงดวงตากลมโตตวัดกลับไปมองน้องชายทันที “ นี่มันอะไรกันแจจุง ? ”
เสียงหวานที่เอ่ยถามออกมาห้วนๆเรียกให้สองคนที่อยู่บนเตียงต้องหยุดเล่นกันก่อนจะหันไปมองตามเสียง ชางมินฉีกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อนรักที่ถูกลุงฮันเกิงอุ้มอยู่ เจ้าตัวเล็กอาศัยจังหวะที่พ่อหมีเผลอพลิกตัวกลับมานอนทับก่อนจะกวักมือเรียกเพื่อนซี๊ให้มาเล่นด้วยกัน
“ คิบอมชางมินมีอัปป้าแล้วนะ...อัปป้าของชางมินหล่อมากด้วย ” ชางมินอวดอัปป้าของตัวเองด้วยท่าทางภูมิใจสุดๆ ยุนโฮค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงตัวเตียงก่อนจะหอมแก้มนิ่มเป็นรางวัลที่ชางมินพูดได้ถูกใจสุดๆ “ นี่ไงอัปป้าของชางมิน ”
อาการขี้เห่อของลูกชายร่างรอยยิ้มขันให้กับผู้เป็นพ่อแม่แต่ดูเหมือนว่าคนรอบตัวจะไม่เขาด้วย ฮีชอลมองยุนโฮกับแจจุงสลับกันไปมาก่อนจะเอ่ยถามเสียงเข้ม
“ อัปป้างั้นเหรอ ? นี่ชางมินรู้แล้วงั้นเหรอ ? ”
“ ฮะ..ชางมินรู้แล้ว ” บอกเสียงเจื่อนๆเพราะแจจุงรู้ดีว่าคนในครอบครัวไม่พอใจกับการกระทำของยุนโฮมากแค่ไหน ตลอดสี่ปีที่ผ่านมายิ่งเขาเป็นทุกข์มากแค่ไหนความไม่พอใจที่คนรอบตัวมีให้กับยุนโฮก็มากขึ้นเท่านั้น
“ นายบอกชางมินทำไม...เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะบอกชางมินว่าพ่อของเขาตายไปแล้ว ” ฮีชอลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ดวงตากลมโตดุจนางพญากันไปมองจุนซูอย่างคาดโทษที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับตัวเอง
“ ผมสงสารลูก...ชางมินอยากมีพ่อมากเลยนะ ”
“ ถ้ามีพ่อไร้ความรับผิดชอบแบบนี้อย่ามีเลยดีกว่า ” บอกด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์พร้อมกับตวัดสายตามองไปยังยุนโฮที่ตอนนี้ลงมาจากเตียงคนไข้แล้ว
“ พี่... ”
“ ผมขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมาแต่ตอนนี้ผมพร้อมที่จะกลับมารับผิดชอบลูกกับเมียผมแล้วครับ ” ยังไม่ทันที่แจจุงจะได้พูดอะไรยุนโฮก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน ร่างสูงไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวกับสายตาเกลียดชังของฮีชอลเลยแม้แต่นิดตรงกันข้ามยุนโฮกลับจ้องตากลับ
“ พูดง่ายจังนะ ” ปากอิ่มแค่นยิ้มสมเพช “ คิดว่ากลับมารับผิดชอบตอนนี้มันไม่สายเกินไปหน่อยเหรอ...นายคิดว่าความรับผิดชอบในวันนี้มันจะชดเชยในสิ่งที่นายทำกับน้องกับหลานฉันได้งั้นเหรอชอง ยุนโฮ !! ” ท้ายประโยคเผลอตะคอกออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
เสียงตะคอกของฮีชอลสร้างความตกใจให้กับเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังเล่นอยู่บนเตียง คิบอมถึงกับสะดุ้งก่อนจะหันไปมองหน้าแม่ของตัวเองไม่ต่างอะไรกับชางมินที่ผวาเข้าหาผู้เป็นพ่อทันทีที่เห็นว่าลุงฮีชอลกำลังทำหน้าดุใส่อัปป้าของตัวเอง
“ ลุงฮีชอลห้ามดุอัปป้าชางมินนะ !”
“ ลุงฮีชอลไม่ได้ดุอัปป้าหรอกลูก...ลุงฮีชอลแค่พูดเสียงดัง ” ยุนโฮรีบเดินกลับไปที่เตียงเพื่ออุ้มเจ้าตัวเล็กที่กางแขนเรียก แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะไม่เชื่อในสิ่งที่ยุนโฮพูดเพราะแขนป้อมๆกอดคอพ่อของตัวเองแน่นพร้อมกับส่งเสียงขู่เพื่อปกป้องตัวเอง
“ พี่ฮีชอลใจเย็นๆลูกกับหลานตกใจหมดแล้ว ” จุนซูเดินมาเข้ามาสะกิดเตือนเบาๆเพราะรู้ดีว่าพี่ชายคนนี้อารมณ์ร้อนมากแค่ไหน
“ ฉันไม่ใช่พวกนายนี่ที่จะได้ให้อภัยง่ายๆ ” ฮีชอลลดเสียงให้เบาลงแต่ก็ยังคงมีอารมณ์อยู่ “ นาย
กลับเข้ามาในชีวิตน้องชายฉันอีกทำไม ? ”
“ ผมกลับมาหาครอบครัวของผมครับ ” บอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ มือหนาลูบแผ่นเล็กเบาๆเพื่อบอกลูกชายว่าไม่มีอะไร
“ ครอบครัวงั้นเหรอ หึ ” ฮีชอลแสยะยิ้มให้กับคำพูดของยุนโฮ “ นายไม่มีสิทธิ์ใช้คำนี้ตั้งแต่วันที่นายตัดสินใจทิ้งแจจุงกับลูกไปตั้งแต่เมื่อ 4 ก่อนแล้ว ”
“ พูดแบบนี้มันไม่แรงไปหน่อยเหรอฮีชอล ” ฮันเกิงรีบปรามภรรยา และที่ต้องรีบปรามเพราะเขารู้ดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนปากร้ายยิ่งถ้าอารมณ์ไม่ดีแบบนี้ด้วยแล้วฮันเกิงกลัวว่าคำพูดของภรรยาคนสวยจะไปทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นไม่ใช่เฉพาะยุนโฮคนเดียว
“ ถ้าเทียบกับสิ่งที่มันทำคำพูดแค่นี้ไม่แรงเลยสักนิด ” ร่างบางคลี่ยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะบอกแกมสั่ง “ กลับไปตามหาอนาคตของนายต่อเถอะ...แจจุงกับชางมินพวกฉันดูแลได้และก็คิดว่าดูแลได้ดีกว่านายด้วยซ้ำ ”
ยุนโฮหันไปมองแจจุงที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลเขารู้ว่าแจจุงกำลังกลัวว่าเขาจะกลัวฮีชอลจนถอดใจกลับไป ปากหยักยกยิ้มอบอุ่นเพื่อให้ร่างบางสบายใจว่ายังไงเขาก็จะไม่มีวันทิ้งแจจุงกับลูกอีกเป็นอันขาด ดวงตาเรียวเล็กที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นหันไปสบตากับพี่ชายของภรรยา
“ ขอบคุณนะครับที่บอกให้ผมกลับไปตามหาอนาคตมันเป็นคำแนะนำที่ดีมากและผมก็จะทำตามที่คุณแนะนำ ” สิ้นเสียงของยุนโฮแจจุงก็เม้มปากแน่นความรู้สึกผิดหวังกำลังพุ่งเข้าเล่นงานอีกครั้งเป็นอีกครั้งสินะที่ยุนโฮเลือกอนาคตแทนที่จะเลือกเขากับลูก
“ งั้นก็ไปซะสิ...ไปเดี๋ยวนี้เลย ” ฮีชอลบอกพร้อมกับยิ้มเยาะเขาคิดเอาไว้แล้วไม่มีผิดว่าผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบยุนโฮเคยเห็นแก่ตัวยังไงก็เห็นแก่ตัวอยู่อย่างนั้น
แจจุงก้มตาลงต่ำเพื่อซ่อนความเสียใจและเจ็บปวดเอาไว้เขาไม่น่าใจอ่อนให้โอกาสยุนโฮเลยจริงๆ แต่ก่อนที่น้ำตาหยดแรกจะได้หยดลงสู่พื้นแจจุงก็รู้สึกได้ว่ามีมือใครบางคนกำลังกุมมือของเขาอยู่ และพอเงยหน้าขึ้นดูก็พบว่ายุนโฮกำลังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ มือหนาบีบเบาๆเพื่อบอกให้ร่างบางมั่นใจก่อนจะหันไปพูดกับฮีชอลต่อ
“ แต่ผมคงจะไปไหนไม่ได้เพราะอนาคตของผมอยู่ที่นี่ ” บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะหันมาสบตากับดวงตาคู่สวยที่จ้องมองมา “ แจจุงกับลูกคืออนาคตของยุนนะ ”
“ ยุนโฮ... ” เรียกชื่ออีกคนทั้งน้ำตา
“ ถ้าไม่มีแจจุงกับลูกอนาคตของยุนก็ไม่มีความหมาย ” เพราะตั้งใจเอาไว้แล้วว่านับตั้งแต่วันที่กลับมาเขาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อคนสำคัญทั้งสองคน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากไม่มีแจจุงกับลูกชีวิตที่เหลืออยู่นับจากนี้ก็ไม่มีความหมาย
“ ขอบคุณนะยุนโฮ ” เอ่ยขอบคุณทั้งน้ำตาก่อนที่ร่างบางจะถูกรั้งเข้าไปกอด แจจุงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อมือป้อมของลูกชายยื่นมาเช็ดน้ำตาออกให้
“ ออมม่าร้องไห้ทำไม..ไม่ร้องนะเดี๋ยวไม่สวย ”
“ ออมม่าดีใจก็เลยร้องไห้ครับ ” บอกลูกชายกลั้วรอยยิ้มก่อนจะจับมือป้อมที่กำลังเช็ดน้ำตาขึ้นมากดจูบเบาๆอย่างสุดรัก
“ ออมม่าดีใจเหมือนลูกน่ะเหรอ? ”
“ ใช่แล้วครับ...ออมม่าขี้แยเหมือนลูกเลย ” ยุนโฮตอบลูกชายแต่ก็ยังไม่ลืมแซวร่างบางที่ร้องไห้เหมือนชางมินตอนเย็นไม่มีผิด
“ แล้วอัปป้าไม่ร้องเหรอ ? ”
“ ไม่ร้องครับอัปป้าเป็นผู้ชาย...ผู้ชายต้องเข้มแข็งไม่ร้องไห้ง่ายๆหรอก ”
“ งั้นต่อไปลูกจะไม่ร้องไห้เพราะลูกเป็นผู้ชายลูกจะเข้มแข็ง ”
“ เป็นลูกผู้ชายนอกจากเข้มแข็งแล้วก็ต้องปกป้องออมม่าได้ด้วยลูกทำได้ไหมครับ ”
“ ทำได้ครับ ”
ฮีชอลยืนนิ่งมองดูครอบครัวสุขสันต์ที่ดูเหมือนว่าจะสร้างโลกส่วนตัวของครอบครัวขึ้นมาซะแล้ว ใจหนึ่งเขาก็ดีใจที่เห็นแจจุงกลับมายิ้มได้อีกครั้งยิ้มที่มาจากใจไม่ใช่ยิ้มเพียงแค่ปาก แต่ใจหนึ่งก็อดที่จะหมั่นไส้เจ้าของเขยตัวดีไม่ได้ร่างบางอดที่จะก่นด่าแจจุงไม่ได้ที่ยอมให้อภัยยุนโฮง่ายๆแบบนี้
“ เพราะพวกเรารู้ว่าครอบครัวที่สมบูรณ์คือสิ่งที่ชางมินต้องการมากที่สุดพวกเราถึงยอมให้โอกาสพี่ยุนโฮอีกครั้ง และวันนี้ผมก็ได้รู้ว่าผมคิดไม่ผิดจริงๆ ” จุนซูเดินมายืนอยู่ข้างๆฮีชอล ดวงตาคู่สวยทอดมองครอบครัวของพี่ชายด้วยรอยยิ้ม
“ ให้โอกาสง่ายๆแบบนี้พวกนายไม่คิดว่าหมอนั่นจะได้ใจเหรอ ? ”
“ มันก็ไม่ถึงกับง่ายนะเพราะพี่ยุนโฮต้องใช้ความพยายามนานเหมือนกันกว่าพี่แจจุงจะคุยด้วย...โชคดีหน่อยที่พี่ยุนโฮเอาชนะใจชางมินได้ ”
ฮีชอลปรายตามองน้องชายอีกคน “ ดูเหมือนนายอยากให้แจจุงคืนนี้กับยุนโฮจังนะ ”
“ ผมแค่อยากเห็นพี่แจจุงกับชางมินมีความสุขดูก็รู้ว่าพี่แจจุงยังรักพี่ยุนโฮอยู่ ” จุนซูบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันมาเลิกคิ้วถาม “ หรือว่าพี่ฮีชอลไม่อยากเห็นพี่แจจุงมีความสุข ”
“ อยากสิ...แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นแจจุงต้องเจ็บปวดเหมือนครั้งที่แล้ว ” ทุกอย่างที่ทำไปก็เพราะเป็นห่วงกลัวว่าทุกอย่างมันจะซ้ำรอยเดิม ปากบางเบะออกด้วยความหมั่นไส้เมื่อหันไปเห็นยุนโฮกำลังหอมแก้มชางมิน “ อีกอย่างฉันหมั่นไส้ไอ้หน้าหมีนั่นด้วยกลับมาแค่แป๊บเดียวแต่มากลับทำให้ชางมินติดได้ขนาดนี้แบบนี้ต้องแกล้งให้เข็ด ”
“ พี่คิดจะทำอะไรอ่ะ ? ” จุนซูหรี่ตาถามด้วยความไม่ไว้ใจ หน้าตาแบบนี้พี่ฮีชอลคงกำลังหาเรื่องที่จะแกล้งพี่ยุนโฮอยู่แน่ๆและสงสัยว่างานนี้พี่ยุนโฮคงจะโดนหนักแน่ๆ
“ ตอนนี้ยังคิดไม่ออก...แต่ก่อนอื่นฉันต้องหาตัวช่วยก่อน ” ไหวไหล่บอกก่อนจะเบะปากใส่ยุนโฮที่มองมาทางนี้พอดี “ เดี๋ยวฉันไปโทรศัพท์แป๊บนึงนะ ”
พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องปล่อยให้จุนซู ยูชอน ฮันเกิงหันมามองหน้ากัน สายตาทั้งสามคู่มองไปที่ยุนโฮด้วยความเป็นห่วง ลำพังแค่คิม ฮีชอลคนเดียวก็รับมืออยากแล้วนี่ถึงกลับหาตัวช่วยมาช่วยด้วยรับรองได้เลยว่ายุนโฮเจอศึกหนักแน่ๆ
พวกเราก็ได้แต่หวังว่านายจะผ่านมันไปได้นะยุนโฮ
Note :: โถๆๆ พี่ยุนผู้หน้าสงสารผ่านด่านเมียมาได้แล้วแต่ก็ต้องมาเจอด่านพี่เมียอีก เอาใจช่วยให้ผ่านมันไปให้ได้
นะคะ 55555 + ใครจะเอาใจช่วยใครจะสมน้ำหน้าพี่ยุนเชิญตามสบายเลยจ้า แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ
ความคิดเห็น