ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Fiance ~ YunJae&TVXQ mpreg

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter # 16

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 56






     

                แต่ก่อนว่าชอบทำตัวติดกันแล้วนะแต่พอรู้ว่าเป็นพ่อลูกกันยิ่งทำตัวติดกันกว่าแต่ก่อนซะอีก  แจจุงมองดูพ่อหมีกับลูกหมีที่นอนกอดกันกลมอยู่บนเตียงคนไข้ซึ่งตอนนี้ชางมินแทบจะปีนขึ้นไปนอนอยู่บนอกของยุนโฮอยู่แล้ว  ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองการ์ตูนเรื่องโปรดที่อยู่ในโทรทัศน์ในขณะที่คนที่พ่อก็ขโมยหอมแก้มลูกชายไม่รู้จักเบื่อ



                “ นี่ใจคอสองพ่อลูกจะนอนกอดกันอยู่แบบนี้ทั้งคืนเลยเหรอ ? ” ร่างบางถือจานแอ๊ปเปิ้ลที่ปลอกเสร็จแล้วมานั่งข้างเตียง  เพราะพอหยุดร้องไห้ชางมินก็บอกให้ยุนโฮขึ้นไปนั่งบนเตียงก่อนที่สองพ่อลูกจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันตามความต้องการของเจ้าตัวเล็ก



     

                อัปป้ากอดลูกหน่อย  กอดให้แน่นๆเลยนะ



     

                “ ก็ลูกอยากกอดอัปป้านี่นา ”



                “ ใช่ๆ อัปป้าก็อยากกอดลูกเหมือนกัน..นี่ยังกอดกันไม่หายคิดถึงเลยเนอะ ” หันไปพยักเพยิดกับเจ้าตัวเล็กก่อนที่สองพ่อลูกจะเริ่มกอดกันอีกครั้งท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของชางมิน



                “ อยากกอดแต่อัปป้าเหรอ..ลูกไม่อยากกอดออมม่าเหรอ ? ” แกล้งถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจหากแต่มือบางก็หยิบแอ๊ปเปิ้ลป้อนใส่ปากที่ลูกชายที่อ้าปากรออยู่


                “ อยากสิ ” เคี้ยวตุ้ยๆบอกพร้อมกับรอยยิ้มเอาใจ  “ ลูกอยากกอดทั้งอัปป้าแล้วก็ออมม่าเลย ”



                “ ใช่ๆ กอดกันสามคนอบอุ่นที่สุด ” ยุนโฮเห็นด้วยกับลูกชายหากแต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ที่มุมปากหยัก “ อัปป้าก็อยากกอดลูกกับออมม่าเหมือนกัน ”


                “ กอดกันเถอะออมม่า ”



                ปากอิ่มระบายยิ้มขำให้กับลูกชายที่กางแขนออกรอให้เขาเข้าไปกอดดูท่าว่าวันนี้ชางมินจะอยากกอดมากจริงๆ  แต่พอเหลือบไปมองพ่อหมีที่นอนยิ้มอยู่แจจุงก็ได้แต่ย่นจมูกใส่อย่างรู้ทัน  และเพราะรู้ว่ายุนโฮคิดที่จะทำอะไรแจจุงจึงจริงปฏิเสธก่อน


                “  แล้วลูกจะให้ออมม่ากอดยังไงล่ะครับ ”



                “ ออมม่าขึ้นมากอดบนเตียงสิ...คืนนี้เรานอนกอดกันนะออมม่า ”



                “ จะนอนกอดกันได้ยังไงครับเตียงเล็กนิดเดียวเอง ” แจจุงถามกลั้นขำ  เตียงเล็กนิดเดียวขืนขึ้นไปนอนด้วยกันสามคนมีหวังเตียงได้หักกันพอดี  ปากอิ่มเบะใส่คนตัวโตที่นอนยิ้มกอดลูกชายอยู่  “ แค่อัปป้านอนคนเดียวเตียงก็จะหักแล้ว ”



                ยุนโฮหัวเราะเบาๆเมื่อรู้ตัวว่าโดนแจจุงแขวะว่าตัวโตแล้วยังไปแย่งที่นอนลูกอีกก็มันช่วยไม่ได้นี่นาพ่อลูกเขาอยากกอดกันแล้วตอนนี้เขาก็อยากกอดแม่ของลูกด้วย  ตาคมก้มลงมองลูกชายก่อนจะส่งสัญญาณบอกว่าเดี๋ยวเรื่องนี้อัปป้าจัดการเอง



                “ ทำไมจะไม่ได้...ก็ให้ลูกนอนแบบนี้ไง  ” ลำแขนแข็งแรงตวัดร่างเล็กๆที่อยู่ในอ้อมกอดให้พลิกตัวขึ้นมานอนบนตัวของเขาก่อนจะหันไปยักคิ้วให้แจจุง  “ ทีนี้ก็เหลือที่ว่างตั้งเยอะแจจุงขึ้นมานอนสิลูกอยาก
    กอด ”




                แจจุงเบะปากให้กับร่างสูงปากก็บอกว่าลูกอยากกอดแต่ทำไมคนเป็นพ่อถึงได้แสดงออกมากกว่าลูกล่ะ  แจจุงมองดูชางมินที่ซบหน้าอยู่กับอกของยุนโฮดวงตาลูกกวางจ้องมองมาที่เขาตาแป๋ว  อยากกอดก็อยากกอดอยู่หรอกนะลูกน่ะแต่เห็นพ่อลูกเขากอดกันแนบแน่นขนาดนั้นงั้นก็เชิญกอดกันต่อไปเถอะ



                “ ไม่เอาอ่ะ...เดี๋ยวมีใครมาเห็นและอีกอย่างออมม่าขี้เกียจซื้อเตียงใหม่ให้โรงพยาบาลด้วย ”




                “ งั้นก็ตามใจ ” ยุนโฮไหวไหล่เบาๆเมื่อได้ยินคำตอบจากแจจุง  “ กันเรากอดกันสองคนก็ได้เนอะ ”


                พูดจบก็พลิกตัวขึ้นทับร่างของลูกชายก่อนสองพ่อลูกจะเริ่มฟัดกันอีกรอบ  เสียงหัวเราะชอบใจดังสลับกับเสียงประท้วงเมื่อแทบทุกส่วนของร่างกายถูกใบหน้าคมของผู้เป็นพ่อซุกไซร้ไปทั่ว 



                “ อัปป้า ฮ่า ฮ่า พอแล้ว ลูกจะดูการ์ตูน ฮ่า ฮ่า ”


                “ บอกรักอัปป้าก่อนสิ ”


                “ ลูกรักอัปป้า ฮ่า ฮ่า ”


                “ รักมากมั๊ย ”



                “ มาก ”



                “ มากเท่าไหน ”



                “ เท่าฟ้า ฮ่า ฮ่า ”



                แจจุงมองดูภาพสองพ่อลูกเล่นกันก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเมื่อชางมินเริ่มดิ้นจากแรงจั๊กจี๊  ยุนโฮเองก็แกล้งลูกชายจนได้คำตอบที่ต้องการและแน่นอนว่าผู้ชายตัวโตอย่างยุนโฮเล่นกับเด็กที่แข็งแรงอย่างชางมินต่อให้เตียงแข็งแรงแค่ไหนก็ต้องมีโยกกันบ้างล่ะ  นี่ถ้าเตียงหักขึ้นมาจริงๆยุนโฮต้องเป็นคนจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด  แจจุงเลิกสนใจสองพ่อลูกที่อยู่บนเตียงก่อนจะเดินไปเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะ



                “ พวกพี่เองเหรอ ” ส่งยิ้มทักทายเมื่อเปิดประตูออกไปแล้วเห็นจุนซู  ยูชอน ร่วมทั้งลูกพี่ลูกน้องอย่างฮีชอลและฮันเกิงพี่เขยของตัวเอง




                “ ชางมินเป็นยังไงบ้าง? ” ฮีชอลถามถึงหลานชายด้วยความเป็นห่วง  ขาเรียวเดินเข้ามาในห้องพักก่อนจะต้องชะงักเพื่อได้ยินเสียงหัวเราะของชางมินและที่สร้างความแปลกใจให้ผู้มาไม่ก็คงจะหนีไม่พ้นร่างสูงที่กำลังเล่นอยู่กับชางมินบนเตียงดวงตากลมโตตวัดกลับไปมองน้องชายทันที “ นี่มันอะไรกันแจจุง ? ”



                เสียงหวานที่เอ่ยถามออกมาห้วนๆเรียกให้สองคนที่อยู่บนเตียงต้องหยุดเล่นกันก่อนจะหันไปมองตามเสียง  ชางมินฉีกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อนรักที่ถูกลุงฮันเกิงอุ้มอยู่  เจ้าตัวเล็กอาศัยจังหวะที่พ่อหมีเผลอพลิกตัวกลับมานอนทับก่อนจะกวักมือเรียกเพื่อนซี๊ให้มาเล่นด้วยกัน



                “ คิบอมชางมินมีอัปป้าแล้วนะ...อัปป้าของชางมินหล่อมากด้วย ” ชางมินอวดอัปป้าของตัวเองด้วยท่าทางภูมิใจสุดๆ ยุนโฮค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงตัวเตียงก่อนจะหอมแก้มนิ่มเป็นรางวัลที่ชางมินพูดได้ถูกใจสุดๆ “ นี่ไงอัปป้าของชางมิน ”


                อาการขี้เห่อของลูกชายร่างรอยยิ้มขันให้กับผู้เป็นพ่อแม่แต่ดูเหมือนว่าคนรอบตัวจะไม่เขาด้วย  ฮีชอลมองยุนโฮกับแจจุงสลับกันไปมาก่อนจะเอ่ยถามเสียงเข้ม



                “ อัปป้างั้นเหรอ ? นี่ชางมินรู้แล้วงั้นเหรอ ? ”



                “ ฮะ..ชางมินรู้แล้ว ” บอกเสียงเจื่อนๆเพราะแจจุงรู้ดีว่าคนในครอบครัวไม่พอใจกับการกระทำของยุนโฮมากแค่ไหน  ตลอดสี่ปีที่ผ่านมายิ่งเขาเป็นทุกข์มากแค่ไหนความไม่พอใจที่คนรอบตัวมีให้กับยุนโฮก็มากขึ้นเท่านั้น




                “ นายบอกชางมินทำไม...เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะบอกชางมินว่าพ่อของเขาตายไปแล้ว ”  ฮีชอลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ  ดวงตากลมโตดุจนางพญากันไปมองจุนซูอย่างคาดโทษที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับตัวเอง



                “ ผมสงสารลูก...ชางมินอยากมีพ่อมากเลยนะ ”



                “ ถ้ามีพ่อไร้ความรับผิดชอบแบบนี้อย่ามีเลยดีกว่า ” บอกด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์พร้อมกับตวัดสายตามองไปยังยุนโฮที่ตอนนี้ลงมาจากเตียงคนไข้แล้ว



                “ พี่... ”



                “ ผมขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมาแต่ตอนนี้ผมพร้อมที่จะกลับมารับผิดชอบลูกกับเมียผมแล้วครับ ” ยังไม่ทันที่แจจุงจะได้พูดอะไรยุนโฮก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน  ร่างสูงไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวกับสายตาเกลียดชังของฮีชอลเลยแม้แต่นิดตรงกันข้ามยุนโฮกลับจ้องตากลับ



                “ พูดง่ายจังนะ ” ปากอิ่มแค่นยิ้มสมเพช “ คิดว่ากลับมารับผิดชอบตอนนี้มันไม่สายเกินไปหน่อยเหรอ...นายคิดว่าความรับผิดชอบในวันนี้มันจะชดเชยในสิ่งที่นายทำกับน้องกับหลานฉันได้งั้นเหรอชอง ยุนโฮ !! ” ท้ายประโยคเผลอตะคอกออกมาด้วยความไม่เข้าใจ



                เสียงตะคอกของฮีชอลสร้างความตกใจให้กับเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังเล่นอยู่บนเตียง  คิบอมถึงกับสะดุ้งก่อนจะหันไปมองหน้าแม่ของตัวเองไม่ต่างอะไรกับชางมินที่ผวาเข้าหาผู้เป็นพ่อทันทีที่เห็นว่าลุงฮีชอลกำลังทำหน้าดุใส่อัปป้าของตัวเอง



                “ ลุงฮีชอลห้ามดุอัปป้าชางมินนะ !


                “ ลุงฮีชอลไม่ได้ดุอัปป้าหรอกลูก...ลุงฮีชอลแค่พูดเสียงดัง ” ยุนโฮรีบเดินกลับไปที่เตียงเพื่ออุ้มเจ้าตัวเล็กที่กางแขนเรียก  แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะไม่เชื่อในสิ่งที่ยุนโฮพูดเพราะแขนป้อมๆกอดคอพ่อของตัวเองแน่นพร้อมกับส่งเสียงขู่เพื่อปกป้องตัวเอง



                “ พี่ฮีชอลใจเย็นๆลูกกับหลานตกใจหมดแล้ว ”  จุนซูเดินมาเข้ามาสะกิดเตือนเบาๆเพราะรู้ดีว่าพี่ชายคนนี้อารมณ์ร้อนมากแค่ไหน



                “ ฉันไม่ใช่พวกนายนี่ที่จะได้ให้อภัยง่ายๆ ” ฮีชอลลดเสียงให้เบาลงแต่ก็ยังคงมีอารมณ์อยู่  “ นาย
    กลับเข้ามาในชีวิตน้องชายฉันอีกทำไม ? ”




                “ ผมกลับมาหาครอบครัวของผมครับ ” บอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ  มือหนาลูบแผ่นเล็กเบาๆเพื่อบอกลูกชายว่าไม่มีอะไร



                “ ครอบครัวงั้นเหรอ หึ ”  ฮีชอลแสยะยิ้มให้กับคำพูดของยุนโฮ “ นายไม่มีสิทธิ์ใช้คำนี้ตั้งแต่วันที่นายตัดสินใจทิ้งแจจุงกับลูกไปตั้งแต่เมื่อ 4 ก่อนแล้ว ”



                “ พูดแบบนี้มันไม่แรงไปหน่อยเหรอฮีชอล ” ฮันเกิงรีบปรามภรรยา  และที่ต้องรีบปรามเพราะเขารู้ดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนปากร้ายยิ่งถ้าอารมณ์ไม่ดีแบบนี้ด้วยแล้วฮันเกิงกลัวว่าคำพูดของภรรยาคนสวยจะไปทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นไม่ใช่เฉพาะยุนโฮคนเดียว



                “ ถ้าเทียบกับสิ่งที่มันทำคำพูดแค่นี้ไม่แรงเลยสักนิด ” ร่างบางคลี่ยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะบอกแกมสั่ง “ กลับไปตามหาอนาคตของนายต่อเถอะ...แจจุงกับชางมินพวกฉันดูแลได้และก็คิดว่าดูแลได้ดีกว่านายด้วยซ้ำ ”



                ยุนโฮหันไปมองแจจุงที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลเขารู้ว่าแจจุงกำลังกลัวว่าเขาจะกลัวฮีชอลจนถอดใจกลับไป  ปากหยักยกยิ้มอบอุ่นเพื่อให้ร่างบางสบายใจว่ายังไงเขาก็จะไม่มีวันทิ้งแจจุงกับลูกอีกเป็นอันขาด  ดวงตาเรียวเล็กที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นหันไปสบตากับพี่ชายของภรรยา




                “ ขอบคุณนะครับที่บอกให้ผมกลับไปตามหาอนาคตมันเป็นคำแนะนำที่ดีมากและผมก็จะทำตามที่คุณแนะนำ ” สิ้นเสียงของยุนโฮแจจุงก็เม้มปากแน่นความรู้สึกผิดหวังกำลังพุ่งเข้าเล่นงานอีกครั้งเป็นอีกครั้งสินะที่ยุนโฮเลือกอนาคตแทนที่จะเลือกเขากับลูก



                “ งั้นก็ไปซะสิ...ไปเดี๋ยวนี้เลย ” ฮีชอลบอกพร้อมกับยิ้มเยาะเขาคิดเอาไว้แล้วไม่มีผิดว่าผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบยุนโฮเคยเห็นแก่ตัวยังไงก็เห็นแก่ตัวอยู่อย่างนั้น



                แจจุงก้มตาลงต่ำเพื่อซ่อนความเสียใจและเจ็บปวดเอาไว้เขาไม่น่าใจอ่อนให้โอกาสยุนโฮเลยจริงๆ แต่ก่อนที่น้ำตาหยดแรกจะได้หยดลงสู่พื้นแจจุงก็รู้สึกได้ว่ามีมือใครบางคนกำลังกุมมือของเขาอยู่  และพอเงยหน้าขึ้นดูก็พบว่ายุนโฮกำลังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้  มือหนาบีบเบาๆเพื่อบอกให้ร่างบางมั่นใจก่อนจะหันไปพูดกับฮีชอลต่อ



                “ แต่ผมคงจะไปไหนไม่ได้เพราะอนาคตของผมอยู่ที่นี่ ” บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะหันมาสบตากับดวงตาคู่สวยที่จ้องมองมา  “ แจจุงกับลูกคืออนาคตของยุนนะ ”



                “ ยุนโฮ... ” เรียกชื่ออีกคนทั้งน้ำตา




                “ ถ้าไม่มีแจจุงกับลูกอนาคตของยุนก็ไม่มีความหมาย ” เพราะตั้งใจเอาไว้แล้วว่านับตั้งแต่วันที่กลับมาเขาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อคนสำคัญทั้งสองคน  ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากไม่มีแจจุงกับลูกชีวิตที่เหลืออยู่นับจากนี้ก็ไม่มีความหมาย



                “ ขอบคุณนะยุนโฮ ” เอ่ยขอบคุณทั้งน้ำตาก่อนที่ร่างบางจะถูกรั้งเข้าไปกอด  แจจุงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อมือป้อมของลูกชายยื่นมาเช็ดน้ำตาออกให้



                “ ออมม่าร้องไห้ทำไม..ไม่ร้องนะเดี๋ยวไม่สวย ”




                “ ออมม่าดีใจก็เลยร้องไห้ครับ ” บอกลูกชายกลั้วรอยยิ้มก่อนจะจับมือป้อมที่กำลังเช็ดน้ำตาขึ้นมากดจูบเบาๆอย่างสุดรัก



                “ ออมม่าดีใจเหมือนลูกน่ะเหรอ? ”




                “ ใช่แล้วครับ...ออมม่าขี้แยเหมือนลูกเลย ” ยุนโฮตอบลูกชายแต่ก็ยังไม่ลืมแซวร่างบางที่ร้องไห้เหมือนชางมินตอนเย็นไม่มีผิด



                “ แล้วอัปป้าไม่ร้องเหรอ ? ”



                “ ไม่ร้องครับอัปป้าเป็นผู้ชาย...ผู้ชายต้องเข้มแข็งไม่ร้องไห้ง่ายๆหรอก ”



                “ งั้นต่อไปลูกจะไม่ร้องไห้เพราะลูกเป็นผู้ชายลูกจะเข้มแข็ง ”



                “ เป็นลูกผู้ชายนอกจากเข้มแข็งแล้วก็ต้องปกป้องออมม่าได้ด้วยลูกทำได้ไหมครับ ”



                “ ทำได้ครับ ”



                ฮีชอลยืนนิ่งมองดูครอบครัวสุขสันต์ที่ดูเหมือนว่าจะสร้างโลกส่วนตัวของครอบครัวขึ้นมาซะแล้ว  ใจหนึ่งเขาก็ดีใจที่เห็นแจจุงกลับมายิ้มได้อีกครั้งยิ้มที่มาจากใจไม่ใช่ยิ้มเพียงแค่ปาก  แต่ใจหนึ่งก็อดที่จะหมั่นไส้เจ้าของเขยตัวดีไม่ได้ร่างบางอดที่จะก่นด่าแจจุงไม่ได้ที่ยอมให้อภัยยุนโฮง่ายๆแบบนี้



                “ เพราะพวกเรารู้ว่าครอบครัวที่สมบูรณ์คือสิ่งที่ชางมินต้องการมากที่สุดพวกเราถึงยอมให้โอกาสพี่ยุนโฮอีกครั้ง  และวันนี้ผมก็ได้รู้ว่าผมคิดไม่ผิดจริงๆ ” จุนซูเดินมายืนอยู่ข้างๆฮีชอล  ดวงตาคู่สวยทอดมองครอบครัวของพี่ชายด้วยรอยยิ้ม



                “ ให้โอกาสง่ายๆแบบนี้พวกนายไม่คิดว่าหมอนั่นจะได้ใจเหรอ ? ”



                “ มันก็ไม่ถึงกับง่ายนะเพราะพี่ยุนโฮต้องใช้ความพยายามนานเหมือนกันกว่าพี่แจจุงจะคุยด้วย...โชคดีหน่อยที่พี่ยุนโฮเอาชนะใจชางมินได้ ”



                ฮีชอลปรายตามองน้องชายอีกคน “ ดูเหมือนนายอยากให้แจจุงคืนนี้กับยุนโฮจังนะ ”



                “ ผมแค่อยากเห็นพี่แจจุงกับชางมินมีความสุขดูก็รู้ว่าพี่แจจุงยังรักพี่ยุนโฮอยู่ ” จุนซูบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันมาเลิกคิ้วถาม “ หรือว่าพี่ฮีชอลไม่อยากเห็นพี่แจจุงมีความสุข ”



                “ อยากสิ...แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นแจจุงต้องเจ็บปวดเหมือนครั้งที่แล้ว ” ทุกอย่างที่ทำไปก็เพราะเป็นห่วงกลัวว่าทุกอย่างมันจะซ้ำรอยเดิม  ปากบางเบะออกด้วยความหมั่นไส้เมื่อหันไปเห็นยุนโฮกำลังหอมแก้มชางมิน “ อีกอย่างฉันหมั่นไส้ไอ้หน้าหมีนั่นด้วยกลับมาแค่แป๊บเดียวแต่มากลับทำให้ชางมินติดได้ขนาดนี้แบบนี้ต้องแกล้งให้เข็ด ”


                “ พี่คิดจะทำอะไรอ่ะ ? ” จุนซูหรี่ตาถามด้วยความไม่ไว้ใจ  หน้าตาแบบนี้พี่ฮีชอลคงกำลังหาเรื่องที่จะแกล้งพี่ยุนโฮอยู่แน่ๆและสงสัยว่างานนี้พี่ยุนโฮคงจะโดนหนักแน่ๆ



                “ ตอนนี้ยังคิดไม่ออก...แต่ก่อนอื่นฉันต้องหาตัวช่วยก่อน ” ไหวไหล่บอกก่อนจะเบะปากใส่ยุนโฮที่มองมาทางนี้พอดี “ เดี๋ยวฉันไปโทรศัพท์แป๊บนึงนะ ”



                พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องปล่อยให้จุนซู ยูชอน ฮันเกิงหันมามองหน้ากัน  สายตาทั้งสามคู่มองไปที่ยุนโฮด้วยความเป็นห่วง   ลำพังแค่คิม ฮีชอลคนเดียวก็รับมืออยากแล้วนี่ถึงกลับหาตัวช่วยมาช่วยด้วยรับรองได้เลยว่ายุนโฮเจอศึกหนักแน่ๆ



     

                พวกเราก็ได้แต่หวังว่านายจะผ่านมันไปได้นะยุนโฮ 






    Note :: โถๆๆ พี่ยุนผู้หน้าสงสารผ่านด่านเมียมาได้แล้วแต่ก็ต้องมาเจอด่านพี่เมียอีก เอาใจช่วยให้ผ่านมันไปให้ได้

    นะคะ 55555 + ใครจะเอาใจช่วยใครจะสมน้ำหน้าพี่ยุนเชิญตามสบายเลยจ้า แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×