ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #13 : ~ Happy Family ~ 12

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 53


           บรรยากาศภายในโบสถ์หรูซึ่งวันนี้ถูกเลือกเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของยูชอนกับจุนซู   แขกส่วนใหญ่ได้เดินทางมาถึงงานแล้วและกำลังรอเวลาที่จะได้ร่วมเป็นสักขีพยานในความรักครั้งนี้   ภายในงานนั้นมีเพียงยูชอนคนเดียวที่ยืนตอนรับแขกอยู่ส่วนจุนซูนั้นเก็บตัวอยู่อีกห้องหนึ่งโดยมีแจจุงอยู่เป็นเพื่อน

           แจจุง ฉันตื่นเต้นจังเลยอ่ะ จุนซูที่นั่งสำรวจความเรียบร้อยของตนเองอยู่หน้ากระจกเอ่ยขึ้น  เมื่อคืนร่างบางแทบจะนอนไม่หลับเพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับพิธีในวันนี้

           แจจุงยิ้มให้เพื่อนรัก   เข้าใจดีว่าจุนซูคงจะตื่นเต้นมากเพราะวันนี้ถือเป็นวันสำคัญของชีวิตวันหนึ่งเลยล่ะเป็นวันที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลายอย่าง  อย่างน้อยๆก็สถานะภาพที่จะต้องเปลี่ยนจากคนโสดกลายเป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว  และยิ่งได้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความสุขของจุนซูแล้วมันก็พลอยทำให้แจจุงยิ้มตามออกมาโดยอัตโนมัติ

           นายไม่บอกฉันก็รู้  แน่ล่ะวันนี้วันแต่งงานเชียวนะ   เสียงหวานเอ่ยแซวเพื่อนรักที่วันนี้ดูไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่เพราะมัวแต่กังวลลัวว่าตัวเองจะไม่ดูดีเมื่อถึงเวลา

           นายว่ายูชอนจะตื่นเต้นเหมือนฉันมั๊ย       อยากรู้จังว่ายูชอนจะรู้สึกเหมือนกับเขาตอนนี้หรือเปล่า   วันนี้ยังไม่ได้คุยกับยูชอนเลย

           งานแต่งตัวเองทั้งที ใครจะไม่ตื่นเต้น     แจจุงตอบพร้อมกับเช็คดูความเรียบร้อยของเจ้าสาวเป็นครั้งสุดท้าย    อ๊ะ  ใกล้ถึงเวลาแล้ว  เดี๋ยวฉันเข้าไปรอในงานดีกว่า  

            อย่าพึ่งไปสิ  อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวนะ  

             เดี๋ยวคุณพ่อก็มารับ ทำใจให้สบายนะ  ไม่ต้องตื่นเต้น  ฉันต้องไปดูมุนบินน่ะ  ร่างบางให้กำลังใจเพื่อนแต่เขารู้ดีว่าเมื่อถึงเวลาจุนซูจะสามารถควบคุมอาการตื่นเต้นของตนเองได้  แต่ตอนนี้สิ่งที่น่าห่วงที่สุดก็คือลูกหมีสุดที่รัก   แจจุงล่ะกลัวจริงๆว่าลูกชายตนจะทำงานครั้งนี้ล่ม

             อืมจริงสิ  วันนี้ยังไม่เจอมุนบินเลยนี่นา

          อยู่ในงานกับยุนโฮน่ะ  ว่าแต่พวกนายจะไม่เปลี่ยนใจแน่นะ  แจจุงหมายถึงเรื่องที่จะให้มุนบินถือแหวนแต่งงาน  เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันะจุนซู

           แน่สิ  ฉันน่ะเชื่อใจมุนบินอยู่แล้ว  ส่งยิ้มด้วยความมั่นใจให้กับคุณแม่คนสวยที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมั่นใจในตัวของลูกชายตัวเองเท่าไหร่

           แจจุงอยู่รอบิดาของจุนซูสักครู่และเมื่อเห็นว่าตอนนี้เจ้าสาวไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วร่างบางจึงแยกเข้ามาภายในงาน   แต่ภาพที่เห็นทำเอาคุณแม่คนสวยยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองได้คาดการณ์เอาไว้

           มุนบินที่วันนี้ถูกแต่งตัวด้วยชุดสูทรสีขาวนั้นกำลังอยู่ในอ้อมกอดของพ่อหมีแขนป้อมกอดคอคุณพ่อเอาไว้แน่น   เพราะมุนบินจะไม่ยอมห่างจากแจจุงหรือว่ายุนโฮเลยถ้าหากว่าที่ตรงนั้นมีคนแปลกหน้าอยู่ด้วย

           มุนบินครับ ทำไมหนูไม่ยืนล่ะลูก มือบางลูบผมของลูกชายที่วันนี้มันถูกเซ็ตให้ตั้งเป็นทรง   วันนี้มุนบินของคุณแม่หล่อที่สุดเลย

           อ้าว แจ  ข้างในเรียบร้อยแล้วเหรอ  ยุนโฮที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนสมัยเรียนอยู่เอ่ยขึ้นเมื่อหันกลับมาแล้วพบคนรักยืนอยู่ก่อนจะส่งตัวลูกหมีที่ตอนนี้ออกแรงดิ้นจะไปหาคุณแม่

           เรียบร้อยแล้ว  แล้วทางนี้ล่ะ

           เหมือนกัน  แต่ว่า ตาคมเหลือบไปมองลูกชายที่อยู่ในอ้อมแขนของแจจุง  เพียงแค่นี้ร่างบางก็รู้แล้วว่ายังเหลืออะไร

           หลังจากมาถึงงานแล้วยุนโฮกับแจจุงก็แยกกันแจจุงนั้นเข้าไปหาจุนซูที่ห้องแต่งตัวส่วนยุนโฮก็แยกออกมาหายูชอนในงานโดยมีลูกหมีมาด้วย   แต่พอเข้ามาในงานแค่นั้นแหละมุนบินก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไปแขนป้อมที่กอดรอบคอแกร่งอยู่นั้นกระชับให้แน่นขึ้นไม่ยอมห่างจากยุนโฮไปไหน  ขนาดให้นั่งที่เก้าอี้ยังไม่ยอมนั่งยุนโฮเลยต้องอุ้มลูกชายไว้จนกระทั่งแจจุงกลับเข้ามาในงานนี่แหละ

           แล้วจะรอดไหมเนี่ย แจจุงเอ่ยกับสามีก่อนจะก้มลงมองเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนอย่าว่าแต่ถือแหวนเลยลงเดินเองยังไม่ยอม

           ยุนว่าเราไปบอกยูชอนตอนนี้ก็ยังทันนะ ร่างสูงเห็นด้วยกับภรรยาเขาเองก็ไม่อยากเสี่ยงหรอกนะ  เพราะงานนี้หรือว่าเป็นงานใหญ่พอสมควรมีแขกคนสำคัญมาร่วมงานมากมาย

           เดี๋ยวขอแจลองคุยกับลูกก่อนนะ   แจจุงบอกสามีก่อนจะอุ้มลูกชายไปนั่งที่เก้าอี้โดยที่มีเจ้าหนูนั่งอยู่บนตัก ตาเรียวเล็กมองคนที่มาร่วมงานไปมาคงจะกลัวสินะลูกชายที่เห็นคนเยอะขนาดนี้

           ทำไมวันนี้ลูกชายคุณแม่เงียบจังเลยน๊า  ร่างบางเริ่มหาเรื่องคุยเพราะมุนบินเอาแต่เงียบแล้วก็มองแขก    ไปมาไม่ร่าเริงเหมือนทุกวันซึ่งแจจุงเองก็พอจะรู้ถึงสาเหตุ

           คุณแม่ หนูอยากกลับบ้าน เอ่ยบอกความต้องการ  ทำไมต้องมาที่นี้ด้วยหนูไม่ชอบเลยคนก็เยอะไหนจะชอบมาโดนตัวหนูอีก   หนูอยากกลับบ้านไปเล่นกับพี่หมีแล้วนะ

           ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ครับลูก   ส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับยิ้มอ่อนโยน

           ทำไม   หัวเล็กซบลงบนแผ่นอกบางของคุณแม่   ทำไมถึงจะกลับไม่ได้อ่ะก็หนูอยากกลับแล้วทำไมเดี๋ยวนี้คุณแม่ชอบขัดใจหนูจังเลย

           เพราะงานยังไม่เสร็จไงครับ  ถ้าเรากลับก่อนมันไม่ดี แจจุงหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่าเสียมารยาทเพราะหากพูดออกไปมุนบินก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

           งานอะไรเหรอ   งานอะไรทำไมมีคนเยอะแยะมุนบินไม่เห็นรู้จักใครเลย  อ่อ รู้จักแค่อายูชอนกับอาชางมินแค่นั้นนี่ไม่รวมคุณปู่คุณย่านะเนี่ย

           งานแต่งงานของอาจุนซูกับอายูชอนครับ

           หรอ  แล้วมันเป็นยังไง งานแต่งงานคืออะไรหว่ามุนบินไม่เห็นรู้จักเลยแล้วทำไมต้องแต่งงานกันด้วย โอ๊ย ทำไมมีแต่เรื่องที่หนูไม่รู้ทั้งนั้นเลย

           คุณแม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน  ถ้าหนูอยากรู้หนูก็ต้องรอดู  เริ่มมีความหวังขึ้นมานิดๆเมื่อลูกหมีเริ่มให้ความสนใจกับสิ่งที่คุณแม่บอก

           เจ้าตัวเล็กลังเลอยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่   อยากรู้หนูก็อยากรู้อยู่นะแต่ว่าหนูไม่ชอบคนเยอะคุณแม่บอกให้เขากลับไปได้ไหมอ่ะ  ตาเล็กเหลือบมองคุณแม่พร้อมกับใช้ความคิด

           ก็ได้   แล้วความอยากรู้ก็ชนะความกลัว  นี่ก็เป็นนิสัยอีกอย่างหนึ่งที่มุนบินถอดแบบออกมาจากผู้เป็นพ่อคือจะรู้สึกไม่ชอบใจเวลาที่ตนไม่รู้ในเรื่องที่อยากรู้และจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้รู้

           แจจุงแอบยิ้มน้อยๆเมื่อได้ยินคำตอบของลูกชายสำเร็จไปหนึ่งขั้นทีนี้ก็เหลือเพียงแต่ว่าจะทำยังไงให้ลูกหมียอมเป็นคนถือแหวน   เพราะถึงแม้ว่าจะยอมอยู่ในงานต่อแต่แจจุงเดาได้เลยว่ามุนบินต้องไม่ยอมห่างจากเขากับยุนโฮเป็นแน่  ร่างบางคิดหาวิธีอยู่สักครู่ว่าจะพุดอย่างไรดีลูกชายถึงจะยอม

             มุนบินครับ  หนูอยากกินไอติมไหมลูก แล้วก็งัดเอามุขเดิมๆมาใช้อีกครั้ง  แต่ครั้งนี้ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าจะได้ผลหรือเปล่า

           อยาก เจ้าหนูเงยหน้าขึ้นมามองคุณแม่ด้วยแววตาเป็นประกาย  ไอติมเหรอคุณแม่ก็รู้ว่ามันเป็นของโปรดหนู   สำหรับไอติมแล้วไม่มีคำว่าไม่อยากหรอก

           งั้นถ้าเสร็จงานคุณแม่พาหนูไปทานดีมั๊ยลูก   ถึงจะตอบว่าอยากก็ใช่ว่าเจ้าตัวเล็กจะยอมทำตามเลยต้องสร้างเรื่องเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกันสักหน่อย

           ดี ตอบแบบไม่ต้องคิดกันเลยทีเดียว  จะไม่ดีได้ยังไงตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลคุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่พาหนูไปกินที่ร้านเลยสักครั้ง  หนูคิดถึงไอติมจะแย่แล้ว

           แต่ว่าคุณแม่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ

           แลกเปลี่ยนอะไร  ถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ  จะกินไอติมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนด้วยเหรอ

           หนูต้องช่วยถือกล่องที่อยู่ในมือของคุณพ่อไปให้อายูชอนกับอาจุนซู แจจุงชี้ให้ลูกชายดูกล่องกำมะหยี่ที่อยู่ในมือของยุนโฮที่กำลังเดินเข้ามาหา

           .............. เจ้าหนูลังเลมองกล่องในมือคุณพ่อสลับกับหน้าหวานของคุณแม่ไปมา ทำไมต้องเป็นหนูด้วยล่ะทำไมคุณพ่อไม่เอาไปให้เอง

           แจจุงยิ้มพอใจเมื่อเห็นท่าทางของลูกชาย ก่อนจะถามลองเชิงอีกครั้ง ว่าไงครับลูก

           หนู...  หนูอยากกินไอติมนะแต่หนูก็ไม่อยากถือเหมือนกันเพราะเดียวก็มีคนมองหนูเยอะแยะหนูไม่ชอบอ่ะ  ถึงแม้จะรู้ว่าเขามองเพราะหนูน่ารักก็เถอะ

           คุณแม่ไม่ได้บังคับหนูนะลูก ถ้าหนูตกลงเดี๋ยวคุณแม่บอกคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลย คุณแม่ไม่ได้บังคับหนูจริงๆนะลูกชายแค่เสนอทางเลือกให้แค่นั้น

           ถ้าหนูไม่ตกลงล่ะ  ถ้าเกิดว่าหนูไม่ตกลงแล้วหนูจะได้กินไอติมไหมอ่ะ

           อืม  อันนี้ก็ต้องคิดดูก่อนนะ นิ้วเรียวยกขึ้นมาเคาะปลายคางเบาๆราวกับว่าใช้ความคิดแต่ก็แอบมองดูลูกชายที่เริ่มหน้าเสียเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ทานของโปรด

           งั้นหนูตกลง แต่เพราะคุณแม่คิดนานไปหน่อยเลยทำให้เจ้าหนูรีบให้คำตอบ  ท่องไว้มุนบินเพื่อไอติมเพื่อไอติม

           แจจุงแอบอมยิ้มกับท่าทางของลูกชายและก็เป็นอีกครั้งที่มุนบินยอมจำนนให้กับของกิน  จมูกโด่งกดลงไปบนแก้มของลูกชายเบาๆสูดดมเอาความหอมจากแป้งเด็กเข้าไปเต็มปอดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเจ้าตัวเล็กเอ่ยฟ้องทันที

            คุณแม่ วันนี้คุณพ่อให้ใครก็ไม่รู้หอมแก้มหนูตั้งหลายคน   เจ้าตัวเล็กยู่หน้าด้วยความไม่พอใจวันนี้หนูโดนคนขอหอมแก้มจนแก้มจะช้ำหมดแล้วเนี่ย

          


           ประตูบานใหญ่ที่เปิดออกเรียกความสนใจจากแขกที่นั่งรออยู่ภายในงานให้หันไปมองต้นทางที่แสงส่องผ่านเข้ามาร่วมทั้งยูชอนที่ยืนรออยู่ที่แท่นพิธี

           ภาพของนางฟ้าตัวน้อยสองคนที่เดินถือดอกไม้นำหน้าร่างของคนสองคนเข้ามา  วันนี้คุณคิมทำหน้าที่ส่งตัวลูกชายสุดที่รักให้กับว่าที่ลูกเขย   จุนซูที่เดินควงแขนคุณพ่อเข้ามานั้นมีท่าทางประหม่าเล็กน้อยที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนในงาน  แก้มใสที่วันนี้มันถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพงขึ้นสีโดยอัตโนมัติส่งผลให้แก้มที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงขึ้นไปอีก

           ยูชอนยืนมองเจ้าสาวของตัวเองด้วยความตกตะลึง ร่างสูงคิดว่าเวลาปกติจุนซูก็น่ารักอยู่แล้วแต่วันนี้เจ้าสาวของเขาทั้งสวยและน่ารักอยู่ในเวลาเดียวกันและยิ่งเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งดูเหมือนว่าจุนซูยิ่งน่ารักขึ้นเท่านั้น  ตาคมมองร่างบางที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาภูมิใจอย่างปิดไม่มิด

           หมดหน้าที่ของพ่อแล้ว  พ่อฝากจุนซูด้วยนะยูชอน    คุณคิมเอ่ยฝากฝังลูกชายไว้กับลูกเขย   หน้าที่ของคนเป็นพ่อคือส่งแก้วตาดวงใจของตนให้กับคนที่เขารักและรอดูความสุขและความเป็นไปในชีวิตลูกเพียงแค่นี้ก็มีความสุข

            ขอบคุณครับที่คุณพ่อเชื่อใจผม  ผมสัญญาว่าจะดูแลจุนซูให้ดีที่สุดจะไม่มีวันทำให้เขาเสียใจ    ตอบด้วยความหนักแน่น  และแน่นอนว่ามันไม่ใช่คำพูดที่พูดขึ้นมาลอยๆหากแต่ยูชอนจะทำจริงอย่างที่พูด

           ขอบใจนะ    ยิ้มอ่อนโยนให้ก่อนจะส่งตัวเจ้าสาวให้เจ้าบ่าวแล้วถอยกลับออกมานั่งกับภรรยา

           เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาพร้อมกันที่แท่นพิธีแล้วบาทหลวงก็เริ่มทำพิธี  ยูชอนชำเลืองมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นระยะก่อนจะเผลอยิ้มด้วยความเป็นสุขใจจริงแล้วร่างสูงแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าน่ารักนั่นเลยล่ะถ้าไม่ติดว่าตอนนี้กำลังทำพิธีอยู่  จุนซูเองก็เช่นกันร่างบางรู้สึกว่าวันนี้ยูชอนหล่อกว่าทุกวันบาทหลวงยังคงทำพิธีไปเรื่อยๆ

           คุณ ปาร์คยูชอน คุณยินดีที่จะรับคุณคิมจุนซูเป็นภรรยาหรือไม่  

           รับครับ  

           คุณยินดีที่จะรักและซื่อสัตย์  คอยดูแลปกป้องคุณคิมจุนซูตลอดไปหรือไม่   

           ยินดีครับ    

           ทุกประโยคที่เปล่งเสียงออกมานั้นเต็มไปด้วยความหนักแน่นและจริงจัง   ต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าปาร์คยูชอนคนนี้ขอให้คำสัตย์ว่าจะรักและปกป้องผู้ชายตัวเล็กๆที่อยู่ข้างกายไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ลูกจะไม่มีวันทำให้เขาเสียน้ำตาเป็นอันขาด   บาทหลวงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปเอ่ยกับจุนซูที่ยืนมองคนรักด้วยความตื้นตันใจ

           คุณ คิมจุนซู  คุณยินดีที่จะรับคุณปาร์คยูชอนเป็นสามีหรือไม่    

           รับครับ  

           คุณยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเขาไม่ว่าจะยามสุขหรือทุกข์หรือไม่    

           ยินดีครับ    เสียงหวานตอบด้วยความมั่นใจ

           พระผู้เป็นเจ้าผู้ชายคนนี้คือคนที่ลูกรักหมดหัวใจลูกสัญญาว่าไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์หรือมีเรื่องราวต่างๆเข้ามาในชีวิตลูกจะขอยืนอยู่เคียงข้างผู้ชายคนนี้ตลอดไป ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาต่างๆไปด้วยกันขอแค่มีเพียงผู้ชายคนนี้ที่ลูกรักยืนอยู่เคียงกันไม่ว่าจะมีอะไรผ่านเข้ามาลูกก็ไม่หวั่น

           ในเมื่อลูกทั้งสองตกลงที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ลูกมีสิ่งใดมายืนยันความรักของลูก  

           เมื่อบาทหลวงเอ่ยจบแจจุงที่นั่งอยู่ก็อุ้มลูกหมีลงจากตักพร้อมกับกระซิบเบาๆ  มุนบินครับ ได้เวลาแล้วลูก  

           เจ้าหนูมองหน้าคุณแม่ก่อนจะได้รับการพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าถึงเวลาของหนูแล้ว   ขาป้อมค่อยๆก้าวเดินด้วยความไม่มั่นใจในมือป้อมมีกล่องที่ด้านในบรรจุแหวนสองวงเอาไว้  มุนบินหันกลับมามองคุณพ่อกับคุณแม่อีกครั้งก่อนจะได้รอยยิ้มสวยของคุณแม่มาเป็นกำลังใจส่วนยุนโฮก็ชูกำปั้นขึ้นเพื่อบอกลูกชายว่าสู้ๆ เจ้าตัวเล็กหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วหันหน้ากลับไปขาป้อมค่อยๆก้าวเดินอีกครั้ง

           ทุกย่างก้าวที่ลูกชายเดินทั้งยุนโฮกับแจจุงต่างช่วยกันลุ้นสุดตัวมือบางบีบมือหนาเอาไว้แน่นด้วยความตื่นเต้นจวบจนลูกชายสุดที่รักเดินไปถึงคุณอาทั้งสอง  คุณพ่อกับคุณแม่หันมายิ้มให้กันและกันด้วยความโล่งอกก่อนรอยยิ้มทั้งสองนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อหันกลับไปมองตรงแท่นพิธี

           แขกในงานต่างอมยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นเด็กชายตัวเล็กๆค่อยๆเดินถือกล่องแหวน เข้าไปหาคู่บ่าวสาวก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางระหว่างยูชอนกับจุนซู

           เรามีแหวนครับ    ยูชอนหันไปตอบบาทหลวงเมื่อมุนบินเดินมาถึงพวกเขาแล้ว

           พ่อขอดูได้ไหม  

           ครับ    

           ทั้งคู่ก้มลงไปหยิบกล่องที่อยู่ในมือของมุนบินโดยที่ไม่ลืมหอมแก้มนิ่มนั้นเป็นการตอบแทนหลานชายใครน๊าน่ารักที่สุดเลยมุนบินไม่เคยทำให้อาทั้งสองผิดหวังเลย

           ทั้งยูชอนและจุนซูส่งแหวนเงินเกลี้ยงให้กับบาทหลวง   มุนบินที่ไม่รู้ว่าหน้าที่ของตัวเองเสร็จแล้วก็ได้แต่ยืนมองคุณอาทั้งสองตาแป๋ว  ในใจก็คิดว่าหนูกับไปหาคุณแม่ได้หรือยังอ่ะแต่ปากเล็กก็ไม่กล้าเอ่ยถามแต่เมื่อยืนอยู่นานก็ไม่มีใครบอกให้กลับไปซะทีเจ้าหนูเลยหันไปมองทางคุณแม่   แจจุงเมื่อเห็นว่าลูกชายมองกลับมาก็รีบกวักมือเรียกให้เข้ามาได้แล้วพอเห็นดังนั้นขาป้อมก็รีบวิ่งกลับไปทันที  แจจุงหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นว่าลูกชายรีบวิ่งกลับมาหัวเล็กซุกลงที่หน้าขาของคุณแม่คนสวยเพื่อปกปิดความเขิน   มือกร้านของคุณพ่อลูบหัวเล็กเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าภูมิใจในตัวลูกชายเหลือเกิน

           ลูกชายคุณแม่เก่งจังเลย    ว่าพลางอุ้มลูกชายขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับหอมแก้มนิ่มนั้นเข้าไปอย่างสุดรัก ตอนแรกก็ลุ้นแทบแย่กลัวว่ามุนบินจะเดินกลับมา

           มุนบินของคุณพ่อเก่งที่สุดในโลกเลย    พ่อหมีก็ไม่ยอมน้อยหน้า  แม่หมีหอมครั้งเดียวแต่พ่อหมีจัดให้สองเลยแก้มยุ้ยๆแบบนี้น่าฟัดเป็นที่สุด

           เจ้าตัวเล็กหัวเราะชอบใจเมื่อได้รับคำชม  นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับเด็ก   เพราะหากได้รับคำชมว่าสิ่งที่เขาทำนั้นดีแล้วเขาก็จะมีความกล้าที่จะทำสิ่งนั้นขึ้นไปอีก  สามพ่อแม่ลูกหยุดการสนทนาเอาไว้ชั่วคราวแล้วหันกลับไปสนใจพิธีต่อ

           ยูชอนกับจุนซูกำลังจะแลกแหวนกันโดยมีผู้คนที่มาร่วมงานเป็นสักขีพยาน   แหวนสองวงที่ตอนนี้กลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่

           ความรักอันบริสุทธิ์ของลูกทั้งสองพ่อเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงมองเห็นและกำลังอวยพรให้กับลูกทั้งสอง  ขออย่าให้มีผู้ใจมาพรากความรักของลูกทั้งสองออกจากกัน พ่อขออวยพร  อาเมน  

           จบคำพูดของบาทหลวงก็เป็นอันเสร็จพิธีแต่มันจะไม่เสร็จก็ตรงที่มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อนนี่แหละ

           จูบเลยๆ    จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชิม ชางมินที่ไม่วายหาเรื่องแกล้งแม้กระทั่งในวันแต่งงานของพี่ชายโดยมีเสียงของยุนโฮตามมาเป็นเสียงสนับสนุนก่อนที่คนในงานจะช่วยกันเชียร์อีกแรง

            จุนซูตาเขียวใส่คนต้นคิด  จูบต่อหน้าคนตั้งเยอะแบบนี้น่าอายจะตาย  ยูชอนที่ยืนอยู่ข้างๆได้แต่ยิ้มขันนานๆทีจะเห็นจุนซูเขินนี่นา

           เห็นทีจะขัดไม่ได้แล้วล่ะจุนซู  แขกเขาเรียกร้องมานะ   เหมือนจะขอความเห็นแต่ฟังดูดีๆมันบีบกันชัดๆเลยนี่นา  แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจใบหน้าหวานก็ถูกรั้งเข้าไปจนริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน  ใบหน้าน่ารักขึ้นสีเป็นที่เรียบร้อยจะผละออกก็ไม่ได้เพราะยูชอนรั้งเขาไว้

           แขกในงานพากันส่งเสียงแซวกันเกรียวกราวท่ามกลางเสียงหัวเราะสะใจของชางมินกับยุนโฮส่วนแจจุงก็ได้แต่อมยิ้มมือบางยกขึ้นมาปิดตาลูกชายเอาไว้   มุนบินยังเด็กเกินไปที่จะเห็นภาพอะไรแบบนี้

           ยูชอนยังไม่ยอมปล่อยให้จุนซูเป็นอิสระปากหยักขบเม้มเบาๆเพื่อให้ปากบางเผยออกแล้วส่งลิ้นหนาเข้าไปรุกรานอย่างถือวิสาสะ  นานหลายนาทีกว่าที่จุนซูจะถูกปล่อยเป็นอิสระเล่นเอาแทบหมดลมหายใจกันเลยทีเดียวและเมื่อกลีบปากบางถูกปล่อยเป็นอิสระใบหน้าหวานก็ซุกลงที่อกแกร่งของคนรักทันทีเพื่อซ่อนความเขินขายจากสายตาหลายคู่ที่ส่งมาล้อเลียน ส่วนร่างสูงก็ยิ้มด้วยความพอใจพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้ชางมินกับยุนโฮที่ยืนยกนิ้วให้อยู่ที่เก้าอี้

     

       


    ...........................................................................................................................................................................................................








    ลูกหมีจะไปรอดรึเปล่าเนี่ย ?


    สารภาพว่าตอนแต่งด้วยสติที่กำลังมึนๆ เนื่องจากเมาข้อสอบ

    ตอนแรกกะว่าแต่งให้ครบร้อยแต่ไม่ไหวค่ะ สมองตันมาก ก ก

    เหลือสอบอีกสองวิชา  แต่จะแอบแว๊บมาอัพให้นะค่ะ ( ที่จริงคือขี้เกียจอ่านหนังสือ หุหุ )
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×