ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic MHA/BNHA] “Among billions of stars.”

    ลำดับตอนที่ #1 : Episode 1

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 67


    มืด


    ในความมืดเด็กหนุ่มลองส่งเสียงออกไปดู มันดังกึกก้องออกไปจนรับรู้ได้ถึงความกว้างขวางในที่ที่มืดมิดแห่งนี้ 

     

    จะเรียกว่าโชคดีได้ไหมนะ ที่ในครั้งนี้เป็นสถาณที่ที่มืดมิดจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยแห่งนี้ มันดีกว่าการที่ต้องเห็นภาพต่างๆที่ไม่อยากเห็น 

     

    แต่ถ้าจะให้เลือกก็คงไม่มีใครอยากจะเลือกทั้งสองอย่างหรอกใช่ไหม? อย่างน้อยก็เด็กหนุ่มแล้วคนหนึ่งที่ไม่อยากเลือกมันทั้งคู่


    แม้ว่าจะไม่เจ็บปวด แม้ว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับภาพเหล่านั้น แต่เมื่อตื่นขึ้นจากมิติแห่งฝันนี้ทีไร ก็มักจะรู้สึกอ่อนเพลียและเสียกำลังในการใช้ชีวิตอยู่ต่อในวันนั้นๆเสมอ

     

    เด็กหนุ่มยืนนิ่งงันอยู่กับที่ไม่ได้ขยับตัวไปไหน ท่ามกลางความมืดมิดที่ไม่สามารถมองเห็นหรือรับรู้อะไรเลยสักอย่าง

     

    ร่างบางขบคิดกับตัวเองอยู่สักพักเพื่อคิดหาวิธีหลุดออกจากมิติแห่งฝันที่ความมืดแห่งนี้

     

    พลันในตอนนั้นเองที่กำลังคิดหาวิธี จู่ๆพื้นเบื้องล่างตัวเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนผืนน้ำที่ผมในตอนนี้กำลังยืนอยู่บนนั้น

     

    รอบกายของของเขายังคงมืดมิดเช่นเดิม เพียงแต่ตอนนี้สามารถมองเห็นผืนน้ำใต้เท้าที่กำลังเหยียบยืนบนพื้นผิวมันได้เท่านั้น

     

    ในตอนนั้นเองก็มีเสียงฮัมเพลงเบาๆของหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังมีความสุขอย่างล้นเหลือดังเข้ามาในโสตประสาท ก่อนจะค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ และแปรเปลี่ยนเป็นเริ่มมีเสียงแทรกเป็นบทสนทนาของชายหนุ่มหนึ่งคนที่เข้ามาสนทนากับหญิงสาวที่ฮัมเพลงเมื่อสักครู่

     

    เด็กหนุ่มรู้ได้ทันทีว่านี่คือเสียงอะไรและเป็นเสียงของใคร

     

    เด็กหนุ่มยกมือเรียวสวยทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหูของตนเองโดยพลันอย่างไม่คิดที่จะฟังมันต่อและพึมพำออกมาเสียงเบา

     

    “น่าเบื่อ ทำไมต้องมาฟังอะไรน่าเบื่อนี้ตลอดเลยนะ”

     

    เสียงที่เรียบนิ่งฟังดูไร้อารมณ์ของเด็กหนุ่มที่แสดงถึงความเฉยเมยและเบื่อหนายอย่างอดไม่ได้ แต่นัยน์ตานั้นกลับสั่นไหวเบาๆจนจับสังเกตุได้ยาก และเหมือนตัวเด็กหนุ่มเองก็ดูจะไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน

     

    เด็กหนุ่มนั่งยืนนิ่งอยู่บนพื้นผิวน้ำนิ่งๆไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เขาหลับตาลงก่อนจะค่อยๆส่งเสียงในลำคอออกมาเพื่อช่วยกลบเสียงที่ตนเองพยายามจะเลี่ยงฟัง

     

    ร่างกายเล็กๆของเด็กหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นไปอีกพักใหญ่

     

    “พอได้แล้ว ผมไม่ได้อยากรับรู้ ไม่ได้อยากนึกถึงมันสักหน่อย ...พอ...พอเถอะ”

     

    แม้จะอยากให้มันหยุดอยากที่จะออกไปจากตรงนี้เพียงใด อยากจะรีบๆติ่นแล้วให้เสียงมันหายไปแค่ไหน แต่เสียงเหล่านั้นก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขาไม่ยอมหยุด และเขาก็ยังคงไม่ตื่นจากมิติแห่งฝันนี้อยู่ดี

     

    เด็กหนุ่มได้แต่ยืนอดทนรอเช่นเดิม อย่างที่ผ่านๆมาที่เคยทำ แต่มนใจของเขาในตอนนี้เองก็ยังคงร้องภาวนาจากจิตใต้สำนึก

     

    ได้โปรด...

     

    พอสักที...

     

    ในตอนนั้นเองเรือนผมสีเงินซีดของเด็กหนุ่มก็ค่อยๆยาวขึ้นจนถึงสะโพกและลงไปเรื่อยๆจนถึงข้อเท้าและลากยาวไปจนตกลงพื้นผิวน้ำที่ยืนอยู่ ความยาวของมันจึงหยุดลง เรือนผมสีขาวเงินดุจหิมะก็ไม่ปานส่ายพริ้วไปมาตามลมที่เริ่มจะพัดผ่านมาจากทางไหนก็ไม่อาจทราบได้

     

    และทุกอย่างที่มืดมิดในเวลาไม่นานหลังจากนั้นก็แทนที่ด้วยแสงสว่างของเช้าวันใหม่

     

    ในโลกแห่งความเป็นจริง

     

    การเริ่มต้นของเช้าวันใหม่ในวันนี้ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษกว่าวันไหนๆสำหรับเด็กหนุ่ม

     

    เป็นเพียงเช้าวันใหม่ที่เรียบง่ายและไม่สดใสดั่งเช้าที่ผ่านๆมาทุกครั้งที่เข้าสู่มิติแห่งฝัน

     

    “อีกแล้วหรอเนี่ย”

     

    เด็กหนุ่มพึมพำออกมาเบาๆทั้งที่ยังไม่ทันได้ขยับกายอะไรเลยสักนิด


    ร่างบางแน่นิ่งอยู่ในท่าเดิมครู่หนึ่งหลังจากการพึมพำ ก่อนที่นัยน์ตาคู่หนึ่งหลังเปลือกตาสีซีดจะเผยขึ้นมา


    นัยน์ตาสีเงินในตอนนี้ดูเรียบนิ่งเหม่อมองภาพบนเพดานที่ถูกแสงแดดยามเช้าจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามากระทบ เขามองมันอยู่สักพักก่อนจะปิดเปลือกตาบางลงส่ายหัวเบาๆและนิ่งไป

     

    ร่างกายบางที่มีผิวสีซีดของเด็กหนุ่มบนเตียงนอนขนาดหกฟุตหลังนุ่ม ขยับแผ่วเบาก่อนที่เปลือกตาบางจะเปิดออกและเผยให้เห็นนัยน์ตาสีเงินสวย ไม่ต่างอะไรกันมากนักกับเรือนผมที่มีสีคล้ายคลึงกว่าแปดในสิบส่วน

     

    อาภรณ์ยาวพริ้วไหวเลยหัวเข่าลงไปหน่อยนึงสีขาวเรียบๆที่มีลูกไม้ประดับเล็กน้อย เคลื่อนไหวไปตามแรงขยับกายของเด็กหนุ่มที่เมื่อลืมตาแล้วก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งชันเข่าอยู่บนเตียง

     

    หยาดน้ำสีใสที่ไหลออกมาจากดวงตาถูกนิ้วเรียวของเด็กหนุ่มเจ้าของปาดมันออกไปอย่างไม่คิดจะสนใจเท่าไหร่นักด้วยความเคยชิน

     

    เด็กหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูแสงแดดอ่อนยามเช้าที่กำลังผาดผ่านเข้ามาในตัวห้อง

     

    มันเข้ามาใกล้เตียงของเขาเรื่อยๆ

     

    นัยน์ตาสีเงินมองดูมันสักพัก แล้วตัดสินใจลงจากเตียงไปชำระล้างร่างกายของตน แต่งตัว และหยิบของต่างๆที่จะใช้สำหรับวันนี้ลงกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะออกจากห้องนอนไป

     

    ร่างเล็กนั่งลงที่โต๊ะทานอาหารในห้องครัว หยิบขนมปังขึ้นมา 1 แผ่นแล้วเสียบมันเข้าไปในเครื่องปิ้งขนมปัง เพราะต้องรอสักพักก่อนมันจะเด้งกลับออกมา จึงไปหยิบแยมรสโปรดในตู้เย็นมาเตรียมไว้พร้อมมีดปาดแยม

     

    นิ้วเรียวสวยจับขนมปังปิ้งร้อนๆขึ้นมาอย่างไม่คิดจะสนใจเลยว่ามือของตนจะได้รับบาดเจ็บจากความร้อนหรือไม่

     

    มือเรียวใช้มีดปาดแยมองุ่นทาให้สวยงามบนแผ่นขนมปังปิ้งกรอบๆที่ส่งกลิ่นหอม แล้วจึงลุกขึ้นเพื่อออกจากบ้าน

     

    ก่อนออกจากบ้านเด็กหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะตรวจเช็คอะไรๆให้เรียบร้อย ปิดน้ำ ปิดไฟ ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ปิดหน้าต่าง และอื่นๆ

     

    เมื่อแน่ใจว่าไม่พลาดแล้วจึงออกจากบ้านของตน ล็อคประตู

     

    และออกเดินทาง

     

     เดินทางไปสู่การเริ่มต้นใหม่ของวัน


    ในชีวิตใหม่นี้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×