Scholarship ปั่นป่วนหัวใจยัยบ้าเรียน
ในที่สุด"ลูเทเซีย"คนนี้ก็สอบติดซักที แต่แล้วฉันก็ต้องเจอกับนายหน้าหล่อปากเสียอย่างอีตาแทยุน สรุปแล้วมันโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่เนี่ยที่ต้องมาเรียนอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน โอ้พระเจ้าจอรชช่วยลูลู่คนนี้ด้วย
ผู้เข้าชมรวม
159
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
“ลูเซีย! แกฟังฉันอยู่รึป่าวเนี้ย!”
“หะ...หือ! อะไรนะเรียกเราหรอ”
“ก็ใช่นะสิ มัวแต่เหม่ออะไรอยู่ พวกเราก็คุยกับแกอยู่นั้นละ”
แย่แล้ว! ดูเหมือนว่าฉันจะเผลอทำตัวเสียมารยาทกับเพื่อนๆอีกแล้ว มัวแต่นั่งเหม่อใจลอยคิดถึงแต่ผลสอบชิงทุนอีกแล้วอ่า (><)(><)
“นี่แกเป็นอะไรรึป่าวเนี่ย เห็นนั่งเหม่ออยู่หลายวันละ “
“อย่าบอกนะว่าแกกำลังมีความรัก” บลูเบล์ตั้งคำถามที่เป็นจุดสนใจให้เหล่าพวกพ้องในกลุ่มหันมาจ้องหน้าคนที่โดนพาดพิงอย่างฉัน แบบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“บะ…บ้ารึป่าว ความลงความรักอะไรกันเล่า บ้าอะป่าว =O=”
“นั้นแนะ ทำหน้าตกใจมีพิรุธ ถ้าไม่ได้มีความรักแล้วมัวเหม่ออะไรอยู่จ้า” บันนี่ยิงคำถามที่น่าเตะมากมาให้ ความลงความรักบ้าบออะไรละ ยัยพวกนี้นี่คิดอย่างอื่นไม่เป็นเลยรึไงกันนะ (-____- :;)
“ฮ่าๆๆ ทุกคนอย่าแกล้งลูลู่กันสิ ยัยนี้คงนั่งเหม่อเพราะมัวแต่กำลังกังวลเรื่องสอบชิงทุนอยู่แน่นๆเลย ตั้งแต่สอบเสร็จก็มัวแต่นั่งเหม่อมาจนถึงบัดนี้ไง” บีมมี่เพื่อนรักฉันรีบแก้ต่างให้ฉันที่มัวแต่นั่งเอ๋อกับคำถามแต่ละคำถามที่ยิงมา”
“ใช่แล้วๆ” ฉันรีบพูดเสริมจนทุกคนหันมามอง
“แล้วนี้แกไปสอบชิงทุนอะไรมาทำไมถึงไม่บอกกันบ้างเลย”
อยากจะบ้าตายกับเพื่อนๆแต่ละคนของฉัน รู้สึกว่าฉันจะบอกทุกคนในกลุ่มไปแล้วนะว่าจะไปสอบชิงทุน ทำไมพวกนี้ช่างความจำอย่างกับปลาทองแถมยังมาโทษฉันอีกแหนะ สรุปแล้วฉันผิดหรือใครผิดนี้ย T_T
“ยัยบลู! ลูเซียก็บอกกับพวกเราแล้วไงว่าจะไปสอบอะ แกจำไม่ได้เรอะ “ บอมแบมเพื่อนที่เงียบที่สุดในกลุ่มพูดขึ้นมา เล่นเอาบลูเบล์ตกใจจนนิ่งไปขณะนึง “เออ…ใช่! ลืมไปเลยอะ โทษทีนะแก” บลูเบล์รีบขอโทษขอโพยฉันเป็นการใหญ่
“มะ…ไม่เป็นไรจ้า” ^0^ ฉันยิ้มตอบเพื่อนแบบร่าเริงเพื่อไม่ให้ยัยนั้นรู้สึกผิดแบบโอเวอร์มากเกินไป ก็แหม่ยัยนี้เล่นยกมือไหว้แล้วไหว้อีกแถมยังทำหน้าจะร้องไห้อีก นี่ขนาดรื่องเล็กๆนะ ถ้าเกิดยัยนี้เกินชนฉันล้มกลิ้งตกบันไดจะขนาดไหน ไม่มาจุดธูปขอโทษฉันเลยเรอะ (-__-:)
“แล้วแกไปสอบชิงทุนไปไหนละ อเมริกา จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศษ แอฟริกา ลาว เขมร อินเดีย...สรุปแกไปสอบชิงทุนที่ไหนนน บอกมาๆ”
โอ้โห่ยัยนี้เล่นร่ายรายชื่อประเทศทั่วโลกมาเลยอะ จะบอกอย่างไงดีละนี้ อันที่จริงเราก็ไม่ได้ไปไหนไกลเลยซะด้วยสิ ถ้ารู้แล้วจะไม่โดนล้อตายเลยหรอเนี่ย ใจจริงเราก็อยากไปเหมือนกันนั้นละนะ อเมริกา จีน เกาหลี ญี่ปุ่น แต่ดันไม่กล้าขึ้นเครื่องบินนี่สิ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้นเลยนะ (T___T)
‘’เอ่อ...คือไม่ได้ไปไกลขนาดนั้นหรอกนะ”
“แล้วแกไปไหนละถ้าไม่ใช่ อเมริกา จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศษ แอฟริกา ลาว เขมร อินเดีย... อ่อรู้ละพม่าใช่มั้ยพม่า แกไปเรียนที่พม่าใช่ปะ ฮ่าๆๆๆ” บลูเบล์ถามไปหัวเราะไป
“ไม่ใช่ๆ ฉันไม่ได้ไปไหนไกลซะหน่อยก็เรียนอยู่ในประเทศไทยนี่ละ” ฉันรีบบอกก่อนที่บลูเบล์จะร่ายชื่อประเทศเพื่อนบ้านออกมาอีก
“อ่าว... แล้วแกไปสอบชิงทุนที่ไหนต่างดาวเรอะ” บันนี่ถามด้วยน้ำเสียงอันเอื่อยเฉื่อย
“ปะ...ป่าวซะหน่อย” ให้ตายเถอะอุสาห์บอกว่าไม่ได้ไปไหนไกลอยู่ในประเทศไทยนี่ละ ยังจะมาหาว่าเราไปเรียนที่ต่างดาวอีกอะ โห่เพื่อนเราคิดไปได้ ไอคำว่าต่างดาวนี่มันไกลเกินจากคำว่าต่างประเทศแล้วด้วยซ้ำ (T____T)
“สรุปแล้วแกจะย้ายไปเรียนที่ไหนละ”
“ที่โรงเรียนเอกชนฮายไวท์ไง เราไปสอบชิงทุนที่นั้นมา” ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจบอกออกไปในที่สุด ก็แหม่โรงเรียนฮายไวท์นี่อยู่ห่างจากโรงเรียนสตรีเซ็นต์เออตัวที่ฉันเรียนอยู่ไม่กี่ซอยเองนี่น่า ช่างเป็นการย้ายโรงเรียนที่ยิ่งใหญ่น่าจัดงานเลี้ยงส่งเหลือเกิน
(…………………………………….)
ตู้ดๆๆๆไม่มีสัณญานตอบกลับจากเหล่าเพื่อนๆที่ท่านเรียกในขณะนี้ พอบอกปุ้ปก็เงียบกันปั้ป นั้นไงว่าแล้วทุกคนต้องหาว่าฉันบ้าแน่ๆเลยที่อ่านหนังสือแทบตายเพื่อไปสอบแค่โรงเรียนข้างๆเนี้ย ไม่นร้า (T______T)
“กรี๊ดๆ...”อยู่ดีๆยัยกระต่ายน้อยบันนี่เกริล์ก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยสีหน้าลัลล้าได้โล่ พร้อมกับมาเขย่าตัวฉันไปมา พร้อมกับถามฉันว่า”นี่แกไปสอบชิงทุนที่โรงเรียนฮายไวท์มาจริงๆหรอ จริงๆใช่มั้ย ไม่ได้ล้อพวกเราเล่นนะแก” บันนี่ยิงคำถามมาเป็นชุดจนไม่รู้จะตอบอันไหนก่อน อยากกรี้ดตามแล้วนร้าไอเพื่อนบ้า คนเค้ามองกันมาทั้งโรงอาหารแล้วเนี้ย ถามเบาๆก็ได้นะทีหลัง (TT)
“ชะ...ชะใช่แล้ว โรงเรียนฮายไวท์นั้นละ อย่าโกดจนฆ่าฉันเลยนร้า ฉันขอโทด” ฉันบอกด้วยเสียงที่เหมือนคนจะร้องไห้ อันที่จริงก็ไม่ใช่เหมือนละก็ฉันจะร้องจริงๆแล้วนี่ละ แงงงงง... T___T
พอบันนี่เห็นฉํนทำท่าจะร้องไห้ เนื่องจากความกลัวเพื่อนจะหาว่าบ้าที่ย้ายจากโรงเรียนเดิมไปแค่ไม่กี่ซอย ทุกคนไม่ต้องสงสัยนะคะ ฉันเป็นคนที่ขี้แยมากถึงมากที่สุดาเลยละคะ
“อ้าวเห้ย! แล้วนี่แกจะร้องไห้ทำไมวะ ฉันแค่ถามแกเฉยๆนะเว้ยไม่ได้จะฆ่าแกสะหน่อยยัยบ้านิ” (-____-^^) ยัยบันนี่แว้ดใส่ฉัน แหม่ๆจะไม่ให้ร้องได้ไงอ่า เล่นเขย่าตัวฉันซะ ไหล่แทบหลุด
“บันนี่แกก็น่าจะรู้ว่ายัยลูเซียขี้แยขนาดไหน ฮ่าๆๆๆๆ เด็กเอ๋ยเด็กดีขวัญมานะจ๊ะขวัญมา” บลูเบล์พูดปลอบฉันพลางเอามือลูบหัวฉันเบาๆ ดูดู้ดูดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้ T___T ถึงฉันจะขี้แยยแล้วมันไปเดือดร้อนใครกัน เดือดร้อนครายยย แล้วจะมาลูบหัวฉันยังกะเด็กทำไมมมม น่าอ้ายน่าอาย ยัยเพื่อนบ้า
“ฉันไม่ได้ร้องไห้สะหน่อย” ฉันรีบแย้งเพื่อนๆที่ทำท่ากล่อมฉันยังกับเด็กอนุบาล “แล้วทำไมเธอต้องกรี๊ดเหมือนมีใครตายแถมกับมาเขย่าเราซะไหล่แทบหลุดด้วยเล่า” ฉันรีบถามบันนี่ก่อนที่ยัยนี่จะมาเขย่าฉันอีกรอบในข้อหาขี้แยยเกินเหตุ
“ก็มัน... อร้ายยยย อิจฉาแกอะไอลู่ แกได้ไปเรียนที่ฮายไวท์เลยนะเว้ย”
(0.0??) “ฮายไวท์ฮายสคูลมันก็เป็นแค่โรงเรียนเอกชนที่ดีเลิศในการสอนเท่านั้นเองนะจะอิจฉาเราทำไม
“แกนี่มัน... ฉันไม่สนไอการสงการสอนหรอกนะ แต่ที่ฉันอิจฉานะก็แกจะได้ไปเรียนในรั่วเดียวกะพี่แทยุนต่างหากเล่า แค่คิดว่าจะได้เรียนในรั่วเดียวกันนฉันก็ฟินแล้วอะแก...อร้ายยยยเขิน “บันนี่พูดทั้งๆที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศ “แล้วแกจะย้ายไปเรียนวันไหนละ เดียวจะได้ตามไปด้วย ไปหาพี่แทยุนสุดหล่อออออ” เขินอยู่ไม่นานยัยบันนี่เพื่อนเลิฟก็หันมาถามคำถามที่ฉันลุ้นแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับผลออกมาก็คือนั่งเหม่อเหมือนวันนี่ไง Y__Y สงสัยยัยนี้จะคิดว่าฉันสอบผ่านแล้วชัวร์เลย
“เอ่อ...คือผลมันยังไม่ประกาศนะ ฉันถึงได้ลุ้นอยู่นี่ไง”
“แกได้อยู่แล้วละลูลู่ เรียนเก่งอย่างกับเป็นลูกสาวของไอสไตน์ซะขนาดนี้ ไม่ติดให้มันรู้ไปสิ” บลูเบล์ที่เงียบไปนานในที่สุดก็พูดจนได้ แล้วมาเปรียบเทียบอะไรฉันกับอัลเบริต์ ไอสไตน์ ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้นซะหน่อยนะแงงงงงงงง
“บลูเบล์เธอก็ชมเราเกินไปแล้ว เราไม่เก่งขนาดนั้นซะหน่อย”
“จ้าๆ ไม่เก่งเล้ย ไม่เก่งเลยได้เกรดสี่ทุกปีนี้ไม่เก่งเลยเนอะพวกเรา”
“ช่ายยยยย ไม่เก่งเลยยยยยย” ยัยบันนี่เสริม
“ทุกคนก็ อย่าพูดแบบนี้เซ้ เรานะ...”ก่อนที่ฉันจะพูดจบประโยค อาจารย์จารุวรรณก็มาเรียกฉันไว้ซะก่อน
“ลูเทเซีย มาพบครูที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียนด้วยนะ ครูมีเรื่องสำคัญจะพูดกับเรา” พูดจบอาจารย์ก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ฉันคิดแต่เรื่องที่อาจารย์จะพูดกับฉันในตอนย็นจนไม่สนใจบลูเบล์กับบันนี่ที่กำลังทำท่าทางสงสัยฉันขึ้นไปอีก
กริ้งๆๆๆๆ
ในที่สุดกริ่งบอกเวลาหมดพักเที่ยงก็ดังขึ้นเป็นสัณญานที่บอกกับพวกเราว่าควรขึ้นห้องเรียนได้แล้ว ก็ถือว่าเป็นโชคช่วยที่ฉันจะได้ต้องตอบคำถามสองคนนั้นก็ได้ ในกลุ่มเราที่เหมือนจะเข้าใจฉันก็มีแต่บีมมี่นี่ละ ยัยนี้ไม่เคยแกล้งฉันสักครั้งเดียว มีแต่จะช่วยฉันนั้นละ ส่วนบอมแบมก็เงียบเกินไปเหมือนกับไม่มีตัวตนอยู่ในกลุ่มซะงั้น พอเดินมาถึงห้องต่างคนต่างแยกย้ายไปยังห้องเรียนของตนเอง โชคยังดีที่ฉันได้เรียนห้องเดียวกับบีมมี่ ไม่งั้นฉันต้องโดนพวกแก๊งหลังห้องล้อจนร้องไห้ขี้มูกโป่งเหมือนเด็กอนุบาลชัวร์เลย
หลังจากที่กริ่งเลิกเรียนดังขึ้น ฉันได้รีบบอกลาบีมมี่เพื่อนเลิฟเพื่อที่จะรีบไปห้องพักครูของอาจารย์จารุวรรณ และทันทีที่ฉันได้มาพบอาจารย์ ท่านก็ได้มอบจดหมายที่ดูเป็นทางก้านทางการให้กับฉัน
ถึง นางสาวลูเทเซีย อัศวะธารา
ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ท่านได้รับเลือกให้ผ่านเข้าเรียนในโรงเรียนของเรา เนื่องจากท่านมีคะแนนสูงสุดจากจำนวนผู้สมัครทั้งหมด 500 คน ดังนั้นทางเราจึงเรียนให้ท่านทราบว่าท่านได้ผ่านการคัดเลือกแล้ว จะได้สิทธ์ในการย้ายมาเรียนที่ฮายไวท์ไฮสกูลในอาทิตย์หน้า กรุณามามอบตัวภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ด้วยไม่งั้นจะถือว่าท่านสละสิทธ์
ด้วยความเคารพอย่างสูง
.นายประเสริฐ์ รัตนชาติ
ผู้อำนวยการโรงเรียนฮายไวท์ไฮสกูล
หลังจากที่ได้อ่านจดหมายฉันก็ดีใจจนแทบจะเต้นจังหวะสามช่าออกมาให้อาจารย์ดูซะเลยแต่ก็ไม่กล้าเต้น เพราะกลัวว่าอาจารย์ท่านจะเป็นลมไปซะก่อนกับท่าเต้นอันพิศดารของฉัน หลังจากอ่านจดหมายแล้วอาจารย์ก็ได้ทำเรื่องลาออกให้กับฉัน แล้วได้เตรียมใบส่งตัวกับใบประวัติอีกมากมายเพื่อที่จะให้ฉันไปยื่นที่โรงเรียนฮายไวท์ในวันศุกร์นี้ แต่จะว่าไปพรุ่งนี้มันวันศุกร์แล้วนี่ อะไรจะเร็วป่านนี้ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะได้เรียนที่โรงเรียนนี้กับเพื่อนๆงั้นหรือแค่คิดก็เศร้าซะแล้ว แต่ไม่เป็นไรลูเซีย พรุ่งนี้เราจะไปเริ่มใช้ชีวิตใหม่กันที่ ฮายไวท์ฮายสกูล แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว >.<!!
ผลงานอื่นๆ ของ BEAUTIFULSUNDAY ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ BEAUTIFULSUNDAY
ความคิดเห็น