ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่วงร้ายพ่ายเงารัก

    ลำดับตอนที่ #6 : บ่วงร้ายพ่ายเงารัก ตอน 5 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 56


     

      

    ตอนที่ 5

                ใบหน้ารูปไข่ตกใจสุดขีดพยายามดิ้นสุดชีวิตเพื่อช่วยเหลือตัวเอง สีหน้าแววตาของนคินทร์เวลานี้ช่างน่ากลัวเหลือเกินเขากลายเป็นซาตานร้ายที่จิตใจเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพราวตะวันก็บอกกับตัวเองว่าครั้งนี้เป็นตายร้ายดีเธอจะสู้ให้ถึงที่สุดเธอจะไม่มีวันยอมตกเป็นของผู้ชายสารเลวคนนี้เป็นครั้งที่สอง พราวตะวันยกมือทั้งสองข้างที่ยังเป็นอิสรขึ้นมาปัดป้องทั้งผลักทั้งข่วนอีกฝ่ายอย่างเต็มกำลังที่จะทำได้ แต่สุดท้ายมือนั้นกลับถูกมือหนาใหญ่ตรึงไว้กับเตียงจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีก

                    "อย่าทำฉัน ฉันขอร้อง ฉันขอร้อง!!"

                    คนตกเป็นรองเอ่ยปากร้องขอความเห็นใจ แต่คำขอร้องนั้นมันไม่ได้ทำให้การกระทำของคนได้เปรียบหยุดลงเลยสักนิด นคินทร์ยังซุกไซร้ไปทั่วซอกขอซ้ายขวาอย่างหนักหน่วง ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาบดขยี้ริมปากสีกุหลาบที่เวลานี้มันสั่นระริกไปด้วยความกลัว รสจูบที่ถูกบดขยี้ไปด้วยอารมณ์แห่งความเคืองแค้น ทำให้พราวตะวันร้องเสียงระส่ำออกมา ร่างบางที่ไร้อิสรภาพพยายามฝืนดิ้น แต่ยิ่งดิ้นริมฝีปากเธอที่ถูกตรึงไว้ด้วยริมฝีปากของเขากลับได้รับรสชาติที่แสนเจ็บปวดยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกเท่าตัว อารมณ์แห่งความแค้นที่พุ่งพล่านผสานไปกับอารมณ์ตัณหาพาให้นคินทร์ลืมความเป็นบุรุษเพศที่ต้องให้เกียรติเพศแม่ไปหมดสิ้น มือหนาใหญ่ที่กดตรึงมือของอีกฝ่ายไว้ถูกยกขึ้นมาปลดตะขอกางเกงของคนที่อยู่ด้านล่างให้ล่นออก พราวตะวันตกใจหน้าตื่นไปมากกว่าเก่าเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะเข้าใกล้พื้นที่ส่วนตัวของเธอเข้าให้แล้ว

                    มือข้างหนึ่งที่ถูกปล่อยยกขึ้นมาปัดป้องดึงกางเกงของตัวเองไม่ให้ถูกเขาล่นลงไปด้วยสัญชาตญาณ แต่ก็เกินจะต้านแรงแค้นและแรงตัณหาที่เวลานี้เข้าครอบงำจิตใจของนคินทร์ไปแล้วเต็มๆ ชายหนุ่มยังบดขยี้กลีบปากบางของหญิงสาวอย่างไร้การทนุถนอม แต่เมื่อหนำใจจึงปล่อยสัมผัสที่ไร้ความปราณีแล้วมองคนที่เนื้อตัวสั่นเทาด้วยดวงตาแข็งกร้าว

                    "เธอรู้มั้ยว่าพี่สาวเธอทำอะไรกับฉันไว้บ้าง" นคินทร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด พาให้พราวตะวันที่ตัวสั่นเป็นลูกนกทั้งสั่นทั้งตระหนกไปกับน้ำเสียงและแววตาที่ดุดันของเขา

                    "พี่สาวเธอหลอกให้ฉันรักจนหัวปักหัวปรำ ต่อหน้าฉันทำเป็นผู้หญิงแสนดีตีหน้าซื่อว่ารักฉันเหลือเกินแต่พอลับหลังกลับสวมเขาให้ฉันเป็นไอ้หน้าโง่!! ผู้หญิงแบบนี้ฉันควรเรียกว่าอะไรดี ฉันควรให้คำจำกัดความกับการกระทำของพี่สาวตัวดีของเธอยังไงดี...ฉันรักแพรดาวมาก และฉันก็เจ็บปวดมากที่ผู้หญิงคนนั้นทรยศหักหลังฉัน เพราะฉะนั้นฉันจะเอาคืน เอาคืนให้สาสมกับที่พี่สาวเธอทำไว้กับฉัน!"

                    อารมณ์โกรธเดือดดาลของนคินทร์ปะทุออกมาอย่างหนักหน่วง ทำให้พราวตะวันอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินทั้งหมดที่เขาพูดออกมา เธอทั้งงงเธอทั้งอึ้ง อึ้งจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าเธอควรจะต้องรู้สึกแบบไหนสงสารใครดี เพราะเวลานี้สิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตรงหน้ามันไม่ใช่ปัญหาที่เธอก่อขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยสักนิด แล้วทำไมเธอจะต้องมารองรับอารมณ์และการกระทำที่ดูไร้ความเป็นคนจากผู้ชายคนนี้ด้วย พราวตะวันคิดถึงพี่สาวตัวเองแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ พี่สาวของเธอคงได้รู้ได้เห็นด้านมืดของผู้ชายคนนี้จนทนไม่ได้แล้วตัดสัมพันธ์จากเขาไปในที่สุด แต่แล้วหญิงสาวก็กลับมามองตัวเองที่เวลานี้กำลังตกอยู่ในภาวะคับขันจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ความสงสารทั้งหมดในหัวใจจึงกลับกลายมาสงสารตัวเองแทน

                    "หึหึ พี่แพรคงได้เห็นความชั่วช้าของคุณจนทนไม่ได้ ก็เพราคุณโหดร้ายแบบนี้ไงคุณคินทร์พี่แพรถึงไปจากคุณ" พราวตะวันตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายไปแบบนั้น เพราะเธอได้เห็นการกระทำด้านมืดที่ไม่เคยเห็นในตัวนคินทร์มาก่อน จึงคิดไปว่าพี่สาวเธอคงจะอดรนทนไม่ได้กับนิสัยของเขา แต่นคินทร์เมื่อได้ยินน้องสาวของผู้หญิงที่ตัวเองรักพูดออกมาแบบนั้นอารมณ์โกรธก็พุ่งปรี๊ดหนักไปกว่าเดิม

                    "ฉันเนี๊ยะนะชั่วช้า ได้!! ถ้าอยากให้ฉันชั่วอยากฉันเลวฉันก็จะเป็นอย่างที่พวกเธออยากให้เป็น แต่อย่ามาว่าฉันไม่ได้เพราะพวกเธอยัดเยียดมันให้ฉันเอง"

                    พูดจบนคินทร์ก็เอื้อมมือหนาของตัวเองไปดึงเสื้อยืดสีขาวตัวที่เขายื่นให้เธอใส่ก่อนหน้าหลุดออกมาจากแรงดึงของเขาทันที พราวตะวันได้เพียงแต่ร้องออกมาเสียงหลง มือไม้ปัดป่ายไม่ให้เขาสามารถดึงบราตัวน้อยออกตามไปอีกได้ สีหน้าที่เต็มไปด้วยความตระหนกซีดเผือด สองมือยกขึ้นมากอดชิดลำตัวเพื่อปกป้องสิ่งหวงแหน แต่ยิ่งพราวตะวันออกแรงมากเท่าไรเธอกลับต้องเจ็บตัวมากขึ้นไปอีกเท่าเพราแรงกระชากของอีกฝ่ายที่พยายามจะครอบครองร่างกายของเธอ

                    ผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิงที่รักมาตลอดเวลาที่คบหากัน สิ่งที่ทำได้มากที่สุดคือการกอดการหอม มากไปกว่านั้นเขาไม่เคยคิดแตะต้องให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักต้องมัวหมองไปด้วยราคีก่อนยังไม่ถึงเวลา แต่คราวนี้ความเจ็บแค้นที่มากจนล้นหัวใจมันครอบงำให้เขาปลดปล่อยการกระทำด้านมืดออกมา แต่คนที่ได้รับผลจากการกระทำด้านต่ำในครั้งนี้กลับไม่ใช่แพรดาวแต่เป็นน้องสาวอย่างพราวตะวันที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย นคินทร์เริ่มหงุดหงิดเมื่อพราวตะวันทั้งถีบทั้งข่วน และนั่นยิ่งจุดชนวนให้เขาจู่โจมอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ มือของนคินทร์สอดไปด้านหลังเพื่อหวังปลดตะขอบราของอีกฝ่ายให้หลุดออก แต่พราวตะวันมีหรือที่จะยอมเธอปกป้องและต่อสู้อย่างถึงที่สุด ร่างบอบบางที่แสนบอบช้ำกำลังจะถูกอีกฝ่ายลุกล้ำบัวสวรรค์ในอีกไม่ช้าเมื่อมือหนาใหญ่สามารถเอาชนะคว้าไปปลดตะขอบราให้หลุดออกได้ เหมือนฟ้ามีตาสงสารหญิงสาวที่กำลังเคราะห์ร้ายด้วยการประทานเสียงสรรค์ให้ดังขึ้น เสียงเคาะประตูห้องดังอยู่สามครั้งทำให้ร่างหนาใหญ่ที่ค่อมร่างของอีกฝ่ายไว้หยุดงะงัก สบโอกาสของพราวตะวันเธอผลักร่างใหญ่ให้กระเด็นออกไปจากตัวทันที

                    พราวตะวันรีบตะกุยตะกายตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียง หญิงสาวเอื้อมมือไปติดตะขอบราก่อนจะรีบไปคว้าเสื้อที่ร่วงกองอยู่กับพื้นขึ้นมาใส่ ร่างบางที่เวลานี้หลุดพ้นออกมาจากพันธนาการของเขาได้รีบพาตัวเองออกไปให้ไกลจากอีกฝ่ายทันที สองตาสอดส่ายหาโทรศัพท์ เมื่อสบโอกาสที่อีกฝ่ายดันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงไปยังประตูอย่างหัวเสีย เธอจึงรีบเขยิบตัวไว้คว้าเครื่องมือสื่อสารของตัวเองมาไว้กับตัวทันที นคินทร์มองผ่านกล้องตาแมวหน้าประตูก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลูกบิดประตูให้เปิดออก พนักงานหนุ่มของคอนโดจึงเข้ามาในห้องพร้อมกับชุดอาหาร พราวตะวันนึกขอบคุณบริกรคนนี้อยู่ในใจที่ทำให้เธอสามารถหลุดพ้นจากเนื้อมือของผู้ชายใจร้ายคนนี้ได้อีกครั้ง

                    บริกรหนุ่มยกอาหารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะกลางห้อง นคินทร์เดินตามหลังเข้ามาแต่ประตูยังเปิดอ้ารอให้คนที่เข้ามากลับออกไป พราวตะวันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายตาหญิงสาวมองตรงไปยังประตูที่เปิดอยู่ สลับกับเหลือบมองร่างของผู้ชายจิตใจโหดร้ายสลับกันอยู่พัก เมื่อสบโอกาสที่อีกฝ่ายหันหลังไปมองอาหารที่บริหนุ่มยกมาวางไว้เท่านั้น ร่างบางของพราวตะวันจึงรีบวิ่งตรงไปยังประตูอย่างไม่คิดชีวิตในทันที นคินทร์รีบหันขวับกลับมามองจึงเห็นแผ่นหลังของอีกฝ่ายกำลังจะหลุดออกไปจากประตูได้แล้วในเวลานี้ ชายหนุ่มรีบก้าวตามไปด้วยความโกรธหวังจะจับเธอกลับมาทำโทษให้สาสม แต่พราวตะวันก็ไม่รอให้เขาวิ่งตามได้ทันหญิงสาวเร่งฝีเท้าลงไปตามบันไดโดยที่ไม่มีใจจะรอลิฟท์ที่อีกเพียงชั้นเดียวก็จะลงมาถึงชั้นที่เธออยู่ นคินทร์รีบวิ่งตามออกมาจากห้อง ร่างใหญ่ที่ปิดทับด้วยชุดคลุมอาบน้ำทำให้เขาถูกมองจากสายตาหลายต่อหลายคู่ที่กำลังเดินออกมาจากห้องพักของคอนโดหรู ชายหนุ่มก้มมองร่างกายสลับกับสายตาหลายคู่เขาจึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่ไม่สมควรจะออกมาเดินแบบนี้ ร่างใหญ่จึงรีบเดินกลับเข้าห้องอย่างคนหัวเสีย

                    "ฝากไว้ก่อนเถอะพราวตะวัน ฉันจะทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่านี้ เพราะถ้าเธอเจ็บคนที่จะเจ็บไปซะยิ่งกว่าเธอก็คือพี่สาวตัวดีของเธอ"

                    นคินทร์พูดออกมาด้วยความโกรธเมื่อมาหยุดยืนอยู่ริมหน้าต่างของคอนโด เขามองลงไปเบื้องล่างเห็นร่างบางของหญิงสาวหยุดยืนอยู่ ประจวบกับที่พราวตะวันมองกลับขึ้นมาด้านบน สายตาสองคู่จับจ้องกัน พราวตะวันสะดุ้งโหยงเมื่อสายตาไปประสานกับอีกฝ่ายในระยะที่ไกลพอควร สีหน้าของคนที่ยืนอยู่ด้านบนแม้เธอจะเห็นในระยะไกลแต่มันทำให้ใจของเธอสั่นสะท้านไปกับดวงตาแข็งกร้าวที่จ้องราวกับจะขย้ำเธอให้ออกเป็นชิ้นๆ พราวตะวันหลบสายตานั้นก่อนจะรีบโบกแท็กซี่แล้วออกไปจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายป่าเถื่อนตรงนั้นทันที

                    เสียงหอบเหนื่อยของหญิงสาวเคล้าไปกับเสียงถอนหายใจด้วยความโล่งเมื่อพาตัวเองขึ้นมาอยู่บนรถแท็กซี่ พราวตะวันหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาให้ลืมขึ้นอีกครั้ง เธออยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงความฝันที่ตื่นขึ้นมาแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง หญิงสาวหน้าซีดเผือและอ่อนล้าเธอตื่นจากภวังค์แห่งความนึกคิดเมื่อมีเสียงถามจากโชเฟอร์ขับแท็กซี่ถามขึ้นมา

                    "หนูจะให้ลุงไปส่งที่ไหน"

                    "ค่ะ?...อ่อ เอ่อ ไปส่งที่หอพักปรายฟ้า แถวๆ มหา'ลัย เกษตรค่ะ" พราวตะวันบอกที่หมายให้คุณลุงคนขับแท็กซี่ ชายวันกลางคนลอบมองหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยแล้วปลดปล่อยลมหายใจออกมาอยู่เป็นระยะให้เขาได้ยิน

                    "เป็นอะไรรึเปล่าหนู ลุงเห็นนั่งถอนหายใจมาตลอดทางเลย" คนถูกถามสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มจางๆ ให้กับเจ้าของคำถามนั้น

                    "เอ่อ เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไรค่ะคุณลุง"

                    "ไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้ว...ลุงเห็นหนูแล้วก็คิดถึงลูกสาว ลูกสาวลุงก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหนูนี่ล่ะ หนูเรียนจบหรือยัง" พราวตะวันพยักหน้าช้าๆ เธอเพิ่งจะเรียนจบหมาดๆ ดีใจได้ยังไม่ทันข้ามคืนอนาคตที่กำลังจะสดใสของเธอกับมีอันต้องมามัวหมอง เมื่อนึกมองไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ยิ่งทำให้หญิงสาวหน้าเศร้าลงไปถนัดตา

                    "หนูเพิ่งเรียนจบค่ะ" สิ่งที่เธอตอบมันน่าจะทำให้เธอดีใจที่ตัวเองเรียนจบ แต่สีหน้าแววตาคนพูดกลับไม่เป็นเช่นนั้น ใบหน้ารูปไข่ของพราวตะวันถูกความเศร้าเข้าครอบครองจนเต็มพื้นที่

                    "ทำไม่หนูดูไม่ดีใจเลย" คนถูกถามไม่ตอบ แต่ย้อนถามลุงโชเฟอร์ถึงเรื่องลูกสาวของเขาแทน "แล้วลูกสาวคุณลุงเรียนจบรึยังค่ะ"  ลุงวัยกลางคนยิ้มกว้างให้กับคำถาม

                    "เพิ่งจบเหมือนหนูนี่ล่ะ ลุงดีใจที่สุดเลยหนูรู้มั้ย เพราะทุกวันที่ทำงานงกๆ ก็เพราะลูก เมื่อก่อนลุงก็ทำนาอยู่บ้านนอกนี่ล่ะ พอหมดหน้านาก็เข้ามาขับแท็กซี่ ลุงอยากมีเงินพอส่งให้ลูกลุงเรียบจบสูงๆ ความสุขที่สุดในชีวิตของลุงคือการเห็นลูกมีอนาคตที่ดี ไม่ต้องลำบากเหมือนลุง"

                    พราวตะวันฟังลุงคนขับแท็กซี่ด้วยความรู้สึกปลื้มปิ่มในหัวใจ ย้อนให้เธอกลับไปคิดถึงพ่อกับแม่ของตัวเอง ลูกสาวเกษตรกรชาวสวนที่เติบโตมาท่ามกลางครอบครัวของคนต่างจังหวัด เธอเห็นพ่อและแม่ทำงานหนักมาตั้งแต่เธอจำความได้ ชีวิตของเกษตรกรที่หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินทำมาหากินภายใต้ผืนแผ่นดินพระบรมโพธิสมภาร หยาดเหงื่อทุกหยดที่หลั่งรดมาจากความเหน็ดเหนื่อยเธอไม่เคยได้ยินบุพการีบ่นอุบให้ได้ยินเลยสักครั้ง และนั่นจึงเป็นสิ่งผลักดันให้ลูกเกษตรกรคนนี้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะกลับไปสานต่ออาชีพทำกินของพ่อกับแม่ของตัวเอง

                    "คุณลุงเป็นคุณพ่อที่ดีจังเลยค่ะ แบบนี้ลูกสาวคุณลุงคงรักคุณลุงมาก" พราวตะวันชื่นชมให้กับความเป็นพ่อที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในหัวใจของผู้ชายวัยกลางคนท่านนี้ คนถูกชมยิ้มอย่างภาคภูมิเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขใจที่คนมองอย่างพราวตะวันสัมผัสได้จริงๆ 

                    "คุณลุงจอดข้างหน้านั่นล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณลุงทำให้หนูคิดถึงพ่อกับแม่...หนูก็เป็นลูกของชาวสวนคนหนึ่งค่ะ ยิ่งได้ยินคุณลุงพูดมาแบบนี้มันยิ่งทำให้หนูเข้าใจเลยค่ะว่าสิ่งที่พ่อกับแม่ทำอยู่ท่านไม่ได้ทำเพื่อใครเลยนอกจากเพื่อลูก ลูกคุณลุงโชคดีที่มีคุณพ่ออย่างคุณลุง และหนูเองก็โชคดีไปไม่น้อยกว่าลูกสาวของคุณลุงที่มีพ่อแม่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อหนูเหมือนกัน โชคดีนะคะคุณลุง "

                     โชเฟอร์วัยกลางคนหยุดรถหน้าหอพักปรายฟ้า หญิงสาวก้มมองหากระเป๋าแต่ก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้หยิบกระเป๋าของตัวเองออกมาจากห้องนั้น หญิงสาวหน้าเสียจนคุณลุงคนขับเห็นอาการ

                    "คุณลุงค่ะหนูลืมหยิบกระเป๋ามาค่ะ คุณลุงรอหนูอยู่ตรงนี้สักครู่ได้มั้ยค่ะ หนูจะเข้าไปขอยืมพี่เจ้าของหอมาให้ก่อน" พราวตะวันรีบเอื้อนเอ่ยบอกลุงขับแท็กซี่ด้วยความรู้สึกเกรงใจ คุณลุงต่างวัยยิ้มให้เด็กสาวคราวลูก

                    "ไม่เป็นไรหรอกหนูไม่มีก็ไม่ต้องให้ลุง ลุงยังรับผู้โดยสารได้อีกเยอะ ถือซะว่าเป็นของขวัญเรียนจบที่ลุงให้หนูแล้วกันนะ" พราวตะวันมองชายวัยกลางคนตรงหน้าด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดี ในโลกใบนี้ยังมีน้ำใจที่ดีแสนดีจากคนในสังคมเวลานี้หลงเหลืออยู่ พราวตะวันยิ้มให้กับความมีน้ำใจที่หัวใจของเขาช่างน่านับถือยิ่งนัก

                    "ขอบคุณมากนะคะคุณลุงที่มีน้ำใจกับหนู  แต่คุณลุงต้องทำมาหากิน รถก็ต้องเช่า หนูไม่อยากทำให้คุณลุงต้องเสียรายได้นะคะ คุณลุงรอหนูตรงนี้สักครู่เถอะนะคะเดี๋ยวหนูรีบไปเอาเงินมาให้ อย่าขับหนีหนูไปนะคะไม่อย่างนั้นหนูคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ"

                    ลุงขับแท็กซี่ยิ้มพลางพยักหน้าให้กับคำยืนกรานของเด็กสาว พราวตะวันรีบลงจากแท็กซี่วิ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ซึ่งมีเจ้าของหอพักนั่งอยู่ตรงนั้น เด็กสาวหยิบยืมเงินจากเจ้าของหอพักที่สนิทสนมกันเพราเธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี.1 เมื่อได้เงินมาปุ๊ปหญิงสาวจึงรีบวิ่งกลับมาที่รถทันที

                    "นี่ค่ารถค่ะคุณลุง ขอบคุณนะคะที่มีน้ำใจให้กับเด็กต่างจังหวัดอย่างหนู โชคดีนะคะคุณลุง" พราวตะวันส่งธนบัตรใบสีแดงสองใบให้ลุงวัยกลางคน เขารับไปพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เด็กสาวอีกครั้ง

                    "โชคดีเช่นกันนะหนู"

                    คำพูดสุดท้ายของลุงขับแท็กซี่พูดทิ้งท้ายให้กับพราวตะวันเธอยืนมองจนรถขับออกไป คำอวยพรของบุคคลที่จะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมโลกที่เพิ่งรู้จักกันดังก้องเข้ามาในโสตประสาท  เธออยากโชคดีความโชคดีเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนพึงปรารถนา แต่สิ่งที่เธอเพิ่งพานพบมามันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอหดเหลือเท่าเม็ดถั่ว ชีวิตเด็กสาวที่เข้ามาร่ำเรียนในเมืองใหญ่มาพร้อมด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เพราะเธอมีฝัน เธออยากให้ฝันที่ร่างไว้กลายเป็นความจริง และเมื่อมันกำลังจะเป็นจริงกลับต้องมีสิ่งลดทอนให้จิตใจของเด็กสาวช่างฝันมีอันต้องมัวหมอง แววตาที่ฉายแววเศร้ายืนมองแท็กซี่ของคุณลุงที่มิตรไมตรีขับไปจนลับตา ก่อนที่เธอจะเดินกลับเข้ามาด้านใน

                    "พี่ฟ้าค่ะ เดี๋ยวพราวขึ้นไปหยิบเงินมาคืนให้นะคะ" พราวตะวันเอ่ยบอกพี่เจ้าของหอคนสนิท หญิงสาวอายุอานามใกล้เคียงกับพี่สาวของเธอยิ้มกว้างมาให้

                    "จ้า ยังไม่ต้องรีบเอาลงมาให้ก็ได้นะพราว ไว้จะลงมาก็ค่อยเอามาให้พี่ก็ได้ พี่ก็อยู่ตรงนี้นี่ล่ะ " เจ้าของคำพูดพูดจบก็ยิ้มให้เด็กสาวอีกครั้ง พราวตะวันยิ้มให้เธอพร้อมกับพยักหน้า

                    "ขอบคุณนะคะพี่ฟ้า...พราวจะแจ้งเรื่องย้ายออกเลยนะคะ พรุ่งนี้เช้าพราวจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว" พราวตะวันพูดพลางเดินเข้ามาหาเจ้าของหอที่ตรงเคาน์เตอร์จนลืมไปว่าตรงศีรษะและบริเวณตามเนื้อตัวมีร่องรอยของความบอบช้ำให้คนมองเห็นได้ชัด

                    "อ้าว!! จะไปพรุ่งนี้เลยเหรอพราว พี่คิดว่าเราจะอยู่ที่กรุงเทพฯ อีกสักพักเสียอีก" เจ้าของหอรีบถาม

                    "ค่ะ คงกลับพรุ่งนี้เลย พราวไม่รู้จะอยู่ต่ออีกทำไมค่ะ บอกที่บ้านไว้แล้วว่าถ้าเรียนจบปุ๊บก็จะกลับไปช่วยงานที่บ้านเลย" พราวตะวันยิ้มบางๆ พลางบอกพี่เจ้าของหอ สีหน้าคนพูดดูอิดโรยไปมากทำให้คนมองสังเกตเห็น

                    "จ๊ะ...พราวเป็นอะไรรึเปล่าทำไมดูเหนื่อยๆ หน้าก็ซีดเซียวนะเรา" คนมองสังเกตสีหน้าเด็กสาวตรงหน้า แล้วจึงได้เห็นว่าบริเวณหน้าผากมีรอยแผลที่ดูท่าจะอักเสบแดงจนเห็นชัด พลางเลื่อนไปสำรวจเสื้อผ้าที่พราวตะวันใส่มามันดูไม่คุ้นตานัก แถมตามแขนยังมีรอยเขียวเป็นจ้ำๆ อยู่หลายจุด  คนถูกจ้องทำตัวไม่ถูกยกมือขึ้นปิดแผลแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว คนมองที่ก่อนหน้ายืนอยู่ด้านในรีบจ้ำอ้าวเดินออกมาหาเด็กสาวที่ตัวเองเอ็นดูทันที

                    "พราว!! หน้าผากไปโดนอะไรมา ทำไมมันแตกจนอักเสบแบบนี้" คนเห็นตกใจหน้าเสีย ทำให้คนถูกถามอึกอักไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรเช่นกัน

                    "เอ่อ พราว พราวซุ่มซ่ามค่ะพี่ฟ้าเดินชนประตูห้อง มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ" พราวตะวันตอบไปแบบนั้นแต่สายตาเวลาตอบกลับไม่จ้องไม่มองคนถามเลยสักนิด ฟ้าหรือปรายฟ้า หญิงสาวคนหนึ่งที่พราวตะวันสนิทสนมและค่อนข้างไว้ใจมองหน้าเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก หญิงสาวเลื่อนสายตามองตามแขนของอีกฝ่ายก่อนจะยกสองแขนของพราวตะวันขึ้นมาดูอย่างพิจารณา

                    "แล้วรอยเขียวๆ ตามแขนพวกนี้ละ ไปโดนอะไรมา อย่าบอกนะว่าพราวซุ่มซ่ามเดินไปชนอะไรมาอีก"

                    คนถามพูดดักคอ รอคอยคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างไม่สบายใจนัก พราวตะวันที่เวลานี้โดนถามอย่างจนมุม ใบหน้าที่ซีดเผือดเจือไปด้วยความเศร้ามันกำลังมีหยดน้ำใสๆ คลอเบ้าให้อีกฝ่ายได้เห็น พราวตะวันโผเข้ากอดปรายฟ้าพร้อมกับสะอื้นไห้ สาวรุ่นพี่ตกใจรีบกอดรับเด็กสาวไว้แน่นในทันที

                    "พราวเป็นอะไร ใครทำอะไรพราวบอกพี่ได้มั้ย" เด็กสาวในอ้อมกอดไม่ตอบได้เพียงแต่สะอื้นไห้พร้อมกับส่ายหน้าไปมา เมื่อคนโตกว่าเห็นว่ามีผู้คนเข้าออกหอหนาตาขึ้นจึงรีบพาพราวตะวันกลับขึ้นมาบนห้อง เพราะไม่อยากให้คนร้องไห้สะอึกสะอื้นถูกมองด้วยสายตาที่แปลกประหลาดใจ

                    เมื่อสองสาวก้าวขึ้นมาถึงห้องพัก พราวตะวันถูกพามานั่งลงที่ปลายเตียง เธอได้เพียงแต่ก้มหน้าร้องไห้โดยมีปรายฟ้านั่งอยู่เคียงข้างจ้องมองเด็กสาวที่รักและเอ็นดูเสมือนน้องสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เธอปล่อยให้พราวตะวันปลดปล่อยน้ำตาออกมาให้เต็มที่ เมื่อไรที่พร้อมจะพูดเธอพร้อมจะรับฟังและให้คำปรึกษา เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาทั้งพราวตะวันและณิชานันท์มักจะไว้วางใจไปปรึกษาเวลาที่มีเรื่องหรือมีปัญหากับปรายฟ้าเสมอ

                    "พี่ฟ้า!! พราวถูก ฮือ...ถูกข่มขืน ฮือๆ" เด็กสาวตรงหน้าปล่อยโฮพร้อมกับตัดสินใจพูดออกมาด้วยน้ำตานองหน้า คนได้ยินตกใจสุดขีด ใบหน้าคมสวยอ้าปากค้าง ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกอดเด็กสาวตรงหน้าอย่างสงสารจับหัวใจ น้ำตาคนกอดพาลไหลให้กับความโชคร้ายของน้องสาวร่วมโลกที่เธอรัก

                    "ร้องไห้ออกมาให้พอพราว ให้พี่สาวคนนี้ได้ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของพราวนะ"

                    สองสาวกอดกันกลม หยดน้ำตาแห่งความเศร้าหมองเอ่อล้นออกมาให้โชคชะตาที่เล่นตลกกับชีวิต ซ้ำร้ายผู้ชายที่สร้างรอยราคีให้กับชีวิตของเธอครั้งนี้กลับเป็นคนที่พี่สาวของเธอเคยรักสุดหัวใจ ความเจ็บปวดกัดกินก้อนเนื้อข้างซ้ายเป็นความเจ็บปวดที่เจ็บที่สุดในชีวิตแล้วที่พราวตะวันพบเจอมา สองมือเรียวของปรายฟ้ายกขึ้นเช็ดน้ำตาให้กับใบหน้ารูปไข่ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสารจับขั้วหัวใจขึ้นทุกที

                    "บอกพี่ได้มั้ยว่าใครที่มันทำกับพราวแบบนั้น" คนถามกัดฟันถาม เพราะรู้ว่ามันจะเป็นคำถามที่สร้างความเจ็บปวดใจให้พราวตะวันขึ้นมาอีก สาวน้อยตรงหน้าเม้มปากแน่น เหลือบมองพื้นห้องอยู่พักก่อนจะส่ายหน้าไปมาช้าๆ ปรายฟ้าเข้าใจดีว่ามันยากยิ่งแค่ไหนที่จะต้องมาเอ่ยบอกว่าใครคือผู้ชายที่พรากพรหมจารีของตัวเองไป สาวรุ่นใหญ่กว่าได้เพียงแต่พยักหน้า ไม่เค้นหาคำตอบที่มันจะทำร้ายหัวใจของเด็กสาวรุ่นน้องอีก

                    "พราวยังไม่พร้อมที่จะบอกพี่ก็ไม่เป็นไร พี่จะไม่เค้นเอาคำตอบให้พราวต้องเจ็บปวดอีก แต่พราวจำไว้นะว่าพี่ฟ้าจะอยู่เคียงข้างพราวเสมอ ให้คิดว่าพี่เป็นพี่สาวอีกคนหนึ่งที่รักและหวังดีกับพราว เมื่อไหร่พี่พราวพร้อมจะเล่า พี่สาวคนนี้ก็พร้อมที่จะรับฟังและช่วยพราวเสมอถ้าพราวต้องการ" เด็กสาวตรงหน้ามองสาวรุ่นใหญ่กว่าด้วยแววตาแห่งความเชื่อใจ พราวตะวันพยักหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาอีก

                    "ขอบคุณนะคะพี่ฟ้า นอกจากพี่แพรกับณิชา อีกคนที่พราวรักและไว้ใจก็คือพี่ฟ้านะคะ ขอบคุณที่อยู่ข้างๆ พราวในวันที่พราวไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน เรื่องนี้ขอให้เป็นความลับระหว่างเราสองคนนะคะ แม้กระทั้งณิชาพี่ฟ้าก็อย่าบอกนะ" พราวตะวันพูดด้วยสายตาอ้อนวอน ปรายฟ้าพยักหน้าให้เด็กสาวอย่างหนักแน่น

                    "จ๊ะ เราจะรู้เรื่องนี้กันแค่สองคน เชื่อใจพี่ได้เลย" พราวตะวันพยักหน้าเชื่อในคำพูดของเธอ

                    "พราวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายเนื้อสบายตัวก่อนเถอะนะ จะกลับบ้านพรุ่งนี้ใช่มั้ย เดี๋ยวพี่ช่วยเก็บของนะ"

                    "ค่ะ ขอบคุณนะพี่ฟ้า" เด็กสาวรับคำ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้คนที่มองตามมองด้วยความรู้สึกที่เห็นสงสารจับใจ

                    พราวตะวันอาบน้ำอยู่นาน เธอขัดถูร่องรอยแห่งความอัปยศให้ออกไปจากเนื้อตัวแล้วให้สายน้ำที่ไหลผ่านลงมาจากฝักบัวชำระสิ่งที่เธอมองมันว่าน่าขยะแขยงที่สุดให้ออกไป น้ำตาที่ไหลผสมไปกับสายน้ำมันค่อยๆ ชะล้างร่องรอยแห่งราคีให้เจือจางในความรู้สึกลงไปได้บ้าง หญิงสาวออกมาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ สีหน้าดูสดใสกว่าตอนแรก แต่แววตายังเต็มไปด้วยความหม่น เด็กสาวเดินมาเปิดตู้ที่มีเสื้อผ้าอยู่ไม่เยอะมากเธอรวบมันลงมาจากราวแล้วพับลงกระเป๋าที่ละตัว พราวตะวันเป็นเด็กสาวที่ไม่ค่อยแต่งตัวตามแฟชั่นเหมือนคนอื่นๆ เสื้อผ้าที่เธอใส่จึงเป็นชุดเดิมๆ นานครั้งถึงจะซื้อเพราะเธอรู้ว่าเงินที่พี่สาวและพ่อแม่ส่งเสียมาให้นั้นหามาได้ด้วยความยากเย็น ข้าวของเครื่องใช้บางชิ้นปรายฟ้าจัดเก็บลงกล่องพลาสติกที่เด็กสาวเตรียมไว้แล้วก่อนหน้า เวลาผ่านไปราวค่อนวันข้าวของจึงถูกจัดแจงโดยเสร็จสรรพ แม้พราวตะวันจะเป็นคนประหยัดไม่ได้ซื้อของใช้อะไรโดยไม่จำเป็นไว้มาก แต่การจัดข้าวของชิ้นเล็กชิ้นน้อยลงกล่องก็ต้องใช้เวลาพอสมควร พราวตะวันหันมาขอบคุณพี่สาวใจดีที่อุตส่าห์มีน้ำใจช่วยเธอเก็บข้าวของ แถมยังอยู่ข้างๆ เธอในยามที่ทุกข์ใจ ปรายฟ้ายิ้มให้พลางโน้มตัวมาโอบกอดเด็กสาวรุ่นน้องไว้อีกครั้ง

                    "คืนนี้ให้พี่มานอนเป็นเพื่อนมั้ย แล้วพรุ่งนี้เช้าพี่จะขับรถไปส่งพราวให้ถึงบ้านเลย" พราวตะวันยิ้มให้ปรายฟ้า

                    "พราวนอนคนเดียวได้ค่ะ พี่ฟ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ"

                    "แน่ใจนะ" ปรายฟ้าถามย้ำด้วยน้ำเสียงห่วงใย พราวตะวันยิ้มพลางพยักหน้าเป็นคำตอบ

                    "โอเค งั้นพราวก็ทานอะไรเสียหน่อยนะพี่โทรไปสั่งให้แม่ครัวข้างล่างทำขึ้นมาให้แล้ว ทานเสร็จก็งีบพักผ่อนบ้างเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ส่วนพรุ่งนี้เช้าพี่จะไปส่งให้ที่บ้านนะจ๊ะ ห้ามปฏิเสธพี่สาวคนนี้ถ้ายังนับถือกัน"

                    ปรายฟ้าพูดขึ้นมาก่อนที่จะเห็นพราวตะวันอ้าปากพูด เธอรู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ขี้เกรงใจ อะไรที่ทำเองได้เธอไม่เคยร้องขอให้ใครต้องช่วยโดยไม่จำเป็น แต่ครั้งนี้เธอไม่อยากให้พราวตะวันปฏิเสธเพราะเธอไม่อยากให้เด็กสาวที่ตัวเองรักนั่งรถทัวร์กลับบ้านลำพัง เธอเป็นห่วงหัวใจดวงน้อยๆ ของพราวตะวันที่มันกำลังย่ำแย่อย่างถึงที่สุด คนเด็กกว่าพยักหน้าแล้วยิ้มออกมาให้กับความมีน้ำใจของอีกฝ่าย ปรายฟ้าเห็นเช่นนั้นจึงยกมือลูบศีรษะเด็กสาวตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปให้พราวตะวันได้พักผ่อน

                    เมื่อต้องอยู่เพียงลำพังพราวตะวันกลับมานั่งคุดคู่อยู่ปลายเตียง เข่าสองข้างถูกชันขึ้นมาให้วงแขนได้โน้มลงมากอดไว้ จิตใจที่เหม่อลอยคล้อยไปไหนต่อไหนพาให้หญิงสาวสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พราวตะวันมองหาเครื่องมือสื่อสารที่ถูกวางไว้ตรงหัวเตียงนอน เธอลุกขึ้นไปหยิบมาดูแล้วเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้ต้องชะงักงัน หญิงสาวปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นจนคนโทรมาวางสายไป แต่แล้วไม่นานเกิน 30 วินาทีมันก็ดังขึ้นอีกครั้ง พราวตะวันตัดสินใจกดตัดสายไปก่อนที่จะรอให้มันเงียบเสียง หลังจากนั้นโทรศัพท์จึงถูกปิดเครื่องลงทันที

                    "ไอ้สารเลว จะตามราวีกันไปถึงไหน"  

                    สาวน้อยสบถออกมาด้วยความโกรธ ก่อนจะโยนโทรศัพท์ให้กองลงไปบนเตียง หญิงสาวยืนจ้องมันอยู่พักเธอจึงคิดได้ว่าตั้งแต่กลับมาเธอยังไม่ได้ดูเลยว่ามีใครติดต่อเธอมาบ้างหรือไม่ เพราะเมื่อคืนนี้อยู่ๆ เธอก็หายตัวไปโดยไม่ได้บอกเพื่อน เมื่อคิดได้เช่นนั้นพราวตะวันจึงเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์กลับมาเปิดเครื่องอีกครั้ง เธอจึงได้รู้ว่าณิชานันท์โทรหาเธออยู่ 5 ครั้งหลังจากช่วงเวลาที่เธอหายตัวไป ป่านนี้เพื่อนทังสองของเธอจะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนที่อยู่ๆ เธอก็หายตัวไปแบบนั้น แต่เมื่อเช็คดูในโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ เธอจึงได้เห็นข้อความส่งออกซึ่งเธอไม่ได้เป็นคนส่งแน่นอน แววตาของพราวตะวันฉายแววแค้นเคืองขึ้นมาทันทีเมื่อนึกลำดับเหตุการณ์ เพื่อนคงโทรหาเธออยู่หลายครั้งจนผู้ชายสารเลวคนนั้นเห็นเบอร์ และเป็นคนส่งข้อความไปหาเพื่อนเธอแบบนั้น ดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้นจ้องมองเครื่องมือสื่อสารอยู่ครู่ แล้วพราวตะวันต้องสะดุ้งตัวโยนอีกรอบเมื่อโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือดังขึ้นอีก หญิงสาวมือสั่นเทาก่อนจะค่อยๆ ก้มไปมองเบอร์คนที่โทรมาหา

                    "ณิชา!" เมื่อเห็นเป็นเบอร์โทรของเพื่อนสนิทโทรมา พราวตะวันจ้องโทรศัพท์อยู่แบบนั้นอยู่พักจึงตัดสินใจกดรับสาย

                    "ว่ายังไงณิชา" คนรับพยายามสะกดเสียงตัวเองให้เป็นปกติ

                    "พราว มีอะไรรึเปล่า มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพี่แพรอย่างนั้นเหรอ แกถึงต้องรีบออกไปโดยที่ไม่บอกฉันกับปราบสักคำ" คนโทรมายิงคำถามรัวด้วยเป็นความเป็นห่วง คนถูกถามเม้มริมฝีปากแน่นแค้นเคืองให้กับการกระทำของคนที่เธอไม่อยากจะเรียกว่าคน

                    "เอ่อ...ฉันขอโทษนะณิชาที่รีบออกไปโดยที่ไม่บอกเธอ พอดีพี่แพรมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย ฉันเลยรีบออกไปหา" พราวตะวันพูดออกไปตามน้ำเมื่อได้อ่านข้อความที่นคินทร์ส่งไปบอกเพื่อน ในใจก็ได้แต่นึกแค้นเคืองที่เขากลายเป็นคนเลวทรามได้ถึงเพียงนี้

                    "เหรอ แล้วตอนนี้พี่แพรโอเคขึ้นแล้วใช่มั้ย แล้วแกอยู่ไหนให้ฉันไปหามั้ยพราว"

                    "อื้ม พี่แพรไม่เป็นไรแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเลยกลับมาที่หอพักแล้ว...พรุ่งนี้เช้าฉันจะกลับบ้านแล้วนะณิชา" สิ้นประโยคสุดท้ายทำเอาคนปลาบสายใจหายวาบไปชั่วขณะ

                    "อ้าว! แกจะกลับพรุ่งนี้เลยเหรอ ฉันคิดว่าแกจะอยู่ต่ออีกสองสามวันเสียอีก ทำไมรีบกลับนักละพราว" คนถามเสียงเศร้า ทำเอาคนถูกถามนิ่งไปครู่

                    "แกก็รู้นี่ณิชาว่าสิ่งที่ฉันมุ่งมั่นมาตลอดคืออะไร ฉันอยากกลับไปใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยพ่อกับแม่เสียที พรุ่งนี้พี่ฟ้าอาสาจะขับรถไปส่งให้ที่บ้าน"

                    "ฉันไปด้วย วันนี้ฉันไปนอนค้างกับแกนะ จะได้ไปเก็บของบางส่วนของฉันด้วย งั้นเดี๋ยวเจอกันนะแก"

                    ยังไม่ทันสิ้นคำขานของพราวตะวัน คนโทรมาก็รีบกดวางสายไปทันที หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เธอต้องทำตัวให้ดูสดใสร่าเริงเป็นพราวตะวันที่สามารถยิ้มร่าเมื่ออยู่กับเพื่อน ดวงตาสองข้างถูกบังคับให้เบิกโพลงเพื่อยืดกล้ามเนื้อตาที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก หญิงสาวสลัดศีรษะอยู่สองสามครั้งเป็นการกระตุ้นให้ตัวเองละทิ้งสิ่งหนักๆ ที่แบกรับไว้ในหัวออกไปบ้าง สองเท้าก้าวยาวๆ เข้าห้องน้ำ เปิดก็อกน้ำแล้วกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าให้รู้สึกสดชื่น ใบหน้าที่เปื้อนน้ำถูกเช็ดออกด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กอยู่ครู่ แล้วหญิงสาวจึงยืนมองตัวเองในกระจกตรงหน้าแล้วบอกตัวเองว่า

                    "ช่างมันพราว!! สิ่งที่เสียไปแล้วก็ให้มันเสียไป ถือซะว่าทำทานให้หมูให้หมามัน ชีวิตที่อยู่นับจากนี้สิมันสำคัญกว่า ...พ่อจ๋าแม่จ๋ารอพราวนะ พราวกำลังจะกลับไปหาพ่อกับแม่แล้ว"

                    พูดจบใบหน้ารูปไข่ก็หลับตาลงสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ ก่อนจะปลดปล่อยเอาความทุกข์ระทมให้มันออกมา นับจากนี้เธอจะเข้มแข็ง เธอจะเป็นผู้หญิงที่แกร่งให้ได้เหมือนพี่สาว เรื่องราวเลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้ลมมันพัดผ่านไป ตราบใดที่เธอยังมีลมหายใจ สิ่งมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดคือการได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีทดแทนบุญคุณของพ่อกับแม่ให้ดีที่สุด เธอจะลืมเรื่องราวเลวร้ายไว้ที่นี่ ต่อจากนี้เธอจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เป็นเกษตรกรสาวที่จะช่วยพ่อกับแม่พัฒนาอาชีพทำกินของครอบครัวให้ดีที่สุด

                    ด้านนคินทร์เมื่อประกอบโทรศัพท์ที่ตัวเองขว้างจนกระจัดกระจายไปทั่วพื้นได้แล้ว เขาหยิบใช้มันกดโทรหาพราวตะวันทันทีหญิงสาวไม่รับสาย ซ้ำยังปิดเครื่องใส่ยิ่งทำให้คนโทรไปรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ความคิดเห็นแก่ตัวที่หวังเพียงจะแก้แค้นโดยที่ไม่คิดหน้าคิดหลังเมื่ออารมณ์ด้านมืดมาครอบงำจนอยู่เหนือเหตุผล จากคนที่เคยแสนดีมีมนุษยธรรมกลับกลายเป็นผู้ชายที่จิตใจคับแคบ เห็นแก่ตัวเพียงเพราะความเจ็บปวดที่ตัวเองได้รับ ชายหนุ่มมองไปรอบห้องหันไปเห็นกระเป๋าของพราวตะวันวางอยู่ เขาเดินปรี่เข้าไปหยิบค้นดูจึงพบกระเป๋าสตางค์ที่ข้างในมีบัตรประชาชน บัตรนักศึกษา บัตรเอทีเอ็มอีกสองใบ และเงินติดกระเป๋าอีกจำนวนหนึ่ง มือหนาใหญ่หยิบบัตรนักศึกษาของเด็กสาวขึ้นมาดู

                    "หน้าตาใสซื่ออย่างเธอ นิสัยก็คงไม่ต่างไปจากพี่สาวเธอหรอกสินะ หึหึ"

                    คนมองเหยียดสายตาให้กับรูปเด็กสาวในบัตร ก่อนจะก้มลงไปหยิบบัตรประชาชนที่ทำให้นคินทร์ได้เห็นที่อยู่บ้านเกิดของเจ้าของบัตร ก่อนหน้านี้เขารู้เพียงว่าแพรดาวเป็นคนจังหวัดสมุทรสงคราม แต่รายละเอียดของบ้านเลขที่ ตำบล หรือ แม้แต่อำเภอเขาไม่เคยรู้เพราะแฟนสาวไม่เคยบอก แววตาของคนมองจับจ้องบัตรนั้นอย่างเจ้าเล่ห์ แผนการร้ายกาจผุดขึ้นในสมอง จากสมองที่มันเคยคิดแต่สิ่งดีๆ แต่เวลานี้สิ่งที่เขาคิด นั่นมีเพียง การแก้แค้น

                "แล้วเธอจะได้รู้ว่าการทรยศหักหลังคนรักโทษฐานที่จะได้รับมันเป็นอย่างไร เธอทำให้ฉันเจ็บใช่มั้ย! ได้! ฉันก็จะทำให้เธอเจ็บเหมือนกัน ทำกับเธอเธอก็เจ็บแค่คนเดียว สู้ทำกับน้องสาวเธอนี่สิเจ็บทั้งครอบครัว"

                    แววตาดั่งซาตานร้ายมองผู้หญิงในรูปภาพแต่คนที่เขาต้องการเอาคืนแท้จริงแล้วคือพี่สาวของเจ้าของภาพเสียมากกว่า แต่ในเมื่อทุกอย่างมันลงล็อกมาเป็นแบบนี้อย่างที่เขาไม่ได้ตั้งใจ มันกลับเข้าทางเขาให้คิดแผนการร้ายที่จะทำลายความสุขสงบของอีกฝ่ายหนึ่งได้ชนิดที่จะไม่มีวันอยู่อย่างเป็นสุข เหมือนที่หัวใจของเขามันกำลังได้รับความระทมทุกข์อย่างแสนสาหัสจากเธอผู้หญิงที่เขาเคยรัก แต่เวลานี้มันทั้งรักและทั้งแค้นเสียยิ่งกว่าแค้นไปแล้วในคราเดียวกัน 


     ***ไรท์เตอร์มาอัพเพิ่มให้จนครบแล้วนะคะ อ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้างค่ะ รีดเดอร์คิดว่าชีวิตจริงของคนเราความแค้นมันสามารถทำให้คนดีๆ กลับกลายเป็นอีกคนหนึ่งไปได้เลยรึเปล่า สำหรับไรท์เตอร์แล้วชีวิตจริงของคนมันยิ่งกว่านิยายอีกนะ
          ครั้งนี้พราวตะวันสามารถหลุด
    พ้นจากผู้ชายที่กำลังถูกความแค้นครอบงำจิตใจไปได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรอดไปได้พ้นรึเปล่านี่ซิค่ะ จะสงสาร จะเห็นใจใครดีน้องานนี้ นคินทร์ แพรดาว หรือว่าพราวตะวัน

         อ่านแล้วรู้สึกยังไงเม้นท์บอกไรท์เตอร์บ๊างเนาะ บางทีเห็นยอดคนเข้ามาอ่านเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่กลับไม่มีคอมเม้นท์ให้กันเลย ไรท์เตอร์ก็แอบน้อยใจน๊าาาา เพราะไม่รู้ว่าอ่านแล้วสนุกหรือไม่สนุก ชอบหรือไม่ชอบ ไรท์ก็ไม่รู้ไง เพราะถ้ามีคอมเม้นท์ไรท์เตอร์จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข ให้นิยายสนุกและน่าติดตามมากขึ้นยังไงล่ะค่ะ  ^^ อ่านแล้วเม้นท์ให้กันซักนิดเนาะ จุ๊บๆ 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×