คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บ่วงร้ายพ่ายเงารัก ตอน 2
ตอนที่ 2
แพรดาวพยุงตัวเองลุกขึ้น เวลานี้สายตาคนผ่านไปผ่านมาบริเวณลานจอดรถมองตรงมาที่เธอ และรถของเธอเป็นสายตาเดียว รปภ.หนุ่มที่เดินตรวจตราอยู่แถวนั้นเห็นผู้คนมองอะไรบางอย่างจึงรีบเดินตรงเข้ามาดู เมื่อได้เห็นรถของแพรดาวเกิดอาการตกใจ รีบเข้ามาถามไถ่เธอทันที
"ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถของคุณครับคุณผู้หญิง" แพรดาวมองหน้า รปภ.หนุ่มอยู่ครู่
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ รอยพวกนี้มันมีมาก่อนแล้ว ดิฉันเป็นพวกขับรถไม่ค่อยระวังเท่าไหร่น่ะค่ะ ขอตัวนะคะ" แพรดาวเลี่ยงตอบไปแบบนั้น ก่อนจะรีบขึ้นรถขับออกไป ปล่อยให้ รปภ.มองตามด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่เห็น
เช้าวันต่อมา
"จอดตรงนี้ล่ะค่ะ" แพรดาวยื่นธนบัตรสีแดงให้กับโชเฟอร์แท็กซี่ก่อนจะเปิดประตูลงมา ช่วงเวลาเดียวกันนั้นรถเก๋ง BMW สีเงินขับเลี้ยวเข้ามาที่หน้าบริษัทคนขับหยุดรถพร้อมกับไขกระจกลง
"คุณแพร...รถไปไหนล่ะครับทำไมวันนี้ถึงมาแท็กซี่" แพรดาวอึกอักไปครู่ "เอ่อ...รถเสียค่ะ แพรเลยเอาเข้าอู่ซ่อม" คนถามได้คำตอบจึงพยักหน้า ก่อนจะปิดกระจกแล้วขับรถไปที่ลานจอดของบริษัท แพรดาวเดินเข้ามายืนรอลิฟท์ด้านใน ไม่นานดลวัฒน์เดินเข้ามา เขารีบตรงดิ่งมาหาหญิงสาวทันที
"รถเป็นอะไรเสียครับคุณแพร" เป็นคำถามแรกที่เขาถามขึ้นเมื่อเดินมาหยุดยืนข้างๆ เธอ แพรดาวมองหน้าคนถามอยู่ครู่ "เอ่อ...แพรก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ อยู่ๆ ก็สตาร์ทไม่ติด แพรเลยโทรเรียกให้ช่างมาเอาเข้าอู่ไปแล้วล่ะค่ะ"
เขาพยักหน้าให้กับคำตอบที่เธอบอก "แบบนี้คุณแพรก็ต้องลำบากมาแท็กซี่ทุกวันเลยสิครับ เอาแบบนี้มั้ยครับระหว่างที่รถคุณแพรซ่อมเดี๋ยวผมไปรับไปส่งให้ บ้านคุณกับผมก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว" แพรดาวรีบส่ายหน้า "ไม่ต้องหรอกค่ะคุณดล รบกวนเปล่าๆ แพรไปกลับเองได้ค่ะ สบายมาก ไม่ต้องลำบากคุณดลดีกว่า"
คนได้ยินยิ้มพร้อมกับยืนกราน "ไม่ลำบากเลยครับ คุณแพรไม่เคยได้ยินเหรอครับที่เขาบอกว่า อยู่ใกล้กัน ไปทางเดียวกันก็ให้ไปรถคันเดียวกัน ถือว่าเป็นการช่วยโลกไปในตัว เอาเป็นว่าคุณแพรไม่ต้องเกรงใจเลยนะครับ ผมเต็มใจอย่างยิ่ง" แพรดาวได้ยินแบบนี้จึงไม่รู้จะหาเหตุผลใดมาปฏิเสธความอยากช่วยของดลวัฒน์ เธอจึงยิ้มพร้อมพยักหน้าให้กับเจ้านาย เมื่อเห็นแพรดาวรับความช่วยเหลือดลวัฒน์จึงยิ้มกว้างออกมาทันที
ในห้องประชุมของบริษัท สยาม ซินดิเคท ผู้บริหารระดับสูงสั่งให้ผู้จัดการของแต่ละแผนกเข้าประชุมเป็นการด่วน บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด
"ผมไม่รู้ว่าพวกคุณทำงานกันยังไงอยู่ๆ บริษัท อัศววาณิช ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทเรากลับยกเลิกสินเค้าทั้งหมด ที่แย่ไปกว่านั้นคือไม่ต่อสัญญา คุณดลวัฒน์ในฐานะที่ผมให้คุณเป็นคนดูแลเรื่องนี้คุณช่วยอธิบายให้ผมฟังทีเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ผู้บริหารระดับสูงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตึงเครียด ดลวัฒน์รู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะเมื่อวันก่อนทีได้ไปพบกับนลิน ผู้บริหารของอัศววาณิช การพูดคุยเป็นไปอย่างเรียบร้อยทุกอย่าง แต่ไหนวันนี้สิ่งที่เขาได้รับรู้จากผู้บริหารกับตรงกันข้ามไปหมด
"เป็นไปได้ยังไงครับท่าน เมื่อวันก่อนที่คุณนลินนัดผมไปพบ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยดีนะครับ แถมคุณนลินยังบอกว่าจะเพิ่มยอดการสั่งสินค้าจากบริษัทเราอีกเท่าตัว"
"คุณถามผมแล้วจะให้ผมไปถามใคร...พวกคุณรู้มั้ยว่าบริษัทเราได้รับความเสียหายมากขนาดไหนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เม็ดเงินที่สูญไปมันอาจทำให้พวกคุณตกงานได้โดยไม่รู้ตัวเลยล่ะผมจะบอกให้"
ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมต่างสะดุ้งไปตามๆ กัน ความเครียดอย่างหนักไม่ได้ตกไปอยู่ที่ดลวัฒน์คนเดียว แต่มันได้เข้าไปกัดกินพื้นที่สมองของแพรดาวแล้วเต็มๆ ใบหน้ารูปไข่ซีดเผือดลงไปถนัดตา คิ้วสองข้างขมวดปมใหญ่อย่างไร้การควบคุม มือสองข้างที่วางอยู่บนตักเวลานี้บีบเข้าหากันแน่น แพรดาวรู้ดีว่าทุกอย่างที่เกดขึ้นนั้นเป็นเพราะอะไร สงครามที่ผู้หญิงคนนั้นประกาศไว้ได้แผ่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
หลังจากการประชุมสิ้นสุด แพรดาวกลับเข้ามาที่ห้องทำงาน ความเครียดเล่นงานเธอจนใบหน้าไร้ความสดใส ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มุ่งมั่นทำงานจนก้าวหน้ามามีหน้าที่การงานที่ดีอย่างเช่นวันนี้ เธอใช้หัวใจที่ทุ่มเทและอดทนมาโดยตลอด ทุกอย่างเริ่มต้นจากศูนย์จนวันนี้เธอมีศักยภาพที่ใครๆ ต่างพากันชื่นชมในความสามารถ เธอบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเธอจะต้องทำได้และเธอก็ทำได้ แพรดาวเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจ เด็ดเดี่ยว และมุ่งมั่นกับสิ่งที่ตัวเองทำเสมอ หากวันหนึ่งถ้าตัวเธอต้องเริ่มกลับไปเริ่มจากศูนย์ใหม่เธอจะตั้งหลักชีวิตตัวเองแบบไหนดี
แพรดาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร นคินทร์ไม่ติดต่อเธอมาเลยตั้งแต่สองวันก่อน เธอโทรหาเขาแต่ก็ไร้วี่แววซึ่งการรับ และไม่โทรกลับหาอีกต่างหาก แพรดาวลองอีกครั้ง เธอฟังเสียงรอสายดังอยู่นานจนมันส่งสัญญาณให้ฝากข้อความ เสียงลมหายใจประทุออกมาระลอกใหญ่ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจฝากข้อความทิ้งไว้
"แพรคิดถึงคุณค่ะ"
น้ำเสียงแพรดาวแผ่วเบาฟังดูอ่อนล้า เป็นเพียงข้อความสั้นๆ ที่ฝากไว้ให้เขา เธอวางโทรศัพท์ลงก่อนจะก้มหน้าลงไปแนบกับโต๊ะอย่างหมดเรี่ยวแรง ที่ผ่านมาต่อให้จะทำงานหนักจนเหนื่อยล้าขนาดไหน มันยังไม่เท่าความเหนื่อยใจกับปัญหาใหญ่หลายด้านที่เธอกำลังเผชิญมันอยู่ตอนนี้ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะในห้องดังขึ้น แพรดาวตั้งตัวขึ้นมาก่อนจะเอื้อมไปรับสาย
"ค่ะ"
"คุณแพรครับ เที่ยงแล้วไปทานข้าวกันมั้ยครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณแพรด้วย"
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวเจอกันหน้าห้องนะคะ"
"ครับ"
หลังจากออกมาจากการประชุม นคินทร์กลับเข้ามาที่ห้องทำงานของตัวเอง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูเห็นหน้าจอโทรศัพท์เป็นเบอร์ miss call ของแพรดาว สองวันมานี้เขายอมรับว่าน้อยใจแฟนสาวตัวเองมาก เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รับและไม่โทรกลับหาเธอนานถึงสองวันเต็ม นคินทร์กดฟังข้อความเสียงที่แพรดาวฝากไว้ เขากดฟังซ้ำอยู่สองครั้ง ฟังจนรู้สึกว่าทำไมเขาช่างเป็นแฟนที่แย่มาก เมื่อคิดได้แบบนี้นคินทร์จึงไม่รอช้า เขาถอดสูทตัวที่ใส่ทับออกวางไว้ที่เก้าอี้ในห้องทำงาน ก่อนจะออกมาบอกเลขาว่าจะออกไปข้างนอกแล้วจะกลับเข้ามาอีกทีในช่วงบ่าย
นคินทร์ขับรถมาถึงบริษัท สยาม ซิดิเคท เมื่อจัดการจอดรถเสร็จแล้วจึงรีบขึ้นไปหาแพรดาว นคินทร์พบกับรุ้งทองซึ่งเป็นเลขาหน้าห้อง เขาได้รับการบอกจากเลขาว่าแพรดาวออกไปทานข้าวกับดลวัฒน์
"คุณนคินทร์จะอยู่รอคุณแพรในห้องก่อนก็ได้นะคะ"
"คุณพอจะทราบมั้ยครับว่าแพรดาวไปข้าวแถวไหน" คนถูกถามนิ่งคิดไปสักครู่
"ปกติคุณแพรกับคุณดลก็ไม่ค่อยออกไปทานที่ไหนไกลหรอกค่ะ จะทานอยู่แถวๆ นี้ คุณนคินทร์มีอะไรรึเปล่าค่ะ"นคินทร์ได้ยินแบบนั้นจึงพยักหน้า เขาไม่ตอบอะไรนอกจากขอบคุณเลขาแล้วรีบออกไปทันที
ย่านบริษัทที่แพรดาวทำงานมีร้านอาหารอยู่หลายร้านให้เลือกทาน นคินทร์เดินหาแฟนสาวจนเกือบทุกร้าน สุดท้ายเขาเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านอาหารร้านหนึ่งพยายามสำรวจมองไปโดยรอบเผื่อจะพบคนที่เขาอยากเจอ แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังนั่งทานข้าวอยู่ด้วยกัน เขามองจนแน่ใจแล้วว่าผู้หญิงคนที่นั่งอยู่คือแพรดาว เมื่อได้เห็นแฟนสาวนั่งอยู่กับชายอื่นเขารู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก ถึงแม้จะรู้ว่าดลวัฒน์เป็นเจ้านายของเธอก็ตาม แต่ความรู้สึกบางอย่างที่ผู้ชายอย่างเขาสัมผัสได้ คือสายตาของผู้ชายคนนี้มองแฟนสาวของเขาโดยมีความรู้สึกบางอย่างแอบแฝงอยู่
"คุณดลมีเรื่องอยากคุยกับแพรเหรอค่ะ" ดลวัฒน์พยักหน้า สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความกังวล
"ครับ"
"เรื่องบริษัท อัศววาณิช ใช่มั้ยค่ะ" คนถูกถามมองหน้าเธอก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
"วันนั้นที่คุณแพรอยู่กับผม คุณแพรก็ได้ยินสิ่งที่คุณนลินพูดทั้งหมดใช่มั้ยครับ" แพรดาวพยักหน้า "ค่ะ"
"ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมงงไปหมด ผมยอมรับนะครับว่าตอนนี้หัวสมองมันตื้อจนคิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ" ดลวัฒน์หน้าเครียดจนแพรดาวเองรู้สึกเห็นใจเขา หญิงสาวเอื้อมมือไปแตะมือของอีกฝ่ายเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ โดยเธอไม่รู้ว่าเวลานี้มีใครอีกคนกำลังยืนมองอยู่
"คุณดลใจเย็นๆ นะคะ ทุกอย่างมันต้องมีทางออกค่ะ" จากสีหน้าหม่นของดลวัฒน์ ดวงตาเขากับเป็นประกายเมื่อมีมือของหญิงสาวตรงหน้าเอื้อมมาแตะปลอบใจให้เขารู้สึกดีขึ้นเยอะ ดลวัฒน์ยิ้มออก เขายิ้มให้แพรดาวเป็นรอยยิ้มที่หัวใจรู้สึกชุ่มฉ่ำอย่างบอกไม่ถูก
"แพร" คนถูกเรียกหันขวับไปตามเสียง "คินทร์" หญิงสาวเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ
"ออกไปกับผมหน่อย" แพรดาวมองหน้าเขาเป็นใบหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มมีแต่ความเรียบเฉย ก่อนจะหันกลับมาหาคนร่วมโต๊ะที่มองนคินทร์อยู่อย่างไม่ละสายตา
"คุณดลกลับเข้าออฟฟิศก่อนเลยนะคะ" ดลวัฒน์หน้าเจื่อนแต่เขายิ้มเล็กๆ พร้อมกับพยักหน้าให้เธอ แพรดาวลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินตามนคินทร์ออกไป
ชายหนุ่มเดินดุ่มๆ มาไกล เขาไม่หันกลับมามองแพรดาวที่เดินตามมาไม่ห่าง "คินทร์ค่ะคุณเป็นอะไร...นี่คุณจะเดินไปไหน แพรมีงานต้องกลับไปทำอีกเยอะนะคะ" ได้ยินแฟนสาวพูดออกมาแบบนั้นเขาหยุดฝีเท้า แล้วหันกลับมาทันที
"งานเยอะแต่คุณกลับมีเวลามานั่งจับมืออี๋อ๋อกับไอ้หมอนั่น...แพรทำแบบนี้กับผมได้ยังไง" คนพูดหน้าเครียด ไม่ต่างไปจากคนที่ถูกถาม
"มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะคินทร์...แพรอธิบายได้นะคะ" นคินทร์มองหน้าแพรดาว สายตาเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง สับสน น้อยใจ
"คุณกับไอ้หมอนั่นกำลังสวมเขาให้ผมอยู่รึเปล่าแพร" แพรดาวอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่คิดว่าผู้ชายที่เธอรักจะคิดกับเธอแบบนี้
"คินทร์หมายความว่ายังไงค่ะ" สีหน้าแพรดาวเต็มไปด้วยความน้อยใจผิดหวังไม่ต่างกัน
"อย่าทำให้ผมกลายเป็นคนโง่....แพรกับไอ้หมอนั้นเป็นมากกว่าลูกน้องกับเจ้านายใช่มั้ย คุณกำลังนอกใจผมใช่มั้ยแพร!!" ยิ่งได้ยินเขาพูดออกมาแบบนี้ก็ยิ่งทำให้แพรดาวรู้สึกเจ็บและผิดหวังในตัวเขา เธอไม่คิดว่าผู้ชายที่เธอรักจะไม่เคยเชื่อใจเธอเลย สีหน้าแพรดาวเรียบนิ่งทั้งที่ความจริงน้ำตาเธอมันไหลออกมาจนท่วมหัวใจหมดแล้วในตอนนี้
"ขอบคุณนะคะที่ทำให้แพรตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น...คินทร์กลับไปทำงานเถอะค่ะ.แพรเองก็มีงานที่ต้องกลับไปทำอีกเยอะ แพรขอตัวนะคะ"
พูดจบแพรดาวจึงหันหลังเดินกลับ นคินทร์เห็นดังนั้นจึงรีบเดินมาคว้ามือเธอไว้ "ตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้นอย่างนั้นเหรอแพร คุยกับผมให้รู้เรื่องก่อน อย่าทำให้ผมรู้สึกเหมือนคนกำลังจะเป็นบ้าแบบนี้ ผมผิดอะไร ผมเป็นแฟนที่ไม่ดีตรงไหน คุณช่วยบอกผมหน่อยได้มั้ย" แพรดาวเบือนหน้าหนี น้ำตาที่มันไหลท่วมใจ มันกำลังจะไหลออกมาท้วมตา เธอพยายามสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาก่อนจะหันกลับมาหาเขา
"คินทร์ไม่ผิดอะไรเลยค่ะ แพรเองที่ผิด"
แพรดาวพูดเพียงเท่านี้ก่อนจะใจแข็งเดินจากเขาไป ปล่อยให้นคินทร์มองตามด้วยหัวใจที่แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ ความเจ็บปวดที่เข้ามาเบียดตัวอยู่ในหัวใจทำให้นคินทร์ไม่มีกระจิตกระใจกลับบริษัทเพื่อทำงานต่อได้ เขานั่งอยู่ในรถรอเวลาแพรดาวเลิกงานแล้วคุยกันให้รู้เรื่อง กระทั่งตอนเย็นเขาเห็นพนักงานเริ่มทยอยกันกลับบ้านแต่ยังไร้วี่แววแพรดาว เขายังคงอยู่รอเธอต่อไป ท้องฟ้าเริ่มมืดนคินทร์ยกดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะเงยหน้ามาเห็นแพรดาวเดินออกมาจากบริษัทพร้อมกับคนที่เขาคิดว่าเป็นคู่กรณีหัวใจในตอนนี้
"คุณแพรรอผมตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปเอารถก่อน" แพรดาวยิ้มจางๆ พร้อมกับพยักหน้าให้อีกฝ่าย ระหว่างที่นคินทร์เห็นดลวัฒน์เดินออกไปแล้ว จึงขับรถมาจอดเทียบตรงที่แพรดาวยืนอยู่ แพรดาวสะดุ้งเพราะไม่ทันได้มอง สีหน้าหญิงสาวดูตกใจที่เห็นนคินทร์เปิดประตูรถลงมา
"คินทร์"
"ใช่!! ผมเอง ทำไมหน้าแพรดูตกใจที่เห็นผม...เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ผมไม่ยอมให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ผมรักแพรมากแพรก็รู้ ถ้าผมทำอะไรผิด แพรก็ช่วยบอกผมหน่อยเถอะ อย่าทำให้ผมเป็นไอ้งั้งแล้วทิ้งผมไปกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้"
น้ำเสียงและแววตาคนพูดดูเว้าวอนจนแพรดาวเจ็บปวด เป็นความเจ็บปวดที่เกิดจากความรักในหัวใจที่เธอยังมีให้ผู้ชายคนนี้ทั้งดวง ในขณะเดียวกันอีกความความเจ็บที่เกิดขึ้นก็มาจากความไม่เชื่อใจของเขาที่มีต่อเธอ แพรดาวไม่เคยคิดจะใช้เกมนี้ เกมที่ดึงใครอีกคนเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้เธอเดินออกมาจากชีวิตเขา แต่ในเมื่อทุกอย่างตอนนี้มันบีบให้เธอต้องตัดสินใจเพื่อทำอะไรสักอย่าง ทางเลือกที่เธอเลือกได้เพียงแค่หนึ่งทางนั่นคือการหักดิบความรักที่หัวใจเธอมันยังรักเขามากมายเหลือเกิน
" หลายครั้งที่คินทร์ขอให้แพรพาไปพบพ่อกับแม่ แต่แพรก็ไม่เคยพาไป หลายครั้งที่คินทร์ขอแพรแต่งงาน และแพรก็ปฏิเสธคินทร์มาโดยตลอด คินทร์ถามหาเหตุผลจากแพรทุกครั้งว่าเพราะอะไร วันนี้แพรจะบอกเหตุผลที่แท้จริงให้คินทร์รู้ค่ะ...แพรไม่ได้รักคุณแล้ว ได้ยินมั้ยค่ะว่าแพรไม่ได้รักคุณแล้ว"
เป็นคำพูดที่ชัดเจนที่สุดที่นคินทร์ได้ยินจากปากของผู้หญิงที่ตัวเองรักสุดหัวใจ หัวใจที่มันแตกสลายอยู่แล้ว มันกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ให้ย้อยยับมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ร่างกายนคินทร์เหมือนคนหมดแรง ขาสองข้างซัดเซไปพิงอยู่กับรถ แววตาที่มันเคยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อผู้หญิงคนนี้ เวลานี้มันมีแต่ความผิดหวัง เสียใจ เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ จะทรยศหักหลังเขาได้ ระหว่างนี้ดลวัฒน์ขับรถมาจอดต่อรถของนคินทร์ เขามองดูสถานการณ์ที่ไร้คำพูดใดๆ ของคนทั้งคู่ ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถลงมา
"เอ่อ...มีอะไรรึเปล่าครับคุณแพร" แพรดาวมองหน้านคินทร์ สายตาคนมองเต็มไปด้วยความเจ็บปวดไม่ต่างไปจากเขา แต่เธอพยายามใจแข็งที่สุด
"ไม่มีค่ะ คุณดลช่วยพาแพรออกไปจากตรงนี้ที"
ดลวัฒน์เก้ๆ กังๆ เขารู้ว่าทั้งคู่นั้นคบกันอยู่ แต่วันก่อนที่เขาเข้าไปในห้องโดยไม่รู้ว่าแพรดาวมีแขก เมื่อแพรดาวเห็นตน เธอพูดว่าเพื่อนของเธอกำลังจะกลับ แวบแรกเขารู้สึกแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ที่เห็นมันดูตึงเครียดจนเขารู้สึกได้ ดลวัฒน์แอบชำเลืองมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนจ้องหญิงสาว เป็นแววตาที่ผู้ชายอย่างเขารับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างระหว่างคนทั้งคู่
"เอ่อ...ไปสิครับ" ดลวัฒน์เดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่ง แพรดาวเดินตรงไปที่รถ แต่ถูกนคินทร์เดินปรี่เข้ามาจับแขนเธอไว้ก่อน "คุณยังไปไหนไม่ได้ คุณต้องคุยกับผมให้รู้เรื่องก่อน" แพรดาวมองแขนที่ถูกอีกฝ่ายบีบจับไว้แน่นจนเธอรู้สึกเจ็บ
"แพรเจ็บค่ะคินทร์"
"แค่นี้คุณยังเจ็บ แล้วผมล่ะคนที่โดนคุณบดขยี้หัวใจอย่างไม่มีชิ้นดี คุณคิดว่าผมจะรู้สึกยังไง!!...คุณบอกว่าไม่รักผมแล้วทั้งๆ ที่เราเพิ่งไปทะเลด้วยกัน วันนั้นปากคุณยังบอกว่าคุณรักผมอยู่เลยไม่ใช่เหรอแพร... วันนี้ตอนสายคุณยังส่งข้อความมาบอกว่าคิดถึงผม แต่พอมาตอนนี้คุณกลับมาบอกว่าคุณไม่ได้รักผมแล้ว คุณเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่แพรดาว คิดจะรักก็รัก คิดจะทิ้งก็ทิ้งกันแบบนี้นะเหรอ!! ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาผมมันโง่เองใช่มั้ยที่รักคุณหัวปรักหัวปรำ ทุ่มเทให้คุณทุกอย่าง เพราะผมคิดว่าคุณเองก็รักผมไม่น้อยไปกว่ากัน แล้วนี่มันอะไรนี่คือสิ่งที่ผมได้รับจากผู้หญิงหลอกลวงอย่างคุณนั้นเหรอ แบบนี้อย่างนั้นเหรอแพรดาว!!"
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธาเปล่งวาจาออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บสุดขั้วหัวใจ ยิ่งโกรธเท่าไรแรงจับที่แขนของอีกฝ่ายก็หนักขึ้นไปกว่าเดิม แขนเรียวเล็กของแพรดาวเวลานี้ถูกแรงบีบจากมือหนาใหญ่ของนคินทร์ทำให้เกิดเป็นรอยแดงจนเธอรู้สึกเจ็บหนักขึ้น คราวนี้แพรดาวไม่ขยับหนีเธอทนกับความเจ็บที่ได้รับ มองหน้าผู้ชายที่ยืนมองเธอราวกับอยากจะฉีกเลือดฉีกเนื้อเธอให้ออกมาเป็นชิ้นให้ได้ แววตาที่เคยอ่อนโยน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความรักจากเขา เวลานี้มันไม่มีให้เธอเห็นอีกแล้ว
เขาเจ็บ เธอเองก็เจ็บยิ่งกว่า แต่เมื่อมันถึงเวลาบีบคั้นให้เธอต้องเลือกเธอจึงต้องตัดสินใจ หากเป็นเพียงเธอคนเดียวที่ถูกผู้หญิงคนนั้นข่มขู่ เธอก็พร้อมจะสู้ด้วยวิธีของเธอต่อไป แต่ในเมื่อทุกคนในครอบครัวกำลังจะถูกดึงเข้ามาในสงครามทำลายล้างจากผู้หญิงคนนั้น เธอจึงต้องเลือกที่จะเป็นฝ่ายถอยทั้งๆ ที่เธอยังไม่เคยเป็นฝ่ายรุก หรือโต้ตอบกลับเลยสักครั้ง
"รู้แบบนี้แล้วคินทร์ก็ปล่อยแพรไปเถอะค่ะ อย่ามายุ่งกับผู้หญิงหลอกลวงอย่างแพรอีกเลย"
ยิ่งได้ยินแพรดาวพูดตรอกย้ำออกมาแบบนี้ นคินทร์ก็ยิ่งโกรธดั่งไฟ อารมณ์พลุ่งพล่านของเขามันปะทุออกมาจนเกินพิกัดสุดต้านทาน นคินทร์ลากแขนแพรดาวมาเต็มแรง หญิงสาวตกใจพยายามรั้งตัวเองไว้ วินาทีนี้เองดลวัฒน์ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เห็นและได้ยินทุกอย่างเขาตัดสินใจวิ่งเข้ามาคว้าตัวแพรดาวไว้
"คุณนคินทร์ครับ ผมว่าคุณปล่อยคุณแพรก่อนเถอะครับ เธอเจ็บแล้วคุณก็เห็น" นคินทร์หันขวับมองไปที่คนพูด เขาไม่ยอมปล่อยแต่กลับยิ่งดึงตัวแพรดาวหนักขึ้นไปกว่าเดิม แพรดาวเจ็บจนร้องโอยออกมา ดลวัฒน์ยิ่งได้เห็นเช่นกันเขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของนคินทร์
"ผมบอกให้ปล่อยเธอยังไงล่ะครับ"
ดลวัฒน์พูดเสียงแข็ง นคินทร์กลับยิ่งไม่สนใจฟังเสียงเขา ดึงลากแพรดาวอย่างไม่ออมแรง ดลวัฒน์ทนไม่ไหวกระชากแขนของอีกฝ่ายออกอย่างเต็มแรง "ผมบอกให้คุณปล่อยเธอ" สิ้นคำพูดของดลวัฒน์ไม่ทันไร หมัดของอีกฝ่ายก็ต่อยเข้ามาที่หน้าเขาอย่างเต็มแรง ดลวัฒน์เซล้มลงไปอย่างไม่เป็นท่า แพรดาวรีบถลาลงมาหาคนที่ถูกต่อยจนหน้าคว่ำ
"คุณดล เป็นยังไงบ้างค่ะ" สีหน้าของแพรดาวตกใจ ก่อนจะหันมาหาคนที่ยืนอารมณ์ร้อนดั่งไฟแผดเผา
"ทำไมค่ะคินทร์ ทำไมถึงต้องลงไม้ลงมือกันแบบนี้"
"เป็นห่วงกันมาก รักกันมาก ก็ตามไปดูแลกันให้ถึงห้องเลยสิไป" คำพูดขอองนคินทร์นอกจากจะทำให้แพรดาวรู้สึกแย่แล้ว มันยังทำให้คนถูกหมัดร่วงลงไปรู้สึกอยากเอาคืนให้เท่าตัว ดลวัฒน์พยุงตัวเองลุกขึ้น เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากของผู้ชายที่เป็นแฟนแพรดาว
"นี่คุณนคินทร์ คนที่คุณพูดถึงเขาคือแฟนของคุณนะครับ ทำไมถึงไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองเลย คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกัน"
"ไม่ให้เกียติอย่างนั้นเหรอ หึหึ!!! คุณไม่ต้องมาสร้างภาพทำเป็นผู้ชายที่แสนดีหน่อยเลย คุณสองคนไปกินกันมาถึงไหนต่อถึงไหนแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังมีเกียรติอะไรให้ผมนึกถึงอีก"
"คุณนคินทร์" ดลวัฒน์เรียกชื่อเขาด้วยความโมโห ก่อนจะถลาง้างหมัดเข้าหาคนพูด แพรดาววิ่งเข้ามาขวางไว้ "อย่าค่ะคุณดล พอเถอะค่ะพอที คินทร์เขาอยากจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ แพรไม่มีอะไรจะพูดจะแก้ตัวทั้งนั้น คุณดลช่วยพาแพรออกไปจากที่นี่ทีเถอะค่ะ แพรขอร้อง"
ดลวัฒน์มองหน้าหญิงสาวด้วยความรู้สึกเห็นใจ ก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินพาหญิงสาวกลับไปขึ้นรถ อีกฝ่ายที่อยู่ในอารมณ์โมโหโกรธาหนัก ยิ่งได้เห็นแบบนี้ไฟรักที่มันแผดเผาไหม้ใจมันเหมือนมีพายุพัดโหมเข้ามาให้ไฟนั้นลุกโชนหนักขึ้นไปกว่าเดิม
"แพรดาว!! ทำไมคุณถึงใจร้ายกับผมแบบนี้ ผมทำผิดอะไร ผมไม่ดีตรงไหน ผมรักคุณสุดหัวใจ คุณจะหมดเยื่อใยทิ้งผมไปง่ายๆ แบบนี้อย่างนั้นเหรอ ผมรักคุณ ได้ยินมั้ยว่าผมรักคุณ" คำพูดของนคินทร์ไม่ได้ดุดันเดือดดาล แต่กลับเว้าวอนเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจในความรักที่เขามีต่อเธอ แพรดาวหยุดฝีเท้า หัวใจที่เจ็บปวดรวดร้าวเพราะน้ำมือบีบขย้ำของตัวเองมันเพิ่มทวีความเจ็บเป็นเท่าตัวเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่ตัวเองรักพูดออกมา น้ำตาที่กลั้นไว้ตั้งแต่แรกไหลปริ่มอยู่คลอเบ้า แพรดาวก้มหน้าเม้มปากแน่น และเธอต้องทำใจแข็งทั้งที่ความจริงหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอเวลานี้มันอยากวิ่งกลับไปหาเขาที่สุด
แพรดาวค่อยๆ ก้าวเท้าเดินต่อ ก่อนจะเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเดินไปที่รถ เมื่อนคินทร์เห็นแพรดาวไม่สนใจแม้กระทั้งจะหันกลับมามองตน คำพูดจาอ้อนวอนบอกรักเธอที่มันพูดออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ จึงเปลี่ยนคำพูดที่กระแทกหัวใจคนได้ยินให้เจ็บปวดไปตามๆ กัน
"ได้!!! ในเมื่อจะทิ้งกันไปแบบนี้ คุณก็จงจำไว้...วันนี้ผมเจ็บปวดมากแค่ไหน ความเจ็บปวดทั้งหมดมันจะต้องย้อนกลับไปหาคุณ และคนที่คุณรักทุกคน" คำพูดของนคินทร์ดังก้องเข้ามาในหัวของแพรดาว เธอได้ยินชัดเจนทุกคำพูด หมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ความรัก เยื่อใย และมิตรภาพระหว่างเธอกับเขามันจบแล้ว
แพรดาวทิ้งตัวลงบนเบาะรถของเจ้านาย เธอนั่งเงียบมาตลอดทาง ดลวัฒน์เองได้เพียงแต่ขับรถมาอย่างเงียบๆ เมื่อความเงียบกำลังสร้างความอึดอัดใจให้เขาอย่างหนัก คำถามมากมายสารพัดเต็มหัวสมองที่อยากจะถามเธอ
"คุณแพรครับ!! ผมขอโทษนะครับ ผมคงต้องถามคุณแพรให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นผมไม่สบายใจแน่....ทำไมคุณถึงไม่อธิบายให้คุณนคินทร์เข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด" แพรดาวนิ่ง
"มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องอธิบายอีกแล้วค่ะ ยังไงมันก็ต้องเป็นแบบนี้" น้ำเสียงคนพูดฟังดูเศร้า แพรดาวก้มหน้าพร้อมกับปลดปล่อยเสียงลมหายใจออกมา ไม่นานจึงเงยขึ้นมาแล้วหันไปมองเขา
"แพรขอโทษคุณดลด้วยนะคะสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณดลยังเจ็บอยู่มั้ยค่ะ" ดลวัฒน์ยิ้มพลางส่ายหน้า "ไม่เจ็บแล้วล่ะครับ แค่นี้เอง" แพรดาวหน้าเศร้ามองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
"แพรไม่ได้มีเจตนาที่จะดึงคุณดลเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยจริงๆ แพรขอโทษนะคะ"
"ไม่เป็นไรครับคุณแพร ผมเข้าใจ คุณแพรไม่ต้องขอโทษผมหรอกนะครับ...แล้วจากนี้ไปคุณแพรจะทำยังไงต่อไปครับ"
แพรดาวส่ายศีรษะไปมาช้าๆ "ไม่รู้สิค่ะ แพรเองก็ยังคิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน"
แพรดาวทิ้งตัวลงบนเตียงนอน ก่อนจะปลดปล่อยน้ำตาที่กลั้นเก็บไว้ให้มันแตกปะทุไหลออกมาจนเปียกชุ่มเต็มหมอน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจพาให้ร่างกายของเธอสั่นไหวไปทั้งตัว ฟากนคินทร์หลังจากที่เห็นหญิงที่ตัวเองรักสุดใจออกไปกับผู้ชายคนใหม่ หัวใจของเขามันช้ำแหลกเหลวเกินจะเยียวยาให้หายได้ง่ายๆ เขาขับรถออกมาด้วยความเร็วโดยไม่สนใจใครหน้าไหน รถของเขามาหยุดจอดที่หน้าผับแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท นคินทร์เดินปรี่เข้าไปด้านใน เดินตรงมานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มมาดื่มย้อมใจ บริกรยกเครื่องดื่มหลายต่อหลายแก้วมาเสิร์ฟให้ตามคำสั่งของเขา จนเวลานี้ร่างที่เคยนั่งตรงกำลังฟุบลงอยู่กับเคาน์เตอร์
"นังผู้หญิงแพศยา ร้ายยางอาย คนหลอกลวงหลายใจ..."
นคินทร์พร่ำพูดซ้ำไปซ้ำมาประสาคนเมาที่ภายในหัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ยิ่งไปกว่านั้นน้ำตาของลูกผู้ชายมันไหลท่วมออกมาจากดวงตาของเขา อารมณ์ที่ดูเหมือนจะไร้สติสัมปชัญญะของนคินทร์พาให้บริกรต่างมองหน้ากันว่าจะทำอย่างไรดี ช่วงเวลานี้นคินทร์ล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างทุลักทุเล เขาพยายามหรี่ตามองหน้าจอโทรศัพท์ดูชื่อ แล้วกดโทรออกไปหาใครสักคน เสียงรอสายดังอยู่สักพักก่อนที่จะมีคนรับสาย
ความคิดเห็น