ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่วงร้ายพ่ายเงารัก

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 56


    บ่วงร้ายพ่ายเงารัก

    บทนำ

                    เสียงคลื่นสาดซัดปะทะเสียงลมพัดโชยมาอยู่เป็นระยะ พาให้ร่างกำยำของใครบางคนที่นอนอยู่ในเปลยวนริมหาดทรายขาวเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงคลื่นและสายล้มพลิ้ว เปลยวนถูกแกว่งไปมาเบาๆ จากสายลมบวกกับแรงขยับกายของคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ในนั้น สาวร่างบางระหงเดินตรงมาหาคนที่นอนอยู่บนเปลยวนอย่างสบายใจ ในมือหญิงสาวมีทั้งแก้วน้ำและจานขนมทั้งซ้ายขวา ทั้งสองอย่างถูกวางลงบนโต๊ะเล็กๆ ก่อนที่เธอจะเดินตรงมาหาเป้าหมายที่เวลานี้กำลังนอนสบายอุราหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข รอยยิ้มเล็กๆ กระตุกขึ้นที่หน้าหญิงสาวอยู่ครู่เมื่อเห็นใบหน้าชายที่นอนอยู่ในเปลดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเอื้อมมือบางๆ ไปสะกิดเรียกอีกฝ่ายเบาๆ

                    "นคินทร์ค่ะ แพรเอาของว่างมาให้ลุกขึ้นมาทานก่อนสิคะ" เสียงเรียกไร้ปฏิกิริยาตอบกลับ จนคนเรียกต้องตัดสินใจส่งเสียงหวานๆ เรียกซ้ำอีกรอบ ร่างอรชรไม่ทันระวังตั้งตัวก็ถูกอีกฝ่ายดึงเข้าไปอยู่ในเปล พร้อมทั้งทำการสวมกอด และตามมาด้วยเสียงหอมฟอดใหญ่

                    "ว๊ายย!! อะไรกันเนี๊ยะคินทร์" แพรดาวหน้าแดงก่อนจะตามมาด้วยน้ำเสียงแหวใส่อีกฝ่ายอย่างอายๆ

                    "แก้มแพรห๊อมหอม แบบนี้ต้องพิสูจน์ว่าอีกข้างจะหอมเหมือนข้างนี้มั้ย" ยังไม่ทันสิ้นประโยคนนคินทร์ก็มุดหน้าตัวเองลงมาที่แก้มของอีกฝ่ายทันทีแต่คราวนี้แพรดาวไหวตัวทัน เบนหน้าหลบคนฉวยโอกาสอย่างเขาได้ทันท้วงที

                    "ปล่อยแพรเดี๋ยวนี้นะคะคินทร์ คนบ้า!! ชอบฉวยโอกาสกับแพรอยู่เรื่อยเลย" แพรดาวพูดพลางอมยิ้ม และในเวลาเดียวกันนั้นก็พยายามแกะมือราวกับหนวดปลามึกของอีกฝ่ายที่โอบกอดเธอไว้แน่นให้ปล่อยเธอ แต่มีหรือที่นคินทร์จะยอมง่ายๆ เขากลับกอดรัดอีกฝ่ายไว้แน่น แถมยังขโมยหอมแก้มอีกข้างของแพรดาวได้สำเร็จอีกด้วย

                    "ชื่นใจที่สุด!! แก้มแพรทั้งหอมทั้งนิ่มที่สุดในโลก ผมจะไม่มีวันปล่อยให้ใครแย่งแก้มหอมๆ นิ่มๆ แบบนี้ไปได้แน่นอน" พูดจบรอยยิ้มก็เปิดกว้างจนเห็นไรฟัน แพรดาวมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม เธอส่ายหน้าไปมา มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่แสนดี อ้อมกอดของผู้ชายคนนี้คือสิ่งที่เธอปรารถนา และไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ความรู้สึกรักได้ก่อตัวและเพิ่มขึ้นมากมาย เป็นความรักที่ทั้งคู่มีให้กันจนล้นหัวใจมาตลอดเกือบ 5 ปี

                    "แพร...เมื่อไหร่คุณจะยอมใจอ่อนแต่งงานกับผมสักที เราคบกันมาจะ 5 ปีแล้วนะ" คนพูดตีหน้าเศร้าเคล้าไปด้วยแววตาร้องขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย หลายต่อหลายครั้งที่นคินทร์เอ่ยปากขอแพรดาวแต่งงาน แต่ทุกครั้งเขาก็ยังคงได้คำตอบเช่นเดิม และครั้งนี้ก็เช่นกัน

                    "เอ่อ...ขอเวลาแพรอีกนิดนะคะคินทร์ คุณก็รู้นี่ค่ะว่าแพรเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่ง งานแพรตอนนี้มันหนักมาก อะไรๆ ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางเลย ขอให้แพรได้ทำงานอย่างเต็มที่ก่อนนะคะ ให้เวลาแพรอีกนิดนะ" หญิงสาวพูดพลางส่งยิ้มหวานให้คนที่นั่งหน้าเง้ามองเธออยู่

                    "เฮ้อ!!...แพรก็บอกผมแบบนี้ทุกที ถ้าผมรอแพรไม่ไหวขึ้นมาไปหาผู้หญิงคนอื่น คราวนี้จะมานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไม่ได้นะบอกไว้ก่อน" คนพูดพูดจาหน้าหน้าทะเล้น พาให้อีกฝ่ายหุบยิ้ม เชิดหน้าใส่เขาแทน

                    "ก็เอาสิค่ะ...เชิญเลย ถ้าคินทร์คิดว่าคินทร์มีคนอื่นได้ แพรก็จะไม่ยอมน้อยหน้าเหมือนกัน จะเดินควงมาโชว์ให้เห็นกันไปเลยคอยดูสิ จะลองดูมั้ยล่ะค่ะ" คราวนี้คนถูกยียวนกวนกลับกลับเป็นฝ่ายลุกลี้ลุกลน ถลึงตาใส่อีกฝ่ายทันที

                    "แพร!! คุณห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาด ผมไม่มีวันยอมแน่นอน ผมรักของผมมาตั้งนาน จะยอมให้คนอื่นมาคว้าไปง่ายๆ ได้ยังไง คุณห้ามทำอย่างที่พูดนะ....เมื่อตะกี้ผมพูดเล่นนะแพร ก็ผมอยากให้แพรใจอ่อนยอมแต่งงานกับผมซะทีนี่ครับ"

            คนพูดทำน้ำเสียงทำหน้าตาอ้อนหญิงสาว และกลับกลายเป็นเขาที่ต้องหวั่นใจไปกับคำพูดของแพรดาว เพราะสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการต้องเสียผู้หญิงคนนี้ไป แพรดาวคือผู้หญิงที่เขารักจนสุดหัวใจ เขาไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนได้มากเท่าเธออีกแล้ว แพรดาวได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้นก็อดอมยิ้มไม่ได้ แต่เธอก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจดันตัวเองลุกขึ้นเดินมายังโต๊ะที่ตั้งของว่างไว้ทันที นคินทร์มองตามอีกฝ่ายก่อนจะรีบลุกพรวดพลาดตามไปติดๆ

                    "แพร คุณยังไม่รับปากผมเลยนะ รับปากผมมาก่อนว่าห้ามทำแบบนั้นเด็ด..." ยังไม่ทันสิ้นคำ คุกกี้คำโตก็ถูกจับมายัดใส่ปากนคินทร์ทั้งชิ้นทันที

                    "อร่อยมั้ยค่ะ เอาอีกมั้ย!!" แพรดาวยิ้มหน้าทะเล้น ยืนมองอีกฝ่ายเคี้ยวคุกกี้กลืนลงคออย่างน่าขัน

                    "นี่คุณแกล้งผมใช่มั้ยแพร มานี่เลย" นคินทร์เอื้อมมือจะไปคว้าร่างบาง แต่แพรดาวไหวตัวทัน วิ่งหนีเขาไปที่ชายหาด  "จะหนีผมไปไหนแพร อย่าให้ผมจับได้นะ ไม่งั้นคุณถูกทำโทษแน่" คนพูดพลางยิ้มให้กับความรู้ทันของแฟนสาวตัวเอง

                    "เหรอค่ะ กลัวจังเลย แน่จริงก็จับแพรให้ได้ก่อนเถอะคุณคินทร์จอมขี้คุย"

                    เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ผสานผสมอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่อย่างสุขหัวใจ ความสุขใดจะสุขใจได้เท่ากับการได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และสงบเงียบเช่นนี้ สองมือผสานกันแน่นเดินเคียงข้างกันอยู่ริมชายหาดขาวในช่วงเวลาที่ดวงตะวันกำลังจะลาลับขอบฟ้าไป

                    "สวยจังเลยนะคะคินทร์ ...แพรรู้สึกสบายใจจังค่ะ"

            "ผมก็เหมือนกัน ผมมีความสุขมากที่ได้มาที่นี่กับแพร และก็ดีใจนะครับที่แพรชอบที่นี่" ทั้งคู่หันมาส่งยิ้มให้กัน นคินทร์ค่อยๆ เอื้อมมือไปโอบไหล่ของอีกฝ่ายไว้อย่างกระชับ ก่อนจะหันกลับมามองภาพเบื้องหน้าของตัวเองอีกครั้ง

                    "ผมอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆ อยากอยู่กับแพรแบบนี้ ไม่อยากให้มันผ่านไปเลย" แพรดาวได้ยินแบบนี้มีแต่จะทำให้หัวใจของเธอพองโต รอยยิ้มพริมใจยิ้มให้เจ้าของคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกดีเป็นไหนๆ ไม่เคยเลยที่ผู้ชายคนนี้จะทำให้เธอเสียใจ เขามีแต่ความรัก และความรู้สึกดีๆ เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

                    " ถึงแม้วันนี้มันกำลังจะผ่านไป แต่เรายังมีพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอค่ะคินทร์...วันนี้ พรุ่งนี้ หรือไม่ว่าจะวันไหนแพรก็ยังจะยืนอยู่เคียงข้างคุณแบบนี้คะ"

            รอยยิ้มผสานรอยยิ้มก่อนที่ร่างบางจะถูกดึงเข้ามากอดไว้ท่ามกลางแสงของดวงตะวันที่กำลังค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าพาให้คนทั้งคู่ก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งรัตติกาลของท้องฟ้ากระจ่างดาว สายลมพลิ้วพัดผ่านมาแตะผิวกายของทั้งคู่ให้เริ่มสะท้าน

                    "เรากลับเข้าที่พักกันดีกว่า ลมเริ่มแรง น้ำค้างเริ่มลงเดี๋ยวแพรจะไม่สบายเอา"

                    "ค่ะ"

                    ระหว่างทางที่เดินกลับมายังที่พัก เสียงข้อความในโทรศัพท์ของแพรดาวส่งสัญญาณดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความ เป็นเบอร์โทรศัพท์ที่เธอไม่คุ้นเคยเลย มือเรียวเล็กกดเปิดอ่านข้อความ สีหน้าแพรดาวเจื่อนลงไปถนัดตา คิ้วสองข้างขมวดปมผูกโบว์เข้าหากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะเงยหน้าหันไปมองผู้ชายคนข้างๆ กายตัวเองอย่างไม่ค่อยจะสบายใจนัก

                    "แพรมีอะไรรึเปล่า ใครส่งข้อความมาเหรอครับ" นคินทร์ถามหญิงสาวออกมา เมื่อเห็นเธอจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตาไปไหน แพรดาวนิ่งไปพักก่อนจะส่ายหน้าไปมา

                    "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คินทร์เข้าที่พักไปก่อนนะคะ เดี๋ยวแพรตามไป"

                    "อ้าว!! ทำไมละครับก็เข้าไปด้วยกันสิ แพรมีอะไรรึเปล่า ฮึ!!" แพรดาวเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ แต่เธอพยายามนิ่งและเก็บอาการให้ได้มากที่สุด "แพรไม่เป็นอะไรค่ะ แพรขอโทรศัพท์ไปคุยเรื่องงานนิดนึงนะคะ คินทร์เข้าไปก่อนนะ" นคินทร์ได้ยินแบบนั้นจึงพยักหน้า

                    "โอเค งั้นแพรก็รีบคุยแล้วรีบเข้าบ้านนะ น้ำค้างเริ่มแรงแล้ว ถ้าเข้าไปช้าผมจะออกมาตาม"

                    แพรดาวได้แต่เพียงพยักหน้ารับคำ ยืนมองอีกฝ่ายเดินกลับเข้าที่พักไป ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ปลดปล่อยเสียงลมหายใจเฮือกใหญ่ออกมา สายตามองทอดยาวไปยังทะเลที่กว้างใหญ่ไกลโพ้น ความมืดปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ แสงดาวเริ่มทอประกายระยิบระยับทั่วท้องฟ้า สายลมเย็นเริ่มพัดมาให้สะท้านผิวอยู่เป็นระยะ มือสองข้างถูกยกขึ้นมากอดเกี่ยวกันไว้ ความเงียบรอบกาย ทำให้เธอได้ยินเสียงถอนหายใจของตัวเองชัดขึ้นเรื่อยๆ

                    "ฉันควรจะถามคุณตรงๆ หรือควรจะนิ่งเฉยไปเลยดีค่ะคินทร์ " หญิงสาวพูดกับตัวเองเบาๆ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมีผ้าคลุมมาคลุมไว้ที่ไหล่ของตัวเอง

                    "แพรอยากจะถามอะไรผม ถามผมมาสิครับ ผมพร้อมจะบอกแพรทุกเรื่อง"

                    "คินทร์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ"                

                    "มาเมื่อไหร่ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่แพรอยากจะถามผมมากกว่า ...เราเคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอครับแพรว่ามีอะไรก็ให้พูดให้ถามกันตรงๆ อย่าเก็บไว้คนเดียวคิดเองคนเดียว แพรจำไม่ได้เหรอครับ" นคินทร์จ้องมองหญิงสาวอันเป็นที่รักที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้ แพรดาวก้มหน้าไปครู่ ก่อนที่เธอจะเงยกลับขึ้นมามองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้ง

                    "คินทร์ยังรักแพรคนเดียวอย่างที่คินทร์พูดจริงๆ ใช่มั้ยค่ะ" สิ่งที่นคินทร์ได้ยินทำให้เขายิ้มออกมาอย่างประหลาดใจ

                    "อะไรทำให้แพรคิดว่า ผมไม่ได้รักแพรคนเดียวครับ...ถ้าให้ผมเดา ข้อความเมื่อตะกี้ที่แพรได้รับต้องมีอะไรที่เกี่ยวกับผมใช่มั้ย" แพรดาวปลดปล่อยลมหายใจก่อนจะพยักหน้าให้เขาเป็นคำตอบ

                    "แพรเชื่อใจผมมั้ย!! ผมบอกแพรไว้ตรงนี้เลยนะว่าผมรักแพรคนเดียวจริงๆ ผมไม่เคยวอกแวก ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง สิ่งที่ผมบอกผมไม่ได้พยายามสร้างภาพให้ตัวเองดูดีในสายตาแพรแค่เวลานี้เท่านั้น แต่มันเป็นสิ่งที่ผมทำมันมาตลอดเวลาที่คบกับแพร ผมไม่รู้ว่ามีใครกำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับความรักของเรา แต่ผมขอใช้ความเป็นลูกผู้ชายยืนยันตรงหน้าแพรตอนนี้เลยว่า ผมรักแพรคนเดียวจริงๆ ขอให้คุณโปรดเชื่อมั่นในตัวผม"

                    ได้ยินคำเขายืนยันออกมาแบบนั้น แพรดาวถึงกับยิ้มออก ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจแต่ที่เธอหวั่นไหว เพราะกลัวนคินทร์จะเบื่อที่จะรอผู้หญิงอย่างเธอ หลายครั้งที่เธอปฏิเสธการขอแต่งงานจากเขา หัวใจเธอมันเจ็บปวดทุกครั้ง เหตุผลที่ผู้หญิงอย่างเธอต้องเก็บซ่อนมันไว้ในใจ ไม่สามารถบอกเขาหรือใครให้รู้ได้ว่าเพราะอะไรเธอต้องปฏิเสธเขาอยู่ร่ำไปแทบทุกครั้ง หยดน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลรินรดออกมาจากดวงตาคู่สวย พาลให้ชายหนุ่มตรงหน้าตกใจที่เห็นหยดน้ำตาของคนรักไหลออกมาเช่นนี้

            นคินทร์เอื้อมมือไปเช็ดหยดน้ำตาของแพรดาวอย่างช้าๆ ก่อนจะคว้าร่างบางของเธอเข้ามาโอบกอดไว้แน่น เขาไม่ค่อยได้เห็นแพรดาวร้องไห้บ่อยนัก ตลอดเวลาที่คบกันมาแพรดาวเป็นคนเก่ง เป็นเวิร์คกิ้งวูแมนที่ชายหนุ่มหลายคนชื่นชม น้อยครั้งที่เธอจะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น หรือแม้กระทั่งตัวเขาเองก็น้อยมากที่จะเห็นน้ำตาของเธอ

                     "แพรร้องไห้ทำไมครับ ผมเห็นแล้วใจไม่ดีเลย แพรไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดเหรอ!!" แพรดาวส่ายศีรษะไปมาพร้อมเสียงสะอื้นไห้ ความอ่อนแอในใจถูกปลดปล่อยออกมาให้เขาได้เห็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

                    "แพรเชื่อคุณค่ะคินทร์ แพรเชื่อคุณ"
                  แพรดาวพูดพลางโอบกอดเขาไว้แน่น นคินทร์เองก็ไม่ต่างกัน เขากระชับอ้อมกอดที่มีแพรดาวผู้หญิงที่เขารักดั่งดวงใจไว้แน่นแนบกายมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

                   

                   

     

                    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×