มาแอ่วเมืองเชียงราย

ลำดับตอนที่ #2 : อำเภอเมืองเชียงราย(ตลาดสดเชียงราย)

      พูดถึงตลาดสดเทศบาล 1 หรือกาดหลวง นับว่าเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย นอกจากจะเป็นสถานที่ทางเศรษฐกิจสร้างการหมุนเวียนซื้อขายสินค้ากันแล้ว ตลาดสดเทศบาล 1 แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้านการศึกษาวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวเชียงร

      ตลาดสดเทศบาล 1 แห่งนี้มีพ่อค้าแม่ค้า มารวมตัวกันสร้างหลักปักฐานอยู่ ณ ที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งคนเมืองและคนไทยเชื้อสายจีน มีประวัติศาสตร์ร่วมสมัยกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรมาทิ้งระเบิดที่ตลาดมาจนถึงยุคสมัยของการพัฒนาเมืองยุคจอมพลผ้าขะม้าแดง ถือได้ว่าตลาดสดเทศบาล 1 แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและเป็นแหล่งสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนคนเชียงรายอีกแห่งหนึ่ง

ายอีกแห่งหนึ่ง
      ภายในตลาดสดเทศบาล 1 นั้นมีข้าวของเครื่องใช้มากมายหลายอย่างที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้นำมาวางจำหน่าย ทั้งเปิดเป็นร้าน เป็นแผง หรือวางบนทางเท้า ตลาดเทศบาลแห่งนี้นอกจากจะมีสิ่งของให้ได้เลือกมากมายแล้ว ยังมีราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปอีกด้วย และที่สำคัญนั้นตัวตลาดยังเป็นชุมทางสินค้าที่หลากหลายชนิด มีของกินของใช้ที่เป็นของมีคุณภาพดี ทั้งยังเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ยากตามท้องตลาดทั่วไปในยุคปัจจุบันก็ยังมีขายในตลาดสดเทศบาล 1 แห่งนี้อย่างมากมายอีกด้วย

เช่นเดียวกับร้านสมรัก ซึ่งตั้งอยู่ที่ อาคาร 2/2 ในตลาดเทศบาล 1 แห่งนี้ ซึ่งเป็นร้านที่ขายของที่ไม่เหมือนท้องตลาดทั่วไปและเป็นสิ่งของที่หาซื้อได้ยาก เช่น ที่นอนและหมอนที่ทำจากนุ่น ผ้าซิ่น ที่เป็นผ้าฝ้ายและผ้าไหม หมวกสักหลาดแบบสมัยเก่า ผ้าขาวม้า และเสื้อผ้า วางขายอยู่ในร้านอย่างสวยงามและเป็นสัดส่วนพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าอย่างสะดวกสบาย

จากการพูดคุยกับนางสาว สมรัก วงศ์วิวัฒนนุกิจ อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า แม่ของตนได้ขายของอยู่ในตลาดสดเทศบาล 1 แห่งนี้มา 30 กว่าปีแล้ว พอตนเรียนจบจึงออกมาช่วยกิจการของแม่ต่อ เพื่อสืบสานงานขายต่อไป อีกอย่างแม่ก็มีอายุ 62 ปีซึ่งถือว่าอยู่ในวัยชราแล้วจึงอยากให้แม่ได้พักผ่อนบ้าง จึงได้ตัดสินใจมาช่วยกิจการที่ร้าน

      นางสาว สมรัก เล่าต่อไปว่า จากการเปิดร้านมา ของทุกอย่างในร้านจะขายได้ดีมาก โดยเฉพาะในช่วง ปีใหม่เมือง ช่วงเปิดเทอม ช่วงฤดูหนาว และช่วงเทศกาลลอยกระทง ทั้งสี่ช่วงนี้จะขายของได้ดีมีลูกค้าทั้งคนในจังหวัดและต่างจังหวัดหลั่งไหลกันเข้ามาที่ร้านทุกวัน ทั้งเข้ามาซื้อที่นอน หมอนมุ้ง ผ้าซิ่นบ้าง ที่ร้านจะมีผ้าซิ่นที่เป็นผ้าฝ้าย และผ้าไหมให้ได้เลือก ส่วนผ้าซิ่นที่เป็นผ้าไหมนั้นจะมี 2 แบบให้เลือก คือ แบบธรรมดาและแบบเป็นดิ้นโดยราคาของผ้าซิ่นก็จะไม่ต่างกันมาก

      ส่วนที่นอนที่ทางร้านนำมาขายให้กับลูกค้านั้นจะเป็นที่นอนที่ทำมาจากนุ่น ซึ่งหลายขนาด หลายรุ่น ขนาดเล็กใหญ่แล้วแต่ลูกค้าต้องการ ส่วนผ้าขาวมาทางร้านก็ได้นำมาวางขายเป็นจำนวนมากโดยผ้าขาวม้านั้นจะมีทั้งแบบโทเร และแบบผ้าฝ้าย แล้วแต่ความชอบและกำลังเงินลูกค้า ซึ่งผ้าโทเรนั้นจะมีราคาแพงกว่าผ้าฝ้ายธรรมดาหนึ่งเท่าตัว ผ้าขาวม้าและผ้าซิ่นนั้นจะขายดีในช่วงที่มีเทศกาลปีใหม่ ส่วนที่นอนนั้นจะขายดีในช่วงฤดูหนาว และช่วงที่มีการเปิดเทอม 
      รู้สึกดีใจที่ทางร้านเราเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้บริโภค และการขายของที่เป็นของที่เราเคยใช้กันมาในอดีตที่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีคุณภาพนั้นให้คงอยู่ต่อไปนั้น ยิ่งทำให้เราทำให้มีความภาคภูมิใจมากขึ้น เพราะถือว่าเราได้เป็นอีกคนหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งที่มีค่าของไทยให้อยู่สืบไป