ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : สายน้ำมรณะ
,kสายน้ำมรณะ
    พวกเธอเดินมานั่งที่โขดหินอีกครั้ง “ไหน มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกมั้ย ฉันเบื่อนะ บทตาแตกเนี่ย” นอดอลพูดด้วยท่าทางเบื่อจริงๆ “แสดงว่านายเป็นไก่นะสิ”(สำนวนไทย งงเป็นไก่ตาแตก) ทีเมริพูดหยอก แต่ท่าทางเขาก็เบื่อเหมือนกัน “นี่ น้อยๆหน่อย ไม่ขำด้วยนะ”นอดอลทำตาค้อนใส่ทีเมริ “เป็นยังไงบ้างครับ มีย่า”ทีเมริไม่สนใจ แล้วหันไปพูดกับมีย่า “ทีแบบนี้หละปากหวานเชียว”นอดอลยังไม่หยุดค้อน “ อิจฉาละสิ”ทีเมริสวนกลับทันควัน “หมายดวามว่าไง”  “ก็หมายความอย่างที่พูด...” “พอทั้งคู่เลย เถียงกันยิ่งกว่าผู้หญิงอีก”ไคตะพูดขัดขึ้นมา หลังจากดูเหตุการณ์มาซักพัก “เฮ้ย!”นอดอลกับไคตะร้องพร้อมกัน “เอะ!พวกนี้เป็นอะไรกันเนี่ย”ไมโอล่าพูดขึ้น ด้วยความลำคาญเต็มทน แต่แล้วเธอก็หัวเราะออกมา “หัวเราะอะไร”ทั้งสามคนพูดขึ้นพร้อมกัน (ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าหัวเราะพวกเขา)  “เออ ตกลงชนเผ่าฟาซานนี่มันอะไร” นอดอลยังสงสัยไม่หยุด จนมีย่าถึงกับหัวเราะเสียงดัง “ ดีแล้วหละสีท่า ถึงหัวเราะได้”นอดอลยังแหย่ไม่หยุด “นายนี่ ขี้สงสัยยิ่งกว่าไมอีกนะ ”มีย่าหยุดหัวเราะ แล้วพูดกับนอดอล “เฮ้...” “ พอๆ เดี่ยวก็ไม่บอกซะเลย”มีย่าพูดดักคอนอดอล ทำให้นอดอลถึงกับอึ้ง เลยต้องยอมจำนน “ชนเผ่าฟาซานเป็นชนเผ่าที่เป็นพันธมิตรกับตระกูลโมเนีย และโมนีล่า ซึ่งก็หมายความว่า ต้องหมายรวมถึงโมอ่าด้วย” มีย่าหันหน้าไปทางไม “คนชนเผ่านี้จะมีเชื้อเทพ คือ เชื้อนางฟ้าอยู่ในตัว แม้จะไม่ถึงครึ่ง แต่ก็เยอะกว่าพวกเรา” ไมโอล่าพูดต่อ ซึ่งเธอหมายถึง มีย่า และตัวเธอนั้นแหละ  “งั้นก็หมายความว่า เธอสองคนมีเชื้อนางฟ้านะสิ!”ทีเมริพูด อย่างกับจะตะโกนดังๆ “เฮ้ นั้นมันคำพูดฉัน”นอดอลทำหน้าฉุน ที่ทีเมริแย่งพูด “หยุดดด!”ไมโอล่าห้ามเสียงยาว ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มเถียงกันอีก “ตกลงจะฟังไม่ฟัง” “ฟัง!”ทั้งสองคน รวมทั้งไคตะร้องขึ้นพร้อมกัน “เออ...ดี”ไมทำเป็นค้อนใส่ให้ทั้งสามคนเงียบ “แต่ !” ไคตะพูดขึ้น ไม่มีใครถามว่าทำไม แต่ทุกคนเงียบ รอฟังว่าอะไร “ทำไม ไม่ให้เธอเล่าให้พวกเราฟังเองล่ะ?”ทุกคนยังคงเงียบเหมือนเดิม และมองไปทางฟีเนล่าเป็นตาเดียวกัน แต่เธอก็ไม่พูดอะไรเลย เธอลุกขึ้นจากโขดหินที่นั่งอยู่ และเสยผมขึ้น เธอเงียบไปได้สักพักหนึ่ง จนในที่สุด ความเงียบก็หายไป “นั่นสิ ฟีเนล่า”ไมโอล่าก็สงสัยเหมือนกัน ฟีเนล่ายิ้มเล็กๆ ดวงตาของเธอแฝงด้วยความจริงใจต่อพวกเขาเหลือล้น “ถ้าท่าน...เออ...ถ้าเธอต้องการ”ฟีเนล่ายิ้มจนเห็นฟันขาวของเธอ เพราะไมโอล่าบอกให้เรียกเธอฉันคนรู้จักมากกว่านี้ ซึ่งฟีเนล่าก็รู้ตัวดี ว่าเธอควรเรียกพวกเขาว่าอะไร “คำถามแรกเลย ตกลงเธอสองคนมีเชื้อนางฟ้าหรอ?”นอดอลยังสะกดบทตาแตกไม่ได้ เขามองตาติ๋มๆไปทางไมโอล่า เป็นเชิงว่าไม่อยากเชื่อ หรือจะเค้นเอาความจริงว่า จริงหรอ แต่ไมโอล่าก็ชี้นิ้วไปทางฟีเนล่าเป็นเชิงว่า นายถามฟีเนล่าอยู่นะ ไคตะที่ดูเหตุการณ์อยู่ข้างหลังทั้งคู่หัวเราะเบาๆ ทำเอาฟีเนล่าขำตามไปด้วย
    “จะว่าใช่ก็ใช่ ว่าไม่ใช่ก็ว่าตามกัน” ฟีเนล่าพูดทั้งหัวเราะ “ช่วยอธิบายให้มันเข้าใจมากกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ”ทีเมริถามท่าทางใช้ความคิด “ช่วยอธิบายให้มันเข้าใจมากกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ”นอดอลพูดเบาๆ ทำปากล้อเลียนทีเมริ “อะ-ฮัม!” ทีเมริทำเสียงดังเตือนสตินอดอล “ตกลงจะฟังไหม!” ไมถามเสียงดัง ก่อนที่เพื่อนซี้ ขี้...จะเถียงกันไปมากกว่านี้ “ฟังครับ!” ทั้งคู่ตอบเสียงดังฟังชัด จนไคตะกับมีย่ากลั้นขำไม่อยู่  ส่วนฟีเนล่าเอามือปิดปากก่อนที่เธอจะหัวเราะเสียงดัง จนทุกคนหันมามอง “เอาเป็นว่ามีเชื้อห่างๆ...เออ ห่างมากกกๆ”ฟีเนล่าพูดขึ้น “แล้วห่าง...” “ห่างมากจนอาจนับได้ว่าเป็นมนุษย์เกือบร้อยเปอร์เว็นต์”เธอพูดดักคอ นอดอล เพราะถ้าจะตอบคาถามนี้จริงๆ ก็คงต้องพูดกันยาวเอาการ แล้วยังมีคำถามอื่นต่อคิวอยู่อีก “เฮอ ... แล้วไป”นอดอลถอนหายใจ ทำเอาทุกคนงงว่าทำไม
    ชนเผ่าฟาซานมีเอกลักษณ์เฉพาะคือ ผมสีดำเข้ม ตาสีฟ้าใสดุจน้ำ  และผิวขาวเกลี้ยง ซึ่งเป็นกรรมพันธุ์มาจากนางฟ้า 100% ไม่มีสิ่งแปลกปลอม ลักษณะของคนชนเผ่านี้มาจากนางฟ้า และชาวอะเมซอน เกือบครึ่ง ซึ่งชนเผ่านี้ขึ้นชื่อเรื่อง ความซื่อสัตย์ และจริงใจมาก เกือบทั้งเผ่า เป็นผู้หญิง เวทย์มนต์เฉพาะของคนในเผ่าคือ ฟาอาแลนซ่า ที่ฟีเนล่าใช้ ทำให้ไมโอล่ามั่นใจว่าเป็นคนเผ่าฟาซานแน่ เวทย์มนต์นี้ เป็นเวทย์ที่มีอำนาจกวาดล้างศัตรูสูงมากเลยทีเดียว เป็นเวทย์มนต์แรก และเวทย์มนต์เดียวที่องค์นางฟ้าฟาซานประทานให้เป็น เวทย์ประจำเผ่า ที่เธอเป็นต้นกำเนิด แต่เวทย์มนต์นี้ก็สามารถหยุดได้ โดยพลังประจำตระกูลหรือเผ่าของพันธมิตร โดยเฉพาะพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง และแน่นแฟง อย่าง โมเนีย และโมนีล่า ซึ่งรวมกันเป็นเชื้อสายโมอ่านั้นเอง
    ระหว่างที่พวกเธอและพวกเขากำลังคุยกัน มีย่าก็ได้ปลีกตัวไปเดินเล่นแถวๆต้นน้ำคนเดียว แต่ทีเมริก็แอบตามไปดูแล โดยที่มีย่าไม่รู้ตัว “ยังมีสถานที่สวยๆ แบบนี้ ในป่าน่ากลัวแบบนี้ด้วยนะเนี่ย” มีย่าพึมพำกับตัวเอง ด้านหน้าเธอคือน้ำตกขนาดใหญ่เอาการ โขดหินริมตลิ่ง ดูสวยงามได้ที่ น้ำที่นี่ไม่เชี่ยวนัก แต่ก็คงไม่มีอะไรแน่นอนในสภาพป่าที่ขึ้นชื่อเช่นนี้เธอเดินไปนั่งที่โขดหินที่มีดอกไม้ขึ้นแซมอยู่ข้างๆ แล้วเอามือจุ่มลงไปในน้ำแกว่งไปมาเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นน้ำที่ไหลมาด้านหลังมีย่าส่องแสงสีเหลือง วาบ      วาบ  โดยที่มีย่าไม่รู้ตัวเลย เธอยังแกว่งมือไปเรื่อยๆ ทีเมริที่แอบอยู่หลังต้นไม้ก็ยังมองเธออยู่อย่างนั้น เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง และแล้ว...
    “เธอโดนหัวหน้าปีศาจสาป งั้นหรอ” ไมโอล่ายังพูดอยู่กับฟีเนล่าอยู่ “ว้าย!” ตุม!    “มีย่า!” ทุกคนตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน  “มีย่า” ทีเมริวิ่งไปหามีย่าที่ผลุบๆ โผล่ๆอยู่ในน้ำ “ช่วยด้วย!” เธอพยายามตะโกนบอก  “ตุ่ม!” ทีเมริกระโดดลงไปในน้ำ “ช่วยด้วย!” เธอยังคงตะโกนต่อไป และลอยห่างออกไปเรื่อยๆ ทีเมริรู้สึกว่าผ้าคลุมของเขาถ่วงเอาไว้    เขาถอดมันออก แล้วโยนขึ้นไปบนฝั่งพร้อมกับเสื้อคลุม แต่ก็ยังมีอะไรถ่วงขาเขาไว้ ครั้งนี้ เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง มีอะไรซักอย่างดึงขาเขาไว้จริงๆ
    น้ำรอบตัวทีเมริส่องแสงอีกครั้ง มีอะไรดึงเขาไว้จริงๆ “ช่วยด้วย !” มีย่ายังร้องต่อไป เขารู้ตัวว่าเขาต้องรีบทำอะไรวักอย่างแล้ว ไผ่นกกระจอกปรากฏขึ้นบนมือเขา เขาขว้างมันไปบริเวณข้างหลังเขา  “โอ้ย!” เสียงอะไรอย่างหนึ่งกรีดร้อง ทีเมริรู้ว่าเขาปาโดนมันแล้ว เขารีบว่ายน้ำตามมีย่าไป
    “มีย่า!” ไมโอล่าตะโกนหามีย่า “นั่นไง” นอดอลเจอมีย่าแล้ว พวกเขาวิ่งผ่านโพลงป่ามา และรีบวิ่งมาบริเวณต้นน้ำ ไผ่นกกระจอกอีกอันปรากฏขึ้น “บูม ไลท์” ทีเมริตะโกน พลางขว้างไผ่นั้นไปข้างๆตัวมีย่า ทันทีทันใดที่มันกระทบกับน้ำ ก็เกิดแสงขึ้น “โอ๊ย!” เสียงนั้นร้องขึ้นอีกครั้ง ทุกคนเห็นเป็นเมือกสีเทาๆ เป็นผืนผ้า ขยับตัวออกจากมีย่า  ทีเมริรีบว่ายเข้าไปดึงมีย่าขึ้นฝั่ง โดยที่ไม่ได้สนใจมันเลย
    “มีย่า ๆ” ไมโอล่าและทีเมริ ผลัดกันเรียกมีย่า เธอลืมตาขึ้นช้าๆ มีย่าใช้มือยันพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนนอดอลตกใจ “ขวัญอ่อนไปได้” ไคตะโพลงขึ้น มีย่าใช้มือกุมอกด้วยความเหนื่อย และตกใจ และแล้ว เธอก็พบสิ่งผิดปกติอย่างหนึ่ง “แหวน! แหวนฉันหายไป” “ว่าไงนะ” ทุกคนหลุดปากออกมาพร้อมกัน “แหวนโมนีล่า” มีย่าพูดออกมา ทำเอาทุกคนถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินประโยคนี้
    พวกเธอเดินมานั่งที่โขดหินอีกครั้ง “ไหน มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกมั้ย ฉันเบื่อนะ บทตาแตกเนี่ย” นอดอลพูดด้วยท่าทางเบื่อจริงๆ “แสดงว่านายเป็นไก่นะสิ”(สำนวนไทย งงเป็นไก่ตาแตก) ทีเมริพูดหยอก แต่ท่าทางเขาก็เบื่อเหมือนกัน “นี่ น้อยๆหน่อย ไม่ขำด้วยนะ”นอดอลทำตาค้อนใส่ทีเมริ “เป็นยังไงบ้างครับ มีย่า”ทีเมริไม่สนใจ แล้วหันไปพูดกับมีย่า “ทีแบบนี้หละปากหวานเชียว”นอดอลยังไม่หยุดค้อน “ อิจฉาละสิ”ทีเมริสวนกลับทันควัน “หมายดวามว่าไง”  “ก็หมายความอย่างที่พูด...” “พอทั้งคู่เลย เถียงกันยิ่งกว่าผู้หญิงอีก”ไคตะพูดขัดขึ้นมา หลังจากดูเหตุการณ์มาซักพัก “เฮ้ย!”นอดอลกับไคตะร้องพร้อมกัน “เอะ!พวกนี้เป็นอะไรกันเนี่ย”ไมโอล่าพูดขึ้น ด้วยความลำคาญเต็มทน แต่แล้วเธอก็หัวเราะออกมา “หัวเราะอะไร”ทั้งสามคนพูดขึ้นพร้อมกัน (ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าหัวเราะพวกเขา)  “เออ ตกลงชนเผ่าฟาซานนี่มันอะไร” นอดอลยังสงสัยไม่หยุด จนมีย่าถึงกับหัวเราะเสียงดัง “ ดีแล้วหละสีท่า ถึงหัวเราะได้”นอดอลยังแหย่ไม่หยุด “นายนี่ ขี้สงสัยยิ่งกว่าไมอีกนะ ”มีย่าหยุดหัวเราะ แล้วพูดกับนอดอล “เฮ้...” “ พอๆ เดี่ยวก็ไม่บอกซะเลย”มีย่าพูดดักคอนอดอล ทำให้นอดอลถึงกับอึ้ง เลยต้องยอมจำนน “ชนเผ่าฟาซานเป็นชนเผ่าที่เป็นพันธมิตรกับตระกูลโมเนีย และโมนีล่า ซึ่งก็หมายความว่า ต้องหมายรวมถึงโมอ่าด้วย” มีย่าหันหน้าไปทางไม “คนชนเผ่านี้จะมีเชื้อเทพ คือ เชื้อนางฟ้าอยู่ในตัว แม้จะไม่ถึงครึ่ง แต่ก็เยอะกว่าพวกเรา” ไมโอล่าพูดต่อ ซึ่งเธอหมายถึง มีย่า และตัวเธอนั้นแหละ  “งั้นก็หมายความว่า เธอสองคนมีเชื้อนางฟ้านะสิ!”ทีเมริพูด อย่างกับจะตะโกนดังๆ “เฮ้ นั้นมันคำพูดฉัน”นอดอลทำหน้าฉุน ที่ทีเมริแย่งพูด “หยุดดด!”ไมโอล่าห้ามเสียงยาว ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มเถียงกันอีก “ตกลงจะฟังไม่ฟัง” “ฟัง!”ทั้งสองคน รวมทั้งไคตะร้องขึ้นพร้อมกัน “เออ...ดี”ไมทำเป็นค้อนใส่ให้ทั้งสามคนเงียบ “แต่ !” ไคตะพูดขึ้น ไม่มีใครถามว่าทำไม แต่ทุกคนเงียบ รอฟังว่าอะไร “ทำไม ไม่ให้เธอเล่าให้พวกเราฟังเองล่ะ?”ทุกคนยังคงเงียบเหมือนเดิม และมองไปทางฟีเนล่าเป็นตาเดียวกัน แต่เธอก็ไม่พูดอะไรเลย เธอลุกขึ้นจากโขดหินที่นั่งอยู่ และเสยผมขึ้น เธอเงียบไปได้สักพักหนึ่ง จนในที่สุด ความเงียบก็หายไป “นั่นสิ ฟีเนล่า”ไมโอล่าก็สงสัยเหมือนกัน ฟีเนล่ายิ้มเล็กๆ ดวงตาของเธอแฝงด้วยความจริงใจต่อพวกเขาเหลือล้น “ถ้าท่าน...เออ...ถ้าเธอต้องการ”ฟีเนล่ายิ้มจนเห็นฟันขาวของเธอ เพราะไมโอล่าบอกให้เรียกเธอฉันคนรู้จักมากกว่านี้ ซึ่งฟีเนล่าก็รู้ตัวดี ว่าเธอควรเรียกพวกเขาว่าอะไร “คำถามแรกเลย ตกลงเธอสองคนมีเชื้อนางฟ้าหรอ?”นอดอลยังสะกดบทตาแตกไม่ได้ เขามองตาติ๋มๆไปทางไมโอล่า เป็นเชิงว่าไม่อยากเชื่อ หรือจะเค้นเอาความจริงว่า จริงหรอ แต่ไมโอล่าก็ชี้นิ้วไปทางฟีเนล่าเป็นเชิงว่า นายถามฟีเนล่าอยู่นะ ไคตะที่ดูเหตุการณ์อยู่ข้างหลังทั้งคู่หัวเราะเบาๆ ทำเอาฟีเนล่าขำตามไปด้วย
    “จะว่าใช่ก็ใช่ ว่าไม่ใช่ก็ว่าตามกัน” ฟีเนล่าพูดทั้งหัวเราะ “ช่วยอธิบายให้มันเข้าใจมากกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ”ทีเมริถามท่าทางใช้ความคิด “ช่วยอธิบายให้มันเข้าใจมากกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ”นอดอลพูดเบาๆ ทำปากล้อเลียนทีเมริ “อะ-ฮัม!” ทีเมริทำเสียงดังเตือนสตินอดอล “ตกลงจะฟังไหม!” ไมถามเสียงดัง ก่อนที่เพื่อนซี้ ขี้...จะเถียงกันไปมากกว่านี้ “ฟังครับ!” ทั้งคู่ตอบเสียงดังฟังชัด จนไคตะกับมีย่ากลั้นขำไม่อยู่  ส่วนฟีเนล่าเอามือปิดปากก่อนที่เธอจะหัวเราะเสียงดัง จนทุกคนหันมามอง “เอาเป็นว่ามีเชื้อห่างๆ...เออ ห่างมากกกๆ”ฟีเนล่าพูดขึ้น “แล้วห่าง...” “ห่างมากจนอาจนับได้ว่าเป็นมนุษย์เกือบร้อยเปอร์เว็นต์”เธอพูดดักคอ นอดอล เพราะถ้าจะตอบคาถามนี้จริงๆ ก็คงต้องพูดกันยาวเอาการ แล้วยังมีคำถามอื่นต่อคิวอยู่อีก “เฮอ ... แล้วไป”นอดอลถอนหายใจ ทำเอาทุกคนงงว่าทำไม
    ชนเผ่าฟาซานมีเอกลักษณ์เฉพาะคือ ผมสีดำเข้ม ตาสีฟ้าใสดุจน้ำ  และผิวขาวเกลี้ยง ซึ่งเป็นกรรมพันธุ์มาจากนางฟ้า 100% ไม่มีสิ่งแปลกปลอม ลักษณะของคนชนเผ่านี้มาจากนางฟ้า และชาวอะเมซอน เกือบครึ่ง ซึ่งชนเผ่านี้ขึ้นชื่อเรื่อง ความซื่อสัตย์ และจริงใจมาก เกือบทั้งเผ่า เป็นผู้หญิง เวทย์มนต์เฉพาะของคนในเผ่าคือ ฟาอาแลนซ่า ที่ฟีเนล่าใช้ ทำให้ไมโอล่ามั่นใจว่าเป็นคนเผ่าฟาซานแน่ เวทย์มนต์นี้ เป็นเวทย์ที่มีอำนาจกวาดล้างศัตรูสูงมากเลยทีเดียว เป็นเวทย์มนต์แรก และเวทย์มนต์เดียวที่องค์นางฟ้าฟาซานประทานให้เป็น เวทย์ประจำเผ่า ที่เธอเป็นต้นกำเนิด แต่เวทย์มนต์นี้ก็สามารถหยุดได้ โดยพลังประจำตระกูลหรือเผ่าของพันธมิตร โดยเฉพาะพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง และแน่นแฟง อย่าง โมเนีย และโมนีล่า ซึ่งรวมกันเป็นเชื้อสายโมอ่านั้นเอง
    ระหว่างที่พวกเธอและพวกเขากำลังคุยกัน มีย่าก็ได้ปลีกตัวไปเดินเล่นแถวๆต้นน้ำคนเดียว แต่ทีเมริก็แอบตามไปดูแล โดยที่มีย่าไม่รู้ตัว “ยังมีสถานที่สวยๆ แบบนี้ ในป่าน่ากลัวแบบนี้ด้วยนะเนี่ย” มีย่าพึมพำกับตัวเอง ด้านหน้าเธอคือน้ำตกขนาดใหญ่เอาการ โขดหินริมตลิ่ง ดูสวยงามได้ที่ น้ำที่นี่ไม่เชี่ยวนัก แต่ก็คงไม่มีอะไรแน่นอนในสภาพป่าที่ขึ้นชื่อเช่นนี้เธอเดินไปนั่งที่โขดหินที่มีดอกไม้ขึ้นแซมอยู่ข้างๆ แล้วเอามือจุ่มลงไปในน้ำแกว่งไปมาเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นน้ำที่ไหลมาด้านหลังมีย่าส่องแสงสีเหลือง วาบ      วาบ  โดยที่มีย่าไม่รู้ตัวเลย เธอยังแกว่งมือไปเรื่อยๆ ทีเมริที่แอบอยู่หลังต้นไม้ก็ยังมองเธออยู่อย่างนั้น เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง และแล้ว...
    “เธอโดนหัวหน้าปีศาจสาป งั้นหรอ” ไมโอล่ายังพูดอยู่กับฟีเนล่าอยู่ “ว้าย!” ตุม!    “มีย่า!” ทุกคนตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน  “มีย่า” ทีเมริวิ่งไปหามีย่าที่ผลุบๆ โผล่ๆอยู่ในน้ำ “ช่วยด้วย!” เธอพยายามตะโกนบอก  “ตุ่ม!” ทีเมริกระโดดลงไปในน้ำ “ช่วยด้วย!” เธอยังคงตะโกนต่อไป และลอยห่างออกไปเรื่อยๆ ทีเมริรู้สึกว่าผ้าคลุมของเขาถ่วงเอาไว้    เขาถอดมันออก แล้วโยนขึ้นไปบนฝั่งพร้อมกับเสื้อคลุม แต่ก็ยังมีอะไรถ่วงขาเขาไว้ ครั้งนี้ เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง มีอะไรซักอย่างดึงขาเขาไว้จริงๆ
    น้ำรอบตัวทีเมริส่องแสงอีกครั้ง มีอะไรดึงเขาไว้จริงๆ “ช่วยด้วย !” มีย่ายังร้องต่อไป เขารู้ตัวว่าเขาต้องรีบทำอะไรวักอย่างแล้ว ไผ่นกกระจอกปรากฏขึ้นบนมือเขา เขาขว้างมันไปบริเวณข้างหลังเขา  “โอ้ย!” เสียงอะไรอย่างหนึ่งกรีดร้อง ทีเมริรู้ว่าเขาปาโดนมันแล้ว เขารีบว่ายน้ำตามมีย่าไป
    “มีย่า!” ไมโอล่าตะโกนหามีย่า “นั่นไง” นอดอลเจอมีย่าแล้ว พวกเขาวิ่งผ่านโพลงป่ามา และรีบวิ่งมาบริเวณต้นน้ำ ไผ่นกกระจอกอีกอันปรากฏขึ้น “บูม ไลท์” ทีเมริตะโกน พลางขว้างไผ่นั้นไปข้างๆตัวมีย่า ทันทีทันใดที่มันกระทบกับน้ำ ก็เกิดแสงขึ้น “โอ๊ย!” เสียงนั้นร้องขึ้นอีกครั้ง ทุกคนเห็นเป็นเมือกสีเทาๆ เป็นผืนผ้า ขยับตัวออกจากมีย่า  ทีเมริรีบว่ายเข้าไปดึงมีย่าขึ้นฝั่ง โดยที่ไม่ได้สนใจมันเลย
    “มีย่า ๆ” ไมโอล่าและทีเมริ ผลัดกันเรียกมีย่า เธอลืมตาขึ้นช้าๆ มีย่าใช้มือยันพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนนอดอลตกใจ “ขวัญอ่อนไปได้” ไคตะโพลงขึ้น มีย่าใช้มือกุมอกด้วยความเหนื่อย และตกใจ และแล้ว เธอก็พบสิ่งผิดปกติอย่างหนึ่ง “แหวน! แหวนฉันหายไป” “ว่าไงนะ” ทุกคนหลุดปากออกมาพร้อมกัน “แหวนโมนีล่า” มีย่าพูดออกมา ทำเอาทุกคนถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินประโยคนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น