คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Stop Resisting! : พูดคุย
Stop Resisting! : พูดคุย
Taekwoon side :
ผมรอเด็กนั่นโทรมาตามเบอร์ที่ทิ้งไว้ให้เป็นสัปดาห์แล้วล่ะครับ กล้องนี่ก็อยู่กับเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วเหมือนกัน รูปพวกนั้นก็โดนกดดูหลายรอบแล้วด้วย ทั้งรูปที่เจ้าตัวถ่ายตัวเอง หรืออะไรที่เขาถ่ายมา มันก็สวยน่ะนะ แต่มันดันมีรูปของผมอยู่ในนั้นด้วยน่ะสิ ไม่ยักกะโกรธแฮะ จะว่าไป จะบอกว่าเพราะเห็นรอยยิ้มของเด็กนั่นมันทำให้ผมหายโกรธไปเลยล่ะมั้ง
เห็นแล้วคิดถึงเธอเลยล่ะ ..........
ผมคิดว่าวันนี้ถ้าเขาไม่โทรมาอีกล่ะก็ผมคงต้องไปนั่งรอหมอนั่นที่สวนสาธารณะที่เดิมล่ะนะ แต่จะว่าไป มันก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นของผมนักหรอก แต่มันเป็นของๆเด็กนั่นนี่ ...หรือจะเรียกว่า รู้สึกอยากมองหน้าหมอนั่นขึ้นมาเพราะเห็นรูปภาพของเด็กนั่นล่ะ
ไม่ใช่หรอก ...
สุดท้ายก็ไม่โทรมา เย็นนี้ผมกะจะออกไปสำรวจที่ร้านค้าสักหน่อยว่าหมอนั่นมาเอาเบอร์โทรไปจากแม่ค้าหรือยัง ถ้ายังล่ะก็หมอนั่นคงไม่เดือดร้อนที่สิ่งนี่หายไปหรอก แต่เมื่อผมไปถาม ก็ได้คำตอบกลับมาแค่เพียง
“ตอนแรกก็หากล้องตาตื่นเลยล่ะ ซักพักพอป้าให้เบอร์ไปเค้าก็บอกว่าเค้าโล่งใจแล้ว พ่อหนุ่มนี่เป็นคนดีจริงๆเลยนะ”
แบบนี้เท่านั้นล่ะ ... ช่วยไม่ได้ล่ะนะ หรือหมอนั่นกดมือถือไม่เป็นหรือไง
ผมก็คิดแบบนั้นล่ะ ....
จนเหลือบไปเห็นหมอนั่นนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ที่เดิมที่เคยทิ้งกล้องไว้ จะมานั่งมองเพื่อรำลึกถึงมันหรือยังไงกันนะ ผมเดินเข้าไปหาหมอนั่นพร้อมกับสะกิดเบาๆที่แขน เขาส่งยิ้มมาให้ผมแฮะ
เหมือนกับในรูป ..........
เหมือนกับเธอคนนั้น
“ตามหาของอยู่งั้นเหรอ?”
เด็กนั่นมองกลับมาด้วยน้ำตาที่โศกเศร้า แต่ดันส่งรอยยิ้มสดใสกลับมาซะงั้น มันขัดกันชะมัด ดูก็รู้ว่าหมอนั่นกำลังเศร้าสินะ
“ก็ ...อ ..อื้มใช่ครับ กล้องน่ะ คุณเห็นมันหรือเปล่า”
ตาแป๋วๆนั่นมองมาที่ผมอย่างมีความหวังพร้อมกับริมฝีปากที่เม้มเล็กน้อย มันน่ารักชะมัดเลย ทำไมถึงมองแล้วใจสั่นแปลกๆแบบนั้นนะ
ความรู้สึกเหมือนเธอคนนั้น .....
ผมส่ายหน้าไปช้าๆอย่างไม่รู้ตัว แต่อาจจะเป็นความตั้งใจที่หัวใจสั่งให้ร่างกายตอบไปแบบนั้นล่ะนะ ....
รู้สึกว่า อยากเจอคนๆนี้อีก
“มันสำคัญกับผมมากเลยนะคุณรู้ไหม แต่ว่า ...เอ๊ะ ....คุณ วันนั้นคุณก็อยู่ที่นี่นี่นา”
ผมยักไหล่เพื่อเป็นการโต้ตอบ ถ้าพูดอะไรออกไปมันก็จะดูไม่เนียนล่ะมั้ง หรืออาจจะเป็นเพราะนิสัยไม่ชอบพูดของผมที่ติดจนแก้ไม่หาย
“มาที่นี่ทุกวันน่ะ”
หมอนั่นยื่นมือมาจับมือผมพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้
“ผมชื่อฮงบินครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ....แต่ผมต้องไปแล้วล่ะ เหนื่อยชะมัดเลย”
....
“ขอให้เจอกล้องไวๆล่ะ”
............. กล้องนั่นขอเก็บไว้สักพักแล้วกันนะ
ก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์
อีฮงบินหนุ่มหน้าหวานเดินวนรอบสวนสาธารณะเพื่อตามหากล้องของตัวเองด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด แต่มันเป็นเพราะความผิดพลาดของตัวเองเขาจึงขอร้องไม่ให้ฮัคยอนเข้ามาวุ่นวาย เพราะมันจะทำให้ฮัคยอนเหนื่อยโดยใช่เหตุ
“คุณครับ ...เห็นกล้องที่วางอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า”
ถามครั้งแล้วครั้งเล่ากับคนไม่ซ้ำหน้าแต่คำตอบที่ได้รับกลับมามันก็เป็นเพียงแค่การส่ายหน้า บางคนก็ด้วยความยินดี แต่บางคนกลับตอบกลับมาด้วยใบหน้าขุ่นมัว มันทำให้ฮงบินที่เหนื่อยอยู่แล้วกลับเหนื่อยขึ้นมาอีกหลายเท่า
ถ้าหากล้องนั่นไม่เจอเขาจะไปมีกะจิตกะใจถ่ายรูปได้ยังไงกันล่ะ!!!
ขอสาปแช่งให้คนเอาไปเจอแต่เรื่องร้ายเลยแล้วกัน!! แต่ไม่นานนักหรอกที่คิดได้แบบนั้น เพราะคุณป้าร้านขายของชำเดินมาสะกิดหนุ่มหล่อคนนั้นแล้วยื่นกระดาษให้ .... ในนั่นมันมีเบอร์โทรอยู่นี่
“มีคนเก็บกล้องของพ่อหนุ่มไว้ให้แล้วล่ะนะ เค้าบอกให้ติดต่อไปตามเบอร์นี้ แล้วก็ไปเอากล้องคืน”
นี่มันช่วยเรียกรอยยิ้มของอีฮงบินกลับมาชัดๆ!!
อีฮงบินรีบขอบคุณคุณป้าแบบยกใหญ่ ภายในใจก็ขอบคุณคุณคนนั้นด้วยล่ะนะ ถ้าไม่ได้คนนั้นล่ะก็คงไม่ได้กล้องคืนหรือไม่ก็อาจจะโดนขโมยไปแล้วแน่ๆ
อีฮงบินรีบเดินกลับบ้านด้วยความเร็วกว่าแสง ขายาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งด้วยความตื่นเต้น แต่ทว่าฟ้าฝนมันอาจจะไม่เป็นใจ หรือโชคร้ายจะทำให้เขาไม่ได้กล้องคืน หรือเทวดากลั่นแกล้ง ...ที่ทำให้อากาศแห้งแล้งดันมีฝนตกลงมาซะได้!!!
กระดาษที่คุณป้าเอาให้ถูกกำแน่น หรือจะเรียกว่าขยำก็อาจจะไม่ผิดแปลกนัก เพราะถ้ากระดาษนั่นมันเปียกขึ้นมาฮงบินได้เดือดร้อนของจริงแน่ เมื่อมาถึงฮงบินรีบวิ่งเข้าไปกอดฮัคยอนทันทีด้วยเนื้อตัวที่เปียกโชก .. พร้อมกับแบมือดูชะตากรรมของกระดาษแผ่นนั้น
มันยังอยู่ดี แต่เปียกโชกไปหมดทำให้หมึกของปากกามันซึมออกไปและตัวหนังสือก็จางหายไปหมดแล้ว ไม่เหลือไว้ให้เลยแม้แต่ชื่อของผู้หวังดีเลยด้วยซ้ำ ...... มันเป็นโชคร้ายของฮงบินจริงๆสินะที่ไม่ยอมพกมือถือออกไป ถ้าไม่งั้นป่านนี้อาจจะได้กล้องคืนไปแล้ว!!
ชาฮัคยอนถอนหายใจกับน้องตัวเองอย่างเอือมๆ กับความเด๋อด๋าและซุ่มซ่าม อาจจะเป็นเพราะหมอนี่นอนน้อยด้วยงานหนักหรืออาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวที่เอาแต่มองสิ่งรอบข้างแล้วโปรยยิ้ม จึงทำให้กลายเป็นเอ๋อ แต่ก็นะในสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เวลาจะมาต่อว่ากันนี่ เด็กนี่เสียใจจะตายแล้ว ชาฮัคยอนก็กอดปลอบหน่อยแล้วกัน
“ไปนั่งรอที่นั่นทุกวันแล้วกัน ถ้าคนคนนั้นหวังดีจริงๆ เดี๋ยวเขาก็เอามาคืน”
---------------------------------------------------------------------
talk : ไม่ค่อยมีคอมเม้นเลยแอบเสียใจนะเนี่ย ... ไม่เป็นไรค่ะมาต่อแล้วโนะ
แอบหายไปนานนิดนึงขอโทษนะคะพอดีไรต์ไม่มีเวลาว่างเลย แหะๆ ........
ปล.ถ้าตอนนี้ยังไม่มีคนคอมเม้นเหมือนเดิมขออนุญาติไม่ลงต่อแล้วนะคะ :D
ความคิดเห็น