ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Just Change

    ลำดับตอนที่ #7 : การทำงานวันแรก

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 55


    ฉันเดินลงมาชั้นล่าง ซึ่งจะว่าไปแล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่อากาศสดชื่นจริงๆ  คงเป็นเพราะฝนที่ตก เมื่อคืนละมั้งที่ช่วยทำให้ต้นไม้ใบหญ้างอกงามถึงขนาดนี้  



    ฉันเปิดประตูหน้าบ้านและสูดอากาศอย่างเต็มที่ และก็ได้ยินเสียงแม่ทักขึ้น



    แหม!!! วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะจ๊ะ…” แม่พูดกับฉันระหว่างเดินเข้าไปในครัวเพื่อที่จะเตรียมอาหารเช้าให้ฉันกับพี่



    เพราะพ่อไปทำงานที่จังหวัดโอซาก้า กว่าจะกลับก็คงอาทิตย์หน้าโน่น เพราะเสียงแม่ทักทำให้ฉันหันหลังไปและเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร



    “ พี่ยังไม่ตื่นหรือค่ะ??” ฉันถามแม่ด้วยความสงสัยพลางมองไปที่ห้องของพี่ที่ตรงข้ามห้องของฉันเพราะ ตั้งแต่เมื่อวานที่พี่มาส่งหน้าบ้านฉันก็ยังไม่เห็นหน้าพี่เลย



    “ ยังหรอกลูก..คนโจกลับดึกมากรู้สึกว่าเค้าจะนอนบ้านเพื่อนแล้วก็มาหลับต่อที่ บ้านหลังฝนหยุดแหละ” แม่ทำท่าคิดเรื่องเมื่อคืนและทำอาหารต่อ  ฉันจึงเดินไปหยิบนมที่อยู่ในตู้ เย็นออกมาเทดื่ม



    หลังจากดื่มไปได้เฮือกใหญ่ฉันก็บอกแม่ว่า



    “ แม่ค่ะ..วันนี้หนูจะเริ่มงานแล้วนะค่ะ” ฉันบอกแม่เพราะว่าฉันเคยปรึกษากับแม่เรื่องนี้แล้วและแม่ก็อนุญาต แต่แม่คงไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้



    เพราะดูจากอาการของแม่คาดว่าคงตั้งตัวไม่ทัน



    อะไรนะ!!!!!!!! ทำวันนี้..อะไรจะเร็วปานนั้น!!!!!!!” แม่หันมาบอกฉันและวางมือจากการทำอาหาร ( แล้วอาหารจะเสร็จมั้ยเนี่ย )



    “ โธ่…แม่ค่ะ  ก็ดีไม่ใช่เหรอค่ะจะได้ได้เงินไวๆ” ฉันเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารตามเดิม แม่จึงทำอาหารต่อและพูดกับฉันไปด้วย



    “ ไอ้เรื่องเงินก็รู้…แม่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ลูกไปซักหน่อย--- เพียงแต่ว่ามันเร็วเกินไป..ลูกจะทำอะไรได้ เอาไปต้อนรับลูกค้ามีหวังไล่ ลูกค้าแน่ๆเดี๋ยวไม่นานทางร้านเค้าก็คงไล่ลูกออกหรือไม่ เค้าก็ต้องปิดกิจการแหง”


    แม่พูดไปโดยไม่สนใจฉันเลย ทำให้ฉันถึงกับงอนเลยทีเดียว



    แม่หนอแม่!!!!! ไม่เคยให้กำลังใจลูกเลยนะ หนูเองก็พอมีฝีมืออยู่บ้างเพียงแต่ไม่โชว์ก็เท่านั้น…” ฉันบอกแม่และทำท่าทางว่ามันเป็นเรื่องขี้ปะติ้ว ง่ายๆอย่างฉันสบายอยู่แล้ว ประมาณนั้น



    เฮอะ~ ~ ~ ~ ~ นี่แหละน้า-----ลูกชั้น” แม่เอ่ยออกมาแบบหนักใจจริงๆ และแม่ก็ทำอาหารเสร็จพอดี



    แม่ถืออาหารมาจัดวางบนโต๊ะฉันจึงช่วยแม่ เมื่อจัดโต๊ะเสร็จแม่ก็ให้ฉันขึ้นไปตามท่านคนโจที่อาจจะยังหลับอยู่ฉันเคาะ ประตูหน้าห้องและก็เปิดเข้าไปเลยเห็นพี่กำลังแต่งตัวอยู่พอดี คนโจก็เลยบอกเชิงดุว่า



    นี่!!!!สอนกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำ ว่าให้เคาะประตูก่อนเข้า” พี่ดุฉันและยังเอามือเขกหัวด้วย ฉันจึงรีบเอามือลูบหัวของตนและต่อพี่กลับว่า



    ก็เคาะแล้วไงเล่า!!!!ตัวเองแหละหูไม่ดียังจะโทษคนอื่นเค้าอีก!!!!!!!!!!!” ฉันตะโกนว่าพี่และทำหน้าโกรธๆไว้แต่พี่ก็ต่อฉันกลับเช่นเดิม



    เป็นเด็กเป็นเล็กมาต่อล้อต่อเถียงกับผู้ใหญ่ได้ไงเนี่ย…แล้วเวลาเคาะก็ต้องรอให้เจ้าของห้องอนุญาตก่อนเข้า. เข้าใจม่ะ!!!!!!!!!!!” พี่บอกฉันด้วยสีหน้าโกรธๆเช่นกัน  ฉันก็ไม่ยอมพี่หรอกนะ ฉันจึงต่อพี่กลับ



    หนูโตแล้วนะ!!!!!! ไม่ใช่เด็ก!!!!!!!!! …..ก็ยังดีกว่าตัวเองที่ไปนอนค้างบ้านผู้หญิงนั่นแหละ คิดว่าตัวเองโตมากนักหรือไง  รู้นะว่าพี่แอบชอบคุณคาโอริอยู่ คิดว่าหนูโง่หรือไง” ฉันบอกและทำหน้าทะเล้น



    แต่ท่านคนโจนี่หน้าแดง รู้สึกว่าจะพูดแทงใจเข้าแล้วสินะ



    อย่าเปลี่ยนเรื่องได้มั้ย…พี่กำลังสอนเธออยู่นะ หัดรับฟังใส่หัวซะบ้างสิ!!!!!!” คนโจบอกและทำท่าว่าจะเดินออกจากห้องเพื่อลงไปข้างล่าง



    แหม!!! อายละสิ หน้าเงี่ยแดงเชียว ฮาๆๆๆ กระผมชนะเสมอครับ” ฉันพูดไล่ตามหลังพี่และหัวเราะอย่างสนุกสนาน  พี่ลงไปนั่งทานอาหารเช้าในขณะ ที่ฉันก็ยังแกล้งล้อพี่ไม่หยุดจนแม่ห้าม และพี่ก็คงคิดเรื่องที่จะแกล้งฉันกับได้พี่เลยบอกกับแม่ว่า



    “ แม่ครับถ้าครอบครัวเรามีลูกเขยเป็นคนรวยอย่าง ทานากะ คินโตะ หนุ่มหล่อมาดเซอแม่ว่าดีมั้ยครับ???” คนโจถามแม่และเหล่สายตามาทางฉันทำให้แม่มองฉันด้วย และถามฉันด้วยคำถามโดนสุดๆ



    \" ลูกเขย.....\" แม่ทวนคำพูดของพี่และหันมามองฉัน



    “คิเคียว…ลูก รักชอบเค้าอยู่หรือเปล่า.???แล้วเค้าชอบลูกมั้ย???….ลูกคบกัน อยู่อย่างงั้นเหรอ????” แม่เล่นพูดซะยาวเชียวแถมยังจ้องฉันตาเขม็ง  



    ส่วนนายคนโจต้นเหตุของเรื่องก็ได้แต่ยิ้มและหัวเราะ พี่ตัวแสบเอ๊ย  ฉันก็พูดไม่ถูกและไม่รู้จะตอบยังไงดี คนโจก็พูดขึ้นว่า



    “ รักเค้าก็บอกมาเถอะ….หล่ออย่างหมอนั่นเธอห้ามใจไม่ไหวหรอก…ดูสิหน้าแดงเชียว ” คนโจยุแบบนี้เล่นเอาฉันจุกยิ่งกว่าเดิมซะอีก แม่ก็เลยพูดขึ้นมาว่า



    “ ถ้าลูกชอบเค้าแม่ก็ไม่ว่าหรอก…แต่ต้องเรียนให้จบก่อนลองคบกันไปก่อนก็ ได้..แต่ลูกแน่ใจเหรอว่าเค้ารักลูก” แม่พูดเป็นนัยๆว่าอยากรู้คำตอบและเดินขึ้นข้างบนไปฉันซึ่งตอนนี้ได้สติแล้ว ก็รีบตะโกนบอกแม่ว่า



    มันไม่ใช่อย่างนั้น!!!!!!!!!!หนูไม่ได้รักหรือชอบเค้าเลยนะค่ะ!!!!!!!” แต่แม่ก็ขึ้นข้างบนไปแล้ว   ฉันจึงหันมาเล่นงานพี่แทนจนพี่หนีขึ้นรถและชั้นก็ขึ้นไปด้วย เลยทำให้พี่แปลกใจจึงถาม



    “แล้วนี่ขึ้นมาทำไมเนี่ย…พี่จะไปทำงานนะ” คนโจบอกฉัน



    “ หนูก็จะไปทำงานเหมือนกัน” และนั่งอยู่อย่างนั้นไม่ยอมลงคนโจสงสัยจึงถามว่า



    อ๋อ!!!!จะไปหาคินก็บอกมาเถอะ” พี่พูด ทำให้ฉันหน้าแดงอีกแล้วและก็ไม่รู้ว่าที่หน้าแดงเพราะว่าโกรธหรืออายกันแน่



    เปล่านะ!!!!!!! หนูกับหมอนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันเลยจริงๆนะ!!!!!!” ฉันบอกพี่และพี่ก็ได้แต่พยักหน้าฉันจึงพูดต่อว่า



    “หนูได้งานพิเศษทำระหว่างปิดเทอม…ก็ทำงานที่ร้านไอศครีมข้างอ๊อฟฟิตนั่นแหละ ก็เลยไปพร้อมพี่ไงล่ะ” ฉันบอกพี่และเราก็นั่งรถไปด้วยกันพี่ก็จอดรถตรงร้านไอศครีมพอดีเป๊ะ



    “ แล้วตอนเย็นล่ะจะกลับยังไง” พี่ถามฉันทางกระจกของรถยนต์เพราะว่าฉันลงจากรถแล้ว



    “ พี่ก็มารับกลับก็แล้วกัน งานเลิก 18.00 น่ะ” ฉันบอกพี่ก่อนจะเดินเข้าร้าน



    “ ทำได้จริงๆเหรอคิเคียว…” พี่บอกกับฉันที่กำลังจะเดินเข้าร้าน ฉันจึงหันมาบอกว่า



    “ เชื่อในฝีมือ น้องตัวเองหน่อยสิ” ฉันบอกและเดินเข้าร้านไป คนโจซึ่งเมื่อเห็นคิเคียวเดินเข้าร้านแล้ว



    ก็พึมพำออกมาว่า

    “ ทำให้ดีที่สุดแล้วกันน้องรัก” ก่อนจะปิดกระจกและขับต่อไป………



    ในร้านไอศครีม



    ฉันไปถึงที่นั่นเวลา08.30 น. ซึ่งร้านยังไม่เปิด แต่ก็มีพนักงานทยอยมาทำงานกันแล้ว ฉันจึงเปิดประตูและเดินเข้าไปก็มีพนักงานคนหนึ่งบอกกับฉันว่า



    “ขอโทษนะค่ะ…คือร้านเรายังไม่เปิดค่ะ” พนักงานคนนั้นพูดด้วยเสียงที่เกรงใจและกำลังขีดเขียนอะไรสักอย่างในกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ



    “ คือฉันจะมาเป็นพนักงานใหม่ที่นี่ค่ะ” ฉันบอกผู้หญิงคนนั้นและเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะ



    ทำให้ฉันได้เห็นหน้าเธอชัดๆก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก



    เธอใส่ชุดพนักงานของที่นี่ซึ่งเป็นชุดกระโปรงสีขาวมีสีน้ำชมพูแซมนิดหน่อย ตรงขอบกระโปรง ขอบแขนเสื้อและปกเสื้อและยังมีผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินเข้มมีลายสัญลักษณ์ของ ร้านเขียนไว้ อ่อ!ลืมบอกไปร้านที่ฉันมาทำงานมีชื่อว่า  LOVELY ICE



    ดูจากหน้าตาเธอคงรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน เธอถักผมเปีย 2 ข้างผมยาวสลวยถึงหลัง ซึ่งถ้าเทียบกับฉันคงต่างกันมาก เพราะฉันผมยาวประบ่าเท่านั้นแต่ถ้าดูดีๆรู้สึกฉันจะมีผมเยอะกว่าเธอคนนั้น เสียอีก



    พี่!!!พี่แคท!!!!!!” เสียงของผู้หญิงคนนั้น ทำให้ฉันละสายตาจากเธอและมองตามไปยังเสียงที่เธอเรียก



    “ มีอะไรเหรอ???” มีเสียงๆหนึ่งตอบกลับมาถ้าให้เดา ฉันคิดว่าคงเป็น พี่แคทชื่อที่เธอคนนั้นเรียกแน่ๆ



    “ มีคนจะมาสมัครงาน…ไม่รู้ว่าใช่คนที่พี่คินฝากให้เข้าหรือเปล่าก็ไม่รู้” เธอคนนั้นตอบเสียงที่ถามมาและฉันก็ได้ยินเสียงคนลงบันไดและโผล่หน้ามามองฉัน ฉันเองก็ตกใจแต่ก็รีบตอบไปว่า



    “ชะ..ใช่ค่ะคือคินเค้าสมัครให้ฉัน” ฉันตอบกับผู้หญิงคนที่ชื่อว่าพี่แคท



    พี่แคทเป็นผ็หญิงที่สวยเหมือนกันเธอเป็นเจ้าของร้าน อายุของเธอก็ประมาณ 35 เท่าๆกับน้าโคริข้างบ้านเลย



    เธอเดินลงมาหาฉันและถามฉันว่า



    “ เธอ…ชื่อ…อะไร” พี่แคทถามฉันและยืนกอดอก มองหน้าฉันด้วย ฉันเองก็กลัวเหมือนกัน



    “ ฉัน..ฮาเนะกาว่า  คิเคียว” พอฉันพูดจบพี่แคทก็อมยิ้มและก็ตบมือ 3 ครั้งด้วยเสียงอันดังและฉันก็เห็นพนักงานมากมายโผล่มาจากตรงนู้นตรงนี้เล่น เอาฉันตกใจไม่น้อย  แล้วพี่แคทก็บอกทุกๆคนในร้านว่า



    นี่คือ !!!!!พนักงานคนใหม่ของร้านเรา!!!!!!! คิเคียวจัง  !!!!!!!!!ยินดีตอนรับจ้า!!!!!!!” พนักงานทุกคนก็ปรบมือกันใหญ่  



    พี่แคทพาฉันไปทำความรู้จักคนโน่นคนนี้ และผู้หญิงคนที่ฉันเจอในร้านเป็นคนแรกเธอชื่อ  ชิโกนารุ  มิซากิ   



    สรุปแล้วมิซากิเป็นน้องฉัน 1 ปี เธออายุ 16



    และคนที่ฉันรู้จักก็ยังมีอีกมากมาย เช่น มานิเคดะ  อิจิโกะ    ,   อายาโนะ  โกสุเคะ



    และหนุ่มหล่อประจำร้าน ทซึจิโร่  ทาคุมิ



    ส่วนพี่แคทเธอชื่อเต็มว่า เคอิจิ มินาโกะ แต่ชอบเดิร์น เลยให้ทุกคนในร้านเรียกว่า แคท



    “ วันนี้เป็นการทำงานวันแรกของคิเคียวจัง ไงก็ขอให้ทุกคนช่วยเหลือเค้าหน่อยนะ” พี่แคทบอกกับทุกๆคนและไม่นานก็เป็นเวลาที่ร้านจะเปิด ฉันจึงเดินไปหามิซากิ เพราะเธอเป็นพนักงานต้อนรับ



    “ มิซากิจ๊ะ..แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างละเนี่ย..แฮะๆยังไม่รู้หน้าที่ตัวเองเลย” ฉันพูดกับมิซากิที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์

    และกำลังจะไปยืนบริเวณหน้าประตูกับอิจิโกะ



    “ วันนี้พี่มาทำงานเป็นครั้งแรกก็เป็นพนักงานเสริฟล่ะกันค่ะถ้ามีปัญหาอะไรก็ถามพี่ทาคุเค้าได้ค่ะ”



    มิซากิบอกฉัน ฉันก็ได้แต่ยิ้มรับและเดินไปหาทาคุมิ ซึ่งกำลังเตรียมจัดโต๊ะอยู่



    “ เออ…คือว่า…” ฉันได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ ทาคุก็เลยหันมาและถามฉันพร้อมรอยยิ้มว่า



    “มีอะไรให้ช่วยหรือครับ คิเคียวจัง” ทาคุถามฉัน ความจริงทาคุเองก็หล่อไม่ใช่เล่น แถมยังนิสัยดีด้วย



    “ ฉัน…การที่เป็นพนักงานเสริฟต้องทำไงบ้างอ่ะแล้ว…แล้ว..คือฉันไม่เคยทำงานนี้น่ะ…โทษที” ฉันบอกและทำหน้าหมดอาลัยตายอยากเพราะว่า ฉันทำไม่เป็นจริงๆนี่



    “ ไม่เห็นยากเลยครับ…พอแขกเข้าร้าน พวกมิซากิจะพาไปนั่งที่โต๊ะ และเค้าก็จะสั่งไอศครีมตามเมนูและก็จะเดินเอามาเสียบไว้ที่ตรงนี้  

    คิเคียวจังก็เตรียมน้ำไปเสริฟแล้วก็..” ทาคุยังพูดไม่จบฉันก็ยื่นสมุดให้เค้าและบอกว่า



    “ งั้น..ช่วยจดเป็นข้อๆให้หน่อยแล้วกันนะ….เออฉันจะเรียกนายว่ายังไงดีล่ะ” ฉันถามและทาคุก็รับสมุดไปแล้ว



    “ เรียกผมว่าทาคุคุง หรือไม่ก็ ทซึ ครับ พวกเพื่อนผู้ชายชอบเรียกผมแบบนี้” ทาคุบอกขณะที่กำลังจดการเสริฟให้ฉัน



    ไม่นานก็จดเสร็จ ฉันเองก็ต้องงงเพราะดูมันยากซะหลือเกิน



    1. คิเคียวจังต้องอยู่ที่จุดน้ำคอยเอาน้ำไปเสริฟแขกที่เข้าร้าน

    2. แล้วเดินมาหาผมที่ตู้ไอศครีม

    3. ผมจะส่งไอศครีมในถาดพร้อมกับใบรายการที่เค้าสั่งให้

    4. คิเคียวต้องเดินไปส่งตามโต๊ะให้ถูกต้อง

    5. เมื่อไปถึงโต๊ะ คิเคียวจังต้องบอกว่า “ไอศครีมที่สั่งได้แล้วค่ะมี………” และบอกชื่อไอศครีมที่เค้าสั่งให้ถูกต้องและรวดเร็ว (ระหว่างพูดชื่อต้องเอาไอศครีมวางบนโต๊ะให้เรียบร้อย)

    6. ถือถาดแนบตัวและถามแขกว่า “ขาดอะไรอีกมั้ยค่ะ”  ถ้าแขกบอกว่าไม่ก็บอกว่า “ขอบคุณค่ะ”และเดินกลับมาแต่ถ้า แขกต้องการอะไรก็หยิบสมุดฉีกออกมาและจด

    7. ผมลืมไป..คิเคียวจังต้องพกสมุดฉีกที่ใช้สำหรับจดไว้เสมอ

    8. มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามผมได้ ยินดีให้ความช่วยเหลือครับ



    “ เข้าใจมั้ยครับ”ทาคุถามฉัน  ฉันก็เลยเงยหน้าขึ้นมาและพยักหน้าให้เค้า



    และถามว่า “ห้องเปลี่ยนชุดอยู่ตรงไหนเหรอ” ทาคุชี้นิ้วไปและฉันก็เลยเดินไปทางนั้น



    คิเคียวจังครับ!!!!ตรงนั้นอาจจะลื่นหน่อยนะครับ ผมพึ่งถูไปเมื่อเช้า” ทาคุตะโกนบอกฉัน และฉันก็รู้ว่ามันลื่นจริงๆ  



    ฉันเดินเข้าไปในห้องที่ติดด้านหน้าว่าห้องเปลี่ยนเสื้อ ฉันเข้าไปและหาดูชุดและฉันก็เลือกได้แล้ว  



    ฉันเดินออกมาก็มีแขกเข้าพอดีและทำตามที่ทาคุจดให้ และเมื่อไปรับไอศครีมก็ต้องสงสัยกับชุดที่ฉันใส่และตะโกนว่า



    คิเคียวจัง!!!!!!!!!!!ชุดนี้มันชุดผู้ชายนะครับ1!!!!!!” ทาคุพูดเสียงดังจนหลายคนมองทาคุจึงลากฉันมาที่หลังร้าน



    “ทำไมแต่งชุดนี้ละครับ…ผมเห็นหายไปตั้งนานไม่คิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้” ทาคุว่าฉัน ฉันดูก็พอจะรู้ว่าเค้าโตกว่าฉัน



    ทาคุอายุ 21 แล้ว แต่พี่ฉันอายุ 26 ยังเถียงกันได้เถียงกันดีทุกวัน  



    ฉันใส่ชุดเครื่องแบบพนักงานชายที่เหมือนทาคุและรวบผมไว้เอาผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินมาโพกหัวไว้



    “ พูดตามตรงนะ….ฉันก็ไม่ได้เหมือนผู้หญิงอยู่แล้ว ฉันรู้นิสัยของฉันดี ฉันรู้ว่าชุดพนักงานหญิงมันสวยน่ารัก

    แต่…ฉันไม่ชอบ  ไม่ชอบกระโปรง นายก็รู้ฉันใส่กางเกงมาที่นี่… แล้วอีกอย่างกระโปรงมันก็สั้น

    ชุดเดียวที่ฉันยอมใส่กระโปรงก็คือ ชุดนักเรียน ….ฉันไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปหรอกนะ  

    ถ้าใครทำฉันโกรธฉันก็ต่อย ฉันไม่กลัว….บางคนยังคิดว่าฉันเป็นทอมเลยด้วยซ้ำเข้าใจม่ะ..

    และถ้าฉันชอบชุดนี้ ฉันก็จะใส่ และนายก็มาห้ามฉันไม่ได้….” ฉันบอกกับทาคุและฉันก็สังเกตว่าเค้าไม่ทำหน้าโกรธแล้ว



    “ ผมนึกแล้วเชียวว่าคิเคียวจังต้องนิสัยแบบนี้  ผมชอบผู้หญิงอย่างนี้ครับ…..” ทาคุพูดและหยุดกระทันหันเพราะฉันจ้องอยู่



    “เออ…ผะ…ผม…พูดอะไรก็ไม่รู้นะครับ..อย่าถือสาเลยครับ แฮะๆ” ทาคุบอกและฉันก็ได้แต่ยิ้มและบอกว่า



    “ ช่างมันเถอะ…
    เข้าร้านดีมั้ยฉันยังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์เลยนะ” ฉันบอกและเดินเข้าไปในร้าน  



    ฉันทำงานต่อไปแม้ว่าวันแรกยังไม่ดีเท่าที่ควร มีเรื่องวุ่นๆมากมายแต่ทาคุก็พยายามช่วยฉัน



    ฉันจึงสนิทกับทาคุเป็นคนแรกและก็รู้ว่าทาคุเป็นญาติกับพี่แคทและทาคุก็เป็นเพื่อนกับโกสุเคะด้วย  



    โกสุเคะเป็นชายอ้วนนิสัยดีและกินจุมาก  เห็นอ้วนๆอย่างนี้ก็เถอะ โกสุเคะมีแฟนแล้วและนั่นก็คือ  อิจิโกะ นั่นเอง



    อิจิโกะ เป็นสาวมั่น มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และกล้าแสดงออกเห็นแบบนี้แล้วหลายคนอาจคิดว่าเธอต้องชอบผู้ชายหล่อหุ่นดี

    แต่ความจริงเธอชอบคนที่นิสัยดีอย่างโกสุเคะเนี่ยแหละ  เธอบอกว่าชอบกันที่หัวใจไม่ดูรูปลักษณ์หรอก



    ( ถ้าทุกคนมีความคิดแบบนี้ คงมีความสุขเพราะจะรู้สึกว่าตนไม่มีปมด้อย ถ้ารักที่หัวใจไม่ว่าคนที่เรารักจะ สูง เตี้ย อ้วน ดำ ขาวหรือเป็นอะไรก็ตามเราก็รักเค้าเสมอ)



    อิจิโกะก็เป็นเพื่อนกับมิซากิ  อิจิโกะอายุ 19 เป็นพี่ฉันตั้ง 2 ปี  



    ตอนกลางวันพวกเราทั้ง 5 คนไปกินข้าวด้วยกัน และอิจิโกะก็เล่าว่า



    มิซากิแอบชอบคินโตะตั้งนานแล้ว  



    ทำไมไม่รู้ฉันถึงรู้สึกใจหายยังไงชอบกล



    และคนที่พูดถึงก็มา นั่นก็คือคินโตะนั่นเองเค้ามาพร้อมกับพี่คนโจ  



    อิจิโกะรีบชี้ให้ทุกคนดูและฉันก็สังเกตเห็นว่า มิซากิหน้าแดง  และเมื่อฉันมองไปที่เค้า เค้าก็เดินมาที่โต๊ะเราพอดี แต่พวกเค้าไม่เห็นฉัน



    “ สวัสดีค่ะ คุณคินโตะ ลูกค้าประจำของร้านเรา” อิจิโกะทักคินเมื่อเค้าเดินมาถึงที่โต๊ะ คินก็ยิ้มรับและพูดต่อว่า



    “แหม!!!ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ…เออ..พนักงานใหม่เป็นไงบ้างครับ” คินถามอิจิโกะ และอิจิโกะก็เหล่มองฉันนิดหน่อยก่อนพูดว่า



    “ ก็ดีค่ะ..ทำแก้วแตก 6 ใบ ทำถ้วยแตก 8 ใบ ลื่นล้ม ระหว่างทำงาน 3 หน บอกไอศครีมผิด ส่งโต๊ะไม่ถูกโดนลูกค้าว่า..ก็เท่านั้นค่ะ”

    อิจิโกะพูดเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่คินกับคนโจกลับส่ายหัว



    “ ยังไงก็ฝากดูแลเธอหน่อยแล้วกันครับ.. เธอไม่เคยทำงานมาก่อน” คนโจบอกพวกเพื่อนของฉันและคินก็ยังบอกอีกว่า



    “ขอโทษนะครับที่เธอซุ่มซามไปหน่อย อาจจะไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงเท่ากับมิซากิจัง แต่เธอเป็นคนดีนะครับออกจะเหมือนทอมด้วยซ้ำยังไงก็ระวังตัวไว้หน่อยนะครับ” คินพูดออกมาเพราะไม่รู้ว่าฉันนั่งอยู่



    ส่วนมิซากิหน้าแดงเพราะคินพูดถึงตัวเอง  แต่ฉันสิโกรธคินจึงลุกขึ้นมาและต่อยเค้าที่หน้าพอดีและว่าว่า



    นี่นายกล้าดียังไง!!!!!!มาหาว่าฉันเป็นทอม!!!!!!!นี่ฉันยังไม่ได้ชำระแค้นเรื่องเมื่อคืนนะ!!!!!!!!!!!” ฉันพูดเสียงดังและจากกิริยาท่าทาง



    ทำให้  ทั้งมิซากิ,อิจิโกะ,โกสุเคะ และทาคุ



    คิดว่าฉันกับคินคงสนิทกันมากเพราะฉันกล้าต่อยเค้า



    ทั้งที่ทั้ง 4 คนนั้น เกรงใจคินมาก แล้วยังเรื่องเมื่อคืน



    อาจทำให้ทุกคนเข้าใจผิดได้ ฉันเองก็อายอยู่เหมือนกันเพราะทุกคนมองเราทั้งคู่สายตาเดียว  



    ฉันจึงรีบลากตัวคินออกมาข้างนอกร้านแและไกลจากสายตาคนอื่น  



    ส่วนคนโจที่ยังอยู่ในร้านคงต้องรับกรรมคนเดียว คนโจจึงต้องเป็นผู้แก้ปัญหาทั้งหมด



      “เออ..ไม่มีอะไรครับคือยัยคิเคียวกับเจ้าคินมันมีปัญหากันนิดหน่อย….คิ เคียวเป็นน้องผมครับ   มันก็เลยสนิทกับคินเพราะคินเป็นเพื่อนซี้ผมครับไม่มีอะไรหรอกครับ” คนโจต้องตอบคำถามที่ทั้ง 4 คนถาม



    ทั้งที่ตนเองไม่เกี่ยวและ  เรื่องเมื่อคืน มันคืออะไรคนโจเองก็ยังสงสัยอยู่เลย…….



    ------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×