ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : งานเลี้ยง
ฉันรีบออกจากห้องพี่ แต่คำพูดที่บอกพี่ว่าจะไปให้น้าโคริแปลงโฉมนั้นผิดคาดจริงๆ ฉันไม่ไปหรอกถ้าไปก็คงโดนแต่งตัวเป็นหญิงหวานเกินไปซึ่งฉันไม่ชอบ
ฉันจึงวิ่งเข้าห้องตัวเองแทน แต่เสื้อผ้าที่จะใส่ไปนี่สิฉันไม่มีเลยสักชุด
หนทางสุดท้ายก็คือต้องไปหาน้าโคริจนได้
ติ๊ง ต่อง ติ๊ง ต่อง ติ๊งต่อง…….. ฉันกดกริ่งหน้าบ้านน้าโคริอยู่นานจนน้าโคริออกมา
“อ้าว!!! แหมนึกว่าใครซะอีกที่แท้ก็หนูคิเคียวนี่เอง เข้ามาก่อนสิจ๊ะ” น้าโคริเรียกให้ฉันเข้าบ้านเค้าฉันจึงเดินตามเข้าไป
“ ขอรบกวนด้วยนะค่ะ” ฉันบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านของน้าโคริถ้าดูดีๆจะเห็นว่ามีอุปกรณ์แต่งหน้าทำผม ครีม เจล ที่ช่วยบำรุงนู่น
บำรุงนี่ เสื้อผ้ารองเท้า และฯลฯ พูดให้หมดเลยก็คือ สิ่งที่ทำให้สวยงามตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนของสะสมอะไรสักอย่าง ที่เล่ามาดูเหมือนรกแต่ความจริงนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยมากจริงๆ
“ มีเรื่องอะไรหรือจ๊ะ” น้าโคริเชิญให้ฉันนั่งและถามเหตุที่ฉันมาหาเค้า
“ คือ…หนูจะมาขอยืมชุดที่ใส่..ไป…งานเลี้ยงหน่อยค่ะ” ฉันพูดตะกุกตะกักเล็กน้อยเพราะกำลังนึกอยู่ว่าชุดที่ต้องใส่ไปมันเรียกว่ายังไง
เมื่อพูดจบน้าโคริที่มองฉันอยู่ตลอดก็บอกว่า “อ๋อ!!!! ได้สิจ๊ะ” ว่าแล้ว น้าโคริก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน ฉันจึงตามน้าโคริไป
น้าโคริเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีแต่ชุดสำหรับงานเลี้ยงให้ดูฉันก็ถึงกับอึ้งในทันที เสื้อผ้านี้เยอะมากแล้วยังดูแพงๆมีระดับจริงๆ
ฉันจึงหันไปมองหน้าน้าโคริและพูดว่า
“ คือ…..หนูอยากได้ชุดที่ดูเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดค่ะ” ฉันบอกและแสดงสีหน้าเป็นเชิงคำถามว่ามีมั้ยๆประมาณนั้น
“ เป็นตัวของตัวเอง…” น้าโคริพูดซ้ำคำที่ฉันพูดพร้อมกับเดินมองไปรอบๆตัวฉัน และแป็ปนึงก็เอากำปั้นทุบกับมือและพูดว่า
\"นึกออกแล้ว..”
ณ งานเลี้ยงที่บ้านทานากะ
“ ทำไมยังไม่มาอีกน้า………” คินเดินไปเดินมาบริเวณสวนในบ้านและมองที่หน้าประตูอยู่เสมอเพราะคินกำลังรอใครบางคนอยู่
“ โธ่…กว่าจะออกจากบ้านได้มัวแต่แต่งตัวอยู่นั่นแหละ” พี่บ่นตลอดทางไปบ้านของคิน ฉันก็อาจจะแต่งนานไปหน่อยเพราะไม่ค่อยมีความมั่นใจเล๊ย…
“ ไม่ได้เป็นเพราะหนูสักหน่อย!!!!! พี่นั่นแหละ!! เห่อมากเกินไปแต่งตัวซะเร็วเชียว!!!!!” ฉันต่อว่าพี่กลับ
ใครจะไปยอมรับว่าแต่งตัวช้าล่ะ ยิ่งเป็นฉันด้วยแล้วไม่มีทาง ฉันก็ยังคงบ่นกันไปบ่นกันมากับพี่ตลอดทาง จนถึงบ้านคิน
พี่รีบจอดรถและจูง ..จะว่าไปก็เหมือนดึงฉันออกมาจากรถและลากไปให้นายคิน
“ อ่ะ!!! เอายัยนี่ไปเลย ยัยตัวแสบ ฉันไปล่ะ….” พี่เอาฉันมาให้นายคินซึ่งยืนอยู่หน้างานเลี้ยงก่อนจะวิ่งเข้างานไป และทิ้งฉันไว้กับนายนี่อีกแล้ว
“เดี๋ยวดิ!!!! ทิ้งน้องไว้อย่างนี้เหรอ….พี่บ้า!!!!” ฉันตะโกนและพยายามจะเอามือของคินออกเพราะคินจับแขนฉันไว้ไม่ให้วิ่งไปหาพี่
“ นี่!!!~ แล้วนายน่ะ ปล่อยฉันได้แล้ว!!!” ฉันพยายามแกะมือเค้าออกแต่มันก็ไม่ออกสักทีแรงเค้าเยอะกว่าฉัน แต่ทำไมฉันยังเคยต่อยหน้า
เค้าเลยนี่ แล้วเค้าจะแรงเยอะกว่าฉันได้ไงเนี่ย เอ๊ะ!!หรือว่าตอนนั้นเค้าออมแรงไว้และยอมให้ฉันต่อย ฉันได้แต่คิดในใจ
“ เธอเตรียมคำตอบเรื่องเมื่อกลางวันได้รึยัง” คินปล่อยแขนฉันและถามคำตอบของฉัน ฉันเอามือนวดแขนเบาๆเพราะเจ็บเหมือนกันก่อนจะตอบเค้าว่า
“ อืม----” ฉันพยักหน้านิดนึงแต่ฉันคิดว่าเค้าคงไม่เข้าใจถึงได้ถามฉันอีก
“ อืม นี่แปลว่าตกลงหรือไม่ตกลงกันล่ะ” คินถามฉันอีกฉันจึงเริ่มเบื่อเพราะขี้เกียจจะพูด
“ ก็ตกลงน่ะสิ !!!!!…” ฉันตะโกนบอกเค้า ซึ่งฉันคิดว่าคินเองก็คงรู้ว่าฉันไม่พอใจเพราะเค้าเดินเข้าไปในงาน แต่ไม่ รู้เพราะอะไร ฉันถึงไม่อยากให้เค้าโกรธฉัน ฉันจึงวิ่งไปขว้างหน้าเค้าไว้และบอกว่า
“ เออ…เริ่มงานพรุ่งนี้ใช่มั้ย??” คินยังคงทำหน้าเหมือนเดิม เค้าตอบฉันโดยการพยักหน้าและจะเดินต่อ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดกว่าเดิมซะอีก ฉันเดินตามเค้าเข้างานและตามติด เค้าตลอดเพื่อจะดูว่าเค้าหายโกรธฉันแล้วหรือยัง แต่เค้าก็ยังทำสีหน้าเศร้าๆอย่างนั้นตลอดจนงานเลิก พี่หายโกรธฉันแล้วและเดินมาหาฉันเพื่อพากลับบ้าน พี่ไปบอกลาคินที่ยังเศร้า ตลอดงานและคินก็เดินเข้าบ้านไป
“ พี่ ๆรอเดี๋ยวนะไปขึ้นรถก่อนก็ได้” ฉันบอกพี่ขณะที่กำลังจะเดินกลับ และฉันก็รีบวิ่งตามหลังคินไป
“ คิน !!!! คิน !!!!! นายคิน!!!!!!!! คินโตะ !!!!!!!!ทานากะ คินโตะ!!!!!! หยุดก่อนได้มั้ย” ฉันตะโกนเรียกคินจนเค้าหยุดแต่ฉันนี่สิเหนื่อย
รูปบ้านที่แท้จริงของเค้าจะใหญ่โตแค่ไหน นี่ขนาดฉันวิ่งฝ่าข้าวของที่ตั้งในงานเลี้ยงแล้วยังเหนื่อยขนาดนี้
คินหันมาทางฉันแล้ววิ่งมาหา เพราะเห็นสีหน้าที่เหนื่อยของฉัน คินช่วยประคองฉันไว้ และเค้าก็พูดกับฉันว่า
“ คิเคียว ๆ เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่เห็นต้องวิ่งตามฉันมาเลย เธอนี่จริงๆเล๊ย….” คินว่าฉันอีกแล้วมันเหมือนว่าว่าฉันอ่อนแอฉันจึงปล่อยมือที่เค้าประคองอยู่ออกและยืนขึ้นแม้ว่ากำลังเหนื่อยอยู่ก็ตาม
“ ฉะ….ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าฉันผิดเองที่ขึ้นเสียงกับนายแบบนั้น ฉันรู้ว่านายโกรธฉันอยู่ใช่ มั้ยล่ะ ฉันไม่ดีเองฉันไม่ได้ตั้งใจฉันขอโทษ” ฉันรีบพูดและรีบเดินจากไปเพราะว่าฉันไม่ค่อยจะขอโทษผู้ชายที่ไม่ถูกกัน ดูสิขนาดพี่ฉันยังไม่ขอโทษเเลย นอกจากแม่จะสั่ง คนเดียวที่ฉันขอโทษเองคือ พ่อ
“ เดี๋ยวก่อนสิ….ใครบอกเธอว่าฉันโกรธเธอล่ะ” คินพูดออกมาทำให้ขัดจังหวะการเดินของฉันฉันจึงหยุดและเดินอย่างรวดเร็วกลับมาที่คิน
“ นี่…นายไม่ได้โกรธฉันหรอกเหรอ….ถ้างั้นแล้วทำไมนายไม่ยิ้มเลยล่ะไม่พูดไม่มองฉันด้วย” ฉันพูดแต่คินกลับยิ้มฉันจึงถามว่า
“ ยิ้มอะไรของนายอยู่ได้” ฉันถามคินแต่คินกลับยิ้มมากกว่าเดิมซะอีกและบอกฉันว่า
“ ก็……ดีใจที่เธอแคร์ฉันไง ฉันรู้ว่าถ้าทำแบบนั้นเธอต้องคิดว่าฉันโกรธใช่มั้ย” คินตอบและทำหน้าเจ้าเล่ห์มากจนฉันอยากชกเข้าให้สักที
“ เหรอ…….สรุปนี่นายหลอกฉัน ให้ฉันเนี่ยรู้สึกผิด ให้ฉันมาขอโทษ ให้ฉันตามติดนาย ให้ฉันไม่ได้กินอาหารเพราะทุกข์ที่ทำนายโกรธ ให้ฉันเป็นห่วงนาย ให้ฉัน กลับบ้านช้าเพราะว่ามัวแต่ขอโทษนาย……นายนี่มัน…….ไอ้เจ้าเล่ห์เอ๊ย!!!!!!” ฉันพูดไปยิ้มไปในตอนแรกและเริ่มโกรธขึ้นๆจนยกแขนขึ้นมาเพื่อที่จะต่อย แต่คินก็จับเอาไว้และพูดกับฉันอย่างสำนึกผิดว่า
“ ฉันขอโทษ … ฉันแค่อยากล้อเธอเล่นก็แค่นั้น ไม่ได้ต้องการให้เธอรู้สึกผิดเลยนะ” คินบอกแต่ตอนนี้ฉันกำลังโกรธ โกรธมากๆ
“ ฉันเกลียดคนหลอกลวงที่สุดเลยรู้ไหม!!!!!!!!! ปล่อยฉันได้แล้ว!!!!!!!!!!!!” ฉันบอกแต่เค้าก็ไม่ปล่อยฉันจึงเหยียบเท้าเค้าอย่างรุนแรงและวิ่งจากไป
ฉันเสียใจจริงๆ ฉันวิ่งไปขึ้นรถพี่ซึ่งมีเพื่อนพี่กลับด้วยเธอก็คือ คาโอริ พี่บ่นว่าฉันมาช้าหายไปไหนมาแต่ฉันไม่ตอบพี่จึงไม่ถามอีกพี่ขับรถพาฉันมาส่งที่หน้าบ้านและบอกว่าจะไปส่งคุณคาโอริก่อนแล้วจะกลับมา
ฉันจึงเดินเข้าบ้านไปไม่รู้ทำไมถึงได้เสียใจนักทั้งที่เค้าก็แค่แหย่เราเล่นๆเอง
เมื่อฉันเข้าไปในห้องนอนฝนก็เริ่มตกและหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานเสียง โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นโชว์เบอร์ใครก็ไม่รู้ ฉันจึงรับสายและคู่สายของฉัน ก็คือ………
“ สวัสดีค่ะ..”
“ใครพูดค่ะ”
“ถ้าไม่พูดจะวางแล้วนะ!!!”
“ ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจอย่าโกรธได้มั้ย” เมื่อฉันได้ยินเสียงก็พอจะรู้ว่า ใคร แต่สงสัยว่าทำไมถึงมีเบอร์ฉันได้ เสียงในโทรศัพท์ดูดัง
ซ่า ซ่า ซ่า เสียงฝนชัดเจนมาก
“ ฉันไม่ได้โกรธนะ…อารมย์ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ” ฉันตอบเพราะว่าไม่อยากโกรธเค้าอีก
“ เธอไม่ได้โกรธจริงเหรอ??” คินถามฉัน
“ จริงๆ นี่นายอยู่ไหนเนี่ย ฝนตกหนักมากหรือไง” ฉันถามคิน
“ ฉัน..อยู่หน้าบ้านเธอไงล่ะ ฉันจะมาขอโทษ” คินบอกทำให้ฉันถึงกับอึ้งและหันไปมองนอกหน้าต่างก็เป็น คิน จริงๆด้วย
“ รอเดี๋ยวนะ” ฉันบอกผ่านโทรศัพท์และรีบวิ่งออกจากห้องถือร่มและออกไปหน้าบ้าน………..
ฉันจึงวิ่งเข้าห้องตัวเองแทน แต่เสื้อผ้าที่จะใส่ไปนี่สิฉันไม่มีเลยสักชุด
หนทางสุดท้ายก็คือต้องไปหาน้าโคริจนได้
ติ๊ง ต่อง ติ๊ง ต่อง ติ๊งต่อง…….. ฉันกดกริ่งหน้าบ้านน้าโคริอยู่นานจนน้าโคริออกมา
“อ้าว!!! แหมนึกว่าใครซะอีกที่แท้ก็หนูคิเคียวนี่เอง เข้ามาก่อนสิจ๊ะ” น้าโคริเรียกให้ฉันเข้าบ้านเค้าฉันจึงเดินตามเข้าไป
“ ขอรบกวนด้วยนะค่ะ” ฉันบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านของน้าโคริถ้าดูดีๆจะเห็นว่ามีอุปกรณ์แต่งหน้าทำผม ครีม เจล ที่ช่วยบำรุงนู่น
บำรุงนี่ เสื้อผ้ารองเท้า และฯลฯ พูดให้หมดเลยก็คือ สิ่งที่ทำให้สวยงามตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนของสะสมอะไรสักอย่าง ที่เล่ามาดูเหมือนรกแต่ความจริงนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยมากจริงๆ
“ มีเรื่องอะไรหรือจ๊ะ” น้าโคริเชิญให้ฉันนั่งและถามเหตุที่ฉันมาหาเค้า
“ คือ…หนูจะมาขอยืมชุดที่ใส่..ไป…งานเลี้ยงหน่อยค่ะ” ฉันพูดตะกุกตะกักเล็กน้อยเพราะกำลังนึกอยู่ว่าชุดที่ต้องใส่ไปมันเรียกว่ายังไง
เมื่อพูดจบน้าโคริที่มองฉันอยู่ตลอดก็บอกว่า “อ๋อ!!!! ได้สิจ๊ะ” ว่าแล้ว น้าโคริก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน ฉันจึงตามน้าโคริไป
น้าโคริเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีแต่ชุดสำหรับงานเลี้ยงให้ดูฉันก็ถึงกับอึ้งในทันที เสื้อผ้านี้เยอะมากแล้วยังดูแพงๆมีระดับจริงๆ
ฉันจึงหันไปมองหน้าน้าโคริและพูดว่า
“ คือ…..หนูอยากได้ชุดที่ดูเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดค่ะ” ฉันบอกและแสดงสีหน้าเป็นเชิงคำถามว่ามีมั้ยๆประมาณนั้น
“ เป็นตัวของตัวเอง…” น้าโคริพูดซ้ำคำที่ฉันพูดพร้อมกับเดินมองไปรอบๆตัวฉัน และแป็ปนึงก็เอากำปั้นทุบกับมือและพูดว่า
\"นึกออกแล้ว..”
ณ งานเลี้ยงที่บ้านทานากะ
“ ทำไมยังไม่มาอีกน้า………” คินเดินไปเดินมาบริเวณสวนในบ้านและมองที่หน้าประตูอยู่เสมอเพราะคินกำลังรอใครบางคนอยู่
“ โธ่…กว่าจะออกจากบ้านได้มัวแต่แต่งตัวอยู่นั่นแหละ” พี่บ่นตลอดทางไปบ้านของคิน ฉันก็อาจจะแต่งนานไปหน่อยเพราะไม่ค่อยมีความมั่นใจเล๊ย…
“ ไม่ได้เป็นเพราะหนูสักหน่อย!!!!! พี่นั่นแหละ!! เห่อมากเกินไปแต่งตัวซะเร็วเชียว!!!!!” ฉันต่อว่าพี่กลับ
ใครจะไปยอมรับว่าแต่งตัวช้าล่ะ ยิ่งเป็นฉันด้วยแล้วไม่มีทาง ฉันก็ยังคงบ่นกันไปบ่นกันมากับพี่ตลอดทาง จนถึงบ้านคิน
พี่รีบจอดรถและจูง ..จะว่าไปก็เหมือนดึงฉันออกมาจากรถและลากไปให้นายคิน
“ อ่ะ!!! เอายัยนี่ไปเลย ยัยตัวแสบ ฉันไปล่ะ….” พี่เอาฉันมาให้นายคินซึ่งยืนอยู่หน้างานเลี้ยงก่อนจะวิ่งเข้างานไป และทิ้งฉันไว้กับนายนี่อีกแล้ว
“เดี๋ยวดิ!!!! ทิ้งน้องไว้อย่างนี้เหรอ….พี่บ้า!!!!” ฉันตะโกนและพยายามจะเอามือของคินออกเพราะคินจับแขนฉันไว้ไม่ให้วิ่งไปหาพี่
“ นี่!!!~ แล้วนายน่ะ ปล่อยฉันได้แล้ว!!!” ฉันพยายามแกะมือเค้าออกแต่มันก็ไม่ออกสักทีแรงเค้าเยอะกว่าฉัน แต่ทำไมฉันยังเคยต่อยหน้า
เค้าเลยนี่ แล้วเค้าจะแรงเยอะกว่าฉันได้ไงเนี่ย เอ๊ะ!!หรือว่าตอนนั้นเค้าออมแรงไว้และยอมให้ฉันต่อย ฉันได้แต่คิดในใจ
“ เธอเตรียมคำตอบเรื่องเมื่อกลางวันได้รึยัง” คินปล่อยแขนฉันและถามคำตอบของฉัน ฉันเอามือนวดแขนเบาๆเพราะเจ็บเหมือนกันก่อนจะตอบเค้าว่า
“ อืม----” ฉันพยักหน้านิดนึงแต่ฉันคิดว่าเค้าคงไม่เข้าใจถึงได้ถามฉันอีก
“ อืม นี่แปลว่าตกลงหรือไม่ตกลงกันล่ะ” คินถามฉันอีกฉันจึงเริ่มเบื่อเพราะขี้เกียจจะพูด
“ ก็ตกลงน่ะสิ !!!!!…” ฉันตะโกนบอกเค้า ซึ่งฉันคิดว่าคินเองก็คงรู้ว่าฉันไม่พอใจเพราะเค้าเดินเข้าไปในงาน แต่ไม่ รู้เพราะอะไร ฉันถึงไม่อยากให้เค้าโกรธฉัน ฉันจึงวิ่งไปขว้างหน้าเค้าไว้และบอกว่า
“ เออ…เริ่มงานพรุ่งนี้ใช่มั้ย??” คินยังคงทำหน้าเหมือนเดิม เค้าตอบฉันโดยการพยักหน้าและจะเดินต่อ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดกว่าเดิมซะอีก ฉันเดินตามเค้าเข้างานและตามติด เค้าตลอดเพื่อจะดูว่าเค้าหายโกรธฉันแล้วหรือยัง แต่เค้าก็ยังทำสีหน้าเศร้าๆอย่างนั้นตลอดจนงานเลิก พี่หายโกรธฉันแล้วและเดินมาหาฉันเพื่อพากลับบ้าน พี่ไปบอกลาคินที่ยังเศร้า ตลอดงานและคินก็เดินเข้าบ้านไป
“ พี่ ๆรอเดี๋ยวนะไปขึ้นรถก่อนก็ได้” ฉันบอกพี่ขณะที่กำลังจะเดินกลับ และฉันก็รีบวิ่งตามหลังคินไป
“ คิน !!!! คิน !!!!! นายคิน!!!!!!!! คินโตะ !!!!!!!!ทานากะ คินโตะ!!!!!! หยุดก่อนได้มั้ย” ฉันตะโกนเรียกคินจนเค้าหยุดแต่ฉันนี่สิเหนื่อย
รูปบ้านที่แท้จริงของเค้าจะใหญ่โตแค่ไหน นี่ขนาดฉันวิ่งฝ่าข้าวของที่ตั้งในงานเลี้ยงแล้วยังเหนื่อยขนาดนี้
คินหันมาทางฉันแล้ววิ่งมาหา เพราะเห็นสีหน้าที่เหนื่อยของฉัน คินช่วยประคองฉันไว้ และเค้าก็พูดกับฉันว่า
“ คิเคียว ๆ เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่เห็นต้องวิ่งตามฉันมาเลย เธอนี่จริงๆเล๊ย….” คินว่าฉันอีกแล้วมันเหมือนว่าว่าฉันอ่อนแอฉันจึงปล่อยมือที่เค้าประคองอยู่ออกและยืนขึ้นแม้ว่ากำลังเหนื่อยอยู่ก็ตาม
“ ฉะ….ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าฉันผิดเองที่ขึ้นเสียงกับนายแบบนั้น ฉันรู้ว่านายโกรธฉันอยู่ใช่ มั้ยล่ะ ฉันไม่ดีเองฉันไม่ได้ตั้งใจฉันขอโทษ” ฉันรีบพูดและรีบเดินจากไปเพราะว่าฉันไม่ค่อยจะขอโทษผู้ชายที่ไม่ถูกกัน ดูสิขนาดพี่ฉันยังไม่ขอโทษเเลย นอกจากแม่จะสั่ง คนเดียวที่ฉันขอโทษเองคือ พ่อ
“ เดี๋ยวก่อนสิ….ใครบอกเธอว่าฉันโกรธเธอล่ะ” คินพูดออกมาทำให้ขัดจังหวะการเดินของฉันฉันจึงหยุดและเดินอย่างรวดเร็วกลับมาที่คิน
“ นี่…นายไม่ได้โกรธฉันหรอกเหรอ….ถ้างั้นแล้วทำไมนายไม่ยิ้มเลยล่ะไม่พูดไม่มองฉันด้วย” ฉันพูดแต่คินกลับยิ้มฉันจึงถามว่า
“ ยิ้มอะไรของนายอยู่ได้” ฉันถามคินแต่คินกลับยิ้มมากกว่าเดิมซะอีกและบอกฉันว่า
“ ก็……ดีใจที่เธอแคร์ฉันไง ฉันรู้ว่าถ้าทำแบบนั้นเธอต้องคิดว่าฉันโกรธใช่มั้ย” คินตอบและทำหน้าเจ้าเล่ห์มากจนฉันอยากชกเข้าให้สักที
“ เหรอ…….สรุปนี่นายหลอกฉัน ให้ฉันเนี่ยรู้สึกผิด ให้ฉันมาขอโทษ ให้ฉันตามติดนาย ให้ฉันไม่ได้กินอาหารเพราะทุกข์ที่ทำนายโกรธ ให้ฉันเป็นห่วงนาย ให้ฉัน กลับบ้านช้าเพราะว่ามัวแต่ขอโทษนาย……นายนี่มัน…….ไอ้เจ้าเล่ห์เอ๊ย!!!!!!” ฉันพูดไปยิ้มไปในตอนแรกและเริ่มโกรธขึ้นๆจนยกแขนขึ้นมาเพื่อที่จะต่อย แต่คินก็จับเอาไว้และพูดกับฉันอย่างสำนึกผิดว่า
“ ฉันขอโทษ … ฉันแค่อยากล้อเธอเล่นก็แค่นั้น ไม่ได้ต้องการให้เธอรู้สึกผิดเลยนะ” คินบอกแต่ตอนนี้ฉันกำลังโกรธ โกรธมากๆ
“ ฉันเกลียดคนหลอกลวงที่สุดเลยรู้ไหม!!!!!!!!! ปล่อยฉันได้แล้ว!!!!!!!!!!!!” ฉันบอกแต่เค้าก็ไม่ปล่อยฉันจึงเหยียบเท้าเค้าอย่างรุนแรงและวิ่งจากไป
ฉันเสียใจจริงๆ ฉันวิ่งไปขึ้นรถพี่ซึ่งมีเพื่อนพี่กลับด้วยเธอก็คือ คาโอริ พี่บ่นว่าฉันมาช้าหายไปไหนมาแต่ฉันไม่ตอบพี่จึงไม่ถามอีกพี่ขับรถพาฉันมาส่งที่หน้าบ้านและบอกว่าจะไปส่งคุณคาโอริก่อนแล้วจะกลับมา
ฉันจึงเดินเข้าบ้านไปไม่รู้ทำไมถึงได้เสียใจนักทั้งที่เค้าก็แค่แหย่เราเล่นๆเอง
เมื่อฉันเข้าไปในห้องนอนฝนก็เริ่มตกและหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานเสียง โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นโชว์เบอร์ใครก็ไม่รู้ ฉันจึงรับสายและคู่สายของฉัน ก็คือ………
“ สวัสดีค่ะ..”
“ใครพูดค่ะ”
“ถ้าไม่พูดจะวางแล้วนะ!!!”
“ ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจอย่าโกรธได้มั้ย” เมื่อฉันได้ยินเสียงก็พอจะรู้ว่า ใคร แต่สงสัยว่าทำไมถึงมีเบอร์ฉันได้ เสียงในโทรศัพท์ดูดัง
ซ่า ซ่า ซ่า เสียงฝนชัดเจนมาก
“ ฉันไม่ได้โกรธนะ…อารมย์ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ” ฉันตอบเพราะว่าไม่อยากโกรธเค้าอีก
“ เธอไม่ได้โกรธจริงเหรอ??” คินถามฉัน
“ จริงๆ นี่นายอยู่ไหนเนี่ย ฝนตกหนักมากหรือไง” ฉันถามคิน
“ ฉัน..อยู่หน้าบ้านเธอไงล่ะ ฉันจะมาขอโทษ” คินบอกทำให้ฉันถึงกับอึ้งและหันไปมองนอกหน้าต่างก็เป็น คิน จริงๆด้วย
“ รอเดี๋ยวนะ” ฉันบอกผ่านโทรศัพท์และรีบวิ่งออกจากห้องถือร่มและออกไปหน้าบ้าน………..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น