ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Just Change

    ลำดับตอนที่ #4 : เลขาคนใหม่ & ข้อเสนอ

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 55


    เช้าวันรุ่งขึ้น อากาศแจ่มใส แต่ก็เกิดขึ้นพร้อมกับความกระวนกระวายใจของใครคนหนึ่ง ที่นอนไม่หลับเพราะความคิดบางอย่างที่เกิดขึ้นในใจ  คนคนนั้นก็คือคินโตะ

    มีหลายอย่างที่เค้าสับสนตั้งแต่เดินทางกลับมาที่ญี่ปุ่นแล้ว  ทั้งเรื่องพ่อ เรื่องผู้หญิง  ……… และความไม่เข้าใจมากมาย



    ณ บริษัท ทานากะ โปรดักค์ กรุ๊ป



    “ เอาล่ะ!!   ทุกคนวันนี้ คุณ ทานากะ  คินโตะ จะกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งหลังจากที่ท่านพึ่งกลับจากออสเตรเลีย  เพราะ ฉะนั้น!!!!! ผมจึงอยากให้ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี  คุณทานากะได้บอกไว้ว่าจะเข้า บริษัทตอน  09.00 น. จึงยังพอมีเวลาเตรียมการขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือด้วยนะครับ”



    พนักงานทุกคนต่างก็พร้อมเพราะเมื่องานวันเกิดคนโจบางคนก็ไม่ได้ไปและก็ไม่ รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือคินโตะและบางคนก็ยังไม่เคยพบคินโตะเลยสักครั้ง ได้ยินแต่คำล่ำลือเท่านั้น***



    เวลา 09.00 น.



    คินโตะไม่ต้องการให้คนขับรถ ขับรถมาส่งจึงขับรถมาเอง

      เมื่อลงจากรถก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานทุกคนตั้งแต่หน้าประตูที่ได้รับช่อดอกไม้จากเลขาฝ่ายออกแบบ



    “ ยินดีต้อนรับคุณทานากะ  คินโตะค่ะ” มีหลายคนมากมายที่ทักทายและต้องการทำความรู้จักเพราะคินโตะเป็นกันเองกับทุกคน



       คินโตะเดินไปพร้อมๆกับคนโจทำให้หลายคนรู้ว่า 2 คนนี้คงเป็นเพื่อนซี้กันแน่ๆ เพราะในช่วงที่คินโตะเดินทางไปต่างประเทศเค้าก็ได้มอบหมายงานต่างๆในบริษัท ให้คนโจเป็นผู้ดูแลจัดการทุกอย่าง



    “ ครับ..สวัสดีครับ …ขอบคุณมากครับ”  คินโตะต้องพูดเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงห้องทำงาน



    “ คิน…เดี๋ยวตอน 10.00 น. มีงานต้อนรับที่ห้องประชุมเล็กชั้น 3 นะ อย่าลืมไปล่ะ” คนโจบอกกับคินโตะซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะแล้ว ก่อนจะเดินไปแต่คินก็เรียกไว้ก่อน



    “ เฮ้!!คนโจ งานต้อนรับอะไร” คินถามพลางลุกขึ้นและเดินไปหาคนโจ   คนโจจึงหันหน้ากลับมาพร้อมกับมองหน้าคินเป็นเชิงว่า

      นี่แกโง่อ่ะเปล่าเนี่ย





    “ ก็จะงานอะไรล่ะ..ก็งานต้อนรับแกไงเล่า---  โธ่เอ๊ย…นึกว่าแกจะฉลาดขึ้นกว่าเดิมซะอีก” คนโจบอกพลางเอามือเกาหัวพร้อมกับส่ายหน้า



    “ อ้าว!! แล้วเมื่อก่อนชั้นโง่มากเหรอ ไอ้เพื่อนรัก++++” คินใช้กำปั้นเขกหัวคนโจ  



    “ โอ๊ย!!!!!!~  -ไม่ยุ่งกับแกละ  อย่าลืมไปล่ะ” คนโจร้องเสียงหลงและเอามือกุมหัวตัวเองก่อนเดินจากไป



    “ เออ!!! ไม่ลืมหรอกน่า” คินโตะกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิมและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  ไม่นานก็ได้ยินเสียง  



    ก๊อก   ก๊อก   ก๊อก

      

    “ เชิญครับ..”  คินบอก และก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาเธอไว้ผมยาวสลวยหน้าตาสวยน่ารักใส่เสื้อชุดทำงาน เรียบร้อยและดูเป็นระเบียบท่าดูจากท่าทางแล้วคาดว่าเธอคงเป็นคุณหนูที่รวย เหมือนกัน



    “สวัสดีค่ะดิฉันชื่อ ฟุจิโมโต้  คาโอริ  ค่ะ เป็นเลขาคนใหม่ของผู้บริหารค่ะ” คาโอริรายงานตัวอย่างเคารพแต่ชัดถ้อยชัดคำ  คินซึ่งกำลังอึ้งอยู่ก็เริ่มได้สติ



    “ เออ..ครับ สวัสดี  ผมคือ….” คินยังพูดไม่ทันจบคาโอริก็พูดต่อว่า



    “ คุณทานากะ  คินโตะ  ผู้บริหารในเครือ ทานากะ กรุ๊ป ที่ญี่ปุ่น ลูกชายคนเดียวของ ทานากะ โอคุโบ ผู้ร่ำรวยที่สุดในตอนต้นของยุคเมจิ …….. อ่อ!1  คือ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะตระกูลทานากะมีชื่อเสียงมากและคุณคนโจก็ได้เล่าให้ฟัง แล้วนะค่ะก็เลยทราบต้องขออภัยด้วยค่ะ---** ”  คาโอริที่รู้ตัวว่าพูดแทรกขึ้นมาก็รีบขอโทษคินยกใหญ่  



    คินที่ได้ฟังก็เริ่มรู้สึกว่าเลขาใหม่คนนี้มีอะไรที่ทั้งน่ากลัวแล้วก็น่ารักแอบแฝงอยู่….



    “ มะ..ไม่เป็นไรหรอกครับถ้าคุณรู้จักผมดีขนาดนั้นแล้วก็ดีไปจะได้ร่วมงานกัน ได้….อ่อ! ผมวานคุณช่วยไปตามผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานให้ผมหน่อยไดมั้ยครับมีเรื่องจะ ปรึกษาน่ะ??”  คินบอกคาโอริ



    คาโอริได้แต่พยักหน้าและเดินออกจากห้องไป   คาโอริเดินมาที่โต๊ะของตนและโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานทันที  

    ซึ่งเค้าก็คือ…….



    “  สวัสดีค่ะผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานใช่มั้ยค่ะคุณคินโตะต้องการพบค่ะ” คาโอริเอ่ยด้วยเสียงอันไพเราะ



    “ คาโอริจังเองเหรอ   ผมคนโจครับ..  คินเรียกผมทำไมทราบไหมครับ”  เมื่อคาโอริรู้ว่าผู้จัดการฝ่าย นำเสนองานก็คือ คนโจ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่



    “ที่แท้ก็คุณนี่เอง.. ไม่รู้สิค่ะ  เห็นบอกว่า มีเรื่องจะปรึกษา คูณคินโตะพูดแค่นี้ค่ะ” คาโอริตอบ



    “ งั้นเหรอครับ……..อืม--- เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปหาครับ** ขอบคุณมากครับ” คนโจตอบกลับมา



    “ ค่ะ  สวัสดีค่ะ”   “ เช่นกันครับ” และวางสายไป  หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาทีคนโจก็เดินมาถึงที่หน้าห้องก่อนจะเดินเข้าไปก็หันมาพบกับคาโอริที่หน้า แดง  



    “คาโอริจัง เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?? หน้าแดงเชียว” คนโจถามด้วยความเป็นห่วง



    “ เปล่าค่ะ ..เชิญข้างในเลยค่ะ  คุณคินโตะคงรออยู่” คาโอริบอกทำให้คนโจเข้าไปในห้องคิน



    “ มาเร็วเหมือนกันแหะ..นั่งก่อนสิ” คินบอกและผายมือเชื้อเชิญให้นั่งลง



    “มีเรื่องอะไรล่ะ???” คนโจถามด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงเพื่อน



    “ เฮอะ ~ ~ ~ ~ ฉันคิดถึงพ่อหวะ…จนถึงป่านนี้ก็ยังหาคนที่ฆ่าพ่อไม่ได้เลย…แล้วเมื่อคืนก็ ยังฝันถึงเรื่องพ่อซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้ ไม่รู้จะทำไงดี** แม่กับพี่ก็ไม่กลับมาสักทีก็มีแต่แกนั่นแหละที่เป็นที่พึ่งให้ฉันได้”

    คินโตะเล่าเรื่องที่ตนเองทุกข์ใจให้คนโจฟัง



    “ แกยังคิดที่จะหาตัวคนร้ายอีกเหรอเรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้วนะ…แล้วอีกอย่าง แกก็ควรทำความฝันของพ่อให้เป็นจริง ไม่ใช่มานั่งจมปลักอยู่กับความคิดเดิมๆซ้ำซากแบบนี้------ แกลองคิดดูนะระหว่างความฝันของพ่อกับการแก้แค้นของแก อันไหนที่พ่อแกจะภูมิใจกว่ากัน///  พ่อแกเสียแล้วนะ ถ้าแกยุติเรื่องทุกอย่างเอาไว้มันก็จะไม่เกิดเรื่องต่อไป แต่ถ้าแกแก้แค้นมันก็จะมีแต่การนองเลือดไม่รู้จักจบจักสิ้น ฉันให้ข้อแนะนำกับแกได้แค่เนี่ยแกลองกลับไปคิดดู….ทำใจให้สบายเถอะนะ” คนโจบอกเพื่อนรัก



    “ ขอบใจมากจริงๆนะคนโจ /**แกพูดแค่นี้ฉันก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยขอบใจนะ” คินบอกเพราะถ้าไม่ได้คนโจเค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี



    “  Never mind  ,  Never mind ” ก่อนจะเดินไปแต่ก็หันกลับมาบอกว่า



    “ อย่าลืมงานต้อนรับ…ใกล้ 10.00 น.แล้ว  ฉันรู้แกมีเรื่องต้องคิดอีกเยอะไม่ใช่แค่เรื่องพ่ออย่างเดียวหรอก จริงมั้ย????” คนโจบอกพลางดูนาฬิกาและมองคินอย่างใคร่รู้



    “ ไม่มีไรหรอกฉันไม่ลืมด้วยไปได้ล่ะ” คินบอกและใช้มือทำท่าไล่ให้คนโจออกไปจากห้องของตน



    คนโจออกมาที่หน้าห้องก็เห็น คาโอริไม่อยู่แล้ว จึงเขียนข้อความ ข้อความหนึ่งลงไปในกระดาษโน๊ต

    และเดินกลับห้องของตน    หลังจากนั้นไม่นานคาโอริก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน เพราะว่าพึ่งไปเข้าห้องน้ำก็เจอกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งอยู่บนโต๊ะมีใจความว่า





                               เมื่อกี้นี้ที่คุณหน้าแดงไม่เป็นไรแน่นะครับ  

                               ผมเป็นห่วง

                               อ่อ !!! แล้วตอนกลางวันว่างไหมครับ ผมจะชวนคุณไปทานข้าว

                               ถ้าตกลงเจอกันที่ร้านราเมง  ข้างบริษัทนะครับ  ผมจะรอ




                                                                                              ฮาเนะกาว่า   คนโจ



    เมื่ออ่านจบก็ยิ่งหน้าแดงกว่าเก่าซะอีก

      

    หลังจาก 10.00 น. ที่มีงานต้อนรับการกลับมาของคินโตะ



      คินโตะก็ได้ไปหาคนโจที่ห้องเพื่อมาชวนไปทานอาหารกลางวันด้วยกันแต่คนโจก็ ไม่อยู่แล้ว  และก็บังเอิญเหลือบไปเห็นข้อความที่อยู่บนโต๊ะของคนโจว่า  



                           ขอโทษทีนะเพื่อนรัก   แต่วันนี้คงไปกินข้าวด้วยไม่ได้

                           เพราะว่าฉันไปกับเลขาคนใหม่ของแกแล้ว  

                           คาโอริจังอ่ะ  วันนี้ก็ขอโทษด้วยล่ะกัน ไปทานคนเดียวก่อนนะเพื่อน




                                                                                        ฮาเนะกาว่า   คนโจ



    คนโจเขียนโน๊ตทิ้งไว้เหมือนจะรู้ว่าคินต้องมาตามที่ห้องแน่ๆ



    “ โธ่เอ๊ย!!!~ นึกว่าหายไปไหนที่แท้ก็ไปกับผู้หญิง มิน่าละถึงไม่เห็นคุณคาโอริเลย” คินโตะพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะออกจากห้อง



    เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น  กริ๊ง   กริ๊ง  กริ๊ง ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่เลยทั้งเลขาหน้าห้องและคนโจด้วย



    คินโตะจึงตัดสินใจเดินไปรับโทรศัพท์



    “ สะ…..”  คินยังไม่ทันพูดอะไรก็มีเสียง เสียงหนึ่งตะโกนกลับมาว่า



    พี่บ้า!!!!!!! ทำไมปิดมือถือห๊า !!!!!!! ต้องโทรเข้าบริษัทเลยเนี่ยรู้ไหมหรือว่าอยู่กับผู้หญิงฮะ!!!”  คินไม่ต้องถามก็รู้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาหาคนโจ



    “ เออ..คือ..” คินไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีก็เลยได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ



    “ที่โทรเข้ามาเนี่ยก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ….ก็แค่มันไม่มีอะไรทำอ่ะ   จะเรียนพิเศษก็ขี้เกียจ  เออ+!!! พี่มีงานตอนปิดเทอมให้ทำบ้างมั้ย?? แบบงานดีๆ ไม่ต้องเหนื่อย  ไม่ต้องใช้แรง สบายๆแล้วก็ได้เงินดีอ่ะ…แต่พี่อย่าบอกนายคินเพื่อนพี่นะช่วงนี้รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้เดี๋ยวอยากเจอเดี๋ยวไม่อยากเจออ่ะ..”  ฉันพูดกับพี่ทาง โทรศัพท์โดยหารู้ไม่ว่าคนที่กำลังฟังฉันพูดพล่ำอยู่ไม่ใช่พี่แต่เป็นคิน



    “ ทำไมไม่อยากเจอล่ะ..แล้วงานแบบนั้นนะ…ไม่มีหรอกนะ”  คินตอบกลับมาทำให้ฉันตกใจอย่างมาก  ก็ใครจะไปรู้ว่าหมอนี่ฟังอยู่



    “ นี่นาย!!!! มารับโทรศัพท์ของพี่ฉันได้ไงเนี่ยห๊า!!!!แล้งยังฟังฉันพูดอีก   …นายนี่เสียมารยาทจริงๆเลยนะ”  ฉันรีบว่าคินกลับไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรู้สึกอายๆชอบกล



    “ ก็พี่เธอไม่อยู่นี่ฉันก็รับแทนไงแล้วยังมาว่าอีก”  คินตอบคิเคียวและนั่งลงบนโต๊ะทำงานของคนโจ



    “ นาย…ก็ไม่มีสิทธิ์มารับสายนะ” ฉันเถียงสุดฤทธิ์ เพราะไม่อยากขายหน้าอีก



    “ แต่ผมได้ยินหมดแล้วนะ แล้วผมก็มีงานพิเศษให้คุณด้วยล่ะสนใจม่ะ??” คินให้ข้อเสนอแก่คิเคียว



    “ งานพิเศษ  งานอะไร??? คงไม่ผิดกฎหมายนะ” ฉันถามเพราะยังไม่ไว้ใจคินเลย



    “ พนักงาน SERVE ที่ร้าน ไอศกรีม ใกล้ๆกับบริษัทฉันนี่ล่ะ ผิดกฎหมายมั้ยครับ” คินทำเสียงล้อเลียน



    “ แล้วรายได้ล่ะว่าไง???” ฉันรีบถามเพราะบางทีอาจจะรับงานนี้ก็ได้



    “รายได้ก็วันละ 80 เยน ทางร้านเค้ารับสมัครอยู่น่ะ เริ่มทำงานได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ตั้งแต่ 09.00 – 18.00  สนใจมั้ยล่ะ ถ้าเธอสนใจฉันจะสมัครให้เอาไหม????”  คินถามและอยากให้คำตอบออกมาเป็นตกลง ที่สุด



    “ อืม….ขอคิดดูก่อนนะ แล้วเย็นนี้จะโทรไปบอก” ฉันตอบกลับไปไม่รู้ว่าทำใครเสียใจหรือเปล่าแต่ยังไงก็ต้องปรึกษาแม่อยู่ดีแหละ



    “ ก็ได้..อย่าคิดนานก็แล้วกันนะ ผมจะรอคำตอบ” คินบอกและต่อด้วยว่า



    “ จริงสิ!!! เกือบลืมไปแน่ะ  คืนนี้ที่บ้านผมจัดงานต้อนรับการกลับมาของผมน่ะ คุณมาด้วยก็ได้นะมาพร้อมกับคนโจแหละพวกพนักงานเค้าจัดให้ผม  เมื่อเช้าพวก เราพึ่งประชุมกันเสร็จล่ะ นี่ก็พึ่งทราบข่าว   คุณมาให้คำตอบผมในงานเลยก็ได้นะ จะได้ไม่เปลืองค่าโทรศัพท์  O.K. ??” คินบอกกับคิเคียวไม่ใช่เพราะต้องการคำตอบแต่อยากให้เธอมาร่วมงานด้วยต่างหาก



    “ ก็ได้ งั้นเอาตามนี้ละกัน…แค่นี้นะหวัดดี” ฉันรีบวางสายไปโดยไม่ฟังว่าคินจะพูดต่อหรือไม่



    “ เดี๋ยวสิ!!!! วางซะล่ะ” คินจึงวางโทรศัพท์และเดินยิ้มออกมาจากห้องทำงานของคนโจ ก่อนจะลงไปทานอาหารข้างล่าง



    เมื่อถึงตอนเย็น  บริษัทเลิกงานพนักงานทุกคนต่างก็เตรียมตัวมางานเลี้ยงต้อนรับของคินโตะเป็นอย่างดี

    คินโตะซึ่งได้โทรศัพท์ไปบอกทางบ้านให้คนดูแลจัดงานไว้อย่างใหญ่โต เพราะจะมีแขกเหรื่อมากมายในคืนนี้  



    งานจะเริ่มตอน   19.00 น.  เพราะฉะนั้นทุกคนจึงมีเวลาที่จะเตรียมตัวและอีกอย่างคินก็ได้ประกาศแล้ว ว่าจะพาคนมาสักกี่คนก็ได้  ทำให้งานนี้มีคนจำนวนมาก



    “ พี่หนูไปด้วยนะ” ฉันรีบบอกพี่เพราะจะได้ไปให้คำตอบแก่คิน



    “ คิดอะไรขึ้นมาเนี่ยเรา ฮะ   ถึงได้อยากไปนักอยากไปหนาเนี่ย”  คนโจถามน้องสาวด้วยความสงสัย



    “ไม่มีอะไรหรอกน่า  ดีกว่าคนที่ปิดมือถือเพราะอยากอยู่กับสาวหรอกน่า” ฉันเอ่ยขึ้นมา  ทำให้พี่หันมาถามว่า  “ เมื่อกี้พูดว่าไรนะ ??~”  คนโจรีบถาม   ฉันจึงรีบออกไปจากห้อง



    “ เปล่านะ ไม่ได้พูดอะไรเลย”  ฉันตอบและพี่ก็ถามฉันว่า   “ แล้วนี่จะไปไหนน่ะ” พี่ถามพลางเลิกคิ้ว



    “ ไปให้น้าโคริแปลงโฉมจ๊า!!!!!” ฉันตอบก่อนวิ่งออกไป



    “ เฮ้!!!!~ เป็นอะไรของเธอเนี่ย” คนโจตะโกนไล่หลังเพราะงงกลับท่าทางของน้องสาวตน



    “ เดี๋ยวนี้จะเป็นผู้หญิงเกินไปหน่อยแล้วมั้งเนี่ย ยัยคิเคียว” คนโจบอกกับตัวเองพลางส่ายหัวก่อนจะแต่งตัวต่อไป...



    ----------------------------------------------------------



    ช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะค่ะ

                        



                

























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×