ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เลขาคนใหม่ & ข้อเสนอ
เช้าวันรุ่งขึ้น อากาศแจ่มใส แต่ก็เกิดขึ้นพร้อมกับความกระวนกระวายใจของใครคนหนึ่ง ที่นอนไม่หลับเพราะความคิดบางอย่างที่เกิดขึ้นในใจ คนคนนั้นก็คือคินโตะ
มีหลายอย่างที่เค้าสับสนตั้งแต่เดินทางกลับมาที่ญี่ปุ่นแล้ว ทั้งเรื่องพ่อ เรื่องผู้หญิง ……… และความไม่เข้าใจมากมาย
ณ บริษัท ทานากะ โปรดักค์ กรุ๊ป
“ เอาล่ะ!! ทุกคนวันนี้ คุณ ทานากะ คินโตะ จะกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งหลังจากที่ท่านพึ่งกลับจากออสเตรเลีย เพราะ ฉะนั้น!!!!! ผมจึงอยากให้ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี คุณทานากะได้บอกไว้ว่าจะเข้า บริษัทตอน 09.00 น. จึงยังพอมีเวลาเตรียมการขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือด้วยนะครับ”
พนักงานทุกคนต่างก็พร้อมเพราะเมื่องานวันเกิดคนโจบางคนก็ไม่ได้ไปและก็ไม่ รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือคินโตะและบางคนก็ยังไม่เคยพบคินโตะเลยสักครั้ง ได้ยินแต่คำล่ำลือเท่านั้น***
เวลา 09.00 น.
คินโตะไม่ต้องการให้คนขับรถ ขับรถมาส่งจึงขับรถมาเอง
เมื่อลงจากรถก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานทุกคนตั้งแต่หน้าประตูที่ได้รับช่อดอกไม้จากเลขาฝ่ายออกแบบ
“ ยินดีต้อนรับคุณทานากะ คินโตะค่ะ” มีหลายคนมากมายที่ทักทายและต้องการทำความรู้จักเพราะคินโตะเป็นกันเองกับทุกคน
คินโตะเดินไปพร้อมๆกับคนโจทำให้หลายคนรู้ว่า 2 คนนี้คงเป็นเพื่อนซี้กันแน่ๆ เพราะในช่วงที่คินโตะเดินทางไปต่างประเทศเค้าก็ได้มอบหมายงานต่างๆในบริษัท ให้คนโจเป็นผู้ดูแลจัดการทุกอย่าง
“ ครับ..สวัสดีครับ …ขอบคุณมากครับ” คินโตะต้องพูดเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงห้องทำงาน
“ คิน…เดี๋ยวตอน 10.00 น. มีงานต้อนรับที่ห้องประชุมเล็กชั้น 3 นะ อย่าลืมไปล่ะ” คนโจบอกกับคินโตะซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะแล้ว ก่อนจะเดินไปแต่คินก็เรียกไว้ก่อน
“ เฮ้!!คนโจ งานต้อนรับอะไร” คินถามพลางลุกขึ้นและเดินไปหาคนโจ คนโจจึงหันหน้ากลับมาพร้อมกับมองหน้าคินเป็นเชิงว่า
นี่แกโง่อ่ะเปล่าเนี่ย
“ ก็จะงานอะไรล่ะ..ก็งานต้อนรับแกไงเล่า--- โธ่เอ๊ย…นึกว่าแกจะฉลาดขึ้นกว่าเดิมซะอีก” คนโจบอกพลางเอามือเกาหัวพร้อมกับส่ายหน้า
“ อ้าว!! แล้วเมื่อก่อนชั้นโง่มากเหรอ ไอ้เพื่อนรัก++++” คินใช้กำปั้นเขกหัวคนโจ
“ โอ๊ย!!!!!!~ -ไม่ยุ่งกับแกละ อย่าลืมไปล่ะ” คนโจร้องเสียงหลงและเอามือกุมหัวตัวเองก่อนเดินจากไป
“ เออ!!! ไม่ลืมหรอกน่า” คินโตะกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิมและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานก็ได้ยินเสียง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ เชิญครับ..” คินบอก และก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาเธอไว้ผมยาวสลวยหน้าตาสวยน่ารักใส่เสื้อชุดทำงาน เรียบร้อยและดูเป็นระเบียบท่าดูจากท่าทางแล้วคาดว่าเธอคงเป็นคุณหนูที่รวย เหมือนกัน
“สวัสดีค่ะดิฉันชื่อ ฟุจิโมโต้ คาโอริ ค่ะ เป็นเลขาคนใหม่ของผู้บริหารค่ะ” คาโอริรายงานตัวอย่างเคารพแต่ชัดถ้อยชัดคำ คินซึ่งกำลังอึ้งอยู่ก็เริ่มได้สติ
“ เออ..ครับ สวัสดี ผมคือ….” คินยังพูดไม่ทันจบคาโอริก็พูดต่อว่า
“ คุณทานากะ คินโตะ ผู้บริหารในเครือ ทานากะ กรุ๊ป ที่ญี่ปุ่น ลูกชายคนเดียวของ ทานากะ โอคุโบ ผู้ร่ำรวยที่สุดในตอนต้นของยุคเมจิ …….. อ่อ!1 คือ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะตระกูลทานากะมีชื่อเสียงมากและคุณคนโจก็ได้เล่าให้ฟัง แล้วนะค่ะก็เลยทราบต้องขออภัยด้วยค่ะ---** ” คาโอริที่รู้ตัวว่าพูดแทรกขึ้นมาก็รีบขอโทษคินยกใหญ่
คินที่ได้ฟังก็เริ่มรู้สึกว่าเลขาใหม่คนนี้มีอะไรที่ทั้งน่ากลัวแล้วก็น่ารักแอบแฝงอยู่….
“ มะ..ไม่เป็นไรหรอกครับถ้าคุณรู้จักผมดีขนาดนั้นแล้วก็ดีไปจะได้ร่วมงานกัน ได้….อ่อ! ผมวานคุณช่วยไปตามผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานให้ผมหน่อยไดมั้ยครับมีเรื่องจะ ปรึกษาน่ะ??” คินบอกคาโอริ
คาโอริได้แต่พยักหน้าและเดินออกจากห้องไป คาโอริเดินมาที่โต๊ะของตนและโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานทันที
ซึ่งเค้าก็คือ…….
“ สวัสดีค่ะผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานใช่มั้ยค่ะคุณคินโตะต้องการพบค่ะ” คาโอริเอ่ยด้วยเสียงอันไพเราะ
“ คาโอริจังเองเหรอ ผมคนโจครับ.. คินเรียกผมทำไมทราบไหมครับ” เมื่อคาโอริรู้ว่าผู้จัดการฝ่าย นำเสนองานก็คือ คนโจ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ที่แท้ก็คุณนี่เอง.. ไม่รู้สิค่ะ เห็นบอกว่า มีเรื่องจะปรึกษา คูณคินโตะพูดแค่นี้ค่ะ” คาโอริตอบ
“ งั้นเหรอครับ……..อืม--- เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปหาครับ** ขอบคุณมากครับ” คนโจตอบกลับมา
“ ค่ะ สวัสดีค่ะ” “ เช่นกันครับ” และวางสายไป หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาทีคนโจก็เดินมาถึงที่หน้าห้องก่อนจะเดินเข้าไปก็หันมาพบกับคาโอริที่หน้า แดง
“คาโอริจัง เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?? หน้าแดงเชียว” คนโจถามด้วยความเป็นห่วง
“ เปล่าค่ะ ..เชิญข้างในเลยค่ะ คุณคินโตะคงรออยู่” คาโอริบอกทำให้คนโจเข้าไปในห้องคิน
“ มาเร็วเหมือนกันแหะ..นั่งก่อนสิ” คินบอกและผายมือเชื้อเชิญให้นั่งลง
“มีเรื่องอะไรล่ะ???” คนโจถามด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงเพื่อน
“ เฮอะ ~ ~ ~ ~ ฉันคิดถึงพ่อหวะ…จนถึงป่านนี้ก็ยังหาคนที่ฆ่าพ่อไม่ได้เลย…แล้วเมื่อคืนก็ ยังฝันถึงเรื่องพ่อซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้ ไม่รู้จะทำไงดี** แม่กับพี่ก็ไม่กลับมาสักทีก็มีแต่แกนั่นแหละที่เป็นที่พึ่งให้ฉันได้”
คินโตะเล่าเรื่องที่ตนเองทุกข์ใจให้คนโจฟัง
“ แกยังคิดที่จะหาตัวคนร้ายอีกเหรอเรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้วนะ…แล้วอีกอย่าง แกก็ควรทำความฝันของพ่อให้เป็นจริง ไม่ใช่มานั่งจมปลักอยู่กับความคิดเดิมๆซ้ำซากแบบนี้------ แกลองคิดดูนะระหว่างความฝันของพ่อกับการแก้แค้นของแก อันไหนที่พ่อแกจะภูมิใจกว่ากัน/// พ่อแกเสียแล้วนะ ถ้าแกยุติเรื่องทุกอย่างเอาไว้มันก็จะไม่เกิดเรื่องต่อไป แต่ถ้าแกแก้แค้นมันก็จะมีแต่การนองเลือดไม่รู้จักจบจักสิ้น ฉันให้ข้อแนะนำกับแกได้แค่เนี่ยแกลองกลับไปคิดดู….ทำใจให้สบายเถอะนะ” คนโจบอกเพื่อนรัก
“ ขอบใจมากจริงๆนะคนโจ /**แกพูดแค่นี้ฉันก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยขอบใจนะ” คินบอกเพราะถ้าไม่ได้คนโจเค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี
“ Never mind , Never mind ” ก่อนจะเดินไปแต่ก็หันกลับมาบอกว่า
“ อย่าลืมงานต้อนรับ…ใกล้ 10.00 น.แล้ว ฉันรู้แกมีเรื่องต้องคิดอีกเยอะไม่ใช่แค่เรื่องพ่ออย่างเดียวหรอก จริงมั้ย????” คนโจบอกพลางดูนาฬิกาและมองคินอย่างใคร่รู้
“ ไม่มีไรหรอกฉันไม่ลืมด้วยไปได้ล่ะ” คินบอกและใช้มือทำท่าไล่ให้คนโจออกไปจากห้องของตน
คนโจออกมาที่หน้าห้องก็เห็น คาโอริไม่อยู่แล้ว จึงเขียนข้อความ ข้อความหนึ่งลงไปในกระดาษโน๊ต
และเดินกลับห้องของตน หลังจากนั้นไม่นานคาโอริก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน เพราะว่าพึ่งไปเข้าห้องน้ำก็เจอกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งอยู่บนโต๊ะมีใจความว่า
เมื่อกี้นี้ที่คุณหน้าแดงไม่เป็นไรแน่นะครับ
ผมเป็นห่วง
อ่อ !!! แล้วตอนกลางวันว่างไหมครับ ผมจะชวนคุณไปทานข้าว
ถ้าตกลงเจอกันที่ร้านราเมง ข้างบริษัทนะครับ ผมจะรอ
ฮาเนะกาว่า คนโจ
เมื่ออ่านจบก็ยิ่งหน้าแดงกว่าเก่าซะอีก
หลังจาก 10.00 น. ที่มีงานต้อนรับการกลับมาของคินโตะ
คินโตะก็ได้ไปหาคนโจที่ห้องเพื่อมาชวนไปทานอาหารกลางวันด้วยกันแต่คนโจก็ ไม่อยู่แล้ว และก็บังเอิญเหลือบไปเห็นข้อความที่อยู่บนโต๊ะของคนโจว่า
ขอโทษทีนะเพื่อนรัก แต่วันนี้คงไปกินข้าวด้วยไม่ได้
เพราะว่าฉันไปกับเลขาคนใหม่ของแกแล้ว
คาโอริจังอ่ะ วันนี้ก็ขอโทษด้วยล่ะกัน ไปทานคนเดียวก่อนนะเพื่อน
ฮาเนะกาว่า คนโจ
คนโจเขียนโน๊ตทิ้งไว้เหมือนจะรู้ว่าคินต้องมาตามที่ห้องแน่ๆ
“ โธ่เอ๊ย!!!~ นึกว่าหายไปไหนที่แท้ก็ไปกับผู้หญิง มิน่าละถึงไม่เห็นคุณคาโอริเลย” คินโตะพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะออกจากห้อง
เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่เลยทั้งเลขาหน้าห้องและคนโจด้วย
คินโตะจึงตัดสินใจเดินไปรับโทรศัพท์
“ สะ…..” คินยังไม่ทันพูดอะไรก็มีเสียง เสียงหนึ่งตะโกนกลับมาว่า
“ พี่บ้า!!!!!!! ทำไมปิดมือถือห๊า !!!!!!! ต้องโทรเข้าบริษัทเลยเนี่ยรู้ไหมหรือว่าอยู่กับผู้หญิงฮะ!!!” คินไม่ต้องถามก็รู้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาหาคนโจ
“ เออ..คือ..” คินไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีก็เลยได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ
“ที่โทรเข้ามาเนี่ยก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ….ก็แค่มันไม่มีอะไรทำอ่ะ จะเรียนพิเศษก็ขี้เกียจ เออ+!!! พี่มีงานตอนปิดเทอมให้ทำบ้างมั้ย?? แบบงานดีๆ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องใช้แรง สบายๆแล้วก็ได้เงินดีอ่ะ…แต่พี่อย่าบอกนายคินเพื่อนพี่นะช่วงนี้รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้เดี๋ยวอยากเจอเดี๋ยวไม่อยากเจออ่ะ..” ฉันพูดกับพี่ทาง โทรศัพท์โดยหารู้ไม่ว่าคนที่กำลังฟังฉันพูดพล่ำอยู่ไม่ใช่พี่แต่เป็นคิน
“ ทำไมไม่อยากเจอล่ะ..แล้วงานแบบนั้นนะ…ไม่มีหรอกนะ” คินตอบกลับมาทำให้ฉันตกใจอย่างมาก ก็ใครจะไปรู้ว่าหมอนี่ฟังอยู่
“ นี่นาย!!!! มารับโทรศัพท์ของพี่ฉันได้ไงเนี่ยห๊า!!!!แล้งยังฟังฉันพูดอีก …นายนี่เสียมารยาทจริงๆเลยนะ” ฉันรีบว่าคินกลับไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรู้สึกอายๆชอบกล
“ ก็พี่เธอไม่อยู่นี่ฉันก็รับแทนไงแล้วยังมาว่าอีก” คินตอบคิเคียวและนั่งลงบนโต๊ะทำงานของคนโจ
“ นาย…ก็ไม่มีสิทธิ์มารับสายนะ” ฉันเถียงสุดฤทธิ์ เพราะไม่อยากขายหน้าอีก
“ แต่ผมได้ยินหมดแล้วนะ แล้วผมก็มีงานพิเศษให้คุณด้วยล่ะสนใจม่ะ??” คินให้ข้อเสนอแก่คิเคียว
“ งานพิเศษ งานอะไร??? คงไม่ผิดกฎหมายนะ” ฉันถามเพราะยังไม่ไว้ใจคินเลย
“ พนักงาน SERVE ที่ร้าน ไอศกรีม ใกล้ๆกับบริษัทฉันนี่ล่ะ ผิดกฎหมายมั้ยครับ” คินทำเสียงล้อเลียน
“ แล้วรายได้ล่ะว่าไง???” ฉันรีบถามเพราะบางทีอาจจะรับงานนี้ก็ได้
“รายได้ก็วันละ 80 เยน ทางร้านเค้ารับสมัครอยู่น่ะ เริ่มทำงานได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ตั้งแต่ 09.00 – 18.00 สนใจมั้ยล่ะ ถ้าเธอสนใจฉันจะสมัครให้เอาไหม????” คินถามและอยากให้คำตอบออกมาเป็นตกลง ที่สุด
“ อืม….ขอคิดดูก่อนนะ แล้วเย็นนี้จะโทรไปบอก” ฉันตอบกลับไปไม่รู้ว่าทำใครเสียใจหรือเปล่าแต่ยังไงก็ต้องปรึกษาแม่อยู่ดีแหละ
“ ก็ได้..อย่าคิดนานก็แล้วกันนะ ผมจะรอคำตอบ” คินบอกและต่อด้วยว่า
“ จริงสิ!!! เกือบลืมไปแน่ะ คืนนี้ที่บ้านผมจัดงานต้อนรับการกลับมาของผมน่ะ คุณมาด้วยก็ได้นะมาพร้อมกับคนโจแหละพวกพนักงานเค้าจัดให้ผม เมื่อเช้าพวก เราพึ่งประชุมกันเสร็จล่ะ นี่ก็พึ่งทราบข่าว คุณมาให้คำตอบผมในงานเลยก็ได้นะ จะได้ไม่เปลืองค่าโทรศัพท์ O.K. ??” คินบอกกับคิเคียวไม่ใช่เพราะต้องการคำตอบแต่อยากให้เธอมาร่วมงานด้วยต่างหาก
“ ก็ได้ งั้นเอาตามนี้ละกัน…แค่นี้นะหวัดดี” ฉันรีบวางสายไปโดยไม่ฟังว่าคินจะพูดต่อหรือไม่
“ เดี๋ยวสิ!!!! วางซะล่ะ” คินจึงวางโทรศัพท์และเดินยิ้มออกมาจากห้องทำงานของคนโจ ก่อนจะลงไปทานอาหารข้างล่าง
เมื่อถึงตอนเย็น บริษัทเลิกงานพนักงานทุกคนต่างก็เตรียมตัวมางานเลี้ยงต้อนรับของคินโตะเป็นอย่างดี
คินโตะซึ่งได้โทรศัพท์ไปบอกทางบ้านให้คนดูแลจัดงานไว้อย่างใหญ่โต เพราะจะมีแขกเหรื่อมากมายในคืนนี้
งานจะเริ่มตอน 19.00 น. เพราะฉะนั้นทุกคนจึงมีเวลาที่จะเตรียมตัวและอีกอย่างคินก็ได้ประกาศแล้ว ว่าจะพาคนมาสักกี่คนก็ได้ ทำให้งานนี้มีคนจำนวนมาก
“ พี่หนูไปด้วยนะ” ฉันรีบบอกพี่เพราะจะได้ไปให้คำตอบแก่คิน
“ คิดอะไรขึ้นมาเนี่ยเรา ฮะ ถึงได้อยากไปนักอยากไปหนาเนี่ย” คนโจถามน้องสาวด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ดีกว่าคนที่ปิดมือถือเพราะอยากอยู่กับสาวหรอกน่า” ฉันเอ่ยขึ้นมา ทำให้พี่หันมาถามว่า “ เมื่อกี้พูดว่าไรนะ ??~” คนโจรีบถาม ฉันจึงรีบออกไปจากห้อง
“ เปล่านะ ไม่ได้พูดอะไรเลย” ฉันตอบและพี่ก็ถามฉันว่า “ แล้วนี่จะไปไหนน่ะ” พี่ถามพลางเลิกคิ้ว
“ ไปให้น้าโคริแปลงโฉมจ๊า!!!!!” ฉันตอบก่อนวิ่งออกไป
“ เฮ้!!!!~ เป็นอะไรของเธอเนี่ย” คนโจตะโกนไล่หลังเพราะงงกลับท่าทางของน้องสาวตน
“ เดี๋ยวนี้จะเป็นผู้หญิงเกินไปหน่อยแล้วมั้งเนี่ย ยัยคิเคียว” คนโจบอกกับตัวเองพลางส่ายหัวก่อนจะแต่งตัวต่อไป...
----------------------------------------------------------
ช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะค่ะ
มีหลายอย่างที่เค้าสับสนตั้งแต่เดินทางกลับมาที่ญี่ปุ่นแล้ว ทั้งเรื่องพ่อ เรื่องผู้หญิง ……… และความไม่เข้าใจมากมาย
ณ บริษัท ทานากะ โปรดักค์ กรุ๊ป
“ เอาล่ะ!! ทุกคนวันนี้ คุณ ทานากะ คินโตะ จะกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งหลังจากที่ท่านพึ่งกลับจากออสเตรเลีย เพราะ ฉะนั้น!!!!! ผมจึงอยากให้ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี คุณทานากะได้บอกไว้ว่าจะเข้า บริษัทตอน 09.00 น. จึงยังพอมีเวลาเตรียมการขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือด้วยนะครับ”
พนักงานทุกคนต่างก็พร้อมเพราะเมื่องานวันเกิดคนโจบางคนก็ไม่ได้ไปและก็ไม่ รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือคินโตะและบางคนก็ยังไม่เคยพบคินโตะเลยสักครั้ง ได้ยินแต่คำล่ำลือเท่านั้น***
เวลา 09.00 น.
คินโตะไม่ต้องการให้คนขับรถ ขับรถมาส่งจึงขับรถมาเอง
เมื่อลงจากรถก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานทุกคนตั้งแต่หน้าประตูที่ได้รับช่อดอกไม้จากเลขาฝ่ายออกแบบ
“ ยินดีต้อนรับคุณทานากะ คินโตะค่ะ” มีหลายคนมากมายที่ทักทายและต้องการทำความรู้จักเพราะคินโตะเป็นกันเองกับทุกคน
คินโตะเดินไปพร้อมๆกับคนโจทำให้หลายคนรู้ว่า 2 คนนี้คงเป็นเพื่อนซี้กันแน่ๆ เพราะในช่วงที่คินโตะเดินทางไปต่างประเทศเค้าก็ได้มอบหมายงานต่างๆในบริษัท ให้คนโจเป็นผู้ดูแลจัดการทุกอย่าง
“ ครับ..สวัสดีครับ …ขอบคุณมากครับ” คินโตะต้องพูดเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงห้องทำงาน
“ คิน…เดี๋ยวตอน 10.00 น. มีงานต้อนรับที่ห้องประชุมเล็กชั้น 3 นะ อย่าลืมไปล่ะ” คนโจบอกกับคินโตะซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะแล้ว ก่อนจะเดินไปแต่คินก็เรียกไว้ก่อน
“ เฮ้!!คนโจ งานต้อนรับอะไร” คินถามพลางลุกขึ้นและเดินไปหาคนโจ คนโจจึงหันหน้ากลับมาพร้อมกับมองหน้าคินเป็นเชิงว่า
นี่แกโง่อ่ะเปล่าเนี่ย
“ ก็จะงานอะไรล่ะ..ก็งานต้อนรับแกไงเล่า--- โธ่เอ๊ย…นึกว่าแกจะฉลาดขึ้นกว่าเดิมซะอีก” คนโจบอกพลางเอามือเกาหัวพร้อมกับส่ายหน้า
“ อ้าว!! แล้วเมื่อก่อนชั้นโง่มากเหรอ ไอ้เพื่อนรัก++++” คินใช้กำปั้นเขกหัวคนโจ
“ โอ๊ย!!!!!!~ -ไม่ยุ่งกับแกละ อย่าลืมไปล่ะ” คนโจร้องเสียงหลงและเอามือกุมหัวตัวเองก่อนเดินจากไป
“ เออ!!! ไม่ลืมหรอกน่า” คินโตะกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิมและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานก็ได้ยินเสียง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ เชิญครับ..” คินบอก และก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาเธอไว้ผมยาวสลวยหน้าตาสวยน่ารักใส่เสื้อชุดทำงาน เรียบร้อยและดูเป็นระเบียบท่าดูจากท่าทางแล้วคาดว่าเธอคงเป็นคุณหนูที่รวย เหมือนกัน
“สวัสดีค่ะดิฉันชื่อ ฟุจิโมโต้ คาโอริ ค่ะ เป็นเลขาคนใหม่ของผู้บริหารค่ะ” คาโอริรายงานตัวอย่างเคารพแต่ชัดถ้อยชัดคำ คินซึ่งกำลังอึ้งอยู่ก็เริ่มได้สติ
“ เออ..ครับ สวัสดี ผมคือ….” คินยังพูดไม่ทันจบคาโอริก็พูดต่อว่า
“ คุณทานากะ คินโตะ ผู้บริหารในเครือ ทานากะ กรุ๊ป ที่ญี่ปุ่น ลูกชายคนเดียวของ ทานากะ โอคุโบ ผู้ร่ำรวยที่สุดในตอนต้นของยุคเมจิ …….. อ่อ!1 คือ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะตระกูลทานากะมีชื่อเสียงมากและคุณคนโจก็ได้เล่าให้ฟัง แล้วนะค่ะก็เลยทราบต้องขออภัยด้วยค่ะ---** ” คาโอริที่รู้ตัวว่าพูดแทรกขึ้นมาก็รีบขอโทษคินยกใหญ่
คินที่ได้ฟังก็เริ่มรู้สึกว่าเลขาใหม่คนนี้มีอะไรที่ทั้งน่ากลัวแล้วก็น่ารักแอบแฝงอยู่….
“ มะ..ไม่เป็นไรหรอกครับถ้าคุณรู้จักผมดีขนาดนั้นแล้วก็ดีไปจะได้ร่วมงานกัน ได้….อ่อ! ผมวานคุณช่วยไปตามผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานให้ผมหน่อยไดมั้ยครับมีเรื่องจะ ปรึกษาน่ะ??” คินบอกคาโอริ
คาโอริได้แต่พยักหน้าและเดินออกจากห้องไป คาโอริเดินมาที่โต๊ะของตนและโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานทันที
ซึ่งเค้าก็คือ…….
“ สวัสดีค่ะผู้จัดการฝ่ายนำเสนองานใช่มั้ยค่ะคุณคินโตะต้องการพบค่ะ” คาโอริเอ่ยด้วยเสียงอันไพเราะ
“ คาโอริจังเองเหรอ ผมคนโจครับ.. คินเรียกผมทำไมทราบไหมครับ” เมื่อคาโอริรู้ว่าผู้จัดการฝ่าย นำเสนองานก็คือ คนโจ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ที่แท้ก็คุณนี่เอง.. ไม่รู้สิค่ะ เห็นบอกว่า มีเรื่องจะปรึกษา คูณคินโตะพูดแค่นี้ค่ะ” คาโอริตอบ
“ งั้นเหรอครับ……..อืม--- เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปหาครับ** ขอบคุณมากครับ” คนโจตอบกลับมา
“ ค่ะ สวัสดีค่ะ” “ เช่นกันครับ” และวางสายไป หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาทีคนโจก็เดินมาถึงที่หน้าห้องก่อนจะเดินเข้าไปก็หันมาพบกับคาโอริที่หน้า แดง
“คาโอริจัง เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?? หน้าแดงเชียว” คนโจถามด้วยความเป็นห่วง
“ เปล่าค่ะ ..เชิญข้างในเลยค่ะ คุณคินโตะคงรออยู่” คาโอริบอกทำให้คนโจเข้าไปในห้องคิน
“ มาเร็วเหมือนกันแหะ..นั่งก่อนสิ” คินบอกและผายมือเชื้อเชิญให้นั่งลง
“มีเรื่องอะไรล่ะ???” คนโจถามด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงเพื่อน
“ เฮอะ ~ ~ ~ ~ ฉันคิดถึงพ่อหวะ…จนถึงป่านนี้ก็ยังหาคนที่ฆ่าพ่อไม่ได้เลย…แล้วเมื่อคืนก็ ยังฝันถึงเรื่องพ่อซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้ ไม่รู้จะทำไงดี** แม่กับพี่ก็ไม่กลับมาสักทีก็มีแต่แกนั่นแหละที่เป็นที่พึ่งให้ฉันได้”
คินโตะเล่าเรื่องที่ตนเองทุกข์ใจให้คนโจฟัง
“ แกยังคิดที่จะหาตัวคนร้ายอีกเหรอเรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้วนะ…แล้วอีกอย่าง แกก็ควรทำความฝันของพ่อให้เป็นจริง ไม่ใช่มานั่งจมปลักอยู่กับความคิดเดิมๆซ้ำซากแบบนี้------ แกลองคิดดูนะระหว่างความฝันของพ่อกับการแก้แค้นของแก อันไหนที่พ่อแกจะภูมิใจกว่ากัน/// พ่อแกเสียแล้วนะ ถ้าแกยุติเรื่องทุกอย่างเอาไว้มันก็จะไม่เกิดเรื่องต่อไป แต่ถ้าแกแก้แค้นมันก็จะมีแต่การนองเลือดไม่รู้จักจบจักสิ้น ฉันให้ข้อแนะนำกับแกได้แค่เนี่ยแกลองกลับไปคิดดู….ทำใจให้สบายเถอะนะ” คนโจบอกเพื่อนรัก
“ ขอบใจมากจริงๆนะคนโจ /**แกพูดแค่นี้ฉันก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยขอบใจนะ” คินบอกเพราะถ้าไม่ได้คนโจเค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี
“ Never mind , Never mind ” ก่อนจะเดินไปแต่ก็หันกลับมาบอกว่า
“ อย่าลืมงานต้อนรับ…ใกล้ 10.00 น.แล้ว ฉันรู้แกมีเรื่องต้องคิดอีกเยอะไม่ใช่แค่เรื่องพ่ออย่างเดียวหรอก จริงมั้ย????” คนโจบอกพลางดูนาฬิกาและมองคินอย่างใคร่รู้
“ ไม่มีไรหรอกฉันไม่ลืมด้วยไปได้ล่ะ” คินบอกและใช้มือทำท่าไล่ให้คนโจออกไปจากห้องของตน
คนโจออกมาที่หน้าห้องก็เห็น คาโอริไม่อยู่แล้ว จึงเขียนข้อความ ข้อความหนึ่งลงไปในกระดาษโน๊ต
และเดินกลับห้องของตน หลังจากนั้นไม่นานคาโอริก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน เพราะว่าพึ่งไปเข้าห้องน้ำก็เจอกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งอยู่บนโต๊ะมีใจความว่า
เมื่อกี้นี้ที่คุณหน้าแดงไม่เป็นไรแน่นะครับ
ผมเป็นห่วง
อ่อ !!! แล้วตอนกลางวันว่างไหมครับ ผมจะชวนคุณไปทานข้าว
ถ้าตกลงเจอกันที่ร้านราเมง ข้างบริษัทนะครับ ผมจะรอ
ฮาเนะกาว่า คนโจ
เมื่ออ่านจบก็ยิ่งหน้าแดงกว่าเก่าซะอีก
หลังจาก 10.00 น. ที่มีงานต้อนรับการกลับมาของคินโตะ
คินโตะก็ได้ไปหาคนโจที่ห้องเพื่อมาชวนไปทานอาหารกลางวันด้วยกันแต่คนโจก็ ไม่อยู่แล้ว และก็บังเอิญเหลือบไปเห็นข้อความที่อยู่บนโต๊ะของคนโจว่า
ขอโทษทีนะเพื่อนรัก แต่วันนี้คงไปกินข้าวด้วยไม่ได้
เพราะว่าฉันไปกับเลขาคนใหม่ของแกแล้ว
คาโอริจังอ่ะ วันนี้ก็ขอโทษด้วยล่ะกัน ไปทานคนเดียวก่อนนะเพื่อน
ฮาเนะกาว่า คนโจ
คนโจเขียนโน๊ตทิ้งไว้เหมือนจะรู้ว่าคินต้องมาตามที่ห้องแน่ๆ
“ โธ่เอ๊ย!!!~ นึกว่าหายไปไหนที่แท้ก็ไปกับผู้หญิง มิน่าละถึงไม่เห็นคุณคาโอริเลย” คินโตะพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะออกจากห้อง
เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่เลยทั้งเลขาหน้าห้องและคนโจด้วย
คินโตะจึงตัดสินใจเดินไปรับโทรศัพท์
“ สะ…..” คินยังไม่ทันพูดอะไรก็มีเสียง เสียงหนึ่งตะโกนกลับมาว่า
“ พี่บ้า!!!!!!! ทำไมปิดมือถือห๊า !!!!!!! ต้องโทรเข้าบริษัทเลยเนี่ยรู้ไหมหรือว่าอยู่กับผู้หญิงฮะ!!!” คินไม่ต้องถามก็รู้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาหาคนโจ
“ เออ..คือ..” คินไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีก็เลยได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ
“ที่โทรเข้ามาเนี่ยก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ….ก็แค่มันไม่มีอะไรทำอ่ะ จะเรียนพิเศษก็ขี้เกียจ เออ+!!! พี่มีงานตอนปิดเทอมให้ทำบ้างมั้ย?? แบบงานดีๆ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องใช้แรง สบายๆแล้วก็ได้เงินดีอ่ะ…แต่พี่อย่าบอกนายคินเพื่อนพี่นะช่วงนี้รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้เดี๋ยวอยากเจอเดี๋ยวไม่อยากเจออ่ะ..” ฉันพูดกับพี่ทาง โทรศัพท์โดยหารู้ไม่ว่าคนที่กำลังฟังฉันพูดพล่ำอยู่ไม่ใช่พี่แต่เป็นคิน
“ ทำไมไม่อยากเจอล่ะ..แล้วงานแบบนั้นนะ…ไม่มีหรอกนะ” คินตอบกลับมาทำให้ฉันตกใจอย่างมาก ก็ใครจะไปรู้ว่าหมอนี่ฟังอยู่
“ นี่นาย!!!! มารับโทรศัพท์ของพี่ฉันได้ไงเนี่ยห๊า!!!!แล้งยังฟังฉันพูดอีก …นายนี่เสียมารยาทจริงๆเลยนะ” ฉันรีบว่าคินกลับไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรู้สึกอายๆชอบกล
“ ก็พี่เธอไม่อยู่นี่ฉันก็รับแทนไงแล้วยังมาว่าอีก” คินตอบคิเคียวและนั่งลงบนโต๊ะทำงานของคนโจ
“ นาย…ก็ไม่มีสิทธิ์มารับสายนะ” ฉันเถียงสุดฤทธิ์ เพราะไม่อยากขายหน้าอีก
“ แต่ผมได้ยินหมดแล้วนะ แล้วผมก็มีงานพิเศษให้คุณด้วยล่ะสนใจม่ะ??” คินให้ข้อเสนอแก่คิเคียว
“ งานพิเศษ งานอะไร??? คงไม่ผิดกฎหมายนะ” ฉันถามเพราะยังไม่ไว้ใจคินเลย
“ พนักงาน SERVE ที่ร้าน ไอศกรีม ใกล้ๆกับบริษัทฉันนี่ล่ะ ผิดกฎหมายมั้ยครับ” คินทำเสียงล้อเลียน
“ แล้วรายได้ล่ะว่าไง???” ฉันรีบถามเพราะบางทีอาจจะรับงานนี้ก็ได้
“รายได้ก็วันละ 80 เยน ทางร้านเค้ารับสมัครอยู่น่ะ เริ่มทำงานได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ตั้งแต่ 09.00 – 18.00 สนใจมั้ยล่ะ ถ้าเธอสนใจฉันจะสมัครให้เอาไหม????” คินถามและอยากให้คำตอบออกมาเป็นตกลง ที่สุด
“ อืม….ขอคิดดูก่อนนะ แล้วเย็นนี้จะโทรไปบอก” ฉันตอบกลับไปไม่รู้ว่าทำใครเสียใจหรือเปล่าแต่ยังไงก็ต้องปรึกษาแม่อยู่ดีแหละ
“ ก็ได้..อย่าคิดนานก็แล้วกันนะ ผมจะรอคำตอบ” คินบอกและต่อด้วยว่า
“ จริงสิ!!! เกือบลืมไปแน่ะ คืนนี้ที่บ้านผมจัดงานต้อนรับการกลับมาของผมน่ะ คุณมาด้วยก็ได้นะมาพร้อมกับคนโจแหละพวกพนักงานเค้าจัดให้ผม เมื่อเช้าพวก เราพึ่งประชุมกันเสร็จล่ะ นี่ก็พึ่งทราบข่าว คุณมาให้คำตอบผมในงานเลยก็ได้นะ จะได้ไม่เปลืองค่าโทรศัพท์ O.K. ??” คินบอกกับคิเคียวไม่ใช่เพราะต้องการคำตอบแต่อยากให้เธอมาร่วมงานด้วยต่างหาก
“ ก็ได้ งั้นเอาตามนี้ละกัน…แค่นี้นะหวัดดี” ฉันรีบวางสายไปโดยไม่ฟังว่าคินจะพูดต่อหรือไม่
“ เดี๋ยวสิ!!!! วางซะล่ะ” คินจึงวางโทรศัพท์และเดินยิ้มออกมาจากห้องทำงานของคนโจ ก่อนจะลงไปทานอาหารข้างล่าง
เมื่อถึงตอนเย็น บริษัทเลิกงานพนักงานทุกคนต่างก็เตรียมตัวมางานเลี้ยงต้อนรับของคินโตะเป็นอย่างดี
คินโตะซึ่งได้โทรศัพท์ไปบอกทางบ้านให้คนดูแลจัดงานไว้อย่างใหญ่โต เพราะจะมีแขกเหรื่อมากมายในคืนนี้
งานจะเริ่มตอน 19.00 น. เพราะฉะนั้นทุกคนจึงมีเวลาที่จะเตรียมตัวและอีกอย่างคินก็ได้ประกาศแล้ว ว่าจะพาคนมาสักกี่คนก็ได้ ทำให้งานนี้มีคนจำนวนมาก
“ พี่หนูไปด้วยนะ” ฉันรีบบอกพี่เพราะจะได้ไปให้คำตอบแก่คิน
“ คิดอะไรขึ้นมาเนี่ยเรา ฮะ ถึงได้อยากไปนักอยากไปหนาเนี่ย” คนโจถามน้องสาวด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ดีกว่าคนที่ปิดมือถือเพราะอยากอยู่กับสาวหรอกน่า” ฉันเอ่ยขึ้นมา ทำให้พี่หันมาถามว่า “ เมื่อกี้พูดว่าไรนะ ??~” คนโจรีบถาม ฉันจึงรีบออกไปจากห้อง
“ เปล่านะ ไม่ได้พูดอะไรเลย” ฉันตอบและพี่ก็ถามฉันว่า “ แล้วนี่จะไปไหนน่ะ” พี่ถามพลางเลิกคิ้ว
“ ไปให้น้าโคริแปลงโฉมจ๊า!!!!!” ฉันตอบก่อนวิ่งออกไป
“ เฮ้!!!!~ เป็นอะไรของเธอเนี่ย” คนโจตะโกนไล่หลังเพราะงงกลับท่าทางของน้องสาวตน
“ เดี๋ยวนี้จะเป็นผู้หญิงเกินไปหน่อยแล้วมั้งเนี่ย ยัยคิเคียว” คนโจบอกกับตัวเองพลางส่ายหัวก่อนจะแต่งตัวต่อไป...
----------------------------------------------------------
ช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น