ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Just Change

    ลำดับตอนที่ #11 : ความช่วยเหลือจากคิเคียว!!!!

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 55


    เช้าวันรุ่งขึ้นฉันตื่นด้วยความมุ่งมั่นว่าวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน  และอีกอย่างฉันก็เชื่อในคำพูดของทาคุที่บอกว่า



    จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำและทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด



    ฉันเดินลงมาข้างล่างและก็พบว่า ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพ่อ แม่และพี่  



    ตอนนี้ในหัวของฉันคิดอยู่สองอย่างคือ  ดีใจที่พ่อกลับมาแล้ว และ เสียใจที่ตัวเองตื่นสายที่สุด ทั้งที่คิดว่าตื่นเช้าแล้วนะเนี่ย



    “ พ่อกลับมาตั้งแต่เมื่อไรค่ะ…” ฉันถามและเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร  พ่อจิบกาแฟอึกหนึ่ง ก่อนที่จะตอบคำถามของฉัน



    “ พึ่งกลับมาเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว” พ่อตอบและอ่านหนังสือพิมพ์ของเช้าวันนี้ต่อไป



    พึ่งจะกลับ!!!!แล้วพ่อไม่ง่วงหรือค่ะ” ฉันถามด้วยความตกใจเพราะถ้าเป็นฉันป่านนี้คงหลับไปแล้ว



    “ หลับมาเต็มอิ่มแล้ว..แล้วอีกอย่างนอนมากๆก็ไม่ดี เค้าว่ากันว่าคนนอนน้อย จะฉลาดนะ..” พ่อบอกอย่างสบายอารมณ์



    “ โธ่…พ่อครับ.ถ้านอนน้อยมากๆ.มันอาจจะตรงกันข้ามอีกไม่นานอาจจะกลายเป็นคนขี้เกียจได้นะครับ” คนโจบอกพ่อ

    เล่นเอาพ่อยั้วขึ้นมาที่เดียว



    ไปนอนต่อก็ได้!!!!!!!” พ่อบอกและลุกขึ้นอย่างโมโห จนแม่ต้องห้ามไม่ให้ลุก



    “ คุณก็…..ลูกพูดเล่นเอง..อย่าโมโหเป็นเด็กไปได้” แม่บอกกับพ่อและพ่อก็นั่งลงเหมือนเดิม  ก่อนจะหันมาถามฉันว่า



    “เออ..ได้ข่าวว่าตอนนี้ลูกทำงานอยู่เหรอคิเคียว..” พ่อถามฉัน ฉันซึ่งกำลังทานอาหารอยู่จึงบอกพ่อด้วยเสียงที่อู้อี้ว่า



    “ ช่ายฮ่ะ..ทามฮี่ฮ้านไอทิม..” ฉันบอกและกินต่อด้วยความเอร็ดอร่อย



    “ นี่พ่อสอนกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำสักที่…ว่าทานให้หมดก่อนแล้วค่อยพูด” เมื่อพ่อพูดจบฉันก็รีบฟาดอาหารที่อยู่ตรงหน้าจนหมด



    ได้ยินแต่เสียงพ่อพูดอะไรก็ไม่รู้  เมื่อฉันทานหมดแล้วก็จึงพูดกับพ่อ



    “ ทำไมไม่ฟังที่พ่อพูดสักที่ …พ่อถามทำไมไม่ตอบล่ะ!!!” พ่อบอกฉัน   ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าพ่อพูดอะไร



    “ ขอโทษค่ะ…..ก็พ่อบอกเองว่าให้กินให้หมดแล้วค่อยพูด….เนี่ย..” ฉันชี้ไปที่อาหาร



    “ หนูก็ทานหมดแล้วถึงได้พูดกับพ่อไงล่ะค่ะ” ฉันตอบพ่อแต่ดูจากท่าทางของพ่อ รู้สึกว่าฉันจะพูดไม่สบอารมณ์เข้าแล้ว  



    นี่พ่อนะ!!!! อย่ามาเล่นลิ้นหน่อยเลย..” พ่อดุฉัน  ฉันเองก็รู้สึกผิดจึงขอโทษ



    “ ขอโทษค่ะ….แค่ล้อเล่นๆเฉยๆ…แฮะๆ” ฉันขอโทษ แบบเกรงจ๋ายเกรงใจ



    +++++++++++++



    ในเวลาต่อมาฉันก็เดินทางไปทำงานพร้อมกับพี่….



    “หนูไปแล้วนะค่ะ  เย็นนี้เจอกันค่ะ” ฉันบอกพ่อและแม่ก่อนขึ้นรถของพี่



    วันนี้ฉันมาถึงที่ร้านเร็วเหมือนกัน  เพราะว่าฉันยังไม่เห็นใครเลยนอกจาก  ……  มิซากิ



    ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกับเมื่อวานเธอนั่งเช็ครายชื่อไอศครีมอยู่แบบนี้ทุกวัน  ฉันเองยังไม่กล้าที่จะรบกวนเลย



    ก็ฉันบอกคุณแล้วว่า  มิซากิเค้าไม่ชอบฉัน ฉันจึงเดินเลี่ยงไปทางหลังร้านแทน  แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ต้องเจอกับเธออยู่ดี



    “ เออ…อรุณสวัสดิ์จ๊ะ มิซากิ”ฉันกล่าวทักทายมิซากิ แต่ผิดคาด…เธอกลับยิ้มและทักทายฉันกลับ ซึ่ง



    เหมือนเป็นคนละคนจากเมื่อวานเลยทีเดียว



    “ อรุณสวัสดิ์ค่ะ..พี่คิเคียว วันนี้มาเช้าจังเลยนะค่ะ” มิซากิทักทายฉันด้วยสีหน้าแจ่มใส



    “ มิซากิจัง  ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย??”ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมด ถามมิซากิ ในสิ่งที่มันยังคลางแคลงใจอยู่



    “ ได้ค่ะ…อะไรล่ะค่ะ” มิซากิถามฉันด้วยความอยากรู้มากทีเดียวว่าฉันต้องการจะถามอะไร



    “ คือ……..เออ…ไม่มีอะไรจ๊ะ” และในที่สุดฉันก็ไม่ถามมิซากิ  



    ไม่นานนักก็เริ่มมีพนักงานหลายคนเดินทางมาทำงาน…จนกระทั่งถึงเวลาร้านเปิด….และวันนี้คนที่มาสายที่สุดก็คือ… ทาคุนั่นเอง  



    “เฮอะๆๆ” ทาคุหอบด้วยความเหนื่อยที่วิ่งมาและเข้าทางหลังร้าน  ซึ่งก็เจอกับฉันพอดี



    “ หวัดดีจ๊ะทาคุคุง…ทำไมวันนี้มาสายล่ะ” ฉันถาม  ในขณะที่ทาคุกำลังเอากระเป๋าสะพายของเค้าออก และตอบฉันด้วยเสียงที่ยังคงเหนื่อยอยู่



    “ ก็…เฮอะๆ…พอดี…ตื่นสายไปหน่อยครับ…ว่าแต่..วันนี้คิเคียวจังดูสดใสกว่าเมื่อวานนะครับ” ทาคุบอกกับฉัน  ทำให้ฉันยิ้มอย่างพูดไม่ถูก



    “ ก็ไม่มีอะไรหรอก…เพียงแต่ว่า  วันนี้ มิซากิจังคุยกับฉัน แล้วเธอก็ไม่ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนเมื่อวานแล้ว..

    แล้ววันนี้ฉันก็ตั้งใจว่าจะทำงานให้ดีที่สุดล่ะ” ฉันบอกกับทาคุ ก่อนที่จะไปทำหน้าที่ของฉันต่อ



    ถึงเวลาพัก  พวกเราทั้ง 5 ก็เดินทางไปทานอาหารด้วยกัน ฉันรู้สึกดีกว่าเมื่อวานเป็น 100 เท่าเลยทีเดียว



    ฉันไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป  ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีมาก  ต่างคนต่างก็เล่าเรื่องต่างๆที่ทุกคนเคยเจอให้ฟัง



    มันก็เหมือนกับพวกคุณที่ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วคุยกันเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ  



    ความสัมพันธ์ของฉันกับมิซากิดีขึ้น และยิ่งไม่เจอนายคินด้วยยิ่งดีเข้าไปใหญ่  



    หลังจากทานอาหารกันเสร็จพวกเราก็เดินทางกลับร้านเพื่อเปลี่ยนเวรกับพนักงานที่ทำอยู่ตอนเราไปทานอาหาร



    วันนี้ฉันทำงานราบรื่นดีแต่พอบ่าย 3 โมง



    ฉันก็สังหรณ์ว่า อาจจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น แล้วนั่นก็คือ นายคินมากที่ร้านของเราพร้อมเพื่อนร่วมงานอีกประมาณสองสามคน



    อ่อ!!แล้วก็มีนายคนโจกับพี่คาโอริด้วย  



    ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย  ฉันไม่อยากให้มิซากิจังโกรธอีก จะทำไงดีล่ะ



    ฉันจึงหลบไปหลังร้านและก็เจอกับ โกสุเคะ



    อ้าว!!คิเคียวจังมาทำอะไรตรงนี้ล่ะครับ!!!!!!!” โกสุเคะพูดเสียงดังอีกแล้ว ทำไม ฉันต้องเจอแต่คนที่พูดเสียงดังนะ



    ฉันจึงรีบเอามือปิดปากโกสุเคะและดึงตัวมาข้างหลังร้าน



    “ อือๆๆ” โกสุเคะได้แต่ร้องฉันจึงปล่อยมือออกและบอกว่า



    “ โกสุเคะคุง ..ช่วยฉันด้วยนะ.0.ถ้าพวกคินตามมาบอกไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเลยนะ…ฉันไปล่ะ” ฉันบอกและรีบวิ่งออกไป  



    ก็ฉันไม่อยากเจอหน้าคินตอนนี้นี่  ฉันรู้สึกอายๆยังไงก็ไม่รู้  



    คินกอดฉันเมื่อวาน เค้าเคยหอมฉันนอนกอดกันด้วย  อึ๋ย!! ฉันคิดแล้วก็ส่ายหัวไปมา

    ****************



    ทางด้านคินที่ได้ยินเสียงโกสุเคะร้องว่าคิเคียว  จึงรีบวิ่งออกมาทางหลังร้านโดยบอกให้พวกเพื่อนสั่งไอศครีมทานก่อนได้เลย



    คินวิ่งออกมาก็เจอกับโกสุเคะ   โกสุเคะก็ได้แต่ส่ายหัว และบอกว่าไม่รู้อยู่อย่างเดียว



    คินจึงปล่อยโกสุเคะออกและ วิ่งตามฉันแต่ก็ไม่เห็นวี่แววเลย  คินจึงเดินกลับเข้าร้านและกลับออฟฟิตไป  



    ฉันซึ่งแอบอยู่เห็นคินออกมาข้างนอกแล้วก็เลยแอบย่องกลับเข้าร้าน   และก็ต้องตอบคำถามหลายคนที่อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น



    ซึ่งมิซากิก็ยังเข้ามาถามฉันเลย



    “ พี่คิเคียววิ่งออกไปทำไมค่ะ…พี่คินเค้าคงอยากเจอพี่มากเลยนะค่ะ” มิซากิถามฉันจึงต้องตอบว่า



    “ แต่พี่ไม่อยากเจอเค้า…ไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่านี้แล้ว” ฉันบอกทุกคนและก็ทำงานต่อไปจน กระทั่งร้านปิด



    พวกเราออกมาข้างนอกและท้องฟ้าก็มืดแล้ว



    ซึ่งฉันก็รู้ว่าบ้างทีคินก็อาจจะมารับอีก ฉันจึงตัดสินใจกลับบ้านเองดีกว่า



    และแน่นอนวันนี้ฉันมีเพื่อนร่วมทางก็คือมิซากิเธอบอกว่า วันนี้พี่ไม่มารับก็เลยต้องกลับเอง  



    พวกเราไปรอกันที่ป้ายรถประจำทาง  รถที่ฉันรอมาก่อนฉันจึงขึ้น



    แต่พอมองไปที่ป้ายรถเมล์ก็เห็นผู้ชาย 2 คนเข้ามาทางด้านหลังมิซากิและปิดปากของเธอก่อนจะอุ้มเธอไป !!!!!



    มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแล้วฉันรีบลงจากรถในป้ายถัดไปและวิ่งกลับมาที่ป้ายเดิมแต่มิซากิก็ไม่อยู่แล้ว



    \"มิซากิ...อย่าเป็นไรนะ\" ฉันบอกกับตัวเองและเริ่มต้นออกตามหามิซากิ



    ฉันลองเดินกลับเข้าไปในซอยและก็เจอรองเท้าข้างหนึ่งของมิซากิถูกทิ้งไว้ข้างหน้าตึกร้าง  



    ฉันรีบเข้าไปข้างในและก็แอบเห็นพวกมันกำลังถอดเสื้อผ้าของมิซากิอยู่



    ฉันหยิบก้อนหินที่อยู่ข้างๆโยนไปอีกทางหนึ่งทำให้เกิดเสียงดังขึ้น



    จนพวกมันทั้งคู่ตกใจ  ผู้ชายคนแรกบอกกับอีกคนว่า



    เฮ๊ย!!!เอง..ไปดูดิว่าเสียงอะไร



    “อะไรฟะ…แกก็ไปดูสิ” ชายคนที่สองกล่าวและพวกมันก็ทะเลาะกันเอง  ฉันโยนอีกก้อนไปทางเดิม



    “ เองไปดูดิ” ชายคนแรกพูด แต่คราวนี้คนที่สองยอมไปและทิ้งให้ชายคนแรกอยู่คนเดียวฉันมองไปที่มิซากิ ก็เห็นว่ามิซากิ ลืมตาขึ้นแล้วและร้องเสียงดัง



    กรี๊ด1!!!!!!!……..อย่านะจะทำอะไรฉัน!!!!!!!!” มิซากิร้องและฉันก็เลยนีบพุ่งออกไปจากที่ๆหลบอยู่และอัดมัน  



    ถึงฉันจะไม่เก่งเท่าชาลีแองเจิล  แต่ก็....สู้เว้ย!!!!  และมันก็ต่อยหน้าฉันกลับ  



    ฉันก็เลยชกหน้ามันบ้างและพยายามบอกมิซากิว่า



    หนีไป!!!!! ไปตามคนมาช่วยสิ1!!!!!!!!!” ฉันบอกและมิซากิก็วิ่งออกจากที่นั่นไป  ฉันยังตะลุมบอนอยู่กับไอ้บ้านี่  จนเจ็บตัวทั้งคู่

    ++++++++++++++++



    ที่หน้าร้าน



    คินขับรถมาจอดเพื่อที่จะรับคิเคียวกลับบ้านก็เจอกับทาคุที่ยืนอยู่หน้าร้าน  



    “ ขอโทษนะครับคุณคิน…คือคิเคียวจังเค้ากลับบ้านพร้อมกับมิซากิแล้วล่ะครับ” ทาคุบอก



    “ คิเคียวกลับบ้านแล้ว…..เธอโกรธอะไรผมหรือไงเนี่ย…เมื่อตอนบ่ายก็หนีหน้า พอตอนนี้ก็กลับไปเฉยเลย” คินบอกด้วยความอ่อนใจ



    “คงไม่เป็นอย่างนั้นมั้งครับ  คิเคียวจังอาจมีปํญหาอะไรนิดหน่อย” ทาคุพยายามแก็ตัวแทน



    “ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีครับ” คินบอกและกำลังจะเดินไปขึ้นรถก็เห็น มิซากิวิ่งมาด้วยร่างกายที่สะบักสะบอม  



    คินจึงนึกถึงคิเคียวในทันใด



    มิซากิจัง!!!!!!!!!” ทาคุร้องและวิ่งไปประคองมิซากิไว้ มิซากิพยายามบอกกับทาคุและคินว่า



    “ ช่วยด้วย…ช่วยพี่คิเคียวด้วย ….เธออยู่ที่ตึกร้างนั่น” มิซากิบอกและชี้ไปทางตึก คินรีบวิ่งอย่างเร็วที่สุดไปที่นั่น!!!!



    ++++++++++++

    คิเคียวที่ยังคงต่อสู้อยู่  เพราะว่าชายทั้ง 2 นั้น คิดว่าคิเคียวเป็นผู้ชายเพราะ ว่าเธอ แต่งตัวเหมือนผู้ชาย



    “ โธ่เอ๊ย….นึกว่าจะแน่” ชายคนแรกพูด   เพราะว่าฉันล้มไปกับพื้น  



    ฉันพยายามใช้กำลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าชนแต่ก็ถูกชายคนที่ 2 จับไว้และอัดเข้าที่หน้าท้อง  จนฉันสลบไป  



    เฮ๊ย!!!เดี๋ยวก่อน  ไอ้นี่มันมีหน้าอก” ชายคนที่ 2 พูด แต่ชายคนแรกไม่เชื่อจึงถอดเสื้อนอกของคิเคียวออกก็เห็น



    “จริงด้วย….ฮะๆๆ…ที่แท้ก็ผู้หญิง…” ชายคนแรกพูด



    “ จะว่าไปมันก็น่ารักดีนะ เอามั้ยพี่” ชายคนที่ 2 เสนอ  ชายคนแรกกำลังจะถอดเสื้อผ้าออก



      แต่แล้วก็ได้ยินเสียง ของคนวิ่งมาและอัดคนทั้งคู่อย่างไม่สนใจอะไรเลย   เล่นเอา ชายทั้งคู่สลบไปในพริบตา  



    ก่อนที่ไม่นานรถตำรวจจะมา  ทาคุเป็นคนเรียกมาเอง



    ส่วนคนที่อัดชายทั้งคู่สลบก็ไม่ใช่ใครนั่นคือ คิน ที่ มาช่วยคิเคียว

    คินอุ้มคิเคียวกลับไปที่รถและบอกกับทาคุว่า



    “ ไปด้วยกันเลยมั้ย  ผมจะไปส่งเอง”คินบอกทาคุกับมิซากิ  ทาคุเลยบอกต่อว่า



    “ คุณคินพาคิเคียวจังกับมิซากิจังไปส่งเถอะครับเดี๋ยว พ่อผมมารับครับ”



    “เอางั้นก็ได้…โชคดีนะที่มีคนบาดเจ็บคนเดียว” คินบอกแล้วพามิซากิขึ้นรถ

    ++++++++++++

    ระหว่างเดินทางกลับ



    มิซากิร้องไห้ตลอดทาง  เธอนั่งข้างหลังกับคิเคียวโดยให้คิเคียวหนุนตักเธอ



    “นี่ถ้าพี่คิเคียวไม่มาช่วย …. ป่านนี้ฉันคง..ฮึก ๆๆ” มิซากิร้องไห้ต่อไป และถามคินว่า



    “พี่คินค่ะ…ตอบฉันหนูหน่อยเถอะค่ะ..ว่าทำไมพี่ถึงชอบพี่คิเคียว” มิซากิถามและคินก็บอกว่า



    “ มิซากิจังรู้ได้ยังไง” คินถามด้วยความอยากรู้



    “ ทำไมจะไม่รู้ล่ะค่ะ….ดูจากท่าทางและการกระทำของพี่ก็ดูออกแล้ว” มิซากิบอกและยิ้มทั้งน้ำตา



    “ ใช่…พี่ชอบเธอ…เพราะอะไรนะเหรอ…อาจจะเป็นเพราะ เธอเก่ง  กล้าหาญ  ไม่กลัวใคร  นิสัยดี

    เธอใจดีนะ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ถึงแม้เธอจะไม่ชอบบอกใครก็เหอะ ชอบทำเหมือนว่าไม่สนใจใคร แต่ความจริงเป็นห่วงคนอื่นมาก ออกจะห้าวไปนิด แต่ความจริงยังไงยังไงก็เป็นผู้หญิง  ถึงเธอจะไม่สวย แต่เธอก็น่ารักดี
    ”  คินบอกความรู้สึกของเค้าให้มิซากิฟังและก็มาส่ง

    มิซากิที่บ้าน



    “ ดูแล พี่คิเคียวให้ดีนะค่ะ” มิซากิบอกก่อนที่จะเข้าบ้านไป



    *******************



    คินโทรศัพท์ไปที่บ้านของคิเคียว



    “ สวัสดีครับ ต้องการพูดกับใครครับ” คนโจรับสาย



    “ นี่ฉันเอง…คินน่ะ วันนี้น้องแกคงจะไม่กลับบ้านนะ…น้องแกโดนทำร้าย.” คินบอก



    อะไรนะ!!!!!คิเคียวโดนทำร้าย!!!!!!!!!!” คนโจตะโกนเสียงดัง



    “แต่ไม่ต้องเป็นห่วง…ตอนนี้น้องแกอยู่กับฉันแล้ว ปลอดภัยแน่นอน  แต่วันนี้คงไม่ได้กลับบ้าน



    บอกพ่อกับแม่แกด้วยล่ะ เดี๋ยวเค้าจะเป็นห่วงลูกสาว”คินบอกคนโจ



    “ เออๆ…แต่ยัยคิเคียวปลอดภัยแล้วแน่นะ…แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า”



    “ ไม่เป็นไรมากหรอก…ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง  แค่นี้ก่อนนะ”



    “ อืม..บาย”



    “บาย” คินวางโทรศัพ์ และขับรถพาคิเคียวมาที่บ้านของตน……………………………….



    ******************************+++++++++++++-------------------+++++++--------------++++++********









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×