ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ความช่วยเหลือจากคิเคียว!!!!
เช้าวันรุ่งขึ้นฉันตื่นด้วยความมุ่งมั่นว่าวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน และอีกอย่างฉันก็เชื่อในคำพูดของทาคุที่บอกว่า
“จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำและทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด”
ฉันเดินลงมาข้างล่างและก็พบว่า ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพ่อ แม่และพี่
ตอนนี้ในหัวของฉันคิดอยู่สองอย่างคือ ดีใจที่พ่อกลับมาแล้ว และ เสียใจที่ตัวเองตื่นสายที่สุด ทั้งที่คิดว่าตื่นเช้าแล้วนะเนี่ย
“ พ่อกลับมาตั้งแต่เมื่อไรค่ะ…” ฉันถามและเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร พ่อจิบกาแฟอึกหนึ่ง ก่อนที่จะตอบคำถามของฉัน
“ พึ่งกลับมาเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว” พ่อตอบและอ่านหนังสือพิมพ์ของเช้าวันนี้ต่อไป
“ พึ่งจะกลับ!!!!แล้วพ่อไม่ง่วงหรือค่ะ” ฉันถามด้วยความตกใจเพราะถ้าเป็นฉันป่านนี้คงหลับไปแล้ว
“ หลับมาเต็มอิ่มแล้ว..แล้วอีกอย่างนอนมากๆก็ไม่ดี เค้าว่ากันว่าคนนอนน้อย จะฉลาดนะ..” พ่อบอกอย่างสบายอารมณ์
“ โธ่…พ่อครับ.ถ้านอนน้อยมากๆ.มันอาจจะตรงกันข้ามอีกไม่นานอาจจะกลายเป็นคนขี้เกียจได้นะครับ” คนโจบอกพ่อ
เล่นเอาพ่อยั้วขึ้นมาที่เดียว
“ ไปนอนต่อก็ได้!!!!!!!” พ่อบอกและลุกขึ้นอย่างโมโห จนแม่ต้องห้ามไม่ให้ลุก
“ คุณก็…..ลูกพูดเล่นเอง..อย่าโมโหเป็นเด็กไปได้” แม่บอกกับพ่อและพ่อก็นั่งลงเหมือนเดิม ก่อนจะหันมาถามฉันว่า
“เออ..ได้ข่าวว่าตอนนี้ลูกทำงานอยู่เหรอคิเคียว..” พ่อถามฉัน ฉันซึ่งกำลังทานอาหารอยู่จึงบอกพ่อด้วยเสียงที่อู้อี้ว่า
“ ช่ายฮ่ะ..ทามฮี่ฮ้านไอทิม..” ฉันบอกและกินต่อด้วยความเอร็ดอร่อย
“ นี่พ่อสอนกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำสักที่…ว่าทานให้หมดก่อนแล้วค่อยพูด” เมื่อพ่อพูดจบฉันก็รีบฟาดอาหารที่อยู่ตรงหน้าจนหมด
ได้ยินแต่เสียงพ่อพูดอะไรก็ไม่รู้ เมื่อฉันทานหมดแล้วก็จึงพูดกับพ่อ
“ ทำไมไม่ฟังที่พ่อพูดสักที่ …พ่อถามทำไมไม่ตอบล่ะ!!!” พ่อบอกฉัน ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าพ่อพูดอะไร
“ ขอโทษค่ะ…..ก็พ่อบอกเองว่าให้กินให้หมดแล้วค่อยพูด….เนี่ย..” ฉันชี้ไปที่อาหาร
“ หนูก็ทานหมดแล้วถึงได้พูดกับพ่อไงล่ะค่ะ” ฉันตอบพ่อแต่ดูจากท่าทางของพ่อ รู้สึกว่าฉันจะพูดไม่สบอารมณ์เข้าแล้ว
“ นี่พ่อนะ!!!! อย่ามาเล่นลิ้นหน่อยเลย..” พ่อดุฉัน ฉันเองก็รู้สึกผิดจึงขอโทษ
“ ขอโทษค่ะ….แค่ล้อเล่นๆเฉยๆ…แฮะๆ” ฉันขอโทษ แบบเกรงจ๋ายเกรงใจ
+++++++++++++
ในเวลาต่อมาฉันก็เดินทางไปทำงานพร้อมกับพี่….
“หนูไปแล้วนะค่ะ เย็นนี้เจอกันค่ะ” ฉันบอกพ่อและแม่ก่อนขึ้นรถของพี่
วันนี้ฉันมาถึงที่ร้านเร็วเหมือนกัน เพราะว่าฉันยังไม่เห็นใครเลยนอกจาก …… มิซากิ
ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกับเมื่อวานเธอนั่งเช็ครายชื่อไอศครีมอยู่แบบนี้ทุกวัน ฉันเองยังไม่กล้าที่จะรบกวนเลย
ก็ฉันบอกคุณแล้วว่า มิซากิเค้าไม่ชอบฉัน ฉันจึงเดินเลี่ยงไปทางหลังร้านแทน แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ต้องเจอกับเธออยู่ดี
“ เออ…อรุณสวัสดิ์จ๊ะ มิซากิ”ฉันกล่าวทักทายมิซากิ แต่ผิดคาด…เธอกลับยิ้มและทักทายฉันกลับ ซึ่ง
เหมือนเป็นคนละคนจากเมื่อวานเลยทีเดียว
“ อรุณสวัสดิ์ค่ะ..พี่คิเคียว วันนี้มาเช้าจังเลยนะค่ะ” มิซากิทักทายฉันด้วยสีหน้าแจ่มใส
“ มิซากิจัง ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย??”ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมด ถามมิซากิ ในสิ่งที่มันยังคลางแคลงใจอยู่
“ ได้ค่ะ…อะไรล่ะค่ะ” มิซากิถามฉันด้วยความอยากรู้มากทีเดียวว่าฉันต้องการจะถามอะไร
“ คือ……..เออ…ไม่มีอะไรจ๊ะ” และในที่สุดฉันก็ไม่ถามมิซากิ
ไม่นานนักก็เริ่มมีพนักงานหลายคนเดินทางมาทำงาน…จนกระทั่งถึงเวลาร้านเปิด….และวันนี้คนที่มาสายที่สุดก็คือ… ทาคุนั่นเอง
“เฮอะๆๆ” ทาคุหอบด้วยความเหนื่อยที่วิ่งมาและเข้าทางหลังร้าน ซึ่งก็เจอกับฉันพอดี
“ หวัดดีจ๊ะทาคุคุง…ทำไมวันนี้มาสายล่ะ” ฉันถาม ในขณะที่ทาคุกำลังเอากระเป๋าสะพายของเค้าออก และตอบฉันด้วยเสียงที่ยังคงเหนื่อยอยู่
“ ก็…เฮอะๆ…พอดี…ตื่นสายไปหน่อยครับ…ว่าแต่..วันนี้คิเคียวจังดูสดใสกว่าเมื่อวานนะครับ” ทาคุบอกกับฉัน ทำให้ฉันยิ้มอย่างพูดไม่ถูก
“ ก็ไม่มีอะไรหรอก…เพียงแต่ว่า วันนี้ มิซากิจังคุยกับฉัน แล้วเธอก็ไม่ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนเมื่อวานแล้ว..
แล้ววันนี้ฉันก็ตั้งใจว่าจะทำงานให้ดีที่สุดล่ะ” ฉันบอกกับทาคุ ก่อนที่จะไปทำหน้าที่ของฉันต่อ
ถึงเวลาพัก พวกเราทั้ง 5 ก็เดินทางไปทานอาหารด้วยกัน ฉันรู้สึกดีกว่าเมื่อวานเป็น 100 เท่าเลยทีเดียว
ฉันไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีมาก ต่างคนต่างก็เล่าเรื่องต่างๆที่ทุกคนเคยเจอให้ฟัง
มันก็เหมือนกับพวกคุณที่ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วคุยกันเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ
ความสัมพันธ์ของฉันกับมิซากิดีขึ้น และยิ่งไม่เจอนายคินด้วยยิ่งดีเข้าไปใหญ่
หลังจากทานอาหารกันเสร็จพวกเราก็เดินทางกลับร้านเพื่อเปลี่ยนเวรกับพนักงานที่ทำอยู่ตอนเราไปทานอาหาร
วันนี้ฉันทำงานราบรื่นดีแต่พอบ่าย 3 โมง
ฉันก็สังหรณ์ว่า อาจจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น แล้วนั่นก็คือ นายคินมากที่ร้านของเราพร้อมเพื่อนร่วมงานอีกประมาณสองสามคน
อ่อ!!แล้วก็มีนายคนโจกับพี่คาโอริด้วย
ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย ฉันไม่อยากให้มิซากิจังโกรธอีก จะทำไงดีล่ะ
ฉันจึงหลบไปหลังร้านและก็เจอกับ โกสุเคะ
“ อ้าว!!คิเคียวจังมาทำอะไรตรงนี้ล่ะครับ!!!!!!!” โกสุเคะพูดเสียงดังอีกแล้ว ทำไม ฉันต้องเจอแต่คนที่พูดเสียงดังนะ
ฉันจึงรีบเอามือปิดปากโกสุเคะและดึงตัวมาข้างหลังร้าน
“ อือๆๆ” โกสุเคะได้แต่ร้องฉันจึงปล่อยมือออกและบอกว่า
“ โกสุเคะคุง ..ช่วยฉันด้วยนะ.0.ถ้าพวกคินตามมาบอกไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเลยนะ…ฉันไปล่ะ” ฉันบอกและรีบวิ่งออกไป
ก็ฉันไม่อยากเจอหน้าคินตอนนี้นี่ ฉันรู้สึกอายๆยังไงก็ไม่รู้
คินกอดฉันเมื่อวาน เค้าเคยหอมฉันนอนกอดกันด้วย อึ๋ย!! ฉันคิดแล้วก็ส่ายหัวไปมา
****************
ทางด้านคินที่ได้ยินเสียงโกสุเคะร้องว่าคิเคียว จึงรีบวิ่งออกมาทางหลังร้านโดยบอกให้พวกเพื่อนสั่งไอศครีมทานก่อนได้เลย
คินวิ่งออกมาก็เจอกับโกสุเคะ โกสุเคะก็ได้แต่ส่ายหัว และบอกว่าไม่รู้อยู่อย่างเดียว
คินจึงปล่อยโกสุเคะออกและ วิ่งตามฉันแต่ก็ไม่เห็นวี่แววเลย คินจึงเดินกลับเข้าร้านและกลับออฟฟิตไป
ฉันซึ่งแอบอยู่เห็นคินออกมาข้างนอกแล้วก็เลยแอบย่องกลับเข้าร้าน และก็ต้องตอบคำถามหลายคนที่อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ซึ่งมิซากิก็ยังเข้ามาถามฉันเลย
“ พี่คิเคียววิ่งออกไปทำไมค่ะ…พี่คินเค้าคงอยากเจอพี่มากเลยนะค่ะ” มิซากิถามฉันจึงต้องตอบว่า
“ แต่พี่ไม่อยากเจอเค้า…ไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่านี้แล้ว” ฉันบอกทุกคนและก็ทำงานต่อไปจน กระทั่งร้านปิด
พวกเราออกมาข้างนอกและท้องฟ้าก็มืดแล้ว
ซึ่งฉันก็รู้ว่าบ้างทีคินก็อาจจะมารับอีก ฉันจึงตัดสินใจกลับบ้านเองดีกว่า
และแน่นอนวันนี้ฉันมีเพื่อนร่วมทางก็คือมิซากิเธอบอกว่า วันนี้พี่ไม่มารับก็เลยต้องกลับเอง
พวกเราไปรอกันที่ป้ายรถประจำทาง รถที่ฉันรอมาก่อนฉันจึงขึ้น
แต่พอมองไปที่ป้ายรถเมล์ก็เห็นผู้ชาย 2 คนเข้ามาทางด้านหลังมิซากิและปิดปากของเธอก่อนจะอุ้มเธอไป !!!!!
มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแล้วฉันรีบลงจากรถในป้ายถัดไปและวิ่งกลับมาที่ป้ายเดิมแต่มิซากิก็ไม่อยู่แล้ว
\"มิซากิ...อย่าเป็นไรนะ\" ฉันบอกกับตัวเองและเริ่มต้นออกตามหามิซากิ
ฉันลองเดินกลับเข้าไปในซอยและก็เจอรองเท้าข้างหนึ่งของมิซากิถูกทิ้งไว้ข้างหน้าตึกร้าง
ฉันรีบเข้าไปข้างในและก็แอบเห็นพวกมันกำลังถอดเสื้อผ้าของมิซากิอยู่
ฉันหยิบก้อนหินที่อยู่ข้างๆโยนไปอีกทางหนึ่งทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
จนพวกมันทั้งคู่ตกใจ ผู้ชายคนแรกบอกกับอีกคนว่า
“เฮ๊ย!!!เอง..ไปดูดิว่าเสียงอะไร”
“อะไรฟะ…แกก็ไปดูสิ” ชายคนที่สองกล่าวและพวกมันก็ทะเลาะกันเอง ฉันโยนอีกก้อนไปทางเดิม
“ เองไปดูดิ” ชายคนแรกพูด แต่คราวนี้คนที่สองยอมไปและทิ้งให้ชายคนแรกอยู่คนเดียวฉันมองไปที่มิซากิ ก็เห็นว่ามิซากิ ลืมตาขึ้นแล้วและร้องเสียงดัง
“ กรี๊ด1!!!!!!!……..อย่านะจะทำอะไรฉัน!!!!!!!!” มิซากิร้องและฉันก็เลยนีบพุ่งออกไปจากที่ๆหลบอยู่และอัดมัน
ถึงฉันจะไม่เก่งเท่าชาลีแองเจิล แต่ก็....สู้เว้ย!!!! และมันก็ต่อยหน้าฉันกลับ
ฉันก็เลยชกหน้ามันบ้างและพยายามบอกมิซากิว่า
“ หนีไป!!!!! ไปตามคนมาช่วยสิ1!!!!!!!!!” ฉันบอกและมิซากิก็วิ่งออกจากที่นั่นไป ฉันยังตะลุมบอนอยู่กับไอ้บ้านี่ จนเจ็บตัวทั้งคู่
++++++++++++++++
ที่หน้าร้าน
คินขับรถมาจอดเพื่อที่จะรับคิเคียวกลับบ้านก็เจอกับทาคุที่ยืนอยู่หน้าร้าน
“ ขอโทษนะครับคุณคิน…คือคิเคียวจังเค้ากลับบ้านพร้อมกับมิซากิแล้วล่ะครับ” ทาคุบอก
“ คิเคียวกลับบ้านแล้ว…..เธอโกรธอะไรผมหรือไงเนี่ย…เมื่อตอนบ่ายก็หนีหน้า พอตอนนี้ก็กลับไปเฉยเลย” คินบอกด้วยความอ่อนใจ
“คงไม่เป็นอย่างนั้นมั้งครับ คิเคียวจังอาจมีปํญหาอะไรนิดหน่อย” ทาคุพยายามแก็ตัวแทน
“ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีครับ” คินบอกและกำลังจะเดินไปขึ้นรถก็เห็น มิซากิวิ่งมาด้วยร่างกายที่สะบักสะบอม
คินจึงนึกถึงคิเคียวในทันใด
“มิซากิจัง!!!!!!!!!” ทาคุร้องและวิ่งไปประคองมิซากิไว้ มิซากิพยายามบอกกับทาคุและคินว่า
“ ช่วยด้วย…ช่วยพี่คิเคียวด้วย ….เธออยู่ที่ตึกร้างนั่น” มิซากิบอกและชี้ไปทางตึก คินรีบวิ่งอย่างเร็วที่สุดไปที่นั่น!!!!
++++++++++++
คิเคียวที่ยังคงต่อสู้อยู่ เพราะว่าชายทั้ง 2 นั้น คิดว่าคิเคียวเป็นผู้ชายเพราะ ว่าเธอ แต่งตัวเหมือนผู้ชาย
“ โธ่เอ๊ย….นึกว่าจะแน่” ชายคนแรกพูด เพราะว่าฉันล้มไปกับพื้น
ฉันพยายามใช้กำลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าชนแต่ก็ถูกชายคนที่ 2 จับไว้และอัดเข้าที่หน้าท้อง จนฉันสลบไป
“ เฮ๊ย!!!เดี๋ยวก่อน ไอ้นี่มันมีหน้าอก” ชายคนที่ 2 พูด แต่ชายคนแรกไม่เชื่อจึงถอดเสื้อนอกของคิเคียวออกก็เห็น
“จริงด้วย….ฮะๆๆ…ที่แท้ก็ผู้หญิง…” ชายคนแรกพูด
“ จะว่าไปมันก็น่ารักดีนะ เอามั้ยพี่” ชายคนที่ 2 เสนอ ชายคนแรกกำลังจะถอดเสื้อผ้าออก
แต่แล้วก็ได้ยินเสียง ของคนวิ่งมาและอัดคนทั้งคู่อย่างไม่สนใจอะไรเลย เล่นเอา ชายทั้งคู่สลบไปในพริบตา
ก่อนที่ไม่นานรถตำรวจจะมา ทาคุเป็นคนเรียกมาเอง
ส่วนคนที่อัดชายทั้งคู่สลบก็ไม่ใช่ใครนั่นคือ คิน ที่ มาช่วยคิเคียว
คินอุ้มคิเคียวกลับไปที่รถและบอกกับทาคุว่า
“ ไปด้วยกันเลยมั้ย ผมจะไปส่งเอง”คินบอกทาคุกับมิซากิ ทาคุเลยบอกต่อว่า
“ คุณคินพาคิเคียวจังกับมิซากิจังไปส่งเถอะครับเดี๋ยว พ่อผมมารับครับ”
“เอางั้นก็ได้…โชคดีนะที่มีคนบาดเจ็บคนเดียว” คินบอกแล้วพามิซากิขึ้นรถ
++++++++++++
ระหว่างเดินทางกลับ
มิซากิร้องไห้ตลอดทาง เธอนั่งข้างหลังกับคิเคียวโดยให้คิเคียวหนุนตักเธอ
“นี่ถ้าพี่คิเคียวไม่มาช่วย …. ป่านนี้ฉันคง..ฮึก ๆๆ” มิซากิร้องไห้ต่อไป และถามคินว่า
“พี่คินค่ะ…ตอบฉันหนูหน่อยเถอะค่ะ..ว่าทำไมพี่ถึงชอบพี่คิเคียว” มิซากิถามและคินก็บอกว่า
“ มิซากิจังรู้ได้ยังไง” คินถามด้วยความอยากรู้
“ ทำไมจะไม่รู้ล่ะค่ะ….ดูจากท่าทางและการกระทำของพี่ก็ดูออกแล้ว” มิซากิบอกและยิ้มทั้งน้ำตา
“ ใช่…พี่ชอบเธอ…เพราะอะไรนะเหรอ…อาจจะเป็นเพราะ เธอเก่ง กล้าหาญ ไม่กลัวใคร นิสัยดี
เธอใจดีนะ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ถึงแม้เธอจะไม่ชอบบอกใครก็เหอะ ชอบทำเหมือนว่าไม่สนใจใคร แต่ความจริงเป็นห่วงคนอื่นมาก ออกจะห้าวไปนิด แต่ความจริงยังไงยังไงก็เป็นผู้หญิง ถึงเธอจะไม่สวย แต่เธอก็น่ารักดี” คินบอกความรู้สึกของเค้าให้มิซากิฟังและก็มาส่ง
มิซากิที่บ้าน
“ ดูแล พี่คิเคียวให้ดีนะค่ะ” มิซากิบอกก่อนที่จะเข้าบ้านไป
*******************
คินโทรศัพท์ไปที่บ้านของคิเคียว
“ สวัสดีครับ ต้องการพูดกับใครครับ” คนโจรับสาย
“ นี่ฉันเอง…คินน่ะ วันนี้น้องแกคงจะไม่กลับบ้านนะ…น้องแกโดนทำร้าย.” คินบอก
“อะไรนะ!!!!!คิเคียวโดนทำร้าย!!!!!!!!!!” คนโจตะโกนเสียงดัง
“แต่ไม่ต้องเป็นห่วง…ตอนนี้น้องแกอยู่กับฉันแล้ว ปลอดภัยแน่นอน แต่วันนี้คงไม่ได้กลับบ้าน
บอกพ่อกับแม่แกด้วยล่ะ เดี๋ยวเค้าจะเป็นห่วงลูกสาว”คินบอกคนโจ
“ เออๆ…แต่ยัยคิเคียวปลอดภัยแล้วแน่นะ…แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ ไม่เป็นไรมากหรอก…ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง แค่นี้ก่อนนะ”
“ อืม..บาย”
“บาย” คินวางโทรศัพ์ และขับรถพาคิเคียวมาที่บ้านของตน……………………………….
******************************+++++++++++++-------------------+++++++--------------++++++********
“จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำและทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด”
ฉันเดินลงมาข้างล่างและก็พบว่า ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพ่อ แม่และพี่
ตอนนี้ในหัวของฉันคิดอยู่สองอย่างคือ ดีใจที่พ่อกลับมาแล้ว และ เสียใจที่ตัวเองตื่นสายที่สุด ทั้งที่คิดว่าตื่นเช้าแล้วนะเนี่ย
“ พ่อกลับมาตั้งแต่เมื่อไรค่ะ…” ฉันถามและเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร พ่อจิบกาแฟอึกหนึ่ง ก่อนที่จะตอบคำถามของฉัน
“ พึ่งกลับมาเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว” พ่อตอบและอ่านหนังสือพิมพ์ของเช้าวันนี้ต่อไป
“ พึ่งจะกลับ!!!!แล้วพ่อไม่ง่วงหรือค่ะ” ฉันถามด้วยความตกใจเพราะถ้าเป็นฉันป่านนี้คงหลับไปแล้ว
“ หลับมาเต็มอิ่มแล้ว..แล้วอีกอย่างนอนมากๆก็ไม่ดี เค้าว่ากันว่าคนนอนน้อย จะฉลาดนะ..” พ่อบอกอย่างสบายอารมณ์
“ โธ่…พ่อครับ.ถ้านอนน้อยมากๆ.มันอาจจะตรงกันข้ามอีกไม่นานอาจจะกลายเป็นคนขี้เกียจได้นะครับ” คนโจบอกพ่อ
เล่นเอาพ่อยั้วขึ้นมาที่เดียว
“ ไปนอนต่อก็ได้!!!!!!!” พ่อบอกและลุกขึ้นอย่างโมโห จนแม่ต้องห้ามไม่ให้ลุก
“ คุณก็…..ลูกพูดเล่นเอง..อย่าโมโหเป็นเด็กไปได้” แม่บอกกับพ่อและพ่อก็นั่งลงเหมือนเดิม ก่อนจะหันมาถามฉันว่า
“เออ..ได้ข่าวว่าตอนนี้ลูกทำงานอยู่เหรอคิเคียว..” พ่อถามฉัน ฉันซึ่งกำลังทานอาหารอยู่จึงบอกพ่อด้วยเสียงที่อู้อี้ว่า
“ ช่ายฮ่ะ..ทามฮี่ฮ้านไอทิม..” ฉันบอกและกินต่อด้วยความเอร็ดอร่อย
“ นี่พ่อสอนกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำสักที่…ว่าทานให้หมดก่อนแล้วค่อยพูด” เมื่อพ่อพูดจบฉันก็รีบฟาดอาหารที่อยู่ตรงหน้าจนหมด
ได้ยินแต่เสียงพ่อพูดอะไรก็ไม่รู้ เมื่อฉันทานหมดแล้วก็จึงพูดกับพ่อ
“ ทำไมไม่ฟังที่พ่อพูดสักที่ …พ่อถามทำไมไม่ตอบล่ะ!!!” พ่อบอกฉัน ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าพ่อพูดอะไร
“ ขอโทษค่ะ…..ก็พ่อบอกเองว่าให้กินให้หมดแล้วค่อยพูด….เนี่ย..” ฉันชี้ไปที่อาหาร
“ หนูก็ทานหมดแล้วถึงได้พูดกับพ่อไงล่ะค่ะ” ฉันตอบพ่อแต่ดูจากท่าทางของพ่อ รู้สึกว่าฉันจะพูดไม่สบอารมณ์เข้าแล้ว
“ นี่พ่อนะ!!!! อย่ามาเล่นลิ้นหน่อยเลย..” พ่อดุฉัน ฉันเองก็รู้สึกผิดจึงขอโทษ
“ ขอโทษค่ะ….แค่ล้อเล่นๆเฉยๆ…แฮะๆ” ฉันขอโทษ แบบเกรงจ๋ายเกรงใจ
+++++++++++++
ในเวลาต่อมาฉันก็เดินทางไปทำงานพร้อมกับพี่….
“หนูไปแล้วนะค่ะ เย็นนี้เจอกันค่ะ” ฉันบอกพ่อและแม่ก่อนขึ้นรถของพี่
วันนี้ฉันมาถึงที่ร้านเร็วเหมือนกัน เพราะว่าฉันยังไม่เห็นใครเลยนอกจาก …… มิซากิ
ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกับเมื่อวานเธอนั่งเช็ครายชื่อไอศครีมอยู่แบบนี้ทุกวัน ฉันเองยังไม่กล้าที่จะรบกวนเลย
ก็ฉันบอกคุณแล้วว่า มิซากิเค้าไม่ชอบฉัน ฉันจึงเดินเลี่ยงไปทางหลังร้านแทน แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ต้องเจอกับเธออยู่ดี
“ เออ…อรุณสวัสดิ์จ๊ะ มิซากิ”ฉันกล่าวทักทายมิซากิ แต่ผิดคาด…เธอกลับยิ้มและทักทายฉันกลับ ซึ่ง
เหมือนเป็นคนละคนจากเมื่อวานเลยทีเดียว
“ อรุณสวัสดิ์ค่ะ..พี่คิเคียว วันนี้มาเช้าจังเลยนะค่ะ” มิซากิทักทายฉันด้วยสีหน้าแจ่มใส
“ มิซากิจัง ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย??”ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมด ถามมิซากิ ในสิ่งที่มันยังคลางแคลงใจอยู่
“ ได้ค่ะ…อะไรล่ะค่ะ” มิซากิถามฉันด้วยความอยากรู้มากทีเดียวว่าฉันต้องการจะถามอะไร
“ คือ……..เออ…ไม่มีอะไรจ๊ะ” และในที่สุดฉันก็ไม่ถามมิซากิ
ไม่นานนักก็เริ่มมีพนักงานหลายคนเดินทางมาทำงาน…จนกระทั่งถึงเวลาร้านเปิด….และวันนี้คนที่มาสายที่สุดก็คือ… ทาคุนั่นเอง
“เฮอะๆๆ” ทาคุหอบด้วยความเหนื่อยที่วิ่งมาและเข้าทางหลังร้าน ซึ่งก็เจอกับฉันพอดี
“ หวัดดีจ๊ะทาคุคุง…ทำไมวันนี้มาสายล่ะ” ฉันถาม ในขณะที่ทาคุกำลังเอากระเป๋าสะพายของเค้าออก และตอบฉันด้วยเสียงที่ยังคงเหนื่อยอยู่
“ ก็…เฮอะๆ…พอดี…ตื่นสายไปหน่อยครับ…ว่าแต่..วันนี้คิเคียวจังดูสดใสกว่าเมื่อวานนะครับ” ทาคุบอกกับฉัน ทำให้ฉันยิ้มอย่างพูดไม่ถูก
“ ก็ไม่มีอะไรหรอก…เพียงแต่ว่า วันนี้ มิซากิจังคุยกับฉัน แล้วเธอก็ไม่ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนเมื่อวานแล้ว..
แล้ววันนี้ฉันก็ตั้งใจว่าจะทำงานให้ดีที่สุดล่ะ” ฉันบอกกับทาคุ ก่อนที่จะไปทำหน้าที่ของฉันต่อ
ถึงเวลาพัก พวกเราทั้ง 5 ก็เดินทางไปทานอาหารด้วยกัน ฉันรู้สึกดีกว่าเมื่อวานเป็น 100 เท่าเลยทีเดียว
ฉันไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีมาก ต่างคนต่างก็เล่าเรื่องต่างๆที่ทุกคนเคยเจอให้ฟัง
มันก็เหมือนกับพวกคุณที่ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วคุยกันเรื่อยเปื่อยนั่นแหละ
ความสัมพันธ์ของฉันกับมิซากิดีขึ้น และยิ่งไม่เจอนายคินด้วยยิ่งดีเข้าไปใหญ่
หลังจากทานอาหารกันเสร็จพวกเราก็เดินทางกลับร้านเพื่อเปลี่ยนเวรกับพนักงานที่ทำอยู่ตอนเราไปทานอาหาร
วันนี้ฉันทำงานราบรื่นดีแต่พอบ่าย 3 โมง
ฉันก็สังหรณ์ว่า อาจจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น แล้วนั่นก็คือ นายคินมากที่ร้านของเราพร้อมเพื่อนร่วมงานอีกประมาณสองสามคน
อ่อ!!แล้วก็มีนายคนโจกับพี่คาโอริด้วย
ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย ฉันไม่อยากให้มิซากิจังโกรธอีก จะทำไงดีล่ะ
ฉันจึงหลบไปหลังร้านและก็เจอกับ โกสุเคะ
“ อ้าว!!คิเคียวจังมาทำอะไรตรงนี้ล่ะครับ!!!!!!!” โกสุเคะพูดเสียงดังอีกแล้ว ทำไม ฉันต้องเจอแต่คนที่พูดเสียงดังนะ
ฉันจึงรีบเอามือปิดปากโกสุเคะและดึงตัวมาข้างหลังร้าน
“ อือๆๆ” โกสุเคะได้แต่ร้องฉันจึงปล่อยมือออกและบอกว่า
“ โกสุเคะคุง ..ช่วยฉันด้วยนะ.0.ถ้าพวกคินตามมาบอกไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเลยนะ…ฉันไปล่ะ” ฉันบอกและรีบวิ่งออกไป
ก็ฉันไม่อยากเจอหน้าคินตอนนี้นี่ ฉันรู้สึกอายๆยังไงก็ไม่รู้
คินกอดฉันเมื่อวาน เค้าเคยหอมฉันนอนกอดกันด้วย อึ๋ย!! ฉันคิดแล้วก็ส่ายหัวไปมา
****************
ทางด้านคินที่ได้ยินเสียงโกสุเคะร้องว่าคิเคียว จึงรีบวิ่งออกมาทางหลังร้านโดยบอกให้พวกเพื่อนสั่งไอศครีมทานก่อนได้เลย
คินวิ่งออกมาก็เจอกับโกสุเคะ โกสุเคะก็ได้แต่ส่ายหัว และบอกว่าไม่รู้อยู่อย่างเดียว
คินจึงปล่อยโกสุเคะออกและ วิ่งตามฉันแต่ก็ไม่เห็นวี่แววเลย คินจึงเดินกลับเข้าร้านและกลับออฟฟิตไป
ฉันซึ่งแอบอยู่เห็นคินออกมาข้างนอกแล้วก็เลยแอบย่องกลับเข้าร้าน และก็ต้องตอบคำถามหลายคนที่อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ซึ่งมิซากิก็ยังเข้ามาถามฉันเลย
“ พี่คิเคียววิ่งออกไปทำไมค่ะ…พี่คินเค้าคงอยากเจอพี่มากเลยนะค่ะ” มิซากิถามฉันจึงต้องตอบว่า
“ แต่พี่ไม่อยากเจอเค้า…ไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่านี้แล้ว” ฉันบอกทุกคนและก็ทำงานต่อไปจน กระทั่งร้านปิด
พวกเราออกมาข้างนอกและท้องฟ้าก็มืดแล้ว
ซึ่งฉันก็รู้ว่าบ้างทีคินก็อาจจะมารับอีก ฉันจึงตัดสินใจกลับบ้านเองดีกว่า
และแน่นอนวันนี้ฉันมีเพื่อนร่วมทางก็คือมิซากิเธอบอกว่า วันนี้พี่ไม่มารับก็เลยต้องกลับเอง
พวกเราไปรอกันที่ป้ายรถประจำทาง รถที่ฉันรอมาก่อนฉันจึงขึ้น
แต่พอมองไปที่ป้ายรถเมล์ก็เห็นผู้ชาย 2 คนเข้ามาทางด้านหลังมิซากิและปิดปากของเธอก่อนจะอุ้มเธอไป !!!!!
มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแล้วฉันรีบลงจากรถในป้ายถัดไปและวิ่งกลับมาที่ป้ายเดิมแต่มิซากิก็ไม่อยู่แล้ว
\"มิซากิ...อย่าเป็นไรนะ\" ฉันบอกกับตัวเองและเริ่มต้นออกตามหามิซากิ
ฉันลองเดินกลับเข้าไปในซอยและก็เจอรองเท้าข้างหนึ่งของมิซากิถูกทิ้งไว้ข้างหน้าตึกร้าง
ฉันรีบเข้าไปข้างในและก็แอบเห็นพวกมันกำลังถอดเสื้อผ้าของมิซากิอยู่
ฉันหยิบก้อนหินที่อยู่ข้างๆโยนไปอีกทางหนึ่งทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
จนพวกมันทั้งคู่ตกใจ ผู้ชายคนแรกบอกกับอีกคนว่า
“เฮ๊ย!!!เอง..ไปดูดิว่าเสียงอะไร”
“อะไรฟะ…แกก็ไปดูสิ” ชายคนที่สองกล่าวและพวกมันก็ทะเลาะกันเอง ฉันโยนอีกก้อนไปทางเดิม
“ เองไปดูดิ” ชายคนแรกพูด แต่คราวนี้คนที่สองยอมไปและทิ้งให้ชายคนแรกอยู่คนเดียวฉันมองไปที่มิซากิ ก็เห็นว่ามิซากิ ลืมตาขึ้นแล้วและร้องเสียงดัง
“ กรี๊ด1!!!!!!!……..อย่านะจะทำอะไรฉัน!!!!!!!!” มิซากิร้องและฉันก็เลยนีบพุ่งออกไปจากที่ๆหลบอยู่และอัดมัน
ถึงฉันจะไม่เก่งเท่าชาลีแองเจิล แต่ก็....สู้เว้ย!!!! และมันก็ต่อยหน้าฉันกลับ
ฉันก็เลยชกหน้ามันบ้างและพยายามบอกมิซากิว่า
“ หนีไป!!!!! ไปตามคนมาช่วยสิ1!!!!!!!!!” ฉันบอกและมิซากิก็วิ่งออกจากที่นั่นไป ฉันยังตะลุมบอนอยู่กับไอ้บ้านี่ จนเจ็บตัวทั้งคู่
++++++++++++++++
ที่หน้าร้าน
คินขับรถมาจอดเพื่อที่จะรับคิเคียวกลับบ้านก็เจอกับทาคุที่ยืนอยู่หน้าร้าน
“ ขอโทษนะครับคุณคิน…คือคิเคียวจังเค้ากลับบ้านพร้อมกับมิซากิแล้วล่ะครับ” ทาคุบอก
“ คิเคียวกลับบ้านแล้ว…..เธอโกรธอะไรผมหรือไงเนี่ย…เมื่อตอนบ่ายก็หนีหน้า พอตอนนี้ก็กลับไปเฉยเลย” คินบอกด้วยความอ่อนใจ
“คงไม่เป็นอย่างนั้นมั้งครับ คิเคียวจังอาจมีปํญหาอะไรนิดหน่อย” ทาคุพยายามแก็ตัวแทน
“ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีครับ” คินบอกและกำลังจะเดินไปขึ้นรถก็เห็น มิซากิวิ่งมาด้วยร่างกายที่สะบักสะบอม
คินจึงนึกถึงคิเคียวในทันใด
“มิซากิจัง!!!!!!!!!” ทาคุร้องและวิ่งไปประคองมิซากิไว้ มิซากิพยายามบอกกับทาคุและคินว่า
“ ช่วยด้วย…ช่วยพี่คิเคียวด้วย ….เธออยู่ที่ตึกร้างนั่น” มิซากิบอกและชี้ไปทางตึก คินรีบวิ่งอย่างเร็วที่สุดไปที่นั่น!!!!
++++++++++++
คิเคียวที่ยังคงต่อสู้อยู่ เพราะว่าชายทั้ง 2 นั้น คิดว่าคิเคียวเป็นผู้ชายเพราะ ว่าเธอ แต่งตัวเหมือนผู้ชาย
“ โธ่เอ๊ย….นึกว่าจะแน่” ชายคนแรกพูด เพราะว่าฉันล้มไปกับพื้น
ฉันพยายามใช้กำลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าชนแต่ก็ถูกชายคนที่ 2 จับไว้และอัดเข้าที่หน้าท้อง จนฉันสลบไป
“ เฮ๊ย!!!เดี๋ยวก่อน ไอ้นี่มันมีหน้าอก” ชายคนที่ 2 พูด แต่ชายคนแรกไม่เชื่อจึงถอดเสื้อนอกของคิเคียวออกก็เห็น
“จริงด้วย….ฮะๆๆ…ที่แท้ก็ผู้หญิง…” ชายคนแรกพูด
“ จะว่าไปมันก็น่ารักดีนะ เอามั้ยพี่” ชายคนที่ 2 เสนอ ชายคนแรกกำลังจะถอดเสื้อผ้าออก
แต่แล้วก็ได้ยินเสียง ของคนวิ่งมาและอัดคนทั้งคู่อย่างไม่สนใจอะไรเลย เล่นเอา ชายทั้งคู่สลบไปในพริบตา
ก่อนที่ไม่นานรถตำรวจจะมา ทาคุเป็นคนเรียกมาเอง
ส่วนคนที่อัดชายทั้งคู่สลบก็ไม่ใช่ใครนั่นคือ คิน ที่ มาช่วยคิเคียว
คินอุ้มคิเคียวกลับไปที่รถและบอกกับทาคุว่า
“ ไปด้วยกันเลยมั้ย ผมจะไปส่งเอง”คินบอกทาคุกับมิซากิ ทาคุเลยบอกต่อว่า
“ คุณคินพาคิเคียวจังกับมิซากิจังไปส่งเถอะครับเดี๋ยว พ่อผมมารับครับ”
“เอางั้นก็ได้…โชคดีนะที่มีคนบาดเจ็บคนเดียว” คินบอกแล้วพามิซากิขึ้นรถ
++++++++++++
ระหว่างเดินทางกลับ
มิซากิร้องไห้ตลอดทาง เธอนั่งข้างหลังกับคิเคียวโดยให้คิเคียวหนุนตักเธอ
“นี่ถ้าพี่คิเคียวไม่มาช่วย …. ป่านนี้ฉันคง..ฮึก ๆๆ” มิซากิร้องไห้ต่อไป และถามคินว่า
“พี่คินค่ะ…ตอบฉันหนูหน่อยเถอะค่ะ..ว่าทำไมพี่ถึงชอบพี่คิเคียว” มิซากิถามและคินก็บอกว่า
“ มิซากิจังรู้ได้ยังไง” คินถามด้วยความอยากรู้
“ ทำไมจะไม่รู้ล่ะค่ะ….ดูจากท่าทางและการกระทำของพี่ก็ดูออกแล้ว” มิซากิบอกและยิ้มทั้งน้ำตา
“ ใช่…พี่ชอบเธอ…เพราะอะไรนะเหรอ…อาจจะเป็นเพราะ เธอเก่ง กล้าหาญ ไม่กลัวใคร นิสัยดี
เธอใจดีนะ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ถึงแม้เธอจะไม่ชอบบอกใครก็เหอะ ชอบทำเหมือนว่าไม่สนใจใคร แต่ความจริงเป็นห่วงคนอื่นมาก ออกจะห้าวไปนิด แต่ความจริงยังไงยังไงก็เป็นผู้หญิง ถึงเธอจะไม่สวย แต่เธอก็น่ารักดี” คินบอกความรู้สึกของเค้าให้มิซากิฟังและก็มาส่ง
มิซากิที่บ้าน
“ ดูแล พี่คิเคียวให้ดีนะค่ะ” มิซากิบอกก่อนที่จะเข้าบ้านไป
*******************
คินโทรศัพท์ไปที่บ้านของคิเคียว
“ สวัสดีครับ ต้องการพูดกับใครครับ” คนโจรับสาย
“ นี่ฉันเอง…คินน่ะ วันนี้น้องแกคงจะไม่กลับบ้านนะ…น้องแกโดนทำร้าย.” คินบอก
“อะไรนะ!!!!!คิเคียวโดนทำร้าย!!!!!!!!!!” คนโจตะโกนเสียงดัง
“แต่ไม่ต้องเป็นห่วง…ตอนนี้น้องแกอยู่กับฉันแล้ว ปลอดภัยแน่นอน แต่วันนี้คงไม่ได้กลับบ้าน
บอกพ่อกับแม่แกด้วยล่ะ เดี๋ยวเค้าจะเป็นห่วงลูกสาว”คินบอกคนโจ
“ เออๆ…แต่ยัยคิเคียวปลอดภัยแล้วแน่นะ…แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ ไม่เป็นไรมากหรอก…ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง แค่นี้ก่อนนะ”
“ อืม..บาย”
“บาย” คินวางโทรศัพ์ และขับรถพาคิเคียวมาที่บ้านของตน……………………………….
******************************+++++++++++++-------------------+++++++--------------++++++********
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น