ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    reborn!!

    ลำดับตอนที่ #2 : 8018 :อย่าไปจากฉันเลยนะ 2

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 52


    ตอนที่ 2 แล้วนะเนี่ย
    เป็นความคิดของยามาโมโตะ ในช่วงก่อนที่ฮิบาริจะหายไป
    และนี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ฮิบาริหายตัวไปด้วยแหละ
    ตอนแต่งอันนี้ มีความรู้สึกว่าทำไมกันหนอ ยามาโมโตะสุดที่รักของหนูถึงได้ดาร์กสุดหูรูดเยี่ยงนี้
    แล้วในช่วงท้ายก็จะมีใครซักคนเข้ามาแจมด้วย
    จะเป็นใคร  ไปอ่านค่ะๆ
    ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนเข้ามาอ่านของน้องบีมด้วยอ้ะ
    ดีจัยสุดหูรูดเลยค่ะ ^^ ปลื้มสุดหูรูดเลยค่ะ
    ทางที่ดี
    เม้นท์ให้เยอะๆเลยนะคะ
    ส่วนที่อยากให้แต่งคู่อื่นๆที่บีมไม่ได้เขียนไว้ในบอร์ด ก็ได้ค่ะ
    แต่ว่าขอเรื่องนี้จบก่อนได้อ้ะป่าวเอ่ย
    บีมว่าจะแต่ง 6927 ต่อแหละ ไม่รู้ว่าดีมั้ย
    เม้นท์เยอะๆนะคะ
    จะได้แต่งต่อ
    ขอบคุณค่า



     

    อย่าไปจากฉันเลยนะ…..ฮิบาริ….ฉันขอร้องล่ะ…..”

     

    นั่นคือความคิดเพียงอย่างเดียวที่ผมพอจะนึกได้

    นั่นคือคำพูดที่ผมจะพูด  หากเวลาในวันนั้นได้ล่วงกลับมา

    ผมจะพูด  จะกอด  จะพร่ำบอกคำว่ารักที่ข้างกายของเราสองคน

    หากแต่เมื่อเรามิอาจย้อนสายน้ำได้ฉันใด

    ผมเองก็มิอาจย้อนเวลาให้คืนกลับมาได้ฉันนั้น

     

    ………………………วันนั้น  เวลานั้น   ขณะที่ฝนตก……

     

    ก๊อกๆๆๆ!!!  เสียงรัวประตูที่น่าหงุดหงิดจนถึงน่ารำคาญก็ดังขึ้น  พร้อมๆกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังเปรี้ยงอยู่ข้างนอก

    ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันดี  ก่อนหันไปมองที่ประตูบ้าน ก็พบว่ามีแขกมาเยือนในยามวิกาล

    ก็พอจะเดาออกว่าเป็นใครที่มาเคาะประตูบ้านในยามดึกแบบนี้  คงไม่พ้นไปจาก คนคนนั้น แน่นอน

     

    ผมพลิกตัวจากเตียงโซฟาที่ผมใช้เป็นที่นอนประจำในวันที่ผมต้องทำงานจนดึกดื่นเที่ยงคืน เช่นในวันนี้  ผมพลิกตัวจนหล่นตุ๊บลงมา 

     

    ก๊อกๆๆๆๆๆๆ!!!!!!แน่นอนว่าเสียงเคาะประตูอันสุดจะน่ารำคาญก็ยังไม่หยุดเสียที 

     

    รู้แล้วๆ  เดี๋ยวจะเปิดให้เดี๋ยวนี้แหละ

    ผมตะโกนบอก ก่อนเปิดไฟทั่วทั้งบ้าน และคว้ากุญแจบ้านที่วางไว้อยู่บนโต๊ะทำงาน

     

    กริ๊ก!เสียงไขกุญแจดังขึ้น  ก่อนที่ผมจะเปิดประตูรับแขก

             

    ร่างเล็กของบุรุษคนหนึ่งล้มลงมาอยู่ในอ้อมแขนของผม  ผมซอยสั้นสีดำขลับชุ่มน้ำปะทะกับแขนเสื้อขาวของผมมเต็มๆ แน่นอนว่าร่างที่ตากฝนแบบนี้ โดยเฉพาะคนตัวเล็กๆ ทิฐิมากอย่างคนคนนี้ก็สมควรที่จะร้อนผ่าว  ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างตกใจเล็กน้อย เมื่อคนที่เอาแต่เคาะประตูรัวๆเมื่อครู่  บัดนี้สลบไสลอยู่ในอ้อมแขน  แถมยังไข้สูงอีกต่างหาก

     ผมรีบช้อนร่างที่เหมือนอิสตรีของ ฮิบาริ เคียวยะ ไปนอนบนเตียงโซฟา ก่อนปลดประดุมเสื้ออย่างว่องไว เพื่อหวังที่จะทำให้ตัวเขาหายเปียก  ผมคว้าผ้าเช็ดตัวที่กองแหมะแถวนั้นมาเช็ดตัว กุลีกุจอไปคว้าเอาเสื้อขาวที่ผมใช้นอนมาเปลี่ยนอย่างถนัดมือ

    แน่ล่ะ ตัวผมกับเขาต่างกันนี่นา ดังนั้นเสื้อผมเลยออกจะรุ่มร่ามกับเขาไปเสียหน่อย แน่นอนว่าถ้าตื่นมาเมื่อไร  เขาคงได้อาละวาดกับผมแหงๆ

     

    เจ้าผู้พิทักษ์….แค่กๆ….พิรุณ…..แก  ทำให้ฉันเป็นหวัด  …..แค่กๆ….”

     

    อ้า….ฮิบาริ ตื่นแล้วหรอ ผมอุทาน  เมื่อจู่ๆฮิบาริก็ครางออกมา  นัยน์ตาสีนิลกาฬเหลือบมองผมเล็กน้อย ผมใช้หน้าผากแตะหน้าผากฮิบาริเพื่อวัดไข้

     

    นายตัวร้อนจี๋เลยนะ ฮิบาริ

     

    ก็เพราะนายนั่นแหละ เจ้าสัตว์กินพืช

     

    เห……ไม่เห็นเกี่ยวเลยอ้ะ  ฮิบาริ  ผมพูด ก่อนใช้ผ้าเช็ดตัวซับน้ำฝนที่ยังคงเปียกบนผมของฮิบาริอย่างเบามือ

     

    เอามือโสโครกของนายออกไปซะ  เจ้าสัตว์กินพืชซื่อบื้อ!!!”

     

    เอามือออกแล้วใครจะเช็ดผมให้นายล่ะ ฮิบาริ ผมยังคงอดยิ้มไม่ได้กับใบหน้างองุ้ม ที่ถึงแม้ว่าจะแดงก่ำเพราะพิษไข้  แต่ดวงตาสีดำมืดก็ยังคงจ้องแบบอาฆาตมาอยู่ดี  ผมยิ้มอารมณ์ดี

     

    ยิ้มทำไมไม่ทราบ มีอะไรน่ายิ้มนักหนา  ฮิบาริตวาดใส่ผม  จนผมหุบยิ้มแทบไม่ทัน

     

    โอเคๆ  ไม่ยิ้มก็ได้คร้าบ…..”

     

    ความเงียบเข้าปกคลุมเราทั้งสองคน  ฮิบาริ  หรือแม้กระทั่งผมไม่มีใครเอ่ยคำพูดใดออกมา  จนกระทั่งผมรู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหว จึงถามขึ้นมา

     

    ฮิบาริ   วันนี้ทำไมถึงกลับมาช้านักล่ะ

    ผมถามอย่างเป็นห่วง  เพราะทุกครั้งที่ฮิบาริกลับมาจากการไปสืบข่าวที่อิตาลี  เขามักจะกลับมาแวะที่บ้านผมก่อนทุกครั้ง  หากแต่ครั้งนี้  ฮิบาริกลับมาจากอิตาลีตั้งแต่ก่อนจะค่ำ  แต่เพิ่งจะมาถึงบ้านผมตอนเที่ยงคืน  ผมจึงได้แต่ถามอย่างเป็นห่วง มือยังคงซับน้ำที่ยังหยดติ๋งๆลงมาจากผมดำขลับ

     

    ไปหาดีโน่ก่อนมาที่นี่

    เพียงคำตอบห้วนๆ แต่กลับทำให้ผมชะงักกึก 

     

    ไปหาดีโน่ทำไม

     

    ไม่ใช่ธุระของนายเลยนะ  เจ้าสัตว์กินพืช  มันเป็นธุระของฉันกับดีโน่  ไม่ใช่กับนาย

     

    ก็รู้ว่าไม่ใช่ธุระ  รู้ว่าเป็นธุระของนายกับคุณดีโน่  แต่แค่ถามก็คงไม่มีปัญหาหรอกนะ ใช่ไหม ฮิบาริ

    ผมรู้ตัวว่าผมเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงดุขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากดวงตาสีรัตติกาลที่บัดนี้จ้องผมเขม็ง

     

    ไม่ใช่เรื่องของนาย ยามาโมโตะ  ทาเคชิ ว่าแล้ว ร่างบางก็สะบัดผ้าห่ม และมือผมที่จับตัวเขาอยู่ หากแต่กางเกงที่ยาวรุ่มร่าม ที่ผมเปลี่ยนให้เขา กลับทำให้ฮิบาริสะดุดโครมลงเต็มที่พื้นไม้ ผมเดินเข้าไปพยุง

     

    ….โอ้ย!!! หนอย  เจ้าสัตว์กินพืช  แกเอาชุดอะไรมาให้ฉันใส่เนี่ย  ใหญ่ชะมัดเลย!”

     

    ฮะๆ ตัวเองไม่สบายแล้วยังมาทำเป็นปากดีอีกนะ

     

    ผมเริ่มเยาะเย้ย  ในขณะเดียวกัน ที่ฮิบาริเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์หนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ใครจะไปสนล่ะ โดยเฉพาะผมที่ตอนนี้ชักจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว  เมื่อร่างบางทำท่าจะสะบัดตัวออกจากการจับของผม  ผมก็ช้อนตัวฮิบาริขึ้นมาแล้วโยนลงที่เตียงทันที

     

    แกจะทำอะไรน่ะ เจ้าสัตว์กินพืชโสโครก!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันก็แค่ไปหาดีโน่เองนะ

     

    พอที ฮิบาริ ฉันไม่ทนแล้ว  อะไรๆก็ดีโน่ ใช่สิ ฉันไม่ใช่คุณดีโน่ของนายนี่ ฮิบาริ

    แล้วผมก็จูบฮิบาริอย่างแรง ริมฝีปากของเขาร้อนผ่าว ส่วนหนึ่งอาจมาจากพิษไข้  แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นช่วงวินาทีที่ผมอยากหยุดเวลาเอาไว้ หากไม่ใช่ว่าฮิบาริกัดริมฝีปากของผมเสียจนเลือดออก  ผมผละริมฝีปากออกมา รสเฝื่อนๆของเลือดทำให้ผมชะงัก แต่ที่ชะงักยิ่งกว่าคือน้ำหยดเล็กๆที่ไหลลงมาจากดวงตาคู่งามของฮิบาริ

     

    นายร้องไห้เหรอ  ฮิบาริ

     

    ฮึกๆ เจ้าสัตว์กินพืชที่น่ารังเกียจ  แกทำอย่างนี้ทำไม  ฉันกับดีโน่ไม่ใช่อย่างที่นายคิดซักหน่อย

    น้ำเสียงสั่นเครือที่ดูผิดไปจากนิสัยของฮิบาริ ทำให้ผมเริ่มรู้สึกโกรธ มากกว่าที่จะรู้สึกสำนึกผิด ผมคว้าข้อมือเล็กๆที่ร้อนจี๋ขึ้นมา ดึงขึ้น และตะคอกใส่ดวงหน้างาม

     

    ถ้าอย่างนั้น….ถ้าคนที่จูบนายเมื่อกี้นี้คือคุณดีโน่แล้วล่ะก็….นายก็คงจะยินยอมสินะ

     

    ….พูดอะไรบ้าๆน่ะ  ยามาโมโตะ ทาเคชิ!!!”

     

    ไม่ได้ยินงั้นเหรอ ฮิบาริ ฉันพูดว่า ถ้าคนที่จูบนายเมื่อกี้นี้คือคุณดีโน่แล้วล่ะก็….นายก็คงจะยินยอมสินะใช่ไหม!”

    ผัวะ!! ฮิบาริใช้มือข้างที่ไม่ถูกผมจับชกผมจนหน้าหัน เลือดไหลรินลงมาจากมุมปากของผม  เช่นเดียวกับน้ำใสๆที่ลงมาจากดวงตาคมของฮิบาริ

     

    ตลอดมา  ฉันไม่เคยนึกว่านายจะเป็นคนแบบนี้ ยามาโมโตะ  ทาเคชิ  เสียแรงที่ฉันไว้ใจนายนะ  ถ้านายคิดว่าฉันกับดีโน่เป็นอย่างนั้นล่ะก็นะ…..”

    ฮิบาริสะบัดมือออกจากการจับกุมของผม เดินลงมาจากเตียง สะบัดทอนฟาออกมา

     

    ฉันก็จะทำให้นายสมหวังเอง  ยามาโมโตะ  ทาเคชิ

     

    ร่างบางสะบัดกายเดินออกจากบ้านของผมไปแล้ว (แน่นอนว่าถอดเสื้อที่ผมใส่ให้ แล้วเอาเสื้อตัวเองไปใส่แล้วนะ) ทิ้งให้ผมนั่งจมอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว  เสียงประตูบ้านที่ปิดดังปังนั้น เป็นสัญญาณยืนยันว่าฮิบาริที่ผมรักไปจากผมแล้วจริงๆ

    [……ยามใดไร้เมฆา…….

    …….ยามนั้นไร้พิรุณ……..

    …….ถ้าเช่นนั้น………..

    …….พิรุณควรจักทำเช่นไร……

    ……..หากเมฆา……….

    ……..หายสูญสิ้น……..]

    อย่าไปจากฉันเลยนะ....... ฮิบาริ …….ฉันขอร้องล่ะ

    ในช่วงเวลานั้น ผมนึกได้เพียงแค่นั้นจริงๆ

    ถ้าย้อนเวลากลับไปได้

    ผมจะกอดฮิบาริ

    ผมจะขอโทษเขา

    จะพร่ำบอกว่าผมรักเขาสุดหัวใจ

    แต่ฮิบาริที่ผมรู้จักไปแล้ว

    ไปจากผมแล้ว

    น้ำหยดใสๆไหลลงมาจากดวงตาของผม

    มือสองข้างยกขึ้นมาปิดน้ำตา

    แต่ไม่อาจซับหยาดฝนที่ตกหนักเบื้องนอกได้เลย

    …………………………………………………………………………………………

     

    ไอเจ้าบ้ายามาโมโตะ  แกเป็นอะไรน่ะ ทำไมถึงได้เหม่ออย่างนี้ล่ะ

    เสียงๆหนึ่งปลุกผมจากภวังค์เมื่อครู่  ภวังค์ที่ผมคิดว่าเป็นไปได้ไหมนะว่าจะเป็นสาเหตุให้ฮิบาริหายไป  และเมื่อผมเหลือบดวงตาขึ้นไปมอง  ก็พบว่า โกคุเทระ กำลังใช้นัยน์ตาสีมรกตมองผมอย่างเป็นห่วง

     

    ….เปล่าหรอก แหะๆ แค่คิดถึงเรื่องนิดหน่อยน่ะ

    ผมตอบ ใช้มือใหญ่กุมขมับ  รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา  โกคุเทระใช้มือตัวเองขึ้นมาวัดไข้ผมบ้าง

     

    อ่า  ไม่ได้มีไข้นี่น่า  นี่ ยามาโมโตะ  ถ้านายรู้สึกไม่ดีขึ้นมาล่ะก็นะ บอกฉันได้เลยนะ

    ผมมองโกคุเทระ ก่อนจะยิ้ม ไม่รู้ว่ามันจะเป็นสาเหตุให้เขารีบแก้ตัวหรือเปล่า

     

    ฮ่า อย่ามามองฉันแบบนั้นสิ ไอเจ้าบ้า ฉันก็แค่เป็นห่วงนายตามที่รุ่นที่ 10 ได้ฝากฝังนายมาให้ฉันเท่านั้นเองน่ะ      ผมยิ้มอีกครั้ง   อย่างน้อยผมก็ไม่ได้อยู่คนเดียวในตอนนี้……………………..

    ……………………….

     

    อย่างน้อยที่สุด

    ฉันก็รู้ดีว่านายไม่เคยรักฉัน

    ฉันรู้ดีว่าฉันเป็นได้เพียงเจ้าคนขี้โวยวายที่ได้แต่มองตามแผ่นหลังของนายกับคนคนนั้นเท่านั้น

    แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ  ยามาโมโตะ  ทาเคชิ

    ฉันขอเพียงแค่มีที่ให้ฉันได้ยืนบ้างในใจของนาย

    ต่อให้พื้นที่ตรงนั้นจะเป็นพื้นที่ที่เล็กที่สุดในใจของนาย

    ฉันก็พอใจแล้ว

    ฉันรักนาย

    ยามาโมโตะ  ทาเคชิ

    ได้ยินไหม

    ได้ยินไหม

    ได้ยินไหม

    ได้ยินไหมว่า โกคุเทระ  ฮายาโตะ

    คนที่เป็นเพื่อนกับนายมาตั้งแต่เด็กๆรักนายขนาดไหน

    ได้ยินไหม

    ได้ยินไหม

    ได้ยินไหม

    [………ยามที่เมฆาและพิรุณอยู่เคียงข้างกัน

    วายุได้เพียงแต่จ้องมอง

    แม้ร่ำร้องเท่าใด

    ก็มิเคยได้รับความรักดั่งที่พิรุณมีให้เมฆาได้เลย

    แต่เพียงเท่านั้น

    วายุก็พอใจแล้ว

    ขอเพียงแค่

    มีนภาคอยโอบล้อม

    ให้วายุและพิรุณอยู่ใต้พื้นนภาเดียวกัน

    เท่านั้น

    วายุก็พอใจ…….]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×