ไดโนเสาร์กระเบื้องเคลือบ
เช้าอันสดใสในวันหยุดได้ทอแสงยามอรุณอันอบอุ่น เสมือนต้อนรับเด็กๆเข้าสู่วันพักผ่อนที่สะดวกสบายและน่าใฝ่ฝันถึง
เด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง อายุประมาณหกเจ็ดขวบฮัมเพลงเดินออกจากสวนบริเวณบ้านไปอย่างอารมณ์ดี เพื่อจะไปยังบ้านที่ถัดออกไปจากบ้านอันรมรื่นของเขาประมาณเจ็ดแปดหลัง บ้านของเพื่อนที่สนิทกันมากที่สุดของเขา...
“ วิทย์ ” เด็กน้อยตะโกนเรียกเพื่อนเสียงดังลั่น และเพิ่มความเร็วขึ้น “ วิทย์ ออกมาเล่นกันได้แล้ว ”
“ อะไรกัน ต้น มาถึงหน้าบ้านเราก่อน ค่อยเรียกสิ วิ่งไปตะโกนไปแบบนี้ เหนื่อยตายกันพอดี แถมคุณลุงคุณป้าแถวนี้จะว่าเอาได้อีกต่างหาก ” วิทย์ เด็กชายวัยเดียวกันกับต้นผู้ใส่แว่นเลื่อนประตูกระจก สวมรองเท้าและเดินออกมาจากบ้านพูดเตือนเพื่อน
“ เออ รู้แล้วน่า แล้วจะไปเล่นกันได้ยัง ” ต้นพูดเชิงรำคาญที่เพื่อนของเขา‘พูดมาก’ “ ให้เราไปขออณุญาตพ่อแม่เราก่อนนะ เอ้อ ใช่! เราจะไปหยิบของเล่นใหม่ของเราด้วย รอสักครู่ ” วิทย์รีบวิ่งกลับเข้าบ้านไป “ เฮอะ! ไม่เคยคิดจะเตรียมพร้อมเลยรึไงนะ ” ต้นบ่นเบาๆ
ไม่นานนัก วิทย์ก็เดินออกมาพร้อมกับแบกกล่องของเล่นไม้ที่ทาสีเป็นรูปสวนสวยงามดุจดั่งอุทยานในฝันและมีสติ๊กเกอร์รูปไดโนเสาร์รูปร่างหน้าตาน่ารักขนาดใหญ่ติดอยู่บนฝาของกล่อง ทั้งสองพากันเดินออกไป เพื่อจะไปยังสถานที่เล่นที่โปรดของพวกเขา...สนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน
“ นี่ไง เป็นยังไงบ้าง ชุดของเล่นคุณหมอของเรา ” วิทย์หยิบของเล่นใหม่แต่ละชิ้นออกมาจากกล่องเก็บอุปกรณ์คุณหมอเพื่อให้เพื่อนดู “ อืม...วันนี้เราจะเล่นเป็นคุณหมอกับคนไข้เหรอ ” “ ใช่ สลับกันเป็นคุณหมอ ขอเราเป็นก่อนแล้วกันนะ ” “ ก็ได้ ก็มันเป็นของเล่นของนายนี่ ” ต้นยอมรับเหตุผล
“ อืม...นี่ ไดโนเสาร์เซรามิกจากขอนแก่น มีสเตโกซอรัส ไทรเซอราทอปส์ ไทแรนโนซอรัส ภูเวียงโกซอรัส ไดโนเสาร์ของประเทศไทย ไดโนนีคัส เวโลซิแรปเตอร์... ” วิทย์ผู้ชื่นชอบไดโนเสาร์ค่อยๆหยิบของเล่นกระเบื้องเคลือบออกมาจากถุงที่แน่นไปด้วยแผ่นกันกระแทกหลายๆชั้น พลางร่ายชื่อยาวๆจำยากๆของสัตว์ดึกดำบรรพ์เหล่านั้นออกมาไม่หยุด ทำให้ต้นร้องออกมาด้วยความรำคาญว่า “ โอ๊ย! พอแล้ว หยิบออกมาอย่างเดียว ไม่ต้องบอกชื่อมันก็ได้ ”
วิทย์พยักหน้าตกลงแบบไม่เต็มใจและไม่ค่อยชอบนักกับนิสัยเอาแต่ใจของเพื่อน แล้วไดโนเสาร์ตัวเล็กๆ15ตัวก็ถูกนำออกมาวางเรียงกัน ดูน่ารักดี
“ นี่ เราให้ต้นแล้วกัน ” วิทย์หยิบไดโนเสาร์ชิ้นจิ๋วออกมาชิ้นหนึ่งให้เพื่อน “ พันธุ์สไปโนซอรัสเชียวนะ ” “ ขอบใจ ” ต้นบอก “ เรามาเล่นคุณหมอกับคนไข้กันเถอะ ” “ โอเค เริ่มเลยนะ ”
ทั้งสองเล่นด้วยกันจนถึงสาย จนกระทั่งคุณแม่ของวิทย์ผู้ใจดีเดินเข้ามาหา “ เด็กๆ ไปกินแซนด์วิชช์กันก่อนดีกว่าจ้ะ มีไส้แฮมชีส ทูน่าและปูอัดด้วยนะจ๊ะ” “ ผมยังไม่หิวหรอกครับ” ต้นหันหน้าไปพูดกับแม่ของวิทย์ชั่วครู่เดียว แล้วหันกลับมาหาเพื่อนของเขาที่ลุกขึ้นยืนเตรียมจะไปหาแซนด์วิชช์แฮมชีสของโปรด “นายไปกินก่อนเถอะ วิทย์ เดี๋ยวเราเฝ้าของเล่นให้เอง ” “ เราทานเสร็จแล้ว จะเอาน้ำหวานมาให้นะ ” ต้นพยักหน้าตอบรับความมีน้ำใจของเพื่อน
ทันทีที่วิทย์หายเข้าบ้านลับตาไป ต้นก็เริ่มหยิบของเล่นชิ้นโน้นชิ้นนี้ของวิทย์ออกมาดู “ โห! มีแต่ของเล่นมีระดับทั้งนั้นเลย ปลาร้องเพลงได้ที่โฆษณาตามห้าง ตุ๊กตาหมีใส่ชุดเจ้าชายยี่ห้อดัง อ๊ะ! นี่มัน ที่ยิงเครื่องบินที่เห็นในทีวีนี่นา! ” ต้นกดยิงเครื่องบินของเล่นออกไป ทำให้มันพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง จนไปชนกับหอคอยบล็อกไม้พังทลาย บล็อกไม้หลายสิบชิ้นกระเด็นไปทั่วทิศทาง และส่วนใหญ่ล้มไปทับไดโนเสาร์เซรามิกที่วิทย์ให้กับต้นจนคอหักหางหลุดแตกออกมา “ แย่แล้ว!!! ” ต้นร้องตะโกนเสียงดัง และวิ่งหนีออกจากสถานที่เกิดเหตุไปอย่างรวดเร็ว
ตัวการความเสียหายรีบวิ่งผ่านเข้ารั้วเหล็กของบ้านไปด้วยความตกใจ แต่ยังไม่เข้าบ้าน เขาได้แต่หอบแฮกๆอยู่ตรงสวนหน้าบ้าน เป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้าวา(นิลลา) แมวที่เขาเลี้ยงไว้พยายามเรียกร้องความสนใจ โดยการครางเบาๆอย่างน่ารัก ต้นนั่งลงกับพื้นดินที่เต็มไปด้วยหญ้าเพราะความเหนื่อยและลูบตัวเจ้าวา พลางถอนหายใจ “ เฮ้อ! ฉันจะทำยังไงดีนะ วิทย์ต้องโกรธฉันมากแหงๆ ” เขาลุกขึ้นเดินวนไปวนมาอย่างกระวนกระวาย แล้วจึงตัดสินใจว่าจะไปปรึกษาพ่อแม่ของเขา
ต้นเปิดประตูบ้านเข้าไป แล้วเรียกพ่อแม่ของเขา “ มีอะไรหรือจ๊ะลูก ” แม่ของเขาเดินออกมาจากห้องครัว “ เอ่อ
” ต้นเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟังด้วยความร้อนใจ จากนั้นแม่ก็เอ่ยขึ้นว่า “ บางที ถ้าพ่อหรือแม่ไปรับลูกที่โรงเรียนช้า หรือลืมเรื่องสำคัญ พ่อกับแม่จะบอกลูกว่าอะไรจ๊ะ ”
“ อืม...ก็บอกเหตุผล...และก็พูดว่า ‘ขอโทษนะลูก’ ครับ อ๋อ! แม่กำลังจะบอกว่า... ”
“ ใช่แล้วจ้ะลูก แม่อยากให้ลูกไปขอโทษเพื่อนเค้า ” “ อืม... ” ต้นหน้าจ๋อยลงและคอตก แต่เขาก็พูดว่า “ ครับ ผมจะไปพูดกับเพื่อนครับ ” “ ดีมากลูก ” เสียงพ่อตะโกนออกมาจากห้องนั่งเล่น แม่ก็ลูบหัวลูกอย่างอ่อนโยน “ แม่ก็คิดว่าดีมากเหมือนกันจ้ะ ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ วิทย์เขามีเหตุผลอยู่แล้ว”
เธอยิ้มและยืนมองลูกชายตัวน้อยๆวิ่งออกไปจากบ้าน...จนกระทั่งเขาลับสายตาไป...
ต้นวิ่งไปถึงสนามเด็กเล่นก็พบว่าเพื่อนของเขายืนรอด้วยสีหน้าฉุนเฉียวอยู่แล้ว วิทย์รู้สึกหงุดหงิด โมโหและเอือมระอาเป็นอย่างมาก แต่แล้ว เมื่อต้นพูดบางอย่างให้เพื่อนของเขาฟังและก้มลงไปเก็บของที่กระจัดกระจายให้เรียบร้อย วิทย์ก็มีทีท่าที่ดีขึ้น เขายิ้มออกได้และพูดกับเพื่อนว่า “ ไดโนเสาร์เซรามิกของต้นน่ะ ซ่อมพอได้นะ เอาไปติดกาวก็สวยคล้ายๆของเดิมแล้ว ” ทั้งสองยิ้มให้กันขณะแสงยามเที่ยงวันเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ
ทุกวันนี้ ผ่านมากว่าสิบปีแล้ว ต้นซึ่งใกล้เข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเก็บรูปถ่าย สมุดเฟรนด์ชิป และความทรงจำดีๆระหว่างเขากับเพื่อนๆ...โดยเฉพาะวิทย์ ความทรงจำดีๆที่ยังรวมถึงเหตุการณ์ในวันนั้น...ซึ่งมีไดโนเสาร์กระเบื้องเคลือบตัวเล็กๆเป็นเครื่องเตือนความทรงจำและคุณค่าของคำว่า ‘ขอโทษ’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้มิตรภาพอันงดงามของทั้งสอง...ยืนยาวมาจนบัดนี้...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น