ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    '♡[FIC]♡{Lucky Fanboy}♡’×CHANBAEK×

    ลำดับตอนที่ #2 : '♡{Lucky Fanboy}♡’ ×01×

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 60


     

     
    '♡{Lucky Fanboy}♡’ 
    ×01× 







     
     
    " อูว้าวว~ "



           ในที่สุดชานยอลก็มาถึงบ้านขนาดไม่ใหญ่มาก พอที่คนสองคนจะอยู่
       ตอนนี้ชานยอลต้องเริ่มทะยอยเอากระเป๋าแต่ละใบเข้าบ้าน



    " อึบ! "



       พอขนสัมภาระที่เซฮุนทิ้งไว้หน้าบ้านให้ ก็ใช้กำปั้มทุบบริเวณไหล่ มองไปรอบๆบ้าน ดูโล่งไปหมดเหมือนยังไม่มีใครมาเหยียบที่นี่



    "เดินทางมาลำบากรึเปล่าครับ? "



       ชานยอลหันไปยังต้นเสียง เหมือนต้องมนต์สะกด อะไรกัน แบคฮยอนมาแบบเขายังไม่ทันตั้งตัวเลย



    " ออ..อือ..ม่ะ..ไม่ลำบากครับ "



       ชานยอลฉีกยิ้มให้ร่างบางก่อนจะไปช่วย คนตัวเล็กที่ถือกระเป๋าในมือ มาถือเอาไว้เอง



    " เดี๋ยวผมช่วยครับ "



    " นายชื่ออะไรอ่ะ "



    "ผมชื่อ...ปาร์ค ชานยอล เรียกชานยอล เฉยๆก็ได้ครับ "



       แบคฮยอนเดินตรงไปยังโซฟาใจกลางบ้าน และนั่งลงในที่สุด



    " นายไม่ต้องเกร็งก็ได้ ทำตัวสบายๆ "



    " ออ...ได้ครับ "



    "เลิกพูดว่าครับได้แล้ว นายก็ดูเหมือนจะรุ่นเดียวกับฉัน "



       แบคฮยอนลุกจากโซฟา เดินสำรวจบ้านเริ่มตั้งแต่ชั้นล่างจนไปถึงชั้นสองของบ้าน



    " นี่! ชานยอล นายขึ้นมาเลือกห้องสิ "



       ชานยอลรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองทันที



    " แล้วคุณแบคฮยอนอยู่ห้องไหนล่ะครับ "



       แบคฮยอนหันมามองหน้าชานยอล แล้วยิ้มอ่อนที่มุมปาก



    " ก็อยู่.....4ห้องหัวใจของนายไง "



       คำตอบที่ได้ยินจากปากร่างบางแทบทำชานยอลที่ตอนแรกเปรียบดั่งน้ำแข็งจนตอนนี้ละลายไปกองกับพื้นหมดแล้ว



    " พูดเล่นแค่นี้ ทำเป็นอึ้ง ฉันห้องนี้ อืม.....ส่วนนายก็ห้องข้างๆฉันนี่แหละ "
     


       ชานยอลก็พยักหน้าเป็นคำตอบ เพราะในตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกหมดแล้ว แบคฮยอนหันมามองคนตัวสูงที่ยืนนิ่งไม่ได้สติ สงสัยสติเลอะเลือนไปกับคำขี้เล่นของเขาก็เป็นได้



    " นายรออะไร?ทำไมไม่หยิบกระเป๋านายขึ้นมาล่ะ หรือจะนอนห้องเดียวกับฉัน? "



    " ออ...เปล่าครับ เดี๋ยวจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ "



       ให้ตายเถอะ แบคฮยอนทำเอาชานยอลแทบเป็นบ้าไปข้าง แค่เพิ่งเจอกันวันเดียวเท่านั้น แล้ววันต่อๆไปจะเป็นยังไงบ้างนะ





    #ฟิคแฟนบอยบยอน





       ก๊อกๆ ๆ ๆ ๆ



    " คุณแบคฮยอนครับ คือ...ผมจะออกไปข้างนอก จะเอาอะไรรึเปล่าครับ "



       วันนี้ทั้งคู่วุ่นมาทั้งวันแล้ว ก็ถึงเวลาทานข้าวเย็น แบคฮยอนไม่ตอบแต่อย่างใด เจ้าตัวเปิดประตูออกมาเอง



    " เดี๋ยวฉันไปด้วย "



    " ออ...ครับ "



    " นายจะสุภาพไปถึงไหน? ห๊า! ชานยอล "



       ชานยอลยิ้มหลบๆ ก็จู่ๆมาอยู่กับไอดอลที่ตัวเองติ่งนักติ่งหนาและรักเขามากมาย จะให้ทำตัวถูกยังไงได้ล่ะ ย่อมสุภาพไว้ดีที่สุด



    " เดี๋ยว...ลงไปรอข้างล่าง..น่ะ...นะ! "



       ไม่รอช้า ชานยอลรีบลงไปทันทีขืนอยู่นานกว่านี้มีโอกาสเหมือนไอ้เพื่อนฮุนแน่ ปาร์ค ชานยอลนะ ปาร์ค ชานยอลจะพ้นคืนนี้ไหมเนี่ย ทำไงดีๆ แบคฮยอนจะไปทานข้าวกับเรา ตื่นเต้นเว้ย!



    " ฉันเสร็จแล้ว ไปกัน "



       แบคฮยอนเข้าจับมือชานยอลและจูงเดินออกจากบ้านเชิงว่าเป็นสุนัขเลี้ยง
    ถึงอย่างงั้น ชานยอลก็ยอมเป็นสุนัขให้แบคฮยอนเลี้ยงล่ะว่ะ เพราะได้เจ้านายทั้งน่ารักแถมเอาใจใส่อย่างงี้



    " นายชอบทานอะไรเป็นพิเศษล่ะ? "



       แบคฮยอนถามพลางเดินไปด้วย ส่วนร่างสูงที่เดินอยู่ข้างๆ ยกมือเกาหัวตัวเอง แบบ ก็คนมันเขินอ่ะไม่รู้จักตอบอะไร คนอะไรถามกันโดยที่อีกคนตั้งตัวไม่ทัน



    " นายนี่ก็แปลกคนนะ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ถ้าเป็นแฟนคลับคนอื่น เขาคงจะถามโน่นถามนี่ไปแล้วแหละ ดีเหมือนกันขี้เกียจตอบ"



    " แล้ว คุณจะทานอะไรล่ะ? ผมอะไรก็ได้ "



    " ร้านต๊อกโบกิ ร้านนั้นดีไหม? "



       แบคฮยอนชี้ไปที่มีร้านต๊อกโบกิตั้งขายอยู่ริมถนนก่อนมือบางหยิบแว่นตาสีดำออกมาใส่เพื่อปิดบังหน้าตา ส่วนร่างสูงก็มองร่างบางที่ใส่แว่นสีดำตอนกลางคืน ก็มันตลกอ่ะ แดดก็ไม่ออกสักหน่อยแถมใส่แล้วมืดอีกต่างหาก ปาร์ค ชานยอลฉันเสียดายความฉลาดที่นายเก็บสะสมมาว่ะ มาโง่อะไรตอนนี้



    " ทำไมคุณใส่แว่นกันแดดตอนกลางคืนล่ะครับ แล้วจะมองเห็นไหม๊? "



       ชานยอลเดินไปอยู่ตรงหน้าแบคฮยอน แล้วยกมือขวาปัดไปมาเชิงพิสูจน์ว่ามองเห็นรึเปล่า พร้อมสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังขำร่างบางอยู่ แต่แล้วร่างเล็กไม่รอช้ายกมือฟาดอย่างจังที่มือหนาทันที



    " ฉันเป็นศิลปินนะ ก็ต้องปิดบังใบหน้าไว้สิ ฉันคิดว่านายจะฉลาดกว่านี้สะอีก "



    " ออ..จริงด้วย ผมไม่รู้อ่ะครับว่าชีวิตศิลปินจะเป็นอย่างงี้ ตอนนี้ผมก็ได้เรียนรู้จากคุณแล้ว คุณก็คิดว่าผมเป็นคนฉลาดตามเคยได้เลยครับ "



    " ฉันคงต้องคิดใหม่แล้วแหละ ว่านายฉลาดไม่ธรรมดาจริงๆ ไปกันเถอะ หิวแล้ว "



       แบคฮยอนส่ายหัวกับความฉลาดน้อยของชานยอลก่อนบอกให้เดินต่อเพราะท้องมันประท้วงปิดถนนอยู่แล้ว คราวนี้ร่างสูงรวบรวมความกล้าจับมือร่างบางเดินบ้าง ปาร์ค ชานยอลนายกำลังทำไรอยู่รู้ตัวไหม แต่เขาไม่ปฏิเสธเราคงไม่เป็นไรหรอก พอมาถึงที่ร้านร่างสูงรีบปล่อยมือทันที พร้อมเดินไปสั่งอาหารทันทีไม่รอช้า



    " ป้าครับ ต๊อกโบกิ 1 ที่ กิมจิ 2ที่ครับ "


      ร่างสูงสั่งอาหารเสร็จเดินตรงมาที่โต๊ะทันที ก่อนที่จะย่างกายาเสด็จนั่งก็พินิจในใจว่า ถ้านั่งข้างๆเขา เราจะได้ใกล้ชิดเขามากขึ้น แล้วถ้านั่งตรงข้าม เท่ากับเราได้โบนัสคูณสองทีเดียว ถึงจะไม่ใกล้ชิดมากแต่ได้ทั้งจ้องหน้าเวลาคนตัวเล็กกินแถมยังต้องเงยหน้ามาเจอะกับเราพอดี นั่งตรงข้ามนี่แหละดีคูณสอง



    " โต๊ะไม่มีให้นั่งหรอ?หรือจะยืนกิน "


      ร่างบางมองคนตัวสูงยืนทึ่มตรงหน้าตัวเอง ถ้าขืนพูดให้นั่งช้ากว่านี้มีหวังคนมองกันทั้งร้านเยอะกว่านี้อีก


    "แบคฮยอน ที่ผมสั่งไปกินได้มั๊ยอ่ะ?"


    "แล้วทำไมไม่รู้จักถามกันก่อนล่ะ นายนี่ก็จริงๆเลย"


    "กินไม่ได้หรอ เดี๋ยวไปสั่งใหม่ให้"ทำท่าจะลุกออกไปแต่ถูกคนตัวเล็กรั้งแขนไว้สะก่อน



    " ฉันก็คนนะ ก็กินได้สิ ไม่ต้องหรอก "



       สักพักป้าเจ้าของร้านได้นำอาหารที่สั่งมาส่ง ก่อนจะไปนางจ้องหน้าคนตัวเล็กนานมากจ้องจนคนตัวเล็กแทบเอาหน้าซุกถ้วยต๊อกโบกิได้อยู่แล้ว



    " โอ๊ะ! ใช่ คุณแบคฮยอนรึเปล่าค่ะ? "



       ร่างบางก้มหน้าลงพร้อมเอามือปิดหน้าไว้ ชานยอลเริ่มรู้สถานการณ์ จึงยกมือขึ้นโบกไปมารัวๆ เพื่อบอกว่าไม่ใช่



    " ไม่ใช่ครับป้า นี่แฟนผมเอง เขาเหมือนแบคฮยอนดาราดัง ใครๆเขาก็บอกกัน "




    " โอ้ เหมือนมากๆเลย ทำเอาป้าดีใจยกใหญ่กะว่าจะขอเซลฟี่ด้วย ป้าจะอัพลง โซเชียล เฟชบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ไลน์ กาเกาท็อค เว่ย"



    "อย่างนั้นเลยหรอครับ ป้านี่เล่นโซเชียลเยอะเลยนะครับเนี่ย"



    "แน่นอน ป้านี่ติ่งตัวแม่เลยแหละ ป้าเริ่มติ่งใหม่ๆรุ่นประธานหยาง โฮ้!แซ่บมาก ป้านี่ตามติดอย่างกะปลิง ผลงานอะไรออกมาป้าเปย์หมด จนเขาผลิตน้องใหม่ออกมา ก็คือบิ๊กแบง ตอนนั้นติ่งหนักมากซับพอร์ตเต็มที่ จนป้าเริ่มมีอายุมากก็หางานทำเพื่อเปย์พวกเขาต่อ ล่าสุดค่ายygก็มีเกิร์ลกรุ๊ปออกมาอีกนะ อะไรนะ บูมบาย่า ยา ยา บาบูมบายา"



      ป้าพร้อมทำท่าเต้นให้ดู บ่งบอกว่าเขาติ่งตัวแม่จริงๆ เท่าที่เขาเล่าให้ฟังชานยอลยังอายกับความชอบของป้าเขา



    "ป้าสุดยอดเลยฮะ เปย์ต่อไปนะป้านะ"



    " แน่นอน ป้าก็เริ่มติ่งแบคฮยอนหนักขึ้นแล้วเหมือนกัน เห็นจะมีอัลบั้มออกใหม่ ป้าต้องเตรียมเงินเปย์สะแหละ ว่าไปหนูสองคนนี่ก็เหมาะสมกันดีนะ เอ่อ!ชายชาย ป้าชอบๆ ป้าชอบงานละเอียด ฮ่าๆ"



    "ป้าครับ มีคนมาซื้อของที่ร้านแล้วครับ"



      ชานยอลชี้ไปที่ร้านผู้โดนถูกทิ้ง เพราะป้าเจ้าของร้านมัวมาเม้าส์มอยซอยเก้าไม่หยุด จนต๊กโบกิร้อนๆเย็นชืดหมดแล้ว คนตัวเล็กที่เอาหน้าซุกกับโต๊ะผู้ที่ถูกลืมไปชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นท้วงความบริสุทธิ์ของตัวเอง



    " นึกว่านายจะรู้สถานการณ์ไหนได้ชวนป้าเขาคุยสะยาวเหยียด เก็บป้าไปคุยด้วยที่บ้านเลยป่ะล่ะ เอ่อ! แล้วใครเป็นแฟนนายไม่ทราบ? "



      คนตัวเล็กวีนใส่ร่างสูงก่อนจะใช้นิ้วมือเรียวบางกดไปบริเวณต้นคอเพราะว่าตัวเองซุกหน้านานไปหน่อย



    " รึจะบอกป้าเขาว่าคุณเป็นศิลปินหน้าหวานที่ชื่อ บยอน แบคฮยอน ฮื้ม? "



       แบคฮยอนทำท่าจะหัวเสียเอามากๆ ก่อนจะครีบกิมจิเข้าปากคำโต หารู้ไม่ว่ารสชาติอันดุร้ายของมันคืออะไร ไม่ทันได้กลืนลงท้องคนตัวเล็กก็จ้องชานยอลด้วยสีหน้าที่ขึ้นสีแดง แสดงออกได้ชัดว่าตัวเองได้รับรสความเผ็ดร้อนของกิมจิแล้ว




    " อายอออ้ำอ่อย เอ็ดๆ "
    [นายขอน้ำหน่อย เผ็ดๆ]


    "ใครจะอ่อยอะไรนะ"


      ชานยอลเอียงหูฟังแบบกวนประสาท แกล้งคนตัวเล็ก เพราะเวลานี่คนตัวเล็กน่ารักมากๆเลยแหละเห็นชานยอลแกล้งใช้ว่าจะไม่ช่วยแต่ตัวก็เดินตรงไปยังจุดบริการน้ำของทางร้านอยู่ดี

     



    " อ่ะ "

            

       ยื่นน้ำแก้วโตให้ร่างบางก่อนจะลงนั่งที่ตัวเอง ส่วนร่างบางรีบดื่มน้ำเข้าไปเยอะๆ เพื่อบรรเทาความเผ็ดแสบของกิมจิที่ทำเรื่อง
     



    " หัวเราะอะไร?! "

       

       ชานยอลชี้บริเวณปากคนตัวเล็กว่าคราบกิมจิยังติดขอบปากพร้อมอมยิ้มไปด้วย
     



    " อะไรของนะ...? "
     



           พูดยังไม่จบประโยคร่างสูงเอื้อมมือไปเช็ดปากให้ร่างบางทันที เพราะคราบซอสกิมจิสีแดงๆติดบริเวณมุมปากจึงทำให้เป็นจุดเด่นของใบหน้าดูแล้วตลก คนอะไรกินไม่ระวัง
     


    " นี่ไง คราบกิมจิติดขอบปากคุณ "



      ร่างบางก้มหน้าลงต่ำก่อนจะเปิดประเด็นเรื่องใหม่พูดกัน



    " นายรู้แล้วใช่ไหม๊ว่า รายการนี้ทำอะไรบ้าง "



       ชานยอลพยักหน้าก่อนจะบอกให้ฟังถึงรายละเอียดที่ได้รับมาหมาดๆก่อนเดินทางถึงที่ถ่ายทำรายการ
     


    " เท่าที่ผมได้สคริปมาก็คือ ให้อยู่บ้านหลังเดียวกัน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน1เดือนเต็ม "



       ร่างสูงตอบอย่างมั่นใจ แบบอ่านสคริปมาดีพอสมควร เรื่องอย่างงี้เขาไม่พลาดแม้แต่ตัวอักษรเดียว



    " แล้วมีอีกอย่างนึง คือ เขาจะมาสัมภาษณ์ก่อนอยู่ด้วยกันและหลังอยู่ด้วยกัน นายก็เตรียมตัวด้วยแล้วกัน เขาสัมภาษณ์พรุ่งนี้แล้ว "


       ร่างบางตอบทั้งๆที่ครีบกิมจิตัวแสบเล่นไปด้วย
     
     

    " ออ..ครับ "



         ร่างสูงอมยิ้มบางๆที่วันนี้ตัวเองมีความรู้สึกเหลือล้นเพราะอะไรก็น่าจะรู้อยู่ จบกับการทานอาหารดินเนอร์ทั้งคู่ ต่างพากันกลับที่พัก ชานยอลกับแบคฮยอนไม่มีใครเปิดประเด็นพูดอะไร ทั้งคู่ต่างเงียบจนถึงห้องใครห้องมัน ร่างสูงตรงเข้าที่นอนนุ่มของตัวเองก็เริ่มทำการบิดตัวไปมาจนตัวเองเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยเพราะวุ่นมาทั้งวันแถมตอนเย็นยังทะเลาะกับร่างบางอีกด้วย
     














       ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก



    " ชานยอล นายตื่นยั้งเนี่ย ทางรายการเขามาแล้วนะ "



       ชานยอลสะดุงตื่นเฮือกเพราะมัวแต่หลับฝันหวานจนลืมเวลาไปเลยว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง
     
     

    " ครับๆ เดี๋ยวผมอาบน้ำแต่งตัวแป๊ปครับ "
     


       พอนั่งตั้งสติสัมปชัญญะจนครบถ้วนแล้ว ร่างสูงไม่รอช้าก็รีบขว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำทันที
     
     

       สายน้ำที่ไหลลงมาจากฟักบัว ชโลมร่างกายขาวเนียนของร่างสูง จนแลดูสะอาดแล้วหวังว่ามันคงจะล้างความตื่นเต้นทั้งหมดที่มีไป
     
     

           ชานยอลออกจากห้องน้ำมาด้วยผ้าขนหนูพันรอบตัวมาครึ่งตัว ก่อนจะเดินดิ่งๆไปยังตู้เสื้อผ้า แล้วก็ขว้ากางเกงเดปดำคู่ใจมาใส่ แล้วตามมาด้วยเสื้อยืดสีดำลายอักษรHBAที่แขวนใกล้ๆเสื้อยืดตัวอื่นอีกมากมาย ไม่วายที่จะหยิบเสื้อแขนยาวคู่ใจไปด้วย ไม่รอช้าร่างสูงเดินออกจากห้องไปแล้วลงยังชั้นล่างสุดทันที
     


    “ชานยอลนายมานั่งข้างๆฉันสิ”
     
     

       ได้ยินดังนั้นผมก็ไม่รอช้า เดินดิ่งๆไปนั่งข้างศิลปินดังที่เรียกเมื่อกี้ทันที ก็เขาเรียกอ่ะห้ามขัดๆ
     


    “งั้นเริ่มกันเลยนะครับ”
     
     

       คนที่นั่งตรงข้ามกับผมคาดว่าน่าจะเป็นพิธีกรของรายการนี้ ได้กล่าวขึ้นก่อนที่กล้องทุกตัวที่ถูกตั้งตามจุดต่างๆที่เริ่มถ่ายตามหน้าที่ของมัน
     


    “วันนี้เป็นวันถ่ายทำก่อนอยู่ด้วยกันนะครับ รู้สึกยังไงบ้างครับที่เมื่อวานได้อยู่ด้วยกันมาแล้ววันนึง”



       พิธีกรได้ตั้งคำถามขึ้นก่อนจะหันหน้าละกล้องมาหาผมกับไอดอลของผม แต่ผมไม่อ้าปากตอบแต่อย่างใดเลยให้เป็นหน้าที่ของแบคฮยอนตอบแทน



    “ดีครับ คือได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับของตัวเองได้รู้อะไรๆหลายอย่างครับ หวังว่าวันต่อๆไปผมจะได้รู้ข้อผิดพลาดที่ผมยืนอยู่บนเวทีมากกว่านี้นะครับ”
     


       พูดจบร่างบางหันหน้ามาหาผมเข้นเพื่อจะให้ตอบอะไรบ้างเพราะผมเอาแต่ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม โดยไม่พูดสักแอะ
     
     

    “ตื่นเต้นมากครับที่ได้มาอยู่ใกล้ไอดอลของตัวเองแบบนี้”




       พูดออกไปพลางเหลือบมองใบหน้าหวานๆของคนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วย
    พอจบการถ่ายทำก็ถึงเวลาที่ผมต้องบอกลากับทางรายการ ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นยังไงบ้างนะ ผมอยู่ที่นี่ผมต้องทำอะไรบ้าง ผมยังไม่รู้เลย แค่รู้ว่าต้องอยู่ไปวันๆให้ครบเดือนหรืออยู่ไปวันๆเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอดอลของผมกันนะ



    “ชานยอล”



       แค่ผมได้ยินเสียงเขาทุกสิ่งที่ผมคิดต้องหยุดลงทันที เพื่อหันไปให้ความสนใจกับคนที่จะสนทนาด้วยแทน



    “ครับ”



    “ต่อจากนี้ไป นายต้องมาเป็นเมเนเจอร์ส่วนตัวของฉัน”



       ผมได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจมาก ทำไมจู่ๆจะให้ผมมาเป็นเมเนเจอร์ เพราะอะไรกันแล้วผมต้องทำอะไรบ้าง?
     


    “ทำไมถึงให้ผมเป็นเมเนเจอร์ล่ะครับ”
     


       ผมถามออกไปเพราะความข้องใจอย่างแรง ผมคิดว่าแค่นั่งๆกินๆนอนๆไปวันๆก็จบ
     


    “ก็นายเป็นลักกี้แฟนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับไอดอลหนึ่งเดือน แล้วฉันก็มีตารางงานแน่นตลอดหนึ่งเดือน จะให้นายนั่งกินนอนกินที่บ้านรึไง ระหว่างที่นายว่างๆเนี่ยมาช่วยฉันทำงานดีกว่าไหม?”



       แค่ได้ฟังการพูดจาปนกวนๆของอีกคนก็ทำให้ผมขนลุกไปทั้งตัวแหละ มันก็จริง ถ้าผมอยู่บ้านเฉยๆ ผมก็ไม่ได้สานสัมพันธ์กับเขาน่ะสิ ดีล่ะโอกาสเราก็มากขึ้นทวีสอง
     


    “วันนี้ฉันมีถ่ายแบบนิตยสารตอนบ่ายนี้ นายต้องไปด้วย เตรียมตัวไว้เลย”



       จบคำพูดของอีกคนผมก็ยังคงยืนทึ่มอยู่ที่เดิน โดยที่ใครคนนั้นเดินห่างไปไกลแล้ว







    -1.59-
     


    “คุณแบคฮยอน อันยองฮาเซโย”
     


      หญิงสาวคนนึงที่เดินออกมาจากสตูดิโอได้กล่าวทักทายขึ้น ไม่วายที่คนตัวเล็กของผมจะก้มหัวให้เป็นการทักทายกลับ ผมเดินตามหลังต้อยๆเข้าไปเหมือนเด็กไม่รู้ภาษา



    “ชานยอล นายรอตรงนี่นะ ห้าม!ไปไหนเด็ดขาด”
     


      ประโยคสุดท้ายถือบังคับสุดๆ ทำเอาผมไม่กล้าขัดเลย พอคนตัวเล็กพูดจบเขาก็เดินไปยังสตูดิโอทันที ปล่อยให้ผมนั่งเก้าอี้เหล็กยาวๆเหมือนม้านั่งข้างนอกประตู ที่ตั้งไว้ทางขวามือทางเข้า ไม่กี่วินาทีสายตาสุดท้ายที่ผมมองคนที่เพิ่งสั่งห้ามนักหนาเมื่อกี้ก่อนจะมีประตูเหล็กหนามากั้นไว้ พูดง่ายๆก็ประตูน่ะแหละ ผมต้องนั่งอย่างนี้สามสี่ชั่วโมงเลยหรอเนี่ย มีหวังรากงอกกันพอดี ผมนั่งกอดกระเป๋าเป้ที่เอามาด้วย ก่อนที่จะมีแรงสะกิดที่แขนข้างซ้ายของผม พอผมหันไปก็เจอผู้หญิงผมสีทองที่หน้าตาระดับพรีเมียมยืนยิ้มมาให้ผมอยู่ ผมสะบัดความคิดทั้งหมดก่อนจะเปิดประเด็นพูด



    “คุณมีธุระอะไรกับผมหรอครับ หรือว่าผมนั่งตรงนี้ไม่ได้”
     


       ผู้หญิงคนนี้มองมาด้วยสายตาเหมือนสนใจผม ส่วนผมน่ะหรอ หลึกหลักไปมาทำตัวไม่ถูก ตกลงคุณมองผมทำไมครับ



    “นายมาถ่ายแบบหรอ?”
     


    “เปล่าครับ ผมมารอคุณแบคฮยอนถ่ายแบบน่ะครับ”
     


        ผู้หญิงผมทองคนนี้ละสายตาจากผม แล้วมองไปทางอื่นเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่



    “นายลองลุกขึ้น แล้วหมุนตัวสิ”



       ผมก็ว่าง่ายเนอะ แค่พูดผมก็ลุกขึ้นดึ๋งทันทีและหมุนตัวไปมา
     


    “สัดส่วนใช้ได้ ฉันชื่อ นัม ฮามิแล้ว นายชื่ออะไร”
     
     


       ก็อย่างว่านั่นแหละ ผมก็ตอบอย่างว่าง่ายอีกเช่นเดิม



    “ผมชื่อ ปาร์ค ชะ!”



       พูดไม่ทันจบประตูเหล็กของสตูดิโอก็เปิดพรึ่บ ก่อนจะมีเสียงติเตียนตามมา



    “ใครใช้ให้นายคุยกับคนหน้าแปลก”
     


       ไม่วายที่จะหันไปมองผู้หญิงเอวบางใส่กระโปงสั้นเกาะอก



    “อ้าว~แบคฮยอนนี่เองนึกว่าใคร เด็กนายหรอ?”
     


       แบคฮยอนพยายามปรับอารมณ์ตอนนี้ให้มันดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะฆ่าใครตายที่สตูดิโอแห่งนี้



    “เราก็นึกว่าใคร นัม ฮามิ เพื่อนเก่านี่เอง เป็นไงบ้างสบายดีไหม? โอ๊ะ!นี่ไปทำจมูกมาใหม่หรอ?สวยดีนะ”



       คำสุดท้ายแบคฮยอนแสยะยิ้มให้ก่อนจะขว้าข้อมือให้คนตัวสูงเข้าไปในสตูดิโอด้วย



    “ยังหวงของเหมือนเดิมเลยนะ”
     


       แบคฮยอนถึงกับชะงักก่อนที่จะเดินต่อเข้าไปยังสตูดิโอแบบไม่ใส่ใจคำพูดของฮามิเลยแม้แต่นิด



    “นายนั่งตรงนี้แหละ ฝากด้วยนะครับ”
     


        ลากคนตัวสูงมานั่งเก้าอี้ข้างๆผู้กำกับงานก่อนจะพูดขออนุญาตฝากชานยอลให้อยู่ใต้โอวาทของผู้กำกับ
        ผมไม่รู้ตัวจริงๆว่ากำลังทำอะไรอยู่ จู่ๆผมก็โมโหชานยอลเอามากๆเมื่ออยู่ใกล้กับผู้หญิงคนอื่น
        ทำไมแบคฮยอนดูโกรธๆผมนะ ผมทำอะไรผิด?รึหึง!ผม ไม่หรอกน่า ผมได้แค่คิดเท่านั้นก่อนจะนั่งดูอีกคนที่กำลังโพรทท่าอยู่ที่จุดแสตนดิ้งจนถ่ายเสร็จเราสองคนก็ไม่ได้คุยกันตลอดทางกลับบ้าน
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ×CHANBAEK×
     
    #ฟิคแฟนบอยบยอน
     
    Talk:งื้อ~~~ไรต์หายไปนานเลยทีเดียว คืองานเยอะอ่า~~เลยไม่ได้มาอัพ ไรต์ขอโทษงับㅠㅠ จะพยายามอัพบ่อยๆว่านี้นะงับ>< ถ้าไรต์อัพเดตบ่อยไม่ต้องตกใจนะครัชเพราะแก้คำผิดด้วยแก้อะไรหลายๆอย่างด้วย แล้วก็อัพเดตเพื่อให้นักอ่านคนอื่นๆเข้ามาอ่านด้วยครัช ติเตียนกันได้น้า~ถ้าแต่งผิดพลาดอะไรหรือไม่สนุกบอกกันได้น้า><ไปแล้วงับดูองค์ชายฉิบต่อㅋㅋㅋㅋ ไรต์อัพตอนต่อไปวันอังคารนะงับ รอได้ใช่ไหมㅠㅠ
      
    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×