คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : คำตอบ
ฉันแตกตัวเสร็จแล้ว เดินออกมาจากห้องน้ำโดยใส่ชุดนักเรียนของฉัน ฉันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อจะเลือกเสื้อยืดสักตัวที่จะใส่ไปทำงานที่ รร ก็วันนี้ว่างเกือบทั้งวันหนิ เอาตัวไหนดีหน่า... เลือกไมได้เลยเอาเสื้อสีชมพูไปดีกว่าเวลาเปลี่ยนมันจะได้ไม่ตลกสักเท่าไร 5 5 5
“เอ๊ะ!! นี่มันเสื้อที่ร้านกาแฟตอนนั้นหนิ” ฉันหยิบเสื้อยืดสีขาวที่มีลายเขียว ๆ หน่อยแล้วก็มีลายสกีนน่ารัก ๆ อยู่
“เอาตัวนี้ไปก็ดีเหมือนกันนะ” ฉันแกะถุงพลาสติกที่คลุมเสื้อออก แล้วฉันก็พับเสื้อเก็บใส่กระเป๋าไป
--- โรงเรียน ---
“นี่พวกเราจะไประบายสีกันที่ไหนอ่ะ” ลอเรนพูดพร้อมกับเก็บสมุดที่เรียนิชาสุดท้ายของวันใส่กระเป๋า
“อือ ๆ ไปดีอ่ะ” ปองถามความเห็น
“ไม่รู้ ฉันนึกไม่ออกเหมือนกัน” ลินดาตอบพร้อมหันมาหาฉัน เพื่อรอคำตอบจากปากของฉัน
“ไปที่หอประชุมก็ได้หนิ มันว่างไม่ใช่เหรอวันนี้อ่ะ” ฉันเสนอ
“อือ ๆ ดีเหมือนกันเพราะห้องอื่น ๆ ก็ไปที่นั่นเหมือนกัน” ลินดาพูดพร้อมกับลุกขึ้นแล้วตามด้วยทุก ๆ คนที่ลุกตาม ๆ กันออกไปที่หอประชุม
“ถึงแระ ห้องน้ำ” ลอเรนพูด
“อือ ๆ เปลี่ยนชุดกันก่อนไหม” ลินดาเสนอ
“อือ ฉันว่าก็ดีนะ” ฉันพูดพร้อมกับหยิบเสื้อออกมาจากกระเป๋า
“งั้นเดี๋ยวฉันขึ้นไปก่อนนะ เด๋วเพื่อน ๆ จะรอ” ปองเดินขึ้นไปบนหอประชุมก่อนพวกเรา
“อือ เสื้อเธอสวยจังนะ อลิซ” ลอเรนพูดกับฉันในขณะที่พวกเรากำลังถอดเสื้อนักเรียนออก พวกราเปลี่ยนในห้องเดีบวกัน ก็พวกเราไม่อายกันหนิ ><
“เสื้อที่ร้านกาแฟน่ะ ตอนไปรับป้าที่สนามบิน ให้ฟรี” ฉันบอก
“ไปกันเถอะพวกเรา” แล้วฉัน รอเลน แล้วก็ลินดาเดินเข้าไปในหอประชุม ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามีคนมองฉันเยอะจัง ฉันทำอะไรผิดเหรอ ทำไมอ่ะทุกคนก็เปลี่ยนเสื้อไม่ใช่เหรอ
“นี่พวกเธอ คนอื่นเค้ามองฉันทำไม”
“เออ นั่นสิมองเธอทำไม” ลอเรนพูดพร้อมกับกวาดสายตาของเธอมองคนที่มองฉัน
“นั่นเธอดูนั่น ยูตะ ใส่เสื้อเหมือนเธอเลย” ลินดาชี้ไปที่ยูตะที่กำลังก้มลงระบายสีแผ่นไม้อยู่
“ไหน ๆ ๆ ” ลอเรนมองหายูตะ
“จริง ๆ ด้วยอ่ะอลิซ เหมือนกันเปี๊ยบเลยอ่ะ เป็นฉันก็มองแหละ”
“ก็อาจจะซื้อร้านเดียวกันไง เหมือนกันไมได้รึไงเล่า” ฉันเริ่มรำคานกับการที่พวกนั้นเมสนใจว่าฉันกับยูตะทำไมใส่เสื้อเหมือนกัน ฉันเลยเดินไปที่ส่วนมุมที่เป็นของห้อง 12B
“งานไปถึงไหนแล้วคุณแม่งาน” ยูตะเดินมาพูดกับฉัน
“ก็โอเคหนิ ทุกอย่างไปไดสวย” ฉันพูดขณะที่ก้มหน้าระบายสีแผ่นไม้ที่ทำเป็นฉากของส่วนประเทศอินเดีย
“ก็ดีแล้ว” ยูตะพูดพร้อมกับเดินไปที่ห้องตัวเอง
“อลิซ ๆ ๆ ๆ ” เอมิเดินตรงมาจากมุมเวทีแล้วเดินมาที่ฉัน
“เดี๋ยวเราจะมีการซ้อมคิวเต้นนะจ๊ะ เดี๋ยวห้อง A จะเริ่มแล้วห้อง B พร้อมไหม”
“อ๋อได้สิ เดี๋ยวฉันไปบอกคนอื่น ๆ ก่อนนะ” ฉันบอกเอมิแล้วไปเรียกเพื่อน ๆ ของฉัน ลอเรนกับลินดา แล้วก็คนที่เต้นในห้องอีกประมาณ 6 คน ให้มารวมกันเพื่อเตรียมจะซ้อมเต้นแล้วเราก็ทวนท่ากันนิดหน่อย
“อ้าว ห้อง B มาซ้อมกับเวทีจริงเลยจ๊ะ” เอมิประกาศออกไมค์ ฉันกับเพื่อน ๆ เดินขึ้นไปบนเวที ตายจริง!! จะหยุดดูอะไรกันสะขนาดนั้น ทุก ๆ คนที่อยู่ข้างหน้าหยุดการทำงานแล้วหันมามองบนเวที
“เยี่ยมมาก” เอมิพูดออกไมค์พร้อมกับเสียงปรบมือจากทุกคนที่นั่งทำงานกันขมักเขม้น ฉันรู้สึกดีใจอยู่ลึกที่ทุก ๆ คนชอบโชว์ที่ฉันทำ ดีใจจังงงง ^_____________^
“ปีนี้สวยกว่าตอนเธอเต้นปีที่แล้วอีกนะ” เอมิพูดชมฉัน
“ไม่หรอก ปีนี้คงเต้นเป็นเยอะมั้ง” ^^
ระหว่างที่ฉันเดินลงมาจากบันได ฉันเพลอสะดุดสายไมค์ของเอมิ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ฉันร้องดังมากด้วยความตกใจ
“ว้ายเป็นอะไรไหม” ลอเรนวิ่งมาหาฉันที่ตอนนี้นั่งอยู่บรรไดขั้นสุดท้าย
“ซู้มซ่ามจริง ๆ นะเธอ” ลินดาเดินค่อย ๆ พยุงตัวฉัน
“ไม่เป็นไรนะค่ะเพื่อน ๆ ไม่มีอะไรแค่ accident เล็กน้อยเท่านั้นแหละ” เอมิประกาศออกไมค์
“มานี่ฉันจะทาให้” ยูตะโผล่มาจากไหนไม่รู้แล้วอุ้มฉันยังก่ะเจ้าสาวเดินออกไปนั่งตรงบันไดทางขึ้นหน้าห้องประชุม
“ปล่อยฉันนะ นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย” >___________________<
“เงียบน่า ยังจะมาทำเก่งอีก” ยูตะอุ้มฉันแล้วเดินออกไปนองห้อง ท่ามกลางสายนับร้อยที่มองมาที่ฉันกับยูตะ
“ฉันว่าคู่นี้ นี่ยังไง ๆ อยู่นะ” ลอเรนพูดกับลินดา
“ไม่มีอะไรนะค่ะ พอดีแม่งานกับพ่องานคงมีประชุมส่วนตัวน่ะค่ะ” เอมิประกาศออกไมค์อีกครั้ง
“นี่นายจะพาฉันไปไหนห๊ะ ยูตะ” ฉันยังคงดื้นและตกโกนอยู่ ยูตะวางฉันลงที่บันได
“ยื่นขาออกมา” ยูตะพูดพร้อมจับจาฉัน ฉันตกใจถีบยูตะกระเด็นไปติดประตูในห้องประชุม ปัง!!!!! คนจำนวนร้อย ๆ คนเริ่มมองมาที่ประตูและสนใจเราทั้งคู่อีกครั้ง
“เออ... ไม่มีอะไรนะค่ะ ๆ ทำงานต่อไปเถอะนะค่ะ เหอเหอ” เอมิพูดดึงความสนใจจากทุกคน
“นี่เราไปดู 2 คนนั้นกันเถอะ” ปองวิ่งมาจากไหนของมุมห้องไม่รู้ แล้วชวนลินดา เอมิ แล้วก็รอเลนออกมาแอบดู
“นี่เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย” ยูตะตวาดใส่ฉัน
“แล้วนายจะทำบ้าอะไร อย่ามาทะลึ่งนะ” ฉันเริ่มหวั่น ๆ กับพฤติกรรมของยูตะ
“ฉันหมายถึงให้เธอเอาขาที่มันช้ำจากที่เธอตกบันไดยื่นมาจะทายาให้” ยูตะพูดพร้อมกับหยิบยาออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วก็ค่อยบรรจงทาที่ขาของฉันที่ช้ำอยู่
“ขอบคุนนะ” ฉันยิ้มเป็นการขอบคุนแทนการที่ยูตะทายาที่ขาให้ฉัน
“อือไม่เป็นไร ทีหน้าทีหลังจะซ้อมเต้นก็เอากางเกงขายาวมาเปลี่ยน เข้าใจไหม ไม่ใช่ใส่กระโปรงนักเรียนเต้น ดูสิจะใส่สั้นอะไรมากมายก็ไม่รู้กระโปรงนักเรียนหนิ ใส่ให้มันยาว ๆ หน่อยไม่ได้รึไง”
“เวลาเธอโมโหน่ารักดีนะ” ^^
“อะไร ๆ ๆ เธออย่ามาเมา สำคัญตัวเองผิดไปรึเป่า ฉันจะมานั่งโมโหเธอทำไม” ยูตะหันหน้าหนี
“ไม่รู้สิ แต่ฉันรู้สึกได้” ฉันหัวเราะเบา ๆ ถึงพฤติกรรมที่ยูตะทำ
“มือนายเป็นยังไงบ้างเหรอ”
“ก็ยังเจ็บอยู่ ”
“ฉันไม่เข้าใจว่านายทำบ้าอะไรของนาย” ฉันคว้าของยูตะมาดู
“โอ้ย!!! เบา ๆ หน่อยไม่ได้รึไง” ยูตะบ่น
“ก็ไม่มีอะไรหรอกมีเรื่องอะไรนิดหน่อย”
“เรื่องอะไร เธอเล่าให้ฉันฟังได้นะ ฉันน่ะเป็นคนที่ให้คำปรึกษาคนได้ทุกเรื่องเลยนะ” ^^
“ไม่มีอะไรหรอก ขอบคุณ”
“พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ” ฉันลุกขึ้นยืน
“อย่าเพิ่งได้ไหม ฉันขออยู่แบบนี้กับเธอ กับเธอแค่ 2 คนก่อนได้ไหม” ฉันรู้สึกตกใจกับคำพูดของยูตะ
“เธอเป็นอะไร” ฉันนั่งลงข้าง ๆ ยูตะเหมือนเดิม
“เฮ้ย!!! ยูตะนายเลือดไหลอ่ะ” ฉันเอามือจับบริเวณริมฝีปากของยูตะที่มีเลือดจากจมูกของเค้าลงมา
“อ๋อ ๆ ไม่เป็นไรน่ะแค่เลือดกำเดา ฉันน่ะเป็นบ่อย” ^^
“เดี๋ยวฉันเช็ดให้นะ” ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้าของฉันในกระเป๋ากระโปรงนักเรียนออกมาเช็ดเลือดที่กำลังไหลของยูตะ
“เธออยู่แบบนี้ไปกับฉันนาน ๆ ได้ไหม” ยูตะมองหน้าฉันแล้วเค้าก็ค่อย ๆ ยิ้ม
“นี่นายยูตะ ที่นายเลือดกำเดาไหล ไม่ช่เพราะนายคิดลามกกับฉันตอนที่ทายาให้ฉันนะ” ฉันตียูตะที่ไหล่ 1 ที
“คงเป็นแบบนั้นมั้ง” ^^
“นี่ยูตะ” ฉันเอามือตีเอายูตะเบา ๆ แล้ววิ่งหนี
“นี่เธอ ตีหัวฉันเหรอ” ยูตะวิ่งตามฉัน ที่วิ่งเข้าไปในห้องประชุม ฉันสะดุ้งตอนที่เข้าไปในห้องหระชุมที่มีแต่คนมอง
“นี่เธอจะหนีไปไหน” ยูตะวิ่งตามก็ต้องหยุดวิ่งมายืนข้าง ๆ ฉันเพราะว่าคงกับการที่ทุกคนมองมาที่เรา 2 คนแล้วทุกคนในห้องก้ขำกันดังมาก กังจนห้องประชุมแทบจะถล่ม
“ขำอะไรกัน” ฉันตะโกนถามทุกคน
“ฮัลโหลเทส ๆ ๆ ตายแระค่ะสงสัยพ่องานแม่งานเราจะลงเอยกันได้นะค่ะงานนี้ ดูคำที่สกีนบนเสื่อสิค่ะ” เอมิพูดบนเวทีอีกครั้ง ๆ ๆ ๆ ๆ หลายครั้งแล้วนะเนี่ย
“oh boy I love you” ฉันอ่านตัวลายสกีนที่เขียนที่เสื้อของฉัน
“I know . I love you to my girl” ยูตะก็ก้มอ่านลายสกีนที่เขียนอยู่เสื้อเค้าเหมือนกัน ตอนนี้ฉันเขินมากไม่รู่จะเขินอะไรแล้ว อะไรเนี่ย ๆ ๆ เสื้อเซ็ทคู่รัก ฉันอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี >________< ยูตะก็คงเขินเหมือนกัน ยูตะได้แต่ลูบผมตัวเองแล้วก็มองมาที๋ฉัน แล้วเราก็ 2 คนก็ขำกันเบา ๆ
--- 1 ชั่วโมงผ่านไป ---
“ไปกินไอติมที่โรงอาหารกันไหม” ยูตะเดินมาชวนฉันที่กำลังจัดการเรื่องฉากบนเวทีกับเอมิอยู่
“ฉันไป ชวนฉันเหรอ” เอมิหันมายิ้มให้ยูตะ
“ป่าว ๆ ไม่ได้ชวนเธอ” ^^
“นายชวนฉันเหรอ”
“ก็มีเธออยู่ 2 คน ไม่ได้ชวนเอมิแล้วเธอจะให้ฉันชวนใคร”
“พูดจาแบบนี้มันน่าไปกินด้วยไหมเนี่ย”
“พอ ๆ ทะเลาะกันอยู่ได้ ไปเถอะอลิซเดี๋ยวฉันจัดการเอง แล้วเดี๋ยวเธอก็กลับได้เลยนะ เดี๋ยวค่อยมาทำกันต่อพรุ่งนี้” เอมิพูดพร้อมกับยื่นหนังสือกับกระเป๋าของฉันให้ฉัน
“อ๋อ ได้จ๊ะ งั้นไว้พรุ่งนี้นะ” ฉันรับหนังสือแล้วก็เดินนำออกไป
“ขอบใจนะเอมิ” ยูตะบอกเอมิ
“เออแก ไม่เป็นไร ๆ ๆ สู้ ๆ นะแก”
“เดี๋ยวเธอนั่งรอฉันตรงนี้อย่าไปไหนเข้าใจไหม” ยูตะบอกให้ฉันนั่งที๋โต๊ะ
“ทำไมฉันต้องทำตามที่นายบอกด้วยห๊ะ”
“ก็ฉันสั่ง ฉันบอกอะไรเธอต้องทำ” ^^
“แล้วจะเอาอะไรเดี๋ยวฉันเดินไปซื้อมาให้ไอติมอ่ะ”
“เอาช็อคโกแลตใส่คาราเมลมาให้ฉันด้วยนะ”
“อือ รออยู่นี่นะเดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้” ยูตะพูดแล้วก็เดินไปที่ร้านไอติม ปล่อยให้ฉันนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะ โดยที่มีคนมองฉันอีกแล้ว = =
“อ่ะ นี่ของเธอ” ยูตะยื่นไอติมแล้วก็นั่งลงตรงข้ามฉัน
“ฉันรู้สึกว่ามีคนมองเรา 2 คนอ่ะยูตะ” ฉันบอกเค้า
“ไม่เห็นเป็นไรเลย มองก็มองไปสิ กินเถอะอย่าไปสนใจ”
“อืม” ^^
“เธอคิดคำตอบให้ฉันได้รึยัง”
“คำตอบไร แล้วเธออ่ะถามฉันตักแต่เมื่อไร” ฉัพูดจบแล้วก็รับตาปี๋ ด้วยรสหวานของคาราเมลที่ราดบนไอติมของฉัน หวานมากกกกก >_________<
“ก็ที่ฉันถามเธอไง” เสียงของยูตะเริ่มจริงจังขึ้น
“ทำไมต้องซีเรียสขนาดนั้นด้วย แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่รู้ด้วยนายถามอะไรฉันตอนไหน” ฉันทำเป็นไม่สนใจแล้วก้อมหน้ากินไอติมไปเรื่อย ๆ
“เธอก็รู้ว่าฉันพูดถึงเรื่องอ่ะไร”
“ฉันไม่รู้” ฉันยังคงทำเป้นไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปโดยการกินไอติมไปเรื่อย ๆ
“ถ้าเธอปฏิเสธฉันแสดงว่าเธอน่ะ รังเกียจฉัน ว่าไง” ยูตะมองหน้าฉันขณะที่ฉันยังมีช้อนไอติมอยู่ในปากอยู่เลย
“เอ่ออออ...อะ... ฉัน”
“อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่นั่นแหละ” ยูตะมองหน้าฉันไม่ละสายตา และรอฟังคำตอบของฉันอย่างใจจดใจจ่อ
“ฉันไม่ได้รังเกียจ” ฉันยิ้มให้ยูตะแล้วฉันก็ลุกเดินออกไปนอกโรงอาหาร
“เธอตกลงเป็นแฟนฉันแล้ววววววววววววววววววววววววววววววว” ยูตะตะโกนลั่นโรงอาหาร
ความคิดเห็น