คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สนามบิน
ติ๊ด ๆ ๆ ติ๊ด ๆ ๆ เสียงนาฬิกาปลุกหัวเตียงดังขึ้น ฉันหยิบมาดูเวลา ตายแล้วนี่มัน 10 โมงแล้วหนิ วันนี้ต้องไปบริษัทแกรมโม่ด้วย พี่เค้านัดไว้ 11 โมงแย่แน่ ๆ เลย ฉันกระโดนลงจากเตียงด้วยความเร็วแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำด้วยความเร็วสูง ฉันรีบแต่งตัวเพื่อจะออกไปที่บริษัทแกรมโม่ ฉันเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อจะหยิบน้ำหอม มีกระดาษแปะไว้ที่หน้ากระจกด้วย
“6 โมงเย็นเจอกันที่สนามบินนะลูก ไปรับป้าเอ็มม่า” ฉันหยิบกระดาษน็ตของแม่ใส่กระเป๋าแล้วรีบบึ่งไปที่บริษัททันที
- - - บริษัทแกรมโม่ - - -
“เห้อออ... ทันเวลาพอดี ตอนนี้เพิ่งจะ 11 โมง 5 นาที” ฉันยืนพูดกับตัวเองอยู่หน้าบริษัท
“อลิซ !!!” ลอเรนเดินมาหาฉัน
“อือ ๆ มานานแล้วเหรอ”
“ก็คงนานกว่าเธออ่ะนะ ฉันว่า” ลอเรนแซวฉันแล้วพวกเราก็เดินเพื่อจะขึ้นลิฟท์ไปห้องซ็อมเต้น
“ทำไมคนเยอะจังอ่ะ ลอเรน” ฉันชี้ไปที่เด็กวัยรุ่นหลายคนทีอยู่แถว ๆ หน้าบริษัท
“เค้ามาคัดตัว MV ที่พวกเราต้องซ็อมเต้นวันนี้เนี่ยแหละ เพราะพวกเราก็ถ่ายเหมือนกัน” พอลอเรนพูดจบลิฟท์ก็เปิดพอดี
“อ้าวนี่พวกเราไปเต้น MV เหรอ” ฉันพูดพร้อมกับหยิบกระจกขึ้นมาส่องความเรียบร้อยของตัวเอง
“อือ ๆ นี่เธอไม่รู้เหรอ พี่แก้วไม่ได้บอกเธอเหรอ”
“พี่แก้วเค้าก็ไม่ค่อยบอกอะไรฉันเท่าไรหรอก ตั้งแต่เค้าเป็นคนดูแลงานเรื่องเต้นให้พวกเราอ่ะ อ่ะ!!ถึงแล้ว” ฉันเดินนำลอเรนออกไป แล้วเข้าไปในห้องซ้อมเต้น
“โอเคค่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะค่ะ ไว้จะนัดมาซ้อมอีกสัก 2 ครั้งนะค่ะ เพราะว่าเราจะมีการถ่ายในเดือนหน้านะค่ะ ขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ นะค่ะ” เสียงของครูนกครูสอนเต้นงานนี้
“เดี๋ยวไปไหนต่อรึเป่า ลิซ” ลอเรนถามฉัน
“เดี๋ยวต้องไปสนามบินน่ะ ไปหาแม่คุณป้ามาจากอังกฤษน่ะ” ฉันรีบเก็บกระเป๋าแล้วออกจากห้องซ้อมเต้นไป
“แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะ ลอเรน” ฉันรีบจ้ำไปที่ลิฟท์แล้วกดลงอย่างรีบด่วน ฉันเหลือบมองนาฬิกา2 วิครั้งเลยมั้ง นี่มันก็จะ 5 โมงแล้วอ่ะ จะทันไหมอ่ะ 1 ชั่วโมงเอง ลิฟท์เปิดแล้วฉันเดินเข้าไปด้วยความ มีผูชายคนนึงสวมเสื้อสีฟ้า กางเกงยีนส์เอวต่ำหลุด ๆ รองเท้าผ้าใบสีขาว แต่ฉันก็ไมได้สนใจ เพราะฉันมีภารกิจที่รีบเร่งอยู่ ฉันเค้าไปในลิฟท์ฉันรู้สึกว่า 20 ชั้นทำไมมันนานจัง เห้อออ... ฉันเหลือบดูนาฬิกาแล้วดูนาฬิกาอีก
“รีบเหรอ” เสียงของผู้ชายข้าง ๆ ถามฉัน
“ใช่ค่ะ รีบมาก ๆ เลยน่ะ” ฉันตอบเค้าไปพร้อมกับมองนาฬิกาอีกครั้ง
“จะไปไหนน่ะ”
“สนามบินน่ะค่ะ มีธุระ” ฉันยังคงกำนาฬิกาเอาไว้ แล้วดูมันเป็นระยะ ๆ
“ให้ไปส่งไหม”
“อ๋อไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะค่ะ” ฉันหันไปยิ้มขอบคุณให้กับผู้ชายข้าง เห้ยยยย!!
“นายยูตะ นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย” ฉันตกใจเพราะว่าคนที่ฉันคุยด้วยคือนายยูตะ
“ก็ฉันน่ะสิ คิดว่าเป็นน้องนักบาสสุดหล่อนั่นรึไง” ยูตะเริ่มยั่วโมโหฉัน
“ฉันไม่มีเวลา จะมาทะเลาะกับนายหรอกนะ ฉันรีบ” ฉันมองไปที่หน้าปัดบอกฉันของลิฟท์ว่าฉันได้ไหนแล้ว
“ให้ฉันไปส่งไหม” ยูตะถามฉัน
“ไม่เป็นไร ฉันนั่งแท็กซี่ไปเองได้” ฉันรีบตัดบท
“นี่เธอ อย่ามาเรื่องมากหน่อยเลย ไม่มีตัวเลือกอะไรมากหรอกนะ ไปสนามบินนะไม่ใช่หน้าปากสอย” พอประตูลิฟท์เปิดยูตะก็คว้ามือฉันแล้ววิ่งไปที่รถของเค้าที่จอดอยู่หน้าบริษัท
“นี่เธอจะพาฉันไปไหน” เค้าลากฉันมาถึงรถ BMW ซี่รีย์ 3 สีดำคันหรูที่จอดอยู่
“ขึ้นรถสะ เดี๋ยวฉันไปส่ง” ยูจะเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งข้างหน้าข้างคนขับให้ฉัน แล้วเค้าก็วิ่งไปขึ้นรถด้านคนขับ
“ขอยคุณนะที่เธอมาส่งฉันน่ะ” ฉันพูดขึ้นมาลอย ๆ โดยที่หน้าฉันมองไปข้างนอกหน้าต่างอย่างไม่สนใจ
“นี่เธอ ถ้าไม่เต็มใจเก็บไว้ก็ได้นะคำขอบคุณของเธอน่ะ”
“แหม แค่นี้ทำงอน” ฉันหันไปประชดยูตะ
“แล้วนี่เธอทำอะไรที่นี่เนี่ย” ยูตะถามฉัน
“ฉันรับงานเต้นไว้ที่นี่ วันนี้มีซ้อมน่ะ แล้วส่วนเธอหล่ะมาทำอะไรที่นี่ แต่งตัวสะดีเชียว” ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อที่หน้าของฉัน
“เรามาแคสงานน่ะ”
“อ๋อเป็นนายแบบนี่แนอะ เธออ่ะ ฉันลืมไป”
“แล้วนี่เธอไปสนามบินทำไม” - -??
“ฉันไปหาแม่ วันนี้คุณป้ามาน่ะ” ฉันตอบพร้อมกับหยิบลูกอมมาอมเล่น
“เอาไหม” ฉันยื่นให้ยูตะที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่
“เอา”
“อ่ะเอาไป” ฉันยื่นลูกอมให้ยูตะ
“นี่เธอไม่เห็นรึไงว่าฉันน่ะ ขับรถอยู่”
“งั้นก็ไม่ต้องกิน” ฉันเก็บลูกอมใส่กระเป๋า
“เธอนี่น้ำใจงามจริง ๆ เลย” ยูตะเหน็บใส่ฉัน
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงหล่ะ ก็นายขับรถอยู่เองหนิ”
“ป้อนไง รู้จักไหมป้อนอ่ะ” ฉันรู้สึกอึ้งเล็ก ๆ กับคำพูดของยูตะที่พูดออกมาเมื่อกี้
“อือ ๆ เดี๋ยวฉันป้อนเอง” ฉันแกะลูกอม แล้วค่อย ๆ ป้อนใส่ปากของยูตะ รู้สึกว่าตอนนี้ยูตะจะยิ้มอย่างพอใจ
”ยิ้มอะไร” ฉันตียูตะเบา ๆ
“อ้าว เธอนี่ก็แปลกยิ้มก้ไม่ได้รึไง เธอนี่พิลึกนะเนี่ย”
- - - สนามบิน - - -
“เดี๋ยวฉันหาที่จอดก่อนนะแล้วเดี๋ยวเดินไปเป็นเพื่อน” ยูตะกวาดสายตาที่จอดรถ
“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็กวนนายมามากแล้ว เดี๋ยวฉันลงตรงนี้ก็ได้นะ” ฉันคว้ามือจะเปิดประตูรถ
“ไม่อ่ะ วันนี้ฉันว่าง เดี๋ยวไปเป็นเพื่อนไง” ยูตะหันมายิ้มให้ฉัน นายก็น่ารักดีนะเวลายิ้มเนี่ย ><
“ฉันไม่รู้จะขอบคุณเธอยังไงดี” ^^
“เธอเรียกเราว่ายูตะ แทนคำว่านายได้ไหมหล่ะ” ยูตะพูดพร้อมกับเลี้ยวเข้าไปจอดในที่จอดรถ
“ได้สิ ยูตะ” ฉันรู้สึกเขิน ๆ เวลาเรียกแต่ก็เอาเหอะ
“ไปกันเถอะ อลิซ” ฉันกับยูตะออกจากรถแล้วเดินเข้าไปในสนามบิน ฉันนัดกบแม่ไว้ที่ประตูขาเข้า ฉันรู้สึกจะเห็นแม่แล้ว ฉันรีบเดินไปหาแม่โดยมียูตะเดินตามหลังมา
“แม่ค่ะ หนูมาทันรึเป่าเนี่ย” ฉันเดินเข้าไปกอดแม่
“ทันจ่ะเครื่องเพิ่งลงเอง นี่ใครนะลูก” แม่ยิ้มให้ยูตะ
“สวสัดีครับ ผมชื่อยูตะ” ยูตะไหว้แม่ของฉันอย่างสุภาพ แทบจะไม่เหมือนยูตะเลย
“ยูตะ ชื่อน่ารักดีนะจ๊ะ เป็นลุกครึ่งญี่ปุ่นเหรอจ๊ะ”
“ครับ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นครับ”
“แม่ค่ะ เลิกถามได้แล้วเพื่อหนูเกร็งแล้วนะค่ะ” ฉันรู้สึกว่ายูตะเริ่มเกร็งกับที่แม่เริ่มถาม
“เดี๋ยวหนูไปรอแม่ที่ร้านกาแฟสีเขียว ๆ ตรงนั้นนะค่ะ คอเริ่มแล้วน่ะค่ะ ซ็อมเต้นเหนื่อย” ฉันเดินไปที่ร้านกาแฟโดยมียูตะเดินตามหลังฉันมา
“เอาคาปูชิโน่ เย็น เพิ่มวิครีม 2 ค่ะ”
“198 บาทค่ะ” ฉันกำลังหยิบเงินในกระเป๋าตังค์
“นี่ครับ” ยูตะยื่นแบงค์ 500 ให้กับพนังงานคิดเงิน
“ตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่นพิเศษนะค่ะ หากมาเป็นคู่รักแล้วสั่งสินค้าเมนูเดียวกัน จะได้จับฉลากของนะค่ะ” พนักงานพูดพร้อมกับยิ้มให้ฉันกับยูตะ แล้วยื่นกล้องจับฉลากมาให้ฉัน ฉันหันไปมองยูตะที่กำลังแกล้งหยิบมือถือมากด ๆ แก้เขิน ฉันล้วงลงไปในกล่องที่ฉลากเป็นรูปดาวสีชมพูเต็มกล่องไปหมดเลย ฉันหยิบขึ้นมาอันนึงแล้วยื่นให้กับพนักงาน
“คุณ 2 คนได้เสื้อคู่รักนะค่ะ นี่ค่ะเสื้อ แล้วนี่ก็เงินทอน” พนักงานยื่นเสื้อมาให้ฉัน แล้วยิ่นเงินทอนให้ยูตะ ฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะติดกระจก
“อ่ะเสื้อ” ฉันยืนเสื้อให้กับยูตะพร้อมกับตักวิปครีมที่อยู่บนขอบแก้วมาทานเล่น
“อือ ๆ ตัวนั้นของเธอ ไม่เห็นป้ายเหรอมันเขียนว่า for girl” ยูตะยื่นเสื้ออีกตัวมาให้ฉัน
“ฉันไม่เอา เงินเธอนะแค่ฉันได้กินกาแฟอร่อย ๆ ก็พอแล้ว” ฉันก้มกินวิปครีมอย่างเมามันโดยไม่ได้นึกถึงว่ามันเลอะปากของฉันแล้วนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรไม่ได้สนใจ
“นี่เธอมันเลอะปากเธอแล้วนะ” ยูตะเอามือชี้ของเค้าปาดวิปครีมที่เลอะตรงริมปากของฉันออก แล้วเช็ดกับทิชชู่ที่พนักงานให้มา
“อ่ะ...อะ.. อือ ขอบใจ ” ฉันรู้สึกตกใจกับการกระทำของยูตะอีกครั้ง
“อือ เนี่ยเสื้อรับไปสะนะ” ยูตะยื่นเสื้อให้ฉัน
“อือ ๆ ” ฉันหยิบเสื้อมาวางไว้บนตักแล้วก็นั่งทานวิปครีมต่อไปเรื่อย ๆ
ครืดด ๆ ๆ ครืดดดด ๆ ๆ มาถือในกระเป๋ากางเกงฉันสั่น
“ฮัลโหล ค่ะแม่ ค่ะ ๆ ได้ค่ะ”
“มีอะไรเหรอ” ยูตะถาม
“คุณป้ามาแล้ว ไปกันเถอะยูตะ” ฉันรีบจนลืมตัวว่ามือนึงถือเสื้อแล้วอีกมือก็จับมือยูตะมาแล้วเดินไปหาแม่โดยไม่รู้ตัว
“สวัดดีค่ะ คุณป้า” ฉันเข้าไปสวมกอดป้า
“สวัสดีครับ” ยูตะไหว้คุณป้าเหมือนที่ไหว้คุณม่ฉันเปี๊ยบเลย
“แฟนน่ารักจังเลย หลานป้าเนี่ย ชื่ออะไรจ๊ะ” คุณป้าถามยูตะ
“ยูตะครับ” ^^
“แหมได้แฟนเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นสะด้วยหลานป้า”
“ไม่ใช่แฟนค่ะ คุณป้าก็...” ฉันเริ่มรู้สึกเขิน ๆ กับคำพูดที่คุณป้าพูดออกมา
“เดี๋ยวป้าจะทำธุระหน่อยนะลูก ป้าขอยืมแม่หนูหน่อย ยูตะจ๊ะป้าฝากเอาของ ๆ ป้าไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วก็ฝากหลานสาวสุดสวยของป้ากลับบ้านด้วยนะค่ะ” ป้าพูดพร้อมกับจูงมือแม่เดินไปประตูทางออกสนามบิน
“คุณป้านะคุณป้า” ฉันหยิบกระเป๋าของคุณป้า แล้วก็มีมือของยูตะมาจับกระเป๋าด้วยเหมือนกัน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราถือไปเองนะ” ยูตะยิ้มให้ฉัน ตอนนี้รอยยิ้มของยูตะเหมือนกับรอยยิ้มที่เจ้าชายยิ้มก่อนที่จะจุมพิตสโนไวท์ยังไงยังงั้นเลย ยูตะเหมือนเจ้าชายเลย
“อือ ของคุณนะ เอาเสื้อเธอมาเดี๋ยวเราถือให้นะ” แล้วเรา 2 คนก็เดินไปที่รถพร้อมกับกลับบ้าน
.
ความคิดเห็น