ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FEEL : SAD : STORY] EunHyuk SungMin DongHae

    ลำดับตอนที่ #6 : Forever more [ตลอดกาล] :: END EunHyuk Part [5]

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 55


     Part V ~END Part Forever more 


    ที่ห้องคุณหมอ 

    “ถ้าผมเดาไม่ผิดคุณคงเป็นคนที่มาหาหมอคราวก่อนพร้อมคุณซองมินใช่มั้ยครับ” 
    คุณหมออีทึกถาม 

    “ใช่ครับคุณหมอ” 

    “หลังจากครั้งนั้นคุณซองมินก็ไม่ได้มาตามที่หมอนัดอีกเลยนะครับ ก็ไม่แปลกที่อาการจะหนักขึ้น” 
    ฮยอกคิดไว้ไม่ผิด มินไม่มาตามที่หมอนัดจริงๆ 

    “แล้วตอนนี้มินเป็นหนักแค่ไหนครับคุณหมอ” 
    ฮยอกถามอย่างใจเย็น 

    “ก็ค่อนข้างจะแย่นะครับ  แต่ต้องถือว่าโชคดีที่ส่งถึงมือหมอเร็ว” 

    “แล้วมินเป็นอะไรหรอครับคุณหมอ” 
    ด๊องก็ร้อนใจไม่แพ้กัน 

    “ก็เป็นอาการของโรคความดันโลหิตสูงนั่นหล่ะครับ 
    แต่เพราะคุณซองมินไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องทำให้อาการหนักขึ้น 
    ความดันเลือดของคุณซองมินค่อนข้างสูง  185/ 115 มม.ปรอท ซึ่งถึงระยะรุนแรง 
    แต่ยังไม่ทำให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน  แต่มันจะทำให้หัวใจเต้นแรงผิดปกติ แล้วก็อาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตก 
    ซึ่งเดี๋ยวหมอคงต้องตรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้งนึง” 
    คุณหมอทึกอธิบายอาการของซองมิน 

    “แล้วที่คุณหมอบอกไปคราวก่อนว่าให้ระวังเรื่องโรคแทรกซ้อนล่ะครับ” 
    ฮยอกยังคงกังวล 

    “เรื่องโรคแทรกซ้อนคงไม่ต้องห่วงครับ หมอตรวจดูแล้วไม่มีอาการหลอดเลือดตีบตันครับ 
    ถ้าจะห่วงคงต้องห่วงว่าอาการของคนไข้จะทรงตัวได้แค่ไหน  ถ้าอาการทรงตัวก็ถือว่าเรามีหวังที่จะรักษาให้อาการดีขึ้นได้ครับ 
    แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนไข้ด้วยนะครับ” 
    คุณหมอพูดอย่างมีหวัง 
    ฮยอกและด๊องออกมานั่งที่หน้าห้องฉุกเฉิน รอให้คุณหมอย้ายมินไปห้องพิเศษเพื่อรอดูอาการ 

    “ฮยอก ฮยอกต้องเข้มแข็งนะ ถ้าฮยอกเป็นอะไรไปอีกคนคงแย่  ด๊องเป็นห่วงฮยอกนะ” 
    ความห่วงใยของด๊องไม่สามารถปิดบังได้เลย ด๊องเอื้อมมือมาจับมือของอีกคนไว้ 
    เพื่อให้อีกคนรู้ว่าเค้ามิได้อยู่โดดเดี่ยว ด๊องยังคงห่วงฮยอกเสมอ   
    ซึ่งฮยอกก็รู้ดี แต่ตอนนี้เค้าห่วงมินเป็นที่สุด 
    ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก ร่างที่นอนไม่ได้สติบนเตียงถูกเคลื่อนย้ายออกมา 
    ฮยอกไปรีรอรีบไปดูมิน สีหน้ามินดูดีกว่าตอนที่พาเข้ามามาก 
    ซึ่งมันทำให้ฮยอกโล่งอกขึ้นมาก 

    “วันนี้ผมคงให้เฝ้าไม่ได้นะครับ ยังไงคุณทั้งสองคนกลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ” 
    คุณหมอเดินมาบอก 

    “แต่ผมอยากอยู่กับมินนี่ครับ” 
    ฮยอกพูด 

    “อย่างที่ผมบอกหล่ะครับ เราคงให้เฝ้าไม่ได้ และที่สำคัญคุณคงเป็นคนสำคัญของคนไข้ 
    หากคุณเป็นอะไรไป มันคงไม่มีผลดีกับคนไข้ด้วย เชื่อหมอเถอะครับ กลับไปพักผ่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะครับ” 
    คุรหมอมึกยังยืนยันคำเดิม 

    “ฮยอกเรากลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเฝ้ามินใหม่นะ” 
    ด๊องช่วยพูดอีกแรง ซึ่งฮยอกก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนี้เค้าเหนื่อย..เหนื่อยมากๆ... 
    ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น....เป็นเพราะเค้าเองที่ดูแลมินไม่ดี.... 
    ฮยอกได้แต่เฝ้าโทษตัวเอง... 


    ......................................................................... 


    ด๊องรับอาสาขับรถมาส่งฮยอกที่บ้าน เพราะฮยอกคงไม่สามารถขับกลับมาเองได้ 

    “ฮยอกถึงแล้ว ฮยอกเข้าบ้านเถอะ” 
    รถเข้ามาจอดในตัวบ้านแต่อีกคนยังไม่มีท่าทีจะขยับ ด๊องจึงเรียก 

    “อ๋อ..อืม” 
    ตอบรับสั้นๆ แล้วก็เดินเข้าบ้านไปเงียบๆ 
    ด๊องมองตาม ก่อนที่จะเดินตามเข้าบ้านไป 

    “ฮยอกหิวมั้ย ด๊องหาอะไรให้กินเอามั้ย” 

    “ฮยอกร้อนมั้ย ไปอาบน้ำก่อนดีมั้ย” 

    “ฮยอกรายการเรื่องนี้สนุกมากเลยมาดูด้วยกันซิ” 
    คำถามที่ด๊องเป็นผู้เฝ้าถามอีกคน  แต่ก็ไม่มีคำถามใดที่ได้คำตอบ 
    จนตอนนี้ด๊องทนไม่ไหวอีกต่อ 

    “ฮยอก...ด๊องรู้ว่าฮยอกห่วงมิน..แต่ฮยอกช่วยสนใจด๊องสักนิดได้มั้ย” 
    คำถามที่เต็มไปด้วยความหวัง...หวังว่าอีกคนจะหันมาตอบอะไรบ้างก็ยังดี.... 

    “ฮยอกขอโทษ” 
    พูดจบชายหนุ่มก็เดินขึ้นห้องไป 
    ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของด๊องอีก ขาที่ใกล้หมดเรี่ยวแรงพาตัวเองมานั่งลงที่โซฟาในบ้าน 

    ผมรู้ว่าที่ผมทำมันทำร้ายด๊อง  แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง  ผมนึกไม่ออก ผมคิดถึงแต่มิน 

    ...ขอแค่ให้มินตื่นขึ้นมาคุยกับผมอีกครั้ง...ผมขออ้อนวอน... 

    ......................................................................... 


    เช้าอีกวัน 

    ผมไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน  ตื่นมาผมก็เห็นใครบางนั่งซบกับที่นอนผมอยู่ 
    ไม่ใช่ใครนอกจากด๊อง...ด๊องยังคงอยู่กับผม 
    หากผมไม่มีมิน  ผมคงจะรักด๊องมากกว่านี้...ด๊องไม่น่ามาเจอคนอย่างผมเลย 

    “ด๊อง....เช้าแล้ว...ตื่นเถอะ” 
    ผมปลุกด๊องเบา 

    “เช้าแล้วหรอ...ง่วงอยู่เลย” 

    “ด๊องนอนต่อก็ได้นะ...เดี๋ยวฮยอกจะไปหามินที่โรงพยาบาลก่อน...แล้วด๊องค่อยตามไปก็ได้” 

    “ไม่เอาอ่ะ  ด๊องไปด้วยงั้นเดี๋ยวลงไปเจอกันข้างล่างนะ” 
    แล้วด๊องก็วิ่งออกจากห้องผมไป 

    เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล 
    เมื่อมาถึงผมกับด๊องก็มุ่งตรงไปที่ห้องพิเศษทันที เราได้พบคุณหมอทึกที่นั่น 

    “มาเช้าจังนะครับ หมอมีข่าวจะบอกพวกคุณด้วย ไปคุยที่ห้องหมอดีกว่าครับ” 
    คุณหมอทักด้วยรอยยิ้ม  พวกเราเดินตามคุณหมอไปที่ห้อง 

    “หมอได้ตรวจดูอาการของคุณซองมินอย่างละเอียดแล้วนะครับ 
    ตอนนี้ไม่อะไรหน้าห่วงแล้ว เรื่องการความดันหมอจะให้ยาลดความดันเรื่อยๆ 
    จะมีปัญหาอยู่นิดนึกก็คือคุณซองมินมีอาการเส้นเลือดที่บริเวณท้ายทอยแตก 
    มันจะทำช่วงนี้คุณซองมินอาจมีปัญหาทางด้านการรับรู้ความรู้สึกที่ขาซ้าย” 
    สีหน้าคุณหมอดูจริงจังกว่าตอนแรก 

    “แล้วมินจะเป็นยังไงครับ” 
    ฮยอกเริ่มใจคอไม่ดี 

    “ก็มันจะเป็นอาการชาชั่วคราวเท่านั้นครับ  โดยบางครั้งเจ้าตัวอาจจะไม่รู้สึก ยกตัวอย่างเช่น 
    อาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองใส่หรือไม่ใส่รองเท้าอยู่  หรืออาจจะเดินเซไม่รู้ตัว 
    แต่ถ้าคุณซองมินกินยาที่หมอจัดให้อาการก็จะดีขึ้นเรื่อยจนดูเหมือนปกติได้ครับ” 

    ข่าวของคุณหมอถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผม อย่างน้อยมินก็ปลอดภัยดี 
    ผมกับด๊องเดินขึ้นมารอบนห้องพัก  คุณหมออนุญาตให้มินอยู่ห้องธรรมดาแล้ว อีก 2-3 วัน ก็กลับบ้านได้ 
    ไม่นานคุณพยาบาลก็เข็นเตียงมินขึ้นมา มินยังคงหลับอยู่ 
    หลังจากที่คุณพยาบาลจัดแจงให้มินนอนเตียงคนไข้แล้ว ก็กลับออกไป 
    ผมนั่งลงข้างเตียงมิน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมนั่งกุมมือของมินไว้  มารู้ตัวก็ตอนที่มีขอความเข้ามา 
    เป็นข้อความของด๊อง 
    ‘ด๊องมีธุระ ด๊องกลับนะ เฝ้ามินดีๆล่ะ’ 
    ผมยิ้มกับข้อความของด๊อง ด๊องยังน่ารักเสมอในความคิดของผม 

    ผมลุกไปเข้าห้องน้ำสักพักก็กลับมา เมื่อประตูเข้าผมก็พบสิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด 
    กระต่ายน้อยของผมนั่งตาแป๋วมองผมอยู่บนเตียง ขาของผมค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ 
    มือของเอื้อมไปแตะหน้านั้น เพื่อให้ผมแน่ใจว่านี่คือความจริง 

    “ฮยอก” 
    เสียงที่ผมอยากฟังที่สุด ถึงแม้จะเป็นคำสั้นๆ แต่นั่นคือชื่อของผม 
    น้ำตาแห่งความดีใจของผมร่วงหล่นลง สีหน้าของมินเศร้าลง 

    “ฮยอก...มินขอโทษ” 
    ผมคว้ามินมากอดไว้ ผมรู้สึกว่ามินร้องไห้เช่นกัน ผมลูบหลังให้มินเป็นปลอบ 

    “ไม่เป็นไรมิน เรื่องมันผ่านไปแล้ว ช่างมันเถอะ” 

    “ฮยอกไม่โกรธมินจริงๆนะ” 
    ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆมิน  หันให้มินหันมามองผม 

    “ถ้าไม่อยากให้ฮยอกโกรธ มินก็อย่าทำอย่างนี้อีกนะ รู้หรือเปล่าว่าฮยอกเจ็บปวดแค่ไหนที่เห็นมินอยู่ให้ห้องไอซียู 
    ไม่ตอบโต้อะไรเลย  มินอย่าดื้อกับฮยอกอีกนะ” 
    ตอนนี้ผมได้มินคืนมาแล้ว และผมจะไม่ให้มินจากผมไปอีก 

    หลังจากที่คุณหมออนุญาตให้มินกลับบ้านได้แล้ว 
    เรากลับมาอยู่บ้านของเรา ผมดูแลมินอย่างดี  แล้วมินก็ไม่ดื้อเหมือนก่อน 
    แถมเรายังมีด๊องที่แวะเวียนมาอยู่กับเราเป็นประจำ  พอบอกให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ด๊องก็ไม่ยอม 
    จนวันนึงที่ซองมินหลับอยู่ในห้องรับแขก 

    “ฮยอก...ด๊องมีเรื่องอยากจะถาม ช่วยตอบหน่อยได้มั้ย” 

    “อะไรหรอด๊อง” 

    “ฮยอกเคยรักด๊องบ้างมั้ย” 

    “รักซิด๊อง ด๊องดีกับฮยอกกับมินมาก ถ้าไม่มีด๊อ.../ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น” 
    ผมรู้สึกว่าด๊องกำลังอัดอั้นอะไรอยู่ 

    “ตอนที่เราคบกัน ฮยอกเคยรักด๊องบ้างมั้ย  ด๊องรู้นะ ว่าฮยอกรักมินมานานแล้ว 
    แต่ฮยอก..เคยรักด๊อง..เหมือนที่รักมินบ้างมั้ย” 
    ด๊องถามผมอย่างน่าสงสาร  ผมจะตอบด๊องยังไงดี 

    “ตอนนั้นฮยอกเคยคิดว่า วันหนึ่งฮยอกจะรักด๊องแล้วก็จะลืมมินได้ และตอนนั้นฮยอกก็รักด๊องจริงๆ 
    เพียงแต่ว่าฮยอกลืมมินไม่ได้และฮยอกก็รักมินมาก ฮยอกขอโทษนะด๊องที่ทำให้ด๊องต้องเสียใจที่ต้องมาเจอคนเลวๆอย่างฮยอก” 
    ผมทำได้แค่นี้ ผมพูดไปตามความจริง 

    “ทำไมฮยอกใจร้ายอย่างนี้ล่ะ  ฮยอกใจร้าย ใจร้ายที่สุด” 
    ด๊องเข้ามาทั้งทุบทั้งตีผม ผมปล่อยให้ด๊องทำร้ายผมให้พอใจ แต่สุดท้ายด๊องก็ปล่อยโฮออกมา 
    ผมกอดด๊องไว้อย่างน้อยก็เป็นการปลอบใจ 

    หลังจากวันนั้น ด๊องยังคงมาหาเราเหมือนเดิม 
    และดูเหมือนความสัมพันธ์ของผมกับด๊องจะดีขึ้น เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน... 

    .....ผมต้องขอบคุณด๊องจริงๆ.... 


    ......................................................................... 


    [December 25, 2008] 


    คืนนี้เป็นคืนคริสต์มาส...มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะ... 
    บ้านเรือนร้านค้าถูกประดับประดาด้วยไฟสีสวย... 
    ผู้คนมากมายออกมาชมความสวยงามของต้นคริสต์มาสที่ถูกจัดแต่ง... คนรอบข้างส่วนใหญ่มักมากันเป็นคู่... 
    ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ออกมาชื่นชมความสวยงามนั้นมัน... 
    กับคนสองคนที่เค้าจะคอยอยู่ใกล้ๆผมทุกเวลา...คนหนึ่งเคยเป็นอดีตแฟนของผม 
    แต่ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน...เค้าดูแลผมดีตลอดมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้.. 
    ..และอีกคน...เค้าคนนั้นจะคอยดูแลผมไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนก็ตาม...เค้ายังเสมอต้นเสมอปลาย.. 
    คนน่ารักที่ผมอยากอยู่ใกล้เค้าตลอดเวลา..ไม่ว่าจะนานแค่ไหนความรู้สึกนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม... 
    และเป็นคนเดียวที่ผมอยากจะบอกว่า...ผมรักเค้ามากแค่ไหน... 


    “ฮยอก  มิน หันมาทางนี้หน่อยซิ.....ถ่ายรูปคู่กันหน่อยเร็ว” 
    ด๊องทำตัวเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นวิ่งมาจัดแจงท่าทางของผมกับมิน แล้วก็ถ่ายรูปไม่ยอมหยุด 

    “ด๊องพอแล้ว มินยิ้มจนเมื่อยแล้วนะ” 
    มินยิ้มอย่างมีความสุข แกล้งแหย่ด๊องเล่น 

    “โธ่ ก็ด๊องจะเอารูปเจ้าบ่าวเจ้าสาวเยอะๆนี่” 
    ด๊องแกล้งคืน ทำให้มินหน้าแดงทันที 

    “งั้นเอาตอนเจ้าบ่าวหอมแก้มเจ้าสาวมั้ยด๊องเดี๋ยวฮยอกจัดให้” 
    เท่านั้นผมก็โดนมินตีเข้าให้ ท่างอนของมินมันน่ารักหน้าหยิกซะจริงๆ 

    หลังจากที่เรา 3 คน ฉลองคริสต์มาสแล้ว เราก็เดินไปตามทางที่ประดับแสงไฟตลอดทาง จนเวลาผ่านล่วงเลยไป 
    เราแลกของขวัญกัน หลังจากนั้นด๊องก็ขอกลับก่อน 
    ผมกับมินเลยเดินไปเรื่อยๆ หยุดที่สวนแห่งหนึ่ง แล้วอยู่ๆมินก็ส่งถุงกระดาษที่ผมเห็นมินถือมาตลอดให้ผม 
    ผมรับมา ภายในถุงมีกล่องของขวัญสีชมพู ที่มันดูช่างคุ้นตา 

    “มินเก็บมันมา 2 ปี แล้ว แต่ไม่กล้าให้ฮยอกซักที  ไม่รู้ว่าฮยอกจะชอบหรือเปล่า” 
    ผมแกะของขวัญออกในตอนนั้นเลย  ข้างในมันมีผ้าพันคอที่ถักจากไหมพรมสีฟ้าอยู่ 
    มีการ์ดเล็กๆเขียนไว้ว่า  ‘สุขสันต์คริสต์มาสนะ  ถ้าไม่ใช้โกรธจริงๆด้วย’ 
    ผมยิ้มออกมาแล้วก็เอาผ้านั้นมาพันคอทันที   

    “ฮยอกชอบหรือเปล่า” 

    “อะไรที่มินให้ฮยอกก็ชอบทั้งนั้นแหละ” 

    “ปากหวาน” 
    แล้วมินก็หันไปนั่งอมยิ้ม  ผมจับมือมินมากุมไว้ เวลานี้มันช่างมีความสุขมากๆ 

    “ฮยอกหิมะ” 
    มินชี้หิมะให้ผมดู 

    “ฮยอก..มีคนเค่าบอกว่า ถ้าเราได้เห็นหิมะแรกของปีกับใคร......คนนั้นจะเป็นคนรักและอยู่กับเราไปนิรันดร์ 
    ฮยอกเชื่อหรือเปล่า..” 
    มินหันมาถามผม 

    “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ..อืม...ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ก็ขอให้ฮยอกได้อยู่กับคนที่นั่งอยู่ข้างอย่างนี้ตลอดไปแล้วกัน”
    ทำไมผมจะไม่เคยได้ยิน..ก็คนที่อยู่ข้างๆผมนี่แหละเป็นคนบอก...เพราะอย่างนี้มั้ง
    ผมเลยอยากจะลองเชื่อมันสักครั้ง... 

    “มินก็อยู่กับฮยอกตลอดไปเหมือนกัน” 

    “เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” 

    .....ผมไม่รู้ว่าความสุขของคนอื่นมันเป็นแบบไหน… 

    ......แต่ความสุขสำหรับผม..คือการที่ผมได้อยู่ ใช้ชีวิต เคียงข้างคนที่ผมรัก... 

    ....แค่ได้อยู่เคียงข้าง  ได้เฝ้ามอง  เท่านั้นมันก็เป็นความสุขสำหรับผม… 

    ....แต่วันนี้ผมได้มีโอกาสที่จะรัก และได้รับความรักจากคนสำคัญของผม... 

    ....เท่านั้นมันเพียงพอแล้วสำหรับชีวิตของคนที่เฝ้าค้นหาความสุข... 

    …แล้วคุณล่ะครับ...ความสุขของคุณ...หาเจอแล้วหรือยัง...
     


    ~END STORY II~ 


    ......................................................... 

    ::Talk:: 

    จบแล้วสำหรับพาร์ทของฮยอก 

    สำหรับตอนหน้า..ใครที่ข้องใจเกี่ยวกับด๊อง... 

    เราจะได้มารู้กัน...ว่าด๊องคิดอย่างไร.. 

    แต่สำหรับวันนี้ไรเตอร์ขอลาไปก่อน...เจอกันคราวหน้าจ้า...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×