เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน...เขาก็เพิ่งเจอจังๆก็วันนี้
ควอนจียง เพื่อนที่อายุน้อยกว่าเขาเมื่อสมัยเด็ก...เป็นความบังเอิญเข้าขั้นสุดยอดเมื่อตัวขี้เกียจเอาแต่อยู่บ้านไม่ออกไปไหนย่างเขาไปที่ร้านและได้เจอกับเพื่อนคนนี้อีกครั้ง
ตอนแรกเขากะว่าจะเข้าไปทักดีๆ แต่ด้วยภาพลักษณ์ที่เลี่ยนไปของเขาถ้าอยู่ดีๆเดินเข้าไปทักแล้วเกิดหน้าแตกเมื่ออีกฝ่ายจำเขาไม่ได้ก็จะรู้สึกแย่เปล่าๆ
เพราะงั้นเขาเลยเข้าไปในฐานะพนักงานของร้านคนหนึ่ง...
ตอนที่เห็นชายคนหนึ่งใกล้ๆจียงเขารู้สึกใจหายวาบ กลัวคนๆนั้นจะเป็นคนรักของเจ้าตัวแต่ก็โล่งใจไปเปาะเมื่อนอกจากทั้งสองจะกัดกันแขวะกันแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นให้เห็นนอกจากความเป็นเพื่อน
จนตอนที่เขาเข้าไปทักแล้วก็แกล้งงอนเรื่องที่อีกฝ่ายจำเขาไม่ได้ แต่ไหงอีกฝ่ายกลับมางอนๆเหวี่ยงๆเขาแทนก็ไม่รู้
เมื่อก่อนน่ารักจะตายเขางอนจียงก็ง้อ แต่ตอนนี้จียง(คง)งอนเพราะงั้นเขาก็จะไปง้อ...ให้ถึงบ้านเลย
ผมขู่เฮยุนว่าจะแฉเรื่องที่ชอบขโมยเสื้อผ้าเขามาใส่บ่อยเค้าเลยให้ที่อยู่ของจียงมา จียงเป็นสมาชิก V.I.P. ของห้องเสื้อของเราเลยนะ
แล้วตอนนี้ผมก็อยู่ที่หน้าบ้านแล้วแหละ
ปิ๊นๆ!!!
ประใหญ่ถูกเปิดออกเมื่อได้ยินเสียงบีบแตร ก่อนที่รถสีดำสนิทจะถูกขับเคลื่อนเข้าไปในบ้านหลังใหญ่
“มะ ไม่ทราบว่าต้องมาพบใครหรือคะ” สาวใช้ก้มหน้าลงต่ำขณะถาม แน่ใจได้เลยว่าไม่ใช่เพราะมารยาทแต่เพื่อที่จะปิดหน้าแดงๆที่ตอนนี้ลามมาถึงหูแล้วต่างหาก
“ควอนจียง” ซึงฮยอนตอบสั้นๆ ตามองเข้าไปในตัวบ้าน
“จะให้บอกว่าใครมาพบหรือคะ” สาวใช้คิ้วขมวด ไม่อยากไปตามคนที่อีกฝ่ายอยากพบ
“บอกแค่ว่ามีคนต้องการพบก็พอ” มุมปากคนพูดยกขึ้น เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเมื่อได้พบตน
“มีคนมาขอพบคุณหนูค่ะ”
“ใคร” จียงถามเสียงอู้อี้ ค้างมือที่หยิบคุกกี้ส่งเข้าปากอย่างรอคำตอบ
“ไม่ทราบค่ะ”
“หา! ทำไมไม่ถามให้แน่ใจก่อนฮะ! ถ้าชั้นลงไปแล้วเกิดเป็นคนที่ชั้นไม่อยากเจอแล้วจะทำยังไง!”
“ดิชั้นถามแล้วค่ะ แต่เขาให้ดิชั้นบอกแค่ว่ามีคนอยากพบน่ะค่ะ”
“หน้าตาเป็นไง”
“หล่อค่ะ หล่อมาก” เมื่อถามถึงหน้าตาสาวใช้ก็รีบตอบตาเป็นประกาย
“= =”
“หน้าเข้มๆ ตัวสูงๆ”
“พอๆ รู้แค่นั้นหรือไง” จียงรีบเบรก หารู้ไม่ว่าตัวเองไปเบรกลักษณะสำคัญของอีกฝ่ายเข้าแล้ว “เดี๋ยวชั้นลงไปดูเอง เธอพากาโฮไปที่ห้องชั้นแล้วตามลงไปละกัน” สั่งเสร็จก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นโดยที่ปล่อยให้สาวใช้พึมพำด้วยความเพ้อต่อไป
“คนอะไรก็ไม่รู้ ขนาดทำหัวขาวแล้วยังหล่อ!”
หลังจากสาวใช้พากาโฮไปไว้ที่ห้องเสร็จเธอก็รีบลงมาเพื่อจะมารับใช้ ‘แขก’ ของจียง แต่ก็ต้องแปลกใจที่ยังเห็นนายของตนยืนอยู่หน้าห้องรับแขกอย่างลังเล? เห็นได้คิ้วที่ขมวดและ...แก้มที่เดี๋ยวก็พองเดี๋ยวก็ยุบ ซึ่งอาการหลังนี่เธอไม่เคยจะเห็นแต่สาวใช้ที่ดีอย่างเธอจะปล่อยให้ ‘แขก’ รอนานไม่ได้ เห็นดังนั้นเธอจึงไม่รอชี่จะเข้าไปเตือน
“คุณหนูคะ ทำไมไม่รีบเข้าไปล่ะคะ”
“ทำไมเธอไม่บอกชั้นฮะ ว่าไอ้หน้าเข้มๆหล่อๆของเธอมันผมขาวด้วย” จียงตะคอกใส่สาวใช้ด้วยความหัวเสีย
“ดิชั้นกำลังจะบอกค่ะ แต่คุณหนูบอกง่าจะลงมาดูเอง”
จียงกัดริมฝีปากอย่างขัดใจแล้ว “จำใจ” ผลักประตูเข้าไปในห้องรับแขก
ซึงฮยอนหันมองตามเสียงประตูที่ถูกเปิดออก ท่าทางไม่พอใจของคนที่เข้ามาทำให้เขาอดยิ้มไม่ได้
“บ้านน่าอยู่นะจียง” แค่ประโยคแรกก็ทำให้จียงออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เค้าหวังว่าจะได้ยินอีกฝ่ายพูดอะไรที่ไม่ต้องเป็น ‘มารยาท’ แต่เค้าคงเข้าใจผิดไป เพราะประโยคต่อมาทำให้เค้าเข้าใจว่าอีกฝ่ายตามมา ‘งอน’ เค้าถึงที่บ้านต่างหาก
“เสียดายถ้าบ้านเราอยู่ติดกันเหมือนเมื่อก่อนชั้นคงได้มาบ่อยๆ”
“ซึงฮยอน...ถ้าพี่มาเพื่อพูดแค่นี้ก็กลับไปเถอะครับ” มีไม่กี่คนหรอกที่จียงจะพูดเพราะด้วย และเพราะอีกฝ่ายเป็น ‘เพื่อน’ ที่อายุมากกว่าเค้าก็เลยพูดเพราะด้วยหรอก
จียงทำท่าจะเดินออกจากห้อง ซึงฮยอนเลยคว้าแขนไว้
“นายน่ะ...นายน่าจะพูดอะไรบ้างนะ ไปโดยไม่บอกซักคำ ให้ชั้น...”คิดถึงนายอยู่คนเดียว
จียงบิดข้อมือที่ถูกจับไว้ออก ก้าวถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่างไปหนึ่งก้าว มองตาอีกฝ่ายอย่างค้นหา
“ให้ชั้น?...ผมทำอะไรเหรอ”
“ให้ชั้นไม่มีคนแกล้งไง มัน...ช่างเถอะ!” เหงาจนแทบบ้าที่ไม่มีใครมางอนใส่เหมือนเดิม
“เหอะ! พี่ก็ดีแต่อย่างงี้แหละ!ออกไปจากบ้านผมเดี๋ยวนี้นะ!” ที่ผ่านมาพี่มองเค้าเป็นแค่ของเล่นของพี่หรือไง ไม่เคยเข้าใจสันิดว่าเค้ารู่สึกอย่างไร ไม่รู้สักนิดว่าเค้าเสียใจแค่ไหน...ไม่รู้สุกนิดว่าเค้าคิดถึงแค่ไหน
ซึงฮยอนมองนัยน์ตาของอีกฝ่ายแล้วใจอ่อนยวบ นึกว่าตัวในใจว่าปากเสีย
“จียง...พี่ขอโทษ พี่แค่น้อยใจ”ซึงฮยอนบอกแล้วคว้าร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมแขน
“ปล่อยนะ!อย่ามากอดผม” จียงดิ้มเราๆเพื่อให้หลุดจากความใกล้ชิดที่เกินพอดีนั่น
แต่ซึงฮยอนกลับยิ่งโอบแน่นอย่างได้ใจเมื่อได้เห็นหูแดงๆของอีกฝ่าย แล้วพูดอย่างยียวน
“แต่ก่อนยังกอดกันออกบ่อย” คนพูดมุมปากกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“นั่นมันแต่ก่อน! แต่เดี๋ยวนี้ห้าม!” ยิ่งดิ้นเท่าไรตัวเองก็ยิ่งสียเปรียบมากเท่านั้นเลยยืนนิ่งๆในอ้อมแขนแล้วหันกลับไปพูดกับคนตัวโต
และก็รู้ว่าคิดผิดเมื่อทำอย่างนั้น
สายตาขอร่างสูงที่มองมาทำให้ลมหายใจเค้าสะดุดผิวหน้าร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกอยากจะหายไปจากตรงน้ให้รู้แล้วรู้รอดและแทบจะเป็นลมเมื่อริมฝีปากสวยได้รูปของอีกฝ่ายกดจูบลงมาบนปากตนก่อนจะถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง
ซึงฮยอนมองคนที่ยืนนิ่งอึ้งในอ้อมแขนด้วยสายตาที่พราวไปด้วยความขบขันก่อนจะไล้นิ้วร้อนๆตามริมฝีปากของร่างเล็กรู้สึกตัว
==============================
ครบแล้วฮุฮุ
ความคิดเห็น