ตอนที่ 2 : Can you hear my heartbeat?(end)
ฟิค Yuri!!! On Ice
Yuri x Victor
Can you hear my heartbeat?
ลานสเกตน้ำแข็ง ‘ปราสาทน้ำแข็ง ฮาเซ็ตสึ’ ที่เขา ยูโกะ และนิชิโกริชอบมาสเกตด้วยกันบ่อยๆเงียบเหงาลงไปมากหลังจากผ่านไปหลายปี แม้จะมีพนักงานและยูโกะดูแลอยู่ก็ไม่อาจหยุดให้มันทรุดโทรมลงตามกาลเวลาและสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เหมือนบ้านของยูริที่เปิดกิจการออนเซ็นเพียงที่เดียวในจังหวัด มันเคยครึกครื้นและล้นหลามมากกว่านี้ แต่นั่นคือเมื่อเขายังเป็นเด็ก ลานสเกตนี้ก็เหมือนกัน มันกำลังต่อสู้กับเวลาอยู่
แต่มันกำลังเปลี่ยนไป
หากเปรียบลานสเกตฮาเซ็ตสึเป็นซากปรักหักพังเก่ากึกนานพันปี วิคเตอร์ นิคโฟโรฟก็คงจะเป็นจอมขมังเวทย์ที่ร่ายคาถา สำแดงเดชอันแรงกล้า เป่าปัดความตายไปพร้อมๆกับฝุ่นและรอยร้าวตรงกระจกใส ระยะทางที่เดินจากห้องเก็บรองเท้าสเกตไปจนถึงสนามช่วงเป็นเวลาที่ทรมานและน่าตื่นเต้นสำหรับยูริจับใจ เบื้องหน้าของเขาคือแผ่นหลังสีดำของเสื้อคอกลมแขนยาวถึงข้อศอก ผู้สวมใส่คือวิคเตอร์ ซึ่งเดินโซเซเล็กน้อยเพราะเพิ่งดื่มมาจากงานวัดเทศกาลประจำจังหวัดคิวชู เสียงใบมีดของรองเท้าดังกระทบพื้นดังก๊อกๆ วิคเตอร์ใส่รองเท้าสเกตอยู่ ส่วนยูริก็ถือรองเท้าสเกตในมืออย่างงงๆ
“ วิคเตอร์ คือ...ผมว่าเราไม่ควรเข้ามาที่นี่นะ” ยูริที่ถูกจูงพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ “ นี่ก็ดึกแล้ว ลานเขาปิดไปตั้งนานแล้วล่ะ ผมว่าพรุ่งนี้ค่อยมามั้ย?”
“ หืมม์” วิคเตอร์หันมามองยูริโดยที่ยังไม่หยุดเดิน “ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำให้เพื่อนเธอเดือดร้อนหรอก”
“ ผมไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น ที่ยุจังให้กุญแจกับผมเพราะผมชอบลืมของในนี้บ่อยๆต่างหาก ถึงถูกจับได้ ผมก็รู้จักเจ้าของที่นี่ คงไม่โดนจับหรอกมั้ง” พวกเขาทำตั้งแต่ลักลอบเข้ามาในลานตอนเกือบเที่ยงคืน เปิดฮีตเตอร์ เปิดไฟ ใช้รองเท้า ถ้าเจ้าของมาเห็นก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี ในเมืองนี้มีคนคลั่งไคล้สเกตน้ำแข็งจนถึงขนาดเข้ามาเล่นกลางดึกไม่กี่คนหรอก
“ อืม………...ฉันไม่เคยเข้าคุกเลย อยากลองอยู่บ้างจัง” วิคเตอร์เริ่มพูดญี่ปุ่นคำ อังกฤษคำ และมีรัสเซียปนมาบ้าง “ มันต้องเป็นประสบการณ์ที่ชวนตะลึงมากแน่ๆ”
“ นี่ คุณวิ่งไม่ไหวหรอก” ยูริพยายามดึงดัน เขาหยุดเดินทำให้ชายด้านหน้าเซ การที่อีกฝ่ายยังทรงตัวบนใบมีดทั้งที่เมาได้อยู่นั้นเป็นความสามารถที่เหลือเชื่อสำหรับยูริทีเดียว วิคเตอร์หันกลับมามองยูริตาเยิ้ม และยูริมั่นใจว่าคนตรงหน้าสติล่องลอยไปแล้วเรียบร้อย แขนที่ดึงเขาอยู่ผ่อนแรงลงจนยูริสามารถสะบัดหลุดได้ถ้าเขาจะทำ
วิคเตอร์ย่องเข้ามาใกล้ยูริจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะชนกันและยูริได้กลิ่นสาเกฉุนจากร่างกายของอีกฝ่าย
มาแล้ว ท่าไม้ตายของวิคเตอร์ ใช้ไม้แข็งไม่ได้ ก็ต้องไม้อ่อน
“ ฉันไม่เมาขนาดสเกตไม่ได้หรอก”
“ ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”
มันเป็นหัวข้อสนทนาที่ยูริอยากจะเลี่ยง เขาคิดว่ามันคงแทงใจดำวิคเตอร์ พาลทำให้หวนนึกถึงคืนนั้น คืนที่วงการสเกตต้องระทึกขวัญ คืนที่ส่งผลกระทบต่อวงการไปทั่วโลก แต่วิคเตอร์ก็ยิ้มอยู่แบบนั้นแม้จะเป็นยิ้มที่ดูฝืนๆ คิ้วลู่ตก ตาที่ฉ่ำนั้นยูริไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียวหรือเปล่า พอมองไปที่โค้ชของตัวเองผู้แสนดื้อด้านก็ถอนหายใจ
“ งั้นแค่แปบเดียวนะครับ ถ้าคุณล้มผมจะเข้าไปช่วย และเราจะหยุดทันที”
วิคเตอร์หันไปเดินต่อโดยไม่ลืมจูงมือยูริ ชายตรงหน้าเขาไม่เคยทำให้ตนหยุดประหลาดใจแม้แต่ครั้งเดียว แม้กระทั่งตอนนี้ ตอนที่วิคเตอร์ไม่อาจยืนอย่างองอาจกลางลานสเกตได้อีกแล้ว
เมื่อมาถึงลาน วิคเตอร์ปล่อยมือจากยูริ คราวนี้กลับเป็นฝ่ายยูริซะเองที่ไม่อยากปล่อยมือไป ถ้าวิคเตอร์ล้มเขาจะไปช่วยทันรึ? ถ้าวิคเตอร์อาการแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่นี้อีกล่ะ?
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีทางห้ามให้วิคเตอร์สเกตได้อย่างเด็ดขาด มันเป็นไปไม่ได้เลย ดวงตาสีน้ำตาลจ้องคนตรงหน้าที่กำลังพับแขนเสื้อขึ้น ตาสีโทแพซมองลานสเกตอย่างโหยหา เกือบๆจะหิวกระหาย วิคเตอร์กับสเกตเหมือนเป็นของคู่กัน เขาลื่นระบำบนน้ำแข็งราวกับว่านั่นคือบ้านเกิดของตัวเอง เมื่อเห็นว่าวิคเตอร์แล่นบนลานได้อย่างสำเร็จ ยูริถอนหายใจโล่งอก เขากำลังจะสวมรองเท้าเพื่อลงวิ่งบ้าง วิคเตอร์ก็รีบวิ่งมาใกล้เขา ยกมือสองข้างขึ้นอย่างร่าเริง
“ ยูริ! เธอห้ามลงมานะ ฉันอยากให้เธอดูฉัน” พร้อมกับเอานิ้วชี้สองข้างจิ้มแก้มตัวเอง วิคเตอร์ยิ้มตาหยีมองยูริที่ทำหน้าว้าวุ่นใจ
“ แต่ถ้าคุณล้ม..”
“ สบายมากน่า ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไหว”
“ …..รอบเดียวนะครับ”
วิคเตอร์ยกแขนสองข้างเกยกับขอบสนาม มองยูริที่ยืนมองตัวเอง ยูริคิดว่าเขาเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายแตกต่างออกไป ใบหน้านั้นยังส่งยิ้มให้เขาอยู่ แต่มันหมองลง วิคเตอร์ดูแก่ลงถนัดตาทั้งที่อายุยังไม่ถึงสามสิบดี
“ ยูริ ฉันคิดว่า เธอคงไม่ต้องให้ฉัน...เป็นโค้ชเธออีกแล้ว”
“ ไม่ครับ”
วิคเตอร์ไม่ยิ้มอีกต่อไป “ ยูริ”
“ เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว”
“ มันไม่เคยจบด้วยดี ฉันรู้ แต่ว่ายูริ...เธอจมอยู่กับโค้ชคนเดียวไปตลอดไม่ได้” นิ้วมือของวิคเตอร์ประสานกัน “ มันก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากที่เป็นอยู่ตอนนี้เท่าไหร่นะ ฮะฮะ ฉันในตอนนี้คงจะเดินทางกับเธอไม่ได้แล้ว อีกอย่างนึง ฉันคิดว่าตัวเองคงต้องเข้ารับกายภาพบำบัดจริงๆจังๆแล้วล่ะ”
“ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ! ผมอยากให้คุณสอนผมอีก!! ผมไม่อยากให้ใคร---มาแทนที่คุณ!! กายภาพบำบัดน่ะ ทุกวันนี้คุณก็ทำไม่ใช่รึ!?” ยูริตะโกนเสียงดัง วิคเตอร์ยักไหล่
“ เธอไปได้ไกลกว่าฉันแล้ว ฉันไม่มีอะไรจะสอนเธอแล้วล่ะ ตอนนี้เธอยังครองแชมป์อยู่ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเธอจะอยู่กับที่ได้ สักวันก็ต้องมีคนโค่นเธอได้อยู่ดี”
“ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้ตลอด แต่ถ้าเธอจะแพ้ ก็อยากให้เธอหาทางลงสวยๆสักหน่อยนะ ฉันไม่อยากให้เธอต้องแพ้หมดรูป ”
เหมือนฉัน..
.วิคเตอร์หัวเราะ ขยับเท้า ร่างกายเลื่อนถอยห่างจากขอบสนาม ยูริกำลังจะเอื้อมมือออกไปเพื่อหยุดคนตรงหน้าเพราะพวกเขายังคุยกันไม่จบ
“ เดี๋ยว! วิคเตอร์!!”
ยูริเห็นว่าวิคเตอร์หยุดอยู่ที่กลางลาน เท้าซ้ายอยู่หน้าเท้าขวา ยืนตัวตรง แขนตกข้างตัว นั่นคือท่าเตรียมพร้อมก่อนจะเริ่มวิ่ง แสงไฟสลัวสีเหลืองอ่อน วิคเตอร์ในชุดดำ ทุกอย่างเสริมกันจนยูริคิดว่าวิคเตอร์จะจมหายไปกับความมืด ผมสีบลอนด์ซีดที่ยาวเลยใบหน้าปรกลงจนเขาไม่มองให้เห็นอารมณ์ของวิคเตอร์ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ผมของอีกฝ่ายยาวขนาดนี้ พวกเขาตัวติดกันตลอดจนไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของอีกฝ่าย
“ มีอย่างหนึ่งที่ฉันอยากแสดงให้เธอดู….อย่างสุดท้าย” วิคเตอร์ไม่ได้พูดเสียงดัง ทั้งอย่างนั้น เสียงของเขาก็ก้องกังวานไปทั่วลาน ดังชัดสะท้อนเข้าไปกลางใจของยูริ
วิคเตอร์ผายมือออกสูงระดับขนานไปกับไหล่ “ ความรัก”
เสียงใบมีดรองเท้าเสียดสีไปกับทางน้ำแข็งดังครืด และยูริก็พบว่าตนไม่สามารถละสายตาไปจากพ่อมดน้ำแข็งคนนี้ได้เลย
------
ปีที่ผ่านมา วันที่ 23 ธันวาคม ช่วงเวลาที่น่าจะได้เป็นวันที่ควรจดจำ กลายเป็นวันที่ไม่มีทางลืม ไม่มีใครทำใจกับคืนนั้นได้ อาจจะคิดว่าวันที่น่าจดจำกับวันที่ไม่มีทางลืมมันจะต่างกันสักแค่ไหน เชื่อเถอะ อย่างหลังมันลืมยากกว่านั้นมาก แม้จะพยายามจะลืมมันขนาดไหนก็ตาม มันเหมือนลิ่มที่ตอกลงบนหัวใจ ตรึงทุกคนไว้บนกางเขน ปล่อยให้เลือดค่อยๆไหลลงพื้น แต่มันไม่ทำให้ตาย พวกเขาจะทรมาน กรีดร้องเสียงแหลม อ้อนวอนขอให้ลืมสักที แต่ไม่ใช่…..มันจะวนมาแวะทักทายพวกเขาในฝัน หัวเราะเย้ยหยัน พวกมันโผล่มาเรื่อยๆเหมือนม้วนวิดีโอที่ฉายภาพซ้ำไปมา
คัตสึกิ ยูริชนะเลิศงานแข่งโอลิมปิกสเกตลีลา
เขารับถ้วยและเหรียญรวมถึงช่อดอกไม้ด้วยน้ำตา เขาไม่เหมือนยูริ พลิเซนสกีที่ได้รองชนะเลิศและยังคงท่วงท่าสง่างามโบกมือแก่ผู้ชมได้ ยูริยังคงไม่ชอบหน้าเขาอยู่ แต่ถ้าถามว่าเด็กหนุ่มคนนี้เติบโตขึ้นหรือไม่ ก็บอกได้เต็มปากเลยว่าโตขึ้นมาก ครั้งสุดท้ายที่ยูริข่มขู่และกลั่นแกล้งเขานั่นก็เมื่อปีที่แล้วได้ ยูริจ้องหน้าเขา กัดฟันทำตาขวาง ก่อนจะหันไปโบกมือให้ผู้ชมต่อ ดีจังนะ เขาก็อยากเปลี่ยนสีหน้าได้อัตโนมัติอย่างใจนึกได้บ้าง ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองคงเหมือนเด็กประถม ร้องไห้ฟูมฟายจนเมคอัพหลุด ผมที่ถูกรวบขึ้นเผยให้เห็นหน้าผากกว้างเริ่มลู่ตกมาบางส่วน
แม้สภาพจะไม่น่าดูชมนัก และยูริเดาได้ว่าพรุ่งนี้คงไม่พ้นที่ภาพร้องไห้ของเขาจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาของนักข่าวอย่างออกรส แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอย่างอื่น นอกจากชัยชนะที่เขาได้….
ทำได้แล้ว...ผมทำได้แล้ว ผมทำได้แล้ว!!!!
ผมชนะแล้ววิคเตอร์!!
ยูริรีบมุ่งที่ห้องเตรียมตัวนักกีฬาทันที เขาคิดว่าวิคเตอร์คงจะอยู่ตรงนั้น เพราะเขาไม่เห็นอีกฝ่ายที่อัฒจันทน์ เขาเปิดประตูด้วยสีหน้าแจ่มใส ในมือถือช่อดอกไม้สีแดงสดช่อใหญ่ และต้องผิดหวังเมื่อไม่มีใครอยู่ที่นี่ ยูริรีบคว้ามือถือของตนโทรหาวิคเตอร์ เมื่อไม่มีใคนรับก็รีบร้อนใจ เขาไม่รู้จะหาอีกฝ่ายได้ที่ไหนอีก เมื่อออกหาไปเรื่อยๆแล้วไม่เจอเสียที เสี้ยวหนึ่งก็โมโหวิคเตอร์อยู่นิดๆ แต่ก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะมีเหตุผลที่จู่ๆก็หายไปแบบนี้
โทรศัพท์ดังขึ้น ยูริเห็นว่าปลายสายคือพิชิตก็ถอนหายใจ รับอย่างเสียไม่ได้ ใจจริงไม่อยากให้ปลายสายเป็นใครอื่นนอกจากวิคเตอร์ “ พิชิต มีอะไรหรือเปล่า?”
[ยูริ]
เสียงปลายสายเงียบลง
“ เฮ้ อะไรของนายน่ะ? โทรมาก็เงียบ ฮัลโหล พิชิต” แล้วยูริก็นึกออก เขาจำได้ว่าห้องพักข้างๆเขาคือห้องพักของพิชิต จุลานนท์ เพื่อนนักแข่งชาวไทย และพิชิตก็แข่งเสร็จก่อนเขาด้วย “ ช่างเหอะ นายโทรมาได้เวลาพอดีเลย เห็นวิคเตอร์รึเปล่า? ฉันกำลังหาเขาอยู่”
[ยูริ คือ….ใจเย็นๆก่อนนะ เรื่องที่ฉันกำลังจะบอกนายมัน..แย่สุดๆเลย]
ยูริยักคิ้วสงสัย เสียงโห่ร้องยินดีของผู้ชมค่อยๆจางหายไป มันไม่เข้าโสตประสาทการได้ยินของเขาอีกแล้ว
[วิคเตอร์น่ะ..]
คราวนี้ แม้กระทั่งเสียงของพิชิต เขาก็ไม่ได้ยินอีก
ยูริกระวีกระวาดวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลที่พิชิตบอก เขายังอยู่ในชุดการแสดงสีดำมีลายระยิบระยับ มือถือช่อดอกไม้และถ้วยรางวัลโดดลงจากแท็กซี่ โชคดีที่ปีนี้กีฬาโอลิมปิกถูกจัดที่ญี่ปุ่น ถึงจะเป็นโตเกียวที่เขาไม่คุ้นทางก็ยังดีกว่าอยู่ต่างประเทศ ตอนได้ยินข่าว ยูริก็แทบจะทิ้งทุกอย่างและมาหาวิคเตอร์ แต่พิชิตกำชับว่าวิคเตอร์อยากเห็นรางวัลของยูริ
[หลังจากฉันแข่งเสร็จก็เดินมาจะเข้าห้องพัก ตอนที่ฉันกำลังผ่านห้องนายก็ได้ยินเสียงข้างในดังโครม ดังมากๆเลย ฉันเข้าไปก็เห็นวิคเตอร์นอนบนพื้น มือกุมข้อเท้า สีหน้าเขาทรมานมาก ฉันกับสตาฟฟ์เลยรีบโทรหารถพยาบาล ตอนแรกวิคเตอร์ไม่ยอมให้ฉันโทรเพราะกลัวนายจะรู้ถ้าทุกอย่างวุ่นวายขึ้นมา วิคเตอร์ปฏิเสธเต็มที่เลยว่าไม่อยากให้มีพยาบาลเดินวุ่นวายอยู่ด้านใน ฉันกับสตาฟฟ์เลยต้องช่วยกันหามเขามาส่งที่รถพยาบาลข้างนอกหลังจากที่นายลงสนามไปแล้ว]
ยูริวิ่งมากดลิฟต์ กดย้ำๆหลายครั้ง เพื่อหวังว่ามันจะสามารถลงมาถึงเร็วขึ้นสักเสี้ยววินาที ผู้คนมองเขาที่แต่งตัวหลุดโลกไม่น้อย ระหว่างที่รอก็รู้สึกว่าน้ำตาค่อยๆไหลออกมา เขารีบเช็ดมันออก น้ำตาที่ไหลจากชัยชนะเทียบไม่ได้เลยกับน้ำตาตอนนี้ มันแทงลงกลางใจเขาจนเจ็บ
[เอ็นร้อยหวายฉีกน่ะ น่าจะเป็นมานานแล้วด้วย วิคเตอร์บอกว่ามียากินอยู่และทำกายภาพบำบัด แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขาคิดว่าตัวเองอาการดีขึ้นแล้ว จึงกินแค่ยา หยุดทำกายภาพบำบัด แล้วมาฉีกซ้ำอีก]
ฟังแล้วเขาแทบจะล้มทั้งยืน หยุดทำกายภาพบำบัดรึ? หยุดได้ยังไง? วิคเตอร์ไม่ใช่คนที่ละเลยไม่ใส่ใจรายละเอียดขนาดนั้น รู้ๆกันอยู่ว่าขาคือชีวิตสำหรับนักสเกตแค่ไหน ยูริเดินมาถึงห้องตามหมายเลขที่พิชิตบอก ประตูค่อยๆเปิดออก พิชิตยืนมองเขา แต่ยูริคิดว่าตาของตัวเองไม่ได้จับจ้องที่ใครอีกเลย นอกจากคนที่นอนบนเตียง
“ ขอบใจนะ พิชิต” เขาขอบคุณอีกฝ่ายอย่างใจจริง จะเป็นยังไงนะ ถ้าพิชิตเป็นผู้ชนะและไม่ได้อยู่ที่สนามแข่ง พิชิตเหมือนจะรู้ทันทีว่าเขาคิดอะไร จึงโบกมือปฏิเสธ
“ ฉันไม่ได้เฝ้าวิคเตอร์ตลอดหรอก ตอนที่รู้ตัวผู้ชนะว่าเป็นนาย ฉันก็รีบมาที่โรงพยาบาลก่อนแล้ว ‘โทษทีนะที่ไม่ได้บอกเรื่องของวิคเตอร์ทันที วิคเตอร์กำชับเด็ดขาดเลยว่าห้ามบอกนาย”
ยูริพยักหน้าเข้าใจ “ ฉันก็ยังอยากขอบใจนายอยู่ดี”
พิชิตหัวเราะแหะๆ แม้จะดูเหนื่อยๆก็ตาม พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เหนื่อยกันหมด พิชิตตบไหล่เขาและเดินสวนออกไป ไม่ลืมแอบดันหลังเพื่อนให้เข้ามาในห้องด้วย ก่อนที่ชายหนุ่มผิวเข้มจะเป็นคนปิดประตูให้
ภายในห้องมีแค่วิคเตอร์ที่นอนอยู่บนเตียง ขาซ้ายถูกยกขึ้นสูงเหนือศีรษะและเข้าเฝือก วิคเตอร์หันมามองเขา ดวงตาสีฟ้าสดใสส่องประกาย ริมฝีปากคลี่ยิ้มเมื่อเห็นยูริถือถ้วยรางวัลในมือ
“ ยินดีด้วยนะ” ยิ้มของวิคเตอร์ผู้อยู่ในชุดคนป่วย นอนอยู่บนเตียง ทำให้ยูริวางถ้วยรางวัลและช่อดอกไม้ลงอย่างไม่สนใจมันอีก ยูริโผเข้ากอดวิคเตอร์ และปล่อยโฮ ทั้งดีใจที่วิคเตอร์ชมเขา และเขาทำให้วิคเตอร์ภาคภูมิใจ และโศกเศร้าที่พวกเขาต้องมาเจอกันในสภาพนี้ วิคเตอร์ปลอบเขาด้วยการยกมือลูบหลังเบาๆ
เขาได้ยินวิคเตอร์เล่าทั้งที่ตัวเองยังกอดคนที่นอนอยู่ มือเลื่อนจากท้ายทอยมากองที่เอว หน้าซบตักของวิคเตอร์ ปล่อยให้นิ้วที่ซีดเซียวเล่นผมไปเรื่อยๆ
“ เพราะผมใช่มั้ย? คุณถึงไม่ทำกายภาพบำบัดต่อ” ยูริถาม “ เพราะคุณเจอผม ไม่ง้นคุณจะได้อยู่รัสเซียต่อ ไม่มาหาผม ได้ทำกายภาพบำบัดที่โน่นต่อไป”
“ ถึงทำโอกาสที่จะหายขาดก็ไม่มีทางเต็มร้อย ขาของพวกเราถ้าเป็นอะไรไปเพียงครั้งเดียว เส้นทางในอาชีพนี้ก็จะหายไปทันที” มือลูบเส้นผมสีดำขลับจนยูริแทบเคลิ้มหลับ “ ฉันคิดว่ามันคงจะคุ้มกว่ามาก ถ้าใช้เวลาที่เหลืออยู่กับเธอ และฉันก็คิดไม่ผิด”
“ คุณน่าจะบอกผมก่อน”
“ เพื่อให้เธอไม่มีสมาธิลงแข่งน่ะรึ? ไม่อ่ะ เรื่องสิ” วิคเตอร์ยักไหล่
“ ผมน่ะใจหายใจคว่ำเลยนะ นึกว่าคุณเป็นอะไรแล้วซะอีก ถ้าคุณหายไปเหมือนวิคจัง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง”
“ ฉันไม่ไปไหนหรอก”
แต่คำพูดนั้นกลับดูไม่มั่นคง วิคเตอร์เหม่อมองออกไปข้างหน้า เหมือนว่าฝ้าผนังของโรงพยาบาลมีอะไรน่ามองยังงั้นแหละ
แต่หลังจากนั้น ยูริก็ได้รับรู้ความจริงที่ตบเข้าหน้าเขาอย่างจัง เมื่อหมอวัยกลางคนเดินเข้ามา มือข้างหนึ่งล้วงใส่กระเป๋าเสื้อกาวน์ สีหน้าเคร่งเครียด แต่แพทย์ก็ดูเครียดทุกเวลาอยู่แล้ว
การรักษามีสองวิธี อย่างแรกคือต้องใส่เฝือกนานกว่าสองเดือน หรือเข้ารับการผ่าตัดซึ่งจะใช่เวลาพักฟื้นน้อยกว่า แต่เสี่ยงแผลติดเชื้อ การอุดตันของเส้นเลือดดำ และมีแผลเป็นที่หลังขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองวิธีต้องทำกายภาพบำบัดอีกประมาณครึ่งปี โดยรวมแล้วใช้เวลาในการรักษาทั้งหมดหนึ่งปี และถึงจะรักษาเสร็จก็ยังไม่มีอะไรรับประกันว่าเส้นเอ็นจะไม่ขาดอีก ข้อเท้าซ้ายจะกลายเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวง่ายต่อการแตกหัก หมอนิ่วหน้าเมื่อทราบว่าวิคเตอร์เป็นนักสเกตลีลา แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้และเพื่อสุขภาพของวิคเตอร์เองขอให้งดเล่นสักสองปี
เมื่อทั้งสองอยู่กันตามลำพัง วิคเตอร์นั่งเงียบบนเตียง ส่วนยูริก็ได้แต่ทำท่าอ้ำๆอึ้งๆ เขารู้ว่าตอนนี้วิคเตอร์กำลังเครียด อยากจะปลอบแต่ไม่รู้จะปลอบอย่างไร อาชีพนักสเกตลีลาถึงภายนอกจะดูสวยงาม แต่ความจริงก็คือ มันเป็นกีฬาที่โหดร้ายต่อสังขารและอายุสั้น มีนักกีฬาวัยกลางคนที่สามารถมาถึงจุดนี้ของวิคเตอร์ได้ไม่กี่คน มันคือกีฬาที่มีระเบิดจับเวลาติดหลังนักกีฬาทุกคน รอว่าเมื่อไหร่เวลาหมดระเบิดจะถูกจุด
“ วิคเตอร์”
“ ยูริ ช่วยกลับไปก่อนนะ”
ยูริไม่ขยับเขยื้อน กลับกันเขาปรี่เข้ามาจับมือของวิคเตอร์ กำมันเบาๆ เขาไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตัวเองร้องไห้ออกมา ยิ่งเป็นวิคเตอร์ทำหน้านิ่งเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วก็ยิ่งปวดใจ เขาอาจจะเป็นคนปวกเปียก ทำอะไรตามที่วิคเตอร์บอกอยู่เสมอ แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ ที่วิคเตอร์ไร้ที่พึ่ง อ่อนแอ คล้ายๆเกือบจะบุบสลาย
“ ผมขออยู่ข้างคุณ”
วิคเตอร์เบ้หน้า อ้าปากและหุบ มือข้างที่ไม่ได้ถูกกอบกุมยกขึ้นปิดปาก ก้มจนผมปิดหน้า ไหล่สั่น แม้จะปิดปากแต่ก็ยังได้ยินเสียงสะอื้น ยูริคิดว่าเสียงนี้ช่างแปลกหูเหลือเกิน ตั้งแต่อยู่กินกันมา ฝึกซ้อมด้วยกัน เขาไม่เคยได้ยินวิคเตอร์ทำเสียงแบบนี้เลย วิคเตอร์คือคนที่คอยสอน หว่านล้อมจนเกือบๆจะยั่วยวน หัวเราะเฮฮาไปกับเขาต่างหาก
ยูริปลอบอีกฝ่าย มือสองข้างที่กุมมือของวิคเตอร์นั้นบีบนวดนิ้วเรียวยาวเบาๆ “ ทุกอย่างจะเรียบร้อย”
วิคเตอร์พยักหน้า แต่ก็ยังร้องไห้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปกือบชั่วโมง คนอื่นๆก็มาเยี่ยมวิคเตอร์ ยูริปล่อยมือของอีกฝ่ายออกตามสัญชาตญาณ ทั้งที่ความจริงเมื่อเขาเห็นมือนั้นวางแหมะลงบนผ้าปูสีขาว เขาก็ยังกลับไปกุมมันอีกครั้ง ถ้าไ่ติดว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยนะ
วิคเตอร์มองเขาด้วยสายตาที่ออกจะเสียดาย
ยูริผมทองสวมฮู้ดสีแดงมองวิคเตอร์และเขาสลับกัน จนยูริได้แต่ลุ้นและกังวลว่าทำไมเด็กหนุ่มต้องมองเขาขนาดนั้น จ้องราวกับว่าเขาแย่งวิคเตอร์ไปยังงั้นแหละ เขาสะเทือนใจเล็กน้อยที่ยูริคนนั้นมีสีหน้าอื่นนอกจากอารมณ์เย็นชา โกรธขึ้ง หางตามีน้ำเม็ดเล็กๆเกาะเมื่อเห็นสภาพวิคเตอร์และเมื่อได้ฟังข่าวร้าย คราวนี้กลับมาจ้องเขาด้วยสายตาเอาเรื่องอย่างไม่ปิดบัง
วิคเตอร์เลือกวิธีเข้าเฝือก เพราะไม่อยากเสี่ยงให้ข้อเท้าเป็นอะไรไปอีก วันเวลาที่อยู่แต่ในโรงพยาบาลีคนมาเยี่ยมไม่ขาดสาย เขาดูข่าวของตัวเองและการพาดหัวข่าวที่แสนจะแทงใจดำ ‘หมดอนาคต’ บ้างล่ะ ‘รันทด’ บ้างล่ะ
ยูริอยู่กับวิคเตอร์ตลอดเวลาเท่าที่แชมป์อย่างเขาจะมีเวลามาเยี่ยมได้ วิคเตอร์ในตอนนี้ที่อยู่ในโรงพยาบาลก็ยังคงงดงามสำหรับเขา ยิ่งสวมชุดขาวยิ่งดูเพรียวบาง วิคเตอร์คงผอมลงจริงๆ แล้วยังดูเหมือนจะแก่ขึ้นอีกด้วย
วันที่วิคเตอร์ผ่าตัด เขาลางานอย่างเด็ดขาด วิคเตอร์ใช้เวลาในชีวิตที่เหลือทั้งหมดกับเขาแล้ว ยูริไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องสนใจการงานมากไปกว่าชายหนุ่มคนนี้ วิคเตอร์เคยสอนเขาว่าการที่เขาชนะ หรือได้อยู่จุดสูงสุด ไม่ได้แปลว่าเขาสิ้นสุดการเดินทางในสายอาชีพนี้แล้ว มันคือจุดเริ่มต้นต่างหาก เราจะต้องทำสงครามกับอาชีพอื่น รวมถึงเอนเตอร์เทนคนดู ถ้วยรางวัลและชื่อเสียงเป็นแค่ใบเบิกทางเท่านั้น
แต่ตอนนี้ เขาแค่อยากจะอยู่ใกล้ๆกับคนที่ให้คุณค่าแก่เขาเท่านั้น
เพราะใบเบิกทางใบแรกของเขา ไม่ใช่ถ้วยรางวัลนั้น แต่เป็นวิคเตอร์ต่างหาก
-----------
วิคเตอร์ออกตัวกระโดดจากด้านหน้า ทำการหมุนสี่รอบ การกระโดดไม่สูงนักเพราะอาการบาดเจ็บแต่ท่าลงยังคงสมบูรณ์แบบ มือสองข้างกอดแขนตัวเองราวกับกำลังให้ความอบอุ่นกับตัวเอง ไถลไปตามลานและแอ่นตัวขนานกับพื้นเป็นพาราเรลสปิน ยูริสังเกตว่าอีกฝ่ายปิดตาอยู่ วิคเตอร์ใช้นั่งสปิน แต่หมุนอย่างเชื่องช้า คอปลิวตามทิศที่หมุน ปล่อยตัวให้อิสระไปตามแรงหมุน ยูริแทบจะจิกเนื้อขาตัวเองตอนที่วิคเตอร์ทำท่าลัตซ์หมุนสี่รอบ
เมื่อจบท่าลัตซ์ วิคเตอร์ก็เริ่มปล่อยมือออกจากการกอดอก และลืมตามองยูริที่อยู่ขอบลาน ถ้าเขาตาไม่ฝาด แก้มของวิคเตอร์เปล่งไปด้วยสีแดง
วิคเตอร์ออกตัวอีกครั้งด้วยการกระโดดจากการไถลไปด้านหลัง เหวี่ยงขาที่เหลืออีกข้างเป็นวง มันคือท่ากระโดดซาลคาว แต่วิคเตอร์ทำสิ่งที่เหลือเชื่อกว่านั้นมากด้วยการหมุนตัวตามเข็มนาฬิกา ทั้งที่ผ่านมาจะหมุนทวนเข็ม นี่เป็นหนึ่งนพรสวรรค์ที่ยูริไม่สามารถทำตามได้ การหมุนตัวได้ทั้งสองทิศอย่างคล่องแคล่วนั่นเอง จากตรงนี้เป็นต้นไป สเตปของวิคเตอร์นั้นช่างสะเปะสะปะ ใบหน้าสีแดงอ่อนเรื่อๆ ก้าวเข้ามาใกล้ยูริในระยะเผาขน ปัดมือไปมาและท้ายที่สุดค่อยๆกุมมือทั้งสองเข้าแนบอก ยกมือข้างซ้ายที่อยู่ใกล้หัวใจขึ้นมาจูบกับริมฝีปาก ยิ่งมองสีหน้าแดงๆของวิคเตอร์ ก็ยิ่งทำให้ยูริใจเต้น
มันไม่ได้ดีไปกว่าการแสดงอื่นๆของวิคเตอร์ ไม่มีชุดหรูหราฟู่ฟ่า แสงสีสวยงาม ไม่มีแม้แต่เพลง แต่การเต้นในความเงียบที่ได้ยินแค่เสียงครืดของรองเท้า ยูริอดคิดไม่ได้ว่า นี่คือการเต้นที่บริสุทธิ์ ไร้ซึ่งสิ่งปรุงแต่งที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัสมา และยังจับใจที่สุดอีกด้วย
วิคเตอร์ใช้แขนข้างหนึ่งจับใบมีดของเท้าซ้ายและดึงไปด้านหลัง โดยส่วนของหลังโค้งเป็นวงขนานกับพื้นน้ำแข็ง โดนัทสปินเริ่มออกหมุนด้วยจังหวะที่ช้า และเริ่มเร่งความเร็ว จนกระทั่งค่อยๆผ่อนลง เอนลำตัวขนานกับพื้น ศีรษะที่เอนอยู่มองเขา หมุนตัวและยกขาขึ้นสี่รอบ ตั้งแต่ลืมตามานี้ วิคเตอร์ยังไม่ได้ละสายตาสีฟ้านั้นจากเขาเลย วิคเตอร์กระโดดลูปด้วยการโดดไปข้างหลัง ท่วงท่าที่ถ้าหากคนอื่นทำคงจะดูดุดัน แต่กับวิคเตอร์นั้นช่างละมุนละไม แม้กระทั่งเสียงของรองเท้าที่ใบมีดกระทบพื้นก็ฟังสบายหู
เมื่อพ้นท่าลูป ยูริเห็นว่าอีกฝ่ายยิ้มทั้งน้ำตา…...หรือเหงื่อ…..หรือทั้งสองอย่างผสมกัน แต่มันต่างจากตอนที่วิคเตอร์ร้องไห้ในโรงพยาบาล วิคเตอร์ตอนนี้ดูอ่อนวัย สดใส และเป็นอิสระกว่าใครๆ เหมือนน้ำแข็งช่วยเป็นกำลังใจให้แก่วิคเตอร์ เมื่ออยู่กลางลานน้ำแข็ง วิคเตอร์จะเป็นอมตะและสวยงามกว่าตอนไหนๆ
ชายหนุ่มแล่นมาใกล้ยูริอีกครั้ง และหยุดตรงหน้ายูริ ทั้งสองจ้องตากัน วิคเตอร์ยื่นมือสองข้างออกมาให้เขา ใบหน้าขาวซีดมีสีแดงสดเป็นลูกมะเขือเทศ หอบเล็กน้อย เต็มไปด้วยเหงื่อและดวงตารื้น ผมเผ้ายุ่งเหยิงกว่าตอนปกติเพราะไม่ได้เซ็ททรง
ยูริมองหน้าของวิคเตอร์สลับกับมือ เขาต้องหายใจเข้าเสียงดังทีเดียวเมื่อรู้ความหมายของมัน วิคเตอร์บอกว่านี่คือการเต้นที่สื่อถึงความรัก แต่ยูริคิดว่าวิคเตอร์เหมือนจะเป็นตัวตนของความรักจริงๆ วิคเตอร์ทำให้เขาน้ำตาคลอ ซาบซึ้ง อบอุ่น ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำถึงความโดดเดี่ยวของตัวเองตอนนี้
วิคเตอร์บอกรักเขา
และการที่ยื่นมือสองข้างออกมาทั้งที่เมื่อครู่กุมมันไว้ใกล้หัวใจ แปลได้อย่างเดียวว่าวิคเตอร์มอบใจให้เขา และกำลังรอคำตอบจากยูริ
ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่พูดตรงๆ แต่ก็นั่นแหละ คนคนนี้คือวิคเตอร์ผู้ไม่เคยทำให้เขาหยุดประหลาดใจ
ที่หอบอยู่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่ความเหนื่อย แต่กำลังเฝ้ารอให้เขาตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ให้ตายเหอะ เขาก็เริ่มรู้สึกถึงความร้อนผ่าวๆที่หน้าของตัวเองด้วยเหมือนกัน
“ เอางี้เลยรึครับ?”
วิคเตอร์พยักหน้า แขนที่ยื่นออกมากลางอากาศสั่นเล็กน้อย
“ บอกมาตรงๆก็ได้นี่ครับ”
วิคเตอร์เม้มปาก ก่อนจะพูดออกมา “ ฉันไม่ใช่คนสำคัญอะไรอีกแล้วนี่ กลับกันเป็นเธอต่างหากที่ตอนนี้กลายเป็นคนดังที่ฉันเอื้อมไม่ถึงแล้ว ก็เลยต้องแสดงฝีมือหน่อย”
“ คุณยังเก่งเหมือนเดิมนะครับ”
ทั้งคู่หัวเราะ เมื่อเสียงหัวเราะเงียบลง ยูริก็มองมือของวิคเตอร์คู่นั้น
เขาคิดว่าการเขยิบความสัมพันธ์จากไอดอลกับแฟนคลับ มาเป็นครูฝึกกับนักเรียน พัฒนาเป็นเพื่อน และตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนมาเป็นคนรัก ยูริกลัวทุกครั้งที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆแนบแน่นขึ้น กลัวที่สักวันจะต้องสูญเสียวิคเตอร์ไป แต่ตอนนี้ เป็นวิคเตอร์ต่างหากที่กำลังกลัว และเขาก็อยากจะปกป้องวิคเตอร์ อยากจะใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆกัน หาสุนัขมาเลี้ยงสักตัวสองตัวเป็นเพื่อนวิคจัง และแก่ไปด้วยกัน ถ้านี่คือความรัก…
ยูริพ่นลมหายใจออกทางปาก เขาตัดสินใจได้แล้ว และกำลังจะจับมือวิคเตอร์
“ คิดดีๆนะ ฉันเป็นคนรัสเซีย และที่รัสเซีย...ไม่อยากจะชมบ้านเกิดตัวเองหรอกนะ แต่ที่นั่นปฏิบัติกับคนอย่างฉันเหมือนเป็นคนไร้ค่า ฉันไม่กล้ามีใครเพราะพวกหัวรุนแรงที่นั่น แต่ตอนนี้คงไม่มีใครสนใจฉันแล้ว พวกเค้าจะสนเธอ ถ้าเรื่องที่เธอคบกับผู้ชายแพร่ออกไป เธอ--”
ยูริกำมือทั้งสองของวิคเตอร์ คว้าหมับไว้เมื่อรู้ว่าวิคเตอร์ยกเหตุร้อยแปดพันเก้ามาให้เขาลังเล นอกจากจับมือแล้วเขายังกางแขนโอบเอวของวิคเตอร์ลอยข้ามรั้วกั้น ตอนนี้ แค่รั้วกว้างไม่กี่เซน ก็ทำให้พวกเขาห่างไกลกัน ยูริอยากให้ทั้งสองแนบชิดกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิคเตอร์จับแก้มเขาทั้งสองข้าง มือทั้งสองช่างอบอุ่น เช่นดียวกับที่ยูริกระชับอ้อมกอดตรงเอวมากขึ้น เงยหน้ามองดวงตาที่เปล่งประกายดั่งอัญมณีโทพาซ วินาทีที่กะพริบตาก็พบว่าวิคเตอร์หลับตา และก้มลงจูบเขา
พ่อมดน้ำแข็งมีจูบที่อุ่นมาก นอกจากอุ่นแล้วยังมีอำนาจวิเศษ หยุดเวลารอบๆให้อีกด้วย ยูริไม่รู้ว่าทั้งคู่อยู่ในท่านั้นนานแค่นั้น เขาหยีตามองวิคเตอร์ที่ใบหน้าชิดกับเขา ขนตายาวเรียงตัวสวย น้ำใสๆเกาะหางตาเล็กน้อย มันหยดลงบนแก้มเขา
วิคเตอร์เป็นคนผละออก จมูกยังชนกัน และริวฝีปากของทั้งคู่ไล้ผ่านไปเบาๆ ไม่รู้ว่าวิคเตอร์จงใจยั่วเขาหรือเปล่า
“ แว่นนี่ เกะกะจัง” วิคเตอร์ถอดแว่นเขาออก เก็บมันไว้ในมือข้างหนึ่ง และจูบเขาอีกครั้ง คราวนี้ทั้งลึกซึ่งและแนบแน่นยิ่งกว่า เขาได้ยินเสียงเฉอะแฉะข้างในปากและฟันที่กระทบกัน สำหรับยูริ เขามีความรู้เกี่ยวกับการจูบในด้านทฤษฎีน้อยมาก ด้านปฏิบัติยิ่งไม่ต้องพูดถึง เมื่อทั้งสองละจากกันอีกครั้งแต่ใบหน้ายังชิดกันอยู่ ยูริก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“ เอ่อ...เมื่อกี้ ผมจูบโอเคมั้ย?”
เขาได้คำตอบเป็นเสียงหัวเราะและใบหน้าแดงระเรื่อของวิคเตอร์ พร้อมกับจูบอีกครั้งหนึ่ง..
-------
ยูริเคยคิดว่าคงต้องได้เวลาแกะภาพโปสเตอร์ในห้องเขาออกเสียที เพราะมันน่าอายจะตาย แถมตัวจริงยังอยู่ใกล้เขาทุกวันแบบนี้ และยังเป็นแฟนกันแล้วซะอีก แต่เดี๋ยวนะ….การมีรูปแฟนติดผนัง ใส่กรอบ ทำเป็นที่คั่นหนังสือ มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดตรงไหนนี่
เขาเอื้อมมือโอบเอวคนที่นอนเปลือยหันหลังให้ เสียงกรนดังเบาๆ ยูริฝังจมูกลงไปบนกลุ่มผมสีบลอนด์ซีด สูดกลิ่นหอมจากร่างกายของวิคเตอร์
เขาอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่ายได้เพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น สัปดาห์เดียวที่เขาขอผู้จัดการหรืออาจารย์สาวของเขาที่จะอยู่ที่นี่ ถึงจะให้เหตุผลว่าใกล้ถึงวันเกิดแฝดสามแล้วก็เถอะ เขาคิดว่าเธอน่าจะรู้เหตุผลที่แท้จริงของยูริดี เพราะตั้งแต่วิคเตอร์ได้รับบาดเจ็บ ยูริก็แสดงท่าทางดูแลวิคเตอร์ใกล้ชิดอย่างออกนอกหน้า
เวลาที่เหลือของทั้งคู่หมดไปกับการหาโรงพยาบาลที่มีการรับทำกายภาพบำบัดข้อเท้า วิคเตอร์อยากได้โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้แถบคิวชูมากที่สุดเพราะจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล เรื่องไปต่างประเทศนี่เลิกคุยกับวิคเตอร์ได้เลย แม้ยูริจะยกเหตุผลหลายข้อมาให้ฟังก็ตาม หลักๆเลยก็คือ การเข้ารับการรักษาในญี่ปุ่นโดยที่เป็นคนต่างชาตินั้นมีขั้นตอนยุ่งยากหลายขั้นและต้องเตรียมเอกสารเป็นตั้งๆ
“ งั้นฉันก็ขอใช้นามสกุลเธอหน่อยสิ อะไรๆจะได้ง่ายขึ้น”
ถ้ายูริไม่ได้คิดว่าตัวเองอาบน้ำแล้ว เขาก็อยากจะวิ่งไปดำน้ำในออนเซ็นตัวเองตอนนี้เหมือนกัน
ท้ายที่สุดก็ได้โรงพยาบาลใหญ่สุดในคิวชูซึ่งใช้เวลาเดินทางจากออนเซ็นเพียงหนึ่งชั่วโมง วิคเตอร์ดูจะแฮปปี้สุดๆทีเดียว
งานวันเกิดของแฝดสามปีนี้จัดในออนเซ็นบ้านของเขาเอง ยูโกะกับนิชิโกริพาแฝดทั้งสามที่อยู่ในชุดเอี๊ยมสีแดง ขาว น้ำเงิน มาร่วมปาร์ตี้ พวกเธอทั้งสามร่วมถ่ายรูปกับวิคเตอร์โดยที่ให้ชายหนุ่มอุ้มเด็กทีละคน จนถึงตอนนี้ ชื่อเสียงของวิคเตอร์ก็ยังติดลมบนอยู่ และถูกกล่าวขานเป็นตำนานแห่งวงการสเกตน้ำแข็ง มีบรรณาธิการจากหนังสือหลายแห่งติดต่อขอเขียนอัตชีวประวัติของวิคเตอร์ ยิ่งมีข่าวที่วิคเตอร์ต้องการให้ความสำคัญกับการทำกายภาพบำบัดจริงจัง ก็มีหลายสำนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ และมาสัมภาษณ์ยูริต่ออีก ทุกคนที่มาต่างตกใจที่เห็นพวกเขาทั้งสองอยู่ด้วยกัน วิคเตอร์เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาหลายคน ยูริจะไม่แปลกใจเลยถ้าวันหนึ่งมีคนมาขอทำหนังชีวประวัติของวิคเตอร์
“ ยูริจะไปไหนน่ะ?” แอกเซล หรือลูป ถามเขาที่นั่งอยู่หน้ากระจก วิคเตอร์กำลังหวีผมให้เขา
“ ต้องไปทำงานน่ะ มีเรื่องด่วนจริงๆ ขอโทษทีนะ” เมื่อครู่อาจารย์มินาโกะซึ่งผันตัวมาเป็นผู้จัดการให้เขาแล้วแอบกระซิบกับเขาและวิคเตอร์ว่ายูริต้องไปที่สนามบินด่วนเพราะที่ดีทรอยต์ได้รับพยากรณ์อากาศว่าวันพรุ่งนี้ที่ยูริตั้งใจว่าจะลาทุกคนอาจจะเกิดพายุหิมะ ทางรายการจึงขอร้องอ้อนวอนสุดชีวิตให้ยูริมาให้ทันภายในพรุ่งนี้เช้า ยูริกะจะปฏิเสธแต่ดูเหมือนอาจารย์มินาโกะจะมองออกจึงคุยเรื่องนี้กับวิคเตอร์ รอบนี้วิคเตอร์เข้าข้างอาจารย์ บอกกับยูริว่าสายงานนี้ต้องเดินทางบ่อยอยู่แล้ว และยูริก็ใช้โควต้าวันหยุดสำหรับนักกีฬาใกล้หมดแล้วอีกด้วย ถ้าไม่เอนเตอร์เทนคนดู กระตุ้นให้พวกเขาจำเราได้ เราก็จะถูกลืม ที่อยู่ค้ำฟ้าแบบวิคเตอร์ตลอดกาลเป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น
“ อย่าลืมของขวัญของพวกหนูนะ” แฝดสาม (เขาแยกแต่ละคนไม่ออก) พูดพร้อมกัน
“ ได้เลย พี่ไม่ลืมแน่นอน” เหล่าฝาแฝดดีใจกันยกใหญ่ ก่อนที่พวกเธอละไปสนใจเค้กปอนด์สามก้อนสามลายที่ถูกยกมา
ยูริร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ไปพร้อมกับทุกคน วิคเตอร์ร้องหลุดจากคนอื่นด้วยสำเนียงที่ฝรั่งที่สุด ชายหนุ่มในชุดเสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีน้ำเงินเงยหน้าร้องเพลงอย่างตั้งอกตั้งใจเหมือนเป็นเจ้าของวันเกิดซะเอง
ทุกคนมาส่งยูริที่หน้าประตูบ้าน อาจารย์มินาโกะขึ้นไปรอบนรถแล้ว ยูริเก็บกระเป๋าขึ้นหลังรถ มองหน้าของทุกคนทั้งพ่อแม่ ยูโกะ นิชิโกริ แฝดสาม วิคเตอร์…..
เขากอดเรียงคน จนมาถึงตาวิคเตอร์ที่ยืนตรงรอให้ยูริกอด คนพิเศษคนนี้เขาก็อยากจะให้มากกว่ากอดบ้าง ยูริเขย่งขาเพื่อหอมแก้มอีกฝ่ายดังฟอด ส่งผลให้ทุกคนหันมามองทั้งสองเป็นตาเดียว แฝดสามและยูโกะกรี๊ดสนั่นออนเซ็น ส่วนพ่อและแม่ยืนมองตาค้าง นิชิโกริอึ้งแต่สักพักก็ทำเสียงหวิวที่ปาก
ยูริผละออกจากอีกฝ่าย โดยไม่ลืมลูบเส้นผมสีบลอนด์ที่เริ่มยาวขึ้น วิคเตอร์บอกว่าจะเริ่มไว้ยาวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เขาชอบไว้ยาวอยู่แล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็คงจะเล่นสเกตไม่ได้แล้วด้วย ไม่จำเป็นที่จะต้องไว้สั้นอีก
“ จริงๆก็อยากบอกตั้งนานแล้วล่ะครับ แต่ไม่มีโอกาสเลย” ยูริมองพ่อแม่ “ ผมกับวิคเตอร์เราคบกันอยู่ครับ เรารักกัน”
วิคเตอร์ตัวแข็งทื่อ แค่หอมแก้มไม่ได้ทำให้เขาอายหรือช็อคอะไร แต่ที่น่าตกใจเพราะยูริเป็นคนรุกมาต่างหาก
“ ดะ...ดะ..ดะ..ได้มั้ยครับ?” ความกล้าที่เพิ่งผุดมาเมื่อกี้ปลิวไปตามลม เขากลืนน้ำลายมองไปที่พ่อซึ่งเป็นคนค่อนข้างอนุรักษ์นิยม เขาจำได้ว่าพ่อก็ชอบวิคเตอร์ไม่น้อยเลย ทั้งคู่เป็นคู่หูคู่ดื่มและร้องคาราโอเกะที่ดี
“ ก็...เอาสิ แค่...ถ้าคราวหลังจะทำอะไรกันก็ช่วยบอกกันก่อนนะ” พ่อตอบพร้อมกระแอมไอ ยูริอดไม่ได้ที่จะกอดพ่อแม่ของตัวเองอีกครั้ง
“ ขอบคุณมากครับ!!” ว่าเสร็จ ขาของเขาก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงยังไงชอบกล ลุ้นระทึกยิ่งกว่าตอนสอบเข้าที่ดีทรอยต์ซะอีก
“ ขอบคุณครับ” วิคเตอร์กล่าวด้วยเช่นกัน
---------------
ระหว่างทางที่รถค่อยๆขับผ่าน ยูรินั่งอยู่เบาะหลัง อาจารย์มินาโกะเป็นคนขับ เขากำลังเล่นมือถือของตัวเอง อมยิ้มเมื่อเห็นฝาแฝดอัพโหลดรูปที่เขานั่งหลับตาเคลิ้ม วิคเตอร์หวีผมให้เขา ป่านนี้เหล่าฝาแฝดคงกำลังถูกยูโกะดุพร้อมบอกให้ลบภาพออกไปแน่ๆ เขารีบเซฟภาพนั้นไว้ทันที
“ ยูริ ดูลานสเกตสิ”
เขาเงยหน้าตามเสียงเรียกของอาจารย์ และพบว่าแสงตอนกลางคืนของลานสว่างกว่าทุกวันที่เขาเคยเห็นมาหลายต่อหลายปี มีคนเข้าออกหลายคน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ยูริไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้เจอกับปรากฏการณ์นี้จากปราสาทน้ำแข็ง ฮาเซ็ตสึ
“ ตำนานและแชมป์ปัจจุบันแห่งวงการสเกตน้ำแข็งอยู่ในเมืองเดียวกันเชียวนะ ที่นี่จะครึกครื้นขึ้นก็ไม่แปลก” อาจารย์มินาโกะพูดอย่างภาคภูมิใจ “ เฮ้อ ถ้าฉันไม่ได้มาเป็นผู้จัดการก็คงมีนักเรียนเพิ่มขึ้นเหมือนกัน ยิ่งถ้าพวกเธอประกาศว่าเป็นแฟนกันนะ..เธอเอ๊ย กิจการรุ่งเรืองชัวร์ ทั้งสเกตทั้งออนเซ็น”
“ ขอเถอะครับ ให้เวลาส่วนตัวพวกผมบ้าง” ยูริเหน็บแต่ก็ยิ้มออกมา พวกเขาสองคนหยอกล้อกันตามปกติแบบนี้เสมอ
“ แหม อยากได้เวลาส่วนตัวก็ไม่ควรจูบกันต่อหน้าแฝดๆนะ” มินาโกะแหย่ ทำหน้าตาอ้อล้อ
“ พวกเธอก็เป็นเด็กดีนะครับ” ยูริเถียง “ ฉลาดมากด้วย”
“ อืม กลับมาอีกทีคงเห็นพวกเธอพูดอังกฤษปร๋อแน่เลย ถ้าสนิทกับวิคเตอร์ขนาดนั้น”
ยูริมองแสงสีผ่านกระจกรถ อาคารลานสเกตสีฟ้าอ่อนส่องแสงสะท้อนเข้ามาในดวงตาสีน้ำตาล ปราสาทที่เขาไปเล่นเมื่อยังเด็กกำลังกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นึกภาพที่ครอบครัวนิชิโกริพาลูกๆมาเล่นที่นี่ บางครั้งวิคเตอร์ก็จะติดสอยห้อยตามมาพร้อมกับสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลสีน้ำตาลตัวใหญ่ยักษ์ วิคเตอร์จะสอนแฝดๆให้เล่นสเกต บางครั้งก็จะลงไปเล่นแบบเบสิคง่ายๆให้เด็กๆดู
วิคเตอร์หยุดอยู่กลางลาน เสียงใบมีดรองเท้าเสียดสีไปกับทางน้ำแข็งดังครืด เวลาถูกหยุด ทุกคนมองไปที่ชายหนุ่มผิวขาวผมสีบลอนด์ยาว และเมื่อวิคเตอร์กระโดด เวทมนตร์ของพ่อมดน้ำแข็งก็จะถูกร่ายออกมา
END
---------------------------------------------------------------
กฎหมายรัสเซียไม่เปิดกว้างสำหรับชาว LGBT เท่าไหร่ วิคเตอร์อยู่ยากครับ ยิ่งเป็นคนดังด้วย
มาถึงช่วงเวลามโน...
ตอนที่ 1 ของ Yuri!!! On Ice เต็มไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์ครับ
จำฉากที่วิคเตอร์ผมยาวเล่นสเกตแล้วมีฉากดำคั่น จากนั้นวิคเตอร์ก็มีผมสั้นมั้ยครับ ผมคิดว่าฉากดำนั้นแปลว่า อาจจะเคยเกิดเรื่องร้ายแรงกับวิคเตอร์ตอนผมยาวขึ้น จึงตัดสั้นเพื่อตัดขาดกับอะไรบางอย่าง หรือเพื่อเริ่มต้นใหม่ หรือเพื่อเปลี่ยนตัวเอง ผมไม่คิดว่าสาเหตุที่วิคเตอร์ตัดผมจะแค่เพราะรบกวนการเล่นสเกต เพราะแกก็ยังเล่นได้ดีตอนไว้ยาว
ดังนั้นผมจึงให้วิคเตอร์ไว้ยาวตอนจบ เป็นการบ่งบอกว่าเอาชนะอดีตได้แล้ว
ฉากที่สองคือใน ED ฉากที่ทั้งสองนั่งมองหน้ากันในรถไฟ โดยที่แสงสาดมาทางยูริ อาจจะสื่อได้ว่ายูริอาจโด่งดังขึ้นในช่วงหลัง และเป็นวิคเตอร์ที่จะหันมามองยูริ เขาไม่ได้เป็นคนที่อยู่ใต้แสงนั่นแล้ว แต่เขาก็ดีใจกับยูริ(วิคเตอร์ยิ้มให้ยูริในภาพ) และนั่นเองจึงเป็นที่มาของแคปชั่น 'Time flies so fast' ' เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน'
เอาล่ะ มาถึงฉากที่ผมชอบที่สุดในตอนนี้ และอาจจะชอบที่สุดในเรื่อง นั่นคือภาพที่วิคเตอร์หวีผมให้ยูรินั่นเอง
ภาพนี้ถูกถ่ายและลงไอจีของแฝดสาม ซึ่งต่างจากภาพอื่นๆใน ED ที่ทุกคนเอารูปตัวเองลงไอจีของตัวเอง รูปเหล่านั้นคือการโปรโมทและพรีเซ้นต์ตัวเองครับ แต่รูปนี้พิเศษ อบอุ่น และลึกซึ้งกว่าภาพอื่น ห้องมืดโดยมีแสงจากโคมเป็นแหล่งแสงแหล่งเดียวขับให้ภาพดูละมุน
ทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่าถูกถ่าย รูปนี้ลงไอจีของเด็กอายุเพียงไม่กี่ขวบ นี่ไม่ใช่การพรีเซ้นต์ตัวเอง แต่มันคือสิ่งที่คู่นี้ทำเป็นประจำ อาจจะทำจนชิน(ยูริไม่ได้หน้าแดง)เลยไม่รู้สึกว่ามันพิเศษ แต่มันพิเศษในสายตาของเด็กๆ พวกเธอจึงถ่ายมา
ตลกร้ายดีเหมือนกัน ที่ทั้งเรื่องมีแฟนเซอร์วิสหลายฉาก แต่ภาพนี้กลับเป็นภาพที่แสดงได้ถึงความเป็น ‘คู่รัก’ ของคู่นี้มากที่สุด โดยที่ภาพไม่ได้สื่อไปในทางเพศเลย ไม่มีใครโชว์เนื้อหนัง วิคเตอร์ไม่ได้อ่อยยูริ ยูริไม่ได้หน้าแดงใส่วิคเตอร์ ทั้งสองคนแค่อยู่ใกล้ๆกัน ทำกิจกรรมธรรมดาอย่างการหวีผม แต่มันจับใจและสวยงามกว่าภาพไหนๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นี่กำลังรอเมะตอนต่อไป อยากเรื่องวิกเตอร์มากกว่านี้ เราชอบเค้าตอนผมยาวมากกว่าด้วย :)
วิคเตอร์ผมยาวสวยมากกกก ขนาดเห็นไม่กี่ฉากยังรู้สึกว่าสวย