คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เหมือนฝัน
ฮา ๆๆ วันนี้ฉันตื่นเต้นมากจึงทำให้ฉันตื่นแต่เช้าเลยละ แต่งตัวแบบไหนดีนะ T-HIT จะได้สนใจฉัน เกิดฉันได้เป็นแฟนกับพวกเขาล่ะ แม่เจ้า..... ไม่อยากจะคิด แต่คิดไปแล้วตู ฮา ๆๆๆๆๆ
ฉันเดินลงมาข้างล้างด้วยชุดเดรสแสนสวยสีชมพูสั้นประมาณหัวเข่าน่ารัก และทำผมเป็นลอน พร้อมรองเท้าชมพูสูงพอประมาณ
“โอ้... วันนี้ลูกพ่อจะไปไหนเนี่ยสวยมาเลย แถมยังตื่นแต่เช้าด้วย” ฉันเดินเข้าไปกอดพ่อที่กำลังจะไปทำงาน
“หนูก็จะไปทำงานเหมือนพ่อไงค่ะ”
“ฮ่ะ ทำงานลูกเนี่ยนะ”
“ค่ะ” พ่อหันมามองที่ฉันอย่างประหลาดใจ
“ฮา ๆๆๆ ทำไมล่ะค่ะ ลูกของพ่อคนนี้ทำงานไม่ได้หรือไง”
“ได้แต่ลูกจะไปทำงานอะไรที่ไหน ไม่เห็นเคยบอกพ่อเลย”
“หนูจะไปเป็นผู้จัดการนักร้องวง T-HIT ค่ะพ่อ” ฉันพูดด้วยความมั่นใจสูง
“ไปทำได้ไง ไม่เห็นบอกพ่อเลย”
“หนูก็พึ่งรู้เมื่อวานนี้เหมือนกันค่ะพ่อ พอดียัยพิมพ์กับทีมาบอกอะค่ะ หนูดีใจมากเลยพ่อรู้ไหม แต่ แต่ หนูขอโทษนะที่ไม่ได้บอกพ่อ หนูกลัวพ่อจะไม่ให้ไป” ฉันพูดพร้อมจับมือพ่อฉันไว้
“อือ พ่อจะไม่ว่าอะไรลูกนะ จะไม่ห้าม แต่งานทุกอย่างมันจะยากไปคนละอย่างกัน ไม่มีงานอะไรที่ง่าย เพราะงันเมื่อลูกตัดสินใจไปแล้วของให้ลูกอดทนและทำมันให้ดีที่สุดแล้วกันนะ พ่อรู้ว่าพ่อไม่ควรจะไปห้ามลูกให้ทำในสิ่งที่ชอบได้ พ่อตามใจลูกเสมอนะ แล้วก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพราะพ่อจะไม่ยอมเสียลูกไปแน่นอน พ่อมีลูกคนเดียวนะ” พ่อพูดทำเอาฉันน้ำตาไหลเลยล่ะ จริง ๆ แล้ว เราก็มีกันแค่สอนคนตั้งแต่ฉันอายุ 3 ขวบแล้วล่ะ เพราะแม่ฉันเสียไปตั้งแต่ฉัน 3 ขวบ ท่านจากไปเพราะเป็นโรคหัวใจ ซึ่งมันก็ทำให้พ่อฉันต้องเลี้ยงฉันมาแค่คนเดียว แต่ฉันไม่รู้สึกขาดหายอะไรเลยนะ เพราะพ่อฉันเป็นพ่อที่ดีที่สุดในโลกเลย.....
“ค่ะพ่อ”
“แล้วลูกจะกลับมาบ้านไหม หรือยังไง”
“บางวันคงไม่กลับแต่บางวันก็คงกลับมาค่ะพ่อ”
“ลูกพ่อโตแล้วสินะ พ่อคงต้องปล่อยวางอะไรบ้างแล้วละ” พ่อพูดเสร็จก็ยิ้มให้ฉัน
“อ่า... นั้นรถใครเหรอ?”
“อ๋อ ทีบอกจะมีพี่มารับอะค่ะพ่อ”
“อ๋อ อือ ดี ๆๆ ดูแลตัวเองด้วยนะ พ่อรักลูก” พ่อพูดพร้อมกอดฉัน
“ค่ะหนูก็รักพ่อ”
“หนูไปก่อนนะค่ะ”
“อือ”
ฉันไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่ฉันรู้ว่าฉันจะต้องสู้ พ่อพูดถึง ฉันต้องอดทน ฮา ๆๆๆ ก็ใช่เป็นลูกพ่อนี้ ฉันทำได้อยู่แล้ว
และแล้วก็ถึงห้องซ้อมเต้นของบริษัทเพลง T-Pop ค่ายใหญ่ของประเทศไทย
“สวัสดีค่ะน้องกรรไกร” อาของทีเดินเข้ามาพร้อมทักทายฉัน
“ค่ะสวัสดีค่ะคุณอา”
“อดทนหน่อยนะ แค่ 2 เดือนเอง ฮา ๆๆๆ” อาของทีเดินเข้ามาหาฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
“ค่ะ หนูคิดว่าหนูทำได้อยู่แล้วค่ะ หนูชองวงนี้มานานก่อนที่เขาจะมาเป็นนักร้องอีก หนูเชือว่าหนูรู้จักพวกเขาดีพอและสามารถทำงานนี้ได้ค่ะ”
“มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่หนูคิดนะ กรรไกร”
“ทะ ทะ ทำไมละค่ะ” ฉันถามด้วยอาการงง ????
“แล้วหนูจะเข้าใจมันมากขึ้นจ๊ะ”
“คะ ค่ะ”????
“อาก็เชื่อนะว่าหนูจะทำงานนี้ได้ ตอนนี้ที่ค่ายก็ไม่มีใครกล้าจะคุมทีมนี้ได้ละ แต่อาเชื่อนะว่าหนูทำได้ เพราะหนูรักวงนี้ไง ความรักจะทำร้ายทุกสิ่ง ทุกอย่างได้”
“ทำไมคุณอาพูดแบบนั้นละค่ะ?”
“เดี๋ยวพวกเขาจะมาละ”อาพูดพร้อมยิ้ม คุณอานี้สวยจริง ๆ
“ปั้ง !!!!” เสียงประตูเปิดออกด้วยความรุนแรง
“เอ๊ะ พวกเขาทั้งสี” ฉันยืนอึ้งไปเมื่อได้เห็นหน้าหล่อ ๆ ของทั้งสี่หนุ่ม คุณหนูที่เดินนำมากับความน่ารักแค่ใส่เสื้อขาว กางเกงยีนนี้ก็ทำให้น่ารักได้มากเกินทนแล้ว ตามมาด้วยคุณชายที่มีเลขาส่วนตัวติดตามมาด้วยตลอดช่างดูเป็นคุณชายจริง ๆ ต่อมาก็เป็นคุณท่านที่ทำหน้ายักษ์มาตั้งแต่ไกลเหมือนแม่ไม่ให้กินนมยังไงอย่างงัน ติดตามมาด้วยคนสุดท้ายที่ฉันแทบจะบ้าตามกับความหล่อของเขา เจ้าชาย.... น่ารักเป็นบ้า แต่ทำไมเจ้าชายทำหน้าอึ้ง ๆ แบบนั้นนะ ? แต่มันทำให้ดูน่ารักเป็นบ้าเลย พ่อเทพพระบุตรของฉัน (ขยายความ คุณชายที่ต้องมีเลขาติดตามตลอดเวลาเพราะว่า พ่อและแม่ของคุณชายเสียไปตั้งแต่คุณชายอายุ 19 (พึ่งเรียนจบปอตรี) ด้วยเหตุที่ว่าเครื่องบินที่นั่งไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศตก จึงทำให้ท่านทั้งสองเสียชีวิต เหลือก็แต่เลขาส่วนตัวที่ พ่อและแม่ของคุณชายไว้ใจ ทำให้คุณชายต้องรีบเรียนปริญญาโท เพื่อรีบขึ้นมาเป็นผู้จัดการห้างใหญ่สุดหนูหาร และธุรกิจมากมายที่ยังรอการนำเนินต่อ จนอายุ 20 คุณชายก็เรียนจบและก็มีอายุที่สามารถขึ้นเป็นประธานได้ โดยมีเลขาคนนี้อยู่ติดตัวตลอดเวลา อ๋อลืมบอกไปว่า คุณชายเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว)
“ไหนอะผู้จัดการคนใหม่ของพวกเรา” คุณหนูพูดขึ้นพร้อมยิ้มที่แสนจะน่ารักสดใจ แม่เจ้าน่ารักได้อีก
“ใช่คลับคนไหนอะ ผมไม่เห็นจะมีใครอยู่ห้องนี้ที่น่าจะมาดูแลพวกเราได้เลย” คุณชายพูดต่อท้าย และหันไปคุยกับเลขาส่วนตัวที่คอยติดตามด้วยตลอด (ฉันเคยเห็นเลขาคนนี้อยู่บ่อย เหมือนเจอคุณชายจะต้องมีเลขาคนนี้อยู่เสมอ)
“นี้ไง ผู้หญิงคนนี้ไง” คุณอาชี้มาที่ฉัน โอ้ฉันอายมากกก.....
“เด็กคนนี้อะเหรอ นี้หาผู้จัดการนะครับไม่ได้หาเด็กมาให้พวกผมเลี้ยง แล้วแบบนี้ใครจะจัดการใครกันแน่ครับคุณพี่ทีม” เอ๊ะ ??? คุณท่าน ไม่ใช่แบบนี้นะ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ นี้ นี้ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ?
“ของแบบนี้มันก็ต้องลองดูนะ” คุณอาพูดแล้วยิ้มให้คุณท่าน
“ไม่ต้องลองก็รู้แล้ว....” คุณท่านพูดต่อ พูดแบบนี้สงสัยว่ากว่าจะไม่ตายดีแน่ คนแบบฉันรักแรง เกลียดแรงนะ
“ไอ้ท่านทำไมพูดแบบนั้นวะ เหี้ยแล้วมั้ยละมรึง” เจ้าชายพูดต่อ แต่ฉันชักจะใจไม่ดีแล้วละเนี่ย นี้เหรอนักร้องที่ฉันคิดว่าฉันรู้จักดี นี้เหรอคนที่ฉันชอบบ้ามาแสนนาน นี้เหรอ ???
“ดีนะที่สองเดือนที่คุณพี่ทีมจะไม่อยู่เราไม่ค่อยมีงานมาก แค่ซ้อมเต้นออกงานบ้างอะไรบ้าง ถ้างันพวกเราคงต้องได้ดูแลแม่เด็กนี้จนตายแน่ หาผู้จัดการหรือหาลูกให้เลี้ยงกันแน่” คุณท่านพูดพร้อมเดิมเข้ามาใกล้ฉัน
“อา อา อย่าไปคิดมากเลยนะกรรไกร ไอ้เจ้าท่านมันก็เป็นคนแบบนี้ละ” คุณอาหันมาพูดให้กำลังใจฉัน
“ค่ะ”
“ชื่อ กรรไกรเหรอ อือ น่ารักดีนี้ ยังไงก็ช่วยดูแลพวกเราด้วยนะ” คุณหนูเดิมเข้ามาหาฉันแล้วพูดให้กำลังใจอีกคน น่ารักเป็นบ้า...... นี่ค่อยดูเป็น คุณหนูที่ฉันเคยรู้จักหน่อย
“อือ ไม่ไหวก็ลาออกไปก่อนได้นะ ฉันก็คิดว่างานนี้ไม่เหมาะกับเธอ”
“อ้าวไอ้ปริ๊นซ์ ทำไมแกพูดแบบนี้วะ ตอนแรกเหมือนจะช่วยไมตอนนี้มาว่าแบบนั้น” คุณหนูหันไปว่าเจ้าชาย (ตามจริง เขาชื่อ ปริ๊นซ์ แต่แฟนคลับชอบเรียนว่าเจ้าชายมากกว่า)
“อือ มันก็จริงละ ทนไม่ไหวก็เลิกราออกซะนะ”
“ไอ้ชายแกก็อีกคนรีบว่ากันจังนะ” คุณหนูหันไปว่าเพื่อน ๆ ให้ฉันต่อ นี้เหรอ T-HIT ฉันคิดว่าฉันคงต้องลบภาพลักษณ์เก่า ๆ ที่เคยรู้จักพวกเขาออกไปให้หมดแล้วละ อา.... ~ นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ??? ฉันยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันได้ยิน ได้เห็น ได้รับรู้มัน
“ก็ดูสิ เธออายุ ยังไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำไป แต่จะมาดูแลคนอายุ 22-23 แบบพวกฉันมันก็ยากไปหน่อยนะ ฉันแค่พูดตามหลักความเป็นจริงก็เท่านั้น ถ้าลงทุนไปแล้วไม่ได้กำลังจะยอมลงทุนไปทำไมละ”
“ทำไมคุณชายดูถูกฉันแบบนั้นละค่ะ” ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ ผู้ชายพวกนี้ อะไรกันเนี่ย ตามจริงแล้วฉันยังไม่เคยรู้จักพวกคุณเลยต่างหากละ
“ทำไมอะไร อะไร พวกคุณก็คิดว่าฉันทำไม่ได้ ไม่อดทน ดูแลพวกคุณไม่ได้ อย่าคิดว่าทุกคนเป็นแบบพวกคุณไปหมดสิค่ะ ฉันกับคุณไม่เหมือนกันนะ ใช่ตอนแรกฉันเข้ามาแค่คิดว่าฉันชอบพวกคุณ ฉันคิดว่าฉันรู้จักคุณดีพอ แต่ตอนนี้คงไม่ใช่ล่ะ ฉันเข้าใจผิดไปเอง ฉันไม่เคยรู้จักพวกคุณเลยต่างหากละ ทั้งคุณท่านที่ดีแต่มายืนด่า ๆ ฉัน ทั้งคุณชายที่คิดแต่เรื่องผลที่ตามมาพวกนั้น และยังเจ้าชาย เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ปริ๊นซ์ ฮึ.. มันไร้สาระสิ้นดีเลย ฉันมาเป็นผู้จัดการให้คุณนะค่ะ ไม่ได้ให้คุณ คุณมายืนด่าฉัน ส่วนเรื่องที่พวก คุณ คุณ คุณคิดมากว่าฉันจะมาดูแลพวกคุณไม่ได้ คุณไม่ต้องคิดหรอกค่ะ เพราะฉันยังไม่คิดอะไรเลย คนที่คิดมากควรจะเป็นฉันไม่ใช่พวกคุณ ฉันจะทำหน้าที่ฉันให้ดีที่สุด และคุณ คุณ ก็ช่วยทำหน้าที่ของพวกคุณให้ดีด้วยนะค่ะ” คิดเหรอว่าเป็นนักร้อง ว่าเป็นวงที่ฉันชอบมากที่สุดแล้วฉันจะให้ยืนด่าเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรฉันก็มีหัวใจนะ ฉันก็มีอารมณ์เหมือนกัน ถึงแม้พวกคุณจะเป็นวงที่ฉันรักมากกกกก ที่สุด บ้ามากกกก ที่สุด แต่ฉันก็ไม่เป็นพวกที่คิดไม่เป็นขนาดนั้น”
“ไม่น่าละถึงชื่อ กรรไกร เพราะ ปากเธอมันกรรไกรแบบนี้ไง แม่ปากกรรไกร” ไอ้คุณท่านแกคิดว่าฉันจะยอมแกเหรอฮ่ะ !!!
“แล้วคุณละค่ะ ดีกว่าฉันนักนะ พ่อคุณท่าน... ท่านจริง ๆ ท่านเกิดมาได้ปากดีอะไรเช่นนี่ ฮึ”
“นี้ยัยปากกรรไกร หุบปากนะ” ไอ้เจ้าคุณท่านชี้หน้าฉันพร้อมพูดเหมือนอยากจะด่าเต็มที่
“บอกตัวเองก่อนเถอะค่ะคุณท่าน” ฉันพูดพร้อมยิ้ม
“อือ ฉันว่า หยุดทั้งคู่อะล่ะ จะไหวป่ะเนี่ย” คุณอาพูดพร้อมเอามือจับหัว
“นั้นสิครับ ผมว่าทุกคนใจเย็น ๆ ก่อนนะ” คุณหนูพูดเสร็จก็เดินไปหาไอ้เจ้าคุณท่าน
“นายเป็นผู้ชายนะ”
“แล้วเห็นฉันใส่ชุดเดรสสีชมพู รองเท้าส้นสูงหรือไง”
“เอ๊ะนาย” ไอ้เจ้าคุณท่าน.... ฉันอยากจะฆ่าแกต่อหน้าประชาชีจริง ๆ
“วันนี้จะเรียกมาบอกแค่นี้ใช่ไหมครับ งันผมขอกลับบริษัทก่อนนะครับ” คุณชายพูดจบก็หันมาที่ฉัน
“ใช่ได้นี่ พยายามเข้านะ ฉันยอมรับเธอแล้วแม่ปากกรรไกรแห่ง T-HIT” เอ๊ะ คุณชาย เหมือนจะดีแต่ก็ ??? ปากกรรไกรงันเหรอ.... แต่รอยยิ้มแบบนั้น ขอบคุณมากนะ
“ไปก่อนนะครับทุกคน วันพรุ่งนี้เจอกัน ไปคุณคิม” คุณชายพูดจบก็เรียกชื่อผู้จัดการส่วนตัวที่ตามมาด้วย และเดินออกจากห้องไป
“อือ งันครับขอตัวด้วยนะครับ” คุณหนูพูดพร้อมหันมายิ้มให้ฉัน ที่ยืนแยกเขี้ยวใสกับไอ้เจ้าคุณท่านอยู่
“กรรไกรอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ไม่เข้ากับชุดที่แต่งมาสวย ๆ เลยนะ จงยิ้มสู้กับมัน ฮาๆๆ ไปละ” คุณหนูเป็นคนเดียวที่ในทีวีกับตัวจริงเหมือนกัน ทั้งคำพูด และการกระทำ ทุกอย่างเหมือนกับคุณหนูที่ฉันเคยเห็นทุกครั้ง
“ค่ะ” ฉันพูดพร้อมยิ้มให้กับคุณหนูที่ยืนยิ้มให้ฉันก่อนจะออกจากห้องไป
“ไอ้ท่านไป” เจ้าชาย เอ๊ะ ปรี๊นซ์พูดพร้อมไปดึงไอ้เจ้าคุณท่านออกจากห้องนี้ไป
“อะ ทีนี้ก็มีแค่เราสองคนละ จะไหวมั่ย” คุณอาหันมาถามฉันพร้อมรอยยิ้ม
“ค่ะ หนูรับปากแล้วจะต้องทำให้ได้”
“อือ มันก็ดีนะที่ทำตามคำพูดของตัวเอง แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็บอก ๆ อามานะไม่ต้องทนหรอก ไอ้คุณท่านก็เป็นแบบนั้นละ นี้ละตัวจริงของมัน รับไหวมั่ย”
“ค่ะ” ค่ะ ๆ ไปก่อน ณ เวลานี้ เพราะถ้าฉันลาออกตั้งแต่วันแรกไอ้เจ้าคุณท่านได้ดีใจตายแน่
“อะนี้ สมุดตารางงานของวง”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันหยิบสมุดเล่มสีขาวขนาดปลานกลางจากมือคุณอา
“วันนี้แค่นี้ล่ะ แต่พรุ่งนี้ กรรไกรต้องอยู่กับวงนี้เอง แค่ 2 เดือน จำไว้ว่าแค่ 2 เดือน” คุณอาพูดพร้อมเดินมาจับที่ไหล่ฉันเพื่อให้กำลังใจ
“ค่ะ 2 เดือน”
“อา.......~ ได้กลับมาบ้านสักทีแม่เจ้า ความฝันกับความจริงมันช่างแตกต่างกันได้อะไรเช่นนี้นะ ที่ฉันคิดไว้ มันไม่ใช่เลย ฮือ ๆๆๆๆๆๆๆ” ฉันพูดพร้อมนอนดิ้นเหมือนจะเป็นจะตายอยู่บนที่นอนสีชมพูสุดน่ารัก
“แล้วจะเป็นไงต่ออะเนี่ย อย่างที่พ่อบอกไว้ไม่มีผิดเลย ขึ้นชื่อว่างานก็ต้องยากสินะ” แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องที่ฉันคิดมากและสนใจมากไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เป็นเรื่องนิสัยของแต่ละคนสินะ นักร้องที่เราชอบ เรารัก ความเป็นจริงกับความฝัน อือ ฉันไม่ควรจะมานั่งฝันบ้าฝันบออะไรอยู่ละ เพราะในเมื่อความเป็นจริงมันอยู่ตรงหน้าแล้ว
แต่เอ๊ะ วันนี้ฉันยังไม่ได้เข้าบล็อกเลยนี่ แต่คงไม่สำคัญแล้วละมั่งในเมื่อฉันพึ่งไปเจอตัวจริงเสียงจริงเขามาวันนี้เอง
โดยปกติฉันจะเข้าบล็อกไปคุยกับเจ้าชาย หรือ ปริ๊นซ์ เพราะด้วยความที่ว่าฉันเป็นแกนนำกลุ่มแฟนคลับคนต้น ๆ ว่าได้ และตอนนั้นมันเป็นความโชคดี หรือ โชคร้ายของฉันก็ไม่รู้ ที่พยายาม ส่งข้อความส่วนตัวไปหาปริ๊นซ์จนเขาตอบกับมา หลังจากนั้นมาฉันกับ เจ้าชาย เอ๊ะ ปริ๊นซ์ก็ส่งข้อความส่วนตัวคุยกันตลอดมา
แต่เขายังไม่รู้นี่ว่าฉัน กรรยลิน คือ กรรไกร เข้าไปดูสักนิดดีกว่า
ฉันหยิบโน๊ตบุ๊คสีชมพูที่วางไว้ข้างที่นอนขึ้นมา
“เอ๊ะ มีข้อความใหม่จากปริ๊นซ์” เขาออนอยู่นี่
“กรรยลิน วันนี้ฉันไปเจอผู้จัดการคนใหม่มาด้วยนะ เธอคนนั้นดูเหมือนจะเฉย ๆ แต่ตามจริงร้ายใช่เล่นเลยละ ดูเด็กกว่าฉันอีก ไม่รู้จะดูแลพวกฉันทั้ง 4 ได้ไหมนะ? แต่ดูไอ้ท่านเหมือนจะไม่ชอบเอาซะเลย ถ้าเป็นเธอ เธอยังจะอยู่ต่อเหรอ ?” นี้กำลังนินทาฉันเหรอ
“เออดีนินทาฉันให้ฉันฟัง”
ฉันตอบกลับ
“แน่นอนถ้าเป็นฉัน ถ้าฉันมุ่งมั่นว่าจะทำอะไรแล้วฉันต้องทำให้ได้ เป็นฉัน ฉันต้องอยู่ต่อแน่นอน” ฮา ๆๆๆๆ
“เอ๊ะ ตอบกลับมาแล้ว” มาดูไอ้เจ้าปริ๊นซ์จะคิดยังไงกับฉันต่อ ฮา ๆๆๆ
“ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาไม่ชอบนี่นะ” เออ แล้วทำไมฉันหน้าด้านอะ
“ใช่แน่นอนยิ่งต้องอยู่ต่อสิ เวลาจะทำให้คนเข้าใจกันดีขึ้นมาเอง”
“เหรอ ??? ฉันว่ามันจะยิ่งแย่อะสิ ไอ้ท่านไม่เหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไปนะ” เหรอ แบบนี้ก็ดีเลยอยากเจอ
“มันก็ต้องลองดูกันหน่อยละ” ฉันตอบกลับไปด้วยความแน่ใจว่าฉันสามารถ ฉันทำได้ ฮา ๆๆๆ ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ยกเว้นไม่ได้ทำ ฮาๆ ๆๆ
“งันดูต้องคอยดูสินะ คืนนี้ฝันดีนะ” ถ้าเป็นเหมือนก่อนตอนที่ฉันยังไม่ได้เข้าไปเป็นผู้จัดการเขาฉันคงดีใจมากกกก กับคำพูดนี้....
“ค่ะฝันดี”........
“แปลเธอไม่ได้บอกว่า Miss U. ฉันเลย” อา..... นั้นเป็นคำที่ฉันต้องพูดก่อนจะเข้านอนกับเขา
“ฉันจะ คิดถึงคุณทำไมก็ในเมื่อเราพึ่งเจอกัน ? คุณปริ๊นซ์”
“แน่นอน I miss U.” นี้ฉันต้องตอบไปแบบนี้จริง ๆ ใช่ป่ะ ไม่น่าพูดแบบนี้ตั้งแต่แรกเลย ฉันรู้สึกละอายกับคำพูดหลาย ๆ ประโยคที่ฉันเคยพูดในหลาย ๆ คำแล้วละสิ
“ตูพูดไปได้ไงว่ะ ?” ไม่น่าเลยกรรไกร.....
บันทึกกรรยลิน
อ่า.... ~ ความฝันกับความจริง ? มันช่างต่างกันจริง ๆ คุณอาจจะคิดว่าคุณรู้จักนักร้อง ดาราที่คุณชอบดีแล้ว แต่... ตามจริงมันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น ไม่เลย ไม่มีสิ่งไหนเหมือนอย่างที่คุณคิดเลย คุณจะทำเช่นไร ? คำว่าผิดหวังคงไม่พอกับสิ่งที่ได้พบเจอมัน.....
ความคิดเห็น