ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    F.T island เพื่อนกันฉันรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #15 : ครั้งเเรกของการซ้อม

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 55


     
     



    ตอน ครั้งแรกของการซ้อม

     

    “ไอ้ฮงกี ทำมัยช้าจังวะ”   จงฮุนยืนกอด อกที่หน้าประตูด้วยอาการเซ็งเป็ดกับการแต่งตัวที่สุดแสนจะใจเย็นของฮงกี เพราะว่าฮงกีตื่นสายนั้นเอง จงฮุนบ่นแตกเช้าเลย  “ไอ้อ้วนฮงเมื่อไหร่จะเสร็จ” จงฮุนเรียกฮงกีซะเต็มยศเลย

    “โฮ ไอ้ฮุน จะบ่นอะไรนักหน้า แม่ก็ไม่ใช่ เมียก็ไม้ใช่ บ่นอยู่ได้น่าลำคาญ”  ฮงกีพูดไปด้วยแต่งตัวไปด้วย  “แล้วก็กรุณาเรียกข้าว่าสุดหล่อฮงกี ห้ามเรียกว่าไอ้อ้วนฮง กูออกจะเพอร์เฟรต์ เรียกซะขัดกับหน้าตาอันหล่อเหลาเป็นอย่างมากเลย ขอบอก”

    “ไอ้ฮงกี ตื่นสายแล้วยังมาบ่นอีก ถ้ามึงขาดกูมึงจะรู้สึก”  จงฮุนเถียงสะ “ไม่ให้เรียกว่าไอ้อ้วน หรือจะให้เรียกว่าไอ้เตี้ยดีว่ะ”

    “เงียบไปเลย กูจะใช้สมาธิแต่งตัว เดียวหมดอารมณ์ ตอนนี้กำลังอาทอยู่”  (เรียกสั้นๆว่าอารมณ์ศิลป์) ฮงกีชอบเวอร์ทุกสถานการณ์จริงๆเลย

    “จำไว้ ถ้าขาดกู มึงจะรู้สึก” จงฮุนขี้เกียจเถียงกับฮงกีแล้ว เถียงกี่ทีก็ไม่เคยชนะสักทีเลย

    “ถ้ากูขาดมึงแล้ว กูก็รู้สึกตดสบายมากขึ้น ขี้ออกทุกวัน กินข้าวตรงเวลา แล้วแถมยังกินอิ่มนอนหลับด้วย”  ฮงกีก็เถียงคำไม่ตกฟากเหมือนเคย

    “โฮไอ้ฮงกี มึงว่ากูสะ ถึงเรื่องขี้เลยนะมึง มึงช่วยยกอะไรที่ดีกว่าขี้ไม่ได้เหรอ เดี๋ยวกูกินข้าวไม่ลง กูยิ่งบอบบาง ร้างน้อย อรชอน น่าถนุดถนอมอยู่ด้วย”  จงฮุนทำท่าทางเหมือนว่าตัวเองบอบบางน่าถนุดถนอมอย่างนั้นเลย

    “เออ เออ กูยอมมึงแล้ว มึงอย่าชวนกูคุยสิ เดี๋ยวชาติหน้ามั้งกว่ากูจะแต่งตัวเสร็จ ถ้าขืนกูคุยกับมึงอย่างนี้10ชาติก็คงไม่เสร็จ มึงรีบไปรอกูข้างล่างเลยไป”  ฮงกีไล่ให้จงจงฮุนไปรอข้างล่าง

    “โถ ไอ้ฮงกี แม่งตืนสายแล้วยังมาไล่ให้เพื่อนสุดหล่อ รออีก”  จงฮุนชมตัวเองก็เป็น เข้าใจอยู่ว่าเค้าได้นิสัยหลงตัวเองมาจากใคร .....ลองคิดกันเองนะ ไม่บอกก็รู้ใช่มั้ยล่ะ

     

      และอีกห้องที่อยู่ติดกัน

    “ซึงเสร็จรึยัง” แจจินเรียกซึงฮยอนที่ตอนนี้ เค้าก็เพิ่งจะอาบน้ำอยู่เลย ใครว่าฮงกีตื่นสาย คงว่าไม่ได้แล้วนะ คนที่ตื่นสาย ก็คงเป็นบุคคลที่ตอนนี้ยังอยู่ในห้องน้ำอยู่เลย

    “แป๊บเดียวนะ ตัวเอง เค้ากำลังแต่งตัวอยู่เลย”  ซึงฮยอนเรียกแทนว่าตัวเองเป็นครั้งแรกกับแจจิน

    แจจินถึงกับหัวเราะออกมา เพราะไม่เคยเห็นซึงฮยอนใช้คำแทนตัวได้หวานอะไรอย่างนี้ “ฮ้าฮ้า ตลกอ่ะ ตัวเอง”  และแล้วแจจินก็หลุดปากมาจนได้ ตัวเอง เป็นคำเรียกเฉพาะแฟนกันเท่านั้น

     

    “เสร็จแล้ว หอมมั้ย”  ซึงฮยอนเปิดประตูออกมา แล้วพูดกับแจจินอย่างตลก แต่คนที่อึ่งกับคำพูดของซึงฮยอนก็คงเป็นแจจิน เสร็จแล้วหอมมั้ย

    คำว่าหอมมั้ย ซึงฮยอนเค้าถามว่า อาบน้ำมาใหม่ๆ มันหอมมั้ย หรือว่าเหม็น นี่คือสิ่งที่ซึงฮยอนอยากจะสื่อสาร

    แต่แจจิน กับคิดไปไกลเลย ว่า จะหอมซึงฮยอนดีมั้ยนะ “เขินอ่ะ” แจจินตอนนี้ทำท่าทางเขินแล้วก็จะหอมแก้มซึงฮยอน

    ซึงฮยอนถึงกับตกใจ “แจจินนายเป็นอะไร ฉันถามว่าหอมมั้ย ฉันแค่อยากรู้ว่าตัวฉัน มันหอมมั้ย ฉันแค่อยากฟังคำตอบ แล้วดูนายทำท่าทาง บ้าปะเนี่ย”

    “แป้ว///” แจจินหน้าแตกเลย  “อ้าวเหรอ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นสะอีก”

    ซึงฮยอน แกล้งถามแจจินต่อ “อย่างนั้นน่ะ อะไรเหรอ”  ซึงฮยอนก้มหน้ามาใกล้ๆแจจิน

    “อ้อ เปล่า ไม่ไม่มีอะไร”  แจจินโบกไม้โบกมือใหญ่เลย เพราะไม่อยากให้ซึงฮยอนรู้ว่าเค้าแอบคิดพิเรนอีกแล้ว

    ซึงฮยอน รีบเดินลงมา แล้วขำกับอาการของแจจิน “ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่ ลีแจจิน นายมั้นฉลาด แต่เจ้าเล่หน์สู้ฉันไม่ได้ ฮ้าฮ้า รู้นะว่ารัก จึงหยอกเล่น ทำมัยแฟนฉันน่ารักอะไรอย่างนี้นะ”

    ซึงฮยอนเดินมาอย่างสบายอารมณ์

     

     

    ณ บริษัท ค่ายเพลงยักใหญ่

    “แจจิน แล้วแล้วอ.คังอยู่ไหนว่ะ มึงโทรบอกเค้ารึยังว่าพวกเรามาถึงกันแล้ว”  ซึงฮยอนถามแจจินอย่างปกติมากไม่ผิดสังเกตุเลย เพราะว่าซึงฮยอนและแจจินปิดบังความลับที่พวกเค้าสองคนเป็นแฟนกันเพื่อไม่ให้เพื่อนๆรู้

    แต่แจจินหันมามองหน้าซึงฮยอนประหนึ่งว่า เหมือนกับว่าอย่ามาออกคำสั่งได้มั้ย อยากตายเหรอ

    ซึงฮยอนก็เลยรู้ในบัดดลว่า ต้องหุบปากแล้วเดินตามอย่างเงียบๆ เพราะว่าถ้าไม่ทำตาม แฟนที่รักอาจจะโกดได้

     

    และแล้วซึงฮยอนก็ได้โอกาส รีบจูงมือฮงกีไปหาสาวที่เป็นเด็กฝึกหัดในค่ายเพลงของพ่อแจจินิ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าชู้กันทั้งคู่

    “สวัสดีครับน้องสาว เพิ่งมาเหรอครับ ผมซงซึงฮยอน ผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุด ในสามโลกครับ”

    “ส่วนผมลีฮงกี ผู้ชาติที่หน้าตาดีที่สุดที่สุดที่สุดและที่สุด ในสี่โลกครับ”  ฮงกีเกย์ทับซึงฮยอนใหญ่เลย

    “โฮ ไอ้ฮง เกย์ทับเลยนะมึง”  ซึงฮยอนหันมาบ่นกับฮงกี

    “มันคือความจริงโว๊ย”  ฮงกีหันมาตอบ กับซึงฮยอน อย่างหน้าตาเฉย แล้วหันกับไปยิ้มให้สาวๆต่อ

    “ความจริงอะไร”  ซึงฮยอนถามอย่าง งงๆ

    “ก็ความจริงที่ว่า กู หน้าตาดีกว่ามึงไง”  ฮงกีหันมาตอบกับซึงฮยอนอย่าปกติที่สุด

    “เออ ใช่ ซึงฮยอน เออ ออ” ก่อนที่จะคิดได้  “ทำมัยรู้สึกว่าเราดูด่อยๆยังไง บอกไม่ถูกวะ”

    “เฮ้ยไม่ใช่โว๊ย ไอ้ฮง กูหน้าตาดีที่สุด”  ซึงฮยอนพอนึกขึ้นได้ก็เถียงใหญ่เลย

    “มันสายไปแล้วโว๊ย ไอ้ซึง” ฮงกีเถียงกับซึงฮยอนใหญ่เลย โดยไม่ทันเห็นแจจินเดินเข้ามานานแล้ว ก่อนที่ฮงกีกับซึงฮยอนจะฆ่ากัน แจจินรีบเดินไปดึงหูซึงฮยอนและฮงกีให้ออกมาอย่างเร่งด่วน

    “โอ้ย โอ้ย เจ็บ เบาๆหน่อย เจ็บๆๆๆๆ”   ฮงกีเรียกให้แจจินปล่อยมือ จากหูของเค้า

    “ไอ้สองแสบมานี่เลย พวกนายมาซ้อมดนตรีกันได้แล้ว มัวแต่หม้อหญิง  เดี่ยวฆ่าให้ตายทั้ง2คนเลย โมโหเว้ย” แจจินเดินไปบ่นไป

    “จร้า จร้าต่อไปเค้าจะไม่ทำตัวอย่างนี้อีกแล้วนะตัวเอง หายโกษเค้าเถอะน่ะๆๆๆ ตัวเอง”  ซึงฮยอน กระซิบที่หูของแจจิน เพื่อไม่ให้ฮงกีรู้  แต่ฮงกีใช่ย่อยๆที่ไหนล่ะสอดรู้สอดเห็นเป็นที่หนึ่งเลย ฮงกีเอียงหูเข้าไปใกล้ๆซึงฮยอนเพื่ออยากรู้ว่าพวกเค้าพูดอะไรกันอยู่ แต่ก็ต้องโดนขัดด้วยเสียงที่ได้ยินต่อไปนี้  “เสือก”  ฮงกีได้ยินเสียงนี้ ก็รู้เลยว่าเพื่อนทั้งสองรู้แล้วว่าเค้ากำลังจะแอบฟัง ก็เลยเปลี่ยนจากที่แอบฟัน มาเป็นถามแบบตรงๆเลย  “ แจจินพวกนายสองคนพูดอะไรกันบอกฉันมาเดี่ยวนี้นะ ฉันอยากรู้”   ฮงกีถามแจจินกับซึงฮยอนแบบตรงๆ แต่ทั้งสองคนเงี่ยบแล้วลาก ฮงกีไปห้องซ้อมดนตรี  “ไม่เอานะ ฉันไม่ไปพวกนายบอกมาก่อนสิ ว่ามีอะไรกัน ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ไปปปปป”  ฮงกีตะโกนโวยวายดังลั่น แจจินเลยเอาผ้าเช็ดหน้าที่เลอะขี่มูกยัดใส่ปากฮงกี จนฮงกีหยุดพูดใน ณ บัด now   เนื้อร้อง(แจ่ม แจ แดม แจ่ม ว้าว ณ บัด now นั้นโดนใจ แจซึง เล่นเงียบไม่ยอมฟังฮง มีปุ่มกดไลท์มั้ยฮุน นี่จะซ้อมแล้วน้อ ฮงขอเป็นเพื่อน ไม่ว่ายังไงจะไม่ยอมเลิกยุ้ง  บอกมาดีๆได้มั้ย)” 

    “ ไอ้ฮงหยุดร้องได้แล้ว สงสารพี่บี้เค้า พอเถอะ เข้าห้องซ้อมได้แล้ว”  แจจินปิดปากฮงกีเพื่อไม่อยากให้ร้องต่อ ถ้าร้องจนจบเพลงอาจจะโดนฟ้องได้ แค่นี้เนื้อร้องก็บิดเบือนพอแล้ว เดี๋ยวอาจจะได้นอนคุกฟรีก็ได้ถ้าไม่หยุดร้อง  “อยากกินข้าวฟรีรึไงไอ้ฮง”  แจจินถามฮงกี ฮงกีเลยตอบสนองมาเป็นร้องไห้แทน อีโนเซ้นมากๆๆเลย

    ห้องซ้อม

    “สวัสดีครับผมครูคัง จะมาเป็นครูสอนดนตรีให้กับพวกน้องๆทั้งหลาย วันนี้อาจารย์จะสอนเพียงแค่สองชั่วโมงพอ แล้วถ้าหมดชั่วโมงแล้วก็กับบ้านกันได้  ดีนะที่พวกนายเตรียมตัวฝึกซ้อมมาก่อนหน้านี้แล้ว อาจารย์เลยไม่หนักใจอะไรมาก”

    “ดีมากครับ ครูคัง สอนไวไปไว  ผมจะได้กลับบ้านไปดูโดเรม่อน ไวๆ”  จงฮุนทำท่าทางเหมือนกับเด็กๆๆมาก อยากกลับบ้านไว เพื่อไปดูโดเรม่อน

    “ใช่ ใช่ ผมก็อยากกลับไปดูเหมือนกัน”  ฮงกีพูดตามเพื่อนซี้ของตนด้วยความเคยชิน

    “ไอ้ฮง หัดใช้ความคิดของนายบ้างสิ อย่ามาใช้ความคิดของฉัน”  จงฮุนบ่นใส่ฮงกีใหญ่เลย

    “ก็ทำมัยล่ะ ก็กูขี้เกียจคิดนิ สมองกูยิ่งความจำมีจำกัดอยู่ด้วย เมมจะใกล้เต็มแล้ว”  ฮงกีตอบซะ หมดอนาคตเลย หลอกด่าตัวเองก็เป็น สมแล้วที่เป็นฮงกี พูดไวไปไว

    ครูคังสั่งให้ ฮงกี จงฮุน แจจิน ซึงฮยอน มินฮวาน วอนบิน ซ้อมเครื่องดนตรีไปก่อนเพื่อให้ชำนาญ ส่วนฮงกีครูคังก็สอนขั้นพื้อฐานคือวิ้งออกกำลังกายเพื่อวอมเสียง ฮงกีครับวันนี้ครูจะสอนขั้นวอมเสียงก่อนนะ วิ่งรอบห้องสักประมาณ10 รอบแล้วกันแล้วก็ร้องเสียงโด เร มี ฟา ซอล ไปเรื่อยๆนะ เดี๋ยวครูจะไปสอนวอนบิน จงฮุน ซึงฮยอนก่อน ครับครูคัง ฮงกีรีบรับปากแล้วทำการวิ่งวอมเสียงอย่างเร่งด่วน เพราะยิ่งนึกถึงเรื่องที่ไปท้าแข็งกับพวกรุ้นพี่ แล้วอยากตายวันละหลายพันครั้ง  ปากน้อปาก

     

    ฟากของพวกหนุ่มๆกีตาร์

    จับอย่างนี้นะ อย่างนี้ แล้วลองเล่น ดูนะ เริ่มเล่นช้าๆก่อนนะ จงฮุน วอนบิน และซึงฮยอน เริ่มเล่นก็สามารถจับครอด์กีตาร์ได้แล้วถือว่าเก่งมาก นี่แหละนะที่เรียกว่าพรสวรรค์ รับรองดังแน่ๆ อาจารย์คังแอบภูมิใจ กับเด็กปั้นของอาจารย์

     

    ต่อไปเป็นตราของมือเบสบ้าง

    แจจินครับ หนูลองเล่นแบบนี้ดูนะเชื่อเลยว่าต้องทำได้ ถ้าเล่นครอด์นี้ได้แล้วก็ไปรวมกลุ่มกับพวกวอนบินได้เลยนะ แจจินสมแล้วที่มีIQสูงถึง130 เข้าใจอะไรได้ง่ายมากสอนรอบเดียวจำได้แล้ว

     

    ต่อไปเป็นฟากของมือกลองบ้าง

    อาจารย์คังสอนมินฮวานจับไม้ตีอากาศ เพื่อให้น้ำหนักมือของมินฮวานเท่ากัน แล้วแยกน้ำหนักเองได้ ต่อไปก็สอนแยกโสดประสาด และสอนตีกลองโดยแยกโสดประสาด อันนี้ถือว่ายากสุดๆ แต่มินฮวานก็ทำได้แบบสบายๆ พรสวรรณ์จริงๆ มินฮวานซ้อมอย่างตั้งใจเพื่อไม่ให้เพื่อนๆของเค้าผิดหวัง

     

    อาจารย์คังภูมิใจมาก สอนแค่วันเดียก็สามารถเล่นดนตรีได้แล้ว  ต้องเป็นเด็กที่มีพรสวรรฯนะถึงจะทำได้ แต่พวกเค้าก็ทำได้ ไปหลบหลืบ อยู่ที่ไหนมา กว่าจะเจอเพชญมันง่ายขนาดนี้เลยเหลอ รับร้องดังแน่ๆ เดียวต้องไปบอกกับท่านประธานก่อน

     

    “วอนบินนายจะซ้อมไปถึงไหนกัน ไม่เหนื่อยเหรอ”  ฮงกีถามวอนบินที่เอาแต่ซ้อมดนตรีอย่างเค้งเครียด

    พอสิ้นเสียงฮงกี วอนบินก็หยุดซ้อม แล้วหันไปตอบอย่างหน้าตาเฉย  “ก็ซ้อม รอให้หมามันถามไง”  วอนบินตอบมาหน้าตาเฉย แต่ทำให้เพื่อนในกลุ่มที่เค้งเครียดกับการซ้อมดนตรีกันหยุดนิ่ง แล้วกลั้นหัวเราะไม่อยู่  “ฮา ฮาๆๆๆ หมาดันถาม หมาไง” เพื่อนๆต่างหัวเราะชอบใจใหญ่เลย

    “สมน้ำหน้า โดนไอ้วอนบินด่าซะบ้าง ชอบยุ้งเรื่องคนอื่นดีนัก”   ซึงฮยอนได้ที่เสริมใหญ่เลย

    “โฮ ฮุน ฮงโดนลังแกอีกแล้ว ช่วยเค้าหน่อยจิ”  ฮงกีอ้อนให้จงฮุนเถียงแทนเค้า เพราะนึกคำเถียงไม่ทัน

    จงฮุน รีบตอบปัดอย่างว่องไว ด้วยการที่รักเพื่อนเป็นอย่างมาก  “ตัวใครตัวมันแล้วกันนะ เพื่อนสุดที่เลิฟ”  จงฮุนเอาตัวรอดได้ไวมาก

    “นับถือเลย นี่แหละหัวหน้าวงFT สุดยอดเอาตัวรอดได้เก่งมาก ยิงกว่าจิ้งจกเปลี่ยนสีอีก” ฮงกีหลอดด่าจงฮุน จงฮุนหันมาขอบใจฮงกี  “ขอบใจ” ที่ชมเค้า ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่ามันหรอกด่านี่หว่า

    ฮงกี ก็ได้วิ้งหนีไปแล้ว   “ไอ้พวกลิง โตแล้วยังเล่นอะไรเหมือนเด็กอีก ไอ้อ้วนฮง ไอ้หมูฮง ไอ้ตดเหม็น ไอ้ก้นใหญ่ ไอ้เตี้ย ไอ้ขาหมู”  จงฮุนนึกคำด่าแทบไม่ทัน  จงฮุนเค้าน่าจะชินได้แล้วนะ กับนิสัยที่แสนจะแสบของเพื่อนตัวเอง จนเค้าเผลอยิ้มออกมา  ไอ้อ้วนฮงนายทำให้ฉันได้หัวเราะได้ตลอดเลยนะ ทำไงดีนะฉันรู้สึกว่าทำมัยหัวใจของเรา มันเต้นผิดจังหวะอย่างนี้หล่ะ หัวใจมันไม่เหมือนเดิม จงฮุนเอามือกุมที่หัวใจของเค้า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×