ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    F.T island เพื่อนกันฉันรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #14 : ความในใจของซึงฮยอน

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 55


      




     ตอน ความในใจของซึงฮยอน

    “ลีแจจิน นายตื่นแล้วเหรอ”  ฮงกีถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่แจจินได้สติตื่นขึ้นมา

    “ฉันเป็นอะไร ไปเหรอทำมัยฉันถึงมานอนอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”  แจจินถามฮงกีด้วยความมึนงง

    “อ๋อ ก็นายตื่นเต้นจนเป็นลมไป” ไอ้ซึงเลยแบกนายมาส่งที่ห้องพยาบาล

    “ฉันเนี่ยนะเป็นลม”  แจจินถามแบบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ซึงฮยอนแบกเรามาเหรอg]p

    “เอ้า ฮงกี แล้วไอ้ซึงล่ะมันอยู่ไหน”   แจจินถามหาเพื่อนที่รับพาละแบกเค้า แต่คำตอบที่ได้ยิ่งทำให้เศร้าไปใหญ่เลย

    “เห็นไอ้ซึงบอกว่าจะไปเดทกับสาว อะไรนี่แหละ อย่าไปสนใจมันเลยมันชอบมีความลับกับเพื่อนประจำ แทนที่จะชวนฉันไปด้วย ขี้ งกจังไอ้เพื่อนเลว”  ฮงกีตอบแบบอิฉา

    อาการของเพื่อนตรงหน้า ที่ได้รับคำตอบ แทบดูไม่ได้  “เหรอ มันก็คงงั้นแหละ มันจะมาสนใจอะไรกับฉัน ฉันไม่ใช่แฟนมันซะหน่อยที่ตัวจะต้องติดกันทั้งวัน” แจจินแอบน้อยใจซึงฮยอนนิดๆ

    “ก็ใช่สินะ นายเป็นแค่เพื่อนมัน ไม่ใช่แฟนมัน มันถึงจะต้องดูแลทั้งวัน” ฮงกีพูดโดยไม่คิดอะไร ว่าแจจินจะรู้สึกยังไง

    “แจจิน งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ เดี๋ยวพวกเพื่อนๆเป็นห่วง”  ฮงกีพูดเสร็จก็รีบเดินออกไปจากห้องพยาบาล อย่างเร็วเลย

    “เอ้อ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน” แจจินทักฮงกีก่อนที่จะเห็นแค่หลังไวๆ  “ไอ้นี่ก็อีกคน มารยาทไม่เคยมีกันบ้างรึไงกัน ฉันคบเพื่อนแบบนี้ได้ยังไงนะ” แจจินเรื่มสงสัยในมารยาทของฮงกี นิดหน่อย

    และแล้วความเศร้าก็เข้ามาอีกครั้ง “ทำมัยกัน นายถึงต้องมาทำดีกับฉัน ในวันที่ฉันอ่อนแอ แต่พอในวันที่ฉันแข็งแรง นายกลับเดินจากฉันไปโดย ไม่เหลือเยื่อใย เพราะฉันเป็นแค่เพื่อนนายใช่มั้ยซึงฮยอน นายถึงทำกับฉันแบบนี้”  และแล้วน้ำตาแห่งความเสียใจก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ต้ว   “ฮื่อ ฮื่อ ฮื่อ ทำมัยกัน ทำมัยกัน ร้องให้พอนะลีแจจิน น้ำตาของนายก็เหมือนกับความรักของนายที่มีให้ซึงฮยอน พอพรุ่งนี้ฉันสัญญากับตัวเองว่าฉันจะเลิกชอบนายซึงฮยอนให้ได้” แจจินแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว น้ำตาของแจจินทำให้บุคคลที่เฝ้ามองเค้าอยู่ด้านนอกเกิดรู้สึกผิด จนไม่อยากแทบให้อภัยตัวเอง

     

    ความในใจของซึงฮยอน

    ผมซงซึงฮยอน ผมแทบก้าวไม่ออกเลย กับสิ่งที่ผมได้ยิน ตอนนี้ผมอยู่หน้าห้องพยาบาล ที่แจจินพักอยู่ ผมทำให้คนที่ผมเรียกว่าเพื่อนสนิดเสียใจได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ผมจะทำยังไงดี เค้าจะเลิกชอบผมแล้ว ผมไม่อยากให้แจจินเลิกชอบผมเลย ผมไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย ได้โปรดเถอะพระเจ้า ขอให้แจจินอย่ายอมแพ้ที่จะชอบผมต่อไป ได้โปรดเถอะ ผมเจอเค้าแล้วได้โปรดอย่าให้เค้าเดินจากผมไปเลย

     

    ณ โรงเรียนมีนัมยอน

    “แจจินนายหายแล้วเหรอถึงมาโรงเรียนได้” วอนบินรีบวิ่งเข้าไปหาแจจินด้วยความดีใจ

    “เออ ฉันหายแล้ว แล้วเพื่อนๆล่ะ อยู่ไหนกันหมด” แจจินถามด้วยความสงสัย

    “อ๋อ พวกนั้นไปแต่งตัวกันอยู่น่ะ วันนี้มีแข็งหนุ่มหน้าหวาน ไอ้มินฮวานมันเลยอาสาไปแต่งหน้าให้ไอ้พวกนั้น  งั้นพวกเราไปหาไอ้พวกนั้นดีกว่า พวกมันคงรอพวกเรานานแล้ว”

    วอนบินรีบเดินไป จนมาถึงห้องแต่งตัว

     

    “อ้าว ไอ้วอนมาแล้วเหรอมึงแต่งหน้าให้ไอ้จงฮุนซิ ไม่ทันแล้ว แม่งหน้าไอ้ฮงกี แต่งอยากชิบหายเลย ถ้าแต่งหน้ายากขนาดนี้ แต่งหน้าศพ กูว่ายังง่ายกว่าอีก”  มินฮวานพูดซะหมดอนคตเลย

    “แจจินนายมานี่หน่อยสิ” เสียงที่คุ้นหู เสียงเดิมที่เค้าอยากได้ยิน นั้นคือเสียงของซึงฮยอน

    ที่เรียกให้แจจินเดินไปหา

    “อะ อะไร เหรอ ซึงฮยอน” แจจินไม่กล้าแม้แต่ที่จะมองหน้าซึงฮยอน แจจินได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำให้ซึงฮยอนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่

    “แจจินนายนั่งสิ” ซึงฮยอนเรียกให้แจจินนั่งลง ทำให้แจจินรีบนั่งอย่างอัตโนมัติ

    “แจจิน แต่งหน้าให้ฉันหน่อยสิ”

    “ ซึงฮยอนเค้าจะทำอะไรกันแน่นะ”

    “ไอ้ซึง ฉันแต่งหน้าไม่เป็นนะ”   แจจินพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ

    “ไม่เป็นไร นายก็แต่งๆไปเถอะ”  ซึงฮยอนพูดง่ายมาก

    “อืม ก็ได้”  แจจินพะยักหน้ารับปาก

    “ ไอ้ซึงมันจะทำอะไรกันแน่นะ ทำไมวันนี้มันดูแปลกๆไปนะ” แจจินเริ่มสงสัยแล้วว่าวันนี้ทำมัยซึงฮยอนดูแปลกไป

    แจจินหยิบแป้งแต่งหน้ามาแต่งหน้าให้ซึงฮยอน ด้วยอาการที่สั่นเครือ ซึงฮยอนเขยิบหน้าเข้าไปใกล้ที่หูของแจจิน แล้วกระซิบเบาๆว่า

    ซึงฮยอนกระซิบด้วยลมหายใจทีแผ่วเบา ทำเอาบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลย   “ลีแจจิน ฉันชอบนาย”

    แจจินถึงกับอึ่งสักพัก แล้วทวนคนถามอีกรอบ เพราะเช็คด้วยความมั่นใจ “อะ อะ อะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน”

    “ฉันบอกว่า ฉัน ชอบ นายไง ชัดมั้ย”  ซึงฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

    “ผู้ที่ประกวดหนุ่มหน้าหวานเชิญขึ้นเวที ได้แล้วครับ”

    “เฮ้ย ไปกันได้แล้ว”  วอนบินเรียกให้เพื่อนๆขึ้นไปบนเวที

     

    “เย้ ดีใจจังเลย ซึงฮยอนชอบฉัน  จริงๆใช่มั้ย  ฉันไม่ได้หูฟาดไปใช่มั้ย เราคงไม่หูฟาดหลอกน่า มีความสุขจังเลย”  แจจินได้แต่ยืนค้างกับ คำพูดที่ไม่ค้อยโลแมนติก ของซึงฮยอน แต่ทำให้แจจินที่เคยเศร้ากับมีความสุขขึ้นมาได้ นี่แหละนะที่เรียกว่าความรักของชายหนุ่มมิติที่4

     

    “นักเรียนทุกคนโปรดอยู่ในความสงบน่ะครับ”  อาจารย์คิมจะขอพูดจุดประสงค์ในการจัดกิจกรรมหนุ่มหน้าหวานขึ้นมา

    “ จุดประสงค์ในการจัดกิจกรรมหนุ่มหน้าหวานขึ้นมาเพื่อ ให้นักเรียนรู้ว่า หน้าตาตัวเองอยู่ในระดับไหน”

    “โหอาจารย์ งั้นพวกคนที่ไม่ได้ประกวดก็แย่นะสิ”  ฮงกีแอบแซวเพื่อนข้างๆเล็กน้อย

    แจจินและมินฮวาน หันมาเอากำปั้นเขกไปที่หัว ของฮงกีไปคนละที

     

    “ผู้เข้าแข่งขันคนแรกเชิญขึ้นเวทีได้เลยครับ”

    “นักเรียนคนแรกมีชื่อว่า นายวอน นอนคุก ส่วนสูง165 น้ำหนัก60 นิสัยเป็นคนรักสัตย์”

    “ก็สมควรที่จะรักสัตย์หลอกเนาะ เพราะว่าใส่ชุดกระต่ายมาซะ ถึงแม้หน้าตาจะคัดกับชุดสักนิด แต่ชุดก็ดีกว่าหน้า”  มินฮวานกระซิบกับแจจินอย่างสนุกปาก

    “ผู้เข้าประกวดคนที่สอง นายยา กันยุง ส่วนสูง170 น้ำหนัก60 นิสัยชอบปลูกต้นไม้”

    “คนแรกว่าหนักแล้ว เจอคนที่สองไป ขำกลิ้งเลย คิดได้ไง ใส่แค่ใบกล้วย รู้แล้วว่ารักต้นไม้แต่ไม่ต้องแสดงออกมากไปก็ได้ สงสารตัวเองบ้างเถอะ” แจจินตะโกนขึ้นไปบนเวที  ทำให้ผู้เข้าแข่งขันถึงกับอาย

    “คนต่อไปนาย ลี ฮงกี ส่วนสูง178 น้ำหนัก 60 นิสัยชอบหม่อหญิง เจ้าชู้ เริ่มแรกภาพพจณ์ก็ดีเลยนะเรา”

    ลีฮงกี เดินขึ้นสู่เวทีก็ได้รับเสียงกรี๊ดกราด เพาระเค้าแต่งตัวได้น่ารักมาก เหมือนกับตุ๊กตาญี่ปุ่นเลย ทำให้เพื่อนที่อยู่ข้างล่างถึงกับอึ่ง

    “คนต่อไปนาย ซอย จงฮุน ส่วนสูง180 น้ำหนัก60 นิสัยเป็นคนอ่อนโยนเฉพาะกับผู้หญิง”

    จงฮุนเดินตามฮงกีมาติดๆ จงฮุนใส่ชุดสีแดงกระโปรงดำ ทำให้เค้าดูเท่ และอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน ชุดที่เค้าใส่ก็ไปขโมยผ้าม้านข้างๆเวทีมาเปลี่ยน ว่าแล้วทำไมชุดถึงกลืนกับผ้าม่านเกินไปนะ แต่ที่ทำให้เพื่อนๆและสาวๆ ทุกคนต่างตกใจ คงหนีไม่พ้น บุคคลถัดไปที่กำลังจะขึ้นมาสู่เวที

    “คนต่อไปนายซง ซึงฮยอน ส่วนสูง181 น้ำหนัก60 นิสัยรักใคร รักจริง แต่รักหลายๆคน”

    ซึงฮยอนทำให้เพื่อนๆถึงกับอึ่งเพราะชุดที่เค้าใส่รึเปล่าก็ไม่ใช่ แต่เป็นเพราะหน้าตาของเค้าที่หวานมาก หน้าตาเหมือนกับผู้หญิงมาก จนทำให้คนที่อยู่ในงานถึงกับอึ่ง ไม่พ้นผู้เข้าแข่งขันต่างอึ่งไปตามๆกัน เพราะว่าเค้าสวยมาก ต่างจะมีเสียงกรี๊ดจากเหล่าผู้หญิงว่าพี่ซึงน่ารักจังค่ะ ทุกคนต่างวิ่งมาถ่ายรูปซึงฮยอนกันใหญ่เลย ทำให้แจจินที่อึ่งกับความน่ารักของซึงฮยอนไปซักพัก แล้วก็เรียกสติตัวเองกับมาได้ ตอนนี้ควันเริ่มออกหูแล้ว เพราะอาการหึงที่มีสาวๆมาขอถ่ายรูปซึงฮยอน เมื่อกี้นายเพิ่งบอกว่าชอบฉันเองนะ แจจินได้แต่บ่นกับตัวเอง

     

    “โอ้โหเริ่มแรกเพื่อนเราก็ชนะขาดรอยเลย แม่งคนนึงก็หม่อหญิง คนนึงก็เจ้าชู้ อีกคนนึงก็สวยซะจำแทบไม่ได้  แต่ถ้าจะให้เนียนกว่านี้ก็กรุณาโกนขนขาด้วยก็ได้นะ มีหวังงานนี้พวกเราชนะไอ้พวกนั้นแน่ๆเลยว่ะ”  วอนบินเอามือกุมขมับด้วยความดีใจ (กุมขมับเค้าใช้กับอาการเครียดไม่ใช่เหรอ มันต้องกุมคางสิ)

     

    “การตัดสินจะขึ้นอยู่กับดอกไม้ที่ผู้แข่งขันจะได้รับจากเด็กในโรงเรียนเราและสาวๆที่อยู่โรงเรียนอื่น ดอกไม้มีขายที่หน้าประตูทางเข้านะครับ”  พอสิ้นเสียงพิธีกรMC นักเรียนต่างไปแย้งซื้อดอกไม้

    พิธีกรประกาศรายการต่อไป “ถึงเวลาที่เราจะให้ดอกไม้แก่บุคคลที่เราชื่นชอนกันแล้วละครับ”

    “เชิญครับ”  สาวๆต่างวิ่งนำดอกไม้ มาให้ฮงกี จงฮุน และซึงฮยอน กันยกใหญ่เลย

    “เราจะมานับผลคะแนนกันนะครับ”

    “บุคคลที่ได้เป็นหนุ่มหน้าหวานได้แก่ ฮงกี จงฮุน และซึงฮยอน ครับตบมือกันด้วยครับ”

    “เย้ดีใจจังเลย”  แจจินตบมือด้วยความดีใจที่เพื่อนๆของเค้าต่างชนะ

     

    “เราจะมาสรุปผมกีฬาอาทิตย์นี้กันนะครับ ห้องที่ได้เป็นเจ้าเหรียนทองได้แก่ห้อง อ. ฮานา ดีใจด้วยครับเชิญมารับรางวัลได้เลยครับ”

    “ผลสุดท้าย ห้องเราก็ได้ชัยชนะ นั้นเป็นเพราะการแข่งจูบเลยนะนั้นเพราะไอ้ซึงมันชนะการแข่งจูบ” มินฮวานพูดโอ้อวดใหญ่เลย แต่คนที่ถึงกับอึ่งคงหนีไม่พ้นแจจิน

     

    ซึงฮยอนจูบฉันจริงๆเหรอ อยากจะบ้าตาย เขินจังทำไงดี เมื่อเช้าเพ้งกินปลาล้ามาด้วยซึงฮยอนมันจะได้กลิ่นรึเปล่านะ  แล้วทำมัยซึงฮยอนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ นายแสบจริงๆเลยนะซึง ฉันชอบนายได้ไงเนี่ย คิดผิดคิดใหม่ได้มั้ยนะ (มันสายไปแล้วแจจิน  นักเขียนขอแซวบ้างถ้าไม่ใช่แจจิน นักเขียนไม่ยอมให้ซึงฮยอนของเจ๊ จูบกับไอ้บ้าที่ไหน ชมหรือด่าครับเจ๊นักเขียน อย่ามาเรียกว่าเจ๊นะแจจิน เราห่างกันแค่ปีเดียวเองถ้าเรียกอีกเดี๋ยวจะดึงขนรักแร้เลย ไม่นะ กลัวแล้วไม่เรียกก็ได้ รู้ซะบ้างนักเขียนมีสิทธิ์ทุกอย่าง)แจจินหลุดจากฝันกลางวัน มาสู่โลกความเป็นจริง ที่สุดจะเพอร์เฟ็ก

     

    “อ.ฮานาว่าวันนี้ห้องเราไปเลี้ยงฉลองกันดีกว่านะ”  ใช่ครับไปกันเลย เพื่อนที่อยู่ในห้องต่างดีใจเมื่อได้ยินว่า จะได้ไปเลี้ยงฉลองกัน

     

    เมื่อมาถึงร้านอาหาร อาจารย์ก็จัดหนัก สั่งใหญ่เลย

     “กลัวว่าอาหารจะหมดหรือไง หรือว่าจะมีคนมาแย้ง นี่มันเป็นบุฟเฟ่นะ ไม่ใช่กินของฟรี” วอนบินบ่น และทำท่าทางไม่อยากจะเข้ามาในร้านเลย จนอาจารย์ต้องออกคำสั่งถ้าใครไม่กินโดนลบ10คะแนน วอนบินเลยรีบเดินเข้ามาในร้านด้วยความว้องไว นี่เหรอที่เรียกว่าคนไม่อยากมา หรือกลัวว่าจะโดนลบคะแนน คิดเอาเองนะ

     

    แต่ที่น่าแปลกใจคงหนีไม่พ้นคู่ของแจจินกับซึงฮยอนหรอก เพราะรู้สึกว่ามันจะหวานผิดสังเกตุ

    “แจจินเราจะตักอะไรไปกินดีนะ”  ซึงฮยอนพูดกับแจจินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานมาก

    ส่วนแจจินก็ได้แต่ออกคำสั่ง ส่วนซึงฮยอนเป็นฝ่ายทำตาม แจจินสั่งให้ซึงฮยอนตักโน่น ตักนี่ จนอาหารเติมไม้เติมมือไปหมดแล้ว

    “ซึงฮยอน ตักหมูให้ด้วยนะ”

    “ซึงฮยอนตักกุ้งด้วย ฉันชอบกินกุ้ง” แจจินออกคำสั่งใหญ่เลย

    “ตักปลาหมึกด้วย”

    “เอาผักด้วย”

    “เอาไข่ด้วยนะ”

    “แล้วก็ ไก่ด้วย เอาชิ้นใหญ่ๆนะ” แจจินเอานิสัยจอมงก มาใช้อีกแล้ว

    แจจินได้แต่ออกคำสั่ง จนไม่ทันสังเกต เลยว่ามือของซึงฮยอนเต็มไปด้วยจาน แล้วอาหารที่เค้าสั่ง

    แจจินหันมาดูซึงฮยอน ด้วยความตกใจ  “เฮ้ย”  แจจินตกใจสักพัก “ขอโทษ”  แจจินเพิ้งรู้สึกว่าตัวเองผิด

    แจจินเลยสำนึกผิด เลยถามซึงฮยอน  “นายอยากกินอะไรล่ะ เดียวฉันตักให้” แต่คำตอบที่ได้มาชวนให้ขนลุกไปหน่อย

    “ฉันอยากกินนาย” ซึงฮยอนแชอบแกล้งแหย่แจจินเล่นตลอดเลย  คำตอบนี้เล่นเอา แจจินถึงกับเขินทำอะไรไม่ถูกเลย แจจินไม่นึกว่าซึงฮยอนจะกล้าพูดอะไรหวาน หวาน อย่างเนี้ย ดีนะที่ซึงฮยอนพูดกับแจจินเบาๆ ทำให้เพื่อนๆไม่ได้ยินอะไร ไม่งั้นความลับแตกแน่  

    พอตักอาหารเสร็จแล้วมานั้งที่โต๊ะ ซึงฮยอนก็อ้อนให้แจจินทำอันโน้นให้กิน ทำอันนี้ให้กิน แต่นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเค้า สองคน เพื่อนในกลุ่มเลยไม่สงสัย

    “แจจินฉันอยากกินกุ้ง ตักกุ้งให้หน่อยสิ”  ซึงฮยอนอ้อนให้แจจจินทำให้ทุกอย่างเลย

    ส่วนแจจินก็ได้แต่ทำตาม “อะ รวังนะกุ้งมันร้อน” แจจินเป็นห่วงซึงฮยอนออกหน้าออกตาเอามาก

    “จร้า ขอบใจมากเพื่อนเลิฟ”  ซึงฮยอนพูดไปแกะกุ้งไป

    “อะ แจจินกินกุ้งสิ ฉันอุส่าแกะให้”  ซึงฮยอนเรียกแจจินให้กินกุ้งที่เค้าแกะให้

    “อะ อีกคำนะ”  ซึงฮยอนแกะกุ้งให้แจจิน กินจนจะหมดจานอยู่แล้ว

    “ซึง ทำมัยนายไม่กินหล่ะ”  แจจินถามซึงฮยอน เพราะว่าอาหารที่เค้าตักมาล้วนเป็นของโปรดของซึงฮยอน แต่ทำมัยกัน ซึงฮยอนไม่ยอมกิน แต่ดันให้แจจินกินแทน

    “ก็ฉันอยากให้นายกินอาหารที่ฉันชอบนิ ฉันผิดเหรอ”  คำตอบของซึงฮยอนทำให้แจจินถึงกับมีความสุขไปเลยทีเดียว

     

    ณ บ้านหรรษา

    ผมลีแจจินครับ ผมไม่คิดเลยว่า คนที่ผมแอบชอบมาตั้งแต่เด็กเค้าจะมาชอบผม ผมจำได้ดีเลยวันแรกที่ผมเจอซึงฮยอน ผมก็รู้สึกว่า โลกนี้มันช่างน่าอยู่อะไรอย่างนี้นะ ผมทำทุกวิถีทางที่จะให้ซึงฮยอน มาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเรา เพราะซึงฮยอนเป็นเด็กใหม่ เค้าย้ายตามครอบครัวเพราะครอบครัวของเค้าเป็นข้าราชการ ผมจำได้ดีเลยว่าวันแรกฮงกีจะชอบแกล้งซึงฮยอนมาก ส่วนจงฮุนก็จะคอยปลอบใจ ส่วนมินฮวานจะคอยเป็นเพื่อนที่แสนดี ส่วนวอนบินก็จะชวนซึงฮยอนเล่นกีฬาตลอดเมื่อเจอหน้ากัน ส่วนผมก็จะคอยเป็นคนที่ช่วยเหลือซึงฮยอนทุกอย่างทั้งเรื่องเรียน และการบ้าน ผมถือว่าตัวเอง เป็นมันสมองของกลุ่มเลย ช่วงแรกๆฮงกีจะคอยแกล้งซึงฮยอนตลอดเลย เพราะซึงฮยอนเค้าจะดูเหมือนคนเงียบๆ แต่พอไม่ถึงอาทิตย์เท่านั้น ฮงกีก็เลิกแกล้งซึงฮยอน แล้วหันมาเข้าขากับซึงฮยอนได้ จากที่ไม่ชอบหน้ากัน แต่ดูตอนนี้แทบจะรักกันปานจะกลืนกิน สงสัยใช่มั้ยว่าเพราะอะไร เป็นเพราะว่าซึงฮยอนเป็นคนที่ติดตลกคิดอะไรก็พูดออกมา นั้นแหละสิ่งที่ฮงกีเค้าชอบ เพราะนิสัยฮงกีกับซึงฮยอนดูไปนานๆจะเหมือนกันมาก ทั้งด้านมืด และด้านสว่าง ส่วนใหญ่จะเป็นด้านมืด ด้านดีพพวกเค้าไม่ค่อยมีกันหรอกครับ มักจะชอบแกล้งคนอื่นไปทั่ว

    พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่พวกเราจะต้องไปซ้อมดนตรีกันเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นจังเลย เพราะว่าผมบอกพ่อว่าโรงเรียนปิดเมื่อไหร่พวกผมถึงจะมาซ้อมกัน อีกแค่1เดือนเท่านั้น พวกเราก็จะต้องไปแข็งกับพวกรุ่นพี่แล้วสินะ สู้ๆ ลีแจจิน  วงFTจงเจริญ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×