ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF - The Maze Runner -

    ลำดับตอนที่ #3 : Help me one more time | dylmas

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 58


    Title : Help me one more time
    Pairing : Thomas Sangster x Dylan O’brien
    Rate : PG-13
    Note : Winter Project ที่น้องแจนชวนร่วม พี่ขอโทษจริงๆค่ะที่ปั่นโดไม่ได้ เลยปั่นฟิคมาแทน YvY
     
     
    ดีแลน โอไบรอันเป็นชายหนุ่มที่เพิ่งโสดได้เพียงสามสัปดาห์กว่าๆ หลังจากที่เขาเจอแฟนของตัวเองนั่งกินข้าวอยู่กับผู้หญิงคนอื่นในคืนสิ้นปีและเป็นคืนวันครบรอบของพวกเขา จากนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาตลอดสองปีก็จบลงตั้งแต่วินาทีนั้น
     
    สองเท้าเดินย่ำหิมะที่หนาขึ้นมาเกือบหนึ่งนิ้วราวกับคนกวาดนึกขี้เกียจขึ้นมาอย่างนั้น มือข้างหนึ่งถือแก้วมอคค่าร้อน ในขณะที่อีกข้างซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวใหญ่ เขาพ่นลมหายใจทิ้งอย่างหงุดหงิดยามที่โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสั่นครืดๆไม่ยอมหยุด และไม่ว่าจะหยิบมาดูชื่อคนโทรเข้าอีกกี่รอบมันก็ยังคงเป็นชื่อเดิม
     
    T.Pose
     
    อยากโกรธตัวเองที่ต่อให้ลบชื่อนั้นออกไป เขาก็ยังจำเบอร์อีกฝ่ายได้ขึ้นใจ เพราะงั้นมันดูไม่มีประโยชน์เลย ถึงได้ทิ้งเอาไว้แบบนั้น
     
    จริงที่ว่าดีแลนเป็นผู้ชายมองโลกแง่บวก และอารมณ์ดีขนาดที่ว่าแทบจะนึกภาพตอนโมโหไม่ออก นั่นแปลว่าถ้าเขาโมโหเมื่อไหร่ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันอีก เขาอาจเป็นคนตลก แต่ไม่ใช่ตัวตลกสำหรับผู้ชายเฮงซวยกับผู้หญิงคนนั้นแน่นอน
     
     
    พอเถอะน่าไทเลอร์ชายหนุ่มยอมกดรับสายอย่างจำใจ เอ่ยแทรกก่อนที่ปลายสายจะทันได้พูดอะไรซักคำ เขาไม่อยากฟัง ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ตาม เขาเบื่อที่จะฟังคำว่าขอโทษและคำบอกรักจอมปลอมที่ฟังแล้วคลื่นไส้
     
    ไม่เอาน่าดีล นายต้องฟังฉันนะ
     
    ดีแลนเบะปาก พลางโคลงหัวไปมาราวกับจะล้อเลียนอีกฝ่ายแม้ว่าไทเลอร์จะไม่สามารถมองเห็นได้ก็ตาม ถ้าซานตาคลอสมีอยู่จริงและไม่ถือว่ามันเลยวันเทศกาลมาเกือบเดือนแล้ว ชายหนุ่มคงจะขอร้องให้ซานต้าที่รักพาไทเลอร์ โพซี่ออกไปจากชีวิตเขาที
     
    ผมฟังคุณเป็นรอบที่ร้อยแล้วมิสเตอร์โพซี่….” กดเสียงลงด้วยพยายามข่มความหงุดหงิดและนึกรำคาญในใจ ก่อนสายตาจะเหลือบเห็นผู้ชายผมสีบลอนด์ทองยืนจุดบุหรี่ด้วยความยากลำบากเพราะมืออีกข้างถือแก้วกาแฟร้านเดียวกับที่เขาถืออยู่ ดีแลนชะงักขาหยุดยืนมองอยู่ชั่วครู่ก่อนเดินตรงเข้าไปขณะเปลี่ยนท่าเป็นการใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์มือถือไว้แทน มือข้างที่ว่างคว้าไลท์เตอร์ในมืออีกฝ่ายมาช่วยจุดให้แทน
     
    อีกฝ่ายมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มเล็กๆ พร้อมเอ่ย ขอบคุณ
     
    ดีแลนยักไหล่เบาๆ ก่อนเปลี่ยนมาใช้มือจับโทรศัพท์ไว้เช่นเก่า
     
     
    นั่นเสียงใครน่ะดีล!
     
    ดีแลนถอนหายใจจนขึ้นเป็นควันสีขาว เกือบจะตอบอีกฝ่ายไปว่าไม่มีอะไร แต่แล้วความคิดนึงก็แล่นเข้ามาในหัวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
     
    อืมเสียงแฟนใหม่ฉันเองพูดไปพลางจ้องหน้าอีกคนที่ยืนตรงข้าม คนแปลกหน้าเลิกคิ้วมองกลับมาอย่างงุนงง ถ้านายไม่เชื่อนายก็คุยกับเขาเองแล้วกันว่าแล้วก็ยื่นโทรศัพท์ในมือให้ กระพริบตาปริบๆเป็นเชิงอ้อนวอนที่ใช้กับใครก็ได้ผลเสียทุกครั้ง ขยับปากพูดแบบไร้เสียงว่า แฟนเก่าเป็นคำอธิบายสั้นๆที่เข้าใจได้ไม่ยาก ชายหนุ่มผมบลอนด์หัวเราะเล็กน้อย พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า ยื่นมือรับโทรศัพท์มาคุย ก่อนจะยื่นแก้วกาแฟให้อีกฝ่ายช่วยถือชั่วคราว
     
    เฮ้ เลิกยุ่งกับแฟนฉันได้แล้ว เรากำลังเดทกันอยู่ ไม่มีเวลามานั่งฟังเสียงคร่ำครวญของพวกขี้แพ้หรอกนะสิ้นคำสุดท้ายเขาก็กดตัดสายทันที
     
    ดีแลนหลุดหัวเราะเสียงดังลั่น ก่อนจะเอ่ยคำเดียวกับที่อีกฝ่ายพูดกับเขาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน
     
    ขอบคุณ
     
    ถือว่าเจ๊ากัน
     
    แก้วกาแฟและโทรศัพท์มือถือถูกยื่นคืนกลับสู่มือเจ้าของ พร้อมการยกมือบอกลาโดยไม่คิดจะทำความรู้จักซึ่งกันและกัน โธมัส แซงสเตอร์ยืนสูบบุหรี่พิงเสาไฟมองคนที่ดูเด็กกว่าเดินลับหายไปท่ามกลางฝูงคน กลิ่นช็อกโกแลตอ่อนๆปะปนกับกลิ่นของกาแฟลอยขึ้นจากแก้วกระดาษในมือชวนให้สงสัยจนต้องยอมละจากบุหรี่ยกขึ้นจิบ
     
     
    หวาน…”
     
    เบ้หน้าเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขัน ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายที่เดินไปไกลแล้วจะรู้สึกยังไงเวลาปลายลิ้นรับรสความขมจากเอสเพรสโซ่แทนที่จะหวานอย่างมอคค่า
     
     
     
     
     
    แหวะหวานชะมัดโธมัสพยายามหาร้อยแปดพันเก้าเหตุผลที่จะมาอธิบายถึงไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของเขา แม้แต่พนักงานยังทำสีหน้าแปลกใจเมื่อลูกค้าประจำเปลี่ยนจากการสั่งเอสเพรสโซ่มาเป็นมอคค่า โธมัสไม่รู้เหตุผลอะไรทั้งสิ้น เขารู้เพียงแค่ว่าอากาศหนาวๆแบบนี้เขาต้องการกาแฟร้อนซักแก้วแทนการสูบบุหรี่ (ที่พยายามลดละเลิกอยู่) และรสหวานของช็อกโกแลตที่ติดอยู่ปลายลิ้นในวันนั้นมันก็แทรกเข้ามา
     
    มันก็แค่นั้นแหละน่า
     
    หวานก็อย่ากินสิวะโธมัสมองเพื่อนชาวต่างชาติอย่างกีฮงด้วยความขัดเคือง

    เสือก

    เอ้า ไอ้เวรนี่

    เขารีบก้าวขายาวๆ ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย เพราะไม่งั้นอะไรบางอย่างที่เขาพยายามมองข้ามตลอดหลายวันมานี้มันอาจจะเปิดเผยออกมา
     
    อาจเป็นเรื่องที่ว่าไม่ว่าจะสั่งมอคค่ามากี่แก้ว มันก็ไม่ได้หอมหวานเหมือนแก้วนั้น
     
    หรืออาจเป็นเรื่องที่ว่าเขาคิดถึ
     
     
    เลิกตามฉันได้แล้ว!!
     
    นายให้โอกาสฉันได้พิสูจน์ตัวเองเถอะนะดีล
     
    เสียงทะเลาะที่ดังขึ้นมาในที่สาธารณะเป็นอะไรที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ไม่ยาก ไม่เว้นแม้แต่กับโธมัสที่เผลอมองตามอย่างช่วยไม่ได้ เขาขมวดคิ้วมองชายหนุ่มสองคนยืนเถียงกันตรงอีกฟากของถนน แผ่นหลังนั่นคุ้นตาเหมือนกับว่าเขาเพิ่งจ้องมองมันเมื่อไม่นานมานี้
     
    และเพียงแค่เสี้ยวหน้านั้นหันมา โธมัสก็รีบข้ามถนนในช่วงที่สัญญาณไฟเกือบจะเปลี่ยนพอดี ทำให้กีฮงไม่สามารถจะวิ่งตามไปได้ ทำได้แค่ตะโกนตามไล่หลัง
     
    เฮ้ย นั่นแกจะไปไหนน่ะ ไอ้คุณโธมัส!!!
     
     
    ทุกย่างก้าวที่เดินทำให้ใจเขาเต้นระรัว ระยะทางสั้นลงจนเขามาหยุดอยู่ด้านหลังอีกฝ่าย คนที่เคยเป็นแฟนเขาอยู่ประมาณสิบวินาทีทั้งที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ ฟังดูน่าขำ และโธมัสก็ขำออกมาจริงๆ ในขณะที่วาดแขนโอบไหล่อีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ

    นี่น่ะหรอไอ้หนูขี้แพ้ที่โทรมาวันนั้น

    ดีแลนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนหันมามองคนมาใหม่ที่ก้มหน้าลงมาเสียจนชิด ระยะห่างระหว่างปลายจมูกกับผิวแก้มดูยังไงก็ไม่น่าเกินห้าเซนติเมตร แปลกที่ใกล้ขนาดนั้นดีแลนกลับจำได้ทันทีว่าเป็นใคร

    อยากให้ช่วยอีกมั้ย
     
    หรืออาจเป็นเพราะน้ำเสียงที่กระซิบอยู่ข้างหูไม่ก็กลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่ปนกับกลิ่นน้ำหอม
     
    อื้มคนอายุน้อยกว่าเบี่ยงหน้ากลับมาทางเดิม
     
    ต้องให้ฉันเตือนนายอีกซักครั้งมั้ยว่าพวกเราไม่มีเวลามานั่งฟังนายคร่ำครวญหรอกนะ
     
    โธมัสจ้องมองไปยังชายหนุ่มอีกคนด้วยความรู้สึกเหนือกว่า
     
    อากาศหนาวแบบนี้เราต้องการเวลาส่วนตัวสร้างความอบอุ่นให้กันคำพูดชวนส่อให้คิดลึกทำให้แก้มของดีแลนขึ้นสีแดงตัดกับเกล็ดหิมะที่โปรยลงมา แต่ไม่ทันได้ต่อว่าด้วยความเขินอายอีกฝ่ายก็เอ่ยปากพูดต่อ
     
    ถ้านายไม่ว่าอะไร ฉันก็ขอตัวแฟนฉันคืนแล้วกันนะ” ก่อนดึงแขนดีแลนให้เดินตามออกมา ไทเลอร์ได้แต่ยืนกำหมัดแน่นอย่างแค้นใจแต่ไม่สามารถทำอะไรได้
     
    ดีแลนหันหลังกลับไปมอง เมื่อเห็นว่าไทเลอร์ไม่ได้เดินตามมาอีกแล้วจึงหยุดเดิน โดยมีโธมัสหันกลับมามองตามด้วยความสงสัย
     
    คือหมอนั่นคงไม่ตามมาแล้วแหละ
     
    อ่านั่นสินะ
     
    อืม ยังไงก็ขอบคุณอีกทีนะ
     
    โธมัสปล่อยมือจากอีกฝ่าย เลื่อนมาลูบท้ายทอยตัวเองแทน มองแก้มที่ยังแต้มสีแดงของคนตัวเล็กกว่าแล้วถึงสังเกตเห็นแก้วกาแฟในมือที่ไม่ต่างไปจากของเขา

    มอคค่ามันหวานไปสำหรับฉันคงเหมาะกับนายมากกว่าไม่รู้ทำไมถึงเลือกพูดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่เขาก็ยกแก้วในมือโคลงเล็กน้อยขณะจ้องมองมัน
     
    นั่นนายสั่งมอคค่ามาหรอ

    ก็ประมาณนั้น

    เป็นดีแลนเสียเองที่หลุดหัวเราะเสียงดังมาอีกครั้ง โดยที่โธมัสไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำมันตลกตรงไหน แต่ความสงสัยไม่ต้องเก็บงำไว้นานเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนเฉลยให้เสร็จสรรพ หลังจากแย่งแก้วในมือเขาไปแล้วยัดแก้วของตัวเองคืนกลับมา สองมือกุมแก้วกาแฟไว้เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
     
    ถ้างั้นฉันก็ว่าเอสเพรสโซ่มันเหมาะกับนายมากกว่า ถ้านายไม่ถือว่าฉันจิบไปนิดหน่อยน่ะนะ

    รอยยิ้มค่อยๆ วาดขึ้นบนใบหน้าของทั้งสองฝ่าย ก่อนดีแลนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาเสียเอง ความเงียบทิ้งตัวไม่นานพอให้เกิดความอึดอัดใจ เมื่อโธมัสตัดสินใจเป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นมา
     
    เอ่อเฮ้ ตะกี๊ฉันช่วยนายแล้ว คงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยถ้าฉันจะขอให้นายช่วยบ้างอีกซักครั้ง

    หืม เอาสิ ถือว่าเจ๊ากันคำพูดเดิมที่เปลี่ยนคนพูดราวกับจะบอกว่าบทสนทนาสั้นๆนั้นเขายังจดจำมันได้ดี เสียงหัวเราะเล็กๆที่ฟังดูแล้วทั้งสดใสและอบอุ่นราวกับฤดูร้อนท่ามกลางความหนาวเย็นในฤดูหนาว
     
    และโธมัสเอง
     
    งั้นช่วยทำให้ฉันรู้จักนายมากกว่านี้ได้รึเปล่า
     
    ก็อยากได้รับความอบอุ่นนั้นไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา
     
     
     
    ฉันดีแลน โอไบรอัน อืมนายก็น่าจะเห็นแล้วว่าฉันโสดอยู่รอยยิ้มนั่นราวกับจะยั่วเย้า และเขาก็ชอบมันเสียเหลือเกิน
     
    ไม่นายมีแฟนแล้ว
     
    “…”
     
    โธมัส แซงสเตอร์ ยืนอยู่ตรงหน้านายนี่ไง
     
     
     
    END
     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×