ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SAYSEELA เซซีล่า

    ลำดับตอนที่ #9 : ความลับที่ไม่ลับ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 28
      0
      16 ต.ค. 57

    ความลับที่ไม่ลับ

                แม้คุณจะอยู่กับร่างกายนี้ สติปัญญานี้ จิตใจนี้ เท่ากับตัวเลขอายุที่คุณใช้อยู่บนโลก เท่ากับวินาทีที่คุณเริ่มหายใจ คุณแน่ใจหรอว่ารู้จักตัวเองมากพอ คุณมั่นใจจริงหรอว่าร่างกายนี้เป็นของคุณจริงๆ แล้วรู้ได้ยังไงว่าความคิดคุณนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ใช้อะไรเป็นตัววัดเป็นตัวกำหนด ถ้าคุณรู้ก็ช่วยบอกฉันที เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนไม่รู้อะไรเลย แม้แต่ชื่อฉันยังไม่ได้ใจว่ามันใจว่ามันเป็นของฉันจริงๆหรือเปล่า  แล้วฉันนั้นเกิดมาทำไม ?

    พูดตามตรง ฉันไม่ไว้ใจคุณเลยสักนิด เอาแต่อ้างชื่อพ่อกับแม่ ทั้งๆทีเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ คิดจะมาก็มาจะไปก็ไป อีกอย่างคนมีเป็นล้าน ทำไมต้องเป็นฉัน ถ้ามีเหตุผลที่มากพอ ฉันอาจจะช่วยคุณ” 

                ร่างกายของหญิงสาวตอนนี้ค่อยเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยผิวกายขาวนั้นกำลังเรืองแสงเป็นสีทองตั้งแต่ปลายผมไปจนถึงเล็บนิ้วเท้า ผมที่เคยเป็นสีดำสนิทค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีฟ้าน้ำทะเลตั้งแต่โคนผมจรดปลาย ตาสีบลูโทปาซยิ่งมีประกายและใสขึ้นคล้ายจกเงา ผิวตอนนี้เริ่มเส้นบางๆสีทองพันรอบแขนซึ่งก็ยิ่งทำให้แสงนั้นสว่างมากขึ้น ส่วนตรงขานั้นเป็นเส้นใยบางสีเงินที่พันวนรอบเธอเช่นกัน เสื้อผ้าเครื่องแบบตอนถูกเปลี่ยนเป็นอาภรณ์สีทองสลับเงินที่ถักทอจากเส้นบางๆที่เคยพันรอบแขนและขาของหญิงสาว กลางหลังงามตอนนี้กำลังมีปีกโปร่งแสงสีทองงอกออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

                ปีกโปร่งบางสีทองสง่าแม้ไม่ได้ขยับขึ้นลงแต่ก็ยังกางออกอกอย่างสวยงามและดูแข็งแรง อาภรณ์ที่นุ่งห่มแม้ไม่ได้มีราคาแพงหากแต่อยู่บนเรือนร่างนี้กลับดูมีคุณค่าจนน่าครอบครอง ผมที่ยาวสลวยแม้ตอนนี้จะไม่ใช่สีดำเหมือนที่เคยเป็นมาแต่ผมสีฟ้าน้ำทะเลนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความสวยลดลงแต่อย่างใด ตาสีบลูโทปาซคู่งามที่กำลังจับจ้องสตีเบื้องหน้าผู้เป็นคู่สนทนาเพียงคนเดียวที่ขณะนี้ก็กำลังมองเธออยู่เช่นเดียวกัน ริมฝีบางตอนนี้ได้ปรากฏรอยยิ้มที่น่าหลงใหลก่อนจะเอื้อนเอ่ยคำที่หญิงสาวนั้นนั่งคิดนอนคิดมาทั้งคืนหลังจากนั่งก็ไม่หลับ นอนหลับก็ไม่สนิทมาหลายคืน ซึ่งนั้นก็ทำให้ทำให้โฟเอบัสถึงกับยิ้มตามไปด้วย

    แต่ฉันจะเชื่อใจพวกคุณสักครั้ง แต่หากคุณทำเชื่อใจนี้พังลงเมื่อใด พวกคุณอย่าหวังจะได้อยู่อย่างสบสุขต่อไป เพราะฉันจะเป็นคนที่ทำลายมันด้วยตัวเอง เข้าใจใช่ไหมคะ

    ข้าเข้าใจ ข้าเอาชีวิตข้าเป็นประกันหากข้าทำให้ความเชื่อใจเจ้านั้นพังลง

    ...เพราะถ้าหากเวลานั้นมาถึง ข้าจะยอมรับคมดาบของเจ้าแต่โดยดี เซซีล่า...

     

     

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นชีวิตของเซซีล่าก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปแม้จะปกติน้อยลง สมองจะต้องคิดเรื่องต่างๆมากขึ้น การเรียนก็ยังคงความเข้มข้นไปเรื่อยๆ แต่เธอก็ยังพยายามประคับประคองให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นวิชาหลัก วิชาเสริม หรือแม้แต่วิชาเลือกก็ตาม

    นอกจากนี้เซซีล่าก็ยังฝึกฝนตัวเองอย่างหนักขึ้นจนสังเกตได้ การพูดเข้าสังคมกับเพื่อนนั้นมีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าเธอนั้นรังเกียจเพื่อนฝูงแต่อย่างใด เพียงแต่หากวันเวลานั้นมาถึง คงเป็นเธอเองที่รู้สึกผิดและเสียใจมากที่สุดหากต้องจากบุคคลอันเป็นที่รักของเธอ เธอจึงเลือกที่จะไม่ผูกมิตรแต่ก็ไม่สร้างศัตรู ไม่ให้ความสำคัญกับใครเกินความจำเป็นหรือสร้างความทรงจำดีๆร่วมกับใคร เลือกที่จะทำอะไรคนเดียวมากกว่าขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ซึ่งเธอคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ทั้งสำหรับตัวเธอและคนรอบข้าง

                พัฒนาการต่างๆของเธอนั้นดีขึ้นมากไม่ว่าจะเป็นการใช้ดาบ ธนู มีด หรืออาวุธอื่นๆที่มีไว้ให้เธอศึกษา เรียกได้ว่าสนามฝึกโรงเรียนพังแล้วพังอีกซ่อมกันอย่างน้อยวันละครั้ง ระดับเวทย์นั้นก็ไม่ธรรมดาเพราะตอนนี้เธอแทบจะกลายเป็นจอมเวทย์ไปแล้ว เนื่องจากเธอเล่นอ่านหนังสือจนจะหมดห้องสมุด ฝึกใช้เวทย์ชั้นสูงอยู่บ่อยครั้งจนชำนาญ ส่วนเรื่องการติดต่อกับท่านโฟเอบัสหรือท่านมารีอัสก็ยังคงเป็นไปเรื่อยๆในรูปแบบต่างๆที่ท่านทั้งสองจะคิดออกและเกินกว่าที่ใครจะคาดเดา มาทางความฝันบ้าง เป็นแม่ครัวบ้าง ภารโรงบ้าง หรือแม้แต่เป็นสัตว์เวทย์ในวิชาสัตว์และพืชชั้นสูง โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการรายงานความคืบหน้าของอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าท่านทั้งสองรู้ได้อย่างไรและมาเป็นมาสเตอร์สุดโหด เหี้ยม ไร้ปราณี ให้เธอเป็นบางครั้งบางคราวหรือที่เรียกว่าเธอเกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยทีเดียว รวมถึงยังช่วยดึงพลังส่วนต่างๆ บอกจุดด้อยและช่วยหาทางแก้ไขเพื่อให้มีช่องโหว่น้อยที่สุด ตลอดเกือบเดือนที่ผ่านมา

                โดยเวลาว่างส่วนใหญ่ เซซีล่าจะเลือกที่เงียบสงบอยู่คนเดียว บนต้นไม้บ้าง กลางบ่อน้ำหรือกลางทะเลสาบหลังโรงเรียนบ้าง แม้แต่หลังคาโดมหรืออาคารบ้างถ้าจำเป็น จุดประสงค์หลักๆก็เพื่อศึกษาฐานและกลยุทธ์การรบสงครามในอดีต หาข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าดาร์กและเหตุการณ์ต่างๆในประวัติศาสตร์เพราะรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งย่อมชนะร้อยครั้ง แม้จะไม่ได้มีอะไรให้ศึกษามากมายนักเนื่องจากมันก็ผ่านมาหนึ่งพันกับอีกหนึ่งปีมาแล้ว จะให้ไปปลุกกระดูกนักรบแม่ทัพมานั่งถามก็กระไรอยู่

                ยิ่งใกล้ช่วงเวลาสอบเก็บคะแนนเซซีล่ายิ่งต้องแบ่งเวลาให้มากขึ้น เนื่องจากต้องฝึกอาวุธกับท่านมารีอัสและฝึกเวทย์กับท่านโฟเอบัสในตอนกลางคืน เข้าเรียนในตอนกลางวัน อ่านหนังสือสอบตอนพัก เรียกว่าใช้ชีวิตจนลืมหายใจ ไม่หลับได้นอน ไม่ได้พักผ่อนกันเลยทีเดียว เพราะแค่มีเวลาทานข้าวเช้า เที่ยง เย็น ก็ดีถมไปแล้ว แม้เซซีล่าจะรู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป คนรอบข้างนั้นก็ย่อมรู้สึกได้เช่นกันแต่คนที่รู้ดีที่สุดคงไม่พ้นพี่ชายทั้งสาม เพื่อนสาวทั้งสี่ และเจ้าชายอีกหนึ่งองค์ที่จับตามองเธออยู่ตลอด

                 “เซย์ พรุ่งนี้วันหยุด ไปเที่ยวกันไหม เสียงลูกสาวเจ้าของร้านดาบถามขึ้นหลังจากช่วยกันซ่อมสนามฝึกที่พังเป็นรอบที่สี่ของวันโดยฝีมือเข้าของชื่อนั่นเอง

                บราวไปเถอะ ชวนพวกพี่วออันไปด้วยก็ได้ เห็นบ่นอยากออกไปเที่ยวเมื่อหลายวันก่อน เซซีล่ากล่าวตอบโดยไม่ได้มองหน้าเพราะกำลังซ่อมพื้นสนามฝึกอยู่ ที่จริงเธอซ่อมเองคนเดียวก็ได้ แต่เพราะเพื่อนทั้งสี่ แล้วก็ยังมีเพื่อนอีกหลายคนในห้องอยากช่วย เธอจึงปฏิเสธเสียงส่วนมากไม่ได้ ทั้งทีทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือเธอแท้ๆ

                เราไม่ได้ไปไหนด้วยกันมาเกือบเดือนแล้วนะ เธอรู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองเปลี่ยนไป เราเป็นเพื่อนกัน มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน หรือเธอไม่เคยคิดว่าเราเป็นเพื่อนของเธอเลยองค์หญิงเซซีล่า เสียงของบลูทำให้เซซีล่าชะงักจนต้องหันไปมองหน้าผู้พูดเลยทีเดียว

                นั่นสิ ขนาดพวกเราไม่สนิทกับเธอเรายังรู้สึกเลยว่าเธอแปลกๆไป เสียงของฟาร์มีลเพื่อนร่วมห้องดังขึ้นอีกคน

                ทำตัวเรียกร้องความสนใจ เสียงประสานของเนซีเล็ต มีย่า และดาเนียดังขึ้นบ้าง ซึ่งนั่นก็เรียกสายตาของคนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี เว้นแต่เซซีล่าที่กำลังมึนงงและสับสนตัวเองเพราะเธอรู้สึกไม่อยากตอบโต้กับอะไรที่ไร้สาระเนื่องจากเวลาของเธอมีค่ามากกว่านั้น ทั้งที่แต่ก่อนเธอคงได้สวดส่งวิญญาณสามคนนี้สักบทหรือสองบท หรือไม่ก็หาวิธีแก้เผ็ดแบบแสบสันไปถึงทรวงให้ลืมไม่ลง แต่ตอนนี้ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะใจเย็นได้ขนาดนี้ นี่เรียกว่าเธอควบคุมกึ่งบังคับตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นหรือเปล่า เพราะหากเทียบคำด่าของสามสาว งี่เง่า เจ้าปัญหา และน่ารำคาญ กับคำด่าสารพัดตอนฝึกกับท่านเทพทั้งสองนั้น เรียกได้ว่าเทียบไม่ติดชิดซ้ายตกคลองไปเลย หรือเพราะชิน โดนด่าจนชินหรือใช่เปล่า พอคิดแล้วเจ้าตัวก็อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ หรือเพราะอดนอนจนหลอน มีใครเล่นของใส่หรือเปล่า (ว่าไปนั่น)

                เซย์ไม่ทำอะไรหน่อยหรอ พวกเขาว่าเธออยู่นะ โนวาพูดขึ้นบ้างเมื่อเห็นผู้ถูกกระทำเงียบไปไม่ได้โต้ตอบเหมือนทุกทีซึ่งนั่นมันแปลกจริงๆ

                จะให้ทำอะไรหละ เถียงคนไร้สาระงั้นหรอ เซซีล่าตอบ

    ^^ (หน้าเซซีล่า)

    =[]=; (หน้าเพื่อนทั้งห้อง)

    +_+!! (หน้าคู่กรณีทั้งสาม)

    เซซีล่าขอคุยด้วยหน่อย ในขณะที่ทั้งห้องกำลังอึ้ง นิ่ง เงียบ ก็เกิดการปรากฏการณ์ธรรมชาติอันหน้าตื่นตาตื่นใจเบิกบานฤทัย (?) เพราะขณะนี้หินเดินได้กำลังลากตัวสาวงามออกจากออกจากสนามฝึกที่อาจกลายเป็นสนามรบในไม่ช้า ท่ามกลางสายตาเพื่อนร่วมห้องชายหญิงที่กำลังหน้าแปลกใจยิ่งกว่าคนถูกลาก แต่อาจจะมีสามคนที่ทำท่าทีต่างออกไปนั่นคือเนซีเล็ตที่กำลังจะกรี๊ด และเพื่อนสนิททั้งสองของนางที่กำลังทำหน้าเหวอ

                โดยสถานที่ที่เดรกีสกึ่งลากกึ่งดึงกึ่งอุ้มเซซีลามานั้น เป็นน้ำตกวอทไทล์ที่ใช้เรียนวิธีควบคุมธาตุน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากสนามฝึกไม่มากเท่าไหร่ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่หนึ่งในโรงเรียนที่เซซีล่าชอบมาที่สุดที่หนึ่ง เพราะนอกจะสวย น้ำใส แล้วยังเงียบสงบ บรรยากาศเป็นใจ (?) ไม่น่าเชื่อว่าโรงเรียนจะยกน้ำตกมาตั้งไว้จริงๆชั่งเป็นการเปลืองงบประมาณอะไรขนาดนี้ (นานแค่ไหนเธอก็ยังงงกหมือนเดิม)

                มีอะไรก็ว่ามา หญิงสาวพูดพร้อมมองสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ

                เธอเป็นแบบนี้เกี่ยวกับคนที่ชื่อโอเอบัสแล้วก็มารีอัสหรือเปล่า เดรกีสพูดพร้อมจับตัวหญิงสาวให้หันมามองหน้าเขา ตาที่อเมทิสพยายามมองลึกไปในดวงตาสีบลูโทปาซคู่สวยเหมือนพยายามจะหาคำตอบจากมันเสียให้ได้ ซึ่งเจ้าของตาสวยนั้นก็ไม่ได้หลบสายตาของชายหนุ่มแต่อย่างใด แม้ใบหน้าสวยนั้นจะบอกถึงความแปลกใจสงสัยอย่างไม่ปกปิด แต่ตาคู่สวยก็เหมือนจะค้นหาคำตอบจากตาคู่นั้นของชายหนุ่มเช่นกัน

                หมายความว่ายังไง เซซีล่าไม่ตอบคำถามชายหนุ่มเพราะไม่มั่นใจว่าคนข้างหน้าเธอนี้รู้เรื่องมากแค่ไหน หากตอบไปอาจจะเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง

                ฉันเอะใจตั้งแต่มีอาจารย์ประวัติศาสตร์ที่มาสอนแทนมีชื่อเดียวกับคนที่มาหาเธอในวันสอบเข้าที่นี่ ถึงแม้วันนั้นฉันไม่เห็นหน้าคนทั้งสอง แต่ฉันฟังออกว่าพวกเธอคุยอะไรกัน หลังจากนั้นฉันพยายามตามเธอไปเกือบทุกที่ พวกเขาทำอะไรเธอหรือเปล่า เพราะเองก็เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น แววตาชายหนุ่มที่จ้องเธออยู่ ห่วงใย? เศร้าใจ? เธออ่านมันไม่ออกอีกแล้ว เขารู้มาโดยตลอดงั้นหรอ แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป โกหกไปดีไหม หรือบอกความจริงไปดี

                เปล่าหรอก ฉันแค่ตกลงช่วยพวกเขาไปแล้ว นายคงรู้ว่านี่ไม่ใช่เล็กๆ เพราะงั้นนายช่วยเก็บมันเป็นความลับได้หรือเปล่า ไม่งั้นคนรอบข้างฉันอาจเป็นอันตราย ฉันขอร้อง...ได้ไหม

    ความจริงจากปากเด็กสาวทำให้เดรกีสอึ้งไปชั่วขณะ ผู้หญิงตัวเล็กๆข้างหน้าเขาตอนนี้กำลังจะทำสิ่งที่เรียกว่าเสี่ยงตายและอันตราย เพื่อมิติของเขางั้นหรอ ทั้งที่เขาเป็นหนึ่งคนที่มีเชื้อสายกษัตริย์ที่ปกครองมิตินี้กลับไม่สามารถทำอะไรเพื่อบ้านเมืองได้เลย มันมากเกินไปสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งในความคิดของเขา ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าเธอคนนี้พิเศษมากกวาคนอื่นก็ตาม

    เธอคิดจะบอกเรื่องนี้กับพวกเราเมื่อไหร่ เซซีล่า!” เสียงประสานเย็นยะเยือกของเพื่อนสาวทั้งสี่ที่มีพี่ชายทั้งสามที่ยืนอยู่ข้างหลัง ซึ่งโพล่มาจากทิศไหนทางไหนเธอก็ไม่ได้สังเกต แต่เสียงนั้นเป็นสัญญาณที่บอกว่าพวกเขาเหล่านี้ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่แล้วนั่นเอง ซึ่งเธอก็คงโทษใครไม่ได้เพราะเธอเองที่ไม่รอบคอบก่อน จะใช้เวทย์ชั้นสูงลบความทรงจำเลยดีไหม หรือเอาค้อนทุบหัวให้ความจำเสี่ยมแล้วโยนลงน้ำตกดี (สติแตก) แล้วจะให้เธอตอบว่ายังไง ฉันไม่คิดจะบอกพวกเธอหรอกนะ หรือ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนั้นมาก่อน

    สมองของเซซีล่าเริ่มทำการประมวลหาทางออกอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากยืนนิ่งฟอสซิลแบบคนข้างๆก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา ซึ่งคำตอบของการประมวลผลครั้งนี้สรุปว่าเธอไม่สามารถตัดสินใจเรื่องใหญ่คนเดียวได้ เพราะควรถามความเห็นของเทพทั้งสองก่อน ถ้ามีอะไรพลาดจะได้ช่วยเหลือกันทันท่วงที

    ((เอาไงดีท่านอารีบัส เพื่อนๆพี่ๆของฉันเหมือนจะรู้เรื่องซะแล้ว))

    โทรจิตของเด็กสาวจากพื้นดินถูกส่งตรงไปยังสวรรค์อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตสามจีติดจรวจ และคำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือ...

    ((พวกข้าเคารพการตัดสินใจของเจ้า เซซีลา))

    ((พวกท่าน นี่ไม่ใช่เวลามาฝึกหลักความคิดนะคะ ท่าน ท่านเอรีบัส!))

    ((ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ...))

    ...ทำไมถึงทำกันแบบนี้ท่านเทพ แล้วฉันจะทำยังไงดี?...

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    แทบกรีดร้องหลังอ่านจบ ทำไมฉันตัดจบอย่างี้หละ 5555+ 
    เอาเถอะๆ U.U ตอนแรกไรท์ก็คิดว่าจะเอาฮานะเรื่องนี้ ทำไมกลายแบบนี้ ? สงสัยตอนนั้นอารมณ์แปรปรวน
    ฝากถึงรีดเดอร์ที่น่ารัก ไรท์อาจจะหายไปสัก...สองวันมั้งนะคะ หลังจะแอบมาอัพนิยายอย่างยาวนานมาก ?
    เศร้าอ่ะ จะไม่ได้มาอัพตั้งหลายวัน (มีใครอ่านอยู่หรอ ?)
    ตอนนี้คงจะเป็นตอนสุดท้ายที่มาอัพให้ได้ในสัปดาห์นี้สำหรับเรื่องนี้นะคะ ^^
    ดูแลสุขภาพและคิดถึงไรท์ด้วยน้า แล้วเจอกันอีกประมาณสองสามวัน ^___^
    ปล. ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และกำลังใจที่มอบให้ รักรีดเดอร์ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×