คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : มิติที่ชื่อว่าฟีโอเล่
มิติที่ชื่อว่าฟีโอเล่
เวลาผ่านไปไวราวกับโกหก เพราะวันนี้เซซีล่าต้องเดินทางไปมิติที่เรียกว่าฟีโอเล่พร้อมกับพี่ๆทั้งสามที่ตอนนี้ก็ต้องเดินทางไปเช่นเดียวกันเนื่องจากเวลาเปิดเทอมของฟีโอไวท์ใกล้เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ฝึกซ้อมกึ่งทรมาน(พี่ชายทั้งสาม) ทั้งด้านอาวุธและคาถาเวทย์ เพราะสวนหลังวังพังไม่มีชิ้นดีเนื่องพัฒนาการที่รวดเร็วของเธอ หรือจะเป็นการถามตอบภาคทฤษฎีกึ่งโต้เถียง(ของพี่ชายทั้งสามคนอีกนั่นแหละ) เพราะถามแล้วดันตอบอธิบายไม่เหมือนกัน เธอจึงต้องเป็นคนอธิบายให้ฟังซะเอง ตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมาจึงค่อนข้างวุ่นวายสำหรับเธอ
“เซย์พี่ว่าเราไปรอที่ห้องดีกว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว” ถึงแม้พี่วออันจะพูดอย่างนั้น แต่ฉันก็เข้าใจดีว่าพี่วออันไม่ค่อยชอบตกเป็นเป้าสายตาสักเท่าไหร่ เพราะนอกจากจะเป็นรัชทายาทแล้วหน้าตากินขาดแม้จะแต่งชุดบ้านๆก็ยังดูดีของท่านพี่ก็เรียกสายตาชาวบ้านชาวช่องในสถานทูตระหว่างมิติได้เป็นอย่างดี นี่ยังไม่รวมกับพี่เวอานและพี่วีอา ที่เดินอยู่ข้างๆด้วย เพราะสองคนนี้หน้าตาก็ดีใช่ย่อยเหมือนกัน
เนื่องจากไฟล์ซีโลนเป็นมิติที่ไม่แบ่งแยกฐานะรวยจนต่ำเตี้ยเรี้ยดินหรือสูงส่งไม่แบ่งเพศหญิงหรือชาย เรียกได้ว่าทุกคนเท่าเทียมและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทำให้ทุกๆสถานที่ไม่ว่าจะเป็นตลาด ห้างร้าน สถานที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่ทำการอย่างสถานทูตแห่งนี้ เต็มไปด้วยผู้คนมากมายซึ่งมีตั้งแต่ขอทานยังรัชทายาทที่เร่งฝีเท้าเดินนำหน้าไปไกลแล้ว
“ท่านพี่รีบขนาดนี้ กลัวมิติฟีโอเล่หายหรือคะ” อดแขวะได้จริงๆ เดินเร็วขนาดนี้ ถ้าใช้เวทย์หายตัวได้คงทำไปแล้วเป็นแน่
“เซย์ พวกพี่แค่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ สายตาผู้หญิงแต่ละคนจะกลืนพี่ไปทั้งตัวแล้วเนี่ย ไม่ว่าที่ใดก็ยังมีสินะ” นั่นเป็นคำตอบของพี่ชายคนรองที่ก้าวเท้าจนเขามาในห้องๆหนึ่งซึ่งไร้สายตาผู้คน
ห้องพี่ว่าเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดในส่วนใหญ่ โซฟายาวสีครีมถูกวางไว้ติดผนังด้านขวา โคมไฟระย้าเป็นสิ่งเดียวที่ให้แสงสว่าง มุมสี่มุมถูกตกแต่งด้วยเจกันทรงสูงสีทองที่มีดอกลิลลี่สีขาวและกุหลาบสีเดียวกันหลายดอกที่ถูกจัดเรียงไว้โดยแซมด้วยใบไม้สีเขียวพอให้มีสีสัน กลางห้องเป็นโต๊ะกระจกที่มีขนมหวานหลากสี ถ้วยน้ำชา และเก้าอี้ล้อมโต๊ะไว้จำนวนสี่ตัว ด้านซ้ายของผนังถูกจับจองด้วยนาฬิกาเรือนงามสีน้ำตาลอ่อนของไม้เนื้อดี และด้านหน้าสุดเป็นเพียงพื้นที่ว่างแต่ถูกยกพื้นให้สูงขึ้นเล็กน้อยและมีพรมสีแดงปูทับดัดกับพรมสีขาวด้านล่าง
“ในนี้ดีกว่าเยอะเลยใช่ไหมเซย์” พี่วีอาพูดขึ้นหลังจากเห็นเจ้าของชื่อใช้ตาสีบลูโทปาซมองสำรวจห้องก่อนจะเอ่ยตอบพี่ชายทั้งที่สายตายังจับจ้องดอกกุหลาบสีบริสุทธิ์อยู่
“ก็ดีคะ ข้างนอกมีแต่คนจ้องพวกพี่น้องเห็นแล้วอึดอันแทน”
“พี่ว่าคนที่ถูกจองไม่ได้มีแค่พวกพี่หรอกนะ เซย์เองก็เหมือนกัน ผู้ชายในไฟล์ซีโลนคงได้คิดว่าตัวเองตายแล้วเป็นแน่ เพราะมีนางฟ้าเดินผ่าน” เวอานพูดอย่าหัวเสียด้วยโรคหวงน้องเริ่มกำเริบขณะที่มือหนึ่งก็เอื้อมไปหยิบคุกกี้ที่ตนเองโปรดปราน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เซซีล่ามีอาการอะไร ออกจะทำแนวสงสัยและไม่ค่อยเข้าใจพี่ชายคนนี้เสียด้วยซ้ำ จึงทำให้วีอาพี่ชายคนเล็กต้องอธิบายเสริมให้
“ก็เพราะเซย์สวยขนาดนี้ เห็นทีนางฟ้ายังอาย เซย์ไม่ค่อยออกไปไหนเห็นตัวเองในกระจกจนชินคิดว่าตัวเองธรรมดาหละสิ เซย์สวยยิ่งกว่าดาวชั้นปีในโรงเรียนบางคนอีกนะ เห็นพี่คงต้องกันไว้ซะแล้วพวกผู้ชายในโรงเรียนมันไว้ใจไม่ค่อยได้ แต่นอกนั้นดีหมดนะเซย์”
หลังจากที่วีอาพูดจบเหมือนทั้งสามคนจะนึกอะไรได้ก่อนจะสุ่มหัวตกลงอะไรสักอย่างท่ามกลางสาวสวยคนเดียวในห้องที่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพี่ทั้งสามจะเล่นอะไรแพลงๆอีกหรือเปล่า ส่วนเรื่องพวกผู้ชายคนไหนคิดเข้าใกล้เธอในทางไม่ดี อย่างน้อยๆก็คงได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มสักเดือนสองเดือนเพราะเธอก็ใช่จะ สวยใสไร้สมองซะเมื่อไหร่ (นางเอกชมตัวเอง?)
กรึก!?
ตริ้งๆ! ตรึ้ง!
“อ้าวสงสัยจะได้เวลาแล้ว เสื้อผ้าท่านพี่คงให้นกขนส่งบินเอาไปให้ที่พักแล้ว งั้นเราก็เตรียมตัวไปกันเถอะ”เสียงของพี่ชายคนโตพูดขึ้นหลังจากได้ยินเสียงแปลกจากนาฬิกาที่ตอนนี้สั่นเป็นเจ้าเข้า ก่อนจะเดินไปยืนบนพรมสีแดง ตามด้วยพี่เวอานที่เดินไปจับมือข้างหนึ่งและอีกข้างจับมือของพี่วีอา ตามด้วยตัวเธอที่ยืนข้างๆวีอาและจับมือต่ออีกทอดเช่นเดียวกันแม้จะไม่แน่นนักเพราะไม่ค่อยเคยชินการจับเนื้อต้องตัวใครถึงแม้จะเป็นพี่ชายคนเล็กก็ตาม
ไฟจากโคมกลางห้องดับลงทำให้บรรยากาศตกอยู่ในความมืดอย่างสมบูรณ์ ผนังด้านหน้าที่เคยเป็นสีขาวค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างคล้ายวงกลมขดหอยขนาดใหญ่เต็มผนังสีดำที่ยังหมุนต่อไปเรื่อยๆและเร็วขึ้นจนชวนให้อาเจียน และคล้ายมีแรงบางอย่างค่อยๆดูดกลืนร่างทั้งสี่ที่อยู่เบื้องหน้าไปเรื่อยๆและค่อยๆหายไปทีละคน แรงบีบอัดมหาศาลถูกส่งไปให้ร่าง ภาพรอบข้างเต็มไปด้วยเส้นสีหลากหลายรูปร่างที่ขดไปมาชวนปวดหัว แต่เบื้องหน้าในตอนนี้เป็นจุดที่ส่องแสงสว่างสีขาว ที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
วูบ!
ตุบ!
โอ้ย!/เฮ้ย!
หลังจากหลุดมาจากช่องทางข้ามมิติซึ่งถือเป็นการเดินทางที่เลวร้ายมากที่สุดสำหรับเธอครั้งหนึ่งในชีวิตซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้มันเหวี่ยงเธอไปกระเด็นทับใครบางคนก็ไม่รู้ขนาดเธอยังเจ็บคนที่รับร่างเธออย่างไม่ตั้งใจก็คงจะเจ็บไม่ใช่น้อย แล้วฉันควรทำไงหละเนี่ยล้มทับไปแล้ว
“จะนอนทับอีกนานไหม”เสียงเรียบเฉียบเย็นจากคนที่ฉันนอนทับอยู่ดึงฉันอกจากภวังค์และลุงขึ้นทันทีก่อนจะหันไปมองผู้เคราะห์ร้ายที่ตอนนี้ก็ยืนอยู่ข้างหน้าฉัน ใบหน้าเรียบเฉยแต่หล่อเหลามองมาที่ฉันด้วยตาสีอเมทิสที่แสดงออกว่าไม่พอใจแบบไม่มีปิดบังแม้แต่นิดเดียว คิ้วเข้มเริ่มโยงเข้าหากันอย่างขบคิด และก่อนฉันกำลังจะพูดขอโทษคนหล่อหน้าตาดีตรงหน้าก็...
แปะ!
“เธอกล้าดียังไงมายุ่งกับจ้าชาย ‘เดรกีส เดรนไอซีออน’ อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เดรกเป็นอะไรไหมขอเนสซีดูหน่อย” หญิงสาวที่ชื่อเนสซีพูดฉบับนางร้ายในนิยาย (แฟนตาซีเรื่องนี้) ก่อนจะหันไปสำรวจตามตัวของเดรกที่ตอนนี้ทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างเป็นเจ้าของ นี่ฉันเพิ่งโดนทำร้ายมานะ! และบังเอิญว่าฉันไม่ใช่นางเอกที่มักจะพับเพียบเรียบร้อยให้นางร้ายกระทำ มีสมองและกำลังมันก็ต้องใช้ให้เต็มที่ ฉะนั้นฉันจึงเดินตรงไปที่เจ้าหล่อนก็จะผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณปากและข้อมือเล็กๆน้อยๆ
แปะ! แปะ!
“ขอโทษนะคะมือมันลื่นไปหน่อย แต่คุณจะว่าฉันก็ไม่ได้หรอกนะคะ เพราะคุณทำฉันก่อน อีกอย่างฉันไม่คิดอะไรกับหินภูเขาไฟเดินได้หรอกนะคะ ฉันคิดว่าฉันเลือกได้ดีกว่านั้นคะ”
ฉันพูดหลังจากออกกำลังกายยืนเส้นยืนสายเล็กน้อยและพูดอธิบายด้วยคำลงท้ายที่สุภาพสุดๆที่ทำได้ ก็ใครจะไปทน อยู่ดีๆก็โดนทำร้ายร่างกายซะงั้น ช่างเป็นอะไรที่ไม่น่าประทับใจเอาซะเลย ดีนะไม่ได้ถือคทามาด้วยไม่งั้นจะเสกให้เป็นตุ๊กแกครึ่งบกครึ่งน้ำ(?)ซะเลย หน้าตาก็ดีไม่น่าทำปฏิกิริยาแย่ๆ และหันหลังกลับทันทีไม่ได้สนใจหน้าเหวอของเนสซีหรือแววตาสงสัยของเดรกีสแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะคล้องแขนพี่วีอาที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ด้านหลังก่อนแล้วและเดินไปสมทบพี่ทั้งสองที่อยู่ห่างออกไปก่อนเล่าเหตุการณ์อันไม่น่าประทับใจให้พี่ชายฟัง
“ผู้หญิงคนนั้นเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ” พี่เวอานพูดด้วยน้ำเสียงสงสารหลังจากฟังเรื่องทั้งหมดจบแล้ว ขณะกำลังนั่งอยู่บนรถม้าเพื่อเดินทางไปที่พัก แต่แววตากลับออกแนวขบขันเหมือนฟังเรื่องตลกโดยมีพี่ชายคนโตคอยรับมุกรับส่ง
“สงสัยคงต้องไปนอนโรงบาลให้หมอใช้เวทย์ลบร้อยนิ้วมือบนใบหน้าแน่ๆเลย ฮ่าๆ” หลังจากที่พยายามกลั้นขำมานาน ความพยายามก็ได้สิ้นสุดลงพี่ชายทั้งสามคนยังคงหัวเราะอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจสายตาอาฆาตของหญิงสาวแม้แต่น้อย
“พี่ชายตระกูลกรีชาเรททั้งหลายหากไม่หยุดน้องจะใช้จะทำให้ทำพี่ไร้ซึ่งปากบนใบหน้าหล่อเหลาแล้วนะคะ” เซซีล่าเอ่ยสกุลของทั้งสามเพื่อให้รู้ว่าเธอเริ่มจะเอาจริงและเริ่มแสดงความห่างเหินเพราะนามสกุลของเธอก็คือเพลย์ทาย์บีช ถึงจะนับถือเป็นพี่น้องยังไงก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวซึ่งข้อนั้นเธอรู้ดีและไม่เคยคิดจะตีตนเสมอองค์ชายทั้งสามเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมต้องเรียกแบบนั้น เซย์พวกพี่ขอโทษ แต่ที่นี้ฐานะทางสังคมค่อนข้างมีบทบาทมาก น้องคงต้องใช้เวลาปรับตัวสักหน่อย แต่ที่นี่สวยนะ ลองดูข้างนอกสิ” ไม่ว่าเปล่าพี่วออันก็ขยับผ้าม่านเพื่อให้เห็นทิวทัศน์เบื้องหน้า
บ้านเบื้องหลายหลังติดกันเป็นห้องแถวซึ่งแตกต่างจากมิติของเธอเพราะที่นั่นจะอยู่กันเป็นหลังแต่ก็ยังอบอุ่นเพราะไม่มีการแบ่งแยกออกเป็นรัฐ ซึ่งแตกต่างจากที่นี้เพราะหลังจากศึกษาประวัติมาคร่าวๆที่มิติฟีโอเล่มีการแบ่งเขตการปกครองเพราะมีพื้นที่กว้าง โดยแบ่งเป็นเป็นสี่เขตและเมืองหลวงส่วนกลางอีกส่วนหนึ่งหรือจะเรียกคล้ายๆสมบัติส่วนรวมก็ว่าได้ โดยเขตทั้งสี่มาจากทิศที่ตั้งคือ North (N) ซึ่งถือเป็นแหล่งพัฒนาธาตุลมเป็นเยี่ยมเนื่องจากไร้ซึ้งภูเขาปิดทางลม South (S) เป็นสถานที่สำหรับพัฒนาธาตุดินเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นภูเขาและหุบเหว East (E) เป็นที่สำหรับพัฒนาธาตุไฟเพื่อจะรับพลังจากแสงแรกของอาทิตย์ West (W) เป็นสถานที่สำหรับพัฒนาธาตุน้ำจากภูติผู้ปกครองดินแดน และตรงกลางนั้นจะเรียกว่า รีเล็ต ที่จะรวมธาตุทั้งสีอีกทั้งยังมีการแปรธาตุต่างเช่นแสง สายฟ้า และมีการผสมธาตุต่างๆมาใช้ให้เป็นแระโยชน์อีกด้วยเช่น ไฟฟ้าที่มาจากไฟและลมผสมกัน หรือ พวกหมอกควันไอที่มาจากธาตุไฟและธาตุน้ำ เป็นต้น
โดยที่พักของเธอตั้งอยู่ที่ E เพราะสามารถเข้าสู่รีเล็ตได้ง่ายและเร็วที่สุดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแสงสว่างหากเดินทางเพราะเขตนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งแสงสว่างเลยที่เดียว ซึ่งนอกจากอาทิตย์จะขึ้นก่อนเขตอื่นแล้วก็ยังตกหลังเขตอื่นด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอากาศหนาวเย็นหรือหมอกพิษในตอนกลางคืนรวมถึงสัตว์ดุร้ายทั้งมีเวทย์ไม่มีเวทย์ เนื่องจากมันจะไม่ออกล่าเยื่อถ้าดวงจันทร์ไม่ขึ้นนั่นเอง
นอกจากบ้านเรือนร้านค้าที่แตกต่างจากมิติของเธอ การแต่งกายของที่นี้ก็เรียกความสนใจเธอได้ไม่ได้ไม่น้อย เพราะชุดที่ชาวบ้านใส่กันนั้นคล้ายชุดชาววังอย่างมาก เรียกได้ว่าคนที่นี้ร่ำรวยกันมากหรือไม่ก็คนจนอยู่ไม่ได้นั่นเอง ผู้หญิงจะใส่ชุดกระโปงตัวยาวหลากสีสันแต่ราคาน่าจะขึ้นอยู่กับชนิดและลวดลาย ผู้ชายจะใส่เสื้อแขนยาวสีขาวและทับด้วยเสื้อกักหนังและกางเกงสุภาพกันเกือบทุกคน
สินค้าที่วางขายต่างๆก็ใช่ย่อย อาจจะทำให้บางคนกระเป๋าฉีกเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารเครื่องดื่ม สมุนไพรยารักษาโรค อาภรณ์เครื่องนุ่งห่ม เพชรพลอยจินดาล้วนมีราคาแพงกว่าที่มิติของเธอเป็นไหนๆ ไม่ใช่ว่าเธองงอะไรหรอกนะ แต่เธอทำงานบัญชีของวังมาตั้งแต่เด็ก แค่ของเหรียญแม้แต่เศษก็นับมีค่ามากสำหรับเธอ เพราะงั้นเธอจะไม่เสียเงินทองหากไม่มีความจำเป็นแน่นอน
“ถึงแล้วหละเซย์ ลงไปกันเถอะพรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อ”พี่เวอานพูดพร้อมกับยื่นมือให้เธอจับเพื่อลงจากรถม้าที่จอดสนิท ซึ่งเธอก็เต็มใจแต่โดยดีการใส่กระโปรงมันไม่ค่อยสะดวก ส่วนพี่คนอื่นๆก็อาสาเอาของไปเก็บในห้องพักให้ก่อน ซึ่งหลังจากมองทิศทัศน์สวยๆตามทาง ก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาก แต่มันก็ต้องสะดุดลงเมื่อ...
“เธอ! / พวกคุณ!” เสียงสองเสียงดังพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่” เสียงเหยียดหยามของเนสซีดังขึ้นพร้อมกับตาสีฟ้ามีมองมาอย่างเคียดแค้นโดยสองแก้มถูกปิดด้วยผมสีฟ้าอ่อนที่ถูกปล่อยลงบดบังรอยนิ้วมือ (ไม่มิด) โดยมือข้างหนึ่งเกาะแขนของชายหนุ่มด้านข้างอย่างถือสิทธิ์
“ฉันก็ไม่คิดเช่นกัน คิดว่าคุณไปนอนอยู่โรงพยาบาลแล้วซะอีกนะคะ” ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มไม่สิเรียกแสยะยิ้มอาจจะดีกว่าให้เจ้าหล่อนและผู้ชายผมสีชาตาสีอเมทิสคนเดิมที่ยืนนิ่งหน้าตาเฉยอยู่ข้างๆและสะกิดพี่ชายคนรองให้เดินนำไปที่พักเพราะไม่อยากจะสนทนากับคนแบบนี้สักเท่าไหร่ และมันคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันแล้วเพราะฉะนั้นเธอจะไม่ใส่ใจ
หลังจากใช้ช่องเทเลพล็อตจากชั้นล่างก็โพล่มาชั้นสูงสุดของโรงแรมอย่างรวดเร็วและพบกับพี่ทั้งสองที่ยืนรอก่อนแล้ว ก่อนจะได้รับคีย์ห้องพักจากพี่ชาย เพื่อจะได้พักผ่อนหลังจากเดินทางมาเกือบครึ่งวัน ก่อนจะนัดแนะเวลาเพื่อเดินทางในวันพรุ่งนี้ พร้อมใช้อุปกรสื่อสารรูปหอยโข่งสีทองแดงที่อยู่บนผนังสั่งอาหารให้นำมาส่งที่ห้องเพื่อความสะดวก
ห้องพักของที่นี่แม้จะไม่ใหญ่โตเหมือนห้องนอนในวัง เฟอร์นิเจอร์ไม่ได้หรูหราราคาแพงเท่า แต่กลับดูสวยงาม เรียบร้อย สะอาดตา และดูแปลกใหม่ในสวยตาของเซซีล่าที่ไม่ค่อยได้ออกไปค้างคืนข้างนอกบ่อยนัก และส่วนที่เธอประทับใจมากที่สุดก็คือระเบียงที่ยื่นออกจากตัวห้องตรงข้ามกับประตูทางเข้า ผ้าม่านและกระจกใสถูกเปิดออกด้วยมือบางของหญิงสาว ซึ่งทำให้เห็นทาฟ้าที่สว่างไสวทั้งที่เกือบจะสองทุ่มแล้วก็ตาม
แต่ส่วนภาพเบื้องล่างนั้นเป็นผู้คนที่เดินไปเดินมาเหมือนมดตัวเล็กๆมากมายจนเรียกได้ว่าเยอะเบียดเสียดจนน่าอึดอัด เพราะไม่ได้มีเสียงดังจากการทักทายอย่างเป็นมิตรเหมือนตลาดที่บ้านของเธอแต่เป็นเสียงต่อราคาด้วยความรีบเร่งเอาแต่ใจ ไม่ได้มีรอยยิ้มจริงใจจากแม่ค้าที่ยืนขายและโฆษณาผลิตภัณฑ์แต่เป็นรอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษดีๆนี่เอง ไม่ได้มีความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ซื้อและผู้ขายมีแต่ความหวาดระแวงของกันและกันที่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง นี่หรือคือมิติที่พี่ทั้งสาวกล่าวนักกล่าวหนากับเธอเช้าเย็นตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมา ว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เงียบอย่างนั้นสงบอย่างนี้ หรือเพราะเธออคติกับที่นี่ไปซะแล้วมันถึงไม่ได้ทำให้เธอไม่มีความสุขเลย ออกจะหกหู่แล้วเงียบเหงากว่าอยู่ในวังคนเดียวซะอีก
‘ที่ไหนมีคนมากที่นั่นย่อมวุ่นวายมันมักจะเป็นอย่างนั้น’
และเธอก็เชื่ออย่างนั้นเช่นกัน เพราะเธอไม่ค่อยถูกกับความวุ่นวายเท่าไหร่นัก แต่ใครจะรู้ว่าในอนาคตอันใกล้ความวุ่นวายปนโหดมันอาที่เธอไม่เคยคิดจะเจอ ร่ำร้องและรอเธออยู่ในรั้วโรงเรียนที่ชื่อว่าฟีโอไวท์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พระเจ้าช่วย !!! จบแล้วอีกตอน 5555
หากผิดพลาดประการใดขอกราบอภัยผู้อ่านที่น่ารักทุกคน
หากใครที่มาอ่านเรื่องนี้ บอกเลยว่าคนละเนื้อหากับ โฟคาลิค นะคะ
แม้ว่าตัวละครบางตัวจะชื่อซ้ำกันก็ตามที U.U มันคิดไม่ออกก็เลยยืมๆไป ^^
เนื่องจากไรท์แต่งเรื่องนี้ก่อน เรื่องนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องต่อไป
คอมเม้นท์ติชมข้างล่างได้เช่นเดิมค่ะ
และหวังว่ารีดเดอร์จะหลงรักเซซีล่าไปพร้อมกับไรท์นะคะ ><
ความคิดเห็น