ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic SJ ] Love Memories in Shanghai...[HanHyuk] (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 ::: การพบเจอ กับ ความฝันของเราสองคน

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 51


    Chapter4

     

     

     

                    ภายในอาคารผู้โดยสารของสนามบินเซี่ยงไฮ้ ทำให้ผมรู้สึกแปลกไป ทันทีที่เครื่องบินได้ลงจอด ทันทีที่เท้าของผมได้เหยียบแผ่นดินประเทศจีน ผู้คนมากมายพูดในภาษาที่ผมไม่เข้าใจ ผมพยายามมองหาป้ายชื่อของผม และคนที่จะมารับผมไป เค้าคงจะกลับไปแล้วล่ะมั้ง...ก็ในเมื่อเครื่องบินมันดีเลย์ นานมาก เค้าคงคิดว่าผมคงไม่มาแล้ว หลังจากที่ผมยืนปรับเวลาเสร็จ ผมก็ตัดสินใจยืนรอไปเรื่อยๆจนผู้คนที่สนามบินค่อยๆลดน้อยลง

     


    ....เอ่อ...คุณครับ.... ผมเรียกผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อโค้ทสีน้ำตาลพร้อมกับแว่นสีชา ที่ยืนอยู่ตรงทางเดิน ซึ่งกำลังถือป้ายชื่อของผม...ใช่แล้ว เค้าต้องมารับผมแน่ๆ..โชคดีจัง ที่เค้ายังยืนรอผมอยู่ ไม่กลับไปซะก่อนน่ะ แต่เหมือนเค้าคงจะไม่ทันสังเกตุผมล่ะมั้ง

     

     

    ....ครับ....คุณคือลีฮยอกแจใช่มั้ยครับ?” ชายคนนั้นกล่าวด้วยสำเนียงแปร่งๆทำให้ผมรู้ว่าเค้าไม่ใช่คนเกาหลี แต่เค้าก็เก่งมากครับที่สามารถพูดเกาหลีได้ เพราะผมว่าภาษาเกาหลีน่ะ เป็นภาษาที่ยากมากๆ

     


    ครับ..

     


    ...ผมฮันกยองครับ ฮันกยองกล่าวพร้อมกับถอดแว่นออก ใบหน้าหล่อที่ผมสังเกตได้ เค้ามองหน้าผมแล้วอยู่ๆแว่นกับป้ายชื่อที่อยู่ในมือของเขาก็หล่นลงสู่พื้น

     


    ...ผมช่วยเก็บครับ....ฮยอกแจพยายามที่จะก้มลงช่วยฮันกยองเก็บแว่นที่ตกลงบนพื้น

     


    เอ่อ....ไม่เป็นไรครับ ฮันกยองบอกก่อนจะก้มเก็บของที่ร่วงอยู่บนพื้นด้วยตนเอง

     


    .... ฮยอกแจยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะลากกระเป๋าสัมภาระมาใกล้ตัว

     


    ...เราไปกันเลยนะครับ...ฮันกยองกล่าวพร้อมช่วยฮยอกแจลากกระเป๋าไปยังรถที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถด้านข้างทางออกของสนามบิน

     


    .....เอ่อ....ผมลืมบอกไป....ขอต้อนรับสู่เซี่ยงไฮ้ครับ... ฮันกยองซึ่งกำลังสตาร์ทรถหันมาบอกกับคนที่นั่งอยู่ด้านข้างของตน

     


    ...ครับ...ผมลีฮยอกแจ...ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ^^” ฮยอกแจยิ้มให้ก่อนจะยื่นมือไปจับเป็นการทักทาย

     


    ช่วงเวลานี้ ผมมีหน้าที่เป็นคนดูแลคุณในขณะที่อยู่เซี่ยงไฮ้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเกรงใจผมนะครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ฮันกยองหันไปบอกอีกครั้ง

     


    ...ฮะ... ฮยอกแจพยักหน้าน้อยๆเป็นการตอบ ก่อนที่จะหันไปมองด้านข้างกระจก

     ...เราจะได้เจอกันแล้วนะครับ...พี่คังอิน...

     

     

    ……………

    ………

    ……

     

    ...ฮยอกแจครับ...ผมอยู่ห้องตรงข้ามนี้นะครับ...มีอะไรเรียกได้เลยนะครับ ฮันกยองบอกหลังจากที่ช่วยฮยอกแจจัดของในห้องเสร็จ

     


    ...ฮะ....ขอบคุณมากฮะ ฮยอกแจโค้งให้เล็กน้อย ก่อนที่ฮันกยองจะขอตัวกลับห้อง

     

     

     

                    ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องของตน ค่อยๆปิดประตู เดินไปยังระเบียงนอกห้อง มือเรียวกำสร้อยคออักษรภาษาจีนที่คล้องอยู่ที่คอ เงยหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้า.....

    ….อาลี่....นายกลับมาหาชั้นแล้วใช่มั้ย?....

     

     

     

     

     

     

     

    เซี่ยงไฮ้ ปี2005

     

    ....มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราอธิษฐานกับดาวตก คำอธิษฐานนั้นจะเป็นจริง...

    ผมทำแบบนี้ทุกครั้งที่มองเห็นดาวตกบนท้องฟ้า แต่ก็ไม่เคยมีปาฏิหารย์นั่นเกิดขึ้นเลย

    ขอเพียงแค่ครั้งนี้ แค่ครั้งเดียวก็ได้ จะให้แลกกับชีวิตของผมก็ยอม

    ......อย่าพรากเราสองคนออกจากกันเลยนะ....

     

     

                    มือเรียวค่อยๆลูบไล้ไปหน้าสวยได้รูปที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้  ใบหน้าซีดเซียวแสดงถึงอาการป่วยอย่างมาก  ด้านข้างเป็นจอแสดงการเต้นของหัวใจที่ดูแผ่วเบา ราวกับว่าจะขาดหายไป ด้านหลังเป็นสายน้ำเกลือ ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือแพทย์มากมายอยู่ด้านหลัง  

     


    ....อาลี่....ชั้นรักนายนะ ฮันกยองพูดกับร่างบางที่นอนอย่างไม่ได้สติ  เป็นเพียงอย่างเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ คือการอยู่กับคนๆนี้ไปจนถึงวินาทีสุดท้าย จนกว่าที่ความตายจะพรากเราทั้งสองออกจากกัน  กลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบของคนที่ตนรักชอบ มันทำให้คิดถึงวันแรกที่ได้รู้จักกัน จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้ ความรักของตนที่มอบให้อาลี่ มันอยู่ที่นี่..ตรงนี้ ....

     


    .....หานเกิง..”ร่างบางที่นอนอยู่เริ่มขยับตัวพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียกชื่อคนที่นั่งอยู่ข้างกับร่างของตน ที่กำลังร้องไห้ ....ความรู้สึกเจ็บมันอยู่ตรงหัวใจ...เมื่อรู้ว่าเหลือเวลาอีกเพียงน้อยนิดเท่านั้น ที่จะได้อยู่เคียงข้างกับคนที่รัก...หากย้อนเวลากลับได้ อยากจะใช้เวลาทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่ตนรัก

     


    ...อาลี่....สัญญานะ...ว่านายจะอยู่กับชั้นตลอดไป ฮันกยองพูด มือทั้งสองข้างของตนค่อยๆเกลี่ยไปยังแก้มใสที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ค่อยๆโอบร่างบางที่ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงให้มาแนบข้างกายของตนให้มากที่สุด

     


    ...สัญญา  ชั้นจะอยู่กับนายตลอดไป... ร่างเล็กที่สะอื้นภายใต้อ้อมกอดของฮันกยองกล่าวอย่างสะอื้น นิ้วเรียวของทั้งคู่เกี่ยวกับเป็นคำสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

     


    ..ชั้นรักนายนะ อาลี่

     


    ...ชั้นก็รักนาย หานเกิง... ร่างเล็กเงยหน้ามาสบตากับฮันกยอง สีหน้าเศร้าสร้อยแต่เจ้าตัวก็ยังฝืนยิ้ม...ยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เราจะจากกันไปแสนไกล....และไม่มีทางได้มาพบกันอีกแล้ว

     


    ...นายอย่าตายนะ....อยู่กับชั้นตรงนี้ อยู่ด้วยกันที่นี่...ตลอดไป..นายลืมความฝันของเราสองคนแล้วหรอไง?...เราจะไปเกาหลีด้วยกัน  ไปที่ที่เราฝันไว้ไงล่ะอาลี่....ฮันกยองพูดพร้อมกับพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตามันไหล วงแขนโอบร่างบางใก้กระชับในอ้อมกอดมากยิ่งขึ้น

     


    ...ชั้นไม่ลืมหรอกหานเกิง...แต่ชั้นคงไปกับนายไม่ได้แล้ว....ชั้นขอฝากความฝันของชั้นไว้ที่นายได้มั้ย?” ร่างบางสะอื้นถามฮันกยองพยักหน้าก่อนที่ร่างเล็กจะชี้ไปที่นอกหน้าต่างที่มีดวงดาวทอประกายอยู่บนท้องฟ้า

     


    ..ถ้านายคิดถึงชั้นเมื่อไหร่ ให้มองดาวดวงนั้น ชั้นอยู่กับนายเสมอน่ะแหละ....จำไว้นะหานเกิง..

     


    ....ฮันกยองพยักหน้าเล็กน้อย

     


    ...ชั้นง่วงแล้วล่ะ...ขอนอนกอดนายไว้อย่างนี้จนกว่าจะหลับไปได้มั้ย?” ร่างเล็กพูดก่อนจะค่อยๆหลับตา มือเรียวจับไหล่ของฮันกยองเอาไว้ ค่อยๆเอนตัวลงนอนบนเตียง

     


    ได้สิ่....นอนกอดชั้นอย่างนี้ไปเรื่อยๆเลยนะ ฮันกยองพูดพร้อมค่อยๆโอบร่างเล็กเข้ามาแนบตัวมากขึ้น ...ไม่สามารถบังคับให้น้ำตาไม่ไหลได้ ....พร้อมกับเสียงหัวใจของร่างเล็กที่เต้นอย่างแผ่วเบา กำลังจะค่อยๆหยุดลง ไปในไม่ช้า..

    ...................
    ............
    ....


    ..หลังจากนี้...ชั้นก็จะกลายเป็นเพียงความทรงจำของนายใช่มั้ย..หานเกิง

    ชั้นที่ไม่สามารถอยู่เคียงข้างนาย ในเวลาที่นายมีความสุข หรือในเวลาที่นายเศร้า...

    ...ต่อไปนายต้องดูแลตัวเองดีๆนะ หานเกิง...ถึงไม่มีชั้นอยู่แล้ว...นายก็ต้องอยู่ต่อไปนะ

    ...อยู่เพื่อ...ตัวของนายเอง....และชั้น....อยู่เพื่อความฝันของเราสองคน...

    ……………..

    …………..

    ……..

     

                    แค่เพียงเวลาอันสั้นที่สองร่างนั้นได้มีวินาทีสุดท้ายร่วมกัน เสียงของเครื่องวัดชีพจรที่เชื่อมต่อกับร่างกายของร่างเล็กก็ดังขึ้นเป็นการบอกถึงการจากลา..ของชีวิตๆหนึ่ง

     

     

    ...อาลี่.....ไม่นะ....อย่าจากชั้นไปนะ.... ฮันกยองกอดร่างที่หมดลมหายใจของคนที่ตนรัก ร้องไห้ราวกับเสียสติ....ทำไมล่ะ ....ทำไมพระเจ้าต้องเล่นตลกกับผมด้วย....ผมทำอะไรผิดมากมายขนาดนั้นเลยหรอ?...ทำไมถึงต้องเอาอาลี่ไปจากผมด้วย....ถ้าไม่มีเค้า  โลกทั้งใบนี้ของฮันกยองจะดำเนินอยู่ต่อไปอย่างไร....ถ้าไม่มีอาลี่...ผมจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง...

    ......................

    ...........

    ...

    .

     

     

    /////หานเกิง....นายต้องไม่ลืมความฝันของเราสองคนนะ/////

    /////อื้ม...ชั้นไม่มีทางลืมหรอก...เราต้องไปเกาหลีด้วยกัน//////

     

    +++++++++++++

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×