ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Technology of God พลังแห่งเทพยาดาหรือเทคโนโลยีล้ำสมัย

    ลำดับตอนที่ #2 : รามเกียรติ์ นิยายปรำปราหรือการต่อสู้กันของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 242
      0
      31 ม.ค. 55

    จากตอน ลางร้ายของอินทรชิต

     

    ครั้นเห็นนิมิตประหลาดดังนี้ อินทรชิตก็ยิ่งสะท้อนถอนใจยิ่งขึ้น ให้เร่งขับรถมาจนกระทั่งถึงเนินจักรวาล พอมาถึงอินทรชิตก็มิได้รอช้าสั่งพลมารโจมตีทัพพระลักษมณ์ทันที แต่บรรดาพลมารเคยเห็นฤทธิ์ลิงมาแล้วก็ขยั้นขยาดยืนรีรออยู่ พออินทรชิตร้องตวาดอีกครั้ง เห็นว่าขืนนิ่งๆอยู่เฉยๆก็ตายแน่ อย่างไงก็ตายเอาดาบหน้าดีกว่า ดังนั้นลมารจึงเฮล้อมเข้าไป ใจไม่สู้อยู่แล้วประเดี๋ยวก็ถูกลิงฆ่าตายเกลื่อนกลาด ที่กลัวมากก็ถอยร่นไปจนถึงรถอินทรชิต อินทรชิตโมโหนัก ชักศรสุกานต์เงื้อง่าแล้วแผลงไปหมายองค์พระลักษมณ์ สำเนียงเสียงดังเพลิงกรดต้องหมู่โยธีกระบี่ไพรตายเกลื่อนกลาดปฐพี

     

     

    จากตอนนี้ผู้ประพันธ์ได้บรรยายถึงลักษณะการโจมตีของศรสุกานต์ที่ซึ่ง “เกิดสำเนียงเสียงดัง” สิ่งนี้หากเปรียบเป็นอาวุธในปัจจุบันก็เปรียบได้เท่ากับเสียงของระเบิดเมื่อจุดชนวน “เพลิงกรด” สิ่งนี้ไม่ได้มีความหมายแปลว่าเปลวไฟแต่หมายถึงความร้อนของน้ำกรดเข้มข้นที่จะมีความร้อนในตัวมันเองอยู่ตลอดเวลาเพียงแค่สัมผัสผ่านเนื้อพลาสติกเกรดเอจะพบกับความร้อนที่ยังไม่ทำให้ต้องผละมือออกแต่หากโดนโดยตรง ฤทธิ์ของน้ำกรดสามารถกัดกร่อนผ่านเนื้อหนังหรือวัสดุต่างๆได้ภายในเวลาชั่วครู่พร้อมกับส่งไอร้อนจากการทำปฏิกิริยากับสิ่งที่ไปสัมผัสมัน เช่นเดียวกับในเรื่องรามเกียรติ์ ศรสุกานต์ได้ฆ่าเหล่าทหารวานรของพระรามตายเกลื่อนกลาด สิ่งนี้แสดงถึงฤทธิ์เดชของธนูดอกนี้ ที่ไม่เพียงฆ่าเพียงคนเดียวแต่สามารถฆ่าคนทั้งกองทัพได้

                    ถ้าเรามาสังเกตวิธีการยิงของศรนี้จะพบว่ามีลักษณะแปลกไปจากศรทั่วไป เมื่อยิงอกไปก็เกิดเสียงดัง ซึ่งผิดแปลกจากศรปกติที่ไม่มีเสียงดังเวลายิง ทำให้ดูเหมือนผู้ประพันธ์อาจจะเห็นบางสิ่งที่ดูคล้ายธนูแต่ได้คิดว่านั่นคือธนูที่พวกเขาใช้โจมตีกัน และน้ำกรดที่รามเกียรติ์ใช้นี้หากสังเกตในยุคสมัยนั้นที่ผู้ประพันธ์แต่งขึ้นก็จะพบว่ายังไม่มีการนำน้ำกรดมาใช้ในการสงครามเลย แต่หากดูสิ่งนี้เป็นขีปนาวุธระยะใกล้ทุกสิ่งก็จะกระจ่างชัดออกมาเสียงระเบิดตอนแรกคือเสียงจุดชนวนไอพ่นของขีปนาวุธหรือไม่ก็คือเสียงระเบิดเมื่อจรวดถึงเป้าหมายของมัน ก่อนที่จะแตกกระจายน้ำกรดราดลงไปที่ตัวทหารข้าศึก

     

     

    พระลักษมณ์เห็นเช่นนั้น ก็จับศรพรหมมาสตร์แผลงไปเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รถอินทรชิตหักยับเป็นภัสมธุลี

     

     

    หลังจากการยิงศรของอินทรชิต พระลักษมณ์จะเป็นฝ่ายยิงกลับบ้างซึ่งคราวนี้ศรพรหมมาสตร์ที่ยิงออกไปปรากฏเป็นเสียงดังสนั่น การใช้คำว่า “สนั่น” หากเปรียบกับ “สำเนียงเสียงดัง” ของศรสุกานต์ คนแต่งต้องการสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่าศรพรหมมาสตร์มีเสียงที่ดังกึกก้องกว่ามาก แล้วอะไรหล่ะที่มีเสียงดังกว่าระเบิด “หักยับเป็นภัสมธุลี” ภัสมธุลีซึ่งมีความหมายเดียวกับเถ้าธุลี จากประโยคนี้เป็นการบ่งบอกความสามารถของศรพรหมมาสตร์ที่ส่งผลให้รถม้าของอินทรชิตไหม้เกรียมกลายเป็นผงขี้เถ้า

    สิ่งเดียวเท่านั้นที่เสียงดังกว่าระเบิดและมีอนุภาพทำลายล้างเผาผลาญทุกสิ่ง แน่นอนว่าไม่ใช่คันธนู และตัดนาปาล์มไปได้จากเหตุผลที่มีเสียงการระเบิดไม่ได้ดังมากมายไปกว่าขีปนาวุธทั่วไป คำตอบก็คือ ระเบิด นิวเคลียร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×