ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Final Fantasy Ferom ไฟนอลแฟนตาซีฟีรอม

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2:ดาบที่ต้องครอบครอง

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 52



    ...การดิ้นรนเพื่อจะสิ้นสุดวงจรอุบาทว์ของกระแสเวลาครั้งนี้...

    ก็ดูเหมือนจะจบลงอย่างไร้ประโยชน์

    เหมือนๆกับที่มันเคยเป็นมา และเหมือนๆกับที่มันจะเป็นไป

     

    ...แต่ครั้งนี้ มีอะไรที่เปลี่ยนไป...? มีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม...?

     

    ตอนที่ 2:ดาบที่ต้องครอบครอง

     

    คริสตัลทั้งหกที่รักษาสมดุลของโลกได้แตกสลายไปอย่างไร้เหตุผล  จากนั้นเหล่ามอสเตอร์ภายในป่าก็เพิ่มทวีจำนวนขึ้นมามากมายมหาสารอย่างรวดเร็วพร้อมกับคลุ้งคลั่งฆ่าฟันทุกอย่างไม่เลือกหน้า และนี้คือการเริ่มต้นแห่งการสูยเสีย

     

     

    ณ ป่าที่เคยเงียบสงบแห่งหนึ่งในดินแดนไฟนอล ภายใต้ความเงียบของผืนป่าอันกว้างใหญ่และดำมืด ปรากฏเสียงหืดกระหอบของชายร่างผอมในชุดชาวบ้านที่กำลังวิ่งหนีปีศาจโครงกระดูกเน่าเฟะจำนวนมาก ถึงแม้นว่าพวกมันจะเป็นแค่แท่งเชื่อมแคลเซียมสีขาวผอมบางแต่อย่าได้ดูถูกพวกมันเชียวนะเพราะพวกมันมีทั้งกำลังและความเร็วที่น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว   ชายผู้นั้นหยุดนิ่งที่ริมผาสูงไร้ก้นเหว สีหน้าที่ซีดเสียวและเนื้อตัวที่สั่นดั่งคนเป็นไข้ของเขาแสดงถึงอาการผวาถึงขีดสุด  สมองเขาขาวโพลนไร้ความนึกคิดใดๆมีเพียงความกลัวที่เอ่อล้นออกมาจากใจ

     

     

    พวกหัวกะโหลกแสยะยิ้มชวนขนหัวลุกให้กับชายผู้นั้นดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขมากเลยทีเดียว ก่อนจะมีหนึ่งในพวกมันหนึ่งตนก้าวขาขาวคล้ำด้านหน้าพร้อมในมือกำดาบบิ่นเน่าเหม็นไว้เตรียมจะฟันเข้าที่เขา  แต่จู่ๆมีเงาของนกขนาดใหญ่กระโจนลงมาด้านหน้าพวกมันแล้วกระโจนกลับหายไปในป่าอีกด้าน  เช่นเดียวกับชายผู้นั้นก็หายตัวไปเช่นกัน  พวกมันต่างพากันไม่พอใจโห่ร้องออกมา(เอาฟันบนกับล่างกระทบกันน่ะ มันไม่มีกล่องเสียงจะไปพูดได้ยังไงเล่า-  -)พร้อมโหมรัดฟัดตีพวกเดียวกันอย่างบ้าเลือด 

     

    อีกด้านหนึ่งชายในชุดชาวบ้านตื่นจากผะวังแห่งความกลัวก็สังเกตได้ว่าคนที่ช่วยดึงเขาออกจากวงล้อมจากพวกผีร้ายขึ้นมานั่งบนหลังนกขนาดใหญ่สีเหลืองนั้นเป็นชายหนุ่มผมสีเทาในชุดขาวกางเกงขาวลายแปลกพิลึกที่มีรูปดาวติดอยู่เต็มไปหมด (ชุดนอนง่ะ-*-)

     

    ขอบใจเจ้าจริงๆที่ช่วยข้าไว้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ชายหนุ่มที่นั่งด้านหน้าได้ยินจึงหันหน้าพูดตอบกลับไป

     

    มะไม่เป็นไรหรอกครับ  ดูจากภาพรวมละแล้วผมคงอยู่เฉยดูพวกผีนั้นรุมเล่นงานคุณไม่ได้แน่ ดวงตาสีแดงจากชายหนุ่มมองดูชายผู้นั้นแล้วหันกลับไปทำหน้าเขิน ก็แหม่ไม่เคยมีใครชมเขาในการทำความดีมาก่อนนี้นา

     

    ทั้งคู่นั่งโจโคโบะที่วิ่งฝ่าป่ามืดมาได้สักพัก ความกลัวที่หายไปทำให้ร่างกายและสมองเขากลับเป็นปกติ ชายในชุดชาวบ้านก็เอ่ยปากถามว่าเจ้าชื่ออะไรรึ? “

     

    เออ  ชิรัน คัสเปี่ยนลัสเต้อครับชายหนุ่มตอบแล้วคุณล่ะครับ? “

     

    ข้าชื่อ โครเซนต์  มิลโก้  เป็นนายพรานอาศัยในหมู่บ้านแถบนี้ โครเซนต์ทำหน้าสลดที่พูดคำเมื่อกี้ออกไป  หมู่บ้านเขาเหลือเขาเพียงคนเดียวเนื่องจากทุกคนต่างตายกันหมด  พวกปีศาจมันบุกเข้ามาฆ่าล้างหมู่บ้านในคืนวันหนึ่ง  ทำไมเขาถึงยังไม่ตายน่ะเหรอ ก็เพราะคืนนั้นเขาออกไปล่าสัตว์พอดีน่ะสิ

     

    ทุกคนตายหมดแล้วสินะครับเออขอโทษครับที่พูดคำนี้ไป

     

    ช่างเถอะ ไม่เป็นไร โครเซนต์นิ่งเงียบไปสักพักจึงพูดต่อว่าแต่เจ้าเถอะ  คงไม่ใช่คนแถวนี้หรอกนะสำเนียงแปลกๆ

     

      อะครับ  ผมเป็นคนลอนดอน

     

    จากนั้นโครเซนต์จึงชวนชิรันให้มาค้างบ้านเขาก่อนพร้อมให้ชิรันเล่าถึงลอนดอนให้เขาฟังซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มผมฟ้าเล่ามาทั้งหมด รถยนต์เอย เครื่องบินเอย มอเตอร์ไซต์จักรยานเอย  มีแต่สิ่งที่ในโลกนี้ไม่มีทั้งนั้น

     

    แล้วก็มาถึงหมู่บ้านของโครเซนต์ กระท่อมไม้นับสิบตั้งเรียงรายปนเคยมีคนอาศัยอยู่เยอะแยะเพียงแต่ทุกหลังมันเงียบไม่ได้ยินแม้นเสียงคน  ถัดมาอีกหน่อยมีหลุมศพคลุมดินพร้อมไม้ปักจำนวนมากที่โครเซนต์ฝังให้แก่ชาวบ้านทุกคน 

     

    ที่นี้แหละหมู่บ้านข้า โครเซนต์พูดพลางลงจากหลังนกเหลืองขนาดใหญ่พลางก้มหน้าหลับตาไว้อาลัยแก่เพื่อนๆของเขาทุกคนที่อยู่ในหลุมศพ แล้วพูดขึ้นว่า

     

    ในวันหนึ่ง.. “เขาว่าในวันที่ข้าออกไปล่าสัตว์ในป่าเหมือนอย่างเคย ข้าเห็นลำแสงสีดำประหลาดบนฟากฟ้า มันพุ่งผ่านหัวข้าไปก่อนจะตกลงสู่ที่ไหนซักแห่ง ข้ารู้ว่ามันตกไปในทิศทางของหมู่บ้าน ตอนนั้นข้าไม่คิดอะไรทั้งนั้นนอกเสียจากวิ่งตรงกลับหมู่บ้านไป

     

    โครเซนต์เอามือโขกกับต้นไม้แรงๆ

     

    เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งทุกคน~ ทุกคนตายโดยไม่มีสาเหตุ  แต่ข้ารู้ว่ามันเกิดจากลำแสงสีดำบ้าๆนั้น โครเซนต์เดินนำชิรันไปที่ท้ายหมู่บ้านก่อนจะชี้นิ้วไปที่บางสิ่งบางอย่าง  หลุมลึกขนาดยักษ์ที่กินพื้นที่บริเวณกว้างหาที่เปรียบไม่ได้ดูแล้วหมู่บ้านช่างเล็กกระจ่อยร่อยจริงๆ ชายหนุ่มทึ่งจนพูดไม่ออก  นี้คือผลจากลำแสงสีดำน่ะหรือ

     

    “..!..“แล้วชิรันก็สังเกตโครงสร้างเล็กๆ โครงสร้างอาคารเก่าแก่ที่น่าจะเป็นฝีมือมนุษย์สร้างขึ้นที่เกือบจะถูกกลืนหายไปเพราะเถ้าถ่านสีเทาม่นคลุมไว้นั้นมันอาคารนิครับ

     

    เป็นไปได้รึเนี้ย  มีของแบบนี้อยู่ใต้ดินน่ะหรือ  ไปดูกันเถอะ

     

    ชิรันพยักหน้าพร้อมค่อยๆจูงนกเหลืองตัวใหญ่ตามโครเซนต์ลงไปในหลุมลึก  ก่อนทั้งสองจะเดินเข้ามาในอาคารทางผนังที่พังลงไป

     

    ! “จู่ๆตรงโคนเสาหินทั้งหมดก็สดสว่างด้วยเปลวเพลิงจากคบเพลิงขึ้นมาเฉยๆ นี้คงจะเป็นผลของเวทย์มนต์บางอย่าง ภายในอาคารนั้นเก่าแก่มากซึ่งน่าจะมีอายุยาวนานกว่าหลายพันปี  น่าแปลกที่ว่าทำไมมันถึงถูกฝังมายาวนานขนาดนี้ 

     

    ความสนใจของพวกเขาถูกล่อให้ไปทางอื่นเมื่อมีควันสีดำเข้มลอยออกมาจากช่องประตูที่เปิดอ้าเอาไว้  โครเซนต์เดินเข้าไปด้านในด้วยสีหน้าเย็นชาสุดๆ เขารู้สึกว่าไอควันนั้นเหมือนกับลำแสงสีดำที่ฆ่าเพื่อนๆของเขาในหมู่บ้านจึงอยากหาคำตอบโดยเร็ว

     

    นั้นอะไรกัน?…คุณโครเซนต์รีบเข้าไปแบบนั้นอันตรายนะครับ

     

    ชิรันกำลังจะวิ่งตามโครเซนต์ที่เดินเข้าผ่านช่องประตูที่มีไอควันสีดำลอยออกมา แต่เกิดเสียงกระแทกอย่างรุนแรงขึ้นพร้อมร่างโครเซนต์ที่มีร่างกายซีดเซียวและเหี่ยวแห้งลอยออกมาตกที่พื้นพร้อมมีบางยาวเรียวแหลมพุ่งมาเสียบลงพื้นตรงหน้าชิรันไม่กี่เซน

     

    “…“ชายหนุ่มยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไรได้แต่ตาค้างไม่แพ้นกเหลืองของเขาที่กลัวจนเข้าเบียดเขาจนชิด

     

    แหล่งกำเนิดไอสีดำมาจากรูปทรงเรียวเล็ก สิ่งที่เป็นวัตถุแหลมคมบางๆดาบ แถมยังมีสีเทาและมีลวดลายพิสดารเต็มไปหมด  ชิรันจ้องมันตาเขม่งแล้วจู่ๆเหมือนมีเสียงพูดดังขึ้นในหัวของเขา

     

    จะมัวรีรออะไรอยู่ล่ะ...เจ้าผู้ถูกเลือกจงใช้มือของเจ้าหยิบข้าขึ้นมาซะสิ

     

    ไม่อยากจะได้พลังรึไงพลังที่สามารถทำให้ทุกสิ่งเป็นของเจ้าได้ไง…“

     

     

    บ้าบอสิ้นดี ชิรันพลันรู้สึกตัวอีกครั้งและกัดฟันแน่น  โครเซนต์คนที่เขาพึ่งช่วยมาได้แล้วแท้ๆกลับต้องมาตายเพราะไอ่เจ้าดาบบ้านี้  ขาสองข้างของเขาหันหลังกลับและไม่สนใจคำพูดที่ปรากฏจากดาบนั้นสู่หัวเขา “..!..“ แต่ชายหนุ่มก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดหนึ่งเข้า

     

    พลังของข้าพอจะช่วยทำสิ่งที่เจ้าหวังให้เป็นจริงได้นะฮึ..ฮึ..ฮึเสียงที่ฟังดูเย็นชาไร้หัวใจและอำมหิต ไม่ได้เกิดขึ้นในหัวของเขาอีกแล้วแต่มันดังมาจากตัวดาบสีเทาหม่นนั้นข้าจะช่วยให้เจ้ากลับคืนสู่โลกเดิมให้เอง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×