คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2:ดาบที่ต้องครอบครอง
...การดิ้นรนเพื่อจะสิ้นสุดวงจรอุบาทว์ของกระแสเวลาครั้งนี้...
ก็ดูเหมือนจะจบลงอย่างไร้ประโยชน์
เหมือนๆกับที่มันเคยเป็นมา และเหมือนๆกับที่มันจะเป็นไป
...แต่ครั้งนี้ มีอะไรที่เปลี่ยนไป...? มีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม...?
ตอนที่ 2:ดาบที่ต้องครอบครอง
คริสตัลทั้งหกที่รักษาสมดุลของโลกได้แตกสลายไปอย่างไร้เหตุผล จากนั้นเหล่ามอสเตอร์ภายในป่าก็เพิ่มทวีจำนวนขึ้นมามากมายมหาสารอย่างรวดเร็วพร้อมกับคลุ้งคลั่งฆ่าฟันทุกอย่างไม่เลือกหน้า และนี้คือการเริ่มต้นแห่งการสูยเสีย
ณ ป่าที่เคยเงียบสงบแห่งหนึ่งในดินแดนไฟนอล ภายใต้ความเงียบของผืนป่าอันกว้างใหญ่และดำมืด ปรากฏเสียงหืดกระหอบของชายร่างผอมในชุดชาวบ้านที่กำลังวิ่งหนีปีศาจโครงกระดูกเน่าเฟะจำนวนมาก ถึงแม้นว่าพวกมันจะเป็นแค่แท่งเชื่อมแคลเซียมสีขาวผอมบางแต่อย่าได้ดูถูกพวกมันเชียวนะเพราะพวกมันมีทั้งกำลังและความเร็วที่น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว ชายผู้นั้นหยุดนิ่งที่ริมผาสูงไร้ก้นเหว สีหน้าที่ซีดเสียวและเนื้อตัวที่สั่นดั่งคนเป็นไข้ของเขาแสดงถึงอาการผวาถึงขีดสุด สมองเขาขาวโพลนไร้ความนึกคิดใดๆมีเพียงความกลัวที่เอ่อล้นออกมาจากใจ
พวกหัวกะโหลกแสยะยิ้มชวนขนหัวลุกให้กับชายผู้นั้นดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขมากเลยทีเดียว ก่อนจะมีหนึ่งในพวกมันหนึ่งตนก้าวขาขาวคล้ำด้านหน้าพร้อมในมือกำดาบบิ่นเน่าเหม็นไว้เตรียมจะฟันเข้าที่เขา แต่จู่ๆมีเงาของนกขนาดใหญ่กระโจนลงมาด้านหน้าพวกมันแล้วกระโจนกลับหายไปในป่าอีกด้าน เช่นเดียวกับชายผู้นั้นก็หายตัวไปเช่นกัน พวกมันต่างพากันไม่พอใจโห่ร้องออกมา(เอาฟันบนกับล่างกระทบกันน่ะ มันไม่มีกล่องเสียงจะไปพูดได้ยังไงเล่า- -)พร้อมโหมรัดฟัดตีพวกเดียวกันอย่างบ้าเลือด
อีกด้านหนึ่ง
ชายในชุดชาวบ้านตื่นจากผะวังแห่งความกลัวก็สังเกตได้ว่าคนที่ช่วยดึงเขาออกจากวงล้อมจากพวกผีร้ายขึ้นมานั่งบนหลังนกขนาดใหญ่สีเหลืองนั้นเป็นชายหนุ่มผมสีเทาในชุดขาวกางเกงขาวลายแปลกพิลึกที่มีรูปดาวติดอยู่เต็มไปหมด (ชุดนอนง่ะ-*-)
“ขอบใจเจ้าจริงๆที่ช่วยข้าไว้“ เขาพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ชายหนุ่มที่นั่งด้านหน้าได้ยินจึงหันหน้าพูดตอบกลับไป
“มะไม่เป็นไรหรอกครับ ดูจากภาพรวมละแล้วผมคงอยู่เฉยดูพวกผีนั้นรุมเล่นงานคุณไม่ได้แน่“ ดวงตาสีแดงจากชายหนุ่มมองดูชายผู้นั้นแล้วหันกลับไปทำหน้าเขิน ก็แหม่ไม่เคยมีใครชมเขาในการทำความดีมาก่อนนี้นา
ทั้งคู่นั่งโจโคโบะที่วิ่งฝ่าป่ามืดมาได้สักพัก ความกลัวที่หายไปทำให้ร่างกายและสมองเขากลับเป็นปกติ ชายในชุดชาวบ้านก็เอ่ยปากถามว่า“เจ้าชื่ออะไรรึ? “
“เออ ชิรัน คัสเปี่ยนลัสเต้อครับ“ชายหนุ่มตอบ“แล้วคุณล่ะครับ? “
“ข้าชื่อ โครเซนต์ มิลโก้ เป็นนายพรานอาศัยในหมู่บ้านแถบนี้ “โครเซนต์ทำหน้าสลดที่พูดคำเมื่อกี้ออกไป หมู่บ้านเขาเหลือเขาเพียงคนเดียวเนื่องจากทุกคนต่างตายกันหมด พวกปีศาจมันบุกเข้ามาฆ่าล้างหมู่บ้านในคืนวันหนึ่ง ทำไมเขาถึงยังไม่ตายน่ะเหรอ ก็เพราะคืนนั้นเขาออกไปล่าสัตว์พอดีน่ะสิ
“ทุกคนตายหมดแล้วสินะครับ
เออขอโทษครับที่พูดคำนี้ไป“
“ช่างเถอะ ไม่เป็นไร “โครเซนต์นิ่งเงียบไปสักพักจึงพูดต่อ“ว่าแต่เจ้าเถอะ คงไม่ใช่คนแถวนี้หรอกนะสำเนียงแปลกๆ“
“ อะครับ ผมเป็นคนลอนดอน“
จากนั้นโครเซนต์จึงชวนชิรันให้มาค้างบ้านเขาก่อนพร้อมให้ชิรันเล่าถึงลอนดอนให้เขาฟังซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มผมฟ้าเล่ามาทั้งหมด
รถยนต์เอย เครื่องบินเอย มอเตอร์ไซต์จักรยานเอย มีแต่สิ่งที่ในโลกนี้ไม่มีทั้งนั้น
แล้วก็มาถึงหมู่บ้านของโครเซนต์ กระท่อมไม้นับสิบตั้งเรียงรายปนเคยมีคนอาศัยอยู่เยอะแยะเพียงแต่ทุกหลังมันเงียบไม่ได้ยินแม้นเสียงคน ถัดมาอีกหน่อยมีหลุมศพคลุมดินพร้อมไม้ปักจำนวนมากที่โครเซนต์ฝังให้แก่ชาวบ้านทุกคน
“ที่นี้แหละหมู่บ้านข้า “โครเซนต์พูดพลางลงจากหลังนกเหลืองขนาดใหญ่พลางก้มหน้าหลับตาไว้อาลัยแก่เพื่อนๆของเขาทุกคนที่อยู่ในหลุมศพ แล้วพูดขึ้นว่า
“ในวันหนึ่ง.. “เขาว่า“ในวันที่ข้าออกไปล่าสัตว์ในป่าเหมือนอย่างเคย ข้าเห็นลำแสงสีดำประหลาดบนฟากฟ้า มันพุ่งผ่านหัวข้าไปก่อนจะตกลงสู่ที่ไหนซักแห่ง ข้ารู้ว่ามันตกไปในทิศทางของหมู่บ้าน ตอนนั้นข้าไม่คิดอะไรทั้งนั้นนอกเสียจากวิ่งตรงกลับหมู่บ้านไป“
โครเซนต์เอามือโขกกับต้นไม้แรงๆ
“เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง
ทุกคน~ ทุกคนตายโดยไม่มีสาเหตุ แต่ข้ารู้ว่ามันเกิดจากลำแสงสีดำบ้าๆนั้น“ โครเซนต์เดินนำชิรันไปที่ท้ายหมู่บ้านก่อนจะชี้นิ้วไปที่บางสิ่งบางอย่าง หลุมลึกขนาดยักษ์ที่กินพื้นที่บริเวณกว้างหาที่เปรียบไม่ได้ดูแล้วหมู่บ้านช่างเล็กกระจ่อยร่อยจริงๆ ชายหนุ่มทึ่งจนพูดไม่ออก นี้คือผลจากลำแสงสีดำน่ะหรือ
“..!..“แล้วชิรันก็สังเกตโครงสร้างเล็กๆ โครงสร้างอาคารเก่าแก่ที่น่าจะเป็นฝีมือมนุษย์สร้างขึ้นที่เกือบจะถูกกลืนหายไปเพราะเถ้าถ่านสีเทาม่นคลุมไว้“นั้นมันอาคารนิครับ“
“เป็นไปได้รึเนี้ย มีของแบบนี้อยู่ใต้ดินน่ะหรือ ไปดูกันเถอะ“
ชิรันพยักหน้าพร้อมค่อยๆจูงนกเหลืองตัวใหญ่ตามโครเซนต์ลงไปในหลุมลึก ก่อนทั้งสองจะเดินเข้ามาในอาคารทางผนังที่พังลงไป
“ ! “จู่ๆตรงโคนเสาหินทั้งหมดก็สดสว่างด้วยเปลวเพลิงจากคบเพลิงขึ้นมาเฉยๆ นี้คงจะเป็นผลของเวทย์มนต์บางอย่าง ภายในอาคารนั้นเก่าแก่มากซึ่งน่าจะมีอายุยาวนานกว่าหลายพันปี น่าแปลกที่ว่าทำไมมันถึงถูกฝังมายาวนานขนาดนี้
ความสนใจของพวกเขาถูกล่อให้ไปทางอื่นเมื่อมีควันสีดำเข้มลอยออกมาจากช่องประตูที่เปิดอ้าเอาไว้ โครเซนต์เดินเข้าไปด้านในด้วยสีหน้าเย็นชาสุดๆ เขารู้สึกว่าไอควันนั้นเหมือนกับลำแสงสีดำที่ฆ่าเพื่อนๆของเขาในหมู่บ้านจึงอยากหาคำตอบโดยเร็ว
“นั้นอะไรกัน?
คุณโครเซนต์รีบเข้าไปแบบนั้นอันตรายนะครับ“
ชิรันกำลังจะวิ่งตามโครเซนต์ที่เดินเข้าผ่านช่องประตูที่มีไอควันสีดำลอยออกมา แต่เกิดเสียงกระแทกอย่างรุนแรงขึ้นพร้อมร่างโครเซนต์ที่มีร่างกายซีดเซียวและเหี่ยวแห้งลอยออกมาตกที่พื้นพร้อมมีบางยาวเรียวแหลมพุ่งมาเสียบลงพื้นตรงหน้าชิรันไม่กี่เซน
“
“ชายหนุ่มยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไรได้แต่ตาค้างไม่แพ้นกเหลืองของเขาที่กลัวจนเข้าเบียดเขาจนชิด
แหล่งกำเนิดไอสีดำมาจากรูปทรงเรียวเล็ก สิ่งที่เป็นวัตถุแหลมคมบางๆ
ดาบ แถมยังมีสีเทาและมีลวดลายพิสดารเต็มไปหมด ชิรันจ้องมันตาเขม่งแล้วจู่ๆเหมือนมีเสียงพูดดังขึ้นในหัวของเขา
“จะมัวรีรออะไรอยู่ล่ะ...เจ้าผู้ถูกเลือก
จงใช้มือของเจ้าหยิบข้าขึ้นมาซะสิ“
“ไม่อยากจะได้พลังรึไง
พลังที่สามารถทำให้ทุกสิ่งเป็นของเจ้าได้ไง
“
“บ้าบอสิ้นดี “ชิรันพลันรู้สึกตัวอีกครั้งและกัดฟันแน่น โครเซนต์คนที่เขาพึ่งช่วยมาได้แล้วแท้ๆกลับต้องมาตายเพราะไอ่เจ้าดาบบ้านี้ ขาสองข้างของเขาหันหลังกลับและไม่สนใจคำพูดที่ปรากฏจากดาบนั้นสู่หัวเขา “..!..“ แต่ชายหนุ่มก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดหนึ่งเข้า
“พลังของข้าพอจะช่วยทำสิ่งที่เจ้าหวังให้เป็นจริงได้นะ
ฮึ..ฮึ..ฮึ“เสียงที่ฟังดูเย็นชาไร้หัวใจและอำมหิต ไม่ได้เกิดขึ้นในหัวของเขาอีกแล้วแต่มันดังมาจากตัวดาบสีเทาหม่นนั้น“ข้าจะช่วยให้เจ้ากลับคืนสู่โลกเดิมให้เอง“
ความคิดเห็น