ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เอาเอสเตฟานผมคืนมา
หลังจากที่ผมเดินเข้าหลุมดำมาสิ่งแรกที่ทำนะเหรอ หาที่นอนน่ะสิ ผมเดินไปเรื่อยจนมาถึงเขตที่พักส่วนตัว แล้วเห็นว่ามีบ้านหลังหนึ่งเหมือนมีคนอยู่จึงเดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน
"ค่าๆ มาแล้วค่ะ" ผมก็เห็นเป็นหญิงสาวผมยาวสยายสีม่วงที่ตรงปลายเป็นสีทองท่าทางสลึมสลือเดินเซๆออกมาเปิดประตูให้ เธอมองหน้าผมอย่างสงสัย ผมก็เลยถือโอกาสแนะนำตนเองซะเลย หวังว่าเธอจะให้ผมอยู่ด้วยนะ
"สวัสดีครับผม ฮาลบราช เวนเดน เป็นคนมาอยู่ใหม่ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะให้ผมได้อาศัยอยู่ด้วยได้รึไม่" โค้งตัวทักทายตามมารยาทจากบ้านเกิดที่ติดเป็นนิสัย ดูเหมือนว่าเธอจะลังเลนะ ผมจึงรีบสาธยายสรรพคุณตัวเองทันที แน่ล่ะสิถ้าไม่รีบก็ไม่มีที่อยู่ฟรีและดีอย่างนี้แน่
เพราะ ผมไปดูราคาเช่าห้องอย่างถูกมาแล้วขูดรีดขูดเนื้อคนอ่อนแอแบบผมมากๆเลย รวมไปถึงเจ้าของห้องเช่าที่ดูจะไม่มีอ่อนข้อเรื่องเงินแบบนั้น ยังไงผมก็จะต้องได้อยู่ที่นี่
หลังจากที่เธอคนนั้นแนะนำตัวกลับมาผมจึงได้รู้ว่าเธอชื่อ เคซิล เอส ฟอเรสต์ เป็นนักเรียนที่มีบ้านส่วนตัวที่นี่ แถมอาจไม่ได้อยู่ประจำอีกด้วย
"ผมสามารถช่วยเคซดูแลบ้านและทำความสะอาดได้นะครับ รวมไปถึงการทำอาหาร" บอกความสามารถที่เหมือนพ่อบ้านชั้นเยี่ยม ในที่สุดผมก็ได้มีที่พักจนได้ ต้องขอบคุณเคซจริงๆเลยนะเนี่ย ต่อไปผมก็คงต้องไปหางานทำสินะ
"ต้องลงทะเบียนเลือกสายนักล่างั้นเหรอ เอาไงดีนะสายอาหารหรือสายประดิษฐ์ดีล่ะเรา" เพ่งพินิจใบเลือกสายอย่างจริงจังจนคิ้วขมวด หันไปหาเอสเตฟานอย่างหาตัวช่วย
...ข้าว่าเจ้าเป็นสายอาหารก็ดี ถ้าเป็นนักประดิษฐ์เจ้าต้องมีสมองมากกว่านี้...
นี่หลอกว่ากันรึเปล่าเนี่ย มองด้วยสายตาแอบเคืองเล็กน้อยใส่ผู้ช่วย หาว่าผมโง่ใช่มั้ย เห็นหน้าตาเฉื่อยชาแบบนี้แต่ก็แอบฉลาดนะครับทุกท่าน
สุดท้ายผมก็คิดจะเลือกนักล่าสายประดิษฐ์ตามที่เอสเตฟานไม่แนะนำล่ะนะ ผมจะแสดงให้ดูเองว่าผมก็ทำได้นะ สิ่งที่จำเป็นก็ทำหมดแล้วที่เหลือก็เดินเล่นสำรวจเมือง ในขณะที่เดินอยู่นั่นเองก็ได้มีพลังสีดำรวมตัวกันขึ้นบนท้องฟ้าก่อนที่จะพุ่งตรงมายังร่างกายผม แล้วผมก็มองมันอย่างตกใจ แต่ดูเหมือนว่าจะหนีไม่ทันซะแล้ว
ทำไมจู่ๆก็รู้สึกง่วงล่ะ ตาของผมก็ค่อยๆปิดลงจนเหลือแต่ความมืด
"สวัสดีเหล่าผู้กล้าทั้งหลาย " ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะน้ำเสียงของใครดังขึ้นมาในหัวสมอง ว่าแต่เข้ามาอยู่ในหัวผมได้ยังไงเนี่ย ผมจะฟ้องร้องข้อหาละเมิดสิทธิส่วนบุคคล"ค่าๆ มาแล้วค่ะ" ผมก็เห็นเป็นหญิงสาวผมยาวสยายสีม่วงที่ตรงปลายเป็นสีทองท่าทางสลึมสลือเดินเซๆออกมาเปิดประตูให้ เธอมองหน้าผมอย่างสงสัย ผมก็เลยถือโอกาสแนะนำตนเองซะเลย หวังว่าเธอจะให้ผมอยู่ด้วยนะ
"สวัสดีครับผม ฮาลบราช เวนเดน เป็นคนมาอยู่ใหม่ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะให้ผมได้อาศัยอยู่ด้วยได้รึไม่" โค้งตัวทักทายตามมารยาทจากบ้านเกิดที่ติดเป็นนิสัย ดูเหมือนว่าเธอจะลังเลนะ ผมจึงรีบสาธยายสรรพคุณตัวเองทันที แน่ล่ะสิถ้าไม่รีบก็ไม่มีที่อยู่ฟรีและดีอย่างนี้แน่
เพราะ ผมไปดูราคาเช่าห้องอย่างถูกมาแล้วขูดรีดขูดเนื้อคนอ่อนแอแบบผมมากๆเลย รวมไปถึงเจ้าของห้องเช่าที่ดูจะไม่มีอ่อนข้อเรื่องเงินแบบนั้น ยังไงผมก็จะต้องได้อยู่ที่นี่
หลังจากที่เธอคนนั้นแนะนำตัวกลับมาผมจึงได้รู้ว่าเธอชื่อ เคซิล เอส ฟอเรสต์ เป็นนักเรียนที่มีบ้านส่วนตัวที่นี่ แถมอาจไม่ได้อยู่ประจำอีกด้วย
"ผมสามารถช่วยเคซดูแลบ้านและทำความสะอาดได้นะครับ รวมไปถึงการทำอาหาร" บอกความสามารถที่เหมือนพ่อบ้านชั้นเยี่ยม ในที่สุดผมก็ได้มีที่พักจนได้ ต้องขอบคุณเคซจริงๆเลยนะเนี่ย ต่อไปผมก็คงต้องไปหางานทำสินะ
"ต้องลงทะเบียนเลือกสายนักล่างั้นเหรอ เอาไงดีนะสายอาหารหรือสายประดิษฐ์ดีล่ะเรา" เพ่งพินิจใบเลือกสายอย่างจริงจังจนคิ้วขมวด หันไปหาเอสเตฟานอย่างหาตัวช่วย
...ข้าว่าเจ้าเป็นสายอาหารก็ดี ถ้าเป็นนักประดิษฐ์เจ้าต้องมีสมองมากกว่านี้...
นี่หลอกว่ากันรึเปล่าเนี่ย มองด้วยสายตาแอบเคืองเล็กน้อยใส่ผู้ช่วย หาว่าผมโง่ใช่มั้ย เห็นหน้าตาเฉื่อยชาแบบนี้แต่ก็แอบฉลาดนะครับทุกท่าน
สุดท้ายผมก็คิดจะเลือกนักล่าสายประดิษฐ์ตามที่เอสเตฟานไม่แนะนำล่ะนะ ผมจะแสดงให้ดูเองว่าผมก็ทำได้นะ สิ่งที่จำเป็นก็ทำหมดแล้วที่เหลือก็เดินเล่นสำรวจเมือง ในขณะที่เดินอยู่นั่นเองก็ได้มีพลังสีดำรวมตัวกันขึ้นบนท้องฟ้าก่อนที่จะพุ่งตรงมายังร่างกายผม แล้วผมก็มองมันอย่างตกใจ แต่ดูเหมือนว่าจะหนีไม่ทันซะแล้ว
ทำไมจู่ๆก็รู้สึกง่วงล่ะ ตาของผมก็ค่อยๆปิดลงจนเหลือแต่ความมืด
"เธอเป็นใครกัน ผมจะได้ไปแจ้งตำรวจถูก เอ้ย!!! ไม่ใช่" ผมตะโกนถามออกไปในความมืดที่รายล้อมรอบตัว แต่ผมไม่รู้สึกกลัวสักนิด ออกจะคุ้นเคยและราวกับอยู่บ้าน
"ชั้นยังบอกคุณไม่ได้ตอนนี้แต่เมื่อถึงเวลาคุณก็จะรู้เอง" เสียงของหญิงสาวตอบกลับในความมืด
"แล้วเมื่อไหร่ละที่จะถึงเวลา" ผมถามกลับไปอย่างเซ็งๆก่อนจะใช้พลังที่ดวงตาเพื่อที่จะมองหาหญิงสาวในความมืด
"แต่เอ๊ะ! ทำไมไม่รู้สึกถึงพลังในตัวเลยล่ะ " ผมพึมพำกับตัวเอง
"คุณยังไม่รู้สินะว่า คุณได้สูญเสียพลังเหล่านั้นไปแล้ว" เสียงของหญิงสาวพูดขึ้น
"ตลกน่า" ผมขำออกมาอย่างไม่เชื่อที่เสียงปริศนาบอก
"ไม่ตลกนะค่ะ เพราะคุณสูญเสียพลังแบบพวกเราไปแล้ว" เสียงของหญิงสาวตอบกลับ
"จริงหรอ" ผมถามกลับไปก่อนจะลองใช้พลังอีกรอบ สองรอบ ร้อยรอบแต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นคนธรรมดาจริงๆ
"จริงค่ะ แต่ท่านไม่ต้องเสียใจไปเพราะวิธีที่ท่านจะได้พลังกลับคืนมาคือ....." ผมที่นิ่งฟังอย่างตั้งใจยังไม่ทันได้รับคำตอบก็สิ้นเสียงของหญิงสาว
ร่างของผมค่อยๆตื่นขึ้นมาก่อนจะมองสำรวจร่างกายตัวเอง " นี่ฝันไปสินะ เรื่องที่เสียพลังไปก็คงไม่เป็นความจริง"
พูดพร้อมกับหัวเราะให้กับความฝันของตัวเอง
"งั้นลองใช้พลังดูหน่อยดีกว่า" พูดจบก็ค่อยๆลองใช้พลังเรียกหลุมดำ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวนะทำไมรู้สึกพื้นอยู่ใกล้สายตาขนาดนี้เนี่ย ก้มมองดูตัวเอง
"อะไรกันเนี่ยพลังโดนริบตัวเลยหดเลย" สำรวจแขนขาเล็ก ร่างกายที่หดเล็กลง นี่มันร่างโชตะชัดๆเลย กลุ้มใจจริง
"งั้นลองใช้พลังดูหน่อยดีกว่า" พูดจบก็ค่อยๆลองใช้พลังเรียกหลุมดำ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวนะทำไมรู้สึกพื้นอยู่ใกล้สายตาขนาดนี้เนี่ย ก้มมองดูตัวเอง
"อะไรกันเนี่ยพลังโดนริบตัวเลยหดเลย" สำรวจแขนขาเล็ก ร่างกายที่หดเล็กลง นี่มันร่างโชตะชัดๆเลย กลุ้มใจจริง
"ไม่ได้ฝันไปหรอ งั้นพลังของชั้นก็หายไป ตัวก็เล็กลง เดี๋ยวสิแล้วเอสเตฟานล่ะ" ผมอุทานออกมา ก่อนที่จะหันไปมองรอบๆเพื่อหาผู้ช่วยที่ตอนนี้รู้สึกคิดถึงมาก แล้ววิธีที่จะเอาพลังคืนมาล่ะจะต้องทำยังไง
"ไม่นะ เอสก็หายไปด้วย" มองอย่างหวั่นวิตก แล้วใครจะคอยเตือนคอยระวังภัยให้ผมล่ะ
"พลังอะไรก็เอาไปเถอะ แต่ผมขอเอสเตฟานคืนมาได้มั้ยเนี่ย" ได้แต่โวยวายอยู่ภายในใจ
"ไม่นะ เอสก็หายไปด้วย" มองอย่างหวั่นวิตก แล้วใครจะคอยเตือนคอยระวังภัยให้ผมล่ะ
"พลังอะไรก็เอาไปเถอะ แต่ผมขอเอสเตฟานคืนมาได้มั้ยเนี่ย" ได้แต่โวยวายอยู่ภายในใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น