คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ฝนตกเทเเมว
ช่วงเช้าแสงแดดอ่อนๆบนถนนทอดยาวชนบทถัดไปทางนอกมืองแมนเทิล อันนาเด็กสาวนั่งอยู่บนรถ ทอดสายตามองภูเขาที่อยู่ฝากที่นั่งของเธอในหัววนเวียนอยู่กับเรื่องของเพื่อนรัก สร้างความอึดอัดใจให้ผู้เป็นป้าที่คุมพวงมาลัยรถอยู่ไม่น้อยจนต้องหาเรื่องพูดคุยทำลายความเงียบ
“อันนา ลูกคิดอะไรอยู่ไม่พูดอะไรตั้งแต่ออกบ้านมาแล้ว?”ป้าของอันนาเป็นหญิงเก่งในยุคนี้แต่ก็ค่อนข้างเป็นห่วงภาพลักษณ์ตนเองไม่น้อย จริงๆเธอเป็นหม้ายและรับอันนามาเลี้ยง จึงมักไม่ค่อยเข้าใจเธอเท่าไหร่นัก ชุดของเธอเป็นกระโปรงดำลายขอบลูกไม้ เสื้อสีดำเนื้อผ้าแอบเบาบางนิดๆ
อันนาพยายามคุมน้ำเสียงไม่ให้แย่นัก “หนูคิดถึงเพื่อนอยู่น่ะค่ะป้า ”
“งั้นเองเหรอจ้ะ” ป้าของอันนาหันมามองเธอผ่านแว่นกันแดดแผ่นกลมเท่าเบคอน “ป้าว่าหลานน่าจะใส่ชุดที่ป้าเตรียมไว้ให้นะ” อันนาใส่ชุดเสื้อแขนยาวสีขาว เนคไทและกางเกงขายาวรวมผมสีดำเรียบคล้ายการแต่งกายแบบผู้ชาย
“ชุดนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ หนูลองหมดแล้ว”เธอโกหกเพราะไม่อยากใส่ชุดรุ่นป้า ซึ่งก็ได้ผล ป้าของเธอไม่ได้สนใจอะไรอีก
วันนี้ทั้งคู่ตั้งใจมา สุสานบรูคเทนส์ ป้ามาเนื่องจากวันครบรอบวันคล้ายประจำปีรำลึกถึงผู้ก่อตั้งเมือง คนในหมู่บ้านทยอยกันไปแออัดอยู่ที่นั่นส่วนหนึ่งแล้ว ล่วงเลยมาจนถึงที่หมาย
หน้าสุสานมีต้นไม้ขนาดใหญ่ไร้ใบตั้งอยู่หน้าเป็นสัญลักษณ์เด่น มันไม่เคยผลิใบในฤดูไหน กิ่งของมันแหลมคมแตกออกไม่เป็นแนว ชวนให้ขนลุกกราวทันทีที่พบเห็น ประตูรั้วเร็วสีดำมีเสียงเอียดอาดเปิดเชิญให้เดินเข้าไปข้างใน หลังรั้วเหล็กสีดำสูงทะมึนด้านบนเป็นรูปแกะสลักของเดวิล หน้าตาอัปลักษณ์คล้ายกำลังมองหาบางอย่าง
เหตุผลที่เธอเดินทางมาที่นี่...แตกต่างกับคนส่วนใหญ่ในเมือง
และเป็นเหตุการ์ณของจุดเริ่มต้น...
ป้าของอันนาเมื่อเจอกับนายกเทศมนตรีร่างอ้วนก็ก้าวขาฉับๆเดินเข้าตรงไปทักทายโดยไม่ได้สนใจว่าอันนาจะตามไปทันซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องดีที่เธอจะได้ไม่ต้องไปเข้ากลุ่มลูกคนหนูที่ทำตัวเรียบร้อยที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าทุกห้านาที เธอไม่ได้สนใจหรอกว่าวันครบรอบนี้จะสำคัญมากขนาดไหน เพราะวันนี้ที่เธอมาด้วยไม่ใช่เพราะอะไรแต่เป็นการมาร่วมพิธีเล็กๆของเพื่อนรักที่ไร้ลมหายใจต่างหาก
ใช่แล้ว นอกจากวันนี้จะเป็นวันครบรอบวันเกิดผู้ก่อตั้งเมือง และยังเป็นวันเดียวกับที่เธอสูญเสียเพื่อนรักของอันนาอีกด้วย
อันนาเป็นเด็กผู้หญิงที่ห้าวหาญและขาลุยมาตั้งแต่เด็ก ชอบปีนต้นไม้มากกว่าถักผ้าพันคอเพื่อนผู้หญิงจึงไม่ค่อยชอบเล่นกับเธอ ยกเว้นเพียงแต่เชอร์แลนด์ เด็กสาวตัวเล็ก เธอผิวขาวและไว้ผมบลอนหน้าม้าที่ไม่ได้มองถึงเรื่องว่าเธอจะเหมือนใคร ทั้งคู่ต่างมีเรื่องให้หัวเราะได้ง่ายๆ ผิดแต่ช่วงเวลาหนึ่งที่เชอรืแลนด์เริ่มล้มป่วยหนักและในที่สุดร่างกายก็ไม่อาจจะต้านทานได้ไหว
ข่าวร้ายนี้ถึงหูของอันนาเมื่อคืนทางโทรศัพท์ จากแม่ของเชอร์แลนด์ โลกที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของอันนามืดดับลง เธอกลับไปนอนคิดหนักแม้ในตอนฝันก็ยังคิดไปว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง พรุ่งนี้เธออาจได้เจอกับเชอร์แลนด์ ด้วยความหวังที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจด้วยลางสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง..
อันนาแยกตัวออกจากกลุ่มผู้คนที่ยืนล้อมรูปปั้นผู้ก่อตั้งกลางสุสาน เหล่าบาทหลวงต่างสวดอ้อนวอน คณะเทศมนตรีผลัดกันมาปราศรัยและกล่าวคำมั่นสัญญา บรรดานักดนตรีรุ่นจิ๋วแต่งกายในชุดสีขาวเล่นดนตรีขับกล่อมผู้มางาน หากเป็นเมื่อปีก่อน อันนาจะมานั่งฟังกลุ่มนักดนตรีเล่นเพลงจนจบ พร้อมกับคอยให้กำลังใจเชอรืแลนด์ที่สีไวโอลีนอยู่มุมซ้ายสุดไม่ให้เล่นผิดคีย์
เด็กหญิงผมบลอนตัดหน้าม้าจะวิ่งมาหาเธอทันที่ที่เก็บเครื่องดนตรีเสร็จ ทั้งสองจะชวนกันจับจองที่นั่งใต้โคนต้นโอค แอบหยิบเค้กสองสามชิ้นมากิน พูดคุยหัวเราะเกี่ยวกับผู้คนในงานอย่างสนุกสนาน ทว่าผู้ที่เล่นดนตรีในงานกลับไม่มีเด็กคนเดิมอีก
ทางชายป่าอีกฝั่ง มีกลุ่มคนจำนวนเล็กๆกำลังเคลื่อนโลงศพไปที่หมาย หนึ่งในนั้นสายตาของอันนาเห็นจากไกลๆว่าเป็นแม่ของเชอร์แลนด์ ไม่...ไม่ใช่แบบนั้น มือของอันนาเย็นเฉียบด้วยความกลัว กลัวว่าความจริงนั้นจะเกิดขึ้น เธอวิ่งไสเท้าผ่านหลุมศพนับสิบเพื่อไปให้ถึงที่หมายก่อน ป้ายหลุมศพสีขาวอ่อนสลักอักษร R.I.P แด่ เชอร์แลนด์!!!
ความคิดเห็น