CHAPTER 0 : Ruth Theodor
{Custos Droid}
“ อย่างที่คิดครับ.. ข้อมูลนั้นอยู่ในโกดังเขตเหนือครับท่าน.. ” เสียงกระซิบไร้ความรู้สึกพูดโต้ตอบกับใครบางคนผ่านบูทูธ
ปัง!..ปัง..!
กระสุนสาดลงมาจากด้านบน...ร่างสูงวิ่งเข้าไปแนบตัวชิดกับผนังตึก ..สไนเปอร์..พวกมันป้องกันหนาแน่นขนาดนี้เชียว ถ้าเป็นแบบนั้น...พวกมันคงประสานกัน และรู้แล้วแน่ว่ามีผู้บุกรุก!
“ พวกมันรู้ตัวแล้วครับท่าน.. ”
“ ..ครืดดดดดด..ครื-- ” สัญญาณปลายสายที่ฟังไม่ได้ศัพท์..ดักสัญญานสินะ
มือหนากดตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง..เสี่ยงเกินไป รูธจัดการถอนเมมโมรี่และซิมการ์ดออกจากเครื่อง แล้วทิ้งโทรศัพท์ลงพื้น.. เท้าขวาที่สวมรองเท้าคอมแบทยกขึ้นบดขยี้สมาร์ทโฟนอันบางแหลกไปได้อย่างง่ายๆ นัยน์ตาฟ้าสดจับจ้องชิ้นส่วนในมือพลางกวาดตามองรอบๆ ..ท่อระบายน้ำ..ผ่ามือที่กุมซิมการ์ดและเมมโมรี่อยู่แน่น ขว้างชิ้นส่วนของซิมการ์ดในมือลงท่อระบายน้ำแม่นราวจับวาง ...ยังไงก็ให้พวกมันรู้ถึงนายท่านไม่ได้...
รูธแนบตัวชิดกับผนังตึกใต้กันสาด..หลบเลี่ยงกระสุนสไนเปอร์จากดาดฟ้า นัยน์ตาฟ้าสดจับจ้องกำแพงเหล็กสูงที่อยู่ไม่ไกล ...ต้องกลับไปพร้อมข้อมูลนี่..อยากน้อยก็แค่ข้อมูล... มือขวากำเมมโมรี่ไว้แน่น.. ข้างหน้ามีหน้าต่าง.. ลมหายใจเฮือกใจสูดเข้าเต็มปอด เมมโมรี่การ์ดที่กำไว้แน่นถูกขว้างข้ามกำแพงเหล็กไป ..เป็นระยะโด่งพอที่คนในห้องนั้นจะไม่เห็น.. ร่างแข็งแกร่งขยับตัวแนบผนังตึกลัดเลาะไปเรื่อยๆตามกำแพงตึก ..หวังเพียงห้องนั้นจะไม่มีใครอยู่..
บ้าเอ๊ย..!! สงสัยจะไม่สมหวัง!
จังหวะนั้น..ลำคอถูกยึดแน่น และกระชากเข้าไปด้านใน ..ถูกจับซะแล้ว.. นัยน์ตาประสานกับคนที่ดึงตัวผมเข้ามาเพียงแวบเดียว...หมอนั้นก็ยกลำกล้องของสปริงฟิลด์ก็ฟาดเข้าอย่างแรงจนล้มลง ของเหลวสีแดงไหลลงมา..เข้าหางตาเล็กน้อย ผมสะบัดใบหน้าแรงๆเพื่อไล่เลือดที่ทำให้มองเห็นไม่ชัด..ยกหน้าเงยมองคนตรงหน้าราวกับตั้งใจจดจำไว้
“ จับมัน!.. อย่าให้ตายล่ะ ” เพียงเจ้านั้นเอ่ย ชายในชุดมิดชิดราวยี่สิบกว่าคนก็กรูกันเข้ามาในห้อง..
ผมดันตัวลุกขึ้น.. หมัดหนักเหวี่ยงเข้าที่แก้มซ้ายจนสะบัดไปตามแรงเหวี่ยง แขนซ้ายขวาถูกล็อกไว้แน่นโดยพวกมัน ผมงอตัวลงเพราะลูกถีบกลางลำตัว.. ทั้งหมัดทั้งเท้านับไม่ถ้วนซัดเข้ามาไม่หยุด ..แต่..แต่สายตายังจับจ้องไปยังคนที่เดินออกไปจากห้องนี้ แม้ตาจะบวมช้ำแทบปิด..แม้เลือดจะไหลเข้ามาจนพร่ามัว ..จะจดจำเอาไว้คนที่ลอบกัดนายท่าน..!!
. . .
นัยน์ตาฟ้าสดค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ ..แค่เปิดเปลือกตายังทำให้รู้สึกเจ็บ.. ผมกวาดสายตามองรอบๆ เท่าที่สายตาพร่ามั่วจะทำได้ ..โกดังมืดๆที่แสงส่องเข้ามาได้เพียงนิด..ลานปูนสกปรกๆ.. แขนทั้งสองข้างที่ถูกพันธนาการล่ามไว้ด้วยโซ่ในท่ายืน.. แค่จะขยับเพียงนิดยังเจ็บไปหมด...
“ ฟื้นจริงๆด้วย ดีใจนะที่นายไม่ตาย.. ใครส่งแกมาที่นี่ ” ...เสียงนี้ เจ้านั้น...
ผมกระพริบตาไล่ความพร่ามั่วแล้วมองไปตามเสียง... โต๊ะทำงานอย่างดีตั้งอยู่ไกลออกไป..เจ้านั้น..ผู้ชายคนนั้น นัยน์ตาฟ้าสดจ้องมองไปราวกับโกรธแค้นมาแสนนาน
“ ว่าไง?..ใครส่งแกมา? แล้วไอ้สายตาแบบนั้นมันอะไร!! ” ผมไม่เปิดปากพูดอะไร..มีเพียงเสียงตวาดของมันเท่านั้น
แปะ..แปะ..
เสียงปรบมือสองครั้งของเจ้านั้น.. เรียกให้ชายในชุดมิดชิดกลุ่มเดิมเข้ามายืนกระจายกำลังไปรอบๆพื้นที่
“ บอกมา...ไม่งั้นแกตาย! ” เสียงเดิมตวาดอีกครั้ง
“ แกมีศัตรูนับไม่ถ้วน..จนไม่รู้ว่าถูกใครเล็งอยู่เลยสินะ..แค่กๆ ”
ผมคั้นเสียงพูด..แล้วถ่มเสมหะและเลือดที่เหนียวพันอยู่ในลำคอออกมา...สายตายังจับจ้องมันด้วยความแค้น
“ เหอะ..! ปากดี!! ลงโทษมันจนกว่ามันจะบอกว่ามันเป็นคนของใคร ” เจ้านั้นเค่นหัวเราะแลัวหันหลังไป ..เห็นเพียงเส้นผมที่โผล่พ้นพนังเก้าอี้หนังเท่านั้น
ชายในชุดมิดชิดกรูเข้ามารุมทำร้ายอีกครั้ง..เนิ่นนาน..เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้เลย ..จนกระทั่งชายชุดสูทนั้นเดินออกไป ทั้งหมัดทั้งเท้าที่รุม..ถาโถมเข้ามา ความเจ็บปวดที่แม้แต่จะร้องยังร้องไม่ออก...แค่เพียงขยับนิดเดียวก็เจ็บไปทั่วร่างกาย หากไม่ได้ถูกตรึงไว้ด้วยโซ่แล้วล่ะก็..แม้แต่แรงยืนคงไม่มี...
สามวันต่อมา..
“ ไม่ตลกแล้วนะ จะไม่บอกจริงๆสินะว่าใครส่งแกมา ” เสียงตวาดเดิมๆที่น่ารังเกียจดังขึ้นปลุกให้รู้สึกตัว..
ลำคอแห้งผาก.. ไม่มีแม้แต่แรงเปิดปากโต้ตอบ ร่างกายที่เริ่มซูบลง... ทั้งอาหารหรือแม้แต่น้ำที่ไม่เคยตกถึงท้องในช่วงสามวันที่ผ่านมา แปลกใจตัวเองจริงๆที่ยังไม่ตาย ..เดินมาแล้ว...เจ้านั้นเดินตรงเข้ามา จับคางผมให้เงยขึ้น ผมสบตากลับอย่างไม่ได้เกรงกลัว
“ ไม่ตอบเรอะ..? หรือคำตอบของแกคือตาย ..อยากตายจริงๆใช่มั้ย..? อย่าคิดว่าชั้นไม่กล้าล่ะ!! ” น้ำเสียงของมันครั้งนี้ฟังดูเยียบเย็น..ทว่าปกปิดความโมโหไว้ไม่มิด ใบหน้าส่วนล่างที่มันจับอยู่ถูกบีบอย่างแรง... จนทั้งแก้มทั้งกรามเจ็บไปหมด หากตายตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว..เมมโมรี่การ์ดนั้น ป่านนี้คงไปถึงท่านผู้นั้นแล้ว
“ ฆ่าชั้นสิ.. ” ผมเค้นเสียงออกมา...พร้อมส่งสายตาท้าทายมัน
“ ปลดโซ่ออก ”
โซ่ที่ตรึงผมอยู่ถูกปลดออก.. สองขาที่ไร้เรี่ยวแรงล้มลงอัตโนมัติ เจ้านั้นกระชากคอเสื้อผมขึ้นมายืนดังเดิม ปืนรูเกอร์ เอ็ม.เค. สอง ถูกควักขึ้นมาจ่อขมับผม แล้วไล้ลงตามกรอบหน้าไปจ่อใต้คาง.. ไกปืนถูกปลดออก มืออีกข้างของมันคว้ามือของผมให้จับปืนไว้ ..จะสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนฆ่าตัวตายรึไง?
“ อยากตายนัก...ชั้นก็จัดให้ได้ตายสมใจ... ”
มือของผมเหนียวไกปืนจ่อคอตัวเองอยู่..โดยมีมันจับไว้อีกที ถ้ามีแรงซักหน่อยทิศทางปืนคงเปลี่ยนทางได้ไม่ยาก แต่สำหรับตอนนี้..ไม่เลย..หึหึ.. จากองศานี้...กระสุนจะผ่านหลอดลม..กล่องเสียง..ช่องปาก..สมอง..และทะลุกระโหลก เลือกตำแหน่งได้ไม่เลวจริงๆ ..มือของมันกดให้ผมลั่นไก..
..เจ็บ..เจ็บมากจนอยากจะกรีดร้อง..แต่ทำไม่ได้เพราะกล่องเสียงคงขาดไปแล้ว.. ความรู้สึกเจ็บจากกระสุนที่วิ่งผ่านสมองทะลุกะโหลกออกไปมันเจ็บขนาดนี้นี่เอง...นี่คือ...ความรู้สึกของคนกำลังจะตายสินะ...
. . .
. .
.
นัยน์ตาฟ้าสดเบิกโพลงขึ้น...ฝันร้าย... ไม่...มันแจ่มชัดราวกับเรื่องจริง ใช่...ผมตามไปแล้ว มือหนายกขึ้นลูบแก้มตัวเอง ..ศรีษะนี้ที่เคยแหลกกระจายไปเพราะกระสุนปืน.. ..โรงพยาบาลงั้นเหรอ?.. ผมกลอกตามองรอบๆ ..ดูเหมือนห้องวิจัยอะไรมากกว่า
“ ไม่ได้เจ็บปวดอะไร.. ” เสียงแหบพร่าของตัวเองพึมพำแล้วดึงสายระโยงระยางที่เชื่อมกับตัวเองออก
ปัง! ประตูเปิดออก
“ ตื่นขึ้นมาจนได้นะ รูธ ” ผมจำเธอได้.. ผู้หญิงที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในห้องคือดร.โครีย์
“ สวัสดี ” ผมลุกขึ้นนั่งคุยกับเธอในท่าที่ที่สบายๆ
“ เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่านายตายไปแล้ว ” ผมเลิกคิ้วมองเธอแล้วหันกลับมาสำรวจตัวเอง
“ ก็คงเป็นแบบนั้น ” ผมตอบกลับไป
“ นายทำงานได้ดีนะ แต่.. ” ผมหันขวับไปมองเธอ
“ เกิดอะไรขึ้น!? ”
“ มันนานเกินไปที่นายหลับ.. ฉันรู้..ฉันมีส่วนผิดที่หาไขกระดูกไม่ได้ ”
“ เข้าเรื่องได้แล้ว..โครีย์ ”
“ มันไม่มีแล้วตำแหน่งของนาย...ท่านผู้นั้นคิดว่านายกลับมาไม่ได้แล้ว ”
“ ... ”
“ นายท่านไปแล้ว..ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และฉันเสียใจจริงๆที่จะต้องบอกว่านายถูกไล่ออก ”
“ เฮ้อ... ” มีเพียงเสียงหายใจเฮือกใหญ่หลุดออกมาจากผม
“ นายควรรู้ไว้...นายคือร่างโคลนนิ่งของรูธ ธีโอดอร์ อวัยวะทั้งหมดได้รับการปลูกถ่ายจากชิ้นส่วนมนุษย์ ส่วนดีเอ็นเอและความทรงจำที่ปลูกถ่ายลงไปเป็นของรูธ ธีโอดอร์ ยกเว้น...ส่วนของข้อต่อและกระดูกเราหาให้ไม่ได้ มันถูกทดแทนด้วยเหล็ก การใช้ชีวิตต่อจากนี้...นายควรระมัดระวังการใช้แรงให้น้อยกว่าคนปกติ ..หลายเท่าเชียวล่ะ ”
“ ที่จะบอกมีแค่นี้ใช่มั้ย? ”
“ อ่า.. ” เธอพยักหน้าตอบ
“ งั้น...ผมลาล่ะนะ ขอบใจสำหรับทุกอย่าง ”
“ ไม่เป็นไรแค่หน้าที่น่ะ.. ”
เปรี้ยง~!! ผมก้าวลงจากเตียง กระเบื้องที่พื้นร้าวเป็นรอย
“ ฉันคิดว่าเพิ่งบอกไปนะ ..ว่าให้ระวังน่ะ! ”
“ ขอโทษ ” ผมผงกหัวขอโทษเธอ ขนาดนั้นเชียว..ผมหันกลับไปมองเตียงเหล็กขนาดใหญ่ที่ผมเพิ่งลงมา แบบนั้นถึงจะรับน้ำหนักเราตอนนี้ไหวสินะ..ผมเดินออกมา
________________________________________________
..ไปไหน ไม่รู้ต้องไปที่ไหน..
..เนิ่นนาน หลับไปนานขนาดไหนรึนายท่าน ถึงได้ทิ้งข้า..
..สายฝน โปรยกระหน่ำซ้ำเติมข้าใช่มั้ย..
..พวกมัน เพราะมันข้าถึงเป็นเช่นนี้..
“ อากาศเย็นเช่นนี้ท่านมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ขอรับ ” ใครบางคนมาหยุดอยู่ตรงหน้าและเอื้อมมือมา
“ ... ” ..ลังเล..แต่เอื้อมมือรับไปแล้ว
“ ท่านคงจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามากสินะครับ .. ผู้ฟื้นจากความตาย ”
“ ... ”
“ อยากฆ่าใช่ไหมล่ะ .. คนที่ฆ่าท่านน่ะ.. เคียดแค้นใช่ไหมล่ะ กับความทรมานที่ได้รับ มากับผมสิ.. ผมจะช่วยท่านแก้แค้นให้เอง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ อาร์สโกเอเทีย องค์กรเพชฌฆาตล่าอาชญากร ”
“ ก็ดี..เอาสิ! ”
(c)
Chess theme
ความคิดเห็น