ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY BOX

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 58




    CHAPTER 0 : Ruth  Theodor


    {Custos  Droid}

              “ อย่างที่คิดครับ..  ข้อมูลนั้นอยู่ในโกดังเขตเหนือครับท่าน.. ” เสียงกระซิบไร้ความรู้สึกพูดโต้ตอบกับใครบางคนผ่านบูทูธ 

              ปัง!..ปัง..!

              กระสุนสาดลงมาจากด้านบน...ร่างสูงวิ่งเข้าไปแนบตัวชิดกับผนังตึก  ..สไนเปอร์..พวกมันป้องกันหนาแน่นขนาดนี้เชียว  ถ้าเป็นแบบนั้น...พวกมันคงประสานกัน  และรู้แล้วแน่ว่ามีผู้บุกรุก!

              “ พวกมันรู้ตัวแล้วครับท่าน.. ”

              “ ..ครืดดดดดด..ครื-- ” สัญญาณปลายสายที่ฟังไม่ได้ศัพท์..ดักสัญญานสินะ

              มือหนากดตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง..เสี่ยงเกินไป รูธจัดการถอนเมมโมรี่และซิมการ์ดออกจากเครื่อง  แล้วทิ้งโทรศัพท์ลงพื้น..  เท้าขวาที่สวมรองเท้าคอมแบทยกขึ้นบดขยี้สมาร์ทโฟนอันบางแหลกไปได้อย่างง่ายๆ  นัยน์ตาฟ้าสดจับจ้องชิ้นส่วนในมือพลางกวาดตามองรอบๆ  ..ท่อระบายน้ำ..ผ่ามือที่กุมซิมการ์ดและเมมโมรี่อยู่แน่น  ขว้างชิ้นส่วนของซิมการ์ดในมือลงท่อระบายน้ำแม่นราวจับวาง  ...ยังไงก็ให้พวกมันรู้ถึงนายท่านไม่ได้... 

               รูธแนบตัวชิดกับผนังตึกใต้กันสาด..หลบเลี่ยงกระสุนสไนเปอร์จากดาดฟ้า  นัยน์ตาฟ้าสดจับจ้องกำแพงเหล็กสูงที่อยู่ไม่ไกล  ...ต้องกลับไปพร้อมข้อมูลนี่..อยากน้อยก็แค่ข้อมูล...  มือขวากำเมมโมรี่ไว้แน่น..  ข้างหน้ามีหน้าต่าง..  ลมหายใจเฮือกใจสูดเข้าเต็มปอด  เมมโมรี่การ์ดที่กำไว้แน่นถูกขว้างข้ามกำแพงเหล็กไป  ..เป็นระยะโด่งพอที่คนในห้องนั้นจะไม่เห็น..  ร่างแข็งแกร่งขยับตัวแนบผนังตึกลัดเลาะไปเรื่อยๆตามกำแพงตึก ..หวังเพียงห้องนั้นจะไม่มีใครอยู่..

                 บ้าเอ๊ย..!!  สงสัยจะไม่สมหวัง!

                 จังหวะนั้น..ลำคอถูกยึดแน่น  และกระชากเข้าไปด้านใน  ..ถูกจับซะแล้ว..  นัยน์ตาประสานกับคนที่ดึงตัวผมเข้ามาเพียงแวบเดียว...หมอนั้นก็ยกลำกล้องของสปริงฟิลด์ก็ฟาดเข้าอย่างแรงจนล้มลง  ของเหลวสีแดงไหลลงมา..เข้าหางตาเล็กน้อย  ผมสะบัดใบหน้าแรงๆเพื่อไล่เลือดที่ทำให้มองเห็นไม่ชัด..ยกหน้าเงยมองคนตรงหน้าราวกับตั้งใจจดจำไว้

                  “ จับมัน!..  อย่าให้ตายล่ะ ”  เพียงเจ้านั้นเอ่ย  ชายในชุดมิดชิดราวยี่สิบกว่าคนก็กรูกันเข้ามาในห้อง..

                  ผมดันตัวลุกขึ้น..  หมัดหนักเหวี่ยงเข้าที่แก้มซ้ายจนสะบัดไปตามแรงเหวี่ยง  แขนซ้ายขวาถูกล็อกไว้แน่นโดยพวกมัน  ผมงอตัวลงเพราะลูกถีบกลางลำตัว..  ทั้งหมัดทั้งเท้านับไม่ถ้วนซัดเข้ามาไม่หยุด  ..แต่..แต่สายตายังจับจ้องไปยังคนที่เดินออกไปจากห้องนี้  แม้ตาจะบวมช้ำแทบปิด..แม้เลือดจะไหลเข้ามาจนพร่ามัว  ..จะจดจำเอาไว้คนที่ลอบกัดนายท่าน..!!

    . . .

                  นัยน์ตาฟ้าสดค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ  ..แค่เปิดเปลือกตายังทำให้รู้สึกเจ็บ..  ผมกวาดสายตามองรอบๆ เท่าที่สายตาพร่ามั่วจะทำได้  ..โกดังมืดๆที่แสงส่องเข้ามาได้เพียงนิด..ลานปูนสกปรกๆ..  แขนทั้งสองข้างที่ถูกพันธนาการล่ามไว้ด้วยโซ่ในท่ายืน..  แค่จะขยับเพียงนิดยังเจ็บไปหมด...

                   “ ฟื้นจริงๆด้วย  ดีใจนะที่นายไม่ตาย..  ใครส่งแกมาที่นี่ ” ...เสียงนี้  เจ้านั้น...

                   ผมกระพริบตาไล่ความพร่ามั่วแล้วมองไปตามเสียง...  โต๊ะทำงานอย่างดีตั้งอยู่ไกลออกไป..เจ้านั้น..ผู้ชายคนนั้น  นัยน์ตาฟ้าสดจ้องมองไปราวกับโกรธแค้นมาแสนนาน

                   “ ว่าไง?..ใครส่งแกมา?  แล้วไอ้สายตาแบบนั้นมันอะไร!! ” ผมไม่เปิดปากพูดอะไร..มีเพียงเสียงตวาดของมันเท่านั้น

                   แปะ..แปะ..

                   เสียงปรบมือสองครั้งของเจ้านั้น..  เรียกให้ชายในชุดมิดชิดกลุ่มเดิมเข้ามายืนกระจายกำลังไปรอบๆพื้นที่

                   “ บอกมา...ไม่งั้นแกตาย! ” เสียงเดิมตวาดอีกครั้ง

                    “ แกมีศัตรูนับไม่ถ้วน..จนไม่รู้ว่าถูกใครเล็งอยู่เลยสินะ..แค่กๆ ”      
                     ผมคั้นเสียงพูด..แล้วถ่มเสมหะและเลือดที่เหนียวพันอยู่ในลำคอออกมา...สายตายังจับจ้องมันด้วยความแค้น

                    “ เหอะ..ปากดี!! ลงโทษมันจนกว่ามันจะบอกว่ามันเป็นคนของใคร ” เจ้านั้นเค่นหัวเราะแลัวหันหลังไป  ..เห็นเพียงเส้นผมที่โผล่พ้นพนังเก้าอี้หนังเท่านั้น

                    ชายในชุดมิดชิดกรูเข้ามารุมทำร้ายอีกครั้ง..เนิ่นนาน..เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้เลย  ..จนกระทั่งชายชุดสูทนั้นเดินออกไป  ทั้งหมัดทั้งเท้าที่รุม..ถาโถมเข้ามา  ความเจ็บปวดที่แม้แต่จะร้องยังร้องไม่ออก...แค่เพียงขยับนิดเดียวก็เจ็บไปทั่วร่างกาย  หากไม่ได้ถูกตรึงไว้ด้วยโซ่แล้วล่ะก็..แม้แต่แรงยืนคงไม่มี...

                   
                     สามวันต่อมา..

                   
                     “ ไม่ตลกแล้วนะ  จะไม่บอกจริงๆสินะว่าใครส่งแกมา ” เสียงตวาดเดิมๆที่น่ารังเกียจดังขึ้นปลุกให้รู้สึกตัว..

                     ลำคอแห้งผาก..  ไม่มีแม้แต่แรงเปิดปากโต้ตอบ  ร่างกายที่เริ่มซูบลง...  ทั้งอาหารหรือแม้แต่น้ำที่ไม่เคยตกถึงท้องในช่วงสามวันที่ผ่านมา  แปลกใจตัวเองจริงๆที่ยังไม่ตาย  ..เดินมาแล้ว...เจ้านั้นเดินตรงเข้ามา  จับคางผมให้เงยขึ้น  ผมสบตากลับอย่างไม่ได้เกรงกลัว

                      “ ไม่ตอบเรอะ..?  หรือคำตอบของแกคือตาย  ..อยากตายจริงๆใช่มั้ย..?  อย่าคิดว่าชั้นไม่กล้าล่ะ!! ”  น้ำเสียงของมันครั้งนี้ฟังดูเยียบเย็น..ทว่าปกปิดความโมโหไว้ไม่มิด  ใบหน้าส่วนล่างที่มันจับอยู่ถูกบีบอย่างแรง...  จนทั้งแก้มทั้งกรามเจ็บไปหมด  หากตายตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว..เมมโมรี่การ์ดนั้น  ป่านนี้คงไปถึงท่านผู้นั้นแล้ว

                      “ ฆ่าชั้นสิ.. ”  ผมเค้นเสียงออกมา...พร้อมส่งสายตาท้าทายมัน

                      “ ปลดโซ่ออก ”

                      โซ่ที่ตรึงผมอยู่ถูกปลดออก..  สองขาที่ไร้เรี่ยวแรงล้มลงอัตโนมัติ  เจ้านั้นกระชากคอเสื้อผมขึ้นมายืนดังเดิม  ปืนรูเกอร์  เอ็ม.เค.  สอง  ถูกควักขึ้นมาจ่อขมับผม  แล้วไล้ลงตามกรอบหน้าไปจ่อใต้คาง..  ไกปืนถูกปลดออก  มืออีกข้างของมันคว้ามือของผมให้จับปืนไว้  ..จะสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนฆ่าตัวตายรึไง?

                      “ อยากตายนัก...ชั้นก็จัดให้ได้ตายสมใจ... ”

                      มือของผมเหนียวไกปืนจ่อคอตัวเองอยู่..โดยมีมันจับไว้อีกที  ถ้ามีแรงซักหน่อยทิศทางปืนคงเปลี่ยนทางได้ไม่ยาก  แต่สำหรับตอนนี้..ไม่เลย..หึหึ..  จากองศานี้...กระสุนจะผ่านหลอดลม..กล่องเสียง..ช่องปาก..สมอง..และทะลุกระโหลก  เลือกตำแหน่งได้ไม่เลวจริงๆ  ..มือของมันกดให้ผมลั่นไก..

                       ..เจ็บ..เจ็บมากจนอยากจะกรีดร้อง..แต่ทำไม่ได้เพราะกล่องเสียงคงขาดไปแล้ว..  ความรู้สึกเจ็บจากกระสุนที่วิ่งผ่านสมองทะลุกะโหลกออกไปมันเจ็บขนาดนี้นี่เอง...นี่คือ...ความรู้สึกของคนกำลังจะตายสินะ...


    .  .  .

    .  .

    .

                      นัยน์ตาฟ้าสดเบิกโพลงขึ้น...ฝันร้าย...  ไม่...มันแจ่มชัดราวกับเรื่องจริง  ใช่...ผมตามไปแล้ว  มือหนายกขึ้นลูบแก้มตัวเอง  ..ศรีษะนี้ที่เคยแหลกกระจายไปเพราะกระสุนปืน..  ..โรงพยาบาลงั้นเหรอ?..  ผมกลอกตามองรอบๆ  ..ดูเหมือนห้องวิจัยอะไรมากกว่า 

                       “ ไม่ได้เจ็บปวดอะไร.. ” เสียงแหบพร่าของตัวเองพึมพำแล้วดึงสายระโยงระยางที่เชื่อมกับตัวเองออก

                       ปัง!  ประตูเปิดออก

                       “ ตื่นขึ้นมาจนได้นะ รูธ ”  ผมจำเธอได้.. ผู้หญิงที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในห้องคือดร.โครีย์

                       “ สวัสดี ” ผมลุกขึ้นนั่งคุยกับเธอในท่าที่ที่สบายๆ

                       “ เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่านายตายไปแล้ว ”  ผมเลิกคิ้วมองเธอแล้วหันกลับมาสำรวจตัวเอง

                       “ ก็คงเป็นแบบนั้น ” ผมตอบกลับไป

                       “ นายทำงานได้ดีนะ  แต่.. ” ผมหันขวับไปมองเธอ

                       “ เกิดอะไรขึ้น!?

                       “ มันนานเกินไปที่นายหลับ..  ฉันรู้..ฉันมีส่วนผิดที่หาไขกระดูกไม่ได้ ”

                       “ เข้าเรื่องได้แล้ว..โครีย์ ”

                       “ มันไม่มีแล้วตำแหน่งของนาย...ท่านผู้นั้นคิดว่านายกลับมาไม่ได้แล้ว ”

                       “ ... ”

                       “ นายท่านไปแล้ว..ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย  และฉันเสียใจจริงๆที่จะต้องบอกว่านายถูกไล่ออก ”

                       “ เฮ้อ... ”  มีเพียงเสียงหายใจเฮือกใหญ่หลุดออกมาจากผม

                       “ นายควรรู้ไว้...นายคือร่างโคลนนิ่งของรูธ  ธีโอดอร์ อวัยวะทั้งหมดได้รับการปลูกถ่ายจากชิ้นส่วนมนุษย์  ส่วนดีเอ็นเอและความทรงจำที่ปลูกถ่ายลงไปเป็นของรูธ ธีโอดอร์  ยกเว้น...ส่วนของข้อต่อและกระดูกเราหาให้ไม่ได้  มันถูกทดแทนด้วยเหล็ก  การใช้ชีวิตต่อจากนี้...นายควรระมัดระวังการใช้แรงให้น้อยกว่าคนปกติ  ..หลายเท่าเชียวล่ะ ”

                       “ ที่จะบอกมีแค่นี้ใช่มั้ย? ”

                       “ อ่า.. ” เธอพยักหน้าตอบ

                       “ งั้น...ผมลาล่ะนะ  ขอบใจสำหรับทุกอย่าง ”

                       “ ไม่เป็นไรแค่หน้าที่น่ะ.. ”

                       เปรี้ยง~!!  ผมก้าวลงจากเตียง  กระเบื้องที่พื้นร้าวเป็นรอย

                       “ ฉันคิดว่าเพิ่งบอกไปนะ ..ว่าให้ระวังน่ะ!

                       “ ขอโทษ ”  ผมผงกหัวขอโทษเธอ  ขนาดนั้นเชียว..ผมหันกลับไปมองเตียงเหล็กขนาดใหญ่ที่ผมเพิ่งลงมา  แบบนั้นถึงจะรับน้ำหนักเราตอนนี้ไหวสินะ..ผมเดินออกมา

    ________________________________________________


    ..ไปไหน  ไม่รู้ต้องไปที่ไหน..

    ..เนิ่นนาน  หลับไปนานขนาดไหนรึนายท่าน  ถึงได้ทิ้งข้า..

    ..สายฝน  โปรยกระหน่ำซ้ำเติมข้าใช่มั้ย..

    ..พวกมัน  เพราะมันข้าถึงเป็นเช่นนี้..

     

                    “ อากาศเย็นเช่นนี้ท่านมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ขอรับ ”  ใครบางคนมาหยุดอยู่ตรงหน้าและเอื้อมมือมา

                    “ ... ”  ..ลังเล..แต่เอื้อมมือรับไปแล้ว

                    “ ท่านคงจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามากสินะครับ .. ผู้ฟื้นจากความตาย ” 

                    “ ... ”

                    “ อยากฆ่าใช่ไหมล่ะ .. คนที่ฆ่าท่านน่ะ..  เคียดแค้นใช่ไหมล่ะ  กับความทรมานที่ได้รับ  มากับผมสิ.. ผมจะช่วยท่านแก้แค้นให้เอง  ยินดีต้อนรับเข้าสู่ อาร์สโกเอเทีย  องค์กรเพชฌฆาตล่าอาชญากร

                    “ ก็ดี..เอาสิ!

     




    (c) Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×