คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ปาฏิหาริย์รักคืนคริสมาสต์ (ต่อ)
3
ปาฏิหาริย์รักคืนคริสมาสต์ (2)
“ไหนล่ะขนมเค้กของฉัน...อะไรกัน คริสมาสต์ปีนี้ก็ไม่ได้กินเค้กอีกแล้วเหรอเนี่ย”
เคนตะบ่นปอดแปดเมื่อเทปเปกลับมาตัวเปล่า ไร้ซึ่งขนมเค้กที่เขาคาดหวัง ไคโตะเดินมาจับไหล่ของเคนตะเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เคนตะ ตาสีน้ำตาลนั้นตวัดขึ้นมองเทปเปด้วยสายตาที่จ้องจับผิด
“สีหน้านายดูไม่ค่อยดีเลย เกิดอะไรขึ้น”
“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอก อย่าห่วงเลย”
“เทตจัง...อิจิโกะจังว่ายังไงบ้างล่ะ”
เคนตะถามซ้ำตอกย้ำความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจของชายร่างเล็ก หากแต่เขาก็ยังคงซ่อนความปวดร้าวนั้นไว้ภายใต้รอยยิ้ม เพื่อนๆ ทั้งสองเองก็รู้แล้วว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเทปเปเพราะดูจากสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไป แต่พวกเขาก็คิดว่าคงเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หากเทปเปยังคงยิ้มได้อยู่ พวกเขาก็ไม่ร้อนใจเท่าไรนัก
“เมื่อกี้ฉันเจอผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งกำลังหลงทางอยู่ เขาน่าสงสารมากเลยล่ะเคนจัง จะว่าไปแล้วฉันก็อดเป็นห่วงคู่หมั้นของนายไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับไปถึงบ้านรึยังนะ”
เทปเปบอกพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่งตรงข้ามกับไคโตะ แต่เมื่อไคโตะได้ยินเทปเปพูดถึงมีมี่ เขาก็ลุกขึ้นมาตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโห
“ยัยนั่นจะเป็นยังไงก็ช่างมันสิ เกี่ยวอะไรกับเราล่ะ”
“ไม่เอาน่าไคโตะ เทตจังก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยอะไรหรอก”
ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจในพฤติกรรมแปลกประหลาดของไคโตะ แต่สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้ก็คือการห้ามทัพไม่ให้ไคโตะกับเทปเปทะเลาะกัน
“คู่หมั้นของเคนจังจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ผู้หญิงที่ฉันไปเจอมาเธอน่าทึ่งมากเลยล่ะ ฉันประทับใจเธอจัง จะมีสักกี่คนนะที่กล้าทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคแบบเธอ”
“อา...น่าชื่นชมจริงๆ ”
“ใช่มั้ยล่ะ เธอเดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อมาตามหาคนรักของเธอเลยนะ แล้วก็เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคความรักนั้นไปด้วย ฉันว่ามันสุดยอดมากเลยล่ะ ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในหัวใจของเธอคนนั้น...พรุ่งนี้เรามาช่วยให้เธอส่งผ่านมันออกไปถึงคนที่เธอรักกันเถอะนะ”
เทปเปบอกเสียงใส แม้ในแววตาคู่นั้นจะเจือปนไปด้วยความเศร้าก็ตาม
และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เบื้องล่างเวทีนั้นแน่นขนัดไปด้วยผู้คน สาวๆ แฟนคลับของวง KKT ต่างส่งเสียงกรี๊ดกันสุดเสียงเพื่อต้อนรับการมาเยือนของชายหนุ่มทั้งสาม มีมี่กอดกระเป๋าเดินทางไว้แน่นและพยายามอยู่ตรงหน้าเวที ต้องเบียดแย่งกับเหล่าแฟนคลับคนอื่นๆ เพื่อจะได้เห็นหน้าว่าที่คู่หมั้นใกล้ๆ
ตายแน่!~ ฉันจะฆ่าปาดคอแล้วรินเลือดแกให้เป็ดกิน ทันทีที่ฉันเจอแกเลยล่ะ นังเคนตะ!
แล้วแสงไฟก็ค่อยๆ หรี่ลงจนมืดสนิท ไอหมอกบางๆ พวยพุ่งบนเวทีที่เริ่มสลัวด้วยแสงไฟเพียงน้อยนิด ชายหนุ่มเสื้อสีเทาค่อยๆ เดินออกมาช้าๆ ดูแล้วเหมือนเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างซาตานกับเทพบุตร เขาช่างสง่างามราวกับเจ้าชายในเทพนิยาย เจ้าชายคนนั้นเลื่อนเก้าอี้เปียโนออกและนั่งลงบรรเลงเพลงอย่างนุ่มนวล สะกดให้มีมี่และสาวๆ ตกอยู่ในภวังค์ ราวกับโลกใบนี้มีเพียงเขาและพวกเธอเท่านั้น
แต่มนตร์สะกดก็สิ้นสุดลงเมื่อสองหนุ่มชุดขาวและดำผสานเสียงร้องเพลงที่แสนจะไพเราะออกมาจากมุมทั้งสองข้างของเวที ยิ่งกว่าเวทมนตร์ร้ายกาจที่สะกดพวกเธอไว้เมื่อครู่มากมายหลายเท่า ราวกับมีกามเทพตัวน้อยแผลงศรมาปักอก
มีเพียงมีมี่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่หลงเคลิ้มตกอยู่ในมนตร์สะกดแห่งเสียงเพลงของพวกเขา คงเป็นเพราะเธอฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออก และความโกรธที่มีอยู่ในหัวใจมากเกินไป....เมื่อชายหนุ่มชุดดำว่าที่คู่หมั้นของเธอโผล่ออกมาจากมุมของเวที เพลงเพราะๆ ก็ไม่เพราะอีก เธอจ้องมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่กินเลือดกินเนื้อมันก็ไม่พอสำหรับเธอ ถ้าทำได้เธอคงจะเอากระดูกของเคนตะไปต้มยำด้วยแน่ๆ
ฝ่ายเทปเปที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีก็กวาดสายตาหามีมี่ด้วยความเป็นห่วง
ยัยเพี้ยนนั่นจะเจอคนที่ตามหารึยังนะ...ถ้าหากว่ายังไม่เจอ เธอจะรอเขาคนนั้นอยู่รึเปล่า
ดวงตาสีน้ำตาลของชายร่างเล็กหยุดที่มีมี่ เขามองคนข้างๆ ของเธอด้วยความหวังว่าเธอจะได้เจอชายคนรักแล้ว หากแต่คนข้างๆ ของยัยจอมเพี้ยนผู้ขอพรจากต้นคริสมาสต์นั้นกลับกลายเป็นหญิงสาวแฟนคลับของพวกเขาเอง มีมี่เริ่มกำหมัด ปากอวบอิ่มนั้นเม้มแน่น เธอมองจิกไปที่เคนตะเหมือนคนโกรธกันมา 18 ชาติ เทปเปได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ภายใน และยังคงร้องเพลงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มต่อไป
ไว้คอนเสิร์ตเลิกแล้ว ค่อยแวะไปหาเธอก็แล้วกัน
“กรี๊ดดดดดด! We love you, KKT!!!!”
เสียงสาวๆ ที่ดังกระหึ่มกลบความเงียบเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคอนเสิร์ตใกล้จบลงแล้ว ชายหนุ่มทั้งสามคนต่างโค้งตัวให้ผู้ชมท่ามกลางหยาดน้ำตาจากสาวๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังเวที
“เทปเป นายเป็นอะไรรึเปล่าวันนี้ดูเหม่อๆ นะ” เคนตะทักเมื่อเห็นอาการผิดปกติของเพื่อน
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ฉันเห็นผู้หญิงคนเมื่อวานด้วยแหละ เธอยังไม่เจอคนรักของเธอเลย”
“แย่จังนะ แต่เธอต้องเจอแน่ๆ นายอย่าเป็นห่วงเลย โตแล้วไม่ใช่เหรอ เอาตัวรอดได้อยู่แล้วล่ะ”
“นั่นสินะ ฉันคงกังวลมากไปเอง”
“ปล่อยฉันนะ ไอ้พวกบ้า! ฉันจะไปฆ่ามัน ปล่อยช้านนนน”
มีมี่กรีดร้องโวยวายลั่นเมื่อเธอถูกพวกสต๊าฟกักตัวไว้ไม่ให้เข้าไปหาพวกเคนตะ ทั้งสามคนก็ต่างตกใจที่มีเสียงเอะอะโวยวายแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก มีมี่เห็นเคนตะไม่สนใจก็วีนแตก เธอผลักพวกสต๊าฟออกและเดินอาดๆ เข้าไปหาพวกเขาที่ยืนกันอยู่คนละมุมแต่เป้าหมายนั้นคือเคนตะ เทปเปที่เคยเจอมีมี่มาแล้วเมื่อได้เห็นท่าท่างน่ากลัวแบบนี้ของมีมี่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ความทรงจำมากมายเกี่ยวกับตัวเธอไหลเวียนเข้ามาในหัวสมองให้ประมวลผล
‘หนอยแน่! นังเคนตะ ฉันจะกะซวกไส้แกให้เป็ดกิน โทษฐานทำร้ายจิตใจคนสวย’
‘ฉันมาที่นี่เพื่อผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันหลงรัก และเพื่อกำจัดผู้ชายอีกคนที่เป็นตัวขัดขวางความรักของฉัน’
เธอเริ่มกำหมัด ปากอวบอิ่มนั้นเม้มแน่น ดวงตานั้นมองจิกไปที่เคนตะเหมือนคนโกรธกันมา 18 ชาติ.....
ไม่ผิดแน่! ถ้าเคนตะไม่ใช่คนรักที่เธอตามหา เขาก็คือผู้ชายที่เป็นตัวขัดขวางความรักของเธอ แย่ละสิ! ยัยเพี้ยนนี่ได้เชือดเคนตะแน่
ไม่รอช้าเทปเปรีบวิ่งเข้ามาขวาง ไคโตะเองก็รีบเดินเข้ามาหาเธอเช่นกัน เขาไม่มีทางลืมหน้าตาของคนที่เป็นคู่หมั้นของเคนตะหรอก มาถึงนี่ได้ก็ถือว่าเก่งมาก แต่อย่าได้คิดนะว่าผ่านแผนนี้มาได้แล้วเขาจะยอมยกเคนตะให้ มันไม่มีทาง!
มีมี่หลับหูหลับตาตรงหรี่เข้ามาก็วาดมือตบเคนตะทันที หากแต่ว่าคนที่มาขวางไว้คือเทปเปเพราะฉะนั้นเทปเปจึงโดนลูกตบเข้าไปเต็มๆ หน้า แต่เพราะมีมี่หลับตาพยายามเก็บอารมณ์อยู่จึงไม่รู้ว่าคนที่ถูกเธอตบนั้นคือชายร่างเล็กหวานใจเธอ
ตบได้ครั้งหนึ่งก็ดูเหมือนจะได้ใจ มีมี่จึงกระชากคอเสื้อของเขามาแล้วก็กระหน่ำทุบตีเขาอีก
ตายๆๆๆๆ ตายไปด้วยฝ่ามืออรหันต์ของฉันนี่แหละ!
“ยัยบ้า!”
ไคโตะกระชากฝ่ามือของมีมี่ออกพร้อมกับผลักเธอจนเซไปติดขอบเวที นั่นจึงทำให้เธอได้สติและรู้ตัวว่าตัวเองทำร้ายผิดคน
“หวาย! เทปเปซัง...ขอโทษค่ะ”
เธอพูดด้วยภาษาญี่ปุ่น แค่คำง่ายๆ ที่จำมาจากในการ์ตูน ก็ทำให้เทปเปอึ้งได้เหมือนกัน
ไหนว่าพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ไงฟะ?....
“ครับ” เขาตอบรับสั้นๆ เมื่อกี้เธอเรียกชื่อเขาใช่ไหม...งั้นก็แปลว่าเธอรู้มาตลอดเลยน่ะสิว่าเขาเป็นใคร แล้วทำไมถึงไม่พูดกันนะ
“เทป...เป กรี๊ด! เทปเปตัวเป็นๆ คนสวยจะเป็นลม โอ๊ย!”
และเพราะอาการดี๊ดาลืมตัวของมีมี่ก็ทำเอาสามหนุ่มยืนงงกับท่าทีของเธอ เคนตะที่ยืนอึ้งอยู่แล้วก็ยืนอึ้งต่อไป ไคโตะที่จ้องจะแหกอกมีมี่ก็งงกับพฤติกรรมบ๊องๆ ส่วนเจ้าตัวเทปเปเองก็พูดไม่ออกเลยทีเดียว อะไรของเขานะผู้หญิงคนนี้
“เฮ้ย! เทปเปซังคือคุณคนเมื่อวานเหรอคะ”
มีมี่หลุดถามเป็นภาษาไทยเลยทำให้เทปเปงง ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อมีมี่ได้มองหน้าเทปเปชัดๆ ใกล้ๆ แล้ว เธอก็รู้ทันทีว่าเขาคือผู้ชายที่มาช่วยเป็นแสงนำทางให้เธอ
“คุณหาคนรักของคุณเจอรึยังครับ”
เทปเปถามเป็นภาษาอังกฤษด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม มีมี่จึงได้สติอีกครั้ง
“เจอแล้วค่ะ เจอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“อะไรกัน...เธอรู้จักเทปเปมาก่อนแล้วอย่างนั้นเหรอ”
ไคโตะถามเธอด้วยภาษาไทย เทปเป เคนตะ และมีมี่ต่างก็แปลกใจ
“นายเป็นใคร...แล้วอีตาบ้าเคนตะมันมัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มาหาฉัน”
มีมี่ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลยว่าคำพูดของเธอจะทำให้ไคโตะปรี๊ดแตก เขาผลักอกเธออย่างแรงพร้อมกับตะโกนใส่หน้า
“อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน! คนอย่างเธอมันไม่มีค่ามากพอหรอก”
“อะไรของนาย...”
มีมี่ไม่ใส่ใจคำพูดของไคโตะเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงแค่ลมปากที่ผ่านเข้าหูซ้ายแล้วก็ทะลุหูขวาไม่ได้ซึมซับเข้าไปในหัวสมอง เธอตรงเข้าไปหาเทปเปที่ยืนงงด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสผิดกับตอนอยู่หน้าเวที (และเมื่อวาน) ลิบลับ
“ออกมาจากเพื่อนฉันเลยนะ ที่ไทยไม่มีผู้ชายให้ใช้รึไงถึงถ่อมาหาที่นี่เนี่ย”
คำพูดเพียงประโยคเดียวของไคโตะทำให้มีมี่สะอึก เธอหันขวับไปประจัญหน้ากับเขา
“ที่ไทยก็มีผู้ชายนะ แต่ฉันอยากสอยเพื่อนนายไปใช้มากกว่า”
คำพูดของมีมี่ก็ทำให้ไคโตะสะอึกไปเช่นเดียวกัน ถ้าจะพูดถึงความแรงแล้วมันก็คงแรงพอๆ กันนั่นแหละ มีมี่เองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมใคร ยิ่งมาเจอผู้ชายแรงๆ แบบนี้ด้วยแล้ว การกำจัดว่าที่สามีในครั้งนี้ก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ เพราะมันจะไม่ใช่แค่การกำจัดนายเคนตะคนเดียวอีกต่อไปแล้ว
โทรศัพท์มือถือของเคนตะสั่นอย่างน่ากลัว เขารีบกดรับมันอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ดูว่าเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอนั้นเป็นเบอร์ของใคร
“โมชิ โมชิ”
(แกไม่ได้ไปรับมีจังใช่มั้ย) เสียงจากปลายสายของเซจิโร่ตอบกลับมาอย่างน่ากลัว
“เอ่อ...” เขาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะรับมือกับลุงเซจิโร่ของเขาอย่างไรเมื่อลุงรู้ความจริง
(ทำไมแกทำอย่างนี้ฮะ แกทิ้งผู้หญิงตัวเล็กๆ ไว้ที่สนามบินคนเดียวได้ยังไง เธอไม่ใช่คนที่นี่นะ ทำอะไรทำไมไม่คิดบ้าง มีจังพูดภาษาเราไม่ได้ด้วย...ไอ้เด็กบ้า แกไปตามหามีจังมาเลยนะ ถ้าไม่เจอไม่ต้องกลับมาพบฉัน!)
“เธออยู่กับผมแล้วครับ”
(ดี คอนฯ เลิกแล้วใช่มั้ย งั้นพาเธอกลับมาพบฉันที่บ้านเดี๋ยวนี้เลย)
พูดจบสายก็ถูกตัดไป เคนตะถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินเข้ามาหามีมี่
“มีมี่จัง...ป๋ม..ขอโทษ”
เคนตะพยายามปั้นคำขอโทษเป็นภาษาไทย มันค่อนข้างจะลำบากสำหรับชาวญี่ปุ่นอย่างเขา แต่เขาก็พูดออกมาได้ชัด
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ถ้านายไม่ทิ้งฉันไว้ที่นั่น ฉันก็คงไม่ได้เจอเทปเปซัง แล้วเราก็คงไม่ได้เดินอยู่ภายใต้แสงไฟหลากสีของต้นคริสมาสต์ในคืนคริสมาสต์อีฟด้วยกันหรอก อ๊ายยย...พูดแล้วเขิน ขอบคุณนะคะเคนตะซัง”
ได้ทีมีมี่ก็พล่ามเป็นภาษาไทยซะยาว แต่ก็ไม่มีใครฟังเธอออกนอกจากไคโตะ ยิ่งได้ฟังมีมี่พูด เขาก็ยิ่งขุ่นเคืองใจ หมั้นกับเคนตะไปแล้วแท้ๆ ยังจะมาดี๊ด๊ากับเทปเปอีก ผู้หญิงอะไรน่ารังเกียจซะไม่มี
“ไคคุง ช่วยพูดให้เธอมาอยู่กับฉันได้มั้ย” เคนตะบอกไคโตะที่ยังคงปั้นหน้ายักษ์ใส่มีมี่
“อะไร! ทำไมต้องให้ยัยนี่ไปอยู่กับเคนตะด้วย ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นหรอก”
“ไม่ได้นะ ถ้ามีมี่ไม่มาอยู่กับฉัน ลุงเซจิโร่ฆ่าฉันทิ้งแน่ๆ ”
“เธอคือมีมี่จังใช่มั้ย”
เทปเปหันมาพูดกับมีมี่พร้อมกับส่งยิ้มหวานละลายใจให้เธอ มีมี่ได้แต่ฉีกยิ้มตอบ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบไป ร่างบางล้มเซไปทางชายร่างเล็ก เทปเปรับร่างของเธอไว้ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง
แค่ยิ้มให้นิดเดียว ถึงกับเป็นลมไปเลยเหรอเนี่ย ^^ ผู้หญิงคนนี้ แปลกดีจริงๆ
ความคิดเห็น