ตอนที่ 45 : เรื่องของดาว the series - 02 ดาวเป็นผีขึ้หึง - Halloween day
- 02 ดาวเป็นผีขึ้หึง –
“พี่ แต่งหน้าให้หน่อยดิ”
เสียงของเด็กตัวสูงที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่มีผ้าขนหนูสีเทาคาดเอวเอาไว้แค่นั้น หยดน้ำมากมายที่เกาะพรายตามผิวขาวทำให้ผิวของหลินน่าดูมากกว่าเวลาปกติเสียอีก ดอนผงกหัวออกมาจากกองหมอนใบโตหรี่ตาแฟนหนุ่มที่กำลังใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กอีกผืนขยี้เส้นผมที่เปียกลู่
“จะไปไหน?” ถามแค่นั้น เพราะตอนนี้สมองของเขายังประมวลผลได้ไม่ดีนัก รู้แค่ว่าน้องบอกให้แต่งหน้าให้ แต่งทำไมวะ
“พวกเพื่อนมันชวนไปปาร์ตี้ฮาโลวีนที่ค่ำคืน ตอนแรกจะให้ดี๊มาแต่งหน้าให้แต่มันขี้แตกไม่ได้ไปละ” หลินอธิบายพร้อมกับค่อยๆ ย่องขึ้นเตียงทั้งๆที่ตัวยังเปียกอยู่ เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยห้ามเวลาเขาจะออกไปเที่ยวกลางคืนหรือไปไหนแต่แค่ขอให้บอกเพราะจะได้ตามถูกเวลาหายไปนานๆ มือขาวคว้าเอาหมอนใบโตที่บังใบหน้าของอีกฝ่ายออกก่อนจะโน้มตัวลงไปกดจูบที่ริมฝีปากบางย้ำๆ ซักสองสามทีก่อนจะผละออกไปเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อย แต่กลับโดนมือผีดึงให้ล้มลงไปกองที่เตียงอีกครั้ง เด็กหนุ่มตาโตเมื่อเห็นผ้าห่มและผ้าปูที่นอนเปียกหยดน้ำที่เกาะตามตัวของตน เลยลงโทษเจ้าของมือผีด้วยการดีดหน้าผากเข้าไปอย่างแรงหนึ่งดอกด้วยความหมั่นไส้
“เตียงเปียกหมดแล้ว เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” เอ็ดแฟนไปก่อนจะพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่กลับถูกอีกคนใช้แขนรั้งเอวและดึงเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้งก่อนจะกดจมูกโด่งลงไปบนแก้มนุ่มๆ ของคนน่ารัก สูดดมความหอมของกลิ่นสบู่ประจำตัวที่ตอนอยู่บนตัวของเขาไม่เห็นจะหอมหวานเท่ากับหลินเลย
“ขอหอมหน่อย เดี๋ยวแต่งหน้าให้เด้งๆ เลย” พูดไปพร้อมกับคลอเคลียลำคอหอมของอีกคน ไรหนวดสากถูไถไปกับผิวขาวจนเกิดความรู้สึกวูบหวามอย่างที่ดอนตั้งใจ จนเด็กหนุ่มทนไม่ไหวต้องใช้มือดันใบหน้าอีกคนออกห่างก่อนที่อะไรมันจะเกินเลยไปมากกว่านี้
ใครบอกว่าพี่ดอนเป็นตุ๊ดวะ แม่ง...
“พอก่อน เดี๋ยวจะไปไม่ทันทุ่มครึ่งแล้วนะพี่”
เมื่อเห้นสีหน้างอแงของแฟนหนุ่ม ดอนจึงยอมปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระจากอ่อมกอดของตน และลุกออกจากที่นอนเพื่อล้างหน้าให้สร่างจากอาการเมาขี้ตา พอเดินออกมาจากห้องน้ำก็เจอน้องหลินที่อยู่ในชุดกางเกงสีเข้มกับเสื้อกล้ามคว้านลึกสีขาว ในมือมีเฟอร์สีรุ้งพร้อมกับเขายูนิคอร์นสีขาวมุกเลยพอจะเดาออกมาวันนี้แฟนของเขาอยากจะแต่งตัวเป็นอะไร
“ไม่แต่งเป็นแวมไพร์ไปกัดคอสาวๆ วะ” ดอนเอ่ยถามพร้อมกับดึงอีกคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนเข้ามาหาตนใกล้ๆ เพื่อที่จะแต่งหน้าได้ถนัด เครื่องสำอางสีพาสเทลต่างๆ ที่หลินไปยืนมาจากดี๊ด๊าเพื่อนสาวของน้องวางอยู่บนเตียง ดอนกวาดตามองเพื่อวางแผนว่าควรใช้อะไรก่อนหลัง ก่อนจะหยิบคุชชั่นของน้องที่วางไว้หน้ากระจกมาก่อนอันดับแรก ผิวหน้าของหลินเนียนและใสมากจนเขาไม่ต้องทาอะไรให้ปกปิดมากมาย ต่อให้หน้าสดก็ยังดูดีมากๆ อยู่ดี
“ไม่เอาอะ แวมไพร์คือคิดไรไม่ออกแล้ว อีกอย่างถ้าแต่งไปคือได้เมียกลับมาแน่เดี๋ยวผัวโวยวาย”
“หลินจะแต่งแบบไหน” ดอนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามความเห็นก่อนที่จะลงมือไปมากกว่าลงคุชชั่น
“ก็.. เอาน่ารักๆ ก็ได้ แต่ไม่แต๋วนะพี่”
“จริงๆ ก็น่ารักอยู่แล้ว ไม่ทาไม่แต่งไม่ใส่อะไรก็น่ารัก”
“ทะลึ่งละพี่ดอน” หยิกแขนล่ำๆ นั่นไปหนึ่งที ก่อนจะยิ้มบางออกมาเพราะคำหยอดเย้าของอีกฝ่ายที่ส่งมาแบบไม่ทันตั้งตัว แก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายหลินหลับตาพริ้มพร้อมที่จะให้แฟนหนุ่มละเลงสีสันบนใบหน้า
ต่างฝ่ายต่างเงียบปล่อยให้เพลงที่หลินเปิดค้างเอาไว้ร้องวนไปเรื่อยๆ แบบนั้น ใบหน้าหวานที่ถูกแต่งแต้มสีสันมากมายดูน่ารักและโดดเด่นขึ้นมามากกว่าเดิม ดอนถอยหลังเล็กน้อยเพื่อออกมาชื่นชมผลงานของตัวเอง
“ลืมตาดิ๊หนู” น้องหลินลืมตาขึ้นมาก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสภาพการมองเห็น ดวงตากลมโตหวานฉ่ำมากกว่าเดิมเพราะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสวยงามโดยเน้นไปที่ฟ้าชมพูขาววิ๊งๆ แบบที่ม้ายูนิคอร์นควรมี ฟาดหัวตาด้วยไฮไลท์หนังปลาทูหนักๆ แต่ดันไม่ออกมาเป็นพริตตี้รถบั้มเพราะมันดูน่ารักและน่ากอดมากกว่า ริมฝีปากถูกแต่งแต้มด้วยลิปกรอสแวววาวทำให้ปากดูอิ่มเอิมน่าจุ๊บ ส่วนแก้มป่องด้านซ้ายถูกละเลวสีลมไปเป็นลวดลายสวยงามแต่ดูเหมือนว่ามันนจะยังขาดอะไรไปอีกนะในความคิดดาว...
ดอนดึงลิ้นชักใต้โต๊ะเครื่องแป้งออกมาก่อนจะค้นหาขวดกางเพชรสำหรับแต่งหน้าที่ซื้อเอาไว้เมื่อหลายเดือนที่แล้วที่เอามาแต่งหน้าในรุ่นน้องที่วิทลัย
“หลับตาดิ๊หนู” สั่งให้ยูนิคอร์นตัวน้อยหลับตาเพราะกลัวว่าถ้าโรยฟาดกากเพชรทั้งๆที่ตากลมยังเบิกอยู่จะทำให้เศษกากเพชรเล็กๆ ปลิวเข้าตาน้องเปล่าๆ หลินหลับตาพริ้มอย่างว่าง่ายริมฝีปากเล็กขมุบขมิบบ่นว่าแต่งหน้านานกลัวจะไม่ทันเวลาที่นัดกับเพื่อน แต่ดอนก็เลือกที่จะเมินเสียงแมวเหมียวของน้องไป
มือใหญ่จัดการแตะกลิตเตอร์กากเพชรลงไปที่กรอบหน้าของน้องตามความเหมาะสม เรียกได้ว่าถ้ามีไฟส่องกระทบเมื่อไหร่คนที่มองมีหวังได้ตาแตกหลุดออกมากเบ้าแน่นอน เพราะยูนิคอร์นตัวผู้ตัวนี้ทั้งน่ารักและกลิตเตอร์เยอะแบบแม่เจ้ามากๆ
“พอยังเจ๊” เสียงอู้อี้ของน้องพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ปากนุ่มๆ ถูกอีกฝ่ายขโมยจุ๊บในทันที หลินลืมตาขึ้มามองอีกฝ่ายด้วยความงงงวยเหมือนจะถามว่าจุ๊บเพื่อ?
“ใครสั่งใครสอนให้เรียกผัวว่าเจ๊ เดี๋ยวจูบให้ปากเปื่อยเลย” พูดจบก็ใช้มือดันหน้าผากอีกคนเบาๆด้วยความมันเขี้ยว
“ก็เป็นเจ๊จริงป้ะล่ะ ใครจะไม่รู้จักเจ๊ดาวดุริยางค์” แฟนเด็กของเขายิ้มล้อเลียนก่อนจะโผเข้ากอดคอเอาไว้ โน้มใบหน้าหล่อให้เข้ามาหาตัวเองช้าๆ ก่อนจะประทับริมฝีปากอิ่มลงที่ปลายคางของดอน
“ถ้าไม่อยากให้เรียกเจ๊ก็บอกคนอื่นซะทีสิว่ามีแฟนแล้ว”
“ก็จะบอกอยู่แต่ยังโอกาสไม่ได้” ตอบออกไปก่อนจะพยายามฉกชิมริมฝีปากของอีกฝ่ายอีกครั้ง แต่หลินดันไหวตัวทันและเอี้ยวตัวหลบไม่ยอมอีกคนง่ายๆ ก็แหงล่ะ คนที่ไม่ยอมเชื่อฟังต้องโดนลงโทษ
“ต้องรอโอกาสไรอะพี่ โอกาสที่หลินเจอคนใหม่ที่พร้อมจะบอกคนอื่นว่าหลินเป็นแฟนเหรอ?”
แกล้งหยอกออกไปเล่นๆ แต่สีหน้าของดอนกลับไม่ดีเอาซะเลย พอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดมากก็เลยอยากจะแกล้งต่อ คว้าเอาที่คาดผมเขายูนิคอร์นมาใส่หัวและกระเป๋าเงินพร้อมออกจากห้องทันที
ไม่รอช้าให้ดอนได้พูดอะไรก็ขอตัวออกไปหาเพื่อนทันที
“ไปละนะพี่ แล้วเจอกันโอกาสหน้า”
ดอนนั่งมองร่างโปร่งที่หายออกไปจากห้องพร้อมประตูที่ปิดสนิทลง...
โอกาสบ้าๆ แบบนั่นต้องไม่มาถึงโว้ย!
.
.
.
.
เสียงดนตรีดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ผีเสื้อราตรีมากมายทั้งหญิงชายโยกย้ายคลอเคลียกันไปมาเหมือนบินล้อเล่นแสงไฟ บ้างก็มาเป็นกลุ่มเพื่อสนุกสนานกันพร้อมเพื่อนฝูง บ้างก็ฉายเดี่ยวสวยๆ เพื่อจะหาเพื่อนเอาดาบหน้า วันนี้ที่ร้านมีจัดปาร์ตี้ฮาโลวีนโดยทุกคนที่มาต้องแต่งตัวให้สุดให้โดดเด่นเพื่อแข่งขันและรับรางวัลพิเศษที่ทางร้านจัดให้ มีทั้งผีห่าซาตาน ผีมะขาม ผีขนุน ขนยกโขยงกันมาหมดทั้งไทยเทศ ผีกิมจิก็มาผีผ้าอนามัยก็มี ไม่รู้ว่าค่าเหล้ากับค่าคอสตูมอันไหนจะแพงมากกว่ากัน
“ไอ้หลินมาแล้วๆ มามึงมานี่เลย” เสียงเพื่อนโห่ร้องเมื่อเห็นร่างโปร่งของ หลิน เดินเข้ามาในร้าน ด้วยหน้าตาที่จัดว่าหล่อมากและดีกรีเดือนมหาวิทยาลัยทำให้เขากลายเป็นดาวเด่นที่ไม่ต้องพึ่งพาคอสตูมให้ยาก วันนี้เด็กหนุ่มมาในชื่อชุด ‘ยูนิคอร์นตัวผู้ ยู้ฮูมีผัวแล้วครับ’ ตามที่ไอ้คนที่นอนอยู่ห้องตั้งให้ แต่เขาไม่บอกออกไปให้เพื่อนรู้หรอกนะ มีหวังจะโดนแซวเอาซะเปล่า
“กูไม่กินเยอะนะ วันนี้ขับรถมา” หลินดักคอเพื่อนๆ ที่ตั้งใจจะมามองอย่างเดียว
“ไอ้นี่ รู้ทันกูอีกละนะ” ซีนพูดก่อนจะทำหน้าหมดอารมณ์ วันนี้เพื่อนสนิทของเขามาในชุดผีตุ๊กแกที่โคตรน่าขยะแขยง หัวใส่หมวดที่ทำขึ้นมาเลียนแบบหัวตุ๊กแก และใบหน้าก็ตกแต่งเป็นจุดแดงๆ เหมือนผิวของมันจริงๆ เห็นตอนแรกแทบอยากถีบความสร้างสรรค์แบบเลวร้ายของมันจริงๆ
“แล้วยังไง วันนี้ผัวให้มา?” ดี๊ด๊าเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับชะเง้อมองหาบุคคลที่พูดถึง
“เออ ก็ให้มาตอลดป้ะ รายนั้นไม่เคยหวงกูอยู่ละ”
“เอะอะตัดพ้อ” ดี๊ด๊าแซวเพื่อนก่อนจะหัวเราะดังลั่น ทำให้หลินต้องหยิบเอาน้ำแข็งในถังปากใสตัวไปหนึ่งที “หุบปากไป พูดอีกกูขอให้ท้องเสียจริงๆ”
เพื่อนในกลุ่มของหลินรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ดอนกันทุกคน ก็มีแต่เพื่อนของอีกฝ่ายนนั่นแหละที่ยังไม่รู้อะไรเลย ว่าไปแล้วมันก็น่าน้อยใจจริงนั่นแหละ เป็นแฟนกับเขามันน่าอาบเหรอวะ
ไม่นานบทสนทนาก็ถูกเปลี่ยนไป ตัวโจ๊กของกลุ่มก็ดึงบรรยากาศกลับมาให้เฮฮาเหมือนเดิม ดี๊ที่ออกไปวาดลวดลายแข่งกับเก้งโต๊ะข้างๆ เพราะถูกท้าทายด้วยสายตา และมีเดิมพันเป็นหนุ่มเศรษฐศาสตร์ที่อยู่โต๊ะไม่ใกล้ไม่ไกล ถือว่าเป็นของเดิมพันที่สูงและต้องเอาชนะมาให้ได้ และมันก็หายหัวไปกับไอ้หนุ่มเศรษฐศาสตร์นั่นเลย....
“อิดี๊ไปไหน” ซีนก้มลงมาตะโกนใส่หูของหลิน เพราะตอนนี้เพลงในร้านดังมากจนพวกเขาไม่สามารถจะพูดคุยกันแบบคนปกติได้
“ไปกับผู้” หลินตะโกนกลับมาทำให้ซีนพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะวางแก้วของตัวเองไว้แล้วโยกย้ายไปตามจังหวะเพลงในโลกส่วนตัว ทิ้งให้ยูนิคอร์นตัวน้อยนั่งเท้าคางอยู่กับโต๊ะสไลด์หน้าจอมือถือไปมาด้วยความเบื่อหน่าย มีเพื่อนเพื่อนก็โลกส่วนตัวสูงเกินไป อีกคนก็หนีหายไปกับผู้ชายซะแล้ว
ไม่นานนักที่ว่างข้างๆ ตัวที่เคยเห็นของดี๊ก็ถูกแทนที่ด้วยร่างสูงของใครบางคน หลินเงยหน้าขึ้นก็พบกับรุ่นพี่คณะของตัวเองยืนยิ้มแฉ่งส่งมาให้
“พี่อ็อคซ์หวัดดีครับ” เด็กหนุ่มยกมือไหว้ตามมารยาท อีกฝ่ายก็รับไหว้พร้อมกับถือวิสาสะใช้แขนกอดคอน้องอย่างสนิทสนม แม้จะตกใจที่ถูกถึงเนื้อถึงตัวแบบไม่ทันตั้งตัว แต่หลินก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธอะไรเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนของพี่รหัส
“มากับใครวะน้อง เห็นนั่งหงอนเป็นม้าแดกหญ้าเหี่ยวเลย”
“มากับเพื่อนครับ มันทิ้งผมไปหมดละ” ตอบออกไปพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ มองซีนที่เต้นห่างออกไปเรื่อยๆ อ็อคซ์มองตามแล้วหัวเราะออกมามือใหญ่บีบหัวไหล่ของน้องเบาๆและดึงเข้ามาประชิดตัวมากขึ้นเมื่อมีลูกค้าคนอื่นในร้านเดินเฉียดผ่านไป
หลินตาโตกับการกระทำที่แนบชิดเกินไปของเขาและรุ่นพี่ ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร แต่จะให้ปฏิเสธยังไงในเมื่อ....
“น้องหลินนนนนนนนนนนนน” เสียงสวรรค์ที่ดังมาจากรุ่นพี่ร่างใหญ่ พี่ซินดี้พุ่งมาจากทางไหนไม่รู้เดินเข้ามาคล้องแขนหลินเอาไว้และดึงออกมาจากอ็อคซ์ทันที ชายหนุ่มที่ถูกแย่งเด็กน้อยไปทำหน้าไม่พอใจชั่วครู่ก่อนที่มันจะหายไปพร้อมกับการเปลี่ยนเพลงของดีเจ
“มากับใครจ๊ะหนู ทำไมมาอยู่กับอ็อคซ์ได้”
“มากับเพื่อนครับแต่หายไปไหนกันหมดแล้วก็ไม่รู้ แล้วพี่อ็อคซ์เขาเข้ามาทักทายพอดีครับ” หลินตอบก่อนจะยกมือไหว้พี่ซินดี้
“พอดีเลยพวกพี่ไม่มีโต๊ะกัน งั้นขอนั่งกับหลินได้มั้ยจ๊ะ ไหนๆเพื่อนหนูก็หายหัวไปหมดแล้ว” ซินดี้เอ่ยขอและชี้ไปยังกลุ่มเพื่อนสาวสองของตนที่ยืนอยู่ไม่ห่างไม่ไกลจากตรงนี้ หลินมองตามไปก่อนจะสะดุดเข้าไปสายตาคมที่คุ้นเคย ร่างหนายืนกอดอกพิงเสาอยู่พร้อมกับจ้องมองมาที่เขาไม่วางตา ไม่สิ ต้องบอกว่าจ้องพี่อ็อคซ์ต่างหาก
“ได้สิครับ เดี่ยวพี่อ็อคซ์ก็ไปแล้ว” เอ่ยตอบกลับไปและเอ่ยไล่รุ่นพี่ที่เข้ามาทำตัวรุ่มร่ามกับตัวเองไปในตัว ซินดี้วี้ดว้ายดีใจก่อนจะโบกมือเรียกเพื่อนๆ ให้เข้ามาหาทันที แต่รุ่นพี่ตัวสูงก็ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ หลินไม่กลับโต๊ะของตัวเอง จนดอนเดินมาถึงโต๊ะและแทรกตัวมานั่งกลางระหว่างหลินและอ็อคซ์
“มึงจะไปเบียดเขาทำไมอิดาว” ซินดี้ร้องทัก เพราะอิดาวที่พูดถึงเบียดก้นอันมหึมาไปแทรกกลางระหว่างชาวบ้านเขา แถมยังทำหน้าเหมือนหมาเป็นมะเร็งอีกต่างหาก แบบนี้เธอก็กลัวว่างานจะกร่อยเอา แล้วคนที่ชวนก็อิดาวคนเดิมนั่นแหละ อยู่ๆ ก็อยากมา แถมยังมีปาร์ตี้ฮาโลวีนอีก หาชุดแทบไม่ทัน ดีนะที่ฉลาดก็เลยเลือกไม่แต่หน้ามา ถ้าใครถามก็ตอบว่า แต่งเป็นผีตายท้องกลม
“ก็อยากนั่งกับเดือนมหาลัยป้ะล่ะแม่ โอกาสไม่ได้มีง่ายๆ” ตอบแบบจีบปากจีบคอสตามสไตล์ของดาวต่อไป แต่สายตาดุดันแบบฉบัยของดอนก็ยังไม่วางตาจากใบหน้าใสของคนรัก ในใจพลางนึกไปด้วยว่ากุไม่น่าแต่งหน้าให้มันน่ารักเลย แต่ตัวผู้ตัวอื่นมาวนแล้ว แม่งต้องกำจัด
“น้องหลินก็เคยคุ้นเคยกันมึงอย่ามาทำตัวรุ่มร่ามกับลูกหลานกูนะอิดาว กูเด็ดหัวมึงน้า” ซินดี้ขู่ทีเล่นทีจริงก่อนจะหันปัวเราะกับแก๊งเพื่อนสาวและรวมทีมกับแอ๊วพนักงามต่อ
ดอนหัวเราะหึในลำคอก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้นวมอย่างสบายใจ “ใครกันแน่ที่รุ่มร่าม”
สายตาดุดันมองไปยังรุ่นพี่ตัวสูงที่มีส่วนสูงมากกว่าตนครึ่งตัว แต่ส่วนสูงมันกินไม่ได้ต้องสู้กันด้วยความล้ายๆ ในตัวต่างหากเว้ย
“เอ่อ น้องหลิน งั้นพี่ขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะ” หลินยิ้มให้พี่อ็อคซ์ พร้อมกับเอียงคอโบกมือบ๊ายบายส่งไปให้ มือใหญ่รวบข้อมือบางเอาไว้ก่อนจะจับเอาไว้หลวมๆ ดอนหน้าตึงเหมือนคนร้อยไหมก่อนจะเบะปากส่งท้ายให้อ็อคซ์ พร้อมกับชูนิ้วกลางตามหลังไปอบ่างอวดดี
“นิสัยเสีย” หลินเอ่ยเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ดอนได้ยิน
“ใครบอกให้มันโอบเมียกูอะ” ดูเหมือนจะมีคนโมโหจริงๆ ซะแล้ว หลินยิ้มกว้างก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนรักมากขึ้นหมายจะแกล้งเล่น
“หึงเหรอเจ๊ ใครเป็นเมียเจ๊น้า ไม่ใช่ว่าเจ๊มีผัวเหรอครับ?”
ตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียงไม่กี่คีบ ใบหน้าน่ารักยียวนอีกฝ่ายเพื่อหวังให้สติแตกอย่างที่ชอบทำ อีกอย่างก็เพื่อหวังกวนประสาทให้ดอนหึงหวงตัวเองมากกว่านี้ จะได้รีบทำอะไรซักทีไม่ใช่ปล่อยให้เขาเป็นแมวไม่มีปลอกคอทั้งๆ ที่ทุกวันก็เวียนไปเวียนมาในชีวิตดอนตลอดเวลา
ไม่มีปลอดคอแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้ ถ้าวันใดวันหนึ่งมีคนมาอุ้มไป แล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ
“มึงกวนตีนเหรอหลิน” ดอนเอ่ยเสียงเข้ม ก่อนจะทำในสิ่งที่หลินเองก็คาดไม่ถึง ริมฝีปากของดอนที่กดประทับลงกับปากของน้องทันที หลินเปิดปากเพื่อให้อีกฝ่ายสอดลิ้นเข้ามาอย่างเคยตัว มือหนาเลื่อนมาประคองใบหน้าหวานของคนรักเอาไว้ เอียงมุมเพื่อขยับท่าทางให้ริมฝีปากได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเรียวลิ้นร้อนที่ส่งเข้าไปกวาดต้อนฉกชิมความหอมหวานอย่างไม่เคยพอ
เสียงครางต่ำอย่างพอใจรวมถึงเสียงจูบดังประสานสอดแทรกเข้าไปในจังหวะดนตรีที่ถูกเปิด ตอนนี้เขาไม่รู้ว่ารอบข้างของเราทั้งคู่เกิดอะไรข้นปาก ต่างฝ่ายต่างสัมผัสได้ถึงความร้อนชื้นจากริมฝีปากของอีกคน รสจูบที่นุ่มลึกและตะกละตะกลามทำให้ลืมทุกสิ่งอย่างรอบกาย ลืมแม้กระทั่งว่ากำลังอยู่ท่ามกลางคนมากมายในค่ำคืนนี้
เวลาผ่านไปเนิ่นนานดอนจึงยอมที่จะละริมฝีปากออก แต่ก็ยังมุ่งเป้าไปที่ลำคอขาวของคนรัก ลิ้นสากถูกส่งออกมาแลบเลียไปตามผิวกายนุ่มลื่นราวกับกำลังชิมเนื้อเค้กเกรดพรีเมียมที่ทั้งหอม นุ่ม และหวานจนอดใจไม่ไหวที่จะฝากรอยเขี้ยวเอาไว้เบาๆ
หลินร้องท้วงในลำคอก่อนจะดันอีกฝ่ายออกจากลำคอตัวเอง “พอก่อนมั้ย นี่อยู่ในร้านนะคนเยอะ”
เมื่อได้สติดอนก็เหลือบมองรอบกายที่ตอนนี้หลายคนยื่นค้างและมองพวกเขาเป็นตาเดียว รวมทั้งพี่ซินดี้ที่ถึงกับยกมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเอาไว้ มืออีกข้างที่ว่างก็ทาบอกอย่างตื่นอกตกใจกับสิ่งที่เห็น ดอนหัวเราะแห้งส่งไปให้ก่อนจะผละออกจากคนรักที่ตอนนี้แทบจะขึ้นมานั่งตักกันอยู่แล้ว
หลินขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำลายที่เปรอะเปื้อนมุมปากของตน โดยไม่ลืมที่จะเช็ดให้แฟนหนุ่มของตัวเองด้วย ดอนเองก็ยื่นหน้ามาให้น้องอย่างว่าง่าย แค่มองดูการกระทำที่เหมือนรู้ใจและรู้งานกันขนาดนี้ ก็ทำให้หลายคนเดาไม่ยากถึงความสัมพันธ์ของเจ๊ดาวตัวท็อปกับน้องหลินเดือนทันตะฯได้ไม่ยาก
แต่สิ่งที่ยังตอบไม่ได้คือ ใครเป็นผัว
พี่ซินดี้ที่พึ่งตั้งสติได้รุดตัวเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมกับเอ่ยถามในสิ่งที่ต้องรู้ให้ได้ในชีวิตนี้
“อิดาวมึงเป็นเมียน้องหลินเหรอ?”
“แม่ แม่คิดว่าหนูรับเหรอ?” ดอนถามพร้อมกับขี้นิ้วเข้าหาตัวเอง พี่ซินดี้พยักหน้าแรงๆ รวมถึงแก๊งเพื่อนสาวที่แสดงออกมาว่าเห็นด้วย
“ไม่ตอบปล่อยให้งง” ดอนตอบใช้แขนโอบรอบเอวน้องแล้วดึงเข้ามาใกล้ตัวด้วยท่าทางขิงข่าตะไคร้ปลาสวายที่หนึ่ง จนพี่ซินดี้ถึงกับร้องออกมาว่าอิเหี้ยแบบไม่มีเสียง
“แล้วยังไง สรุปว่าเป็นแฟนกัน?” ถามต่อด้วยความอยากรู้อยากใส่ใจเก่ง
ดอนมองหน้าน้องสองวิก่อนจะหันไปพยักหน้าแทนคำตอบ เหล่าสาวๆ ที่หมายปองน้องหลินเดือนถึงกับกุมหัวใจกันทั้งกลุ่ม ในใจคงสาปส่งอิดาวจัญไรอิศัตรูหัวใจนี่ให้พ้นทาง
“แล้วคบกันมานานยัง?”
“ยาย ยายจะถามอะไรหนูเยอะแยะอะ หนูแค่เป็นแฟนน้องไม่ได้เอาน้ำมันพรายมาป้ายตาลูกเขาแล้วล่อมากกนะ” ดอนถึงกับร่ายยาวเพราะความอยากใส่ใจของรุ่นพี่ที่มีไม่จบไม่สิ้นซักที แต่ก็จะเล่าจะบอกให้เป็นบุญหูละกันนะ “หนูกับน้องเป็นแฟนกันมาสี่ปีแล้ว อย่าถามว่าได้กินยัง ระดับนี้คือคิดเอา”
หัวใจของคนรอมันแตกสลาย พังกว่าตอนที่รู้ว่าดอนเอกวอยซ์กลายร่างเป็ยอิดาวลูกสาวหล่าแห่งดุริยางค์เสียอีก ไม่นานนักซีนที่หายหัวไปตั้งนานก็เดินส่ายกลับโต๊ะมาด้วยสภาพเหมือนแมลงเมาไฟ ก่อนจะร้องทักพี่ชายตัวโตที่พ่วงตำแหน่งคนรักของเพื่อนสนิทเขาทันที
“ฮ้ายพี่ดอน ไม่เจอกันนานหล่อขึ้นนะเรา” ซีนมองดอนที่นั่งกอดหลินอยู่ วันนี้พี่ดอนใส่ชุดสบายๆ กางเกงยีนส์สีดำสนิทกับเสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยเสื้อยีนส์สีซีดพร้อมกับหมวกแก๊ปปีกโค้งลายกราฟิตี้เท่ๆ อีกต่างหาก ต่างจากหลินและคนอื่นๆรวมถึงตัวเขาที่แต่งตัวเต็มเพื่อมางานปาร์ตี้ฮาโลวีนในคืนนี้จริงๆ
“เออหวัดดีมึง” ดอนทักทายกลับพร้อมเขยิบตัวชิดแฟนของตนมากขึ้นเพื่อเว้นที่ว่างให้รุ่นน้องคนสนิท
“ว่าแต่พี่แต่งตัวเป็นผีอะไรอะ?” ซีนถามขึ้น เพราะดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าแต่งเป็นผี แถมยังดูธรรมดาๆ เหมือนตอนที่เจออยู่หน้าหอไอ้หลินเลย
ดอนยกยิ้มมุมปากก่อนจะหันมองหน้าแฟนหนุ่มเล็กน้อย หลินทำหน้าเบื่อความขี้ขิงของอีกฝ่ายเพราะรู้ว่าคำตอบที่ดอนจะตอบหนีไม่พ้นอะไรที่กวนประสาทแน่ๆ
“กูแต่งเป็นผัวไอ้หลิน”
“ชอบมีตัวผู้มายุ่งนัก กูก็ขอแสดงตัวเลยละกัน”
“ฝากมึงไปบอกไอ้สูงๆ นั่นด้วยว่าหลินชอบนั่งตักมากกว่าเขย่งจูบ”
.
tbc
ไอ้คนผีทัลเล!!
ก็คือ เจ๊ดาวยาวเรยน้า กะจะไม่อัพเรื่องอื่นเลยรึไร
#อาชีพโฮลิน
อาชีพผีขนุนอะเรื่องนี้
นี่ก็คือชุดฮาโลวีน.... รอของน้องหลิน สู้กัน!
ขอบคุณแฟนอาร์ตจากน้องย๋าคับ
น่ารักมากก อุแง้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮรืออ ตลกๆ+แซ่บๆ
เปิดตัวได้สักทีเนาะเจ๊ดาว เปิดแบบแรงซะด้วยยย 555
เจ๊ดาววววววว กรี๊ดดดดดด
ดีแล้วที่เจ้ดาวแสดงตัว ไม่งั้นมีคนมาจีบน้องล่ะ จะสมน้ำหน้าให้