ตอนที่ 43 : เรื่องของดาว the series - 00 จุดเริ่มต้นของดาว
หมาเห่า : เรื่องของดาวเดอะซีรี่ส์ไม่ได้มีเจตนาลบลู่ความผัวอันยิ่งใหญ่ของพี่ดอน
และไม่ได้มีเจตนาล้อเล่นกับอะไรซํกอย่างในเรื่องเลยต้ะ อยากให้ทุกคนจอยไปกับมัน
อย่าคิดอะไรมาก ทุกอย่างล้วนปรุงแต่ง
- 00 จุดเริ่มต้นของดาว -
‘ดอน ดาวนี่ย์ จูเนียร์’
คือคือที่ ‘ดอน’ ตั้งใจไว้ว่าจะใช้เป็นสเตจเนมในการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ที่มาของชื่อนอกจากจะอินและเคารพในรอเบิร์ตดาวนี่ย์จูเนียร์แล้ว มันยังแปลตรงตัวได้อีกว่า ‘ดอนลูกยาวดาว’
ชายหนุ่มมองป้ายชื่อสีเขียวซีดที่มีปากกาเคมีสีดำหัวเปื่อยเขียนสเตจเนมของตัวเองด้วยลายมือหวัดๆ แล้วก็ต้องทำหน้าตาเบื่อโลก แต่นั่นมันก็เรื่องเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้เขากลายเป็นรุ่นพี่ปี 3 ที่ต้องทำหน้าที่จัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับรุ่นน้อง รวมทั้งไอ้ป้ายชื่อซังกะบ๊วยนี่ด้วย ลงทุนหลักสิบแต่อยากให้น้องแขวนเอาไว้ตลอดชีวิต พวกมึงเป็นบ้าเหรอ แค่น้องมันทำน้ำหกใส่บักป้ายผีนี่ก็เปื่อยเหมือนอนาคตมันแล้ว จะให้มันดูแลรักษาไปถึงไหน ไหนจะเรื่องดราม่าที่เตรียมการไว้เพื่อทำซึงตอนท้ายกิจกรรม เขาล้วนผ่านมันมาหมดแม้จะไม่อยากเข้านักก็ตาม
“กูไม่อยากไปมหาลัยเลยว่ะดอน” เขาเอ่ยขึ้น ตั้งใจจะพูดคุยกับป้ายชื่อที่เหลือแค่ชื่อจริงๆ ของตัวเอง
กิจกรรมรับน้องผ่านมานานแล้ว แน่นอนว่ากิจกรรมที่มารับไม้ต่อแบบเบียดคือการประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย และมีหรือที่เด็กดุริยางค์อย่างเขาจะไม่ได้ร่วมงานด้วยในครั้งนี้
ดอนถูกทาบทามให้ขึ้นร้องเพลงในงาน ทั้งช่วงคั่นกิจกรรมและร้องเพลงอำลาปิดท้ายในการประกวด และนั่นทำให้เขาต้องมายืนอยู่หอประชุมใหญ่ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้
ไอ้สัส ร้อนชิบหาย หวงแอร์ให้แช่หมูหลังงานบวชลูกรึไงวะ
คนตัวโตยืนเหงื่อซก สีหน้าบอกบุญไม่รับบาปไม่แตะ อย่ามายุ่งไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่ไม่ทันที่ระเบิกจะลงก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นเสียก่อน
“อีดาววววววววววววววว” เสียงเรียกแหลมปรอทแตกพร้อมกับร่างสูงของเพื่อนสนิทที่พุ่งมากระโดดกอดคอเขาเอาไว้แน่น ถ้าไม่บอกคงไม่รู้ว่าเป็นคนเกาะแน่นอย่างกะปลิงควายสายเหลือง
“มึงเป็นห่าอะไรบักเม้ง”
พยายามแกะมือเพื่อนสนิทออกจากคอเพราะนอกจากร้อนแล้วยังจะตายเพราะขาดอากาศหายใจอีกด้วย รับรองศพไม่สวยแน่ๆ
“แหน่ะ ทำเป็นชาใส่กูนะ แล้วมึงน่ะไปไหนมาตั้งนาน ปล่อยให้วงรอจนไอ้อาร์มมันหลับได้สองตื่นละ”
“กูทำใจอยู่” ตอบไปพร้อมกับมองซ้ายทีขวาที พยายามหาตัวคนที่กำลังหลบหน้าอยู่
บนเวทีที่จัดประดับตกแต่งด้วยไฟสีสันถ้าไม่บอกว่าสายEDMคงนึกว่าหลงางานปดทองลูกนิมิตที่ไหน สมาชิกในวงที่กำลังเช็คเครื่องดนตรีของตัวเองทั้งเพื่อนในรุ่น รุ่นน้อง และรุ่นน้องของน้องอีกทีก็วุ่นวายกันใหญ่ ทีมงานจากกิจกรรมการประกวดที่ใส่เสื้อสีดำสกรีนลายโปกๆ เดินสวนกันให้ว่อน อีกนิดคือเหยียบตีนกูแล้ว ดีนะที่รู้จักหลบ จงอย่าใช้ชีวิตบนความประมาทนะทุกคน
วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่ ซ้อมจริง รันคิวจริง ก่อนวันประกวดจริงๆ แบบไฟนอลแล้วไฟนอลอีกพรุ่งนี้ น้องๆ ปีหนึ่งที่ถูกคัดตัวมาเป็นดาวเดือนก็นั่งพักให้หายเหนื่อยโดยมีพี่เลี้ยงนั่งพัดนั่งซับเหงื่อกันทั้งทั่วบริเวณ ไม่นับรวมเด็กนักศึกษาที่มารอดูคนสวยคนหล่อกันอยู่ข้างรั้วที่พวกทีมงานเอามากั้นไว้เพื่อความสะดวกในการจัดเตรียมงาน
“อีกสิบนาทีรันจริงนะคะ” เสียงของทีมงานดังขึ้นจากเครื่องเสียง เขาหันไปมองรุ่นพี่ปี 4 ที่เป็นแม่งานเจ้าของเสียงหวานเจือห้าว แต่ดูเหมือนจะเลือกจังหวะผิดนิดหน่อยเพราะทำให้เขาเผลอสบตากับพี่ซินดี้ทันที รู้สึกได้สึกกระแสไฟฟ้าที่วิ่งแปลบผ่านสายตา ขนอ่อนในตัวลุกวาบขึ้นพร้อมทั้งสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ผิดว่าจะเกิดขึ้น
“อีดาวววววว วันนี้มึงหล่ออีกแล้วนะ” เสียงแหลมเอ็นคอฉีกดังตามมา พร้อมร่างสูงใหญ่แต่คล่องแคล้วของพี่ซินดี้ที่วิ่งตามมาติดๆ
พอผ่านกิจกรรมรับน้องครั้งแรก ก็ไม่มีใครเรียกเขาว่าดอนเลยซักคน ชื่อในวงการที่ถูกสร้างชื่อมาใหม่อยู่ถัดจากชื่อจริงมาสองตัวอักษร ‘ดาวนี่ย์’ เห็นกูเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มเร่อะ
“อะไรยาย เรียกทำไม?” พอเริ่มบทสนทนากับพี่ซินดี้ น้ำเสียงที่เคยห้าวจนหัวแตกก็เปลี่ยนเช่นกัน ร่างอีดาวเข้าสิงพร้อมนิ้วมือที่กรีดกรายอย่างขี้เล่น “ก็หล่อแบบนี้ทุกวันป้ะ หรือยังไงอะ สู้ไม่ได้ก็หลีกจ้า”
เม้งมองเพื่อนสนิทพร้อมเบะปากเหลือกตาอย่าสุดจะทน ชื่อดาวถูกสร้างขึ้นเพราะนิสัยขี้เล่นแบบจริงจังของมันเอง เพราะดอนเป็นคนที่มีเพื่อนมากคนหนึ่งทั้งผู้หญิงผู้ชายสาวสองสาวสามสี่ห้าหกเจ็ดแปดเก้า ตั้งแต่มัธยมแล้วที่สามารถคุยเล่นและกอดคอตีหัวกันได้ทุกเพศทุกวัย ก็เลยอาจจะติดจริตผู้หญิงมาจากเพื่อนต่างเพศบ้างนิดหน่อย พอเข้ามหาวิทยาลัยมารังสีแห่งคุณแม่ของด้อมก็เฉิดฉายออกมาให้โลกรับรู้ ดอน ดาวนี่ย์ จูเนียร์ เหลือเอาไว้แค่ชื่อ ทุกคนต่างเยกขายสเตจเนมใหม่ให้ดอนว่า เจ๊ดาว ถ้าเป็นตุ๊ดรุ่นน้องก็มีเรียกคุณแม่บ้างบางครั้ง แม้จะรู้เต็มอกว่าเพื่อนของเขาไม่ได้เป็นหญิงแกร่งอย่างที่แสดงออกมาก็ตาม
“เห็นหน้ามึงแล้วก็เจ็บกระดองในนักอีดาว ตอนเจอมึงครั้งแรกก็กะจะดีลมาเป็นผัวแต่ดั๊นนนน ได้ลูกสาวมาแทน” พี่ซินดี้พูดด้วยสีหน้าทรมานหัวใจ มือเรียวยกขึ้นมาปาดน้ำตาทิพย์ที่ไหลรินร่วงหล่นจากบอบตาที่หนาแน่นไปด้วยแพขาตาพร้อมและอายไลน์เนอร์แท่งละเฉียดพัน
ซึ่งดอนได้ลั่นวาจาไว้ว่าถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการงทุนหลักแสนแต่สวยหลักพัน
อะไรที่มันเทาก็ไม่ได้ดูแพงเหมือนแบงค์พันเสมอไป ยกตัวอย่าง หน้า
“แม่กับลูกสาวเอากันไม่ได้มันผิดศีล” ดอนพูดพร้อมหัวเราะออกมาดังลั่น ต่างจากซินดี้ที่อยากนั่งเข่ากลางสายฝนประชดชีวิตแบบจริงจัง เวลาพูดออกมาว่าอยากได้อีดาวเป็นผัว ดี้ไม่เคยพูดเล่นเลย แล้วดูวันนี้ที่มันแต่งตัวมาซิ กางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดสีเดียวกันปักลายขาวที่หน้าอก เส้นผมยาวถูกเสยขึ้นแบบลวกๆทำให้กลายเป็นทรงหล่อลากกระชากมดลูกแบบสุดจะทน ข้างนอกออลแบล็ค แต่ในใจน่ะแบล็คพิ้งค์ บูมบาย่า!
แต่อย่างว่าแม่กับลูกสาวเอากันไม่ได้ เพราะงั้นความฝันที่จะได้มันก็ปัดตกไปก่อน
“มึง กูจะร้องไห้จริงๆนะละ แต่อีกเดี๋ยวคงได้รันคิวจริงๆ แบบจริงๆ ละ หล่อนไปเตรียมตัวไป” ว่าแล้วก็สั่งรุ่นน้องให้เตรียมตัวใส่ตัวของตัวเอง
“งั้นหนูไปละนะยาย” ดอนว่าพร้อมลากแขนเพื่อนสนิทออกมาจากตรงนั้น
“มึง เมื่อไหร่จะเลิกเป็นตุ๊ดซักที” เม้งเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“กูไม่ได้เป็นตุ๊ดไอ้นี่ แต่อยู่แบบนี้ก็สบายใจดีนะ เวลาทำงานก็คุยกับผู้หญิงได้ไม่ต้องกังวลว่ากูจะไปให้ความหวังใครหรือเล่า ส่วนพวกผู้ชายก็รู้ๆ กันอยู่ กับพวกพี่ดี้ตอนนี้สนิทกันแบบคุณแม่กับลูกสาวไปละ สบายใจจะตาย” เม้งพยักหน้าพยายามเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนบอก
“หรือกูจะเข้าร่วมอุดมการณ์เดียวกับมึงดีวะดาว”
“ดาวทำได้ เม้งก็ทำได้ค่ะ เป็นตุ๊ดเพื่อชาติเพื่อสถาบัน”
“กูไปละดาว”
เม้งพูดแค่นั้นก็กระโดดขึ้นเวทีไป ทิ้งให้ดอนยืนยิ้มอยู่คนเดียวข้างล่าง แต่ไม่ทันที่จะได้ตะโกนหยอกล้อกันต่อ คนตัวโตก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มตัวสูงในชุดนักศึกษาเรียบร้อยที่กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตานิ่ง ๆ
เชี่ย เย็นหลังมาก
เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นหนึ่งในเดือนของคณะใดคณะหนึ่งที่จะขึ้นประกวดในวันพรุ่งนี้แน่นอน สายตาทั้งคู่ที่สบกับเข้าพอดีทำให้ดอนต้องหลบตาพลางเสหน้าไปมองที่อื่นทันที ไอ้เด็กตัวสูงผิวขาวจั๊วะอย่างกับน้องหมวยลูกเฮียอู๋ ขนาดไม่ได้มองใกล้ๆ ยังรู้ว่าดวงตากลมๆของมันวิบวับเหมือนเก็บดาวเอาไว้เป็นร้อยดวง ริมฝีปากอิ่มสีชมพูเหมือนลูกเชอร์รี่คัดเกรด พวงแก้มกลมที่ถ้าได้ลองบีบคงมีไส้คัสตาร์ดเยิ้มออกมาเหมือนศาลาเปาแหงๆ
สรุปคือ น่ารัก น่ารักมากๆ
.
.
.
การซ้อมช่วงที่สองของการประกวดผ่านไปด้วยดี ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองไม่มีขาดตกบกพร่อง ทั้งแบ็คสเตจ รันคิว แรง เสียง พิธีกร วงดนตรี รวมไปถึงพี่เลี้ยงและดาวเดือนทุกคณะ ดอนที่ยืนอยู่กลางเวทีเพราะพึ่งซ้อมร้องเพลงในส่วนของตัวเองเสร็จ ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเกินไปทำให้เขาต้องเลิกชายเสื้อยืดตัวเองขึ้นเพื่อเช็ดเหงื่อ และนั่นแหละ.. ต้นเหตุของการเกิดจลาจลย่อมๆ
“หวีดดด อีดาวซิกแพคมึ้งงง”
“เบาเจ๊เบา สาวๆ ในแตกหมดแล้ว”
“หู้วว เจ๊ดาวกูซ่อนรูปจ้า”
เสียงโหวกเหวกมากมายที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้ดอมดึงเสื้อปิดแทบไม่ทัน บางคนก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป บางคนก็วิ่งมาเกาะขอบเวทีแล้วยิ้มหน้าสะห้อยส่งมาให้ ถ้าถามว่าตกใจมั้ยตอบเลยว่ามาก ไม่คิดว่าเสน่ห์ของตัวเองจะเป็นพิษแก่สังคมแบบนี้
ดอนยกยิ้มหวานพร้อมกับยกไมค์ขึ้นมาจรดริมฝีปากก่อนจะป่าวประกาศ
“ไม่หวีดนะคะ อยากกินเจ๊ต้องเป็นเดือนมหาลัยก่อน”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นทันที น้องผู้หญิงบางคนที่ยังไม่รู้ศักดาความขี้เล่นของดาวนี่ย์ถึงกับลมจับ ใครจะคิดล่ะว่าผู้ชายตัวโตในชุดออลแบล็คจะมีจริตหญิงเกินงามแบบนี้ หัวใจที่ให้ไปมันไม่มีความหมายอะไรกับคนไม่เห็นค่ามัน ฮึก
“อ้อร้อนักนะมึง” เสียงเย็นดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้ดอนหันขวับทันที ไอ้เด็กตัวสูงเดือนคณะเภสัชยืนหน้าบึ้งกอดอกมองเขาอย่างกับเจ้ากรรมนายเวร ขนอ่อนในกายลุกพรึบพรับแบบไม่ได้นัดหมาย เช่นเดียวกับเสียงเหงื่อเม็ดโตที่ผุดออกมาใหม่ทั้งๆ ที่พึ่งเช็ดไปเมื่อกี้
แต่คนอย่างเจ๊ดาวเหรอจะยอมให้ใครมาว่าฟรีๆ
“ยายดี้ พักก่อนแปปนึงนะ หนูไปขี้ก่อน” ดอนได้โอกาสพูดใส่ไมค์ ก่อนจะวางมันลงพื้นเวที หันหลังเดินไปฉุดกระชากรากแขนได้เดือนตัวสูงนั่นให้เดินตามไปหลังเวที
น้องมันก็แรงเยอะใช่ย่อย ทั้งดิ้นทั้งฝืนไม่ยอมเดินตามมา หึ ไอ้เดือนปากเก่งนี่มันต้องเจอซักตั๊บแล้วมั้ง
“ปล่อยดิวะ จะไปไหน” เสียงทุ้มของเด็กตัวสูงดังขึ้น น้ำเสียงฟึดฟัดบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังอารมณ์เสียอย่างมากที่ถูกทำแบบนี้ แต่แล้วไง... เด็กปากไม่ดีต้องโดนซักดอก
พอลากมาถึงมุมอับลับตาคน ดอนก็ยอมปล่อยแขนเล็กๆ นั่น แอบเห็นว่าผิวขาวของมันขึ้นสีแดงเพราะแรงบีบที่เขาลืมยั้งมือ ไอ้เด็กนั่นยู่ปากแถวจะติดกับปลายจมูก ดวงตากลมโตจ้องมองเขม็งมาอย่างไม่กลัว
เด็กนี่มันเอาเรื่องจริงๆ ว่ะ
“ลากมาทำไม!” ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นการตะคอกออกมาเพราะไม่พอใจเสียมากกว่า
“มึงว่ากูอ้อร้อ.....” เอ่ยบอกถึงต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องลากอีกฝ่ายมาที่นี่ ตามองตาสายตาก็จ้องมองกันรู้สึกถึงกระแสไฟวิ่งแปร้บๆ อย่างไม่มีใครยอมใคร ถ้าเป็นในอนิเมะตาขาวของดอนคงเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดสีแดงๆ ให้อารมณ์พร้อมตีพร้อมต่อยเต็มที่แล้ว แล้วตอนนี้แหละ
วินาทีนี้แหละ!!
“เมียคับ อย่าดุเลยนะ บนเวทีคนเยอะจะตาย”
คนตัวโตทรุดลงคุกเข่ากับพื้น สองมือพนมขึ้นเป็นดอกบัวตูม ยกขึ้นมาจรดระหว่างคิ้วตามที่คุณครูได้สอนในระดับชั้นประถมปลาย น้ำเสียงอ้อนวอนขอทำให้
“ก็มึงมันอ้อร้อไงพี่ แล้วเสื้อน่ะจะเลิกขึ้นทำห่าอะไร” มือเล็กๆ ผลักหัวของดอนอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซจนจะล้ม ไม่ใช่ว่าสู้แรงน้องไม่ได้แต่ไม่คิดจะสู้มากกว่า ก็น้องหลินน่ะ นุ่มนิ่มน่าทะนุถนอม ห้ามจับแรงเพราะผิวจะแดงช้ำ แต่เมื่อกี้ก็เผลอดึงแรงเกินไปเพราะรีบร้อน ไม่น่าเลย ผิวขาวๆ ของหนูเป็นรอยเลยคับ พี่ขอโทษนะ
“ก็มันเป็นการแสดง” ไหนเอ่ย คนเก่งเมื่อกี้หายไปไหนแล้วเอ่ย น้ำเสียงที่อ่อนลงเหมือนเหล็กกล้าโดนไฟทำให้หลินรู้สึกชนะอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าชอบเอาชนะแฟน แต่แฟนของเขาไม่ชอบสู้เขามากกว่าน่ะสิ
“แสดงพ่อง มองตั้งแต่ตอนที่คุยกับพี่ซินดี้แล้วนะ ทำไมต้องให้เขาเข้าใกล้ขนาดนั้น คิดว่าหลินชอบเหรอ?”
“พอแล้ว ไม่เอาแล้วไม่โกรธนะคับ เนี่ยเห็นมั้ยแขนแดงหมดแล้วพี่ขอโทษนะหนูนะ” ว่าแล้วก็คว้าเอาข้อมือขางมาจับเอาไว้ เป่าเพี้ยงๆ ให้หายแดง พร้อมกับแนบจูบลงเบาๆ อย่างเอาอกเอาใจ
“ไม่ต้องมาจับเลย แล้วเมื่อไหร่จะบอกคนอื่นซักทีว่ามีแฟนแล้ว”
“เมีย” เถียงออกไปทันที
“แฟนพอ อย่าเถียง” น้องหลินชี้หน้า ขู่เป็นลูกแมวที่พร้อมจะตะปมกรงเล็บใส่หน้าอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ
“โหนน้อง ถ้าพี่บอกไปมันอาจจะกระทบการประกวดของหนูได้นะคับ อย่าพึ่งบอกเลย”
“ไม่ กระทบก็ช่างแม่งดิ แล้วได้ร้องเพลงในงานทำไมไม่บอก แล้วชุดอะเขาให้ใส่อะไร แขนสั้นมั้ยไปเปลี่ยนเลยนะ” ปากเล็กบ่นมุบมิบ ก็พี่ดอนไม่ยอมบอกเลยว่าจะได้ขึ้นร้องเพลงบนเวทีที่เขาประกวดด้วย ตอนสอบเข้าได้ก็ไม่ยอมให้ย้ายหอมาอยู่ด้วยกัน มากสุดตอนนี่แค่อยู่หอฝั่งตรงข้ามเท่านั้น แต่ที่ไม่เข้าใจมากๆ คือไม่ยอมบอกคนอื่นว่าเขาเป็นแฟน
“หูยหนู ชุดมันเรียบร้อยจนร้อนเลย เดี๋ยวคืนนี้หลังซ้อมจะเอาไปใส่ให้ดูที่ห้องนะ นะครับ”
“ก็ได้” น้องหลินยอมอ่อนลง แต่ก็ยงมีข้อสงสัย “กลับมาเรื่องเรา ไปบอกคนอื่นเลยนะว่าเราเป็นแฟนกัน ไม่งั้นก็ไปเอากับคนอื่น ไม่ต้องมายุ่ง”
เหมือนฟ้าผ่าลงกลางกบาล เรื่องนี้มันร้ายแรง ร้ายแรงมากจริงๆ ยอมโดนตบแต่ไม่ยอมงดเรื่องนี้แน่นอน
“โหน้องงงงงงงงงงงง หนูคับพี่ขอร้อง ให้ผ่านพรุ่งนี้ไปก็ได้ นะๆๆๆๆ เดี๋ยวพี่บอกเอง”
“ไม่!” ค้านเสียงแข็ง ผลักคนอายุมากกว่าหงายหลังก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินหนีกลับเข้าไปในงานแต่ยังไม่วายหันหลับมาทิ้งทวนคำพูดเอาไว้ก่อนไป
“แล้วที่ว่าเป็นเดือนมหาลัยก่อนถึงจะได้กินอะ พรุ่งนี้เตรียมโดนกินเลยมึงอิดาว”
ไม่มีทาง!!! อิดาวคนนี้ต้องรักษาตำแหน่งผัวไว้ให้ได้
.
.
.
tbc
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตล่กกก แต่กลัวใจเจ๊แกจะโดนกิน555555555
ตลกอ่ะ กลัวเมียเหลือเกิน
ปล.อยากเห็นซิคแพคเจ๊ดาววว หง่าสกสมหวหวฟ